บทที่ 4 ไม่เจอตัว
ณ บอสตันคลับ
เจ้าขามาเข้าทำงานตามเวลาปกติในระหว่างทางที่เดินทางมาทำงานในหัวของเธอคิดเรื่องอยากเปลี่ยนตำแหน่งในร้านจากบริกรหรือเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มที่เขาเรียกกันว่าพีอาร์ เพราะผลตอบแทนค่อนข้างสูงแถมลูกค้าจ่ายทิปเยอะกว่า
“เอ้า…เจ้าขาวันนี้มาทำงานเร็วนะเนี่ย” เสียงเจ้แนนผู้จัดการคลับเอ่ยทักทายเธอ
“สวัสดีค่ะเจ้แนน พอดีวันนี้หยุดค่ะไม่มีคาบเรียน” เธอตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบา จะตัดสินใจขอเจ้แนนไปเป็นเด็กนั่งดื่มดีไหมเพราะในตอนแรกเธอมาสมัครเป็นแค่เด็กเสิร์ฟเท่านั้น
“เจ้แนนคะ…” เธอเรียกผู้จัดการอีกครั้ง
“ว่าไงเจ้าขา”
“หนูอยากเปลี่ยนจากเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มได้ไหมคะ” คำถามของเจ้าขาสร้างความประหลาดใจให้กับแนนไม่น้อย ในวันแรกที่เจ้าขามาสมัครงานเธอทาบทามเจ้าขาให้ไปเป็นเด็กนั่งดื่มด้วยหน้าตาผิวพรรณแต่เจ้าขาปฏิเสธเสียงแข็งมาวันนี้กลับอยากเปลี่ยนใจ
“เจ้าขามีเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตามประสบการณ์สามสิบปีที่ผ่านมามองแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าขากำลังมีปัญหา
“คือ…พ่อหนูติดหนี้นอกระบบค่ะ หนูต้องหาใช้คืน” คำตอบของเธอตอกย้ำชัดว่าเธอกำลังเจอปัญหา
“แล้วทำไมพ่อของเจ้าขาเป็นหนี้แล้วเขาไม่หาใช้คืนเองล่ะ เจ้าขามีหน้าที่เรียนหนังสือนะไม่ใช่มีหน้าที่ใช้หนี้แทนพ่อ ขอโทษนะที่เจ้ต้องพูดแบบนี้แค่รู้สึกไม่เห็นด้วยเฉย ๆ”
“พ่อกับแม่หนูเสียจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ เหลือไว้แค่บ้านกับเงินเพียงเล็กน้อยให้หนูไม่พอยังมีหนี้ก้อนโตอีกต่างหาก ถ้าไม่มีไปคืนพวกนั้นจะยึดบ้านและมาจับตัวหนูไปไถ่หนี้ค่ะ” เจ้าขาตัดสินใจบอกปัญหาทั้งหมดให้เจ้แนนผู้จัดการคลับฟัง
“โถ่…เจ้าขา” เจ้แนนแววตาอ่อนยวบดึงเจ้าขาเข้าไปกอด เธอเอ็นดูเจ้าขาเป็นอย่างมากถึงแม้จะมาทำงานวันนี้เป็นวันที่สามแต่เธอก็รู้สึกถูกชะตา พอยิ่งรู้เรื่องราวที่เจ้าขากำลังแบกรับไว้ตัวคนเดียวมันน่าสงสารจับใจ
“แต่ว่าตอนนี้ตำแหน่งเด็กนั่งดื่มมันเต็มนะเจ้าขา สนใจทำงานในบาร์ค็อกเทลไหมตอนนี้ขาดตำแหน่งบาร์แบ็ค”
“บาร์แบ็คคืออะไรคะ” เจ้าขาทำหน้าสงสัย
“บาร์แบ็คก็คือผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์คอยหยิบแก้ว หยิบจับของส่งให้บาร์เทนเดอร์ เงินเดือนสูงกว่าเด็กเสิร์ฟแต่น้อยกว่าเด็กนั่งดื่มอาศัยคุยกับลูกค้าหน้าบาร์แทนก็จะได้ทิปเยอะเหมือนกัน แต่เจ้าขาต้องมาทำงานทุกวันไหวหรือเปล่าเพราะว่าเจ้อยากได้พนักงานประจำไม่ใช่พาร์ทไทม์แต่ถ้าวันไหนติดเรียนหรือสอบจริง ๆ เจ้ให้ลาได้หักเงินตามรายวันที่หยุด”
“ไหวค่ะ หนูตกลงทำงานในบาร์ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสหนู” เธอตอบกลับเสียงหนักแน่น ดวงหน้าจิ้มลิ้มยิ้มร่าดีใจ
“งั้นไปกัน วันนี้ไม่ต้องใส่ผ้ากันเปื้อนเด็กเสิร์ฟแล้วไปที่บาร์กันเจ้จะพาไปสอนงานเบื้องต้น” เจ้แนนเดินนำออกจากห้องพักพนักงานเจ้าขาก็เดินตามไปติด ๆ
“เซฟ เจมส์ ริน มาหาเจ้หน่อย” เจ้แนนเดินมาถึงหน้าบาร์ค็อกเทลก็ตะโกนเรียกพี่ ๆ ที่ทำงานอยู่ในบาร์ให้มารวมตัวกัน
“เจ้หาบาร์แบ็คอีกคนให้ได้แล้ว น้องเจ้าขา” เจ้แนนผายมือมาที่เธอเมื่อบาร์เทนเดอร์ทั้งสามคนเดินมารวมตัวกัน
“สวัสดีค่ะ” เจ้าขาทักทายรุ่นพี่ทั้งสามคนที่อยู่ในบาร์ค็อกเทลจริง ๆ แล้วทุกคนพอจะเห็นหน้าเห็นตากันผ่าน ๆ มาแล้วด้วยความที่เจ้าขาเองเข้ามาทำได้สามวันแต่ก็ต้องทำความรู้จักกันใหม่อยู่ดี เพราะเจ้าขาทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟไม่ได้มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวตรงบาร์ค็อกเทลเท่าไหร่
“ครับพี่ชื่อเซฟนะ เป็นบาร์เทนเดอร์ส่วนนี่เจมส์บาร์เทนเดอร์อีกคน และก็รินเป็นบาร์แบ็คที่ต้องทำงานคู่กับน้องเจ้าขา” เซฟหันไปแนะนำพี่ ๆ อีกสองคนให้เธอรู้จักทั้งสามต่างก็ยิ้มแย้มตอบกลับเธออย่างเป็นมิตร
“ยังไงเจ้ฝากสอนงานน้องหน่อยนะ” เจ้แนนเอื้อมแขนมาโอบบ่าของเจ้าขาบีบเบา ๆ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้และเดินออกไปทำงานต่อ
“เข้าในบาร์สิเดี๋ยวพวกพี่สอนงานให้” เจมส์เอ่ยเรียกเจ้าขา
“ค่ะ” เธอขานตอบน้ำเสียงหนักแน่น เจ้าขาเดินอ้อมไปเข้าบาร์ค็อกเทลอย่างไม่อิดออด
“เจ้าขาอายุเท่าไหร่” รินเอ่ยถาม
“สิบเก้าค่ะ”
“เราพึ่งจะสิบเก้าเมื่อวันก่อนเอง ก็เท่ากับเราเป็นเพื่อนกัน” รินยิ้มแฉ่งเมื่อรู้ว่าเจ้าขาอายุเท่ากันกับเธอ
“ว่าแต่รินเรียนที่ไหนหรอ”
“เรียนมหาวิทยาลัย B ปีหนึ่งคณะนิเทศน์น่ะ แล้วเจ้าขาล่ะ?”
“เราเรียนที่เดียวกับรินเลยแต่อยู่คณะวิศวะ”
“โห้…เท่อ่ะเด็กวิศวะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอก” เจ้าขาถ่อมตัว
“ไปเดี๋ยวเราสอนงาน” รินเดินไปอีกทางพาไปดูตั้งแต่ที่เก็บแก้ว อุปกรณ์ที่ต้องหยิบให้บาร์เทนเดอร์สอนงานตั้งแต่ต้นอย่างละเอียด โชคดีของเจ้าขาที่ได้เจอรินอายุเท่ากันแถมยังมีนิสัยที่ใกล้เคียงกันมาก
จวบจนเวลาคลับเปิดลูกค้าก็เริ่มทยอยกันเข้ามาในคลับกันไม่ขาดสายเริ่มมีเมนูค็อกเทลเข้ามาเรื่อย ๆ เจ้าขาก็เข้าใจงานของตัวเองเป็นอย่างดีแต่ยังช้าอยู่มากเพราะยังไม่คล่องเธอได้จับคู่เป็นผู้ช่วยให้กับเซฟ ส่วนรินเป็นผู้ช่วยให้กับเจมส์ เจ้าขาพึ่งรู้จากรินว่าพี่เซฟและพี่เจมส์เป็นแฟนกัน
“น้องเจ้าขาเก่งมากเลยเรียนรู้งานไว แต่อาจจะติดช้าเดี๋ยวก็คล่อง” เซฟหันมาเอ่ยชม
“ขอบคุณค่ะพี่เซฟ ถ้าหนูทำผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ครั้งแรกผิดพลาดกันได้” เซฟส่งยิ้มเอ็นดูให้กับความอ่อนน้อมถ่อมตนของเจ้าขา ก่อนจะหันไปชงค็อกเทลแก้วถัดไปที่พึ่งมีลูกค้าสั่งเข้ามา
เวลาผ่านไปเกือบจะตีหนึ่งเพียงอีกหนึ่งชั่วโมงคลับก็จะปิดแล้ว เจ้าขาที่เฝ้ารอใครบางคนวันนี้กลับไม่เจอตัวเขาซะงั้น สีหน้าผิดหวังฉายขึ้นบนดวงหน้าจิ้มลิ้มอย่างเห็นได้ชัดหรือเขาจะเลิกสนใจเธอไปแล้วนะ
“ริน เจ้าขาไปห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมา” เธอหันไปบอกรินที่ยืนล้างแก้วอยู่
“จ้ะ”รินขานตอบใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
บทที่ 5 ข้อเสนอเจ้าขาเดินตรงไปยังห้องน้ำ เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำประมานสิบนาที ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปยังประตูด้านหลังคลับ เพื่อออกไปสูดอากาศข้างในคนค่อนข้างเยอะและแน่นไปทุกอณูทำให้บรรยากาศในคลับอึดอัดไปหมด เธอยืนได้ไม่นานกลิ่นบุหรี่ก็ลอยมาเตะปลายจมูกบางของเธอ พลันทำให้เธอต้องหันไปมองยังต้นทางของกลิ่นนั้น ดวงตากลมเบิกโตเล็กน้อย เจ้าของกลิ่นบุหรี่ที่ลอยมาคือเขา คนที่เธอรอเจอมาทั้งคืน สายตาคมมองกลับเรียบนิ่งก่อนเขาจะตวัดสายตาหันไปมองทางอื่น เขาไม่สนใจเธอแม้แต่น้อยเทียบกับสองวันก่อนที่ผ่านมา เจ้าของความสูงร้อยแปดสิบเจ็ดทิ้งบุหรี่ลงกับพื้นก่อนจะใช้เท้าบดขยี้มันและเดินผ่านหน้าของเจ้าขาไป กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาลอยมาเตะที่จมูกเธอเธอเม้มปากเข้าหากันแน่นไม่กล้าเรียกเขาให้หยุดเดิน ก่อนจะมองตามหลังแกร่งที่เดินกลับเข้าคลับไป เธอเหมือนดึงสติของตัวเองกลับมาได้ว่าตอนนี้ยังอยู่ในเวลางานต้องกลับไปทำงานแล้วร่างบางจึงก้าวขาเดินกลับเข้าคลับไป “มึงมาทำไมป่านนี้” เสียงบอสตันเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างสายฟ้าที่พึ่งมาถึงคลับเมื่อสิบนาทีก่อน“มีกฎข้อไหนห้
บทที่ 4 ไม่เจอตัว ณ บอสตันคลับเจ้าขามาเข้าทำงานตามเวลาปกติในระหว่างทางที่เดินทางมาทำงานในหัวของเธอคิดเรื่องอยากเปลี่ยนตำแหน่งในร้านจากบริกรหรือเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มที่เขาเรียกกันว่าพีอาร์ เพราะผลตอบแทนค่อนข้างสูงแถมลูกค้าจ่ายทิปเยอะกว่า“เอ้า…เจ้าขาวันนี้มาทำงานเร็วนะเนี่ย” เสียงเจ้แนนผู้จัดการคลับเอ่ยทักทายเธอ“สวัสดีค่ะเจ้แนน พอดีวันนี้หยุดค่ะไม่มีคาบเรียน” เธอตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบา จะตัดสินใจขอเจ้แนนไปเป็นเด็กนั่งดื่มดีไหมเพราะในตอนแรกเธอมาสมัครเป็นแค่เด็กเสิร์ฟเท่านั้น “เจ้แนนคะ…” เธอเรียกผู้จัดการอีกครั้ง “ว่าไงเจ้าขา” “หนูอยากเปลี่ยนจากเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มได้ไหมคะ” คำถามของเจ้าขาสร้างความประหลาดใจให้กับแนนไม่น้อย ในวันแรกที่เจ้าขามาสมัครงานเธอทาบทามเจ้าขาให้ไปเป็นเด็กนั่งดื่มด้วยหน้าตาผิวพรรณแต่เจ้าขาปฏิเสธเสียงแข็งมาวันนี้กลับอยากเปลี่ยนใจ “เจ้าขามีเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตามประสบการณ์สามสิบปีที่ผ่านมามองแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าขากำลังมีปัญหา “คือ…พ่อหนูติดหนี้นอกระบบค่ะ หนูต้องหาใช้คืน” คำตอบของเธอตอกย้ำชัดว่าเธอกำลังเจอปัญหา“แล
บทที่ 3 ไม่มีทางเลือกจวบจนเวลาเลิกงานเจ้าขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษาที่เธอใส่มาในตอนแรก วันนี้เธอเลิกเรียนเย็นมากทำให้ไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านจึงมาทำงานในชุดนักศึกษาโชคดีที่แนนผู้จัดการคลับมีชุดให้เธอยืมเปลี่ยน หลังจากที่เธอเดินออกมาจากโต๊ะของสายฟ้าได้ไม่นาน เขาก็หายออกไปจากโต๊ะแถมไม่ได้สั่งเครื่องดื่ม แต่ก็ดีแล้วเพราะเธอไม่อยากให้เขาอยู่กวนใจเธอไปทั้งคืนหรอก“จะกลับแล้วหรอ อันนี้ค่าจ้างจ้ะ” แนนเดินเข้ามาจ่ายค่าจ้างรายวันให้กับเจ้าขา “ขอบคุณค่ะ” เธอรับเงินมาจากมือเจ้แนนพลางส่งยิ้มหวาน“กลับยังไงล่ะ เจ้ไปส่งไหม?” แนนเอ่ยถามเพราะเด็กเสิร์ฟคนอื่น ๆ ทยอยกลับกันหมดแล้ว มีก็แต่เจ้าขาที่เข้ามาเปลี่ยนชุดทำให้ได้กลับบ้านช้ากว่าคนอื่น ๆ “ไม่เป็นไรค่ะ หนูเกรงใจ” เจ้าขาเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนอบน้อม“เกรงใจอะไรกัน สบายมากกลับด้วยกันนี่แหละเจ้เหงาขับรถกลับคนเดียวนะ ๆ ”“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” “ป่ะ กลับบ้านกัน” เจ้แนนเดินจูงมือของเธอออกทางหลังประตูคลับตรงไปที่ลานจอดรถใช้เวลาไม่นานรถยนต์สีดำสนิทของเจ้แนนก็ขับมาจอดที่หน้าปากซอยของหมู่บ้านที่เจ้าขาพักอาศัยอยู่ หมู่บ้านที่อยู่ใจก
บทที่ 2 สืบประวัติภายใต้คฤหาสน์หลังใหญ่ราคาเกือบห้าร้อยล้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมีเพียงแค่เจ้าของบ้านที่เป็นหนุ่มโสดวัยยี่สิบห้าปีอาศัยอยู่เพียงคนเดียวไม่นับรวมบอดี้การ์ดและแม่บ้านของเขา คฤหาสน์ที่เขาสร้างมันด้วยเงินของตัวเอง “ขออนุญาตครับเฮีย เรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ” บอมมือขวาคนสนิทเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าก้มหัวลงเล็กน้อย “มึงไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้มาให้กูหน่อย” สายฟ้าโยนเอกสารปึกบางที่บอสตันพึ่งนำมาให้เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว “ใครหรอครับเฮีย” บอมเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เสือกทุกเรื่อง” สายฟ้าส่ายหัวเล็กน้อยเคยชินกับความอยากรู้อยากเห็นของบอม ไม่แปลกที่บอมจะกล้าถามหรือเรียกเขาอย่างสนิทสนมไม่เหมือนที่คนอื่นเรียกเขา เพราะบอมคือลูกชายของแม่บ้านที่อาศัยและทำงานอยู่ในคฤหาสน์ของครอบครัวเขา จึงทำให้ทั้งคู่สนิทชิดเชื้อกันตั้งแต่ละอ่อนบอมมีอายุน้อยกว่าเขาเพียงแค่สองปีด้วยความรักและเอ็นดูของสายฟ้า เห็นบอมเหมือนน้องชายจึงชักชวนมาทำงานกับเขาแถมยังได้ตำแหน่งเป็นมือขวาคนสนิทของเขาอีกด้วย“บอมอยากรู้เฉย ๆ ไม่ได้เลย งั้นไม่บอกละ” “อะไรของมึง” คิ้วหนาขมวดเล็กน้อย“น้องคนนี้ ผมเคยเห็นเรีย
บทที่ 1 เจ้าขา“เจ้าขา นี่มึงได้นอนบ้างไหม?” เสียงไฟเพื่อนสนิทของเจ้าขาเอ่ยถาม“นอน ๆ มึงอย่าพึ่งบ่นได้ไหมกูรีบปั่นการบ้านอยู่” เจ้าขายกฝ่ามือห้ามปรามไม่ให้ไฟบ่นเธอ เพราะเธอกำลังตั้งหน้าตั้งตาปั่นการบ้านอยู่ เจ้าขา เด็กสาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มตากลมโตราวกับตุ๊กตาส่วนสูงเพียงร้อยห้าสิบแปด เข้าสู่การเป็นนักศึกษาปีที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยชื่อดังด้วยการสอบชิงทุนเข้าคณะวิศวะ เธอมีอายุเพียงสิบเก้าปีเท่านั้นแต่เธอมีภาระหน้าที่อันหนักอึ้งที่ต้องรับผิดชอบราวกับคนวัยทำงาน เพราะพ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจ้าขาอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอดหลังจากที่พ่อและแม่ของเธอเสีย ยังโชคดีที่พ่อของเธอทิ้งเงินและบ้านไว้ให้เธอเพียงเล็กน้อยแต่เท่านั้นคงไม่พอ เพราะพ่อของเธอดันติดหนี้นอกระบบไว้เป็นจำนวนสามล้านนั่นแหละคือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องดิ้นรนทำงานหาเงินเพื่อมาใช้หนี้ให้หมด และเลี้ยงชีพรับผิดชอบตัวเอง “กูบอกให้ยืมเงินกูไปคืนซะก็จบจะได้ไม่ต้องไปทำงานกลางค่ำกลางคืน” ไฟพร่ำบ่นใส่หูเจ้าขาทุกวันเรื่องหนี้สินที่เธอกำลังหาเงินใช้หนี้ให้พ่อของเธออยู่ “เก็บไว้เถอะ ไม่อยากรบกวน” เจ้าขาเง
บทนำมาเฟียหนุ่มหล่อหน้าตี๋นั่งควงแก้ววิสกี้ในมืออย่างสบายอารมณ์ท่ามกลางแสงสีเสียงและผู้คนที่ออกมาท่องราตรีในยามค่ำคืน สายตาคมดุจหมาป่าที่พร้อมจะล่าเหยื่อตลอดเวลา สายฟ้า มาเฟียหนุ่มหล่อชื่อดังในแวดวงสังคมนักธุรกิจ ผู้บริหารโรงแรม SHAFT คนใหม่สืบทอดต่อจากผู้เป็นพ่อ“ไง วันนี้ว่างออกมานั่งเล่นแล้วหรอผู้บริหารหน้าใหม่” เสียงเอ่ยแซวของบอสตันหนึ่งในแก๊งเพื่อนและยังเป็นเจ้าของคลับที่เขานั่งอยู่ตอนนี้“หึ…” เขาหัวเราะให้กับคำพูดของบอสตัน“ใครจะว่างเหมือนมึง วัน ๆ เอาแต่แดกเหล้า” เขาพูดกระแทกแดกดันเพื่อนสนิทกลับ “ไอ้เวร ก็กูเป็นเจ้าของร้านเหล้าไม่ให้แดกเหล้าให้แดกนมปั่นหรือไง” คนโดนแซวหัวเสียอยู่ไม่น้อย ไม่ชินเท่าไหร่ที่มักถูกเพื่อนด่าอยู่เสมอเรื่องที่เขาดื่มเหล้าทุกวัน “เพลา ๆ ลงบ้างก็ดีกูไม่อยากรีบไปงานศพเพื่อนตอนนี้” สายฟ้าแสยะยิ้มพูดร้ายกาจ “มึงตายก่อนดีไหม ตายคาตีนกูเนี่ย” บอสตันพูดยกฝ่าเท้าขึ้นทำท่าถีบใส่สายฟ้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม สายฟ้าไม่สนใจท่าทางอารมณ์เสียของเพื่อนนักสายตากวาดมองเหล่านักท่องราตรีเพื่อหาเหยื่อในคืนนี้ ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับเด็กสาวตากลมราวกับตุ๊กตาแต่ดูมีเสน่