แชร์

Chapter 11

ผู้เขียน: อัญญาณี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-10 02:15:38

Chapter 11

เหมือนกับครั้งแรกที่ถูกจูบไม่มีผิด อาการตกใจทำให้กลีบปากสวยอ้าค้าง ปลายลิ้นใหญ่จึงแทรกเข้าไปสำรวจในช่องปากสาวอย่างง่ายดาย รัดเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่พยายามจะถอยร่นหนี บดขยี้ปากอิ่มหนักหน่วง แรงจุมพิตที่หักหาญน้ำใจทำให้เพลงมีนาคิดจะต่อต้าน มือเล็กผลักร่างหนา ใบหน้าสาวส่ายสะบัดเพื่อไม่ให้เขาจุมพิตเธอได้โดยง่าย ร้องประท้วงในลำคอ

ทว่ามันก็ไม่เป็นตามที่ตนเองคิดไว้ มือใหญ่จับมั่นตรงท้ายทอยของเพลงมีนา ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปไหน ส่งผลให้เธอต้องยอมรับจุมพิตในครั้งนี้ด้วยความจำยอม

เรี่ยวแรงทั้งหมดดูจะเหือดหายไปสิ้น เมื่อกระแสบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย จุมพิตของเขานั้นสร้างความอ่อนแอให้เกิดขึ้นในจิตใจอย่างมากมาย พ่ายแพ้ หมดแรงต้านทาน จำยอมให้เขาดื่มด่ำความหวานที่ปลูกฝังอยู่ในช่องปากของเธอต่อไป

น่าแปลกเหลือเกิน...น่าแปลกจริงๆ ปลายลิ้นของคนแปลกหน้าที่ตวัดโบกลิ้นเล็ก กวาดต้อนซอกซอนหาน้ำหวานรสเลิศอย่างกระหายและเร่าร้อน ไม่ได้ทำให้เธอเกิดความขยะแขยงหรือว่ารังเกียจ ตรงกันข้ามซาบซ่านราวกับเธอกำลังถูกไฟฟ้าสถิตเล่นงาน แปลบปลาบตลอดเวลา

ในความรู้สึกของกวินภพ เขากำลังถูกดึงตัวลงไปในบ่อโคลนพิศวาส ที่มีแต่ความร้อนรุ่ม เปลวไฟในร่างกายลุกพรึบพรับ ตอบสนองทันทีที่ริมฝีปากของตนสัมผัสกับกลีบปากสวยของเพลงมีนา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เรียวปากสวยของเธอจะทำให้เขาเกิดความคลั่งในเพลิงอารมณ์มากขนาดนี้ แค่จูบเขายังแทบแดดิ้น แล้วถ้าทำมากกว่านี้ล่ะ เขาจะเป็นเช่นไร นี่ขนาดเธอยังไม่ยั่วเขาเต็มที่ เขาก็แทบจะทานทนไม่ไหว...

...อยากจะเผด็จศึกเธอเสียตรงนี้...

          ไม่มีทาง เขาไม่มีทางหลงใหลดาวยั่วคนนี้เด็ดขาด คิดได้ดังนั้น ลำแขนหนาก็คลายตัวออก ดึงริมฝีปากของตนออกห่างปากอวบอิ่ม แล้วผลักร่างของเธอไปกระแทกกับประตูรถอย่างแรง

          “จำไว้นะ ถ้าเธอแอบพูด แอบนินทาฉันอีกล่ะก็ ได้เห็นดีกว่านี้แน่”

จากนั้นก็พูดใส่หน้าเธอเสียงดังลั่นรถ เพลงมีนาก้มหน้านิ่ง ปิดปากเงียบ น้ำตารินไหล เสียใจอย่างสุดแสนที่กวินภพนึกจะทำอะไรเธอก็ทำ ทำโดยที่เธอไม่สิทธิ์ห้ามปราม หรือแม้แต่ร้องขอ ทำราวกับว่าเธอเป็นดอกไม้ข้างทางที่คิดจะดึงมาเชยชมตอนไหนก็ได้ โดยไม่สนใจว่าภายในรถยนต์คันนี้ไม่ได้มีแค่เขาและเธอ นั่นเองที่ทำให้ความกระดากอายตามมา ใครบ้างที่จะไม่อาย ความอายแรกที่โดนกวินภพจูบ ยังเสริมด้วยความอายที่ว่า เขาจูบเธอต่อหน้าลูกน้องอีกสองคน

ไม่ให้เกียรติเธอเอาเสียเลย...

“นายครับถึงแล้วครับ”

จตุรทิศที่หาจังหวะหันมาบอกเจ้านายหนุ่ม รีบเอ่ยบอกกวินภพทันทีที่ปากของคนที่นั่งเบาะหลังผละห่างกัน หากเขาเปิดปากบอกเจ้านายก่อนหน้านี้ ไม่แน่ว่าอาจจะถูกถีบลงจากรถเป็นแน่

“เออกูรู้แล้ว” กวินภพตวาดลูกน้องเสียงเขียว ลูกน้องที่หันมาพูดรีบนำใบหน้ากลับไปในทิศทางเดิมทันที อารมณ์แบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ ไม่มีความปลอดภัยเอาเสียเลย ก่อนที่กวินภพจะหันไปมองหน้าดาวยั่วแสนสวยที่นั่งตัวลีบติดกับประตู

“ลงมาได้แล้ว ถึงนรกแล้วน้องหนู”

มือหนาข้างซ้ายเปิดประตูรถยนต์ มือข้างขวาเอื้อมไปจับข้อมือเล็ก ขยับตัวแล้วก้าวลงไปยืนบนพื้นปูนที่เทราบหน้าบ้านหลังงามของตน ก่อนจะกระตุกข้อมือสาวอย่างแรง และกระชากร่างอรชรให้ลงมาจากรถ ทำเหมือนกับที่เขากระชากเธอลงมาจากรถแท็กซี่ไม่มีผิด

“โอ๊ย!!...คุณบอกให้ฉันลงมาดีดีก็ได้ ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย”

คนที่นั่งอยู่บนพื้นเงยหน้ามองชายหนุ่มร่างสูงด้วยสายตาตัดพ้อ เขาช่างโหดร้ายทารุณกับเธอเหลือเกิน ชอบใช้กำลังเสมอ ไม่สงสารผู้หญิงตัวเล็กๆ บ้างเลย แต่ทว่าเธอก็ต้องทน เพราะไม่ต้องการให้คนไร้อารยะธรรมไปวุ่นวายกับน้องสาวฝาแฝดของตน ฉะนั้นพี่สาวคนนี้จะต้องทนและทน

“ก็จะทำอย่างนี้มีอะไรมั้ย?” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุดกวน

“ไร้อารยธรรม” เธอพูดเบาๆ ขณะที่ใช้มืออีกข้างปัดเศษหิน ดินทรายที่เปรอะตามร่างกาย

“อะไร พูดอะไร แหกปากพูดดังๆ หน่อยสิ เดี๋ยวเตะปากแตกเลย”

ไม่พูดเปล่ายังทำท่าทางคล้ายจะฟาดแข้งใส่เธออีกด้วย สาวเจ้าที่นั่งอยู่บนพื้นมีหรือจะไม่กลัว รีบหดศีรษะหนีตามสัญชาตญาณทันที

“ไม่ได้พูดว่าอะไรซักหน่อย แค่พูดว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษที่สุดในโลกเลย”

แม้ว่าจะกลัวแต่ความหมั่นไส้ในตัวเขาก็มีมากกว่า เธอจึงกล่าวคำประชดประชันออกไป คนที่ถูกว่ากระทบเลือดหมุนเวียนขึ้นบนใบหน้าทันควัน

“กล้าพูดประชดฉันเหรอ วอนเจ็บตัวซะแล้ว”

เขาปล่อยมือที่จับข้อมือเล็ก นำมือข้างนั้นมาจับแก้มทั้งสองข้างของเธอ ออกแรงบีบและดึงใบหน้าสาวให้สูงขึ้น ทำให้ร่างกายของเธอต้องยืดตัวสูงตามไปด้วย หากไม่ทำเช่นนี้ลำคอระหงต้องขาดออกจากลำตัวแน่นอน

“โอ๊ย!!...เอ็บ...เอ็บ”

เสียงคำว่า เจ็บ หลุดออกไม่เต็มเสียงนัก เนื่องจากปากของเธอไม่อาจขยับเปิดได้มากกว่านี้ เสียงที่ร้องครางเจ็บออกมาจึงไม่ชัดเจน

“คราวหน้าถ้าไม่อยากเจ็บตัว อย่าริอ่านพูดจากับฉันแบบนี้อีกนะน้องหนู ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นของเธอ จำเอาไว้”

ร่างสาวถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ทว่าการปล่อยของเขาในครั้งนี้ไม่ธรรมดา กวินภพผลักร่างสมส่วนออกห่างด้วยการผลักกายสาวไปปะทะกับตัวรถอย่างแรง แรงจนเธอร้องโอดครวญออกมาเสียงดังลั่น

“โอ๊ย!!”

“ฉันยังมีเรื่องชำระความกับเธออีกเยอะ แค่นี้มันน้ำจิ้มๆ มีอีกหลายอย่างที่เธอต้องชดใช้ รับรองกระอักเจียนตายแน่”

เขาพูดเสียงหนักแน่น แววตาที่มองเพลงมีนานั้นแข็งตึง คนที่ถูกข่มขู่ยืดตัวตรงใช้ฝ่ามือนุ่มๆ คลำตรงสะโพกของตัวเอง เงยหน้าเล็กน้อยเพราะความเจ็บ ดวงตาสาวเบือนหน้ามองไปยังทิศทางอื่นที่ไม่มีร่างของชายที่ชอบพูดคำขู่ แต่สิ่งที่เธอหันไปมองนั้น ในความรู้สึกของเธอมันบอกว่ามีพลังแห่งความหวาดกลัวปกคลุมอยู่ เธอมองบ้านหลังตรงหน้าราวกับว่าไม่เคยเจอะเคยเจอมาก่อน นำพาความความหมั่นไส้ให้เขาอีกรอบ

“มองอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้ ทั้งๆ ที่เธอเดินอยู่ในบ้าน ในไร่ของฉันจนจะปรุอยู่แล้ว”

เสียงของเขาทำให้เธอต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง อยากจะตะโกนใส่หน้าเขาเหลือเกินว่า เธอไม่ใช่น้องหนู ไม่ใช่คนที่สร้างความเจ็บแค้น ไม่ใช่คนที่เคยอยู่ที่นี่ ไม่รู้จักไร่แห่งนี้ รวมทั้งไม่รู้จักเขาด้วย แต่ทว่าเธอก็ทำไม่ได้...ทำไม่ได้

“แล้วที่นี่ที่ไหนคะ?”

เป็นคำถามที่ไม่สมควรจะถามออกไปเลย แต่เธอก็อยากจะรู้ว่าที่ที่ตนเองยืนอยู่นั้น คือสถานที่ใด

“อย่ามาทำเป็นไขสือจำที่นี่ไม่ได้หน่อยเลย แต่ถ้าเธออยากจะได้คำตอบ ฉันก็จะตอบให้ ที่นี่ก็คือไร่พฤกษา ไร่ที่เธอฝากความฉิบหายเอาไว้ให้ยังไงล่ะ ชัดมั้ย?”

เขาตอบเสียงดัง มองเพลงมีนาอย่างกินเลือดกินเนื้อ นึกถึงเรื่องนี้ครั้งใด ของขึ้นทุกที

เพลงมีนาได้ยินคำตอบแล้วก็นึกอยากจะตบปากตัวเองที่ถามออกไปเช่นนั้น ทำให้กวินภพเปลี่ยนท่าทางเป็นแข็งกร้าว น่ากลัว เธอกลัวว่าเขาจะจับร่างของเธอฉีกออกเป็นชิ้นๆ เปลี่ยนเรื่องพูดน่าจะดีที่สุดในเวลานี้

“เอ่อ...จะให้ฉันพักที่นี่กับคุณเหรอ?”

เธอเอ่ยถามอย่างเกร็งๆ มองบ้านหลังใหญ่ที่ไม่คุ้นตาอีกครั้ง ใจยังประหวั่นไม่กล้าเดินตามเขาเข้าไปในบ้าน เพราะเกรงว่าความปลอดภัยจะไม่มี

“ฉันคงให้เธอไปพักที่บ้านพักคนงานหรอกนะ ประเดี๋ยวเธอก็หนีไปอีก ฉันขี้เกียจตามตัวเธออีก ฉันเตรียมห้องไว้ให้เธอแล้ว ตามมาก็แล้วกัน”

ระหว่างทางที่มาไร่พฤกษา เขาได้โทรศัพท์มาหาจักรพงษ์ให้จัดเตรียมห้องพักพิเศษไว้ให้กับเพลงมีนา ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของเธอ

“ฉันนอนหน้าบ้านก็ได้ รับรองไม่หนีไปไหน ฉันสัญญา” พูดพร้อมกับชูสองนิ้ว

“เชื่อตายล่ะ เธอน่ะมันทั้งยั่วเก่ง แผนสูง ไม่มีทางที่เธอจะพูดตามสัญญาแน่นอน แต่เธอจะไม่นอนในห้องที่ฉันจัดเตรียมไว้ให้ก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”

รอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าสาวทันที หลังจากได้ยินประโยคท้าย รอยยิ้มนั้นผุดผายได้ไม่กี่วินาทีก็ต้องหุบโดยพลันเมื่อประโยคต่อมาของเขา

“แต่ฉันจะนอนเป็นเพื่อนเธอ นอนกอดเธอข้างนอกเพราะกลัวว่าเธอจะหนาวกลายเป็นปอดบวมตาย ว่าไงจะเอายังไง?”

“ถามมาได้ว่าจะเอายังไง ก็ต้องทำตามที่เขาพูดในตอนแรกอยู่แล้ว อุตส่าห์บอกว่าจะนอนข้างนอกเขายังจะมานอนเป็นเพื่อนอีก คนบ้าอะไรก็ไม่รู้”

เธอบ่นพึมพำในใจ ไม่กล้าเอ่ยปากออกไป

“ด่าฉันในใจหรือไง ด่ามากๆ ระวังนะจะจูบให้ขาดใจเลย ว่าไงตกลงจะนอนที่ไหน ถ้าไม่รีบพูดพ่อจะฟันมันตรงเนี่ยแหละ” พูดไปด้วยเท้ายาวๆ ก็เดินเข้าหาร่างสาวที่เดินถอยหลังหนี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 11

    Chapter 11เหมือนกับครั้งแรกที่ถูกจูบไม่มีผิด อาการตกใจทำให้กลีบปากสวยอ้าค้าง ปลายลิ้นใหญ่จึงแทรกเข้าไปสำรวจในช่องปากสาวอย่างง่ายดาย รัดเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่พยายามจะถอยร่นหนี บดขยี้ปากอิ่มหนักหน่วง แรงจุมพิตที่หักหาญน้ำใจทำให้เพลงมีนาคิดจะต่อต้าน มือเล็กผลักร่างหนา ใบหน้าสาวส่ายสะบัดเพื่อไม่ให้เขาจุมพิตเธอได้โดยง่าย ร้องประท้วงในลำคอทว่ามันก็ไม่เป็นตามที่ตนเองคิดไว้ มือใหญ่จับมั่นตรงท้ายทอยของเพลงมีนา ไม่ให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปไหน ส่งผลให้เธอต้องยอมรับจุมพิตในครั้งนี้ด้วยความจำยอมเรี่ยวแรงทั้งหมดดูจะเหือดหายไปสิ้น เมื่อกระแสบางอย่างแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย จุมพิตของเขานั้นสร้างความอ่อนแอให้เกิดขึ้นในจิตใจอย่างมากมาย พ่ายแพ้ หมดแรงต้านทาน จำยอมให้เขาดื่มด่ำความหวานที่ปลูกฝังอยู่ในช่องปากของเธอต่อไปน่าแปลกเหลือเกิน...น่าแปลกจริงๆ ปลายลิ้นของคนแปลกหน้าที่ตวัดโบกลิ้นเล็ก กวาดต้อนซอกซอนหาน้ำหวานรสเลิศอย่างกระหายและเร่าร้อน ไม่ได้ทำให้เธอเกิดความขยะแขยงหรือว่ารังเกียจ ตรงกันข้ามซาบซ่านราวกับเธอกำลังถูกไฟฟ้าสถิตเล่นงาน แปลบปลาบตลอดเวลาในความรู้สึกของกวินภพ เขากำลังถูกดึงตัวลงไปในบ่อโคลนพ

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 10

    Chapter 10จะค้านว่าภาพนี้ไม่ใช่น้องสาวของตัวเองก็ไม่ได้ เพราะใบหน้าเครื่องเครา รูปร่างสวยงามมันบ่งชี้เช่นนั้น อีกทั้งเพลงมีนาไม่มีวันลืมหน้าตาของน้องสาว ทุกครั้งที่เธอส่องกระจกเงา ภาพของเพียงรัมภาก็จะซ้อนทับเสมอคำถามหลายคำถามจึงผุดขึ้นในใจ เพียงรัมภาไปทำอะไรให้กวินภพแค้นใจ ถึงขั้นพกรูปไว้เตือนความจำตลอดเวลา แล้วทำเช่นนี้ทำไม มีเหตุผลใดที่จะต้องทำ ที่สำคัญทำไมต้องใช้ชื่อเรียกว่าน้องหนู ทำไมไม่ใช้ชื่อเรียกแทนตัวเป็นชื่อจริง ราวกับว่าไม่ต้องการให้ใครรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองมากนัก หลายคำถามมะรุมมะตุ้มอยู่ในสมองที่เริ่มจะไม่สั่งการ ความงวยงงเข้ามาแทนที่ หรือว่ากวินภพจะเข้าใจผิด แต่ก็ไม่น่าจะใช่ ณ วินาทีนี้เพลงมีนามีแต่คำว่าไม่เข้าใจและสับสน วนเวียนอยู่ในสมอง“เป็นไงทีนี้ชัดมั้ย จะยอมรับได้หรือยังว่าเธอคือน้องหนู?” เสียงของกวินภพดังขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งมองรูปภาพตาไม่กระพริบ“ว่า...ว่าไงนะ?” เธอถามอีกครั้งหลังจากที่เสียงของเขาดึงสติของเธอให้คืนกลับมา“ฉันถามว่า คราวนี้เธอจะเถียง และไม่ยอมรับอีกหรือเปล่าว่าเธอไม่ใช่น้องหนู?”คำถามของเขาทำให้เธอประติดประต่อเรื่องได้คร่าวๆ กวินภพเห็นเธอก็นึก

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 9

    Chapter 9รถยนต์คันเดิมยังคงแล่นบนถนนสายหลัก ตรงดิ่งไปยังจังหวัดลำปางซึ่งใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมงกว่าจะถึงตัวจังหวัด และอีกสี่สิบห้านาทีกว่าจะถึงไร่พฤกษา คนที่ตั้งใจว่าจะคิดหาทางออกในเรื่องคับขัน เวลานี้กับผลอยหลับศีรษะพิงกับประตูรถยนต์ กวินภพเห็นแล้วเกิดความหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ เขาจับตัวเธอมาไม่ได้ให้มานอนหลับสบายๆ อย่างนี้ต้องแกล้งเสียให้เข็ด คิดได้ดังนั้นร่างหนาจึงขยับเข้าไปใกล้สาวร่างเล็ก ยื่นใบหน้าเข้าใกล้ใบหูสาว ให้ริมฝีปากหนาชิดติดกับส่วนรับฟังของเธอ“ตื่นได้แล้ว ตื่นสิ น้องหนูตื่น”เสียงดังราวกับฟ้าผ่าดังอยู่ตรงใบหูของเพลงมีนา เสียงที่ดังสนั่นทำให้สาวเจ้าสะดุ้งตัวตื่น มองหน้าเขาเลิกลั่ก ใจเต้นโครมคราม“ไม่เคยหลับเคยนอนหรือไง หลับมาได้ตลอดทาง” น้ำเสียงของเขายังคงดังลั่นรถ“ก็คนมันง่วงนี่นา” เธอพูดเสียงอ่อย “คุณจะพาฉันไปไหน?”“ไปนรก” เขาตอบสั้นๆ แต่สำหรับคนที่ได้ยิน หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เกรงกลัว“ฉัน...ฉันไม่ใช่น้องหนูนะ” เสียงของเธอดังออกมาแผ่วๆ แต่ดังราวกับพลุแตกสำหรับเขา“อยากจะให้ฉันจูบก็พูดมาดีดี ไม่ต้องมาทำเป็นพูดอย่างนี้หรอกน้องหนู ฉันไม่หลงกลดาวยั่วอย่างเธอง่ายๆ อย

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 8

    Chapter 8วันนี้เขามาส่งลูกค้ารายสำคัญที่สนามบิน ระหว่างที่กำลังจะเดินออกมาจากอาคารของสนามบิน สายตาของเขาสะดุดมองไปยังร่างของสตรีนางหนึ่งที่กำลังเข็นสัมภาระออกไปทางเดียวกับเขา พอเห็นหน้าค่าตาของเธอชัดเจนแบบเต็มๆ ตา เขาก็คิดวิธีลักพาตัวน้องหนูกลับไปยังไร่ของเขา ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักหากจะจับตัวเธอไปจากจุดนี้ เนื่องจากมีคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แผนการบุกชิงตัวกลางถนนจึงอุบัติขึ้นเพลงมีนาได้ฟังคำพูดของเขาแล้วเกิดอาการงงงันอย่างหนัก เขามั่นใจเหลือเกินว่าเธอคือน้องหนู หญิงสาวที่สร้างความเจ็บแค้นจนถึงแก่นลึกของจิตใจ ราวกับว่าหน้าตาของเธอนั้นถอดแบบน้องหนูไม่มีผิดเพี้ยน แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เธอจะหน้าเหมือนกับน้องหนูจนแยกแยะไม่ออกอย่างนั้นเชียวหรือ หากเป็นเพียงรัมภาน้องสาวฝาแฝดของตนเองก็ว่าไปอย่าง เพราะรายนั้นถอดแบบเธอราวกับเป็นพิมพ์เดียวกัน แยกแยะไม่ออกว่าใครเป็นใคร หากไม่ใช่คนคุ้นเคยหญิงสาวไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ ขยับปากให้เปิดออกยังยากลำบาก เป็นเพราะมือใหญ่ยังคงบีบแก้มสาวไม่ยอมปล่อย ความเจ็บปวด และความที่ต้องการจะพูด จะอธิบายทำให้เธอยกม

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 7

    Chapter 7“ไม่จริง ไม่ใช่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น หนูไม่ได้เป็นอะไรกับเขานะคะ”“ยังจะปากแข็งไม่เลิกอีก จะให้โชว์หลักฐานให้ทุกคนดูมั้ยว่าเธอสวมเขาให้ฉัน มานี่เลย มานี่กลับบ้านเดี๋ยวนี้”กวินภพใช้แรงกำลังที่เหนือกว่า ลากร่างสาวไปตามพื้นถนน แม้ว่าเธอจะฝืนร่างกายเอาไว้ก็ตาม“ลุงจ๋า ลุงช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วยนะคะ” เธอหันมาเว้าวอนคนที่อยู่ใกล้ที่สุด“กลับบ้านไปหาลูกเถอะนังหนู กลับตัวกลับใจเสียใหม่นะ”คนขับแท็กซี่พูดจบก็หมุนตัวเดินกลับไปยังรถทำมาหากินของตน พร้อมกับค่าเสียหายหลายหมื่นที่อยู่ในมือ กวินภพยิ้มเยาะยามที่ได้เห็นสีหน้าของเธอตอนนี้“ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอกน้องหนู งานนี้เธอตายคาไร่ของฉันแน่ มานี่”เขาขู่ฟ่อเธออีกครั้ง ก่อนที่จะลากร่างสาวไม่หยุด เพลงมีนาก็ยังฝืนตัวและเปล่งเสียงร้องห้าม เสียงขอความช่วยเหลือต่อไป แต่ทว่าไม่มีใครสนใจเรื่องของผัวเมียเลยสักคน ต่างเดินกลับไปทำงาน ไปค้าขายของตนตามเดิมกวินภพลากร่างอวบอิ่มมาจนถึงประตูตอนหลังของรถยนต์คันหรูของตนที่เปิดอ้าอยู่ ออกแรงกระชากเธอให้ลุกขึ้นยืนเพียงครั้งเดียว ก่อนจะผลักร่างสาวเข้าไปนั่งในรถ ก่อนจะหันไปรับกระเป๋าสะพายของเพลงมีนาที่อยู่ในมือ

  • อ้อมกอดมัจจุราช   Chapter 6

    Chapter 6สองเดือนต่อมาเวลาประมาณสิบ 13.00 น. ณ สนามบินสุวรรณภูมิสตรีนางหนึ่งเดินออกมาจากช่องประตูของผู้โดยสารขาเข้าด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจ นานสิบปีแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาเหยียบบ้านเกิดเมืองนอน หลังจากที่เธอต้องย้ายไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงดูเธอไปเป็นลูกยังประเทศนิวซีแลนด์เพลงมีนาเฝ้ารอการกลับมาเมืองไทยทุกลมหายใจ เฝ้ารอให้ตนเองจบการศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีตามความตั้งใจของผู้มีพระคุณ แล้วหากถึงวันนั้น เธอจะได้กลับมาเยือนแผ่นดินเกิดตามคำสัญญา ซึ่งวันนั้นก็เดินทางมาถึง...วันที่เธอจะได้พบหน้าน้องสาวฝาแฝด พบเด็กๆ หลายคนที่ตอนนี้เติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาว ได้พบกับคุณแม่วนารัตน์ แม่ที่ให้โอกาส ให้ที่อยู่และให้ชีวิตใหม่กับเด็กกำพร้าคนนี้ และอาจได้พบกับสมาชิกใหม่อีกหลายชีวิต ได้กลับไปหาบ้านหลังแรกแสนอบอุ่น...สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าวนารัตน์...“คุณแม่คะ เพลงถึงสนามบินแล้วนะคะ ตอนนี้กำลังออกไปเรียกแท็กซี่ค่ะ”พอตนเองออกมายืนอยู่หน้าประตูตรงช่องทางที่ตัวเองเดินออกมา สิ่งแรกที่เพลงมีนาทำก็คือ โทรศัพท์ไปหามารดาบุญธรรม รายงานตามที่ได้ตกลงกันไว้“ดูแลตัวเองดีดีนะลูก” เสียงแสดงความเป็นห่วงและห่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status