"เด็กผู้หญิง?""ข้ารับปากว่าจะปกป้องนาง หลายปีมานี้ข้าทำให้แล้ว แต่ก็ยิ่งรู้สึกว่าซ่งอวิ๋นเหยานั้นไม่ใช่นาง นิสัยของพวกนางไม่เหมือนกันเลย"เขาคิดจะไปดูห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาตอนกลางคืน"ครั้งนั้นนางบอกว่า ในถ้ำภูเขาที่ขมุกขมัวนางเองก็ไม่กลัว เพราะนางอยู่คนเดียวมาตลอด มีอยู่ห้องเดียว โล่งๆและเรียบง่าย"ฟู่จาวนหิงพบว่าสมองฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ค่อยชัดเจนแล้ว จึงพลิกฝ่ามือดึงเข็มเล่มหนึ่งออกมาจากในห้องมิติทันทีกัดฟันให้หัวของเขากดอยู่บนหลังคอนางเพื่อพิง"หลายวันนี้ รู้สึกว่าซ่งอวิ๋นเหยาดูไม่คล้ายนางเลย ดังนั้นจึงอยากจะไปดูห้องนางเสียหน่อย"เซียวหลันยวนเองก้ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงพูดเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิง ก็แค่อยากจะพูดให้ชัดเจนเท่านั้น"ไม่เหมือน ห้องของซ่งอวิ๋นเหยา มีแต่ความหรูหรา ตรงไหนที่วางของก็ได้ก็วางไว้หมด ไม่เห็นพื้นที่ว่างเลย"นั่นเป็นห้องนอนของหญิงสาวสูงศักดิ์คนหนึ่ง"ท่านตอนนั้น ไม่ได้ถามชื่อนางเอาไว้หรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นด้วยสัญชาตญาณ"ถามแล้ว นางไม่บอก นางบอกว่า คนมากมายถ้ารรู้ว่านางเป็นใครก็จะมารังแกนาง"เซียวหลันยวนพิงอยู่ที่หลังคอนาง ริมฝีปากประทับอยู่ข้างคอนาง ฟู่จา
เซียวหลันยวนเปียกโชกไปทั้งตัว เสื้อผ้าหน้าผมเต็มไปด้วยน้ำ ทำเอาฟู่จาวหนิงเห็นแล้วต้องขมวดคิ้วขึ้นมา"แล้วข้าจะหาเสื้อผ้าจากไหนมาเปลี่ยนให้ท่านกัน?""อืม เช่นนั้นให้ข้ากลับจวนอ๋องอย่างนี้หรือ?" เซียวหลันยวนที่เปียกโชกไปทั้งตัวมองนาง ใบหน้าแดงแจ๋ สายตาร้อนผะผ่าว แผลเป็นพิษนั่นก็ดูเข้มลึกขึ้นมาก ดูแล้วงดงามอย่างประหลาดฟู่จาวหนิงกัดฟันเขาจงใจสินะ จงใจแน่!สภาพแบบนี้จะออกไปยังไงกัน?นางรีบออกไปหอบผ้าคลุมเข้ามา จากนั้นก็โยนผ้าแห้งให้เขาผืนหนึ่ง "ท่านถอดเสื้อเปียกออกเลย แล้วก็เช็ดผมให้แห้งเสีย ข้าจะไปหาเสื้อผ้าให้ท่าน!"พอเห็นร่างที่หมุนตัวพุ่งออกไปของนาง เซียวหลันยวนนิ้วจรดบนพริมฝีปาก ไอขึ้นมา"แค่กๆๆ..."เขาไออย่างรุนแรงฟู่จาวหนิงไปหาเสื้อผ้ามาชุดหนึ่ง เดิมทีเตรียมไว้ให้คนคุ้มครองเรือน เศรษฐีฟางเพิ่งหามาให้นางสองคน ที่เหลือยังไม่เข้ามา แต่นางก็ให้ป้าจงเตรียมเสื้อผ้าที่เหมือนกันไว้ให้แล้วเดิมทีคนคุ้มครองเรือนที่เลือกมาล้วนมีร่างสูงใหญ่กำยำ ดังนั้นเสื้อผ้าเองก็ถือว่าเหมาะสมอยู่ตอนที่กลับมา เซียวหลันยวนเช็ดผมแห้งไปกว่าครึ่งแล้ว หอตัวอยู่ในผ้าคลุมพิงแคร่นิ่มในห้องนาง ผิวหนังยัง
"แค่กๆๆ" เซียวหลันยวนไอออกมาอีกชุดหนึ่ง เงยหน้ามองนาง สนิทกันได้ขนาดนี้แล้ว ยังจะหย่าอีกหรือ?"นอนลงไป" เซียวหลันยวนถูกดวงตาที่ไฟลุกมองจนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จะให้เขานอนลงในทันทีเซียวหลันยวนไอนอนลงไปบนแคร่นิ่ม ผ้าคลุมถูกนางดึงลงไปที่เอวพอเห็นเอวของเขา ใบหน้าของนางก็ร้อนผ่าว หยิบเข็มออกมาปักลงไปฉึกๆๆ"ก่อนหน้านี้ตอนท่านไปหอจันทร์หยาดไม่ใช่ว่าระมัดระวังตัวอยู่หรอกหรือ? สามารถสัมผัสได้ว่ามียา แล้วครั้งนี้ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงสังเกตไม่เห็น? เชื่อใจนางขนาดนี้เชียว?"เรื่องที่ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงไม่ปล่อยผ่านไปเสียที?เซียวหลันยงยแอบถอนใจเขาเสียใจขึ้นมาผิดไปแล้วจริงๆ จะมีข้อมูลอะไร เขาจะหาโอกาสอื่นเพื่อไปฟังไม่ได้เลยหรือ? แค่คิดจะไปดูห้องนอนหญิงสาวว่าเป็นอย่างที่จินตนาการไว้ไหม รอตอนกลางวันที่ซ่งอวิ๋นเหยาไม่อยู่แล้วเข้าไปดูไม่ได้หรือไร?"ข้าไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นข้ายืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้ว"พูดถึงตอนนี้ เขาจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าหน้าต่างของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ใช่ว่าวางอะไรอยู่หรือ?"นางคิดจะเล่นงานข้า"เซียวหลันยวนกัดฟัน ซ่งอวิ๋นเหยา ดีมาก ดีจริงๆ"เมื่อเป็นเช่นนี้ นา
"ท่านยังไม่หลับหรือ ปล่อยให้ข้าพูดอยู่ได้ตั้งนาน อ๊ะ!"ฟู่จาวหนิงรู้สึกฟ้าหมุนติ้วถูกเซียวหลันยวนดึงพลิกลงมากดอยู่บนแคร่นิ่ม"เด็กผุ้หญิงคนนี้คือเจ้าหรือ?"เสียงของเขาแหบพร่าจนผิดปกติ"ข้าเอง แต่ว่าตอนนั้นตาของท่านไม่ใช่ว่าบาดเจ็บหรอกหรือ? ข้ายังใช้แขนเสื้อช่วยเช็ดเลือดให้ท่านอยู่เลย ในถ้ำภูเขามืดมาก ตาของท่านก็ลืมไม่ขึ้นมองไม่เห็นข้าเหมือนกัน ข้าตอนนั้นยังเห็นหน้าของท่านชัดเจนมาก หน้าของท่านเต็มไปด้วยเลือด แล้วก็โคลน สกปรกสุดๆ"ฟู่จาวหนิงพูดรายละเอียดในตอนนั้นออกมา นี่ไม่จำเป็นต้องให้เขายืนยันอีกแล้ว นางนั่นเองเพราะสถานการณ์คืนนั้น นอกจากพวกเขาสองคนแล้วใครก็ล้วนไม่รู้เรื่องทั้งสิ้นต่อมาทหารของเขาหาตัวพวกเขาพบ พาเด็กสาวคนนั้นลงจากเขาไปด้วยกัน พอลงจากเขานางก็วิ่งหนีไปแล้ว"เจ้าหรือ"เซียวหลันยวนทวนสองคำนี้ขึ้นมาอีกครั้งฟู่จาวหนิงมองเขางงๆ และเห็นว่าดวงตาเขาแดงรื้น"แต่ทำไมท่านถึงคิดว่าเป็นซ่งอวิ๋นเหยาด้วยล่ะ?" นางถามอย่างงงงัน"ครึ่งปีต่อมาตอนเจอนางครั้งแรก ในมือนางมีผ้าเช็ดหน้าที่คล้านกันอยู่ผืนหนึ่ง พอตรวจสอบดูก็พบว่าวันนั้นนางเองก็ไปที่เขาลูกนั้นเช่นกัน ตระกุลซ๋งเองก็ม
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ชอบคนที่ได้คืบจะเอาศอกอีกด้วย เขาตอบแทนบุญคุณได้ แต่ก็เกลียดที่คนอื่นใช้คำว่าบุญคุณมาต่อรองกับเขามากที่สุดฟู่จาวหนิงตอบสนองกลับมา ดวงตาเป็นประกาย "นี่ เซียวหลันยวน เช่นนั้นเมื่อครู่ข้าก็เป็นผู้มีพระคุณของท่านสิ?""อืม""เช่นนั้นก่อนหน้านี้ท่านไม่ใช่แค่ไม่ปกป้องข้า ไม่ช่วยเหลือข้า แต่ท่านยังมาช่วยคู่แค้นของข้าด้วย! ข้าจะบอกท่านไว้นะ"นางยังไม่ทันพูดจบ ปากก็ถูกปิดไปอีกครั้ง ลมหายใจถูกแย่งไปเซียวหลันยวนจูบนางอีกรอบ และดูใจเต้นแรงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีกเป็นนางนี่เอง ก่อนหน้านี้แค่บุญคุณเล็กน้อย แค่ควบอบอุ่นเล็กๆ แต่ว่าตอนนี้เขาพบว่าตนเองไม่ใช่แค่โลภมากต่อความอบอุ่นเล็กน้อยนั่นแล้ว"เซียว""ข้าจูบพระชายาของข้า ไม่ใช่เรื่องผิดทำนองคลองธรรม"คืนนี้ ชิงอีกับชิ่งอวิ๋นเซียวอยู่ที่ด้านนอกหากันทั้งคืน จนแทบจะล้มพับอยู่แล้ว ก็ยังไม่เจออะไรตอนกลับมาจวนอ๋องช่วงฟ้าสาง เดิมทีคิดจะไปรายงานกับท่านอ๋อง กลับได้ยินผู้ดูแลบอกว่าท่านอ๋องเมื่อคืนไม่ได้กลับมาชิงอีกงงเป็นไก่ตาแตกรอจนติดต่อกับองครักษ์ลับได้ ถึงรู้ว่าท่านอ๋องพักอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่ ปากของเขาก็อ้าออกจน
ไห่ฉางจวิ้นใช้วิชาลับควบคุมงูหลังทองออกไปหาสิ่งยืนยันของตระกูลชิ่งแล้วแต่ว่าพวกเขาคิดจะเข้ามาสำรวจเสียหน่อยว่าเมือ่วานนี้พวกเขาหาสิ่งยืนยันเจอแล้วหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังหาเหตุผลมากล่อมผู้นำตระกูลฮู่อีก ครั้งนี้เข้ามาโดยไม่ได้ปิดบังผู้นำตระกูลเลย ดังนั้นจึงไม่ลนลานเลยแม้แต่น้อยผู้ดูแลเดิมทีคิดจะอธิบายกับพวกเขาดีดี แต่ว่าน้ำเสียงของฮู่เจียไท่กับเจตนาที่มาดูแล้วไม่ค่อยถูกต้องนัก เขาจึงไม่อธิบายมันเสียเลย แค่นำชาดีดีของว่างดีดีมาต้อนรับเท่านั้น ให้พวกเขารอกันไปซ่งอวิ๋นเหยาทางนั้น หลังจากเซียวหลันยวนออกไป นางก็รอเซี่ยวจวินกลับมาตลอด แต่เซี่ยวจวินก็ไม่กลับมาทั้งคืนซ่งอวิ๋นเหยาลนลานขึ้นมาทันทีเซี่ยวจวินเดิมทีเป็นศิษย์กลุ่มสำนักที่เร้นจากโลกคนหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีวิชายุทธ์ยอดเยี่ยมด้วย ตอนที่ออกมาฝึกฝนในยุทธจักรเจอเข้ากับนาง ช่วงนางขับไล่พวกโจร และรู้สึกรักแรกพบกับนางนางใช้แผนนิดหน่อยให้เขารู้สึกถวายหัวหมดจิตหมดใจกับนาง กระทั่งก็ไม่กลับไปแล้ว ยินยอมที่จะติดตามมาอยู่ข้างกายนางเป็นองครักษ์ลับของนาง ปกติจะไม่ค่อยปรากฎตัวออกมา ถ้าหากนางมีความลับอะไรกับเรื่องสำคัญอะ
ฟู่จาวหนิงพูดพลาง ในสมองก็มีเรื่องในถังอาบน้ำเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมา หูก็แดงไปหมด"คุณหนู หูของท่านแดงแล้ว?" เสี่ยวเถางงงัน"อ๋า? โอ้ น่าจะอากาศเย็นน่ะ แข็งไปแล้ว แข็งไปแล้ว" ฟู่จาวหนิงไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเสี่ยวเถาที่แท้จะพูดมากขนาดนี้ "รีบไปดูในครัวเร็วว่ามีข้าวเช้าอะไรบ้าง ข้ามีเรื่องต้องไปทำ""แต่ข้าต้องเข้าไปเก็บที่นอนให้คุณหนูก่อน" เสี่ยวเถาชี้ไปที่ห้องนอนนางถ้านางเข้าไปได้เป็นเรื่องแน่?ถ้าเห็นเซียวหลันยวนนอนอยู่บนเตียงนาง แล้วความบริสุทธิ์ของนางจะยังเหลืออยู่ไหม?"ไม่ต้องไม่ต้อง เมื่อคืนนี้ข้าอยู่ในนั้นทำวัตถุดิบยา ยังทำไม่เสร็จ เจ้าอย่าเพิ่งเข้าไป จะได้ไม่ทำเละเทะข้าเก็บกวาดลำบาก""โอ้"เสี่ยวเถาเองก็ไม่คิดมาก รีบตรงไปที่ครัวฟู่จาวหนิงกัดฟัน หมุนตัว เงยหน้ามองไปทางต้นไม้ใหญ่ข้างๆ แล้วกระดิกนิ้ว"มานี่"องครักษ์ลับ: พระชายาเรียกข้าหรือ?"เรียกเจ้านั่นล่ะ ลงมานี่" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอีกแล้วก็เรียกเขาจริงๆ แต่เขาซ่อนตัวอยู่นะ อยู่ด้านล่างน่าจะมองไม่เห็นอะไรจึงจะถูก พระชายาทำไมถึงยืนยันว่าเขาซ่อนอยู่ตรงนี้?ก่อนหน้านี้ในจวนอ๋องก็เหมือนกัน แค่ครู่เดียวก็หาตัวเขาเจอเสีย
"ท่านปู่ ดูท่านพูดเข้า ต่อให้แม่ของข้าคือเสิ่นเชี่ยวจริง แต่ข้าก็ถือว่าเป็นคนตระกูลฟู่สิ จะไปเป็นคนตระกูลเสิ่นได้อย่างไรกัน?"พอได้ยินนางพูดเช่นนี้ ผู้เฒ่าฟู่จู่ๆ ก็ถอนหายใจโล่งออกมาหลังจากฝังเข็มให้เขาแล้วก็พาเฮ่อเหลียนเฟยออกมา เฮ่อเหลียนเฟยถอนหายใจ กดเสียงต่ำพูดกับนางว่า "พี่หญิง พอรู้ข่าวของท่านพ่อท่านแม่ ท่านปู่ก็ดีใจมาก แต่ว่าเขาเองก็กลัวมากเช่นกัน""กลัวอะไรหรือ?""ตอนนี้ลุงเสิ่นอยู่ในเมืองหลวงไหม? เขาเองก็เป็นคนของต้าชื่อ ท่านปู่เองก็กังวล ถ้าหากเขาเป็นลุงของพวกเราจริงๆ ก็จะพาท่านกลับต้าชื่อ ตระกูลเสิ่นคงคิดจะชิงตัวท่านกลับไปแน่"ฟู่จาวหนิงตกตะลึงขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นจึงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก"นี่คิดอะไรกันน่ะ""ท่านปู่พึ่งพาท่านมาตลอด ตระกูลฟู่ตอนนี้ก็ยังสถานการณ์เช่นนี้ เขารู้สึกว่าตนเองช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ท่านลำบากอีก พอมองกลับไปที่ตระกูลเสิ่น นั่นก็แตกต่างไปแล้ว ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลใหญ่ แม้ก่อนหน้านี้จะเคยถูกห้ามจากราชวงศ์ ถูกเพ่งเล็ง แต่อูฐที่ผอมจนตายก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า จะว่าอย่างไรก็ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลฟู่ไปเทียบได้เลย"เฮ่อเหลียนเฟยส่
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม
เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก
คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ
พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย
ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ