ใบหน้าหวานกะพริบตาถี่ ๆ ปรับม่านน้ำตาที่เกาะเป็นแพรอยู่บนขนตา เพื่อที่จะได้มองให้ชัดขึ้นว่าผู้ชายที่เดินจูงมือกับผู้หญิงอีกคนเข้ามาในโรงแรมคือว่าที่คู่หมั้นของเธอที่กำลังจะแต่งงานกันอาทิตย์หน้าหรือเปล่า และตอนนี้เธอกำลังถือการ์ดเชิญแต่งงานของตัวเองกับพชรอยู่ในมือ จนบัดนี้ซองใส่การ์ดแต่งงานนั้นยับยู่ยี่เหมือนจะแหลกคามือ มือเรียวสวยนั้นสั่นเทาไปหมดด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่เพชร” นั่นใช่คู่หมั้นของเธอหรือเปล่านะ เขาบอกว่าวันนี้ติดประชุมจึงไม่ได้มาช่วยแจกการ์ดแต่งงานด้วยกันกับเธอ
“พี่เพชรจริงๆเหรอ” เขาจะมาทำอะไรแถวนี้แต่ว่าทำไมพชรถึงดูสนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นมากนัก
รติรสรีบเดินเข้าไปใกล้ๆเพราะอาจจะเป็นเพียงแค่คนที่คล้ายกันก็เท่านั้น เขาเดินไปที่เคาน์เตอร์ของโรงแรมเหมือนกำลังจะเปิดห้องแล้วเดินจับมือกันตรงไปยังลิฟต์ ชายหนุ่มหันมาส่งยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นและจูบลงที่หน้าผากของหญิงสาวสวยที่เดินมาที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวใจดวงน้อยๆที่บัดนี้สั่นไหวเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟต์นั้นคือพชรจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะเห็นแค่เสี้ยวหน้าเธอก็จำได้ไม่ผิดแน่ว่าผู้ชายคนนั้นคือพชร
ตอนหัวใจดวงน้อยๆของรติรสเหมือนมีมีดร้อยเล่มมากรีดแล่เนื้อแล้วเอาเกลือทาจนรติรสนั้นเจ็บปวดทรมานที่เห็นคู่หมั้นของตัวเองหอมแก้มหญิงอื่นและกำลังจะหิ้วผู้หญิงขึ้นโรงแรม
รติรสล้วงมือลงไปใจกระเป๋าสะพายด้วยอาการมือสั่นเทา เธอพยายามควานหาโทรศัพท์ไม่นานก็เจอ
มือเรียวสั่นนั้นรีบกดเบอร์โทรหาคู่หมั้นของเธอทันทีและสิ่งที่ยืนยันได้หนักแน่นว่าผู้ชายที่กำลังยืนลูบผมผู้หญิงอีกคนอยู่ที่หน้าลิฟต์นั้นคือพชรไม่ผิดตัวแน่
“กริ่งๆๆ” พชรขมวดคิ้วมุ่นแล้วมองเบอร์โทรที่กำลังโทรเข้าแต่เขาก็กดตัดสายแล้วยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง
“ใครโทรมาเหรอคะ” พราววรีถามขึ้นด้วยความสงสัยที่ชายหนุ่มนั้นไม่ยอมรับสาย
“ลูกน้องที่บริษัทครับ เดี๋ยวพี่ค่อยคุยก็ได้ครับ” ว่าแล้วเขาก็กอดกระชับเอวของหญิงสาวเข้ามาหาตัว
รติรสที่ก้มดูโทรศัพท์ของตัวเองก็ถูกชายหนุ่มนั้นกดตัดสายไปซะแล้ว
“พี่เพชร” หญิงสาวพยายามเรียกชื่อของเขาแต่เสียงที่เธอเอื้อนเอ่ยออกมาแทบจะขาดหายไปในลำคอด้วยความรู้สึกเสียใจและชาไปหมดทั้งตัว มือบางกุมที่หน้าอกของตนเอง หัวใจดวงน้อยที่แสนเจ็บปวดรวดร้าวทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่เพชรถึงทำแบบนี้กับรติ” เธอกดโทรศัพท์โทรหาพชรอีกรอบ
พชรทำท่าทางเบื่อหน่ายและล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาตัดสินใจกดรับและพูดกระซิบเบาๆ
“พี่ติดงานอยู่แค่นี้ก่อนนะรติ” ว่าแล้วเขาก็ตัดสายทิ้งจนรติรสไม่เคยนึกเลยว่าผู้ชายที่เธอเชื่อใจจะทำแบบนี้กับเธอ
หลายครั้งที่เธอนั้นโทรไปหาพชร เขาก็บอกว่าติดงานอยู่นี่คืองานที่เขาติดพันอยู่งั้นเหรอ บัดนี้เธอรู้ความจริงแล้วว่าทุกครั้งที่บอกว่างานยุ่ง ประชุมอยู่ก็คือเขากกอยู่กับผู้หญิงสินะ
รติรสไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วหญิงสาวเสียใจเป็นอย่างมาก เธอกำโทรศัพท์แน่นแล้วรีบหันหลังวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเพราะเธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก แต่เมื่อหญิงสาวหันหลังไปก็ชนเข้ากับอกแกร่งของใครสักคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ พยัคฆินโดนผู้หญิงตัวเล็กชนเข้าเต็มเปาก็ต้องตกใจรีบคว้าเธอเข้ามากอดโดยอัตโนมัติเพราะกลัวหญิงสาวจะล้มลงกระแทกพื้นเจ็บตัว
อมรที่เดินตามหลังมารู้สึกตกใจที่เจ้านายหนุ่มนั้นกอดผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้กลางโรงแรมโดยมีสายตาของพนักงานหลายคนหันมามอง
รติรสที่ร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่รู้สึกอายในตอนนี้ เธอรู้ว่าเธอชนเข้ากับใครสักคนหนึ่งและอ้อมกอดของเขาก็แสนจะอบอุ่นจนทำให้เธออยากจะยืมอกแกร่งของเขาซบหน้าร้องไห้ปล่อยความเสียใจให้มันพรั่งพรูออกมาซะให้หมด
ในตอนนี้เธอแทบจะไม่มีแรงยืนอยู่แล้ว ในที่สุดโทรศัพท์ก็ร่วงหล่นลงจากมือพร้อมการ์ดงานแต่งของหญิงสาว
อมรจึงเก็บโทรศัพท์และการ์ดแต่งงานขึ้นมา เขาถือวิสาสะเปิดอ่านก็ต้องเบิกตากว้างและยื่นการ์ดใบนั้นให้กับพยัคฆิน
พยัคฆินอ่านวันที่เธอจะต้องแต่งงานและก้มหน้าดูคนตัวเล็กที่กอดเขาไว้แน่นและร้องไห้จนตัวสั่น จนเขารู้สึกว่าหัวใจของเขากระตุกวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแต่ที่เขารู้ในตอนนี้ เธอคือแสงสว่างในชีวิตของเขา
ชายหนุ่มจึงยื่นการ์ดคืนให้กับอมรและโอบวงแขนกว้างกอดเธอไว้แน่น พนักงานในโรงแรมนั้นหันมองพยัคฆินเป็นตาเดียวจะไม่ให้สนใจได้ยังไงก็ในเมื่อเขาคือเจ้าของโรงแรมนี้ ว่าแล้วอมรก็โบกไม้โบกมือให้พนักงานรีบกลับไปทำงานของตัวเองไม่ต้องมาสนใจเรื่องของเจ้านาย
อาการของหญิงสาวนั้นเดาไม่ยากจนพยัคฆินสูดหายใจเข้าลึกๆและก้มหน้าไปกระซิบใกล้ๆใบหูของเธอ
“เจ้าบ่าวของคุณนอกใจเหรอ” เมื่อได้ยินคำถามนั้นเธอยิ่งร้องไห้ดังกว่าเดิมจนเขาต้องกอดปลอบและลูบที่หลังของเธอแรงขึ้นหวังจะส่งผ่านความอุ่นใจให้หญิงสาว
“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปที่อื่นดีกว่านะ ถ้าคุณมาร้องไห้เสียงดังแบบนี้แขกที่เข้ามาในโรงแรมก็ตกใจแย่ คุณจะไปไหม” เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูของเธอเบาๆ
เมื่อเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็พยักหน้าเพราะเธอไม่อยากจะอยู่ตรงนี้อยู่แล้วแต่ขาเจ้ากรรมนี้สิไม่มีแม้แต่แรงจะเดิน พยัคฆินจึงถอดสูทออกมาและคลุมตัวของเธอ
รติรสกอดเขาไว้แน่นและเดินไปตามทางที่เขาดันร่างบางให้เดินไปด้วยกัน อมรรีบวิ่งมากดลิฟต์ พยัคฆินก็พาเธอขึ้นไปบนห้องส่วนตัวของเขา
เมื่อถึงห้องเขาก็พยุงเธอไปนั่งที่เก้าอี้ ผมเผ้าของเธอนั้นปกรุงรังเต็มใบหน้าจนแทบจะดูไม่ออกว่าหน้าของเธอเป็นยังไง ชายหนุ่มจึงไปหยิบกระดาษทิชชูยื่นให้เธอแล้วนั่งลงตรงหน้าของหญิงสาว การกระทำของเขานั้นอ่อนโยนกับเธอไม่น้อย
“นี่กระดาษทิชชู” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองกระดาษทิชชูและส่งยิ้มน้อยๆให้พยัคฆินซึ่งมันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นใบหน้าของเธอเต็มๆ ถึงแม้จะมีแต่คาบน้ำตาอาบแก้มและผมเผ้าที่ปกใบหน้าอยู่ครึ่งซีกแต่เขาก็รู้ว่าเธอนั้นสวยไม่เบา ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงนอกใจเธอได้นะว่าแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ผมไม่อยากจะพูดเรื่องนี้หรอกนะ แต่ไหนๆเราได้เจอกัน อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” รติรสที่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความฉงน พอเธอได้มองหน้าเขาเต็มตาก็ได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้หล่อไม่เบาถือว่าหล่อมากๆเลยล่ะ จมูกโด่ง ตาคม นัยน์ตาสีนิล คิ้วหนาเรียงเส้นได้รูปผิวขาว ถ้าจะให้ไปเป็นพระเอกหนังก็ยังได้เลยแต่แล้วเธอก็ตัดสินใจถามออกไป
“ทำไมคุณถึงบอกว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตคะ”
“ก็เพราะว่าคุณกำลังมีปัญหาเดียวกันกับผมอยู่ตอนนี้”
“ปัญหาอะไรเหรอคะ”
“คุณจะเข้าพิธีแต่งงานกับเขาไหม” หญิงสาวก็ส่ายหน้าไปมาแล้วปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
“ไม่ค่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ว่าฉันจะไม่แต่งงานกับเขา”
“แม้ว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นอาทิตย์หน้างั้นเหรอ”
“คุณรู้ได้ยังไง” เธอเริ่มจะไม่ไว้ใจเขาแล้วสิ เขารู้เรื่องของเธอได้ยังไง
“ผมดูการ์ดแต่งงานของคุณน่ะ”
“ถึงแม้ว่างานแต่งงานจะเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วแต่ฉันก็จะไม่แต่งค่ะ” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างหนักแน่น
“แล้วถ้าผมขอให้คุณแต่งกับผมล่ะ”
“คุณพูดว่าอะไรนะคะ” เธอแทบจะไม่เชื่อหูว่าสิ่งที่ชายหนุ่มนั้นเอื้อนเอ่ยออกมาคือการขอแต่งงานกับเธอ ผู้หญิงที่รู้จักกันเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“ผมอยากจะจ้างให้คุณมาแต่งงานกับผม”
“จ้างแต่งงานเหรอคะ” หญิงสาวพูดขึ้นเสียงดังเธอไม่อยากจะเชื่อหูว่ามันมีในชีวิตจริงด้วยเหรอกับการจ้างแต่งงานนึกว่าจะมีแค่ในนิยายที่เธอเคยอ่านซะอีก
ตอนที่ 57 ซุกเมียซุกลูก“นี่ใช่ไหมคะที่เป็นสาเหตุให้พี่วุฒิไม่ยอมกลับบ้านเพราะพี่วุฒิแอบไปมีอยู่กับเมียใช่ไหม” วรวุฒิหัวเราะขำออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวคนเดียวของเขาจะคิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้“อะไรกันยัยลิน พี่จะไปมีเมียตอนไหน”“ก็มีตอนนี้ล่ะค่ะ มีทั้งเมียมีทั้งลูก ลินจะโทรฟ้องคุณแม่ว่าพี่วุฒินิสัยไม่ดีทำผู้หญิงท้อง” ไพลินเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจนวรวุฒิรีบเดินไปดึงโทรศัพท์ออกจากมือน้องสาวที่คิดเป็นตุเป็นตะไปได้“อะไรกันนั่นไม่ใช่เมียพี่ลูกพี่ซะหน่อย ลินก็คิดไปซะไกล”“แล้วถ้าไม่ใช่พี่วุฒิจะส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้รินตรวจทำไมล่ะคะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ใช้คำนำหน้าว่านางที่สำคัญใช้นามสกุลสิงหเขมราของเราด้วยถ้ าไม่ใช่เมียพี่วุฒิแล้วพี่วุฒิจะเป็นห่วงเด็กในท้องได้ยังไงคะ” วรวุฒิส่ายหน้าไปมาอย่างนึกขำไม่ได้ที่เห็นท่าทางของน้องสาวนั้นเริ่มออกแนวจะห่วงเขาซะแล้ว“อะไรกันเล่ายัยลินแล้วพี่มีนามสกุลนี้คนเดียวหรือยังไง เจ้าสิงห์ก็มี เจ้าเสือก็ลินไม่คิ
ตอนที่ 56 ผู้หญิงคนนั้นใช่นามสกุลเราได้ยังไง“ทำไม คุณเป็นผู้ชายคนใหม่ของผู้หญิงคนนั้นเหรอ” หมอหนุ่มส่ายหน้าไปมา“ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอทั้งนั้น เธอก็เป็นเพียงแค่คนไข้ของผม” เขาหมุนตัวกลับเพื่อที่จะเดินเข้าไปตรวจคนไข้ในห้อง“ใครดูก็รู้ว่าไม่ได้เป็นเพียงคนไข้กับหมอคงจะตรวจอย่างอื่นล่ะสิท่า” วรวุฒิหันกลับมาจ้องหน้าของพิมรสาด้วยท่าทางไม่พอใจที่เธอพูดแบบนั้นออกมา“ถ้าคุณกล้าดูถูกผมอีกครั้ง ผมจะฟ้องคุณ” คำพูดที่ราบเรียบกับสายตาที่ดุดันนั้นจ้องมองหญิงสาวจนพิมรสาอึกอักไม่รู้จะพูดยังไงต่อ บุรุษพยาบาลจึงบอกให้เธอออกไปจากตรงนี้ได้แล้ว“เชิญครับคุณผู้หญิง”“ฉันรู้แล้วล่ะน่า” หญิงสาวก้าวเท้าฉับ ๆ ออกไปด้วยความไม่พอใจแต่ถึงยังไงเธอก็ทำสำเร็จอีกขั้นแล้ว รติรสคงจะกระอักเลือดตายแล้วมั้ง พิรสาสวมแว่นตาดำยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วเดินไปยังรถสปอร์ตของตนเองฟ้าระวีที่เดินวนไปเวียนมาอยู่หน้าห้องตรวจด้วยความกังวลใจไม่นาน วรวุฒิก็เดินมาสมทบที่หน้าห้องตรวจเช่นกัน“พอดีผมมีเรื่องจะถามนะครับ” วรวุฒิพ
ตอนที่ 55 ตั้งครรภ์“แล้วเดือนที่แล้วประจำเดือนเธอมาหรือเปล่า” รติรสพยายามนั่งนึกอยู่ไม่นานเธอก็พยักหน้า“เหมือนจะมานิดนึงนะคะ” เธอหันไปตอบพยาบาลสาวที่กำลังรอคำตอบอยู่พยาบาลเขียนข้อมูลลงในแบบฟอร์ม หลังจากนั้นฟ้าระวีก็พยุงรติรสไปนั่งรอเพื่อเรียกเข้าห้องตรวจ“เดือนนี้ประจำเดือนแกยังไม่มาเหรอแก” ฟ้าระวีถามพร้อมใบหน้าที่ตกตะลึง“หรือว่าแกจะท้องวะ”“ยัยฟ้า” รติรสพูดขึ้นเสียงสั่นเครือยิ่งคิดยิ่งน่าหวั่นใจเพราะตอนมีอะไรกับพยัคฆิน เธอก็วุ่นวายจนไม่ได้กินยาคุมสักครั้งเลยคิดแล้วก็รู้สึกหวั่น ๆ ไม่รู้ว่าเธอจะท้องป่องหรือเปล่าถ้าเธอท้องป่องแล้วเธอจะทำยังไง“ทำยังไงดีแก” รติรสหันไปถามฟ้าระวีด้วยเสียงสั่นเครือ เธออยากจะร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะที่นี่อยู่ที่โรงพยาบาลเดี๋ยวจะเป็นการรบกวนคนไข้คนอื่น“ไม่มีอะไรหรอกน่าทำใจดี ๆ ไว้” รติรสนั่งก้มหน้าด้วยท่าทางเป็นกังวลและแล
ตอนที่ 54ทำไมผมต้องหย่า“ไม่ค่ะ ฉันไม่เอา” หญิงสาวตอบขึ้นมาด้วยท่าทางหนักแน่น เธอไม่ต้องการเศษเงินของใครแค่นี้ชีวิตเธอก็วุ่นวายมากพอแล้ว เธอไม่อยากได้รับความสงสารจากเขาอีกแม้แต่น้อย เมื่อเห็นท่าทางถือดีของรติรสยิ่งทำให้พยัคฆินขบกรามแน่นพยัคฆินที่กำลังจะจรดปากกาและเซ็นใบหย่าให้เธอ แต่เขาก็หยุดเอาไว้ตรงนั้น“ผมเปลี่ยนใจ ผมไม่หย่า” เจ้าหน้าที่ที่พยายามไกล่เกลี่ยอยู่ตั้งนานอยากจะให้ทั้งคู่ลองคิดทบทวนให้ดีเสียก่อน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายนั้นกลับเปลี่ยนใจขึ้นมาซะงั้นพยัคฆินลุกขึ้นตึงตังแล้วเดินออกไปจากที่ว่าการอำเภอทันทีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมคุณสิงห์เปลี่ยนใจขึ้นมา” มินรดาหันไปถามรติรสด้วยท่าทางตกใจ จู่ ๆ รติรสก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามพยัคฆินออกไป จนสองเพื่อนสาวมองหน้ากันเหลอหลาแล้วหันไปยิ้มกับเจ้าหน้าที่คนเดิม“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฝ่ายชายยังไม่พร้อมค่ะ”“ไม่เป็นไรค่ะ ให้คู่สามีภรรยาคุยกันให้ชัดเจนก่อนนะคะค่อยมาใหม่ก็ได้ค่ะ” สองสาววิ่งหน้าตั้งตามรติรสกับพยัคฆินออกมาข้าง
ตอนที่ 53เสียทั้งตัวเสียทั้งใจ“พี่แก้วคะเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาของคุณสิงห์เหรอคะ ทำไมคุณสิงห์ถึงมาถ่ายพรีเวดดิ้งอีกรอบล่ะคะ” แก้วฤทัยรีบยกมือทำท่าจุ๊ปากไม่ให้วิภาดาพูดมากกว่านี้เธอกลัวว่าพิมรสาจะมาได้ยินเดี๋ยวเป็นเรื่อง“พูดเบา ๆ หน่อยสิน้องดาเดี๋ยวคุณพิมก็มาได้ยินหรอก ดาก็รู้เกียรติศัพท์คุณพิมเธอยิ่งไม่ธรรมดา” วิภาดารีบคว้าข้อมือของแก้วฤทัยเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง“ค่ะ ดาทราบดีค่ะ แต่ดาว่าผู้หญิงคนใหม่นี้ไม่ค่อยน่ารักเลยนะคะ ทั้งจิกกัดและสั่งเรายังกับทาสพี่ก็เห็น”“เห็นแล้วจะทำยังไงได้ล่ะ เขาเป็นลูกค้าไง”“แต่ลูกค้าก็ไม่ใช่พระเจ้านะพี่”“ลูกค้ามีเงินให้เรา ถ้ายังจะพูดมากอีกเดี๋ยวลูกค้าเปลี่ยนใจแล้วเราจะเอาเงินไหนใช้จ่าย ธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้ ดานั่นแหละจะโดนไล่ออกจากงานได้” แก้วฤทัยชี้ทางสว่างให้วิภาดาว่าไม่ควรนินทาหรือซุบซิบเรื่องของลูกค้าเพราะมันผิดกฎและที่สำคัญอาจจะเกิดเรื่องใหญ่ได้จนทำให้เธอหลุดจากงานนี้“ค่ะ แต่ดารู้สึกว่าดาสงสารผู้หญิงคนก่อนของคุณสิงห์นะคะเพราะว่าวันท
ตอนที่ 52 คุณสิงห์จะแต่งงาน“โอ๊ย! ไอ้ลูกเวรมันวอนแต่เช้าเลย” ผู้เป็นพ่อด่าตามหลังสีหราชแต่แล้ว เขาได้ยินเสียงตะโกนของพ่อไล่หลังมาซึ่งไม่รู้หรอกว่าพ่อเขาตะโกนด่าเขาคำไหนแต่เขารู้ว่าพ่อคงจะอวยพรเขาสักอย่างนึง เขาจึงวนรถมอเตอร์ไซค์กลับมาและเบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์ใส่ผู้เป็นพ่อจนควันดำจากมอเตอร์ไซค์คลุ้งไปทั่วหน้าบ้าน“ไม่รู้ว่าฉันทำให้แกเกิดมาได้ยังไง ไอ้ลูกเลว” อุไรที่วิ่งออกมาจากห้องครัวเมื่อได้ยินเสียงคมสันตะโกนด่าลูกชายลั่นบ้าน“เจ้าเสือทำอะไรน่ะ หยุดนะ” จากที่เธอกำลังทอดไก่อยู่พอได้ยินเสียงของคมสันตะโกนด่าลูกชาย เธอก็รีบวิ่งมาห้ามศึกทันที แม้แต่ตะหลิวก็ยังติดมือของอุไรมาด้วยเมื่อเห็นลูกชายทำท่าเบิ้ลรถจนควันดำโขม่งโฉงเฉงทั่วบ้าน เธออยากที่จะเอาตะหลิวเคาะหัวลูกชายสักทีสองทีให้หลาบจำจะได้ไม่ทำพฤติกรรมแบบนั้นอีก ไม่รู้โตมายังไงทั้ง ๆ ที่เธอก็สอนเขามาอย่างดีแต่เขาก็ยังเป็นเด็กก้าวร้าวและไม่เคารพผู้ใหญ่เมื่อสีหราชเห็นผู้เป็นพ่อนั้นโกรธจนควันออกหูและเห็นแม่กำลังวิ่งออกมาจาก