Share

บทที่ 6

Author: จุ้ยหลิงซู
"ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"

ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด

"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์

"ขอรับ!"

แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไป

ชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนัก

หญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?

แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร

"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้น

ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"

ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมา

เขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้ว

นางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?

"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไม่เสียใจ?"

"ข้าจะรับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง" ฟู่จาวหนิงตอบ "แต่ก็หวังว่าอ๋องเจวี้ยนจะเข้าใจ ว่าการร่วมมือก็ต้องมีท่าทีของการร่วมมือด้วย เรื่องอันตรายแบบเมื่อครู่นี้ ข้าหวังว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีก"

"เรื่องอันตราย?"

ชิงอีคิดดูก็เข้าใจ พอกำลังจะอธิบายแทนอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนก็หมุนตัวออกนอกประตูไปแล้ว "จัดการตัวเองให้ดีดี"

ชิงอีรีบร้อนตามออกไป

หลังจากออกไป อ๋องเจวี้ยนก็หยุบเอาหน้ากากครึ่งหน้าออกมาสวม ปิดบังรอยแผลเป็นนั่น

"ท่านอ๋อง คุณหนูฟู่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? จวนอ๋องเดิมทีก็เตรียมโถงพิธีมงคลให้พวกท่านอยู่แล้วนี่ เพียงแต่ท่านอ๋องคิดไม่ถึงว่าองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาจะเข้ามากันหมด"

ท่านอ๋องพอเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ไม่อยากให้คุณหนูฟู่ต้องกลายไปเป็นเป้าของพวกเขาเท่านั้น

"ชิงอี" อ๋องเจวี้ยนตัดบทเขา "เจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนดีหรือ?"

หา?

"ข้าก็แค่ไม่อยากให้คนของตระกูลฟู่ต้องมาตายกันไว และไม่อยากให้นางต้องไปตายด้วยมือคนอื่นก็เท่านั้น"

อ๋องเจวี้ยนพูดคำนี้ ก็สาวเท้าใหญ่ออกไป

ในเมื่อยืนยันว่าจะกราบไหว้ฟ้าดินร่วมหอลงโรง เขาจึงเปลี่ยนเป็นชุดมงคล

หลังจากอ๋องเจวี้ยนจากไป ฟู่จาวหนิงก็พ่นลมหายใจออก

นางตอนนี้รู้ว่าการเข้ามาในจวนอ๋องเจวี้ยน จะต้องซับซ้อนกว่าที่นางคิดเอาไว้แน่นอน แต่นางจะเอาชีวิตของท่านปู่มาเดิมพันไม่ได้

ขอแค่ประคองไว้ได้ ให้เวลานางเสียหน่อย ชุบเลี้ยงสุขภาพของท่านปู่ให้ดีขึ้น เรื่องเหล่านี้นางค่อยมาจัดการภายหลังก็พอ

ขอแค่ยังมีญาติอยู่ ความลำบากทั้งหมดก็ไม่ใช่ความลำบาก

"เฝิ่นซิง หงจั๋ว พวกเจ้าเข้ามาช่วยข้าหน่อย"

เฝิ่นซิงกับหงจั๋วที่ก้มหน้ารออยู่ด้านนอกสบตากัน ขานรับเสียงหนึ่ง และเข้ามาทันที

พวกนางชอบคุณหนูฟู่คนนี้

เจอกับเรื่องแบบนี้แต่กลับไม่ลนลานกรีดร้อง ไม่หวาดกลัวกังวล แต่ยังใจเย็น และจัดการเรื่องให้ดำเนินต่อไปได้

"ในเมื่อในวังมีคนมา เช่นนั้นพวกเจ้าก็ละเอียดเสียหน่อย บนตัวข้ามีจุดไหนที่ยังไม่เหมาะสมก็รีบแก้ไขหรือปลดออกไป"

ฟู่จาวหนิงกำชับพวกนาง

นางยังไม่สามารถเชื่อใจอ๋องเจวี้ยน แต่สาวใช้สองคนนี้ที่ดวงตาแจ่มใส นางกลับเชื่อมั่น เพราะถ้าเกิดเรื่อง สาวใช้จะถูกผลักออกไปเสียสละอย่างง่ายดาย จึงเชื่อว่าถ้าไม่ใช่คนโง่นัก เวลาเช่นนี้คงไม่มาทำร้ายนางหรอก

"เพคะ" เฝิ่นซิงกับหงจั๋วกุลีกุจอขึ้นมา

ตอนที่พวกนางกำลังยุ่ง ฟู่จาวหนิงก็ถามขึ้นมาคำหนึ่ง "เล่าเรื่องท่านอ๋องของพวกเจ้าให้ฟังหน่อยได้ไหม ข้าอยากจะเข้าใจเสียหน่อย หลังจากนี้อยู่ด้วยกันจะได้ง่ายขึ้น"

นางไม่คาดหวังว่าสาวใช้สองคนนี้จะพูดอะไรกับนาง เมื่อครู่ที่เผชิญหน้ากันครั้งแรก นางก็พบว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ใช่คนที่เข้าหาง่ายนัก เป็นไปได้มากว่าอาจจะไม่ใช่คนดี สาวใช้ของนางอาจจะไม่กล้าพูดถึงตัวเขานัก

แต่ถ้าไม่แน่ล่ะ?

ต่อให้คุยกันไม่กี่คำ นางก็คงจะวิเคราะห์อะไรออกมาได้บ้าง

ผลลัพธ์ เฝิ่นซิงกับหงจั๋วก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน "ข้าน้อยก็เพิ่งจะเห็นท่านอ๋องไปไม่กี่ครั้ง"

เอ่อ

"แล้วท่านอ๋องของพวกเจ้าก่อนหน้านี้ไม่ค่อยกลับมาหรือ? พวกเจ้าทำไมไม่ติดตามไปรับใช้ล่ะ?"

พอได้ยินคำว่าติดตามไปรับใช้ เฝิ่นซิงกับหงจั๋วก็รีบส่ายหัวขึ้นมา

"พวกข้าน้อยอยู่ในจวนอ๋องมาโดยตลอด ท่านอ๋องล้วนพักฟื้นอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงมาโดยตลอด คนที่ติตดามรับใช้คือสาวใช้ชั้นหนึ่งของจวนอ๋องอย่างท่านพี่จินเสวี่ยและท่านพี่ไป๋ซวงเท่านั้น"

จินเสวี่ยกับไป๋ซวง ดูท่านีน่าจะเป็นสาวใช้ที่อ๋องเจวี้ยนเชื่อใจ ฟู่จาวหนิงจำสองชื่อนี้ไว้แล้ว

หงจั๋วเอ่ยต่อ "ท่านพี่จินเสวี่ยกับท่านพี่ไป๋ซวงยังอยู่ระหว่างทาง ท่านอ๋องกลับมาถึงก่อน"

บนโถงพิธีมงคล เทียนสีแดงถูกจุดสว่าง ตำแหน่งเก้าอี้สูงมีสามีภรรยากลางคนคู่หนึ่งนั่งอยุ่ นั่นคือองค์จักรพรรดิและฮองเฮาที่สูงส่งที่สุดของแคว้นเจา

องค์จักรพรรดิตอนนี้มองถึงความหล่อเหลาในวัยหนุ่ม สวมชุดคลุมมังกรเหลืองสว่าง ขับเด่นความสูงส่ง พอมองอย่างละเอียด อ๋องเจวี้ยนเองก็ดูคล้ายเขาอยู่สองสามส่วนเลยทีเดียว

และฮองเฮาเองก็อยู่ในชุดคลุมพญาหงส์สวยตระการ ปิ่นห้อยพญาหงส์สีแดงทอง ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความล้ำค่าโอ่อ่า สูงค่าทรงสง่า ดูมีท่วงท่าพระมารดาแห่งฟ้าดิน

บนเก้าอี้สูงด้านข้างมีไท่โฮ่วนั่งอยู่ ไท่โฮ่วกลับดูสงบเสงี่ยมไปบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นสภาพจิตใจยังดูไม่ค่อยดีนัก ให้คนนำเอาหมอนอิงเข้ามา กำลังอยู่ในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน

ด้านนอกโถงพิธีมงคลมีขุนนางรวมตัวอยู่ไม่น้อย บ้างก็ใส่ชุดขุนนาง บ้างก็ใส่ชุดทั่วไป บ้างก็ยังแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่

พิธีมงคลของอ๋องเจวี้ยนเองก็กะทันหันเสียเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะการที่อ๋องเจวี้ยนกลับเมืองหลวงเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่ใช่พวกเขาก่อเรื่องกันจนใหญ่โตกลางถนน จนจวนต่างๆ ล้วนเห็น แล้วพวกเขาจะมากันทันได้อย่างไร

ตอนนี้ที่มาทันเพราะข่าวไปไว ในกลุ่มพวกเขาบางคนก็เพิ่งจะผละจากอกของสาวชู้ออกมาเอง บางคนก็กำลังฟังบทเพลงอยู่ในโรงน้ำชา บ้าช่องยังไม่ทันกลับก็ต้องตรงมาที่นี่แล้ว

"คุณหนูฟู่คนนี้ดังขึ้นในพริบตาเลย"

"นั่นสิ ถอนหมั้นกับจวนอ๋องเซียวกลางถนน เห็นว่าเกี้ยวเจ้าสาวเกือบจะหามไปจนถึงประตูจวนอ๋องเซียวอยู่แล้ว"

"พอหันกลับมาก็พุ่งไปขวางรถม้าอ๋องเจวี้ยน กลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเกิดมาสามสิบกว่าปีไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย"

"นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่มา พวกเจ้าว่า หมอเทวดาหลี่จะละเว้นนางไหม" มีคนบีบเสียงต่ำ ไม่มองฟู่จาวหนิงในแง่ดี

"นั่นสิ อย่าลืมนะ ว่าอ๋องเจวี้ยนยังต้องให้หมอเทวดาหลี่คอยรักษาอยู่"

ผู้คนล้วนแอบส่ายหัวถอนหายใจ แทบจะมองเห็นถึงจุดจบน่าเอนถอนาถของฟู่จาวหนิงเลยทีเดียว

"ยังไม่รู้ว่าพิธีแต่งงานในวันนี้จะราบรื่นไหม โถงนี้ไม่รู้ว่าจะได้กราบไหว้ฟ้าดินกันหรือไม่"

"ได้ฤกษ์แล้ว ต้อนรับบ่าวสาว"

ผู้ดูแลจวนอ๋องเจวี้ยนอยุ่ในชุดคลุมผ้าไหมใหม่เอี่ยม เดินออกมายืนป่าวด้วยเสียงอันดัง

โชคดีว่าตอนที่ไปรับท่านอ๋องกลับเมืองหลวง เขาก็ให้คนในจวนอ๋องทั้งหมดเตรียมชุดใหม่ไว้แล้ว นี่ไม่ใช่ว่าเอามาใส่ได้พอดีเลยหรือ?

คนอื่นจะคิดอย่างไรเขาไม่รู้ ผู้ดูแลรู้เพียงว่า ท่านอ๋องกลับเมืองหลวงครั้งนี้ได้พระชายามาคนหนึ่ง ถือว่าเป็นลางดี!

หญิงสาวที่กล้าแต่งกับท่านอ๋องของพวกเขา จะต้องเป็นพระชายาที่ดีแน่

ดนตรีมงคลบรรเลง อ๋องเจวี้ยนปรากฎตัว

ในโถงพิธีมงคล ไท่โฮ่วค่อยๆ ยืดตัวตรงขึ้นมา มองไปยังร่างสูงใหญ่นั้น แสงสะท้อนมาบนชุดมงคลสีแดงบนตัว ทำให้นางมองจนดวงตารื้นไปหมด

"อาหยวนของพวกเราก็แต่งงานแล้ว" นางเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 7

    คำพูดของไทเฮาไม่มีใครได้ยินและตอนที่ฮองเฮาเห็นอ๋องเจวี้ยนในชุดมงคลเดินเข้ามา ดวงตาก็มีเงามืดทมึนหลั่งทะลักของชั้นต่ำที่นังแพศยานั่นคลอดออกมา จะแต่งงานมีพระชายาแล้ว!ไม่ ฝันไปเถอะ!พิธีวันนี้ นางจะล่มมันเสีย!ฮองเฮาคิดในใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา เอียงหน้าไปเอ่ยกับองค์จักรพรรดิเสียงแผ่วเบาว่า "องค์จักรพรรดิมักจะกังวลเรื่องสุขภาพของอ๋องเจวี้ยน ดูเอาเถิด อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ว่าเติบโตมาสูงใหญ่หล่อเหลาหรอกหรือ?"อายุสั้นอะไรกัน ทำไมไม่เห็นว่าจะดูอายุสั้นตรงไหน?องค์จักรพรรดิหัวเราะร่า "แม้จะบอกว่าอายวนจะดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงตอนหนุ่มก็เถอะ แต่พอดูแบบนี้พวกเราพี่น้องก็ดูคล้ายกันอยู่พอควรนะ"พอได้ยินองค์จักรพรรดิพูดถึงไท่ซ่างหวง ฮองเฮาก็แค้นจนเข็ดฟันนี่เป็นเพราะเจ้าคนชั้นต่ำนี่หน้าตาคล้ายกับไท่ซ่างหวง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจึงถูกไท่ซ่างหวงปกป้องไว้ หลายต่อหลายครั้งก็จัดการเขาไม่ได้เสียทีไท่ซ่างหวงกลัวว่าเขาที่ร่างกายอ่อนแอพอโตมาจะแย่งอะไรกับใครไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะตายถึงกับทิ้งโองการไว้ให้แก่เขา รอจนเขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ พอรับพระชายา ก็จะมีคนนำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเขากระทั่งองค์จั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 8

    ร่างสีแดงพุ่งเข้ามาในโถงพิถีมงคลอย่างรวดเร็วพอคนมาถึง กลิ่นหอมจรุงก็โชยเข้ามาฮองเฮาพอเห็นคนที่มา ก็วางใจลงทันทีเอาล่ะ เมื่อนางมาแล้ว งานวันนี้ไม่มีทางสำเร็จเป็นแน่แท้นางร้องเรียกขึ้นอย่างปรีดา "ไอ๊หยา ท่านหญิงหยวนหลินกลับเมืองหลวงแล้วหรือ? สำนักบัณฑิตชิงหวาปิดภาคเรียนแล้วหรือ?"สำนักบัณฑิตชิงหวาคือสำนักบัณฑิตหญิงที่เลื่องชื่อของแคว้นเจา หญิงสาวที่จะเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมโดดเด่นกว่าผู้อื่น ท่านหญิงหยวนหลินคือคนที่เลื่องชื่ออย่างมากคนหนึ่งในสำนักบัณฑิตชิงหวาแต่ว่า อารมณ์ของท่านหญิงชิงหวาไม่ค่อยจะดีนัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความใคร่ปรารถนาแรงกล้าอีก"คนรักของเจ้าหรือ?"อ๋องเจวี้ยนขมวดคิ้ว และเห็นว่าผ้าแพรแดงในมือถูกบีบแน่นเล็กน้อย จนฟู่จาวหนิงเขยิบใกล้เขาเข้าไป จึงถามขึ้นเสียงแผ่ว"ไม่ใช่"อ๋องเจวี้ยนถึงแม้จะอยากถาม ว่าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไมก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังตอบกลับนางตรงๆ"โอ้ เช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องรู้สึกผิดสินะ"ฟู่จาวหนิงเองก็เพิ่งคิดถึงปัญหาข้อนี้ อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้าแม้จะยังไม่แต่งงาน แต่ใครจะรู้ว่าเขามีคนที่รักหรือไม่ มีหญิงสาวที่อยากแต่ง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 9

    ไม่มีใครรู้ว่าไท่ซ่างหวงทำไมจึงกำหนดเงื่อนไขนี้ขึ้นมาแต่ว่าตอนนี้ฮองเฮากลับรู้สึกว่าเงื่อนไขนี้กำหนดมาได้ดี ตระกูลฟู่ไม่มีใครสักคนที่เรียนหมอ ฟู่จาวหนิงเองก็ช่วยปู่ของนางออกหาสมุนไพรตั้งแต่เล็ก แต่คนไม่น้อยในเมืองหลวงก็รู้ว่า นางนั้นโง่จะตาย จำตัวยาอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ต้องคอยให้หมอบอกให้ วาดรูปร่างให้ จากนั้นจึงให้นางขึ้นเขาไปค้นหาแต่อย่างนี้หายากลับมาถูกหรือ?ไม่เลยสักนิดฟู่จาวหนิงมักจะขุดกลับมากองหนึ่ง ส่งให้ท่านหมอช่วยดูให้ ว่าในกองนั้นหาอะไรมาถูกต้องบ้างนางยังเคยต้มยาผิดให้ผู้เฒ่าฟู่ด้วยเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลกขบขันที่เล่ากันไปทั่วเมืองหลวง เซียวเหยียนจิ่งเองก็รังเกียจฟู่จาวหนิงด้วยเหตุนี้ รู้สึกว่านางเป็นคนไม่ได้เรื่อง มีแต่จะทำให้คนขบขันการรับคนไม่ได้เรื่องอย่างฟู่จาวหนิงมาเป็นภรรยา จะยิ่งทำให้เขาถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้ฮองเฮาตอนนี้อยากจะหัวเราะร่าขึ้นมาเงื่อนไขนี้ของไท่ซ่างหวงกำหนดออกมาได้ยอดเยี่ยมเสียจริง!"ฮองเฮา ข้าเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว" ไทเฮาน้ำเสียงเย็นชา ดูเคืองหน่อยๆ "เจ้าในเมื่อจดจำได้ ก่อนหน้าที่กราบไหว้ฟ้าดินทำไมจึงไม่พูดออกมา? ตอนนี้แม่นางตระกูล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 10

    "คิดจะไปเนินจันทร์เด่นค้นหาตัวยาสิบชนิดไม่น่าจะเป็นไปได้เสียแล้ว"ฟู่จาวหนิงส่ายหัวถอนหายใจ"ผิดแผน ผิดแผน"นางคิดไม่ถึงเลยว่าการเลือกอ๋องเจวี้ยน พอแต่งงานด้วยแล้วจะเจอเรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แต่ว่าพอคิดไปถึงผู้เฒ่าฟู่ นางก็ตั้งสติใหม่ขึ้นมาก็แค่หาตัวยาเองไม่ใช่หรือ?ต่อให้ไม่มีเงื่อนไขนี้ นางก็ยังต้องออกไปหายาอยู่ดี สถานการณ์ตระกูลฟู่ตอนนี้ลำบากยากแค้นมาก ที่บ้านไม่เหลือเงินอีกแล้ว คิดจะซื้อยามาก็สิ้นเปลือง ถ้าหากเขาจันทร์ลับฟ้าทางนั้นมีตัวยา นางไปขุดมาไม่ต้องใช้เงินไม่ดีกว่าหรือ?พอคิดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็ใจเย็นลงมา"ลูกชิ้นนี้อร่อยดีจัง"หงจั๋วกับเฝิ่นซิงเห็นว่านางดูใจเย็นขนาดนี้ ก็กลับกังวลแทนนางขึ้นมา ตอนนี้ดูแล้วเหมือนพระชายาคนนี้จะไม่มีมาด ไม่น่ากลัว ในใจพวกนางจึงคาดหวังให้ฟู่จาวหนิงสามารถนั่งในตำแหน่งพระชายานี้ได้อย่างมั่นคงส่วนโถงพิธีมงคลทางนั้น องค์จักรพรรดิยังคิดจะถามคำถามอ๋องเจวี้ยนอีกสักหน่อย แต่ไทเฮากลับมึนหัวขึ้นเสียแล้ว"องค์จักรพรรดิ ฮองเฮา พวกเรากลับวังกันเถิด อายวนเร่งร้อนแต่งงาน ไม่มีอะไรจะเลี้ยงด้วย" ไทเฮาดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว"นี่."องค์จักรพรรดิร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่11

    "สุรานี้""พระชายา ท่านอ๋องในใจมีท่านอยู่แน่นอน" หงจั๋วกับเฝิ่นซิงดูตื่นเต้น มองฟู่จาวหนิงแล้วแอบหัวเราะ "นี่คือสุราเลิศตระกูลอวิ๋น หนึ่งไหหมื่นตำลึงก็ยังซื้อไม่ได้เลยนะ ท่านอ๋องยังห่วงใยจนส่งมาให้ท่านเหยือกหนึ่งด้วย"ฟู่จาวหนิงรับสุราไป ขึ้นมาชิมก่อนจิบหนึ่ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวจนหมดพอเห็นนางดื่มสุราอย่างห้าวหาญเช่นนี้ สาวใช้ทั้งสองก็ตะลึงงันไป"นี่มันสุราโอสถนี่นา" ฟู่จาวหนิงลิ้มชิมรสของสุรา"ใช่แล้ว สุราเลิศตระกูลอวิ๋นไม่เพียงแต่หมักบ่มจนหอมเข้ม หอมหวานสดชื่อในปาก รสติดค้างอยู่ในคอเท่านั้น แต่เพราะด้านในของมันมีตัวยาอยู่เก้าชนิด หลายปีมานี้มีคนมากมายค้นคว้าสุราเลิศตระกูลอวิ๋น และค้นคว้าตัวยาเจ็ดชนิดด้านในออกมาได้แล้ว ทว่าจนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้ถึงสองชนิดที่เหลือ สุราที่หมักออกมาจึงไม่ใช่รสชาตินี้มาโดยตลอด"หงจั๋วสูดดมกลิ่นของสุรานี้ จากนั้นจึงพูดต่อว่า "ดังนั้นสุรานี้จึงขายกันแพงลิบลิ่ว แพงขนาดนี้ยังหาซื้อได้ยากเลย""พระชายา สุรานี้ดื่มแล้วบำรุงได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่แรงมากด้วย หัวก็ไม่ปวด ท่านดื่มอีกสักสองแก้วสิ" เฝิ่นซิงเอ่ยขึ้น"พวกเจ้าดื่มด้วยไหม?" ฟู่จา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 12

    ผู้ดูแลตะลึงงันไปแล้วคืนพิธีแต่งงานใหญ่ ฟ้าก็มืดแล้ว แต่เจ้าสาวกลับจะกลับบ้านหรือ?"พระชายา เรื่องนี้ไม่เหมาะสม ถ้าท่านอยากจะกลับไป สามวันจากนี้คือวันที่จะได้กลับ""รอไม่ได้"ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรง และไม่มีเวลามาอธิบายกับเขาให้มากความ หันหน้าไปทางหงจั๋วกับเฝิ่นซิง "คอกม้าอยู่ทางไหน?"สองสาวใช้แม้จะไม่เข้าใจว่านางกำลังจะทำอะไร แต่พอได้ยินน้ำเสียงร้อนรนของนาง จึงชี้ทิศทางไปด้วยสัญชาตญาณ"อยู่ทางนั้น"ฟู่จาวหนิงยกกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งตรงไปทางนั้นทันที"พระชายา พระชายา"เฝิ่นซิงกับหงจั๋วตกใจ รีบร้อนยกขาวิ่งตามนางไปผู้ดูแลพอได้สติกลับมา ก็รีบร้อนสั่งการกับทหาร "พวกเจ้าไปรายงานท่านอ๋อง"ตัวเขาเองก็ไล่ตามฟู่จาวหนิงออกไปนี่จะทำอะไรกัน?ฟู่จาวหนิงวิ่งเร็วมาก แต่จวนอ๋องเองก็ใหญ่เสียเหลือเกิน จนนางวิ่งมาถึงคอกม้า ฟ้าก็ดำขึ้นไปอีก คนใช้ที่ดูแลคอกม้าก็ถูกนางทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง"เจ้า""ขอยืมม้าหนึ่งตัว!"หัวใจที่เต้นของฟู่จาวหนิงตอนนี้ยิ่งแรงขึ้นไปอีก และไม่สนใจเขา สายตากวาดไปยังม้าสีแดงตัวหนึ่งในนั้น พุ่งตัวเข้าไป ปลดเชือกจูงออกคนใช้หน้าเปลี่ยนสี ตกตะลึงร้องขึ้น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 13

    "ฮูหยินรอง ท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ท่านผู้เฒ่าใกล้จะไม่ไหวอยู่แล้วนะ!"เสียงร้องไห้ของหญิงสาวคนหนึ่งน่าเวทนาอย่างมาก"นังสารเลวอย่างเจ้ากำลังร้องไห้ให้ท่านลุงหรือ? เขาอยู่สภาพนี้มาตั้งสองปีแล้ว เจ้ายังจะมาร้องห่มร้องไห้ คนไม่รู้จะคิดว่าเขาตายไปแล้วนะ!"เสียงหญิงสาวใจดำโหดร้ายนั่นก็ลอดออกมาอีกครั้ง "จะว่าไป ข้าพูดผิดหรือ? จาวหนิงเป็นเด็กคนเดียวของบ้านแล้ว ท่านลุงเลี้ยงชุบเลี้ยงนางมาจนโต ตอนนี้นางกลับไปทำเรื่องอับอายน่าขายหน้าภายนอก ข้าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านลุงสิ""จาวหนิงเด็กคนนี้อกตัญญูเสียจริง นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่ ท่านลุงหลังจากนี้เลิกคิดเรื่องไปซื้อยาที่ร้านขายยาได้เลย ถ้าวันหนึ่งตื่นเต้นจนหายใจไม่ทันขึ้นมา ก็คงจะเชิญหมอมาไม่ได้อย่างแน่นอน! หมอเทวดาหลี่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงเสียขนาดนั้น หมอทั้งหมดจึงล้วนฟังเขา เขาแค่พูดมาประโยคเดียว ก็คงจะไม่มีหมอสักคนเข้ามารักษาท่านลุงอีก""จาวหนิงยังไปผิดใจกับรัฐทายาทเซียวด้วย รัฐทายาทเซียวเองก็พูดมาแล้ว ว่าจาวหนิงหลังจากนี้จะขายไม่ออกอีกแน่นอน ไม่แน่ว่าจาวหนิงที่ถูกถอนหมั้นตอนนี้คงคิดไม่ตก ไม่กล้ากลับมา จนตนเองไปคิดสั้นแล้วก็ได้""พรวด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 14

    อ๋องเจวี้ยนมองมาทางลุงจงลุงจงเองก็ตกตะลึงยืนอยู่กับที่อย่าว่าแต่ประตูหลังเลย ต่อให้เป็นประตูหน้าจวนตระกูลฟู่ก็ไม่มีแขกเข้ามานานหลายปีแล้วแต่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ตรงหน้านี้ สวมชุดเลอค่าสูงส่ง สวมหน้ากากครึ่งหน้าดูลึกลับ แต่ใบหน้าอีกด้านกลับใบหน้างดงาม หูตาจมูกได้รูป ดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่าตัวตนฐานะไม่ธรรมดา"พวกเจ้า"สายตาของอ๋องเจวี้ยนตกไปอยู่บนปิ่นทองในมือเขาชิงอีกเองก็มองเห็น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย"เจ้าจะนำปิ่นทองเล่มนี้ไปที่ใด?" เสียงอ๋องเจวี้ยนเย็นเยียบลุงจงซ่อนปิ่มทองเล่มนั้นไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ "นี่ นี่เป็นของคุณหนูข้า"ใช่แล้ว เรื่องที่คุณหนูกำชับมาจะชักช้าไม่ได้ลุงจงรีบปิดประตูทันที กัดฟัน คารวะไปทางอ๋องเจวี้ยน "นายท่านโปรดให้อภัย ข้าน้องมีเรื่องต้องรีบไปทำ เวลานี้ไม่อาจปล่อยให้พวกท่านเข้าไปได้!"ไม่ว่าจะใครก็ตาม ห้ามทำให้เรื่องนี้ชักช้า!พูดจบประโยคนี้ ลุงจงก็หยิบปิ่นทองเล่มนั้นยกเท้าวิ่งอ้าว"ตามไปดูหน่อย" เสียงของอ๋องเจวี้ยนขรึมขึ้นมาจะให้เขาเอาของของจวนอ๋องเจวี้ยนวิ่งหนีไปหรือ?"ขอรับ"ทหารคนหนึ่งตามไปทันทีอ๋องเจวี้ยนมองประตูหลังทรุดโทรมบานนี้ หัว

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2068

    ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2067

    เมื่อครู่นางออกไปดูแล้ว ไปฟังอยู่พักหนึ่ง แทบทำนางโกรธจัดเลยทีเดียวทั้งที่ยังเช้าขนาดนี้ พวกเขามีสิทธิ์อะไรจู่ๆ พอขึ้นเขามา คุณหนูก็ต้องรีบลุกจากเตียงนอนมาดูอาการพวกเขาทันทีแบบนี้?แล้วก็ ตัวเองก็ป่วยอยู่แล้ว ยังปีนเขาขึ้นมาทำอะไรกัน? เป็นลมล้มพับไปจะโทษใครได้?แล้วเรื่องนี้ยังโทษมาถึงตัวคุณหนู ยังบอกว่านางเลือดเย็นไร้ความปราณี มีคนพูดแย่กว่านี้ด้วย แต่นางไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ พูดแล้วนางก็โมโหมีคนยังบอกว่าที่คุณหนูเรียนแพทย์ เพื่อจะรักษาแต่คนชั้นสูงเท่านั้นใช้ไหม ทำไมตอนมาถึงเมืองไม่บอกพวกเขาสักคำแล้วแอบหนีขึ้นเขามา?ฟังเอาแล้วกันว่านี่มันบ้าบอแค่ไหน? ต้องโดนสัตว์ป่าอะไรแทะสมองไปถึงพูดแบบนี้ออกมาได้?น่าโมโหเสียจริงฟู่จาวหนิงฟังคำโมโหของนาง พลางล้างหน้าล้างตา พอเช็ดหน้าเสร็จ หลังจากทายาบำรุงผิวหน้าที่ทำขึ้นมาเองไปชั้นหนึ่ง นางจึงบอกกับเสี่ยวเยว่ว่า "ถึงคนอื่นจะน่าชิงชัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมาโมโหแต่เช้าตรู่ ความโมโหไม่ดีกับสุขภาพ ผ่อนคลายไว้ ยิ้มเข้าไว้""คุณหนู ท่านทำไมยังยิ้มออกอีก?"ฟู่จาวหนิงหัวเราะ "เสี่ยวเยว่ ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะมีอารมณ์ความรู้สึกมากกว่าตอนที่อยู่ในสวนตระก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2066

    คืนนี้ ฟู่จาวหนิงฝังเข็มตาสว่างสดชื่นให้กับเซียวหลันยวน แล้วยังสอนเขาไปอีกสองสามรอบ ให้เขามาฝังให้ตนเองส่วนไหนที่นางฝังเองได้ นางก็จัดการฝังเองตรงๆก่อนที่จะนอน นางยังยัดยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งเข้าปากไปในปากเขา"กินนะ""นี่คือยาอะไร?" เซียวหลันยวนกลืนยาลงไปก่อนแล้วค่อยถามนางฟู่จาวหนิงเองก็ยัดให้ตัวเองไปเม็ดหนึ่ง "ยาแก้พิษ"เซียวหลันยวนยิ้มๆ "เจ้าอารามไม่คิดจะทำร้ายพวกเราจริงๆ""นอนเถอะ"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดจะโต้ปัญหานี้อีก จึงตบลงไปบนบ่าเขาพูดกันตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรเซียวหลันยวนเอียงตัวมองนาง เขายังอยากจะพูดอะไรกับนางอีกหน่อย แต่ฟู่จาวหนิงก็หลับตาไปแล้ว เพียงไม่นานลมหายใจก็สม่ำเสมอขึ้นมาหลับไวขนาดนี้เชียว? แปปเดียวก็หลับลึกซะแล้วเซียวหลันยวนกุมมือนางเบาๆ หลับตาลงบ้างเช่นกันสิ่งที่เขาไม่ได้บอกฟู่จาวหนิงคือ ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดเฉือนมีดพันเล่ม แต่นอกจากนั้นแล้ว ข้างหูเขายังได้ยินเสียงกรีดร้อง คร่ำครวญอีกนับไม่ถ้วน มีทั้งชายหญิงคนแก่และเด็กมีเสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับฟ้าถล่มพสุธาแยก คนมากมายกำลังวิ่งหนี ตะโกนคร่ำครวญตามหาครอบครัวเพื่อเอาชีวิตรอดที่เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2065

    พวกของเสี่ยวเยว่ไม่กล้าถามอะไรมาก"ไปพักกันเถอะ" ฟู่จาวหนิงไม่คิดจะให้พวกเขาลำบากใจ ให้พวกเขากลับไปพักผ่อนกันทุกคนถอยออกไปในลานบ้านแสงจันทร์กระจ่างใส พอยิ่งดึกแสงจันทร์กับแสงดาวก็ยิ่งเจิดจ้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์พวกเขาไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนี้มองดูแล้วกลับรู้สึกว่าแสงแบบนี้มันขาวซีดแถมยังดูเย็นชาฟู่จาวหนิงคิดจะดึงมือออก แต่ก็ดึงไม่ได้เซียวหลันยวนกุมมือนางไว้แน่น จนมือนางแทบจะแดงอยู่แล้วนี่แสดงว่าในใจเขาไม่สงบเอามากๆเดิมทีถ้านางไม่ได้ลองด้วยตัวเอง นางก็คงจินตนาการไม่ออกว่าจะเจอกับการชี้นำแบบไหน แต่พอนางไปลองด้วยตัวเอง ก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าภาพที่หลั่งเข้าไปในหัวเขาคืออะไรไม่มีอะไรมากกว่าต้องปล่อยนางไป จึงจะมีผลลัพธ์ที่ดีกว่าแต่ว่า แต่ในส่วนของนางยังมีภาพที่เขาผลักนางเข้าไปในห้วงลึกดำมืดด้วยนะ นางยังไม่พูดอะไรเลย หรือเขายัง "เห็น" นางแทงกระบี่เข้าไปที่หัวใจเขาด้วย?"ท่านจับจนข้าเจ็บมือแล้วนะ" นางเอ่ยขึ้นเซียวหลันยวนเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน รีบคลายมือออกทันที"ขอโทษด้วย หนิงหนิง" เขามองข้อมือนาง เป็นวงแดงจริงๆ เขารีบยกมือนางขึ้นมาแล้วลูบนวดเบาๆ"ในใจว้าวุ่นขนาดนั้นเชีย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2064

    ส่วนฟู่จาวหนิงเองก็มองมาทางเขา เพราะเซียวหลันยวนไม่ได้ยื่นมือมาประคองนางในตอนแรก แต่กลับมองนางอย่างงงงันหน่อยๆฟู่จาวหนิงยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไร ใจก็ดำดิ่งหน่อยๆยังดีที่ตอนนางมองไปอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็ยื่นมือมาดึงนางลุกขึ้นแล้ว จากนั้นไข่มุกหมึกในมือนางก็ส่งคืนไปยังเจ้าอาราม"คืนให้ท่าน"พริบตาที่เจ้าอารามยื่นมารับ เสียงเปรี๊ยะก็ดังขึ้น ไข่มุกหมึกลูกนั้นแตกละเอียดกะทันหันคนทั้งหมดล้วนตกตะลึง มองไปทางเศษหินที่รวงลงมานั่นพวกเขาล้วนถือไข่มุกหมึกกันมาแล้ว เดิมทีก็ยังดีดีอยู่ ไม่มีรอยร้าวอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นตัวลูกปัดหยกก็ตันและแข็งแกร่ง หล่นลงพื้นก็ไม่แน่ว่าจะแตกด้วยซ้ำแต่ตอนนี้จู่ๆ มันก็เป็นแบบนี้ไปแล้วเจ้าอารามโค้งตัวลงเก็บชิ้นส่วนหยกขึ้นมา หยิบขึ้นมามองๆ"ไข่มุกหมึกทำนายดารา ข้าเองก็เหลืออยู่แค่เม็ดเดียวด้วย"อยู่กับเขามาหลายสิบปี ใช้มาก็ตั้งหลายครั้ง ตอนนี้จู่ๆ ก็แตกเสียแล้วเซียวหลันยวนยื่นมือตัวเองออกมา "ข้าไม่ได้ออกแรงนะ""แล้วก็ไม่เหมือนบีบจนแตกด้วย"เจ้าอารามพูดพลางมองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหรุบตาลง เศษหินบนพื้นเหล่านั้น "หรือพวกท่านสงสัยว่าข้าทำ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2063

    เจ้าอารามสูดลมหายใจลึก"ผลลัพธ์นี้ไม่ค่อยดีนัก สิ่งที่มันชี้นำไป ทำให้อายวนเดินไปยังทางเลือกที่จะพาสู่ความพินาศ"พอได้ยินคำพูดเขา ฟู่จาวหนิงก็หน้าเปลี่ยนสีแต่นางกลับโมโหขึ้นมา"เฮอะ"ก่อนหน้านี้นางยังรู้สึกว่าจะอย่างไรก็ได้แต่ว่าตัวนางจะเป็นอย่างไร นางก็ยังไม่สนใจได้ เพราะนางไม่ใส่ใจ และไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบกับตัวนางแต่เรื่องดันไปอยู่บนตัวเซียวหลันยวน นางก็ไม่ชอบใจขึ้นมาแล้วยิ่งไปกว่านั้น นางไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนจะได้รัรบผลกระทบไหม ตัวนางเป็นคนที่ผ่านการข้ามภพมา แต่เขาไม่ใช่"อายวน" นางยื่นมือไปประคองเซียวหลันยวนเขาจับมือนางลุกขึ้นยืน มองดุนาง ยื่นมือลูบใบหน้านาง สีหน้าดูซับซ้อน"เจ้าลองดู"ฟู่จาวหนิงใจดำดิ่งหน่อยๆเพราะเขารู้สึกแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยานี้คือถูกส่งผลกระทบเข้าแล้วเมื่อครู่เขายังบอกนางอยู่เลยว่าถ้าไม่อยากคะเนทำนายก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เขากลับบอกว่าให้ลองดูเสียแล้วจิตใจต่อต้านกับความอยากเอาชนะของฟุ่จาวหนิงถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว"ได้"นางขานรับ และไม่ลังเลอีก นั่งลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามผืนนั้น"ไข่มุกหมึก"เซียวหลันยวนส่งไข่มุกหมึก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2062

    เขาไม่อยากให้นางต้องฝืนตัวทำอะไรเพื่อตัวเขา"ข้ายินยอมทดสอบดู ไม่เป็นไร" ฟู่จาวหนิงบอกเขาเซียวหลันยวนชะงักไป "เช่นนั้นข้าก่อนแล้วกัน เจ้าลองดูผลลัพธ์ของข้าก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วค่อยตัดสินใจ"ตอนนี้เขาเองก็ยอมที่จะคะเนทำนายด้วย เพราะคำพูดประโยคนั้นที่เจ้าอารามพูดเมื่อครู่สามปีก่อนตอนที่เขาจะกลับเมืองหลวง ก็มีการวัดคะเนดาราไว้จริงๆ ทำให้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าเขาควรจะออกจากยอดเขาโยวชิงเวลานั้น และไปถึงเมืองหลวงในวันนั้นเขาเจอกับจาวหนิงถอนหมั้นกลางถนนในวันนั้น แต่งงานกับนางในวันนั้น ตอนนี้พอมาคิดก็ดูจะเป็นคู่รักวาสนาที่ฟ้าประทานมาจริงๆเพื่อความแม่นยำครั้งนี้ เขาเองก็ไม่กังขากับการวัดคะเนดาราเซียวหลันยวนนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้ามิติดาราทั้งสามชิ้น ยื่นมือไปทางเจ้าอาราม "ไข่มุกหมึก""เจ้าจำไว้ด้วยว่าต้องขจัดสิ่งรบกวนออก อย่าต่อต้านการชี้นำ" เจ้าอารามส่งไข่มุกหมึกให้เขา จากนั้นจึงจุดธูปขึ้นเซียวหลันยวนหลับตา สองมือกุมไข่มุกหมึกตอนที่เขาเข้าสู่สภาวะลืมตนอย่างสมบูรณ์ ฟู่จาวหนิงก็แหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยสัญชาตญาณ เหมือนจะพบว่าแสงดาวเต็มท้องฟ้าจะสว่างเจิดจ้ากว่าเดิมเซียวหลันยวน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2061

    เจ้าอารามถอนใจอย่างจนใจอีกครั้ง ร้องเรียกพวกเขาไว้"กลับมาก่อน ทำไมพูดไม่ถูกหูหน่อยเดียวก็จะไปแล้วล่ะ? เดี๋ยวนี้อารมณ์ขึ้นง่ายขนาดนี้เชียว? ข้าก็แค่พูดเฉยๆ ไม่ใช่ว่ามองเสี่ยวฟู่แบบนี้เสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงเองก็ยืนนิ่ง นางดึงเซียวหลันยวนไว้ตอนนี้นางเองก็น่าจะมองการวัดคะเนดาราของเจ้าอารามเป็นเหมือนเกมลึกลับเกมนึง เมื่อครู่ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นางรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งไปกว่านั้น ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเจ้าอารามทำให้นางจับทางไม่ถูกเหมือนกัน คนผู้นี้ต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาสำหรับเซียวหลันยวนแน่นอนสำหรับฮูหยินเฉิง เซียวหลันยวนบทจะไม่ยอมรับก็ไม่ยอมรับได้ จะหมดความผูกพันนั่นก็หมดไป แต่สำหรับเจ้าอารามนั้นไม่ได้เด็ดขาดไม่เช่นนั้นคงไม่พานางเดินทางนับพันลี้มายอดเขาโยวชิงแค่เพราะคำๆ เดียวของเจ้าอารามหรอกนางเองก็อยากรู้มาก สาเหตุอะไรที่ต้องให้พวกเขามาทำนายชะตาอะไรนี่ เจ้าอารามคิดจะทำอะไรกันแน่นอกเหนือจากนี้ ตัวนางเองก็ยังอยากรู้ ว่าการที่นางมายังแคว้นเจานี่ เป็นเพราะมีพลังลึกลับอะไรหรือเปล่าถ้าไม่ทำให้ชัดเจน หลังจากนี้นางคงจะตั้งรับไม่ไหวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถึ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2060

    เขามองไปทางเจ้าอารามอีกครั้ง น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นมา"ท่านน้าเฉิงถ้าพูดแบบนี้จริง เช่นนั้นสายตานางก็ตื้นเขินไม่รู้จักกาลเทศะ นางเองก็ไม่เข้าใจจาวหนิง และยิ่งไม่เข้าใจว่าจาวหนิงผ่านอะไรมาบ้าง แล้วมีสิทธิ์อะไรถึงใช้ความคิดของตัวเองมาสรุป ดูท่าหลายปีนี้คงถูกเอาอกเอาใจในเมืองจื่อซวีจนเสียคนแล้วจริงๆ"เดิมทีเขาได้ยินว่าฮูหยินเฉิงตาแดงก่ำลงจากเขาไป ยังเคยคิดว่าว่าเพราะช่วยนี้เย็นชากับนางมากเกินไปหรือเปล่า เอาไว้ตอนที่จะกลับ พอผ่านอุทยานเขาเฉิงอวิ๋น ยังคิดจะเข้าไปบอกลานางเสียหน่อยแต่ตอนนี้เขารู้สึกแล้วจริงๆ ว่าใจคนมันพังไปแล้ว เช่นนั้นก็ยากที่จะได้รับการเคารพจากคนอื่นจริงๆ"ข้าจดจำได้ว่าตอนที่ข้ายังเล็กท่านน้าเฉิงเคยมาดูแลอยู่หลายครั้ง แต่อันที่จริงพวกเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น หลังจากข้าโตมา พวกเราก็เจอกันน้อยครั้งมาก เจอกันก็เพียงแค่ทักทาย ข้าเรียกนางว่าท่านน้า ก็เพราะเคยชินมาจากตอนเด็กเท่านั้น"เซียวหลันยวนตอนพูดถึงจุดนี้น้ำเสียงก็เย็นลงมา"ตอนยังเล็กนางดูแลข้ามาหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาเจ้าอุทยานกำชับไว้ ข้าจึงเคารพนาง แต่นางก็ควรวางตัวให้ถูก ไม่ใช่จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสของข้าจริ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status