Главная / โรแมนติก / อ้อนรักเจ้าลูกหมู / บทที่ 11 ผืนดินของลี่ชิง

Share

บทที่ 11 ผืนดินของลี่ชิง

Aвтор: Mochi Sa
last update Последнее обновление: 2024-12-18 14:34:46

ลี่ชิงแต่งกายทะมัดทะแมงด้วยเสื้อผ้าสีเข้ม ยืนรอเฉินเซียวหลางอยู่ด้านนอก เกือบสองเดือนแล้วที่ใช้ชีวิตร่วมกันมา เฉินเซียวหลางดีกับนางมาก คอยหาของบำรุงมาให้มิได้ขาด

คุณชายเฉินกลับมาจากร้านค้าก่อนเวลาเพื่อพาลี่ชิงไปดูที่ดินมรดก นางจ้างคนไปแผ้วถางที่ดินผืนนั้น เงินติดตัวนางมีไม่มากนัก เงินส่วนใหญ่ที่ใช้พลิกฟื้นผืนดินมรดกเน่า ลี่ชิงหยิบยืมจากเฉินเซียวหลางมาก่อนราวหนึ่งพันตำลึง

"เหตุใดต้องหักโหมมากมาย มีพี่คอยดูแลเจ้ากับลูกอยู่ทั้งคน"

เขาสวมชุดทะมัดทะแมงสีดำ นั่งผูกเชือกรองเท้าขี่ม้าทรงสูงอยู่หน้าเรือนพัก เรือนพักของเฉินเซียวหลางคือเรือนซือเฟย เรือนขนาดใหญ่รองจากเรือนฮูหยินใหญ่ อยู่บริเวณเดียวกันในจวนสกุลเฉิน 

ลี่ชิงนั่งลงผูกเชือกรองเท้าให้สามี เขาถึงขั้นชะงักเพราะความแปลกใจ 

"ข้าช่วยนะเจ้าคะ" นางเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวาน ดวงตากลมโตจ้องมองสามีด้วยความหลงใหลในความหล่อ 

'หล่อระดับนี้มันดาราซีรี่ส์จีนชัดๆ งือออออ ชั้นรักเค้า ชั้นจะเอา ๆๆ ๆ' ลี่ชิงได้แต่เปรียบเทียบความหล่อของสามีกับดาราซีรีส์ยุคปัจจุบัน

"ขอบใจมาก แต่ไม่ต้องลำบากก็ได้ เป็นพี่เองควรดูแลเจ้า" เฉินเซียวหลางเหม่อมองรอยยิ้มแสนน่ารัก เขาเพิ่งสังเกตว่านางมีลักยิ้ม และมีไฝจุดเล็ก ๆ บริเวณหางตาซ้าย ดูน่ารักมีเสน่ห์เหลือเกิน

'หล่ออ่ะ แง น้ำลายไหล'

ลี่ชิงได้แต่สูดน้ำลายที่ย้อยลงมาตรงมุมปาก หน้าเริ่มแดงซ่านหัวใจเต้นเร็วผิดจังหวะ สบตาเกิน 30 วินาทีไม่ได้เลยจริง ๆ ความหล่อมันเกินทานทน 

"นี่ซาลาเปาผัก ข้าทำเองเราห่อไปกินกันด้วยดีหรือไม่ รีบไปรีบกลับมาหาลูกๆ" นางยืนขึ้น จังหวะเดียวกับที่ลมพัดกลิ่นกายหอมนุ่มเข้าเตะจมูก

"เจ้าทำอาหารเก่งมาก พี่ช่างมีโชคปากเสียจริง ภรรยาทั้งงดงาม น่ารัก ทำอาหารก็อร่อย" เขาเอ่ยชม มือหนาทัดปอยผมตกรุ่ยหลังใบหูให้นาง คลอเคลียหลังมือบนแก้มใสของภรรยา

"ท่านเกี้ยวข้า" ลี่ชิงบิดมือไปมา

"ไม่เกี้ยวภรรยาแล้วจะให้ไปเกี้ยวผู้ใด" คุณชายเฉินรุกต่อ

ลี่ชิงทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ก็มีผู้ชายหล่อล่ำยืนจีบ เอ่อ เกี้ยวอย่างหนัก รุกทั้งสายตาและวาจา 

เฉินเซียวหลางดึงมือลี่ชิงไปที่ม้าสีขาวขนาดกลาง เจ้าม้าดูท่าทางใจดี

"ควบม้าไปกันดีหรือไม่ อยู่ใกล้แค่นี้" เขาชวนควบม้าไปดูแรงงานถางที่ดิน

"ข้าควบม้าไม่เป็น"

"......" เขาไม่ตอบ หันมามองด้วยสายตากรุ้มกริ่ม 

ร่างสูงเหยียบโกลนม้าด้วยท่วงท่าสง่างามขึ้นไปนั่งบนหลังม้า เว้นที่ว่างด้านหน้าไว้พอสมควร 

" เหยียบโกลนม้าแล้วส่งมือมา" เฉินเซียวหลางยื่นมือออกมารับมือของลี่ชิง

นางส่งมือน้อยให้เขา มือหนาดึงมือลี่ชิงให้นางนั่งหันข้าง แขนแกร่งโอบรอบตัวนาง กระตุกม้าออกเดินทางไปยังที่ดินผืนนั้น

ลี่ชิงกับคุณชายเฉินควบม้าไปด้วยกันด้วยความเร็ว เขากอดนางกระชับเข้าหาตัว แอบคลอเคลียปลายจมูกบนเรือนผมนาง สูดดมกลิ่นหอมเมื่อยามลมพัดผ่าน

'ช่วงเวลานี้ช่างแสนสุข'

ลี่ชิงมองทิวทัศน์ด้วยใจเบิกบาน สองข้างทางมีดอกไม้กำลังผลิบาน ฤดูใบไม้ผลิมาเยือน ถึงเวลาเพาะปลูกพืชผล เป็นเวลาเหมาะอย่างยิ่งที่จะเริ่มชีวิตใหม่ เริ่มเพาะปลูก พลิกฟื้นผืนดินให้คืนความเขียวขจี 

เฉินเซียวหลางหยุดม้าหน้าที่ดินมรดก คนงานชายหญิงราวสิบคนกำลังถางที่รกร้างจนเกือบเสร็จ เหลือเพียงตัดต้นไม้ใหญ่สามต้นออก ที่ดินผืนนี้ก็จะโล่งเตียนโดยสมบูรณ์ เขาลงจากม้าแล้วอุ้มลี่ชิงลงมายืนด้านล่าง

ร่างเล็กเดินไปดูที่ดินบริเวณแผ้วถางแล้วเสร็จ หยิบดินขึ้นมาดู วิญญาณป้าสมหญิงวิเคราะห์ลักษณะดิน เป็นดินขาดธาตุอาหาร ขาดความอุดมสมบูรณ์

ตามหลักแล้วดินต้องมีองค์ประกอบคือ อนินทรียวัตถุ อินทรียวัตถุ น้ำหรือสารละลาย และอากาศ ในสัดส่วนพอเหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช ปัญหานี้ไม่เกินความสามารถของลี่ชิง ดินแบบนี้ทางภาคอีสานมีมากมาย อีกทั้งในภพก่อนป้าสมหญิงลงพื้นที่เองเป็นส่วนใหญ่เลยรู้ปัญหาเรื่องการเพาะปลูกทุกอย่าง

"ดินขาดความสมบูรณ์ แต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับปรุงดิน"

"เจ้ามีความรู้เรื่องเกษตรกรรมอย่างนั้นรึ"

"ไม่เพียงแต่มีความรู้ ข้าจะทำเป็นตัวอย่าง ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีการปรับสภาพดินให้กลายเป็นดินดี ปลูกอะไรก็งอกงาม"

"ช่างมีน้ำใจยิ่งนัก" เขาเอ่ยชม

"ข้าคิดถึงการค้าของตระกูลเราต่างหากเล่า หากชาวบ้านเพาะปลูกได้พืชผลมีคุณภาพดี เราจะคัดแยกผัก ผลไม้คุณภาพดีส่งขายพวกคนรวย ร้านค้าของท่านรับซื้อพืชผลทางการเกษตร เราจะพัฒนาทั้งการเพาะปลูกและการค้าไปพร้อมกัน ช่วยการค้าของท่านให้ก้าวหน้า ลูกของเราจะได้มีเงินมาก ๆ" ลี่ชิงหันมายิ้มหวาน

"ภรรยาของพี่ฉลาดแล้วยังงดงามอีกด้วย" เขาเกี้ยวนางต่อหน้าตาเฉย

"หยุดชมข้าเสียที ข้าเขินจนตัวลอยจะแย่แล้ว" ลี่ชิงขวยเขิน นางเดินหนีไปทางหัวหน้าคนงาน

หัวหน้าคนงานละจากการถางหญ้า เดินตรงเข้ามาหาลี่ชิง

"เจ้าช่วยหาขี้วัว แกลบ เปลือกข้าว เปลือกถั่วลิสง กาบผลเย่จึ อย่างละห้าเกวียนมาส่งที่นี่ในยามเหม่า ส่วนนี่คือค่าน้ำชา ข้าให้ทิป เอ๊ย ให้เงินพิเศษ" ลี่ชิงยื่นตั๋วเงินให้ห้าสิบตำลึง นางสั่งให้หัวหน้าคนงานไปหาวัสดุปรับปรุงดินตามที่นางต้องการ ให้เขาพิเศษอีกห้าตำลึงเงิน

"ขอรับฮูหยินน้อย ท่านแน่ใจรึว่าจะเพาะปลูกบริเวณนี้ ดินแห้งเช่นนี้จะเอาน้ำจากที่ใดมารดพืชผล"

"มีแม่น้ำห่างจากที่นี่ไม่ไกล ข้าจะทำท่อส่งน้ำดินเผา ผันน้ำมาที่นี่ เราจะทำอ่างกักเก็บน้ำด้วย อีกไม่นานฝนจะตกลงมา ยามฤดูแล้งต่อไปจะได้มีน้ำใช้"

"ท่านมีความรู้สมกับเป็นภรรยาคุณชายเฉิน บัณฑิตสำนักเฟยหลัวเก่งกล้าทุกคนทั้งบุ๋นบู๊"

"คุณชายเฉินเก่งบู๊ด้วยอย่างนั้นรึ" ลี่ชิงถามอย่างสนใจ

"ขอรับ"

"เจ้ารู้ได้อย่างไร"

"ข้าเคยเป็นหัวหน้าพ่อครัวในสำนัก ทั้งคุณชายเฉินทั้งขุนนาง รวมถึงแม่ทัพนายกองต่างสำเร็จการศึกษาจากสำนักเฟยหลัว ถือเป็นผู้มากฝีมือ แต่คุณชายเฉินยังไม่เข้าไปรับใช้ราชสำนักทั้งที่สอบได้ตำแหน่งจอหงวน เขาออกมาทำกิจการของบิดาที่ล่วงลับ"

"อ่อ อย่างนั้นเองรึ" ลี่ชิงเก็บข้อมูลของสุดหล่อเฉินเซียวหลางไว้ในสมอง

อ้าว คนเป็นภรรยาหรือเมียย่อมต้องอยากรู้ประวัติสามีบ้าง

เฉินเซียวหลางเดินตามมาสมทบ เขามองกวาดสายตาดูโดยรอบ 

"บอกคนที่โรงเลื่อยมาพบข้า ตัดไม้ใหญ่เหล่านี้ออกเหลือไว้เพียงต้นเดียวด้านข้าง ลากใส่เกวียนเทียมม้าไปที่โรงเลื่อย ข้าจะนำไม้หลี่เหล่านี้มาทำเรือนพักให้ลี่ชิง ยามนางมาเพาะปลูกจะได้มีเรือนไว้พักผ่อน" เขาสั่งการหัวหน้าคนงาน

"ขอรับคุณชาย" หัวหน้าคนงานรับคำเดินไปสั่งงานคนงานคนอื่นต่อ

ลี่ชิงเดินเข้ามาหาเฉินเซียวหลาง เงยหน้าช้อนตามองร่างสูง นางสูงเพียงแผ่นอกเขาเท่านั้น

"รู้ได้อย่างไรว่าข้าจะสร้างเรือนพัก"

"พี่เห็นลายมือสุดขี้ริ้วของเจ้าวาดรูปบิดเบี้ยวในกระดาษ พี่เดาถูกใช่หรือไม่ ว่าสิ่งที่เจ้าวาดคือเรือนพัก"

"ท่านพี่ ท่านว่าข้าลายมือขี้ริ้วอย่างนั้นรึ"

"ไม่เพียงเท่านั้น ถุงหอมลายสงเมาของเจ้าก็ขี้ริ้วมากเช่นกัน" เขาลูบไปยังถุงหอมลายสงเมาหน้าเบี้ยวข้างเอว

"เฉินเซียวหลาง คนร้ายกาจ ถุงหอมอันใหม่ที่ข้าปัก ท่านไม่ต้องเอาแล้ว" ลี่ชิงงอนเดินเลี่ยงไปทางอื่น 

ลี่ชิงเดินหนีไปยืนใต้ต้นไม้ เขาเดินตามมาอย่างเร็ว รวบร่างลี่ชิงเข้าอ้อมกอด หอมแก้มนางคราหนึ่ง 

"ต่อให้ปักขี้ริ้วกว่านี้พี่ก็จะพกถุงหอมของเจ้าเท่านั้น ผู้ใดก็รู้กันว่าถุงหอมนี้เจ้าทำให้พี่เองกับมือ"

"ไม่ต้องบอกคนอื่นก็ได้ ฝีมือข้าก็ขี้เหร่อย่างที่ท่านว่า" 

"ของที่ภรรยาทำให้ย่อมงามที่สุด" เขาเอ่ยชม

"ตบหัวแล้วลูบหลังชัด ๆ" วิญญาณป้าสมหญิงพูดประโยคนี้ขึ้นมา

"ค่าสร้างเรือนพักต้องมีค่าใช้จ่าย" เฉินเซียวหลางหันมาหาลี่ชิง

"ข้าไม่มีเงินหรอกท่านพี่ หมายความว่าอย่างไร"

"ไม่มีเงินก็คงไม่ได้สร้าง"

"ข้ายืมท่านก่อนได้หรือไม่"

"ต้องมีดอกเบี้ย" เขาตอบ

"ท่านมันเขี้ยวลากดิน พวกพ่อค้าฉลาดแบบนี้กันหมดเลยเรอะ" นางมองค้อน

"จ่ายดอกเบี้ยล่วงหน้ามา"

"ข้าบอกแล้วว่าไม่มีเงิน" ลี่ชิงมองหน้าเขา

"หอมแก้มพี่ นั่นคือดอกเบี้ย"

"คนบ้า...ชอบกินเต้าหู้ข้าอยู่เรื่อย" ลี่ชิงยื่นจมูกไปหอมแก้มเขาอย่างไม่เต็มใจนัก

"เงินต้นค่อยคิดกันว่าจะจ่ายพี่คืนอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น อาบน้ำด้วยกัน บีบนวดให้พี่ ให้พี่นอนกอดเจ้า หากยอมให้จุมพิตเงินต้นจะหมดไวหน่อย" เขายิ้มให้นางพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์

"ข้าจะหาเงินมาคืนท่าน ฮึ!เจ้าปีศาจราคะ" ลี่ชิงเขินอายจนหน้าแดงก่ำ นางรีบเดินจ้ำหนีไปทางอื่นทันที

ทั้งสองมองผืนดินมรดกเน่าที่กำลังเป็นรูปเป็นร่าง

สายลมอ่อนยามเย็นพัดกลีบดอกไม้ป่าสีเหลืองอำพันปลิวว่อน

สามียืนหยอกเย้าภรรยาอยู่ใต้ต้นไม้

เหวินซูยืนมองภาพนั้นในรถม้าที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก เขาถอนหายใจออกมาพร้อมคำถามกับตนเองว่า

หรือจะยอมปล่อยนางไป...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 34  Fairy Tale Ending

    ราชโองการสมรสพระราชทานประกาศออกไปทั่วเมืองหลวง จวนพระราชทานหลังใหญ่มีแปดห้องนอนพร้อมเรือนย่อยอีกสี่เรือน พระสนมเฟยฉางให้ชื่อจวนนี้ว่าอ้ายหนี่ แรงงานมากมายถูกเกณฑ์มาสร้างจวนอ้ายหนี่ขึ้นอย่างเร่งด่วนให้แล้วเสร็จทันงานสมรสพระราชทาน จวนขนาดใหญ่สีขาวสะอาดตกแต่งด้วยคิ้วไม้หลี่สีน้ำตาลทอง เป็นจวนที่ถอดประกอบมาจากเมืองอื่นคล้ายกับเป็นการซื้อสำเร็จมาตั้งบนที่ดินที่เตรียมไว้ แล้วทาสีตกแต่งใหม่เพื่อให้ทันวันงาน ด้วยความที่ต้องสร้างจวนนี้ให้แล้วเสร็จภายในสองสัปดาห์ ช่างไม้ทั่วสารทิศรวมถึงช่างไม้หลวงรวมกับช่างไม้ที่ร้านของท่านราชครูแทบไม่ได้หลับได้นอน จวนอ้ายหนี่แล้วเสร็จในเวลาเพียงสิบวัน ใช้งบการสร้างส่วนพระองค์ประทานให้แก่แม่ทัพเหวินซูเป็นรางวัลทำศึก ส่วนเฉินเซียวหลางถูกองค์ฮ่องเต้กึ่งบังคับให้กลับไปรับตำแหน่งเดิมที่เคยสอบได้คือตำแหน่งจอหงวนหรือจ้วงหยวน รับหน้าที่ดูแลกรมการค้า ระดับขุนนางขั้นสาม บัญชีรายชื่อของเขายังอยู่ในระยะเวลาสองปีเพื่อเรียกมารายงานตัว พระสนมเฟยฉางรับเด็กฝาแฝดเป็นบุตรบุญธรรม พระสนมทูลเสนอให้เฉินเซียวหลางกลับไปรับตำแ

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 33 จบปัญหา

    ลี่ชิงให้นมบุตรเรียบร้อย เด็กทั้งสองอิ่มจนหลับไป ญาติผู้ใหญ่ฝั่งแม่ทัพเหวินซูเอาเด็กน้อยทั้งสองไปอุ้มเล่น ผลัดกันอุ้มกับฮูหยินใหญ่ เสนาบดีเหวินหลางเยี่ยบิดาของแม่ทัพดีใจมาก อุ้มหลานชายไม่ยอมปล่อย ท่านราชครูอี้ชวนเข้ามาแย่งอุ้มพร้อมสวมกำไลข้อเท้าทำจากทองคำลายอินทรีย์ให้เด็กชายน้อย ท่านราชครูมอบกำไลข้อเท้าให้เด็กหญิงน้อยเช่นกัน เมื่อเหล่าคนแก่เห็นรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของเด็ก ยิ่งหลงใหลกว่าคราวที่ตนมีลูกเสียอีก ลี่ชิงนั่งหน้ามุ่ยเป็นกังวลเรื่องของตนเอง นางกลัวว่าทุกคนจะแย่งเจ้าลูกหมูน้อยไปจากอ้อมอก ลี่ชิงทั้งหวาดกลัวทั้งกังวลกับทุกเรื่องจนร้องไห้ออกมา เหวินซูกับเฉินเซียวหลางได้แต่เข้ามาปลอบนาง ช่วยเช็ดน้ำตาให้ไม่ห่าง ฮ่องเต้เสด็จ! ขันทีกล่าวด้วยเสียงแหลมเสียดแก้วหูดังขึ้นด้านนอก องค์ฮ่องเต้เสด็จมาจากทางตำหนักใหญ่ พระองค์อยากใช้ความคิดเพียงลำพังเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม่ทัพคนโปรดคู่บัลลังก์หาเรื่องยุ่งยากซับซ้อนมาให้พระองค์ปวดหัวในรอบสิบปี ไหนจะเรื่องรางวัลทำศึกที่ขอไว้อีก มีอย่างที่ไหน อยากได้สตรีในจวนผู้อื่นเป็นรางวัลทำศึก

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 32 ทั้งแม่ทั้งลูก

    ทั้งแม่ทัพเหวินซูและเฉินเซียวหลางรวมถึงทุกคนทำหน้าเหมือนเห็นผี เจ้าลูกหมูก็ร้องโยเยขึ้นมา ลี่ชิงเดินไปอุ้มลูก ฮูหยินใหญ่เดินเข้ามาช่วยนางโอ๋เด็กน้อยทั้งสองให้เงียบเสียงลง เมื่อเจ้าลูกหมูถูกลี่ชิงอุ้มไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยซุกหน้าเข้าหาอ้อมอกมารดาอย่างคุ้นเคย ฮูหยินใหญ่อุ้มเด็กหญิงน้อยไว้ในอ้อมแขน เด็กหญิงดันกายออกจากอก ยื่นมือน้อยไปทางมารดา ลี่ชิงจำต้องนั่งลง อุ้มบุตรทั้งสองไว้ในอ้อมกอด “ข้าขออธิบายทีหลัง ที่นักพรตกล่าวเป็นความจริง ข้าไม่ใช่ลี่ชิง” คุณป้าสมหญิงถอนหายใจ กลัวอย่างเดียวว่าจะถูกแย่งลูกหมูไป แล้วคนพวกนี้ก็จับคุณป้าไปทรมานเหมือนในภาพยนตร์สยองขวัญ “พิสูจน์เลือดบุตรให้เสร็จสิ้นก่อนเถิด” เหวินซูกล่าวออกมา เขายังมองไปทางร่างบางกอดบุตรไว้ในอ้อมแขน นักพรตเริ่มพิธีกรรมอีกครั้ง นำจอกเลือดทั้งสองจอกมาวางตรงหน้าเหวินซู จอกเลือดอีกสองจอกมาวางตรงหน้าเฉินเซียวหลาง สองบุรุษลุ้นจนแทบขาดอากาศหายใจ เลือดของแม่ทัพเหวินซูรวมกับเลือดของเด็กชาย ส่วนเลือดของเด็กหญิงรวมกับเลือดของเฉินเซียวหลาง “เด็กชายเป็นบุตร

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 31 สายโลหิต

    องค์ฮ่องเต้ประทับที่เก้าอี้ตำแหน่งประธาน ด้านข้างมีองค์สนมกุ้ยเฟยประทับเยื้องอยู่ทางด้านซ้าย ตำแหน่งรองลงมาคือราชครูอี้ชวนผู้เป็นท่านตาของแม่ทัพ เสนาบดีเหวินหลางเยี่ยบิดาแม่ทัพกับฮูหยินผู้เป็นมารดาแม่ทัพนามว่าอี้ฟางเจิน บุตรสาวราชครูอี้ชวน “ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปีพ่ะย่ะค่ะ คารวะเสด็จอาหญิง คารวะท่านพ่อท่านแม่” แม่ทัพเหวินซูคารวะองค์ฮ่องเต้ พร้อมด้วยญาติผู้ใหญ่ทุกคน แม่ทัพเหวินซูไม่ได้คาดคิดว่าญาติผู้ใหญ่ฝ่ายตนจะแห่กันมามากมายขนาดนี้ ดูหน้าบิดามารดากับท่านตาของเขานั่นเล่า เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง เขาแอบเห็นมือท่านตาถือกำไลข้อเท้าเด็กทองคำ นักพรตราชวงศ์แต่งกายด้วยอาภรณ์สีเขียวขลิบเทา กำลังนำกระดานชนวนออกมาขีดเขียนอักขระ แพทย์หลวงต่างเข้ามายืนด้านข้างเพื่อช่วยการตรวจพิสูจน์ไม่ให้บิดพลิ้วได้ “ถึงเวลาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ให้ทำพิธีที่กรมพิธีการหรือทำที่นี่พ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้านักพรตกล่าวกับองค์ฮ่องเต้ “ทำที่นี่ เจิ้นขี้เกียจเดิน” องค์ฮ่องเต้อยากรู้เต็มทน เช่นเดียวกับทุกคนในห้องนี้ หากจะเดินย้อนกลับไปที่กรมพิธีการก็ใช้เวลาอีกไม

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 30 พิสูจน์เลือดบุตร 2

    รถม้าคันงามตีตราสัญลักษณ์อินทรีย์ ทำจากไม้หลี่เนื้อดีสลักลายอินทรีย์กรุด้วยทองคำแผ่นบาง รถม้าแล่นไปตามถนนสายหลักของเมืองหลวง แม่ทัพเหวินซู เฉินเซียวหลางและลี่ชิงนั่งอยู่ภายในรถม้าคันเดียวกัน เฉินเซียวหลางรินชาให้ศิษย์พี่ เขารินให้ตนเองกับลี่ชิงทีหลัง “ข้าผิดเอง” เฉินเซียวหลางถอนหายใจ “เรื่องนี้คงไม่ถือว่าเจ้าเป็นคนผิด เจ้าเองก็ดูแลลี่ชิงเป็นอย่างดี ทั้งช่วงนางตั้งครรภ์จนเด็กทั้งสองคลอดออกมา” “แล้วหากเด็กทั้งสองเป็นบุตรของท่าน” เฉินเซียวหลางมองหน้าศิษย์พี่เหวินซู “ข้าต้องรับเด็กทั้งสองไปเลี้ยงดูในฐานะบุตรข้า”เหวินซูตอบ เขาลอบมองหน้าลี่ชิง อยากรู้ว่านางคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ “แล้วเจ้าเล่าลี่ชิง จะทำอย่างไรต่อ” เฉินเซียวหลางหันไปถามลี่ชิง เฉินเซียวหลางนึกถึงคราวที่เขาขอนางแต่งงาน เขามองสร้อยข้อมือที่เคยใช้ขอนางแต่งงาน นางยังสวมอยู่บนข้อมือไม่เคยถอด แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราชโองการ เฉินเซียวหลางถึงกับถอนหายใจออกมา “ข้าตกลงแต่งให้คุณชายเฉิน” ลี่ชิงเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ทัพเหวินซู “แล้วข้าเล่า” แม่

  • อ้อนรักเจ้าลูกหมู   บทที่ 29 พิสูจน์เลือดบุตร 1

    ยามเหม่า ณ จวนสกุลเฉิน บ่าวไพร่สาวใช้ในจวนสกุลเฉินคึกคักตั้งแต่ต้นยามเหม่า ฟ้ายังไม่ทันสางดีเสียด้วยซ้ำ ทุกคนวิ่งวุ่นกันจ้าละหวั่น สาวใช้ตระเตรียมอาภรณ์งดงามและเครื่องประดับให้ฮูหยินน้อยอย่างสมฐานะ อาภรณ์ไหมตัวนอกถูกส่งมาจากจวนแม่ทัพเหวินซู พร้อมเครื่องประดับทำจากปะการังแดง ฮูหยินใหญ่เลือกเครื่องประดับผมให้ลี่ชิง ฮูหยินใหญ่หลี่เฟยปักปิ่นทำจากทับทิมบนมวยผมของลี่ชิง “เจ้างามมากลี่ชิง” “ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ” “วันนี้ผลจะเป็นอย่างไร พวกเราคงต้องยอมรับความจริง” ฮูหยินใหญ่แววตาหม่นเศร้า เมื่อนึกถึงผลตรวจพิสูจน์โลหิตเด็กน้อยทั้งสอง หากเป็นบุตรแม่ทัพเหวินซูจริง สกุลเฉินต้องคืนทั้งแม่ทั้งลูกให้กับเหวินซูตามราชโองการ เฉินเซียวหลางมองลี่ชิงแต่งกายอย่างงดงาม ผิวขาวอมชมพูตัดกับอาภรณ์ไหมสีส้มแดง เครื่องประดับเข้าชุดขับเน้นความงามของผิวพรรณสตรีตรงหน้า เฉินเซียวหลางถึงกับลืมหายใจเมื่อเห็นลี่ชิงเดินออกมาหน้าเรือน หลากหลายความรู้สึกถาโถมเข้ามาในห้วงอารมณ์ ทั้งกลัวสูญเสียนางกับลูกไป ทั้งรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง เมื่อนึกถึงความเป็นจริงที

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status