ฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวเถากับสืออีเข้าไป ตอนที่เสี่ยวเถาบอกว่าเกรงว่ารัฐทายาทเซียวจะอยู่ที่นี่ ฟู่จาวหนิงก็คิดถึงภาพเซียวเหยียนจิ่งถูกเซียวหลันยวนซัดจนฟันร่วง จู่ๆ ก็อยากจะขำขึ้นมา"บอกกันว่าเซียวเหยียนจิ่งมีรสนิยมต่อชาไม่เลวเลย ไม่รู้ว่าพอฟันหายไปซี่หนึ่งแล้วจะส่งผลกระทบอะไรไหม?"สืออีพอได้ยินมุมปากก็กระตุก เกือบจะขำจนทนไม่ไหวเสี่ยวเถาเองก็ไม่กล้าหัวเราะ"คุณหนู แล้วถ้าเจอเขาล่ะ""วางใจเถอะ ถ้าเจอเขาข้าก็จะเลี่ยงออกมาทันที เจอหน้าเขาข้ารู้สึกเหมือนโชคร้าย"เสี่ยวรีบเหลือบมองไปทางสืออีหลักๆ คือนางกังวล สืออีเป็นคนของอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนน่าจะสนใจเรื่องของรัฐทายาทเซียวอยู่กระมัง? ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้คุณหนูของพวกเขาก็เคยไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งจริงๆ มีสามีคนไหนบ้างที่จะไม่ใส่ใจกัน?สืออีสังเกตเห็นสายตาของเสี่ยวเถา จับจ้องไม่วางตาจงเจี้ยนเคยบอกเขาว่า แม้พวกเขาจะเป็นคนของท่านอ๋อง แต่ในเมื่อตอนนี้ติดตามพระชายาอยู่ ปากต้องปิดให้สนิท เรื่องที่พระชายาไม่ได้พูดก็อย่าเอาไปบอกท่านอ๋องทางนั้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นพวกสาวลิ้นยาวขี้นินทาสืออีจำจุดนี้ได้เป็นอย่างดีแต่ก็แปลก ตอนนี้เป
ฟู่จาวหนิงมองหลินอันห่าวตรงหน้า รู้สึกว่าไฟโกรธในใจก็พุ่งขึ้นไปเหนือศีรษะเสียแล้วนางโกรธมากเพราะหลินอันห่าวตอนนี้ใส่ชุดกระโปรงผ้าบางทั้งตัว กระโปรงสีชมพูท้อ ด้านนอกมีผ้าขาวบางเหมือนปีกจักจั่นคลุมอยุ่ ชายกระโปรงด้านหนึ่งเปิดเป็นช่อง ผ่าขึ้นมาถึงต้นขา ด้านในมีผ้าบางอีกชั้น หัวไหล่ท่อนแขน ครึ่งหน้าอก ต้นขาล้วนมองเห็นอย่างชัดเจนนางเท้าเปลือยเปล่า บนเท้าเปล่ายังมีเชือกแดงผูกกระดิ่งเอาไว้แม้สายตากับสีหน้าของหลินอันห่าวจะไร้เดียงสา แต่ใบหน้านางกลับถูกแต่งแต้ม แล้วยังมีไฝสีแดงที่หางตานางด้วยและมีดอกโบตั๋นสีแดงสอดอยู่ที่บริเวณขมับนางด้วยดอกหนึ่ง ที่หูมีต่างหูดอกโบตั๋นแบบเดียวกันห้อยอยู่ ริมฝีปากทาจนแดงแจ๋นี่เป็นชุดของพวกนางคณิกาอย่างชัดเจน พอขับกับความไร้เดียงสาบริสุทธิ์ของนาง ก็มีความขัดแย้งที่ยากจะพรรณนาได้ออกมาฟู่จาวหนิงรู้ ว่าจะต้องมีพวกผู้ชายใจคดบางส่วน ชื่นชอบเด็กสาวเช่นนี้แน่นอนเพียงแต่ หลินอันห่าวนางเพิ่งจะอายุสิบสองสิบสามปี!อาการป่วยของนาง จิตใจของนางก็เพิ่งจะสี่ห้าขวบเท่านั้น!ไม่ว่าจะร่างกายหรือว่าจิตใจ นางยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง!คนที่พานางมาที่นี่ แต่งตัวนางจนมีสภ
ฟู่จาวหนิงพ่นคำพูดที่ไม่เกรงใจแม้แต่น้อยออกมาเฮือก!ซ่งอวิ๋นเหยาเกือบจะสำลัก สายตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อง มองไปทางซ่งหยวนหลินหยวนหลินบอกกับนางว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว นางเดิมทีคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พอฟู่จาวหนิงพูดมาเช่นนี้ก็ทำให้นางรู้สึกทันทีว่าฟู่จาวหนิงไม่เหมือนเดิมนี่มันคำหยาบที่หญิงสาวคนไหนพูดออกมากัน?นางเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยนเลยนะ ทำไมถึงพูดคำหยาบคายเช่นนี้ออกมา?"ข้าเห็นแม่นางหลินอยู่ที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง ตอนนั้นนางกำลังเล่นน้ำ เสื้อผ้าเองก็เปียกปอนไปหมด แล้วยังบอกไม่ถูกด้วยว่าบ้านของนางอยู่ที่ไหน ตอนนั้นข้างกายนางเองก็ไม่มีใครเลย ข้าจึงไม่มีทางเลือก ถึงต้องหานางกลับมาที่นี่"ซ่งอวิ๋นเหยาพูดออกมาอย่างอ่อนโยน"เพียงแต่เวลาแค่นี้จึงหาชุดที่เหมาะกับตัวนางไม่ได้ ดังนั้นจึงให้นางเปลี่ยนเป็นชุดนี้ คิดไม่ถึงว่าแม่นางหลินจะชอบชุดนี้มาก หลังจากใส่แล้วก็ฮัมเพลงออกมา ข้ากลัวว่านางกลัวว่าอยู่ที่นี่นางจะไม่คุ้นเคยแล้วก็หวาดกลัว ดังนั้นจึงร้องบอกนางว่าให้นางร้องเพลงให้จบท่านก็จะมารับนางไป"ซ่งอวิ๋นเหยา พูดถึงตรงนี้ก็ยังมีรอยยิ้มเชิงขอโทษ"เดิมทีข้าคิดจะนัดท่านออกมาพ
มือของซ่งหยวนหลินกำผ้าเช็ดมือจนแทบจะจิกนิ้วตนเองเจ็บอยู่แล้วนางเองก็อดทนเอาไว้อย่างเต็มที่ท่าทีที่ยกเข้ามาแต่เดิม จะมาถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจนพังไม่ได้"ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินกลับร้องขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง จากนั้นก็พูดต่อ ยกมุมปากยิ้ม "ผลลัพธ์ท่านลองเดาดูสิ? ยวนยวนของข้าบอกว่า เขาจำหน้าตาของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ เอาที่ไหนมาพูดว่าความสัมพันธ์เก่า? ที่เจอกันครั้งที่แล้ว เขายังเป็นเด็กอยู่เลย ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเป็นแค่ถั่วงอกอยู่เลย ความสัมพันธ์เก่าหรือ?"ฟู่จาวหนิงชะงักไปครู่หนึ่ง หัวเราะขึ้นมาคำหนึ่ง "ความสัมพันธ์เก่าบ้าบ้อ""ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินโมโหจนไฟสุมหัวอ๊าๆๆ น่าโมโหเหลือเกิน! ฟู่จาวหนิงทำไมพูดจาแบบนี้ นางทำไมถึงพูดจาแบบนี้!ไฟโกรธนี้ข่มไม่ลงเอาเสียเลยซ่งอวิ๋นเหยากัดเหงือกแน่น โมโหจนข้างหน้ามืดมัวไปหมดไม่ได้ นางจะต้องทนไว้แต่ว่า ถั่วงอก? ความสัมพันธ์เก่าบ้าบอ?นางเป็นถั่วงอก?นางไม่เชื่อว่าเซียวหลันยวนจะพูดเช่นนี้!ฟู่จาวหนิงเองก็ทำให้นางโมโหจนสมองขาวโพลนไปแล้ว ทำให้นางลืมไปเลยว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร"ข้าเชื่อยวนยวนของข้านะ ถึ
หลินอันห่าวพูดซ้ำที่นางบอกมาอีกครั้งอย่างว่าง่าย"ใช่แล้ว พูดแบบนี้เลย เสี่ยวเถาเจ้ารู้จักใช่ไหม?""ใช่"ฟู่จาวหนิงยืนขึ้นมา ตะโกนเรียกไปด้านนอก"เสี่ยวเถาเข้ามา"เสี่ยวเถารีบวิ่งเข้ามา"ส่งอันห่าวไปอยู่ข้างกายน้าสะใภ้รองด้วย บอกไปว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องให้นางกังวลมาก กลับไปแล้วข้าจะบอกนางอีกที" ฟู่จาวหนิงดึงหลินอันห่าว เอ่ยเสียงต่ำกับเสี่ยวเถาเสี่ยวเถาพอเห็นเครื่องสำอางบนหน้าหลินอันห่าวก็บื้อตึงไปแล้ว พอได้ยินคำของนางก็พยักหน้าอย่าเร่งร้อน"คุณหนู แล้วท่าน"คุณหนูอยู่ที่นี่จะมีปัญหาไหม?"ไม่เป็นไร ไปเถอะ"เสี่ยวเถาดึงหลินอันห่าวจะเดินออกไป ซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้จึงได้สติกลับมา "ห้ามไป!"นางเกือบจะถูกฟู่จาวหนิงลงไพ่ไม่ตรงหลักจนวุ่นวายไปหมดแล้ว ตั้งสติกลับมาไม่ทัน"เสี่ยวเถา พาอันห่าวออกไป"ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง เอ่ยกับด้านนอกว่า "สืออี ปกป้องพวกนางออกไปด้วย ถ้าใครขวางก็สังหารทิ้งเสีย"ด้านนอก สืออีส่งเสียงเย็นขรึมเข้ามา"ขอรับ พระชายา"พระชายาคำเรียกนี้ ซัดลงไปบนหัวใจซ่งอวิ๋นเหยาทันที หน้าของนางขาวซีดไปนางจะต้องสัมผัสได้อย่างชัดเจนแล้วแน่ว่าตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนนั้นมีคน
"ข้ารู้เรื่องที่ฟู่หลินซื่อทำำกับอ๋องเจวี้ยนไว้ในอดีต ดังนั้นอ๋องเจวี้ยนตกลงแต่งงานกับเจ้า จะต้องไม่ได้อยากให้เจ้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจริงๆ แน่ ข้ารู้สึกว่าเขาน่าจะมีแผนอะไรอยู่"ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาพูดกับฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเป็นเช่นนี้ ซ่งอวิ๋นเหยาน่าจะไม่ได้พูดโกหก และไม่ได้พูดเกินจริงด้วย นางน่าจะมีเส้นสายอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นคนเหล่านี้ก็คงจะยอมช่วยตรวจสอบเรื่องอะไรบางอย่างแทนนางจริงๆนางเพิ่งกลับมาไม่กี่วัน ก็ตรวจสอบได้มากขนาดนี้ เห็นได้ว่าซ่งอวิ๋นเหยาก็ไม่ใช่คนโง่ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ยังเดาถูกถึงความคดของเซียวหลันยวนด้วย"ข้าอยากจะเตือนเจ้าอย่างจริงใจคำหนึ่ง อย่าคาดหวังอะไรจากอ๋องเจวี้ยน"ซ่งอวิ๋นเหยาพูดถึงจุดนี้อารมณ์ของตนเองก็จัดระเบียบเรียบร้อย เมื่อครู่ถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจัด ตอนนี้นางสามารถทำตัวเป็นพี่สาวที่รู้ใจได้แล้ว เหมือนกับคิดแทนฟู่จาวหนิงอย่างไรอย่างนั้นสำหรับจุดนี้ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกนับถืออยู่ยิ่งไปกว่านั้นซ่งอวิ๋นเหยายังไม่ยอมให้ซ่งหยวนหลินโมโหเป็นฟืนไฟอีกครั้งด้วย"พวกเราแค่วิเคราะห์ความคิดของอ๋องเจวี้ยนนิดหน่อยก็รู้แล้ว ห
หลังจากตรวจสอบถึงจุดนี้ซ่งอวิ๋นเหยาก็รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อจริงๆนางเคยพบกับเซียวเหยียนจิ่ง และเคยพบกับหลี่จื่อเหยา เพราะว่าสองคนนี้พูดได้ว่าเข้าใจตัวฟู่จาวหนิงมากที่สุดแต่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาล้วนบอกว่า ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้มองไม่ออกเลยว่าแกล้งทำตัวไม่ได้เรื่อง!ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะมองอย่างไร ฟู่จาวหนิงก็เป็นคนที่ไม่มีความรู้ไม่มีวิชา ไม่เหมือนกับเสแสร้งทำตัวด้วยดังนั้นพวกเขาหลายคนหารือกันนานก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเซียวเหยียนจิงค่อนข้างคิดไปว่าเบื้องหลังฟู่จาวหนิงจะต้องมีใครคอยสอนนางแน่ คนระดับปรมาจารย์อะไรแบบนั้น ซ่งอวิ๋นเหยาคิดๆ แล้วนี่ก็เป็นไปได้มากถึงอย่างไรขนาดอ๋องเจวี้ยนนางก็ยังปีนขึ้นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ผู้อาวุโสจี้รับนางเป็นศิษย์ได้อีก ถ้าจะพบคนที่ลึกลับอยู่เบื้องหลังนางอีกก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่ว่าคนผู้นี้เป็นใครกัน?ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าอาจจะมีความเป็นไปได้หนึ่ง นั่นก็คือคุณชายฟู่กับฟู่หลินซื่อกลับมาแล้วพ่อของฟู่จาวหนิง ขนาดซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเคยได้ยินชื่อเสียงเขามา นั่นก็เป็นยอดคนคนหนึ่งจริงๆครั้งนั้นถ้าไม่ใช่ฟู่หลินซื่อเกิดเรื่อง ไม่แน่ว่าตอ
"ให้ข้าจากไปเอง?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ดังนั้นนี่คือความคิดของซ่งอวิ๋นเหยาหรือ?"แน่นอน ข้ารู้ เจ้าเองกว่าจะได้มาเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน คิดว่าข้าจะให้เจ้าปล่อยวางไปเปล่าๆ หรือ ดังนั้น ข้าจะให้ของที่ดีกว่ากับเจ้า"ซ่งอวิ๋นเหยาหันข้างเข้าหานาง กระซิบเสียงต่ำ "ตระกูลฟู่ของเจ้าในแคว้นเจาตอนนี้เป็นแค่ตระกูลตกอับ ยิ่งไปกว่านั้นสมัยก่อนเจ้าเองก็ทำเรื่องน่าขำเรื่องโง่เง่าไปไม่น้อย ในแคว้นเจา อันที่จริงเจ้าอยู่อย่างนี้ต่อไปก็ไม่มีความหมาย ข้าสามารถให้เจ้าไปที่ต้าชื่อ แล้วให้ต้าชื่อเปลี่ยนตัวตนฐานะให้เจ้าได้เริ่มใหม่""เจ้าสามารถเป็นสตรีชั้นสูงที่รู้จักคุ้นเคยกระทั่งองค์รัชทายาท เบียดตัวเข้าวงคนชั้นสูง ใช้วิชาแพทย์ของเจ้าจุดนี้ ข้าสามารถช่วยเจ้ากลายเป็นเหมือนปลาได้น้ำในกลุ่มคุณหนูฮูหยินกระทั่งกลุ่มองค์หญิงท่านหญิงได้เลย ถึงตอนนั้นตัวตนฐานะของเจ้าจะแตกต่างจากตอนนี้แล้ว""แล้วก็ ข้ายังสามารถใช้เส้นสายทั้งหมดช่วยเจ้าตามหาพ่อแม่ ให้บ้านพวกเจ้ากลับมารวมกันอีกครั้งได้"พูดถึงคำนี้ ซ่งอวิ๋นเหยายังจ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิง สังเกตสีหน้าของนางดูว่าตอนที่พูดถึงพ่อแม่ของนาง ฟู่จาวหนิงจ
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ