แชร์

บทที่ 5

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
แม่เฒ่าประคองมือของนาง ตื่นเต้นจนเสียงสั่นพร่าไปหมด

"พระชายา ท่านเดินดีดีหน่อยสิ ไอ๊หยาท่านดูสิ พรมแดงก็ปูมาอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ที่ประตูยังมีขบวนสาวรับใช้อยู่อีก แต่งกันด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม นั่นสิเรียกว่าความสุข!"

"แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเวลาเพียงแค่นี้ จวนอ๋องเจวี้ยนก็จัดการไว้หมดแล้ว"

ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้าประตู และได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่เฒ่าพูดกับนางมาตลอดทาง ในใจก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกัน

หลังจากที่อ๋องเจวี้ยนรับปากจะแต่งงานบนถนน ระหว่างทางพวกเขาคงจะสั่งคนให้รีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งที่จวนอ๋องอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจัดการตระเตรียมขึ้นมา

ให้ตายเถอะ นางประเมินอ๋องเจวี้ยนคนนี้ต่ำไปใช่ไหมนะ

กอดความสงสัยนี้ ฟู่จาวหนิงถูกประคองมาถึงโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการ

"ข้าน้อยเฝิ่นซิงคารวะพระชายา"

"ข้าน้อยหงจั๋วคารวะพระชายา"

เสียงหญิงสาวทั้งสองใสกังวาน หลังจากคารวะต่อฟู่จาวหนิงแล้วจึงอธิบายสถานการณ์กับนาง

"พระชายา เวลานี้โถงพิธีการกับห้องหอกำลังจัดเตรียม ท่านอ๋องต้องไปเปลี่ยนชุดมงคล ข่าวการแต่งงานต้องเข้าวังเพื่อแจ้งแด่องค์จักรพรรดิ ในวังเองก็น่าจะมีคนเข้ามา พระชายาโปรดรอสักครู่"

"จัดงานมงคลใหญ๋ในจวนอ๋อง ก็ต้องมีแขกเหรื่อด้วย ผู้ดูแลส่งคนออกไปแจกเทียบเชิญงานมงคลเรียบร้อย คิดว่าแขกคงใกล้จะมาแล้วเช่นกัน"

เวลาเร่งด่วนขนาดนี้ ยังมีแขกเหรื่อด้วยหรือ? นี่จะจัดงานมงคลให้คึกโครมเลยจริงหรือ?

"พระชายา ผู้ดูแลส่งคนไปรับชุดเจ้าสาวใหม่แล้ว อีกสักครู่ถ้าส่งมาแล้วพระชายาโปรดผัดเปลี่ยนด้วย เครื่องประดับศีรษะเหล่านี้ พระชายาโปรดเลือก"

ผ้าคลุมหัวสีแดงของนางแม้จะยังไม่ได้ปลดลง แต่ถาดใบหนึ่งก็ถูกประเคนมาตรงหน้านาง พอก้มลงก็มองเห็นว่า บนถาดนั้นเรียงรายด้วยเครื่องประดับล้ำค่าเจิดจ้าแยงตาอยู่หลายชิ้น

จนตาของยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการแทบจะบอด!

ฟู่จาวหนิงเองก็หัวหมุน งานนี้เป็นนางที่อยากจะแต่งงาน แต่นางคิดไม่ถึงเลยว่าพอเข้ามาในจวนอ๋องแล้วจะต้องมาทำอะไรเช่นนี้

นางยังคิดว่าหลังจากเข้าจวนอ๋องก็จะถูกดึงไปอยู่ต่อหน้าอ๋องเจวี้ยน ตรวจอาการให้เขาก่อน จากนั้นจึงค่อยเจรจากับเขาอย่างใจเย็น

อ๋องเจวี้ยนจะทำอะไรกันนี่?

ตอนที่นางกำลังมึนงงก็ถูกสาวใช้ทั้งสองคนจับเปลี่ยนชุดเจ้าสาวใหม่ สวมเครื่องประดับลงบนหัว เปลี่ยนผ้าคลุมสีแดง จากนั้นก็กินอะไรรองท้องเสียหน่อย และหลังจากพักผ่อนไปครู่หนึ่ง โถงพิธีมงคลก็เตรียมการพร้อมแล้ว

"องค์จักรพรรดิมาถึงแล้ว!"

"ฮองเฮามาถึงแล้ว!"

"ซูเฟยมาถึงแล้ว!"

ฟู่จาวหนิงได้ยินเสียงตะโกนด้านนอก มึนไปหมดแล้ว

นางเพิ่งจะข้ามมาก็ต้องเจอกับองค์จักรพรรดิโบราณแล้วหรือ นี่จะเล่นใหญ่ไปหน่อยไหม! หน้าตาอ๋องเจวี้ยนใหญ่โตขนาดนี้เลยหรือ?

"ขุนพลใหญ่เจิ้นกวนเข้าอวยพร!"

"โหวผิงหยางเข้าอวยพร!"

"เสนาบดีสรรพากร กรมกลาโหมกรมยุติธรรม กรมพิธีการนายสนองเข้าอวยพร!"

ฟู่จาวหนิงตัวเอียงจนเกือบจะล้ม นางมุมปากกระตุก เหล่าแขกเหรื่อก็รีบตรงเข้ามา! นี่มันอะไรกัน!

ยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการก็กลืนน้ำลายอย่างตึงเครียด ไม่ไหว ฝ่ามือนางเหงื่อออก เดิมทีที่ฟู่จาวหนิงต้องแต่งกับจวนอ๋องเซียวก็ทำให้นางรู้สึกสูงส่งไม่อาจเอื้อมแล้ว แต่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่...

ด้านนอกอึกทึกคึกคัก แต่บรรยากาศในโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้ ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกว่าข้างกายเงียบงันลง

นางเพิ่งจะรู้สึกแปลกประหลาด ก็ได้ยินเสียงชายขรึมต่ำดังขึ้นมา "พวกเจ้าออกไปก่อน"

"เพคะ ท่านอ๋อง"

ยายเฒ่าผูู้ดูแลพิธีการก็ใจเต้นไม่หยุด ถูกเฝิ่งซิงกับหงจั๋วลากออกไป ประตูปิดลง

อ๋องเจวี้ยนเดินตรงเข้าหาฟู่จาวหนิง

มือข้างหนึ่งเลิกผ้าคลุมหัวแดงออก ฟู่จาวหนิงเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จ้องมองเขาอย่างตกตะลึง

นางคิดไม่ถึงเลย เดิมทีทั้งหมดล้วนดำเนินการมาตามขั้นตอน แต่ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนจู่ๆ ก็เข้ามาเลิกผ้าคลุมของนางออก!

ฟู่จาวหนิงประสานตากับดวงตาลึกหยั่งดุจทะเลคู่หนึ่ง คิ้วยาวถึงขมับ ดวงตาลึกซึ้งราวดวงดารา จมูกสูงเป็นสัน ริมฝีปากประดุจไข่มุก

ชายคนนี้หน้าตาจะดีเกินไปแล้ว!

แต่ว่า ก็ดูดีเพียงแค่ครึ่งเดียว มีรอยตัดสลับซับซ้อนเหมือนใยแมงมุมพาดอยู่อีกครึ่งหน้าของเขา และทำให้ความงดงามยอดเยี่ยมเปลี่ยนเป็นน่าสะพรึงในพริบตา

กลางดึกถ้าได้เห็นหน้าซีกนี้ คงจะตกใจจนแทบสิ้นสติเป็นแน่ ใบหน้าครึ่งหล่อครึ่งผี สิ่งนี้คือสาเหตุที่ทำให้อ๋องเจวี้ยนไม่เคยออกไปพบปะผู้คนหรือ?

นางจ้องมองเขาไม่วางตา

"ทำไมเจ้าไม่ร้องตกใจกัน?" อ๋องเจวี้ยนรู้สึกเกินคาด

เขากำลังคิด ว่่าพอนางเห็นใบหน้าของตนเองคงตกใจจนลงไปคลานกับพื้น พอถึงตอนนั้น นางจะต้องรู้สึกเสียใจภายหลัง แล้วไม่คิดจะเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอีกแล้วกระมัง?

แต่องค์จักรพรรดิกับฮองเฮาก็ทรงมากัน แขกเหรื่อเองก็มากันหมดแล้ว ถ้านางมารู้สึกเสียใจภายหลังตอนนี้ก็จะเจอกับโทษหนัก ไม่ต้องให้นางเอ่ยปาก องค์จักรพรรดิถ้ารู้สึกว่าถูกนางปั่นหัว คงได้สั่งโองการสำเร็จโทษนางแน่

ใครจะรู้ว่าพอนางเห็นใบหน้าเขา กลับจับจ้องไม่วางตาเช่นนี้

"เจ้าคิดว่าข้าจะตกใจจนลนลานหรือ?" ฟู่จาวหนิงย้อนถาม จากนั้นก็ยังยื่นมือออกไปที่ใบหน้าเขา นิ้วสัมผัสลงไปบนแผลเป็นน่ากลัวนั่น

ปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณหมอ อยากจะรู้ว่าแผลเป็นนี้มันอย่างไรกันแน่

"บังอาจ!!"

อ๋องเจวี้ยนตกตะลึง ตบมือของนางออกทันควัน รีบร้อนเดินถอยกลับ แต่เพราะตกใจมากเกินไป ลมหายใจจึงปะทะขึ้นมา จนเขาไอออกมาอย่างรุนแรง

"แค่กๆๆ..."

ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นยืน คว้าหมับที่ข้อมือเขา สามนิ้วแตะกดลงไปบนเส้นชีพจร

"ข้าจะตรวจอาการให้เจ้า แต่วันนี้ไม่ว่าเจ้าจะมีความคิดอะไร ต่อให้องค์จักรพรรดิจะมา ก็ไม่สามารถทำลายงานมงคลของข้าได้! ถึงอย่างไรถ้ายังถึงวันที่ต้องกลับบ้าน ข้าก็จะอยู่แต่ในจวนอ๋องเจวี้ยนนี่ล่ะ!"

นางมองออกแล้ว อ๋องเจวี้ยนมีแผนการอื่น แต่นางไม่คู่ควร!

"ฟู่จาวหนิง ตระกูลฟูไม่มีคนรู้วิชาหมอ ข้าขอเตือนเจ้าอย่า...แค่กๆๆๆ!"

ทันใดนั้นลำคอก็เจ็บปวดขึ้นมา อ๋องเจวี้ยนหน้าเปลี่ยนสี อาการไอของเขาหยุดลงในพริบตา!

"เห็นไหม? ข้าเป็นวิชาหมอ ยิ่งไปกว่านั้นสภาพร่างกายของเจ้าก็ซับซ้อนมาก เจ้าต้องการหมอ!" ฟู่จาวหนิงปล่อยมือออก ถอยกลับไปก้าวหนึ่ง เชิดคางมองเขา "เจ้าให้ข้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนดีดีเถอะ ข้าจะรักษาอาการให้เจ้า พวกเราต่างได้สิ่งที่ต้องการ"

อ๋องเจวี้ยนประหลาดใจขีดสุด

วันนี้เขาพยายามระงับอาการไอด้วยปณิธานที่เกินคนมาโดยตลอด แต่ต่อให้ไม่ไอเขาก็ยังรู้สึกแย่ ปวดหน้าอกจนลำคอคัน แต่ตอนนี้กลับบรรเทาลงมาแล้ว!

อ๋องเจวี้ยนกำลังจะพูดอะไร นอกประตูก็มีเสียงหยิ่งยโสดังขึ้น "ฮองเฮามีรับสั่ง ให้ฟู่เจาหนิงออกไปพูดคุยด้วย"

"ผัวะ!!"

ประตูถูกถีบออกอย่างแรง แม่นมสองคนบุกเข้ามา ยังไม่ทันเห็นอะไรชัดก็เรียกเสียงเย็นชาขึ้น

"ข้าทั้งสองรับสั่งให้เข้ามาพัดปากฟู่จาวหนิง!"

แม่นมทั้งสองพุ่งเร็วจี๋เข้าไปหาฟู่จาวหนิง ท่าทีนี้เห็นได้ชัดว่าคิดจะเข้ามากดนางไว้แล้วกระหน่ำตบทันที!

ฟู่จาวหนิงหมุนตัว พริบตาก็ไปหลบอยู่ด้านหลังอ๋องเจวี้ยน นิ้วมือแทงไปที่หลังเอวเขา

อ๋องเจวี้ยนยังไม่ทันตั้งตัวได้จากพฤติกรรมหน้าไม่อายของนาง แม่นมสองคนนั้นก็พุ่งมาถึงเบื้องหน้า ง้างมือคิดจะตบเข้ามา

"บังอาจ!"

อ๋องเจวี้ยนตะคอกไปคำหนึ่ง ยกเท้าคิดจะถีบออก

เสียงผัวะดังขึ้น แม่นมคนหนึ่งถูกเตะจนปลิว ล้มกระแทกพื้นอย่างแรง ฟันหลุดออกมาซี่หนึ่ง

ด้านนอกมีร่างสองร่างพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว คนหนึ่งขวางไว้เบื้องหน้าอ๋องเจวี้ยน อีกคนหนึ่งตบแม่นมอีกคนนั้นจนปลิว

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในพริบตา ตั้งแต่ต้นจนจบแม่นมทั้งสองคนยังไม่ทันเห็นหน้าอ๋องเจวี้ยนชัด เห็นแค่ว่าฟู่จาวหนิงเข้าไปหลบอยู่ด้านหลังผู้ชายคนนี้เท่านั้น
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
เสาวภา โพธิ์ทอง
น่าสนจีนมาก
goodnovel comment avatar
หนิง หลง
เอาแล้วยัยน้องจับได้บอสลับเป็นสามี......
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2581

    ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้กับเซียวหลันยวน"ตอนนี้ท่านมีความรู้เรื่องแพทย์บ้างแล้วนี่นา มองออกด้วยว่าเป็นตำรับยาบำรุงครรภ์""สามปีก่อนตำรับยาที่เจ้าใช้ข้าเคยเห็นอยู่ แน่นอนว่าต้องจำได้สิ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้เรียนแพทย์มา เพียงแต่ตอนนั้นตำรับยาที่ฟู่จาวหนิงกินเขาเองก็ได้อ่านอย่างละเอียดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นเขายังคอยมองดูของที่นางกินเข้าปากอย่างระมัดระวังด้วย ดังนั้นจึงจำวัตถุดิบยาที่เกี่ยวข้องได้กระทั่งของที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินไม่ควรแตะต้องเขาก็ยังจำเอาไว้ดังนั้นตอนนี้พอเขาเห็นตำรับยานี้ก็สามารถมองออกได้ทันที"หนิงหนิง เจ้า..."สายตาของเซียวหลันยวนเหลือบมองลงไปบนท้องนางตามสัญชาตญาณ กลั้นหายใจ รู้สึกตึงเครียดหน่อยๆก่อนหน้านี้เดิมทีเขายังคิดว่า จาวหนิงตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวก็พอ จะลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ถึงอย่างไรการคลอดเด็กสำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เหมือนเดินผ่านประตูผีเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าตนเองจะตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวพอแต่ว่า น่าจะเพราะเด็กสองคนในครรภ์ที่แล้วว่าง่ายเกินไป ไม่ดื้อไม่ซนเกินไป คลอดออกมาได้ง่ายเสียขนาดนั้น จึงทำให้นางตอนนี้กัง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2580

    เซียวหลันยวนวางชามชาลง แล้วจึงเหยียบขึ้นเส้นทางกลับเมืองหลวงอีกครั้งพอเข้าเมือง ความเจริญรุ่งเรืองและความคึกคักก็พุ่งเข้ามาทันทีในเมืองดอกไม้บานสะพรั่ง ประชาชนและพ่อค้าที่สัญจรไปมา ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่มาสองปีหรือว่าเพิ่งจะเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากถูกทิวทัศน์อันงดงามของเมืองหลวงและร้านรวงต่างๆ รายรอบดึงดูดและข้างถนนก็ยังมีร้านรวงอีกไม่น้อย วางขายของกระจุกกระจิกต่างๆ ของเหล่านี้พ่อค้าที่มาจากภายนอกก็ชอบไปเดินชม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไปสถานที่อื่นแล้วยังไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยความสดใหม่พ่อค้าที่มายังตงฉิงช่วงนี้ ยังมีบางส่วนที่พาครอบครัวมาด้วย น่าจะเพราะพอกลับไปเล่า เหล่าภรรยาและลูกก็รู้สึกสนใจต่อตงฉิงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีฐานะหน่อยจึงพาครอบครัวมาด้วยด้วยเหตุนี้ บนถนนเมืองหลวง จึงสามารถมองเห็นคนต่างถิ่นที่พาครอบครัวเข้ามาด้วย"องค์จักรพรรดิกลับเมืองแล้ว"ขณะที่รถม้าของเซียวหลันยวนแล่นไปตามถนนใหญ่ ประชาชนสองฝั่งทางถนนกับเหล่าพ่อค้าก็มองเข้ามา ในสายตาล้วนเป็นความภาคภูมิใจ สีหน้าล้วนแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธา"นั่นคืออ๋องเจวี้ยนหรือ?" ข้างทางม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2579

    หยกตงฉิงขายออกไปครึ่งปีแล้ว และค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาในแต่ละแคว้น อีกทั้งด้วยเหตุผลอีกหลายประการ ปัจจุบันปริมาณยังไม่มากพอ ดังนั้นราคาจึงถูกปั่นจนสูงลิบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเสวียนทั้งสองคนหารือถึงความร่วมมือกับพ่อค้าใหญ่ในแคว้นต่างๆ ในนี้มีคำสั่งซื้ออยู่ไม่น้อยเลย แค่เหมืองหยกของตงฉิงแห่งนี้ ก็สามารถนำกำไรมหาศาลมาให้ตงฉิงได้แล้วเพราะการปรากฏตัวของหยกตงฉิง จึงดึงดูดพ่อค้าจำนวนมากหันมาสนใจตงฉิงมากขึ้นและตงฉิงตอนนี้ถ้าจะเข้ามาต้องได้ใบรับรองที่ด่านชิงอวี้ก่อน ด่านชิงอวี้นี้ เฉิงอวิ๋นเจี้ยนนำคนเข้าไปประจำการอยู่พวกเขามีสายลับอยู่ พอพบว่าคนที่จะเข้าตงฉิงมีพิรุธ ก็จะส่งข่าวไปที่ตงฉิงอย่างรวดเร็ว และหอเมืองของตงฉิงก็จะเตรียมปืนใหญ่พิทักษ์แคว้นขึ้นทันทีพวกของเซียวหลันยวนในช่วงสองปีที่ตระเตรียมเรื่องเหล่านี้ หลายครั้งที่ทำงานหนักจนลืมกินลืมนอน ยุ่งกันมากๆแต่ก็อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่ง จึงไม่มีมีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินเรื่องราวของอีกฝ่ายจากปากของคนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงกลับมีแนวโน้วที่ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนที่ได้ยินประชาชนหรือข้าร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2578

    ความหมายที่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้ตรงไปตรงมานักก็คือ สองปีนี้อันที่จริงเขาก็ส่งสายลับไปหาเรื่องแคว้นต่างๆ อยู่เนืองๆคนพวกนั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อส่งข้อมูลผิดพลาดให้กับจักรพรรดิของแต่ละแคว้น หรือไม่ก็สร้างความขัดแย้งและปัญหาบางอย่างในหมู่ขุนนางพวกเขา เพื่อให้พวกเขาไม่หันมาสนใจตงฉิงมากนักกระทั่งยังทำให้พวกเขาคิดว่า ตงฉิงทางนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นอีกครั้ง ต่อให้พวกเขามาแย่งชิงไปก็ไม่คุ้ม ไม่ค่อยได้รับประโยชน์เท่าไรตอนนี้ในเมืองหลวงแคว้นต่างๆ พอได้ยินชื่อตงฉิง ก็มีข่าวลวงผิดพลาดสับสนวุ่นวายอยู่ไม่น้อยเลยเซียวหลันยวนไม่สนใจสักนิดว่าตงฉิงตอนนี้จะมีชื่อเสียงดีหรือไม่ดี เพราะตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วงชิงเวลาที่เพียงพอมาทำให้ตงฉิงขยับขยายอย่างแข็งแกร่งขึ้นมา"แต่เหมือนข้าจะเห็นว่าช่วงนี้ในเมืองหลวงมีคนหน้าใหม่ไม่น้อยเลยนะ" อันชิงเอ่ยขึ้น"มีคนที่ดูเหมือนพวกพ่อค้าเข้ามาไม่น้อยเลย" องค์หญิงหนานฉือเองก็พูดขึ้นมาฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "แน่นอน เรื่องอย่างหาเงินหากำไร พวกพ่อค้ามักจะมีความรู้สึกไวอยู่เสมอ ขณะที่พวกเราส่งข่าวลวงไปทางแคว้นต่างๆ พวกนั้น ก็จะแอบส่งข่าวปกติให้กับพ่อค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2577

    หนึ่งปีต่อมา ทุกด้านของตงฉิงก็เข้าที่เข้าทางแล้วและตอนนี้เอง จักรพรรดิและเหล่าขุนนางของแคว้นอื่นจึงเพิ่งได้ยินข่าวที่มากขึ้นของตงฉิงอันที่จริงครึ่งปีก่อนพวกเขาเองก็ได้ยินมาแล้วแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนแค่ถูกจักรพรรดิเจาบีบจนไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงต้องหาทางรอดในสถานการณ์สิ้นหวังก่อนหน้านี้แต่ละแคว้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ส่งคนออกไปสำรวจซากปรักหักพังของตงฉิง ซึ่งมีทั้งที่หาไม่พบ มีทั้งหาพบบ้างบางส่วน จากนั้นก็ได้พบว่ามันเป็นเมืองร้างที่ "ตาย" ไปในกระแสประวัติศาสตร์แล้วต้องใช้แรงคนและทรัพยากรมหาศาลเลยทีเดียว แล้วพวกเขาเองก็มีแผ่นดินของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่ได้ไปทุ่มเทเสาะหาต่อเท่าไรนักดังนั้นในใจคนมากมาย ตงฉิงก็เป็นเช่นนั้น เจอกับซากปรักหักพังแล้วทำไมล่ะ? เมื่อไม่มีคน ทั้งหมดก็สูญเปล่าจะให้พวกเขาส่งคนมากมายเข้ามา ก็น่าจะต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนเงินทองอีกเท่าไรจึงจะสร้างให้ดีขึ้นได้ทุกคนแม้จะสนใจต่อทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในอดีตของตงฉิง แต่ถ้าจะต้องบุกเบิกก็ไม่มีความสนใจกันแล้วดังนั้น ต่อให้รู้ว่าเซียวหลันยวนพาคนไปที่ตงฉิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2576

    สามเดือนต่อมา ตงฉิงฟื้นฟูแคว้นราชวงศ์ตงฉิงเซียวหลันยวนขึ้นเป็นจักรพรรดิ มีนามว่าจักรพรรดิหมิงหนึ่งเดือนต่อมา จักรพรรดิหมิงสถาปนาฟู่จาวหนิงขึ้นเป็นฮองเฮา เซียวหลิงอี้ลูกชายคนโตขึ้นเป็นองค์รัชทายาทซืออวี๋ชิงจวินเป็นราชครูแคว้น เสิ่นเสวียนเป็นเสนาบดีซ้าย อันเหนียนเป็นเสนาบดีขวาฟู่จิ้นเชินขึ้นเป็นพระสัสสุระแห่งราชวงศ์ฟู่จาวเฟยถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลเฟยหู่ จงเจี้ยนเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์ถังอู๋เจวี้ยนไม่ต้องการเป็นข้าราชการ ถังอู๋เยว่เข้าร่วมสำนักหมอหลวง แต่เพียงแค่ดูแลการรับแพทย์มาชั่วคราวเท่านั้น เพราะตอนนี้สำนักหมอหลวงยังมีแค่คนไม่กี่คนส่วนต่งฮ่วนจือศิษย์พี่รองฟู่จาวหนิงก็พาคนเข้ามาหลายคน แนะนำให้เข้าไปยังสำนักหมอหลวงองค์หญิงหนานฉือกับอันชิงทั้งสองคนเปิดสำนักศึกษาหญิงขึ้นแห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสำนักศึกษาอวิ๋นจานหน่วยตีอาวุธของตงฉิงปัจจุบันถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด ถังอู๋เจวี้ยนเองก็มีตำแหน่งอยู่ในนี้ คอยช่วยงานชั่วคราวฮองเฮาฟู่จาวหนิง ในช่วงนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความรอบรู้และพรสวรรค์หลากหลายของนาง นางแทบจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถในทุกที่ สำนักหมอหลวงมักเชิญนางไปสอน หน่วยตีอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status