Share

บทที่ 4

Author: จุ้ยหลิงซู
"จวนอ๋องเซียว?"

ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"

เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?

"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง

"อ๊า!"

เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"

นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"

ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา

"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"

ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอกเย็นวาบขึ้นทันที

นางก้มหน้าลงมอง จากนั้นจึงร้องกรี๊ดกอดหน้าอกตัวเองกระแทกตัวมุดไปทางหน้าอกของเซียวเหยียนจิ่งทันที

ฟู่จาวหนิงฉีกเสื้อนางจนขาดไว้ก่อนหน้า แต่ยังมีเสื้อในอยู่ เวลานี้ถูกกระบี่ฟันปาด เสื้อในเองก็ขาดออกจากกันแล้ว

"อึก..."

เซียวเหยียนจิ่งกว่าจะประคองตัวกลับมาได้ พอถูกนางกระแทกเช่นนี้ไปอีกที เลือดลมที่หน้าอกก็พุ่งทะลักขึ้นมา สลบเหมือดลงไปทันที

ตึง

การสลบครั้งนี้เขายืนไม่อยู่ พาร่างของหลี่จื่อเหยาที่กำลังกรีดร้องล้มพับลงไปด้วยกัน กดทับอยู่บนตัวของเขา

ชาวบ้านประชาชีล้วนถลึงตาโต อา..นี่มัน

ฟู่จาวหนิงจุ๊ปาก "ผิดศีลธรรม สุดแสนเสื่อมเสีย ไอ๊หยา อย่ามองอย่ามอง รัฐทายาทเซียวกับคุณหนูใหญ่ถ้าไม่แต่งกันคงไม่ได้แล้วกระมัง?"

นางหมุนตัวใช้สองมือประเคนกระบี่เล่มนั้นขึ้น "ขอโทษด้วย นี่กระบี่ของเจ้า"

ทหารจนถึงตอนนี้ยังตั้งตัวไม่ทัน เขาตะลึงงันไปแล้วเถอะ! เขาเป็นถึงยอดฝีมือที่วรยุทธ์อยู่ระดับห้าเลยนะ แต่ฟู่จาวหนิงคนนี้กลับแย่งกระบี่ไปจากมือเขาได้!

ถึงแม้จะมีเหตุผลที่เขาไม่ทันตั้งตัวได้อยู่ก็ตาม แต่ก็มาเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาถูกแย่งกระบี่ไปโดยไม่ทันตั้งตัวไม่ได้! เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อครู่กระบี่ถูกนางชิงไปได้อย่างไร!

ทหารมองฟู่จาวหนิง ดำดิ่งกับความสงสัยในตัวเองอย่างลึกซึ้ง

"ฟู่จาวหนิง"

คนในรถม้าก็เหมือนจะเห็นเหตุการณ์ภายนอก ตอนที่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นช้าๆ ในน้ำเสียงก็มีแววครุ่นคิด

"เจ้าอยากเป็นพระชายาของข้าหรือ?"

"ถ้าหากท่านต้องการพระชายาจริงๆ ล่ะก็!" ฟู่จาวหนิงตอบกลับทันที

"ดี"

ชายในรถม้าตอบกลับอย่างเด็ดขาดมาคำหนึ่ง "ชิงอี"

ทหารคนทั้นที่แท้ชื่อว่าชิงอี พอได้ยินคำของท่านอ๋อง ชิงอีก็ได้สติกลับมาทันที เหลือบมองฟู่จาวหนิงผาดหนึ่ง ป่าวประกาศออกมาทันควัน "นับจากนี้ ฟู่จาวหนิงคุณหนูตระกูลฟู่ถูกเลือกเป็นคู่หมั้นหมายของอ๋องเจวี้ยนแล้ว โปรดรอฤกษ์มงคลเพื่อจัดพิธีแต่งงานด้วย!"

ฮือฮา ประชาชนทั้งถนนแตกตื่นขึ้นมา

ไม่ใช่สิ อย่างนี้ได้ด้วยหรือ?

คุณหนูฟู่กลายมาเป็นพระชายาในอนาคตของอ๋องเจวี้ยนแล้วหรือ?

เมื่อครู่ใครกันที่พูดว่า "คุณหนูฟู่จบสิ้นแล้ว" ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!

ฟู่จาวหนิงคิดถึงสภาพของผู้เฒ่าฟู่ที่เหมือนตะเกียงใกล้มอดตอนที่ออกจากบ้านในวันนี้ ปิดตาลงเปิดใจกว้าง พูดกับคนในรถม้าว่า "ไม่ใช่คู่หมั้นสิ ต้องเป็นพระชายาเลย! เลือกฤกษ์วันก็สู้วันที่พบไม่ได้หรอก ข้านับดูแล้ววันนี้ถือว่าเป็นวันมงคลฤกษ์งามดี อ๋องเจวี้ยน พวกเราไปกราบไหว้ฟ้าดินกันวันนี้เถิด!"

นางจะไม่ยอมถอยกลับไปตระกูลฟู่วันนี้แน่ วันนี้นางจะต้องได้เป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยน!

ให้อาการของท่านปูคงที่เสียก่อน จะให้เขาถูกกระตุ้นไม่ได้แม้แต่น้อย

จากนี้ถ้าเป็นพระชายาของอ๋องเจวี้ยนแล้วไม่ค่อยดี นางแยกทางเสียก็จบ! นางต้องมาโดนตัวตนฐานะนี้ผูกมัดไว้จนตายเสียที่ไหนกัน?

ชิงอีที่เดิมทีเย็นชาก็พูดไม่ออก "เจ้า นี่มันบีบให้แต่งงานไม่ใช่หรือ?"

เขาตามไม่ทันเสียแล้ว

คุณหนูฟู่ พวกเราเพิ่งจะรู้จักกันไม่เท่าไรเองนะ เจ้ากับท่านอ๋องของข้าก็ยังไม่เคยเห็นหน้าเสียด้วยซ้ำ นี่เอาจริงหรือ?

ฟู่จาวหนิงมองเขาอย่างตั้งใจ กระพริบตาปริบ "ชิงอี เจ้าช่วงนี้ปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยสินะ กลับไปเดี๋ยวข้าจะช่วยดูให้"

"พรวด!!"

ชิงอีเกือบจะตกจากหลังม้า

ในรถม้ามีเสียงไอปนหัวเราะลอดออกมา

"จะเป็นฝั่งเป็นฝากันวันนี้เลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องขึ้นรถม้าแล้ว ไปนั่งเกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูเลยก็แล้วกัน ชิงอี รับเจ้าสาวเถิด"

ชิงอีมุมปากกระตุก คุมตัวเองจนนิ่ง และก็ป่าวประกาศขึ้นอีกว่า "จวนอ๋องเจวี้ยนมารับตัวพระชายา พระชายาโปรดขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวด้วย!"

"อะไรนะ? สวรรค์โปรด..."

"นี่ๆๆ อ๊า เจ้าหยิกข้าหน่อย เรื่องวันนี้มันเป็นเรื่องจริงหรือนี่?"

"ไอ๊หยา! เจ็บๆ!" มีคนหยิกลงไปที่ต้นขาตนเองอย่างอดไม่อยู่

ฟู่จาวหนิงมองรถม้าที่ปิดอยู่ตลอด เอ่ยชมขึ้นอย่างหน้าชื่นตาบาน "อ๋องเจวี้ยน ท่านนี่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวเสียจริง จะต้องเป็นคนที่ทำการใหญ่ได้แน่ๆ"

พูดจบประโยคนี้ ฟู่จาวหนิงก็หมุนตัววิ่งกลับไปข้างเกี้ยวเจ้าสาวของตนเองอย่างเริงร่า ประคองตัวยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการขึ้นมา เก็บผ้าคลุมหัวสีแดงขึ้นมาจากบนพื้น ปัดๆ ฝุ่น จากนั้นก็สวมลงไปบนหัวตัวเองอีกครั้ง

เอาล่ะ นางกลายเป็นเจ้าสาวใหม่อีกครั้ง!

"ท่านยาย รีบเดินเร็วเข้า รีบโบกผ้าแพรแดงของท่านเร็ว"

"รบกวนคนแบกเกี้ยวด้วย ยกเกี้ยวเร็วยกเกี้ยวเร็ซ จวนอ๋องเจวี้ยนพวกเจ้ารู้ทางใช่ไหม? ถ้าไม่รู้ก็ตามรถม้าของอ๋องเจวี้ยนแล้วกัน"

ฟู่จาวหนิงพูดพลางมุดตัวเข้าไปในเกี้ยวเจ้าสาว นั่งนิ่งขึ้นมา

นางได้ยินแม่เฒ่าผู้ดูแลพิธีการส่งเสียงยกเกี้ยว ได้ยินเสียงเคลื่อนที่ของรถม้าจวนอ๋องเจวี้ยน ได้ยินเสียงโห่ร้องยินดีของฝูงชน ตัวเกี้ยวโยกไหวขึ้นมา เคลื่อนที่ไปเบื้องหน้า

ฟู่จาวหนิงถอนหายใจยาว

เอาล่ะ จากนี้นางก็คือคุณหนูแห่งจวนตระกูลฟู และเป็นพระชายาของจวนอ๋องเจวี้ยนแล้ว

ก่อนหน้าตอนที่นางร่ำเรียนวิชาหมอ ปู่ของนางที่พึ่งพาอาศัยกันและกันมาก็ป่วยหนัก ใช้เงินที่สะสมมาในตระกูลจนหมดก็ยังช่วยไว้ไม่ได้

ปู่ตายจากไป นางมีความรู้สึกเหมือนฟ้าถล่มทลายลงมา ตอนนั้นนางคิดหลายต่อหลายครั้ง ถ้าหากนางเรียนหมอเร็วกว่านี้หน่อย จะสามารถช่วยชีวิตท่านปู่ไว้ได้ไหม?

นี่จึงเป็นสาเหตุให้ต่อมานางเรียนวิชาหมอเป็นบ้าเป็นหลัง ในโลก่การแพทย์ นางมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านความรู้การแพทย์และเภสัชที่ไม่ตกหล่นเลยแม้แต่น้อย

พอได้ยินว่าผู้เฒ่าตระกูลฟู่เองก็ป่วยหนัก ฟู่จาวหนิงจึงคิดจะช่วยชีวิตเขาอย่างเต็มที่ ต่อให้ต้องเก็บผู้ชายบนถนนมาแต่งงานด้วยก็ยังไม่เสียดาย

ฟู่จาวหนิงที่เดิมทีต้องแต่งเข้าจวนอ๋องเซียว ทะเลาะกับรัฐทายาทเซียวกลางถนน หลังจากที่รัฐทายาทเซียวคุกคามจนทำให้ชีวิตนี้ของนางแต่งงานอีกไม่ได้แล้ว ก็หันไปเป็นพระชายาของอ๋องเซียว!

เรื่องนี้แค่หนึ่งชั่วยามก็กระจายไปทั้งเมืองหลวงแล้ว เพียงพริบตาก็ก่อคำวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงขึ้นทั้งเมือง

แต่คนที่ถูกนินทาซ้ำไปซ้ำมาแน่นอนว่ายังมีรายละเอียดที่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาทั้งสองคนสุดท้ายลงไปนอนกอดกันกลมอยู่บนพื้น

เกี้ยวเจ้าสาวหามมาถึงนอกประตูใหญ่จวนอ๋องเจวี้ยนแล้ว ฟู่จาวหนิงถูกประคองลงจากเกี้ยว ก็ได้ยินเสียงประทัดมงคลดังปึงปังขึ้น ความปีติเบิกบานลั่นฟ้า พรมแดงปูมาถึงใต้เท้าของนาง

"ต้อนรับพระชายา!"

เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Apirat Phanumas
สนุกดี ตามต่อๆ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2252

    "แต่ก็จะดูถูกพวกเขาไม่ได้ บางครั้งพวกงูพิษในที่มืดนั่นล่ะที่รับมือยากสุด""ข้าเข้าใจ" เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากผู้อาวุโสจี้คุยกับเขาต่ออีกสองสามคำ จากนั้นก็ทอดถอนใจออกมา "จะว่าไป ข้าเองก็เคยใฝ่ฝันถึงตงฉิงมาก ได้ยินว่าที่ตงฉิงมีภูเขาโอสถอยู่ บนภูเขามีสมุนไพรต่างๆ อยู่มากมาย และยังมีพวกผลไม้ ผิวไม้กิ่งไม้รากไม้ เถาวัลย์ที่เอามาใช้เป็นยาได้ กระทั่งยังมีพวกดินพวกหินที่ใช้ทำยาได้อีกด้วย""ภูเขาโอสถหรือ?" เซียวหลันยวนไม่รู้เลย พอได้ยินก็รู้สึกสนใจมาก "ผู้อาวุโสจี้ได้ยินมาจากไหนหรือ?""เรื่องนี้ข้าได้ยินมาจากเจ้าพันธมิตรคนก่อนน่ะ""เจ้าพันธมิตรโอสถคนก่อนหรือ?""ใช่ คิดแล้วคนนอกคงจะไม่ค่อยเข้าใจนัก อันที่จริงพันธมิตรโอสถใต้หล้าตอนแรกสุดเป็นเจ้าพันธมิตรโอสถคนก่อนสร้างขึ้นมา ต่อมาจึงส่งต่อมาให้เจ้าพันธมิตรคนปัจจุบัน""เจ้าพันธมิตรคนอื่นเคยไปภูเขาโอสถของตงฉิงมาหรือ?""ได้ยินเขาบอกว่าตอนยังเด็กมาก เคยหลงเข้าไปในภูเขาโอสถ แต่ว่าตอนนั้นตงฉิงสาบสูญไปแล้ว ภายหลังเขาออกมาจากภูเขาโอสถ พอจะหาทางกลับไปสถานที่นั้น พอเอาแผ่นที่แผ่นดินมากางดูแล้วก็พบว่า ภูเขานั้น น่าจะเป็นพื้นที่ในตงฉิง"

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2251

    ถังอู๋เยว่ตอนนี้ฝังเข็มไปแล้ว ถ้าสามารถได้หลับดีดีสักรอบ ฟื้นฟูจิตใจให้เต็มที่ ความอยากอาหารก็จะดีขึ้นไปด้วยการรักษาเขาต้องค่อยเป็นค่อยไป เร่งรีบไม่ได้และนางก็ต้องกลับไปจัดเรียงการวินิจฉัยวันนี้เสียหน่อย แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะกำหนดแผนการรักษาอย่างไร"ได้ ฟังเจ้าทั้งหมดเลย"ถังอู๋เจวี้ยนเดิมทีก็เชื่อมั่นฟู่จาวหนิงอยู่แล้ว วันนี้พอได้เห็นความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจของนาง เขาก็ยิ่งไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ"ข้าจะส่งเจ้ากลับเรือนแขก" ถังอู๋เจวี้ยนเห็นเสี่ยวเยว่หลับลึก ก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ฟู่จาวหนิงมาครั้งนี้ เสียเวลาไปนานโขอยู่เซียวหลันยวนกระทั่งหลับไปแล้วครู่หนึ่งแต่เขาก็ไม่ได้หลับลึก ให้ชิงอีเสี่ยวเยว่คอยสังเกตไว้ตลอด มีอะไรก็ให้มาเรียกเขาทันทีตอนที่ฟู่จาวหนิงถูกถังอู๋เจวี้ยนส่งกลับมา เซียวหลันยวนกำลังลงหมากกับผู้อาวุโสจี้ผู้อาวุโสจี้ก็ใช้ช่วงที่ลงหมากนี้ ถามการตัดสินใจของเขาต่อฟู่จาวหนิงหลังจากนี้ว่าเป็นอย่างไร จะพเนจรอยู่ข้างนอกนี้ตลอด มันก็ดูจะเหนื่อยเกินไปเขาไม่หวังให้ฟู่จาวหนิงต้องมีชีวิตแบบนั้นต่อให้เวลาผ่านไป บางทีจักรพรรดิเจาพอเห็นว่าพวกเขาไม่มีความคุก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2250

    ดังนั้น เสี่ยวเยว่จึงมีโอกาสที่จะช่วยได้แล้วจริงๆ"ก็ไม่ใช่ว่าหมอเหล่านั้นวิชาแพทย์แย่นักหรอก" ฟู่จาวหนิงยังคิดจะพูดให้หมอเหล่านั้นหน่อย "โรคนี้ของคุณชายน้อยถัง ที่จริงก็หาได้ยากมาก การไม่เคยมีประสบการณ์การรักษา ไม่มีตัวอย่างที่เทียบเคียงได้จริง จึงยากมากที่จะจ่ายยาให้"นางอยากจะบอกว่า จุดที่นางได้เปรียบคือมาจากยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นบนตัวนางยังมีห้องเภสัชที่เป็นพื้นที่ล้ำสมัย มีอุปกรณ์ต่างๆ นานา ระดับมาตรฐานวิชาแพทย์ก้าวล้ำกว่าตอนนี้ไปไม่รู้กี่ร้อยปีนางนั่นล่ะที่ไม่ปกติ แต่หมอคนอื่นนั้นปกติ จะรู้สึกว่าหมอเหล่านั้นไม่ได้เรื่องเพราะนางไม่ได้หรอก"เข้าใจ เป็นเพราะศิษย์น้องหญิงมีพรสวรรค์ ฉลาดปราดเปรื่อง วิชาแพทย์ของเจ้ายอดเยี่ยมน่าทึ่ง พวกเขาเทียบเจ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ความผิดพวกเขา"ถังอู๋เจวี้ยนหัวเราะขึ้นมาในรอยยิ้มมีประกายอยู่จนตอนที่ถังอู๋เยว่สงบลงมาได้ ฟู่จาวหนิงจึงฝังเข็มให้เขาฝังเข็มครั้งนี้ใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วยามและการฝังเข็มนี้ นางก็ยังพบปัญหาเข้าจริงๆ ชีพจรของถังอู๋เยว่มีจุดติดขัดอยู่หลายแห่งในขั้นตอนฝันเข็ม ถังอู๋เยว่ทนไม่ไหวผล็อยหลับไปแล้วบนตัวเขาอย่างน้อยมี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2249

    ฟู่จาวหนิงอันที่จริงมีแผนการรักษาเบื้องต้นต่อโรคของถังอู๋เยว่แล้ว"ตอนนี้ข้าอยากจะฝังเข็มตรวจสอบชีพจรทั้งตัวของเจ้าก่อนว่ามีตรงไหนติดขัดหรือไม่ เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกหรือเปล่า"ส่วนจุดที่ต้องใช้อุปกรณ์ในคลังยาพวกนั้น นางก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากแล้วถึงยังไงอาการเซลล์เสื่อมของถังอู๋เยว่ มีบางส่วนไม่อาจเกิดใหม่ได้แล้ว นางพูดไปพวกเขาก็คงไม่เข้าใจนางต้องเข้าไปค้นคว้าในห้องเภสัชอีกสักหน่อย แล้วค่อยดูว่าจะสามารถเจาะเลือดจากคนในตระกูลถังมาสักดเซลล์ที่จำเป็นให้ถังอู๋เยว่ได้หรือไม่นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเสร็จในวันสองวัน ตอนนี้ยังต้องตรวจสอบชีพจรให้เขาเสียก่อน"ศิษย์น้องหญิง ความหมายของเจ้าคือ เจ้ามั่นใจว่าจะรักษาเสี่ยวเยว่ได้แล้วหรือ?"พอตื่นเต้น พอดีใจ ถังอู๋เจวี้ยนก็อดเรียกว่าศิษย์น้องหญิงขึ้นมาไม่ได้ยังดีที่อ๋องเจวี้ยนตาเจ้าคนขี้หึงนั่นไม่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้น แค่พูดว่าศิษย์น้องหญิงคำเดียว อ๋องเจวี้ยนคงได้สงสัยว่าเขาคิดอะไรกับฟู่จาวหนิงแน่อันที่จริงเขาก็อธิบายไม่ถูก เขารู้ว่าตนเองชื่นชมฟู่จาวหนิงมาก และชอบนางมาก แต่ก็รู้สึกว่าความชอบนี้ไม่ใช่อาการใจหวั่นไหวกับหญิงสาวทำนองนั้น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2248

    พอเห็นรอยยิ้มของนาง ถังอู๋เยว่ก็ถูกทำให้ติดไปด้วยแล้ว ความรู้สึกต่อต้านไม่พอใจในตอนแรกก็หายไปในพริบตา"หมอเทวดาฟู่หมายความว่ายอ่างไร?""ท่าทีกับอารมณ์ของเจ้า ดูดีมาก ยิ่งไปกว่านั้นการเลียงดูกับมารยาทของเจ้าเองก็ดีมากด้วย"ฟู่จาวหนิงไม่ได้พูดเพื่อปลอบเขา"โรคที่หาได้ยากเช่นนี้ ทั่วทั้งใต้หล้าอาจจะหาตัวอย่างโรคที่เหมือนกันคนที่สองไม่ได้แล้ว เจ้าเจอกับมัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นมาแล้วหลายปี แต่เจ้าก็ไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังพังทลาย ไม่กล่าวโทษคนอื่น ตอนที่หมอเข้ามา เจ้าก็ยังให้ความร่วมมือในการวินิจฉัย นี่เป็นท่าทีกับการอบรมสั่งสอนที่หาได้ยากยิ่ง"ถังอู๋เยว่ตกตะลึง เหลือบมองพี่ชายผาดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ลังเลเอ่ยขึ้น "ก็ ก็ไม่ได้ดีแบบที่ท่านบอกหรอก อันที่จริงข้าก็เคยพังทลายมาก่อน เคยขว้างข้าวของ เคยด่าคนด้วย""ข้า ข้าเองก็ไล่หมอไปแล้วหลายคน ยิ่งไปกว่านั้นปกติข้าก็ไม่ค่อยพบคนด้วย เหล่าพี่น้องในตระกูลก็มาหาเพราะเป็นห่วงข้า ข้าเองก็ปฏิเสธพวกเขาไปจนหมด ข้าไม่อยากพบพวกเขาเลย พวกเขาคงคิดว่าข้ามีอารมณ์แปลกประหลาดแน่ๆ"คนในตระกูลไม่น้อยคงมีคนพูดว่าเขาแปลกประหลาด กระทั่งบอกว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดด้วยซ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2247

    เพราะกวางน้อยชอบฟู่จาวหนิง และด้วยของขวัญชิ้นนี้ที่ถูกใจถังอู๋เยว่ ทำให้การวินิจฉัยดรคต่อจากนี้ของฟู่จาวหนิงค่อนข้างราบรื่นบนพื้นฐานแล้ว นางถามอะไร ถังอู๋เยว่ก็จะตั้งใจตอบนางแต่ว่า ถังอู๋เจวี้ยนที่มองดูอยู่ข้างๆ ก็พบแล้วว่า ต่อให้จะถามวินิจฉัย วิธีการของฟู่จาวหนิงกับคำถามก็ยังทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายแต่ก่อนมีหมอ ใช้คำถามมาถามเสี่ยวเยว่ ทำให้เสี่ยวเยว่ฟังแล้วรู้สึกกีดกัน ต่อให้รู้ว่าตอบแล้วจะทำให้หมอเข้าใจอาการป่วยของตนเอง แต่เขาก็ยังตอบได้แบบฝืนๆมีบางคำถาม ทำให้ไม่อยากตอบเอาเสียเลยอย่างเช่นมีหมอที่ถามถังอู๋เยว่ว่า "ตำราแพทย์บางเล่มเขียนไว้ว่า หากผู้ชายมีการหลั่งน้ำเชื้อมากเกินไป จะทำให้ปราณชี่เสียหาย และหากกินยาที่มีฤทธิ์รุนแรง ก็จะทำให้คนเสื่อมได้เร็วขึ้น ขอถามคุณชายน้อยหน่อย ว่าท่านได้หมกมุ่นเรื่องพวกนี้อยู่หรือไม่?"เดิมทีก้เป็นคำถามที่ทำให้ถังอู๋เยว่รู้สึกอับอายอยู่แล้ว แม้เขาจะส่ายหัวไม่พูดอะไร แต่แพทย์ก็ยังถามต่อว่า "ไม่จำกัดแค่เรื่องของสตรีเท่านั้น การทำกับตนเองอย่างรุนแรงก็ด้วยเช่นกัน"คำพูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ตอบได้ลำบากมากยังมีคนถามอีกว่า "ได้ยินว่าคุณชายชอบอยู่คนเดีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status