Share

บทที่ 6

Author: จุ้ยหลิงซู
"ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"

ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด

"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์

"ขอรับ!"

แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไป

ชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนัก

หญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?

แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร

"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้น

ฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"

ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมา

เขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้ว

นางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?

"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไม่เสียใจ?"

"ข้าจะรับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง" ฟู่จาวหนิงตอบ "แต่ก็หวังว่าอ๋องเจวี้ยนจะเข้าใจ ว่าการร่วมมือก็ต้องมีท่าทีของการร่วมมือด้วย เรื่องอันตรายแบบเมื่อครู่นี้ ข้าหวังว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีก"

"เรื่องอันตราย?"

ชิงอีคิดดูก็เข้าใจ พอกำลังจะอธิบายแทนอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนก็หมุนตัวออกนอกประตูไปแล้ว "จัดการตัวเองให้ดีดี"

ชิงอีรีบร้อนตามออกไป

หลังจากออกไป อ๋องเจวี้ยนก็หยุบเอาหน้ากากครึ่งหน้าออกมาสวม ปิดบังรอยแผลเป็นนั่น

"ท่านอ๋อง คุณหนูฟู่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? จวนอ๋องเดิมทีก็เตรียมโถงพิธีมงคลให้พวกท่านอยู่แล้วนี่ เพียงแต่ท่านอ๋องคิดไม่ถึงว่าองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาจะเข้ามากันหมด"

ท่านอ๋องพอเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ไม่อยากให้คุณหนูฟู่ต้องกลายไปเป็นเป้าของพวกเขาเท่านั้น

"ชิงอี" อ๋องเจวี้ยนตัดบทเขา "เจ้าคิดว่า ข้าเป็นคนดีหรือ?"

หา?

"ข้าก็แค่ไม่อยากให้คนของตระกูลฟู่ต้องมาตายกันไว และไม่อยากให้นางต้องไปตายด้วยมือคนอื่นก็เท่านั้น"

อ๋องเจวี้ยนพูดคำนี้ ก็สาวเท้าใหญ่ออกไป

ในเมื่อยืนยันว่าจะกราบไหว้ฟ้าดินร่วมหอลงโรง เขาจึงเปลี่ยนเป็นชุดมงคล

หลังจากอ๋องเจวี้ยนจากไป ฟู่จาวหนิงก็พ่นลมหายใจออก

นางตอนนี้รู้ว่าการเข้ามาในจวนอ๋องเจวี้ยน จะต้องซับซ้อนกว่าที่นางคิดเอาไว้แน่นอน แต่นางจะเอาชีวิตของท่านปู่มาเดิมพันไม่ได้

ขอแค่ประคองไว้ได้ ให้เวลานางเสียหน่อย ชุบเลี้ยงสุขภาพของท่านปู่ให้ดีขึ้น เรื่องเหล่านี้นางค่อยมาจัดการภายหลังก็พอ

ขอแค่ยังมีญาติอยู่ ความลำบากทั้งหมดก็ไม่ใช่ความลำบาก

"เฝิ่นซิง หงจั๋ว พวกเจ้าเข้ามาช่วยข้าหน่อย"

เฝิ่นซิงกับหงจั๋วที่ก้มหน้ารออยู่ด้านนอกสบตากัน ขานรับเสียงหนึ่ง และเข้ามาทันที

พวกนางชอบคุณหนูฟู่คนนี้

เจอกับเรื่องแบบนี้แต่กลับไม่ลนลานกรีดร้อง ไม่หวาดกลัวกังวล แต่ยังใจเย็น และจัดการเรื่องให้ดำเนินต่อไปได้

"ในเมื่อในวังมีคนมา เช่นนั้นพวกเจ้าก็ละเอียดเสียหน่อย บนตัวข้ามีจุดไหนที่ยังไม่เหมาะสมก็รีบแก้ไขหรือปลดออกไป"

ฟู่จาวหนิงกำชับพวกนาง

นางยังไม่สามารถเชื่อใจอ๋องเจวี้ยน แต่สาวใช้สองคนนี้ที่ดวงตาแจ่มใส นางกลับเชื่อมั่น เพราะถ้าเกิดเรื่อง สาวใช้จะถูกผลักออกไปเสียสละอย่างง่ายดาย จึงเชื่อว่าถ้าไม่ใช่คนโง่นัก เวลาเช่นนี้คงไม่มาทำร้ายนางหรอก

"เพคะ" เฝิ่นซิงกับหงจั๋วกุลีกุจอขึ้นมา

ตอนที่พวกนางกำลังยุ่ง ฟู่จาวหนิงก็ถามขึ้นมาคำหนึ่ง "เล่าเรื่องท่านอ๋องของพวกเจ้าให้ฟังหน่อยได้ไหม ข้าอยากจะเข้าใจเสียหน่อย หลังจากนี้อยู่ด้วยกันจะได้ง่ายขึ้น"

นางไม่คาดหวังว่าสาวใช้สองคนนี้จะพูดอะไรกับนาง เมื่อครู่ที่เผชิญหน้ากันครั้งแรก นางก็พบว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ใช่คนที่เข้าหาง่ายนัก เป็นไปได้มากว่าอาจจะไม่ใช่คนดี สาวใช้ของนางอาจจะไม่กล้าพูดถึงตัวเขานัก

แต่ถ้าไม่แน่ล่ะ?

ต่อให้คุยกันไม่กี่คำ นางก็คงจะวิเคราะห์อะไรออกมาได้บ้าง

ผลลัพธ์ เฝิ่นซิงกับหงจั๋วก็เอ่ยขึ้นพร้อมกัน "ข้าน้อยก็เพิ่งจะเห็นท่านอ๋องไปไม่กี่ครั้ง"

เอ่อ

"แล้วท่านอ๋องของพวกเจ้าก่อนหน้านี้ไม่ค่อยกลับมาหรือ? พวกเจ้าทำไมไม่ติดตามไปรับใช้ล่ะ?"

พอได้ยินคำว่าติดตามไปรับใช้ เฝิ่นซิงกับหงจั๋วก็รีบส่ายหัวขึ้นมา

"พวกข้าน้อยอยู่ในจวนอ๋องมาโดยตลอด ท่านอ๋องล้วนพักฟื้นอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงมาโดยตลอด คนที่ติตดามรับใช้คือสาวใช้ชั้นหนึ่งของจวนอ๋องอย่างท่านพี่จินเสวี่ยและท่านพี่ไป๋ซวงเท่านั้น"

จินเสวี่ยกับไป๋ซวง ดูท่านีน่าจะเป็นสาวใช้ที่อ๋องเจวี้ยนเชื่อใจ ฟู่จาวหนิงจำสองชื่อนี้ไว้แล้ว

หงจั๋วเอ่ยต่อ "ท่านพี่จินเสวี่ยกับท่านพี่ไป๋ซวงยังอยู่ระหว่างทาง ท่านอ๋องกลับมาถึงก่อน"

บนโถงพิธีมงคล เทียนสีแดงถูกจุดสว่าง ตำแหน่งเก้าอี้สูงมีสามีภรรยากลางคนคู่หนึ่งนั่งอยุ่ นั่นคือองค์จักรพรรดิและฮองเฮาที่สูงส่งที่สุดของแคว้นเจา

องค์จักรพรรดิตอนนี้มองถึงความหล่อเหลาในวัยหนุ่ม สวมชุดคลุมมังกรเหลืองสว่าง ขับเด่นความสูงส่ง พอมองอย่างละเอียด อ๋องเจวี้ยนเองก็ดูคล้ายเขาอยู่สองสามส่วนเลยทีเดียว

และฮองเฮาเองก็อยู่ในชุดคลุมพญาหงส์สวยตระการ ปิ่นห้อยพญาหงส์สีแดงทอง ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยความล้ำค่าโอ่อ่า สูงค่าทรงสง่า ดูมีท่วงท่าพระมารดาแห่งฟ้าดิน

บนเก้าอี้สูงด้านข้างมีไท่โฮ่วนั่งอยู่ ไท่โฮ่วกลับดูสงบเสงี่ยมไปบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นสภาพจิตใจยังดูไม่ค่อยดีนัก ให้คนนำเอาหมอนอิงเข้ามา กำลังอยู่ในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน

ด้านนอกโถงพิธีมงคลมีขุนนางรวมตัวอยู่ไม่น้อย บ้างก็ใส่ชุดขุนนาง บ้างก็ใส่ชุดทั่วไป บ้างก็ยังแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่

พิธีมงคลของอ๋องเจวี้ยนเองก็กะทันหันเสียเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่เพราะการที่อ๋องเจวี้ยนกลับเมืองหลวงเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าไม่ใช่พวกเขาก่อเรื่องกันจนใหญ่โตกลางถนน จนจวนต่างๆ ล้วนเห็น แล้วพวกเขาจะมากันทันได้อย่างไร

ตอนนี้ที่มาทันเพราะข่าวไปไว ในกลุ่มพวกเขาบางคนก็เพิ่งจะผละจากอกของสาวชู้ออกมาเอง บางคนก็กำลังฟังบทเพลงอยู่ในโรงน้ำชา บ้าช่องยังไม่ทันกลับก็ต้องตรงมาที่นี่แล้ว

"คุณหนูฟู่คนนี้ดังขึ้นในพริบตาเลย"

"นั่นสิ ถอนหมั้นกับจวนอ๋องเซียวกลางถนน เห็นว่าเกี้ยวเจ้าสาวเกือบจะหามไปจนถึงประตูจวนอ๋องเซียวอยู่แล้ว"

"พอหันกลับมาก็พุ่งไปขวางรถม้าอ๋องเจวี้ยน กลายเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเกิดมาสามสิบกว่าปีไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย"

"นางไปผิดใจกับคุณหนูใหญ่หลี่มา พวกเจ้าว่า หมอเทวดาหลี่จะละเว้นนางไหม" มีคนบีบเสียงต่ำ ไม่มองฟู่จาวหนิงในแง่ดี

"นั่นสิ อย่าลืมนะ ว่าอ๋องเจวี้ยนยังต้องให้หมอเทวดาหลี่คอยรักษาอยู่"

ผู้คนล้วนแอบส่ายหัวถอนหายใจ แทบจะมองเห็นถึงจุดจบน่าเอนถอนาถของฟู่จาวหนิงเลยทีเดียว

"ยังไม่รู้ว่าพิธีแต่งงานในวันนี้จะราบรื่นไหม โถงนี้ไม่รู้ว่าจะได้กราบไหว้ฟ้าดินกันหรือไม่"

"ได้ฤกษ์แล้ว ต้อนรับบ่าวสาว"

ผู้ดูแลจวนอ๋องเจวี้ยนอยุ่ในชุดคลุมผ้าไหมใหม่เอี่ยม เดินออกมายืนป่าวด้วยเสียงอันดัง

โชคดีว่าตอนที่ไปรับท่านอ๋องกลับเมืองหลวง เขาก็ให้คนในจวนอ๋องทั้งหมดเตรียมชุดใหม่ไว้แล้ว นี่ไม่ใช่ว่าเอามาใส่ได้พอดีเลยหรือ?

คนอื่นจะคิดอย่างไรเขาไม่รู้ ผู้ดูแลรู้เพียงว่า ท่านอ๋องกลับเมืองหลวงครั้งนี้ได้พระชายามาคนหนึ่ง ถือว่าเป็นลางดี!

หญิงสาวที่กล้าแต่งกับท่านอ๋องของพวกเขา จะต้องเป็นพระชายาที่ดีแน่

ดนตรีมงคลบรรเลง อ๋องเจวี้ยนปรากฎตัว

ในโถงพิธีมงคล ไท่โฮ่วค่อยๆ ยืดตัวตรงขึ้นมา มองไปยังร่างสูงใหญ่นั้น แสงสะท้อนมาบนชุดมงคลสีแดงบนตัว ทำให้นางมองจนดวงตารื้นไปหมด

"อาหยวนของพวกเราก็แต่งงานแล้ว" นางเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2492

    เดี๋ยวก็ถึงเขาจำนงเทพแล้วเจ้าแท่นบูชาอูนำคนมา ไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้แค่ไล่ตามต่อไปตอนนี้พวกเขาถ้ากลับไปเมืองอวิ๋นจิง ก็จะไม่เหลืออะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นบนเขาจำนงเทพยังสร้างวังเทพทำลายล้างอยู่ด้วย ถ้าเผื่อคนเหล่านี้ไปทำลายอีก พวกเขาก็ต้องไปช่วยอยู่ดี"ตามพวกเขาไป เหลือจางลี่เฉิงกับคนเป็นๆ ไว้อีกสองคน ที่เหลือฆ่าทิ้งให้หมด!" เจ้าแท่นบูชาอูเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชาคนเหล่านี้ ล่อพวกเขามาถึงที่นี่ ส่วนเขาก็ไล่มาไกลขนาดนี้ถึงเพิ่งจะมีปฏิกิริยา นี่ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าอย่างมากถูกคนหลอกล่อจนเสียหน้าขนาดนี้ เขาต้องจับไอ้คนที่นำมาคนนั้นทรมานให้ตายให้ได้!เมื่อครู่เขาเจอกับจงเจี้ยนแล้ว ดังนั้นจึงจดจำจงเจี้ยนได้อย่างแม่นยำ"คนหนุ่มที่เป็นหัวหน้าคนนั้น ข้าจะจัดการเอง"เจ้าแท่นบูชาอูเอ่ยขึ้นอย่างเหี้ยมเกรียม "ข้าจะต้องเล่นงานเขาให้พิการเสียก่อน จากนั้นค่อยสับเป็นชิ้นๆ แล้วส่งไปที่เมืองหลวง!"ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขาคิดออกแล้ว คนผู้นั้นมาจากเมืองหลวงแน่นอน เป็นลูกน้องของอ๋องเจวี้ยนพอถึงตอนนั้นเขาจะเอาชิ้นส่วนร่างกายเขาส่งไปตรงหน้าอ๋องเจวี้ยน เขียนจดหมายบรรยายอย่างละเอียดว่าเขาทรมานคนผู้นี้จนตาย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2491

    ในเมืองอวิ๋นจิง การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดเพราะมีข้าราชการมาเข้าร่วม ใจของเหล่าประชาชนจึงมั่นคงขึ้นมาพอควร ไม่จำเป็นต้องหวาดหวั่นคาดเดาว่าองครักษ์เกราะดำที่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหันเหล่านี้เป็นใครเดิมทีพวกเขากำลังคิดว่า คนเหล่านี้จะใช่คนชั่วหรือเปล่านะ แล้วเข้ามาต่อสู้กันเองกับลัทธิเทพทำลายล้างเหล่าประชาชนยังเชื่อมั่นข้าราชการในเมืองตนเองอยู่ดังนั้น พอมีพวกเขาเหล่านี้อยู่ที่นี่ เหล่าประชาชนก็มีความกล้าขึ้นมามหาศาล ก่อนหน้านี้ที่ล้วนปิดบ้านหลบซ่อนตัว ตอนนี้กลับกล้าเปิดประตูออกมาช่วยเหลือแล้ว"พวกเราจะมองดูแค่ข้าราชการของพวกเราสู้อย่างเดียวไม่ได้นะ หยิบจับอาวุธไปช่วยกันเถอะ!"มีคนนำหน้า ถือพลั่วเหล็กออกมา"สาวกที่เหลืออยู่เหล่านี้ไม่ได้เก่งอาจอะไรนัก พวกเขาถนัดใช้กันแต่พิษเท่านั้น"เดิมทีภายใต้การนำของใต้เท้าจาง ชาวบ้านเมืองอวิ๋นจิงก็ล้วนใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ ทุกคนฝึกวิชาพื้นฐานกันเป็นประจำตอนที่คนของลัทธิเทพทำลายล้างเพิ่งบุกเข้ามาในเมืองอวิ๋นจิง แล้วจะไปควบคุมจวนว่าการ ชาวบ้านหนุ่มสาวเหล่านั้นก็ยังคงลุกขึ้นต่อต้านเมืองอวิ๋นจิงเป็นบ้านสุดท้ายของพวกเขา พวกเขาทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะป

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2490

    จงเจี้ยนหันหน้ากลับมามองชายชราชุดคลุมดำ สีหน้าเคร่งขึ้นเล็กน้อย"ในที่สุดก็มีคนตำแหน่งสูงมาแล้วสินะ มาได้พอดีเลย"ถ้ามีแต่พวกมดปลวกอยู่ตลอด เขาก็ยังรู้สึกว่าที่วุ่นวายมาครึ่งค่อนวันนี้ยังได้ผลลัพธ์ไม่มากพอตอนนี้พอดีเลย"รีบออกจากเมือง!"จงเจี้ยนตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็ใช้กำลังภายใน โยนจางลี่เฉิงออกไป"รับด้วย!"คนที่อยู่ใกล้ประตูเมืองที่สุดรีบเข้ามารับใต้เท้าจางไว้ แล้ววิ่งทะยานออกไปนอกเมืองคนที่เฝ้าเมืองกำลังผลักประตู คิดจะปิดประตูเมืองทันที เหล่าองครักษ์ก็ทำสัญญาณมือ ขณะเดียวกันก็ล้วงเอากระสุนดำเม็ดเล็กกำหนึ่ง ขว้างเข้าใส่พวกเขาปังๆๆเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นพรวน ราวกับเสียงประทัดสิ่งของที่เหมือนลูกกลอนสีดำระเบิดไปบนตัวคนที่กำลังปิดประตูเมืองเหล่านั้น ทำเอาพวกเขากรีดร้องกันระงมความเร็วการปิดประตูเมืองถูกสกัดเอาไว้แล้ว"ฝ่าออกไป!"ทุกคนเพิ่มความเร็ว พุ่งตรงไปนอกเมืองจงเจี้ยนเป็นคนรั้งท้าย รอจนชายชราชุดดำเข้ามาใกล้ ก็ล้วงเอาลูกกลอนดำอีกกำหนึ่ง ใช้กำลังภายในซัดไปทางเขาชายชราชุดดำเมื่อครู่เห็นพลานุภาพของเหล่านี้แล้ว ตอนนี้พอสถานการณ์ก็สีหน้าเปลี่ยนไป เลี่ยงออกไปข้างๆ ท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2489

    จงเจี้ยนพาจางลี่เฉิงวิ่งไปตามที่ต่างๆ ในเมือง ล่อคนต่างๆ ออกมาจางลี่เฉิงเป็นเหมือนแผนที่เดินได้เลยจริงๆ เขาคุ้นเคยกับเมืองอวิ๋นจิงอย่างมาก เคยเดินผ่านตรอกเล็กซอกซอยทุกสาย แล้วยังเข้าใจการจัดวางเป็นอย่างดีมีเขานำทาง คนมากมายที่ตามมา ก็ยังตามจงเจี้ยนไม่ทัน"ใต้เท้าจง ยาถอนพิษที่พระชายาของพวกท่านให้มานี่ร้ายกาจมากเลย"ตอนที่พอผ่อนลมหายใจได้ จางลี่เฉิงก็ตบผงพิษที่ติดอยู่บนเสื้อเบาๆ แล้วจึงถอนหายใจออกมาถ้าเป็นคนอื่น ตอนนี้คงจะถูกพิษของลัทธิเทพทำลายล้างเล่นงานไปแล้วถึงอย่างไรพวกเขาก็ไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด ทั้งยังระดมอาวุธลับกับยาพิษใส่พวกเขาไม่หยุดบนตัวพวกเขา ติดผงพิษมาไม่น้อยเลยระหว่างทางยังเจอกับซุ่มโจมตีอีกหลายครั้ง พิษของอีกฝ่ายก็ถูกโยนเข้ามาหลากหลายรูปแบบแต่ว่า จงเจี้ยนที่พาเขา ไม่สนใจพิษพวกนั้นเลย เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ฝ่าเข้าไปตรงๆตอนแรก จางลี่เฉิงคิดว่าพวกเขาจะติดพิษ หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง เขาจึงรู้สึกว่า สิบชนิดก็น่าจะโดนสักอย่างสองอย่าง จนถึงตอนนี้ เขากลับเหลือแต่แค่ความตกตะลึงเพราะพวกเขาตอนนี้ยังคงมีชีวิตชีวา ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยมิน่า จงเจี้ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2488

    "พวกเจ้าเป็นใคร? จะทำอะไรน่ะ?"สาวกลัทธิเทพทำลายล้างที่เฝ้าจวนว่าการพอเจอคนที่มารับตัวจางลี่เฉิง ก็ร้องเสียงดังขึ้นมา"หยุดนะ!"จงเจี้ยนพาคนเข้ามาชิงตัวจางลี่เฉิง เดิมทีจงใจให้อีกฝ่ายพบตัวอยู่แล้วกระทั่งว่า เขายังพาจางลี่เฉิงวิ่งวนวิ่งวนรอบจวนว่าการก่อน พอสร้างความวุ่นวายมากพอ จากนั้นจึงดึงตัวคนทะยานออกไปอย่างรวดเร็วด้วยวิชาตัวเบาอีกฝ่ายพอเห็นสถานการณ์ ก็ร้องตะโกนขึ้นทันที ร้องเรียกคนอื่นให้ไล่ตามไปพวกจงเจี้ยนดึงตัวจางลี่เฉิง วิ่งพล่านไปทั่วเมืองพอผ่านหอระฆัง องครักษ์ที่เข้ายึดจุดสำคัญไว้ก็เป่าแตรสัญญาณขึ้นมา จากนั้นก็ร้องเรียกคนเสียงดัง"มีคนชิงตัวจางลี่เฉิง! รีบไปขวางพวกเขาไว้!"สาวกคนอื่นที่เฝ้าอยู่ในเมืองเดิมทีก็จะฟังคำสั่งของคนเหล่านี้ พอได้ยินเสียง สาวกที่ลาดตระเวนก็รีบตามจงเจี้ยนและคนอื่นไปทันที"หลีกไป!"พวกจงเจี้ยนหลังจากวนไปรอบหนึ่ง ก็พุ่งตรงไปทางประตูเมืองเพราะจำนวนคนของพวกเขาก็ไม่น้อย วิชาตัวเบาก็ร้ายกาจ สาวกลัทธิเทพทำลายล้างพอเห็นก็เข้าใจกันขึ้นมา"พวกเขาต้องเป็นคนของอ๋องเจวี้ยนแน่นอน!""ตามพวกเขาไป! จับเป็นพวกเขา พวกเราก็ได้คุณความดีครั้งใหญ่แล้ว!"คนท

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2487

    สามวันต่อมาอากาศเย็น มีหมอกบนเขาจำนงเทพตั้งแต่ช่วงกลางคืนจนถึงเช้าตรู่ ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกบางๆ จนดูเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเซียนในเมืองอวิ๋นจิงมีคนบอกเวลายามด้วยตอนยามห้า คนบอกเวลายามพอตีเคาะกลองยาม เตรียมจะกลับไปนอนหลับ ก็รู้สึกว่าด้านหลังมีลมอะไรพัดผ่านไปเขาหมุนตัวไปดู ก็ไม่มีอะไรแต่ว่า ข้างๆ ก็เป็นหอระฆังแห่งหนึ่งของเมืองอวิ๋นจิงพอดีบนหอระฆังแต่ก่อนจะมีข้าราชการคอยเฝ้าอยู่ตลอด คนของลัทธิเทพทำลายล้างก็เข้ามาสับเปลี่ยนข้าราชการพวกนี้ออกไปที่นี่สามารถมองเห็นถนนใหญ่บริเวณประตูเมืองได้ตลอดเส้นทาง พอมีอะไรเคลื่อนไหวก็จะเห็นได้หมดคนของลัทธิเทพทำลายล้างไร้เหตุผล แม้จะไม่ฆ่าคนส่งเดช แต่บางครั้งก็ยังมีการทุบตีเตะต่อย หรือเหยียดหยามเข้ามา แล้วยังใช้พวกพิษที่ทำให้เกิดตุ่มพุพองบนหน้าหรือทำให้คันขึ้นมาเหมือนกันคนบอกเวลายามตอนที่เดินผ่านหอระฆังแห่งนี้ก็หวาดระแวงหลังจากผ่านมาจึงถอนใจโล่งแต่เมื่อครู่ที่มีลมพัดผ่านไป เขารู้สึกไปเองหรือ?เขาเหลือบมองไปทางหอระฆัง ตัวสั่นขึ้นมา รู้สึกว่าไม่ควรไปยุ่งเรื่องคนอื่นต่อให้ไม่ใช่ลมแล้วทำไมกัน?คนบอกเวลายามรีบออกไปและเขาก็ไม่รู้เลย ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status