เช้าวันอาทิตย์คุณานนท์ไม่ต้องไปทำงานแต่ชายหนุ่มก็ตื่นนอนแต่เช้าเพราะรู้สึกอยากจะอาเจียน อาการของเขาเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วแม้จะทานยาที่คุณหมอให้มาแต่มันก็ไม่ดีขึ้นเลย เขาเริ่มเป็นกังวลว่าตัวเองจะป่วยเป็นอะไรมากหรือเปล่าและคิดวันนี้จะเข้าไปปรึกษากับคุณหมอที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ชายหนุ่มไม่ชอบอาการที่เป็นอยู่นี้เลยเพราะมันทำให้เขาทำงานไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วคุณานนท์ก็เดินลงมาทานอาหารเช้ากับคุณย่าตามปกติ
“หน้าซีดลงมาอีกแล้ว ย่าว่าอาการเราไม่น่าจะไหวแล้วนะนนท์” คุณชมนาดมองหลานชายแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงไม่ได้แต่ในใจเธอก็ยังคิดอยู่ว่าอาการของคุณานนท์นั้นเหมือนกับอาการแพ้ท้องแทนภรรยาแต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองไปแอบมีภรรยาซ่อนไว้ที่ไหน
“เช้านี้ป้าอาหารฝรั่งให้คุณนนท์นะนะ มีไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปังปิ้งแล้วก็น้ำส้มคั้นสดๆ ค่ะ คุณนนท์จะได้ไม่คลื่นไส้”
“ขอบคุณครับป้าสำรวยแล้วคุณย่าไม่กินเหมือนผมเหรอครับ”
“ย่าไม่ถนัดกินของพวกนั้นหรอก ย่าขอเป็นข้าวต้มดีกว่าแต่ย่าไม่ได้ใส่กระเทียมเจียวนะ ย่ารู้ว่านนท์ไม่ชอบกลิ่นของมัน”
“คุณย่าครับ ผมขอโทษนะครับที่ทำให้คุณย่าต้องอดกินของอร่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก ย่าไม่อยากเห็นนนท์วิ่งไปอาเจียนอีกรีบกินเถอะนะเดี๋ยวขนมปังจะไม่กรอบ”
“ครับคุณย่า”
“กินข้าวเสร็จแล้วถ้าพอมีเวลานนท์ไปหาหมออีกสักครั้งได้ไหม อาการแบบนี้มาทั้งอาทิตย์แล้วนะ”
“ผมว่าสายๆ จะเข้าไปหาหมอที่โรงพยาบาลครับคุณย่า ผมก็ไม่ชอบอาการที่เป็นอยู่เลย ตื่นมาอาเจียนทุกเช้าแบบนี้ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่”
“ย่าก็คิดแบบนั้น ไปตรวจร่างกายให้ละเอียดว่าเป็นอะไรกันแน่ ถ้าผลตรวจออกมาปกติก็ลองทบทวนเรื่องที่เราเคยคุยกันไว้ด้วยนะ”
“เรื่องที่ผมแพ้ท้องแทนเมียเหรอครับย่า”
“ใช่จ้ะลูก อาการของนนท์เหมือนอาการของคุณปู่ตอนที่ย่าตั้งท้องพ่อของนนท์มากเลยนะ”
“คุณปู่ก็เป็นแบบนี้เหรอครับ”
“เป็นหนักว่านี้อีก ปู่ลุกไปทำงานไม่ไหวจนต้องโทรศัพท์ไปสั่งให้พยาบาลเอาน้ำเกลือมาให้ที่บ้าน”
“แล้วนานไหมครับกว่าอาการจะหาย”
“ย่าจำได้ว่านานเหมือนกันนะ”
“ผมหวังว่าจะไม่ใช่แบบนี้คุณย่าคิดนะครับ” คุณานนท์ไม่เชื่อว่าอาการของเขาจะเป็นเหมือนคุณปู่และวันนี้เขาจะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลให้รู้เรื่องว่าตนเองป่วยเป็นอะไรกันแน่
“มันก็ไม่แน่นนท์” คุณชมนาดเริ่มมั่นใจมากว่าว่าหลานชายของตนเองน่าจะไปทำผู้หญิงที่ไหนท้องและเธอก็อยากจะตามหาผู้หญิงคนนั้นให้เจอเพราะกลัวเหลือเกินว่าเธอจะไปเอาเด็กออก
คุณานนท์ไม่ได้คุยอะไรต่อตอนนี้เขาเริ่มจะคิดตามที่ท่านพูดแล้วแต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ
หลังรับประทานอารเช้าเสร็จคุณานนท์ก็มานั่งเล่นกับคุณย่าที่ห้องนั่งเล่น
“คุณย่าอยู่ในบ้านมาตลอดแบบนี้ไม่เบื่อเหรอครับ”
“ไม่เบื่อหรอกย่ามีอะไรให้ทำเยอะแยะเบื่อจากการถักโคเชด์ย่าก็ออกไปดูแลต้นไม้ ดอกไม้นนท์ถามย่าแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า”
“ผมอยากพาคุณย่าไปเที่ยวครับเราไปเที่ยวทะเลกันดีไหม”
“ย่าแก่แล้วไม่ชอบนั่งรถนานๆ หรอกและย่าก็ไม่ได้เบื่อเลยที่ต้องอยู่บ้านแบบนี้ ถ้านนท์อยากออกไปเที่ยวก็ออกไปได้เลยไม่ต้องเป็นห่วงย่า ไม่ต้องเกรงใจย่าหรอกนะ”
“ผมไม่อยากทิ้งให้คุณย่าอยู่คนเดียว”
“คนเดียวที่ไหนสำรวยก็อยู่เด็กรับใช้ก็มีช่วงนี้นนท์ไม่ค่อยออกไปดื่มกับเพื่อนเลยนะ หาเวลาผ่อนคลายบ้างนะลูก”
“ช่วงนี้ผมรู้สึกสุขภาพแย่ครับคุณย่าก็เลยไม่อยากจะออกไปดื่มเท่าไหร่ รอให้หาหมอตรวจร่างกายเสร็จผมว่าอยากจะไปเที่ยวพักผ่อนต่างประเทศสักหน่อย อยากชวนคุณย่าไปด้วยจัง”
“ขนาดแค่ทะเลย่ายังขี้เกียจนั่งรถไปลงถ้าต้องนั่งเครื่องไปต่างประเทศย่าคงไม่ไหวหรอก ถ้านนท์อยากหาคนเที่ยวด้วยก็หาแฟนสิ หรือจะชวนผู้หญิงที่พ่อกับแม่เราหาให้ไปเที่ยวก็ได้นะจะได้ศึกษาเรียนรู้นิสัยใจคอกันบางทีภาพลักษณ์ที่เราเห็นมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ เธออาจจะเป็นผู้หญิงที่เก่งทั้งเรื่องทำงานนอกบ้านเก่งทั้งเรื่องในบ้านถ้าได้ลองคุยกันมากขึ้นบางทีความรู้สึกของเราก็เปลี่ยนไปได้”
“ไม่ดีกว่าครับคุณย่าถ้าผมชวนตัวไปเที่ยวก็เท่ากับผมให้ความหวังกับเธอผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอหรอกครับ”
“ไม่มีทางเปลี่ยนใจเลยเหรอนนท์”
“ไม่ครับคุณย่าผมรู้สึกว่าเธอยังไม่ใช่ และผมก็ไม่อยากจะฝืนคบกันหรอกครับมันจะทำให้เสียเวลาด้วยกันทั้งคู่”
ย่าหลานแลกเปลี่ยนทัศนคติในการใช้ชีวิตคู่อยู่พักใหญ่ก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน
“เหมือนรถพี่นันเลยครับคุณย่า”
“นั่นสิ”
คุณชมนาดชะเง้อคอมองไปยังประตูด้านหน้าแล้วเธอก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าหลานสาวกำลังเดินเข้ามา
“สวัสดีค่ะคุณย่า นันคิดถึงคุณย่าจังเลยค่ะ” นันนภัสกอดคุณย่าและหอมแก้มของท่านอย่างประจบ
“คิดถึงย่าแต่ไม่ค่อยจะมาหาย่าเลยนะ”
“งานมันยุ่งมากๆ ค่ะ คุณย่าสบายดีมั้ยคะ”
“ย่าสบายดีแต่น้องชายของเรานั่นแหละ ไหนๆ นันมาแล้วก็ลองคุยกับน้องหน่อยนะว่าจะต้องไปตรวจอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
“นี่ยังไม่หายอีกเหรอนนท์”
“ไม่เลยครับพี่ผมยังตื่นมาอาเจียนทุกเช้าเลย คุณย่ากับป้าสำรวยก็หาว่าผมแพ้ท้องแทนเมีย แต่ผมยังไม่มีเมียที่ไหนเลยนะ”
“ไม่ใช่ว่าแอบไปไข่ไว้ที่ไหนแล้วไม่รู้ตัวนะ” นันนภัสพูดแล้วหัวเราะเพราะรู้กิตติศัพท์ความเจ้าชู้ของน้องชายดี
“นี่พี่ก็เชื่อเรื่องที่คุณย่ากับป้าสำรวยพูดเหรอครับ พี่เป็นหมอนะจะเชื่อเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”
“ใช่พี่เป็นหมอแต่เรื่องแบบนี้ทางวิทยาศาสตร์มันก็อธิบายได้นะ มันเกิดจากการที่คนเป็นพ่อเริ่มวิตกกังวล ตื่นเต้นที่จะมีสมาชิกใหม่ในครอบครัวและอาจจะรวมไปถึงความห่วงใยที่มีให้ทำกับคนเป็นแม่ ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้นสูงจนทำให้เกิดอาการแพ้ท้องได้เหมือนกับคนเป็นแม่ยังไงล่ะ”
“แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าผมไปทำใครที่ไหนท้องแล้วผมจะรู้สึกกังวลได้ยังไง”
“เรื่องนี้พี่เองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันนะ”
“ย่าฟังเราส่งคนคุยแล้วปวดหัวถ้ายังไงย่าขอไปงีบในห้องหนังสือก่อนนะ เราสองคนคุยกันต่อเถอะ”
เมื่อคุณย่าเดินออกจากห้องรับแขกไปแล้วนันนภัสก็จ้องหน้าน้องชายเพื่อคาดคั้นจะเอาคำตอบที่แท้จริง
“นนท์พี่จริงจังนะ นนท์แอบมีเมียไว้ที่ไหนหรือเปล่า”
“ผมยังไม่เมียจริงๆ”
“ลองคิดดูดีๆ ว่าช่วงสองถึงสามเดือนมานี้ได้นอนกับผู้หญิงคนไหนแล้วไม่ป้องกันหรือเปล่า”
“หนูวิวเข้าไปในห้องผ่าตัดนานหรือยังลูก” คุณสุนันทาถามนันนภัสด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รู้ว่าจะได้หลานชายเธอก็เปิดใจยอมรับวิรัลพัชรและดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่เห่อหลานในท้องมากกว่าใครทั้งมด“เข้าไปเกือบยี่สิบนาทีแล้วครับแม่” คุณานนท์ที่ยืนจับเวลาอยู่บอกกับมารดา“ต้องใช้เวลาผ่าตัดนานแค่ไหนนัน”“ส่วนใหญ่ก็ประมาณสี่สิบถึงหนึ่งชั่วโมง ชั่วโมงถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน”“อาการแทรกซ้อนอะไรครับพี่นัน แล้ววิวจะมีอาหารแทรกซ้อนไหม” คุณานนท์รีบถามเพราะตอนนี้เขาห่วงคนที่อยู่ในห้องผ่าตัดมากห่วงทั้งคนเป็นแม่และลูกที่กำลังจะเกิดมา“ก็เช่นรกลอกตัวไม่ดีมีเลือดออกเยอะอะไรประมาณนั้น แต่พี่ว่าวิวคงไปไม่เป็นแบบนั้นหรอกนนท์อย่าห่วงไปเลยนะ”“ผมเป็นห่วงวิวกับลูก”“ใจเย็นนะนนท์ ทุกคนก็เป็นห่วงหนูวิวกันทั้งนั้นแหละ” คุณย่าชมนาดที่นั่งมองหลานชายกระวนกระวายใจเดินไปเดินมาก็พูดขึ้น“ถ้านนท์เป็นห่วงมากๆ เดี๋ยวพี่จะไปดูกล้องห้องผ่าตัดให้ก็แล้วกันนะ ว่าตอนนี้ผ่าตัดไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว” นันนเห็นอาการน้องชายแล้วก็ที่ดูกังวลก็เลยอาสาจะไปดูก็ภาพจากกล่องให้เธอหายเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับห้องผ่าตัดไม่นานก็ออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม“ว่ายัง
ตอนนี้อายุครรภ์ของวิรัลพัชรเข้าสัปดาห์ที่สามสิบเก้าแล้วการไปอัลตราซาวด์มาครั้งล่าสุดกับอาจารย์หมอวัลลภอาจารย์หมอบอกให้เธอเตรียมตัวในการผ่าคลอดเพราะดูแล้วการคลอดตามธรรมชาติน่าจะเป็นไปได้ยากเนื่องจากอายุครรภ์เริ่มมากขึ้นแต่ศีรษะเด็กก็ยังไม่ลงมาอยู่ในอุ้งเชิงกราน คุณหมอแนะนำว่าถ้าหากจะผ่าคลอดตอนนี้ก็สามารถผ่านได้เลยแต่เธอก็อยากจะรอให้อายุครรภ์ครบสี่สิบสัปดาห์ก่อนจึงจะตัดสินใจผ่าคลอดช่วงนี้หญิงสาวไม่ได้ไปทำงานที่โรงพยาบาลเพราะคุณานนท์เป็นห่วงส่วนตัวเขาเองก็เอางานกลับมาทำที่บ้านเพราะอยากจะอยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาวเขาก็ว่าเธอจะปวดท้องคลอดระหว่างที่ตัวเองไปทำงาน“วันนี้งานยุ่งหรือเปล่าคะคุณนนท์” หญิงสาวเดินมาถามสามีเมื่อเห็นเขาหน้าเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ค่อนข้างนานแล้วเธอเลยเดินเข้ามาถาม“ยุ่งนิดหน่อยครับแต่ผมคิดว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จวันนี้”“ทำไมล่ะคะ”“ก็ผมอยากมีเวลาให้คุณกับลูกอย่างเต็มที่ไงนี่ก็ใกล้ครบกำหนดสี่สิบสัปดาห์แล้วนะวิว คุณตื่นเต้นไหม”“ตื่นเต้นสิวิวทั้งตื่นเต้นทั้งเครียดเลยค่ะ”“ผมเองก็ไม่รู้จะปลอบใจวิวยังไงเลยเพราะนี่มันเป็นลูกคนแรกของเรา ผมก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างมั
วันนี้วิรัลพัชรรู้สึกมีความสุขมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาเพราะการแสดงออกของคุณสุนันทาที่มีต่อเธอนั้นมันเปลี่ยนไป ตอนนี้ท่านยอมรับเธอในฐานะลูกสะใภ้ซึ่งเธอไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ หญิงสาวแทบจะหุบยิ้มไม่อยู่ เธอลงมารอคุณานนท์ที่หน้าโรงพยาบาลโดยที่เขายังไม่โทรมาบอกเหมือนกับทุกวันเพราะอยากจะเล่าเรื่องวันนี้ให้กับชายหนุ่มฟัง เมื่อรถเขามาจอดหญิงสาวก็รีบขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว“คุณนนท์คะวิวมีเรื่องจะบอกคุณนนท์ด้วยค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยความตื่นเต้นหลังจากเปิดประตูรถเข้ามานั่งข้างคนขับ“เรื่องอะไรดูท่าทางน่าจะเป็นเรื่องดีใช่มั้ยล่ะ”“ค่ะเรื่องดีมากๆ วิวไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นแบบนี้”“เล่ามาสิผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องดีๆ ของวิวมันคือเรื่องอะไร”“คุณรู้มั้ยวันนี้วิวได้เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ที่ทำงานด้วยค่ะ”“เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ต้องดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ” เขามองหน้าคนรักด้วยความไม่เข้าใจเท่าไหร่ เพราะปกติแล้วในทุกบริษัทก็จะมีการเปลี่ยนเก้าอี้ใหม่ให้กับพนักงานตามอายุการใช้งานอยู่แล้ว“ใช่ค่ะ เพราะเก้าอี้ของวิวมันพิเศษกว่าคนอื่น” หญิงสาวพูดไปยิ้มไปทำให้คุณานนท์ยิ่งอยากจะรู้มากขึ้นว่ามันพิเศษยังไง“มันพิเศษยังไ
เนื่องจากได้หยุดสองวันและพักผ่อนอยู่ที่บ้านกับครอบครัวทำให้วันนี้วิรัลพัชรมาทำงานด้วยความสดชื่น วันนี้หญิงสาวก็มาทำงานตามปกติแต่เมื่อมาถึงที่แผนกบัญชีเธอก็ต้องตกใจเพราะตอนนี้เก้าอี้ทำงานของเธอมันเปลี่ยนไป“พี่นิดคะเกิดอะไรขึ้นทำไมเก้าอี้ทำงานของวิวไม่เหมือนคนอื่นเลย” หญิงสาวถามหัวหน้าแผนกที่มักจะมาทำงานก่อนทุกคนเสมอ“คุณสุนันทาสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้น่ะ”“อะไรนะคะ พี่นิดบอกว่าใครสั่งให้คนเอามาเปลี่ยนให้นะคะ” เธอไม่แน่ใจกับชื่อที่หัวหน้าแผนกเอ่ยออกมา“คุณสุนันทาแม่คุณนนท์ไงล่ะ”“เป็นไปได้ยังไงเขาจะเอาเก้าอี้มาเปลี่ยนทำไม” วิรัพัชรนึกหาเหตุผลไม่ออกเลยว่ามารดาของคุณานนท์จะทำแบบนี้ทำไม“อย่าเพิ่งนั่งนะวิว ปอนด์ขอนั่งก่อน” นัยนาที่เดินเข้ามาได้ยินก็รีบร้องบอก“ทำไมล่ะปอนด์”“ก็เผื่อเขาทำเก้าอี้ที่นั่งแล้วล้มลงไป วิวจะได้ไม่เป็นอะไรไงล่ะปอนด์ขอนั่งก่อนนะ” หญิงสาวพูดด้วยความเป็นห่วง“คงไม่มีใครทำอะไรแบบนั้นหรอกมั้งปอนด์”“ไม่รู้สิปอนด์ดูละครมาเยอะแม่สามีที่ไม่ชอบลูกสะใภ้ก็อยากจะทำให้ลูกสะใภ้แท้งก็ได้นะ”“คิดมากเกินไปหรือเปล่าปอนด์” พนิดามองหน้าลูกน้องของตัวเองแล้วส่ายศีรษะเพราะคิดว่าคุณสุนั
“มันแน่นมากวิว เสียวใช่ไหม”หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะตามมาด้วยเสียงครางหวานเมื่อสะโพกของคุณานนท์ขยับจังหวะเร็วขึ้น มือหนึ่งช้อนใต้ข้อพับยกขึ้นสูงเพื่อให้ตนเองเข้าได้ลึกสุด อีกมือสอดใต้ร่างมาบีบขยี้หน้าอกของเธอยังไม่ปรานี จังหวะรักไม่รุนแรงแต่เต็มไปด้วยความสุขและความเสียวซ่าน ต่างฝ่ายต่างโหยหาความรู้สึกและอารมณ์แบบนี้มานานหลายเดือน“คุณนนท์...อื้อ....วิวเสียว”“เสียวก็ปล่อยออกมาเลยวิว”ยิ่งได้ยินเขาพูดแบบนี้วิรัลพัชรก็ยิ่งเสียวมากขึ้นฝ่ามือร้อนยังคงหน้าอกอิ่มริมฝีปากจูบไปบนไหล่มน ก่อนจะก้มลงจูบบนริมฝีปากบางที่กำลังหันไปหาเขาอย่างรู้งาน จูบเร่าร้อนหนักหน่วงจนหญิงสาวแทบจะขาดอากาศหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัวที่ ความเสียวซ่านมากยิ่งขึ้นชายหนุ่มผละมือออกจากหน้าอกแล้วลูบฝ่ามือไปตามหน้าท้องนูนเด่นก่อนจะใช้ปลายนิ้วกดเน้นไปบนเกสรสวาททำเอาหญิงสาวสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว“อื้อ....อ่า คุณนนท์ขา อย่าทำแบบนั้น”“ไม่ชอบเหรอ ถ้างั้นผมหยุดน่ะ”“เปล่านะ วิวเสียวมากมันจะเสร็จ”หญิงสาวรีบปฏิเสธเพราะกลัวเขาจะหยุดอย่างที่พูด“ผมก็อยากให้วิวเสร็จเพราะตอนวิวเสร็จร่องวิวตอดแน่นมาก ลองก้มดูสิว่าตอนนี้ร่องของว
“วิวผมรู้แล้วว่าคุณยังไม่หลับ”“ก็คุณนนท์ยังคุยอยู่แบบนี้วิวจะหลับล่ะคะ”“เรายังคุยกันไม่จบเลยนะวิว”“แต่วิวคิดว่าวิวจบแล้วค่ะ”“วิวไม่ต้องการจริงเหรอ” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้กอดเธอจากทางด้านหลัง ฝ่ามือลูบไล้บนหน้าท้องของเธอเบาๆ“ลูกจ๋าขอพ่อมีความสุขกับแม่ได้ไหม” เขากระซิบข้างหูจนหญิงสาวรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว“คุณนนท์ใครเขาให้พูดกับลูกแบบนั้นกันคะ”“ผมต้องการคุณนะวิวมันนานแล้วที่เราไม่ได้นอนด้วยกันและผมนอนกับคุณเกือบทุกคืนแต่ก็ได้แค่กอดผมรู้สึกทรมานมากๆ”“คุณนนท์คะ วิวท้องอยู่นะ”“ผมปรึกษาเรื่องนี้กับคุณหมอแล้วนะ”ชายหนุ่มพูดขณะที่ฝ่ามือก็ลูบไปบนต้นขาขาวเนียนและสอดเข้าใต้ชุดนอนแบบกระโปรงไล้ฝ่ามือไปบนหน้าท้องที่โตขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์ไม่นะคะ”“อย่าห้ามเลยผมทรมานมากจริง ให้ผมนะวิว”เขากระซิบแหบพร่าแล้วฝ่ามือร้อนก็กอบกุมหน้าอกอิ่มที่มันขยายขนาดขึ้นกว่าเดิม“คุณนนท์....”เธอครางแผ่วเบาเมื่อสัมผัสจากฝ่ามือร้อยทำให้ร่างกายอารมณ์ปรารถนาของเธอถูกปลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“หน้าอกคุณใหญ่ขึ้นใช่ไหม”“มันก็เป็นอาการปกติของคนท้อง”“ดีจัง”เขาเพิ่มแรงบีบบนอกอิ่มปลายนิ้วสะกิดยอดถันปลุกเร้าอารมณ์ของหญิงสาวจน