LOGINตอนที่ 10
รักมากกว่าชีวิต........
ธีภพฟื้นขึ้นมาภาพที่ชายหนุ่มได้เห็นคือภรรยาของเขานอนอยู่ข้างเตียงเพราะหลังจากที่เขากลับมาหายใจได้ปกติทางโรงพยาบาลก็พาตัวขึ้นมาอยู่ที่ห้องพักฟื้นโดยมีธิชาคอยเฝ้าอยู่ตลอด
“ธิชา”
ชายหนุ่มยกมือที่ยังไม่ค่อยมีแรงลูบไปที่ผมของหญิงสาวที่นอนฟุบหลับอยู่กับที่นอนของเขา
“คุณธีฟื้นแล้ว ธิชาดีใจที่สุดเลยค่ะ เราจะต้องอยู่เลี้ยงลูกด้วยกันนะคะ”
สาวน้อยดีใจเผลอพูดทุกอย่างออกไปโดยลืมว่าคนเจ็บยังไม่รู้เรื่องที่ท้องเพราะตอนที่เธอบอกเขาตอนนั้นธีภพสลบอยู่
“ธิชาพูดใหม่สิ ผมกำลังจะเป็นพ่อใช่ไหม”
ชายหนุ่มด้วยความดีใจพยายามจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเจ็บแผลที่เพิ่งผ่าตัดมาจึงได้แต่กอดภรรยาอย่าง หลวม ๆ เพื่อไม่ให้โดนแผล
“ธิชาท้องค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอก”
“ผมก็มีเรื่องอยากจะขอโทษธิชาเหมือนกัน”
ชายหนุ่มยังไม่ทันจะได้พูดจบ คนฟังก็ใช้นิ้วเรียวปิดลงไปที่ปากด้วยรอยยิ้มที่มีน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ
“ไม่มีอะไรที่คุณต้องขอโทษ ภาพที่คุณกางมือเอาตัวเอง เข้าบังธิชามันแทนทุกคำหมดแล้ว คำที่ธิชารอฟังมันมาตลอดแต่ตอนนี้มันไม่มีค่าแล้วเพราะการกระทำของคุณมันมีค่ามากกว่า เวลาที่เรารู้จักกันอาจจะน้อยในสายตาคนอื่นแต่สำหรับธิชามันมากพอที่จะทำให้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งได้สัมผัสกับความรักที่แท้จริง ขอบคุณนะคะที่รักและปกป้องผู้หญิงที่เคยหนีคุณไป”
หญิงสาวมองหน้าสามี เธอไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีค่าเท่ากับนาทีที่เขาอ้าแขนปกป้องเธอมาก่อน ธิชาเข้าใจแล้วความรักไม่จำเป็นต้องเป็นคำพูดเสมอไปสิ่งสำคัญที่สุดคือการกระทำ
เทวนาถมาเยี่ยมลูกชายด้วยความสุข เหตุการณ์ร้าย ๆ ผ่านไปแล้วต่อไปนี้ก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ คนเป็นพ่อจับมือลูกชายให้กำลังใจส่งต่อความสุขถึงกัน
“รีบหายนะลูกชายจะเป็นคุณพ่อกับเขาแล้ว เมียท้องตั้งหลายเดือนไม่รู้เรื่องเลยรีบลุกมาดูแลหนูธิชาอย่าปล่อยให้คนท้องต้องดูแลนานนะ”
คนเป็นพ่อหัวเราะอย่างมีความสุข วันนี้เทวนาถรู้สึก สบายใจเพราะทางตำรวจแจ้งมาว่าจับผู้ร้ายได้แล้วและทั้งสองคนก็รับสารภาพ คดีไม่มีอะไรยุ่งยาก ครอบครัวของลูกชายก็กลับมามีความสุขและกำลังจะมีทายาทตัวน้อยออกมาสร้างความสุขและเพิ่มชีวิตชีวาให้กับคนเป็นปู่
ธีภพใช้เวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาลสองสัปดาห์ก่อนที่จะกลับมาอยู่ที่บ้าน ตอนนี้เขาเดินและช่วยตัวเองได้เกือบปกติแต่ยังขับรถไม่ได้เพราะเจ็บที่หลัง จึงต้องให้คนขับรถพาเขาและธิชาไปหาหมอที่ดูแลตัวน้อยในครรภ์
“คุณพ่อไว้หนวดได้เลยนะคะ ได้ลูกสาวค่ะ”
ชายหนุ่มสมหวังเพราะเขาอยากได้ลูกสาวมาก ธีภพจับมือภรรยามองหน้าเธอภาพที่เขาเห็นซ้อนขึ้นมาคือภาพของมารดาที่ทิ้งเขาไป วันนี้เมื่อชายหนุ่มได้เป็นพ่อเขารู้แล้วว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รักลูก แม่ของเขาก็คงมีเหตุผลที่ทิ้งเขาไป นับจากนี้ธีภพไม่คิดโกรธและน้อยใจมารดาอีกแล้ว เขาไม่อาจกลับไปแก้ไขอดีตได้ดังนั้นชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินหน้าทำครอบครัวของเขาให้มีความสุขที่สุดดีกว่า
“ผมใกล้จะหายแล้วจะได้อุ้มสาวน้อยในท้องได้ถนัด ๆ ”
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่โอบกอดกันด้วยความรักที่แม้จะใช้เวลาศึกษากันไม่นานแต่เหตุการณ์ร้าย ๆ ที่ผ่านเข้ามามันเป็นบททดสอบที่ทำให้ความรักยิ่งเบ่งบานอย่างไม่รู้ตัว
เวลาผ่านไปรวดเร็ว วันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงธิชาให้กำเนิดลูกสาว ธีภพตื่นเต้นจนทำอะไรแทบไม่ถูก เทวนาถต้องช่วยลูกชายติดต่อทุกอย่าง คุณพ่อมือใหม่ไม่ยอมห่างลูกและภรรยาเลยแม่แต่สักนาที
“ไม่ห่างลูกเมียเลยนะเพื่อน”
ณภัทรมาเยี่ยมสาวน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงสองวัน คนเป็นเพื่อนมองชายหนุ่มที่กำลังอุ้มเด็กน้อยด้วยความยินดีที่วันนี้เพื่อนของเขาได้รู้จักคำว่าครอบครัวจริง ๆ สักที
“มีสักคนสิภัทร”
“ไม่ต้องกลัว รับรองฉันมีแซงแกแน่นอน”
ณภัทรยังกำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่วัน เขาเห็นครอบครัวของเพื่อนแล้วทำให้ยิ่งยากมีลูกไว ๆ นานมากที่ธีภพไม่เคยมีความสุขแบบนี้ ตลอดเวลาตั้งแต่มารดาของเขาออกไปจากบ้าน ณภัรก็เห็นแต่แววตาเศร้า ทุกข์ ขมขื่นในดวงตาของเพื่อนสนิทแต่มาวันนี้เขาไม่เห็นความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว คำว่าครอบครัวมันคือความสุข มันคือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
ธีภพดูแลภรรยาและลูกทุกอย่างตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลจนถึงกลับบ้าน เขาไม่ยอมจ้างพี่เลี้ยงยืนยันว่าจะเลี้ยงสาวน้อยด้วย ตัวของเขาเองได้
“ธัญญ่ามีทั้งพ่อ แม่และคุณปู่ไม่จำเป็นต้องจ้างใครมาเลี้ยงหรอกครับคุณพ่อ ผมเชื่อความรักที่เรามีให้กับตัวน้อยจะทำให้ลูกเติบโตมาด้วยความอบอุ่นและเธอจะมีความรักเหลือส่งไปให้กับคนอื่น ๆ เหมือนที่ธิชาส่งต่อความรักที่เธอมีจนล้นหัวใจมาให้กับผม ”
ภรรยาตัวน้อยทำท่าอายที่ถูกสามีป้อนคำหวานต่อหน้าผู้ใหญ่แบบนี้
“พ่อดีใจนะและมีความสุขที่สุด ธีภพเรื่องราวในอดีตมันผ่านไปแล้วนับจากนี้ครอบครัวของลูกสำคัญที่สุด เมื่อมีสิ่งมีค่าไว้ในมือจงรักษามันให้ดีจะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลังเหมือนกับพ่อ”
เทวนาถรู้สึกตัวว่าผิดมาตลอดกับการที่ภรรยาของเขาต้องเดินออกไปจากที่นี่ เขาจึงไม่เคยสอนให้ลูกชายโกรธหรือน้อยใจ วิกานดาและเหนือกว่าสิ่งอื่นใด เขาไม่อยากให้ลูกต้องทำผิดเหมือนเขาอีกเพราะการจากกันทั้งที่ยังรักกันอยู่มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการ อกหักเพราะเลิกรักกันเสียอีก
ธีภพหันมาจับมือภรรยา เขาส่งสายตาแทนความรู้สึกทั้งหมดก่อนที่จะพูดทุกความในใจที่เขาตั้งใจจะพูดเพื่อให้ภรรยามั่นใจและเชื่อใจในตัวเขา
“กว่าจะรักกันก็ยากแล้วแต่การรักษาความรักไว้ยากกว่า สัญญากับผมนะธิชาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะไม่ลืมว่าวันนี้เรารักกันมากแค่ไหน ทุกปัญหาเราจะหันหน้ามาคุยกันอย่าคิดไปเอง ผมก็จะเชื่อและไว้ใจคุณที่สุด ธิชาเองก็ต้องเข้าใจและเชื่อใจผมนะ”
หญิงสาวโอยเอวสามีซบไหล่ลงบนบ่าหนา มือทั้งสองข้างอุ้มสาวน้อยธัญญ่าไว้ในอ้อมอก
“สัญญาค่ะ ขอบคุณนะคะที่รักธิชาและลูก เราจะรักและอยู่ด้วยกันตลอดไปค่ะ”
ตอนที่2งานวิวาห์ของคุณหนู งานแต่งานถูกจัดขึ้นหลังจากที่หนูนายอมตกลงไม่ถึงเดือน เพราะทางภูษิตยินยอมพร้อมใจตั้งแต่แรก เพราะแอบชอบหนูนามาตั้งนาน โดยที่ตัวหญิงสาวไม่เคยรู้เลย กนกวรรณไม่คิดว่าข่าวการแต่งงานของลูกสาวเธอจะโด่งดังไปทั่วภาคเหนือ บรรดาเชื้อเจ้าเก่า พ่อเลี้ยงจากจังหวัดต่าง นักการเมืองท้องถิ่นต่างก็ถูกพ่อเลี้ยงเชิญมาร่วมงาน กนกวรรณอดคิดไม่ได้ ว่านี่คือการประกาศตัวว่าพ่อเลี้ยงชนินทร์กำลังมีใบเบิกทางในวงราชการ “ตื่นเต้นเหรอ” เจ้าบ่าวที่สาวๆทั้งจังหวัดต่างหมายปอง ถามเจ้าสาวเพราะสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นของหนูนาเมื่อเขาจับมือเธออยู่กลางเวที “พี่ภูคะ หนูนาตาลายไปหมดเลย” ปกติก็ไม่ใช
ตอนที่5มาทีหลังแต่ถูกต้อง “ได้กี่หน้าแล้ว พี่เห็นเราทำงานเลยยังไม่อยากขึ้นมากวน” ภูษิตคิดแบบที่พูดด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่ง เขายังไม่กล้าเจอหน้าภรรยาเพราะรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ไปแอบคุยโทรศัพท์กับคนรักเก่า “ได้นิดหน่อยค่ะ ยังไม่ค่อยมีสมาธิ” พูดจบหนูนาก็ลุกจากโต๊ะทำงานลงมานอนบนเตียง พร้องกับทำท่ากระดิกนิ้วให้อีกฝ่ายตามมานอนข้าง ๆ เธอ ถึงแม้จะรู้สึกงง ๆ แต่ก็ภูษิตก็ยอมทำตาม เพราะใจจริงก็อยากนอนกอดภรรยาให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างอยู่แล้ว “หนูนาแค่เรียกมานอนเฉยๆ แต่มาถึงมานอนกอดได้อย่างไรกันคะ” ยิ่งคนตัวเล็กในอ้อม
ตอนที่1คุณหนูจะแต่งงาน “ป้าศรีฉันล่ะเหนื่อยกับการสอนหนูนาจัง ยังเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ แล้วเมื่อไหร่จะโตกับเขาเสียที” กนกวรรณระอากับกนิษฐาลูกสาวคนเล็กของเธอเหลือเกินที่วันๆเอาแต่นั่งเขียนนิยายและวิ่งเล่นเหมือนเด็กๆทั้งที่อายุก็ยี่สิบสามแล้ว “คุณหนูเธอก็ยังไม่โตนะคะ ป้ามองดูกี่ทีก็ยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ ตัวเล็กๆ ที่ชอบวิ่งตามคุณท่านไปทำงานตลอด” ป้าศรีเป็นคนเก่าแก่ของบ้าน ตั้งแต่สมัยมารดาของกนกวรรณอีกทีและยังเป็นคนเลี้ยงหนูนามาตั้งแต่เกิดอีกด้วย“ก็เข้าข้างกันแบบนี้ ถึงได้ไม่ยอมฟังฉันเลย” กนกวรรณไม่เคยเถียงสองคนนี้ชนะ เพราะป้าศรีกับหนูนาจะอยู่ฝ่ายเดียวกันตลอด “คุณท่านคะแล้วเรื่องที่พ่อเลี้ยงชนินทร์อยากจะให้ลูกชายของ
ตอนที่3เพื่อนหญิงคนสนิท วันนี้ภูชิตตั้งใจจะพาหนูนากลับบ้านไปหาแม่ของเธอ เพื่อค่อยๆให้เธอหายคิดถึง เพราะชายหนุ่มเข้าใจดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนอ่อนไหว “แม่ฝากขนมไปให้กนกวรรณด้วยนะ เมื่อเช้าแม่ไปตลาดมาเจอขนมโบราณหลายอย่าง” ภาวิณีมารดาของภูชิตเธอเป็นแม่บ้านตัวจริง ที่ชีวิตมีแต่งานบ้านดูแลลูกและสามี ส่วนเรื่องนอกบ้านต่าง ๆพ่อเลี้ยงชนินทร์ไม่เคยให้เธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย “ขอบคุณนะคะ” ลูกสะใภ้ยกมือไว้อย่างนอบน้อม “คุณแม่ครับน้องล่ะ” ภูชิตถามหาสมิตา เพราะตั้งแต่ตื่นเช้ามายังไม่เห็นน้องสาวเลย “น้องกลับไปมหาวิทยา
ตอนที่6คนที่ถูกต้อง “ภู ในที่สุดคุณก็มาเยี่ยมเมย์” หญิงสาวหน้าตาสวยในชุดคนป่วย รีบลุกจากที่นอนขึ้นมานั่งเมื่อเห็นอดีตคนรักมาเยี่ยม “เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะหนูเมย์” ยังไม่ทันที่ภูษิตจะได้ตอบอะไร ภาวิณีก็ทำหน้าที่แม่สามีที่ดี ส่งเสียงตามมา “สวัสดีค่ะคุณแม่ เมย์คิดว่าภูมาคนเดียว” คนป่วยชักสีหน้าไม่พอใจ “เข้ามาเลยหนูนา” ภาวิณีหันไปข้างหลังและกวักมือเรียกลูกสะใภ้ที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ “มากันหมดเลยทั้งแม่และเมียตาภู ตอนงานแต่งงานหนูเมย์ไม
ตอนที่4เมื่อคนเก่าอยากมีบทบาท “ขนของอะไรเยอะเลย” ภาวิณีรีบเดินออกมาที่หน้าบ้าน เมื่อได้ยินเสียงรถของลูกชายวิ่งเข้ามาจอดที่โรงรถ “หนังสือนิยายของหนูนาเองค่ะ” ลูกสะใภ้ส่งยิ้มหวานให้แม่สามี เพราะเธอคิดว่า ภาวิณีคงรู้สึกขำที่เธอขนนิยายมาเสียหลายลัง “เป็นนักเขียนก็ต้องชอบอ่านก่อนใช่ไหม ไว้วันหลังแม่จะขออ่านผลงานของหนูนาบ้างนะลูก” บ้านของครอบครัวพ่อเลี้ยงชนินทร์ วันทั้งวันแทบจะดูเงียบเหงา หนูนาแอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าเธอไม่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงกลางวันคงมีแค่ภาวิณีกับแม่บ้านเท่านั้นที่อยู่ด้วยกัน&nb







