ใบหน้าหวานกะพริบตาถี่ ๆ ปรับม่านน้ำตาที่เกาะเป็นแพรอยู่บนขนตา เพื่อที่จะได้มองให้ชัดขึ้นว่าผู้ชายที่เดินจูงมือกับผู้หญิงอีกคนเข้ามาในโรงแรมคือว่าที่คู่หมั้นของเธอที่กำลังจะแต่งงานกันอาทิตย์หน้าหรือเปล่า และตอนนี้เธอกำลังถือการ์ดเชิญแต่งงานของตัวเองกับพชรอยู่ในมือ จนบัดนี้ซองใส่การ์ดแต่งงานนั้นยับยู่ยี่เหมือนจะแหลกคามือ มือเรียวสวยนั้นสั่นเทาไปหมดด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่เพชร” นั่นใช่คู่หมั้นของเธอหรือเปล่านะ เขาบอกว่าวันนี้ติดประชุมจึงไม่ได้มาช่วยแจกการ์ดแต่งงานด้วยกันกับเธอ
“พี่เพชรจริงๆเหรอ” เขาจะมาทำอะไรแถวนี้แต่ว่าทำไมพชรถึงดูสนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นมากนัก
รติรสรีบเดินเข้าไปใกล้ๆเพราะอาจจะเป็นเพียงแค่คนที่คล้ายกันก็เท่านั้น เขาเดินไปที่เคาน์เตอร์ของโรงแรมเหมือนกำลังจะเปิดห้องแล้วเดินจับมือกันตรงไปยังลิฟต์ ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นและจูบลงที่หน้าผากของหญิงสาวสวยที่เดินมาที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวใจดวงน้อยๆที่บัดนี้สั่นไหวเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์นั้นคือพชรจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะเห็นแค่เสี้ยวหน้าเธอก็จำได้ไม่ผิดแน่ว่าผู้ชายคนนั้นคือพชร
ตอนหัวใจดวงน้อยๆของรติรสเหมือนมีมีดร้อยเล่มมากรีดแล่เนื้อแล้วเอาเกลือทาจนรติรสนั้นเจ็บปวดทรมานที่เห็นคู่หมั้นของตัวเองหอมแก้มหญิงอื่นและกำลังจะหิ้วผู้หญิงขึ้นโรงแรม
รติรสล้วงมือลงไปใจกระเป๋าสะพายด้วยอาการมือสั่นเทา เธอพยายามควานหาโทรศัพท์ไม่นานก็เจอ
มือเรียวสั่นนั้นรีบกดเบอร์โทรหาคู่หมั้นของเธอทันทีและสิ่งที่ยืนยันได้หนักแน่นว่าผู้ชายที่กำลังยืนลูบผมผู้หญิงอีกคนอยู่ที่หน้าลิฟต์นั้นคือพชรไม่ผิดตัวแน่
“กริ่งๆๆ” พชรขมวดคิ้วมุ่นแล้วมองเบอร์โทรที่กำลังโทรเข้าแต่เขาก็กดตัดสายแล้วยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง
“ใครโทรมาเหรอคะ” พราววรีถามขึ้นด้วยความสงสัยที่ชายหนุ่มนั้นไม่ยอมรับสาย
“ลูกน้องที่บริษัทครับ เดี๋ยวพี่ค่อยคุยก็ได้ครับ” ว่าแล้วเขาก็กอดกระชับเอวของหญิงสาวเข้ามาหาตัว
รติรสที่ก้มดูโทรศัพท์ของตัวเองก็ถูกชายหนุ่มนั้นกดตัดสายไปซะแล้ว
“พี่เพชร” หญิงสาวพยายามเรียกชื่อของเขาแต่เสียงที่เธอเอื้อนเอ่ยออกมาแทบจะขาดหายไปในลำคอด้วยความรู้สึกเสียใจและชาไปหมดทั้งตัว มือบางกุมที่หน้าอกของตนเอง หัวใจดวงน้อยที่แสนเจ็บปวดรวดร้าวทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่เพชรถึงทำแบบนี้กับรติ” เธอกดโทรศัพท์โทรหาพชรอีกรอบ
พชรทำท่าทางเบื่อหน่ายและล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาตัดสินใจกดรับและพูดกระซิบเบาๆ
“พี่ติดงานอยู่แค่นี้ก่อนนะรติ” ว่าแล้วเขาก็ตัดสายทิ้งจนรติรสไม่เคยนึกเลยว่าผู้ชายที่เธอเชื่อใจจะทำแบบนี้กับเธอ
หลายครั้งที่เธอนั้นโทรไปหาพชร เขาก็บอกว่าติดงานอยู่นี่คืองานที่เขาติดพันอยู่งั้นเหรอ บัดนี้เธอรู้ความจริงแล้วว่าทุกครั้งที่บอกว่างานยุ่ง ประชุมอยู่ก็คือเขากกอยู่กับผู้หญิงสินะ
รติรสไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วหญิงสาวเสียใจเป็นอย่างมาก เธอกำโทรศัพท์แน่นแล้วรีบหันหลังวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเพราะเธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก แต่เมื่อหญิงสาวหันหลังไปก็ชนเข้ากับอกแกร่งของใครสักคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ พยัคฆินโดนผู้หญิงตัวเล็กชนเข้าเต็มเปาก็ต้องตกใจรีบคว้าเธอเข้ามากอดโดยอัตโนมัติเพราะกลัวหญิงสาวจะล้มลงกระแทกพื้นเจ็บตัว
อมรที่เดินตามหลังมารู้สึกตกใจที่เจ้านายหนุ่มนั้นกอดผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้กลางโรงแรมโดยมีสายตาของพนักงานหลายคนหันมามอง
รติรสที่ร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่รู้สึกอายในตอนนี้ เธอรู้ว่าเธอชนเข้ากับใครสักคนหนึ่งและอ้อมกอดของเขาก็แสนจะอบอุ่นจนทำให้เธออยากจะยืมอกแกร่งของเขาซบหน้าร้องไห้ปล่อยความเสียใจให้มันพรั่งพรูออกมาซะให้หมด
ในตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงยืนอยู่แล้ว ในที่สุดโทรศัพท์ก็ร่วงหล่นลงจากมือพร้อมการ์ดงานแต่งของหญิงสาว
อมรจึงเก็บโทรศัพท์และการ์ดแต่งงานขึ้นมา เขาถือวิสาสะเปิดอ่านก็ต้องเบิกตากว้างและยื่นการ์ดใบนั้นให้กับพยัคฆิน
พยัคฆินอ่านวันที่เธอจะต้องแต่งงานและก้มหน้าดูคนตัวเล็กที่กอดเขาไว้แน่นและร้องไห้จนตัวสั่น จนเขารู้สึกว่าหัวใจของเขากระตุกวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแต่ที่เขารู้ในตอนนี้ เธอคือแสงสว่างในชีวิตของเขา
ชายหนุ่มจึงยื่นการ์ดคืนให้กับอมรและโอบวงแขนกว้างกอดเธอไว้แน่น พนักงานในโรงแรมนั้นหันมองพยัคฆินเป็นตาเดียวจะไม่ให้สนใจได้ยังไงก็ในเมื่อเขาคือเจ้าของโรงแรมนี้ ว่าแล้วอมรก็โบกไม้โบกมือให้พนักงานรีบกลับไปทำงานของตัวเองไม่ต้องมาสนใจเรื่องของเจ้านาย
อาการของหญิงสาวนั้นเดาไม่ยากจนพยัคฆินสูดหายใจเข้าลึกๆและก้มหน้าไปกระซิบใกล้ๆใบหูของเธอ
“เจ้าบ่าวของคุณนอกใจเหรอ” เมื่อได้ยินคำถามนั้นเธอยิ่งร้องไห้ดังกว่าเดิมจนเขาต้องกอดปลอบและลูบที่หลังของเธอแรงขึ้นหวังจะส่งผ่านความอุ่นใจให้หญิงสาว
“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปที่อื่นดีกว่านะ ถ้าคุณมาร้องไห้เสียงดังแบบนี้แขกที่เข้ามาในโรงแรมก็ตกใจแย่ คุณจะไปไหม” เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูของเธอเบาๆ
เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็พยักหน้าเพราะเธอไม่อยากจะอยู่ตรงนี้อยู่แล้วแต่ขาเจ้ากรรมนี้สิไม่มีแม้แต่แรงจะเดิน พยัคฆินจึงถอดสูทออกมาและคลุมตัวของเธอ
รติรสกอดเขาไว้แน่นและเดินไปตามทางที่เขาดันร่างบางให้เดินไปด้วยกัน อมรรีบวิ่งมากดลิฟต์ พยัคฆินก็พาเธอขึ้นไปบนห้องส่วนตัวของเขา
เมื่อถึงห้องเขาก็พยุงเธอไปนั่งที่เก้าอี้ ผมเผ้าของเธอนั้นปกรุงรังเต็มใบหน้าจนแทบจะดูไม่ออกว่าหน้าของเธอเป็นยังไง ชายหนุ่มจึงไปหยิบกระดาษทิชชูยื่นให้เธอแล้วนั่งลงตรงหน้าของหญิงสาว การกระทำของเขานั้นอ่อนโยนกับเธอไม่น้อย
“นี่กระดาษทิชชู” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองกระดาษทิชชูและส่งยิ้มน้อยๆให้พยัคฆินซึ่งมันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นใบหน้าของเธอเต็มๆ ถึงแม้จะมีแต่คาบน้ำตาอาบแก้มและผมเผ้าที่ปกใบหน้าอยู่ครึ่งซีกแต่เขาก็รู้ว่าเธอนั้นสวยไม่เบา ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงนอกใจเธอได้นะว่าแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ผมไม่อยากจะพูดเรื่องนี้หรอกนะ แต่ไหนๆเราได้เจอกัน อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” รติรสที่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความฉงน พอเธอได้มองหน้าเขาเต็มตาก็ได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้หล่อไม่เบาถือว่าหล่อมากๆเลยล่ะ จมูกโด่ง ตาคม นัยน์ตาสีนิล คิ้วหนาเรียงเส้นได้รูปผิวขาว ถ้าจะให้ไปเป็นพระเอกหนังก็ยังได้เลยแต่แล้วเธอก็ตัดสินใจถามออกไป
“ทำไมคุณถึงบอกว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตคะ”
“ก็เพราะว่าคุณกำลังมีปัญหาเดียวกันกับผมอยู่ตอนนี้”
“ปัญหาอะไรเหรอคะ”
“คุณจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาไหม” หญิงสาวก็ส่ายหน้าไปมาแล้วปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
“ไม่ค่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าฉันจะไม่แต่งงานกับเขา”
“แม้ว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นอาทิตย์หน้างั้นเหรอ”
“คุณรู้ได้ยังไง” เธอเริ่มจะไม่ไว้ใจเขาแล้วสิ เขารู้เรื่องของเธอได้ยังไง
“ผมดูการ์ดแต่งงานของคุณน่ะ”
“ถึงแม้ว่างานแต่งงานจะเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วแต่ฉันก็จะไม่แต่งค่ะ” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างหนักแน่น
“แล้วถ้าผมขอให้คุณแต่งกับผมล่ะ”
“คุณพูดว่าอะไรนะคะ” เธอแทบจะไม่เชื่อหูว่าสิ่งที่ชายหนุ่มนั้นเอื้อนเอ่ยออกมาคือการขอแต่งงานกับเธอ ผู้หญิงที่รู้จักกันเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“ผมอยากจะจ้างให้คุณมาแต่งงานกับผม”
“จ้างแต่งงานเหรอคะ” หญิงสาวพูดขึ้นเสียงดังเธอไม่อยากจะเชื่อหูว่ามันมีในชีวิตจริงด้วยเหรอกับการจ้างแต่งงานนึกว่าจะมีแค่ในนิยายที่เธอเคยอ่านซะอีก
ตอนที่ 12 เปิดตัวลูกสะใภ้รติรสรีบลุกขึ้นจากที่นอนแล้วปลดเนกไทของเขาตามคำสั่ง หญิงสาวรู้สึกมือสั่นเมื่อเห็นสายตาดุๆของเขาแบบนั้น เธอปลดเนกไทเสร็จแล้วเขาก็บุ้ยปากให้เธอช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทันที“เสื้อด้วยเหรอคะ”“ก็ใช่สิ แล้วคุณจะเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ยังไงถ้าไม่ถอดเสื้อออก”“คุณทำเองไม่ได้เหรอคะ” ชายหนุ่มมองจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ“คุณจะต้องเริ่มเรียนงานที่จะเป็นภรรยาในการปรนนิบัติสามีนะ” หญิงสาวก้มหน้างุดด้วยความเขินอายแต่แล้วเขาก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง“อะไรอีกคะ” เธอถามเขาออกไปเสียงห้วนด้วยท่าท่างไม่พอใจ“ถ้าตอนที่เราไปเ
ตอนที่ 11 ทำหน้าที่ภรรยาเมื่อเจอคำถามของพยัคฆินว่าเธอมีปัญหาหรือเปล่าหากการจ้างแต่งงานแล้วต้องนอนห้องเดียวกัน“ไม่ค่ะ ฉัน..” หญิงสาวเงยหน้ามองชายหนุ่มพอเห็นแววตาดุๆของเขาเธอก็แทบจะไม่กล้าเอื้อนเอ่ยอะไรออกไป หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆให้เขาพลางหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นเอกสารทันทีอมรยิ้มกว้างแล้วเอกสารยื่นให้พยัคฆิน พยัคฆินลงชื่อในเอกสารทั้งสอง ฉบับเสร็จแล้วอมรจึงเก็บเอกสารหนึ่งฉบับไว้กับตัวเองแล้วยื่นเอกสารอีกใบหนึ่งให้กับรติรส“นี่คือสัญญาการแต่งงานครับ ผมรบกวนคุณรติรสส่งเลขบัญชีให้ผมด้วยนะครับ ผมจะทำการโอนเงินให้ครับ” รติรสส่งเลขบัญชีให้กับอมร เขานั่งก้มหน้างุดอยู่กับโทรศัพท์ไม่นานเสียงข้อความก็แจ้งเตือนขึ้น“ติ่ง!” หญิงสาวเปิดดูข้อความดวงตาของเธอก็เบิกกว้างเงินจำนวนสามล้านหนึ่งแสนบาทถูกโอนเข้าบัญชีของเธอทันที จนเธอเงยหน้ามองอมรกับพยัคฆินสลับกันไปมา“เอาล่ะ ถือว่าสัญญาของเรานั้นได้เริ่มขึ้นแล้วเพราะฉะนั้นคุณจะต้องอยู่ที่นี่ทำเหมือนว่าคุณเป็นภรรยาของผมจริงๆ”“แล้วงานของฉันละคะ” หญิงสาวถามขึ้นด้วยท่าทางอึกอักเพราะเธอก็มีงานทำประจ
ตอนที่ 10 สัญญาจ้างแต่งงานพยัคฆินหยิบแหวนขึ้นมาแล้วสวมใส่นิ้วนางของหญิงสาวด้วยท่าทางอ่อนโยนเขาจูบที่หลังมือของเธอ รติรสสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากริมฝีปากหยักนั้นจนทำให้เธอรู้สึกเขินอายจนหน้าแดงฟ้าที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดวิดีโอแล้วรีบโพสต์ลง Facebook แท็กรติรสทันที“หลังจากที่เพื่อนฉันเสียใจจากผู้ชายเลวๆคนหนึ่งก็ได้มีเทพบุตรสุดหล่อมาขอแต่งงานด้วยแหวนเพชรเม็ดใหญ่ เหมือนภาพเจ้าชายที่ขอเจ้าหญิงแต่งงานก็ไม่ปาน”พชรที่เห็นภาพนั้นบาดตาบาดใจเขาจึงเปิดประตูแล้วเดินออกไปด้วยท่าทางหัวเสียรติรสที่มองตามผู้ชายที่เธอเคยคิดจะฝากชีวิตไว้ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่หักหลังเธอและทำให้เธอเจ็บช้ำได้ถึงขนาดนี้ พยัคฆินกระตุกมือของเธอเบาๆ เขาลุกขึ้นแล้ว
ตอนที่ 9 แต่งงานกับผมนะเมื่อพชรหันกลับไปมองก็เห็นเข้ากับชายหนุ่มที่รูปร่างสูงมากกว่าเขา ใบหน้าหล่อเหลาและยังดูอายุน้อย ผิวพรรณขาว ริมฝีปากหยักอมชมพูสุขภาพดีรติรสที่หันไปมองตามเสียงเพราะเธอนั้นรู้สึกคุณเสียงนั้นมากแต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดเขาก็คือผู้ชายคนเมื่อคืน รติรสหันไปมองหน้าฟ้าระวีฟ้าระวีที่ส่งยิ้มแหย ๆ ให้เพื่อนสาวเพราะเธอนั่นแหละคือต้นเหตุที่ทำให้พยัคฆินมาอยู่ที่นี่เมื่อเขาประชุมเสร็จก็มีเสียงไลน์เด้งขึ้นและทำให้เขางุ่นงงมากกว่านั้นก็คือฟ้าระวีเธอส่งข้อความมาหาเขาว่า“คุณรีบมาที่ร้านเบเกอรี่ด่วนเพราะว่าถ้าคุณไม่มาคุณจะเสียใจ เพราะแฟนเก่าของรติกำลังมาขอคืนดี” และฟ้าระวีอีกนั่นแหละที่ส่งข้อความไปบอกพชร“ฟ้ากับรติอยู่ที่ร้านเบเ
ตอนที่ 8 ขอคืนดี“เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ ฉันควรจะโทรหายัยฟ้า” เมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากำลังจะกดเบอร์โทรหาฟ้าระวีแต่ก็มีสายเรียกเข้าเสียก่อน“ฮัลโหล ฟ้าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่คอนโดของผู้ชายคนนั้น” หญิงสาวถามเพื่อนออกไปด้วยท่าทางร้อนรนเมื่อคุยกันได้ไม่กี่คำพวกเธอก็นัดเจอกัน รติรสรีบกลับไปที่บ้านแล้วอาบน้ำแต่งตัวไปยังร้านเบเกอรี่ที่แก๊งค์สามสาวของเธอชอบไปทันที“รติทางนี้” รติรสรีบเดินไปหาเพื่อนสาวด้วยความอยากรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรกันแน่ทำไมเธอถึงจำเรื่องทั้งหมดไม่ได้นะ“ยัยฟ้านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันไปโผล่ที่คอนโดผู้ชายคนนั้น&r
ตอนที่ 7 คุณต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองแสงพระอาทิตย์ที่เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้องนอนทำให้รติรสนั้นรู้สึกตัวขึ้นมาแต่ความรู้สึกนั้นช่างแตกต่างไปจากทุกวันเพราะเธอรับรู้ได้ถึงไออุ่นเหมือนกับว่าได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคนหญิงสาวลืมตาขึ้นมาก็เจอเข้ากับแผงอกของใครบางคนจนเธอต้องกะพริบตาปรับแสงที่ส่องสว่างรอดผ้าม่านสีขาวแล้วหันกลับมาดูแผงอกนั้นอีกครั้งหญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความงงงวยเธอจึงมองสำรวจไปตามแผงอกและเลื่อนขึ้นไปยังลำคอ“นั่นลูกกระเดือกนี่ ผู้ชายเหรอ” เธอรู้สึกสงสัยดวงตากลมสวยก็เลื่อนผ่านไปคางที่มีหนวดเคราเล็กน้อย แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วว่าตอนนี้เธอกำลังฝันหวานอะไรอยู่กันแน่ ทำไมเธอถึงนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชาย&nb