Share

บทที่ 7

Author: จุ้ยหลิงซู
คำพูดของไทเฮาไม่มีใครได้ยิน

และตอนที่ฮองเฮาเห็นอ๋องเจวี้ยนในชุดมงคลเดินเข้ามา ดวงตาก็มีเงามืดทมึนหลั่งทะลัก

ของชั้นต่ำที่นังแพศยานั่นคลอดออกมา จะแต่งงานมีพระชายาแล้ว!

ไม่ ฝันไปเถอะ!

พิธีวันนี้ นางจะล่มมันเสีย!

ฮองเฮาคิดในใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา เอียงหน้าไปเอ่ยกับองค์จักรพรรดิเสียงแผ่วเบาว่า "องค์จักรพรรดิมักจะกังวลเรื่องสุขภาพของอ๋องเจวี้ยน ดูเอาเถิด อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ว่าเติบโตมาสูงใหญ่หล่อเหลาหรอกหรือ?"

อายุสั้นอะไรกัน ทำไมไม่เห็นว่าจะดูอายุสั้นตรงไหน?

องค์จักรพรรดิหัวเราะร่า "แม้จะบอกว่าอายวนจะดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงตอนหนุ่มก็เถอะ แต่พอดูแบบนี้พวกเราพี่น้องก็ดูคล้ายกันอยู่พอควรนะ"

พอได้ยินองค์จักรพรรดิพูดถึงไท่ซ่างหวง ฮองเฮาก็แค้นจนเข็ดฟัน

นี่เป็นเพราะเจ้าคนชั้นต่ำนี่หน้าตาคล้ายกับไท่ซ่างหวง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจึงถูกไท่ซ่างหวงปกป้องไว้ หลายต่อหลายครั้งก็จัดการเขาไม่ได้เสียที

ไท่ซ่างหวงกลัวว่าเขาที่ร่างกายอ่อนแอพอโตมาจะแย่งอะไรกับใครไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะตายถึงกับทิ้งโองการไว้ให้แก่เขา รอจนเขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ พอรับพระชายา ก็จะมีคนนำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเขา

กระทั่งองค์จักรพรรดิเองก็ยังไม่รู้ว่าไท่ซ่างหวงทิ้งอะไรไว้ให้อ๋องเจวี้ยน

พิธีมงคลใหญ่ของอ๋องเจวี้ยนวันนี้ ของขวัญชิ้นใหญ่ที่ไท่ซ่างหวงทิ้งไว้ในครั้งนั้นอาจจะมีคนนำมาส่งเข้ามา ดังนั้นพวกเขาจึงล้วนมาอยู่ที่นี่

เหล่าขุนนางกลับมองอ๋องเจวี้ยนอย่างสนอกสนใจ

ยี่สิบปีมานี้ จำนวนครั้งที่อ๋องเจวี้ยนกลับเมืองหลวงคือนับนิ้วได้ มาเร็วไปไว ถ้าไม่ใช่นั่งรถม้ากลับมาก็คือนั่งเกี้ยว มีคนน้อยมากที่ได้เห็นหน้าตาของเขา

ตอนนี้พอเห็นความหล่อเหล่าของอ๋องเจวี้ยนก็ล้วนวางตาลงไม่ได้กัน

"ดูคล้ายกับท่านไท่ซ่างหวงสมัยยังหนุ่มมากจริงๆ" มีขุนนางชราทอดถอนใจขึ้น

"แต่อ๋องเจวี้ยนทำไมจึงสวมหน้ากากล่ะ?"

หน้ากากของอ๋องเจวี้ยนทำขึ้นเป็นพิเศษ เล็กๆ แค่ครึ่งเดียว ไม่ได้ปิดบังใบหน้ามากนัก แต่ก็ยังนับเป็นหน้ากากอยู่

ทุกคนล้วนตกตะลึง

"เคยมีคนพูดว่าอ๋องเจวี้ยนโดนพิษจนต้องไปพบหมอผี ชีวิตช่วยกลับมาได้ แต่อาการพิษกระจายไปบนใบหน้าเขา และไม่อาจขจัดออก ดังนั้นหน้าจึงเละไป จะใช่สาเหตุนี้ไหมนะ?"

มีคนแอบกระซิบข้อมูลที่ตระกูลตนเองได้รับออกมา

ฮึ่ม...

ถ้าว่าเช่นนี้ อ๋องเจวี้ยนก็หน้าเละเป็นผีไปครึ่งหนึ่งหรือ?

คงต้องน่ากลัวมากแน่ ไม่เช่นนั้นจะสวมหน้ากากทำไม?

"ไม่รู้ว่าคุณหนูฟู่เห็นอ๋องเจวี้ยนแล้วหรือยัง"

"มาแล้วมาแล้ว! เจ้าสาวมาแล้ว!" มีคนร้องขึ้นมา

ในสวนดอกไม้ ที่มุมหนึ่ง สาวใช้สองคนประคองฟู่จาวหนิงซ้ายขวาเดินเข้ามา

ชุดมงคลแดงปักทอง สวมอยู่บนร่างกายสูงโปร่ง นางย่างเท้าเชื่องช้า ท่วงท่าสง่างาม เดินเข้ามาราวกับภาพวาด

ฟู่จาวหนิงคนมากมายล้วนรู้จัก ถึงอย่างไรนางช่วงนี้ก็พัวพันอยู่กับเซียวเหยียนจิ่งบ่อยๆ คนไม่น้อยเห็นนางเป็นตัวตลกไปแล้ว

แต่ก่อนหน้าก็ไม่เห็นว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่เผยใบหน้า แค่เดินเข้ามาก็จะสั่นคลอนจิตใจคนมากมายได้ขนาดนี้

อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงที่ถูกพามาอยู่เบื้องหน้าเขา

เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่สงบนิ่งของนาง ไม่มีหายใจหอบถี่ และไม่มีความตึงเครียด ดูผ่อนคลายสบายมาก

"ท่านอ๋อง" หงจั๋วนำผ้าแพรแดงด้านหนึ่งส่งไปเบื้องหน้าเขา อีกด้านหนึ่งถูกฟู่จาวหนิงจับไว้ในมือ

อ๋องเจวี้ยนรับมา เอ่ยเสียงต่ำกับฟู่จาวหนิงว่า "ตอนนี้จะถอนตัวยังทันนะ"

"ถ้าท่านอ๋องไม่เสียใจ ก็กราบไหว้ฟ้าดินกันเถิด" เสียงของฟู่จาวหนิงลอดออกมาจากในผ้าคลุมแดง น้ำเสียงแจ่มชัดแน่วแน่

"ดี"

อ๋องเจวี้ยนจูงผ้าแพรแดง พานางเข้ามาในโถงพิธีมงคล ยืนอยุ่เบื้องหน้าไทเฮาองค์จักรพรรดิ

แม้จะสวมผ้าคลุมแดงอยู่ แต่ฟู่จาวหนิงก็เหมือนสัมผัสได้ถึงสายตามากมายที่ตกอยู่บนตัวตนเอง

"เดิมทีพิธีแต่งงานของอ๋องเจวี้ยนก็ควรจะจัดอย่างอึกทึกคึกโครม ยิ่งใหญ่อลังการจึงจะถูก แต่การที่รีบร้อนเช่นนี้ จึงตกแต่งโถงพิธีมงคลจนเหมือนชาวบ้านทั่วไป เทียบเชิญงานมงคลอย่างเป็นทางการก็ยังไม่ทันได้ส่ง แขกเหรื่อก็เชิญมาไม่เพียงพอ ขบวนริ้วแดงสิบลี้วนรอบเมืองสามรอบก็ไม่มี นี่ช่างผิดต่ออ๋องเจวี้ยนเสียเหลือเกิน"

ฮองเฮามองอ๋องเจวี้ยนกับฟู่จาวหนิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าด้วยกัน ยิ่งมองก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ เพราะไม่รู้ทำไม สองคนนี้พอยืนอยู่ด้วยกันก็รู้สึกว่าคู่ควรกันเสียจริง

นางถอนหายใจเบาออกมา มองฟู่จาวหนิง "แต่ข้าก็คิดไม่ถึงเลย ว่าในเมืองหลวงแคว้นเจาของพวกเรา จะยังมีหญิงสาวเช่นคุณหนูฟู่อยู่อีก วันแต่งงานยังไปถอนหมั้นต่อหน้าธารกำนัลกลางถนน แล้วยังหาสามีใหม่ส่งๆ อีกด้วย"

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนกลั้นหายใจ ไม่กล้าส่งเสียง

ฟู่จาวหนิงเองก็ใจเต้นขึ้นมา

ฮองเฮากำลังบอกว่าเธอไร้มารยาทไม่รู้จักพิธีการอ้อมๆ อยู่สินะ?

เพราะว่านางทำผิดต่ออ๋องเจวี้ยน หรือว่ากำลังประชดอ๋องเจวี้ยนที่แต่งกับนาง หญิงสาวที่ไปก่อเรื่องจนโด่งดังไปทั้งเมืองในวันเดียวคนนี้กัน?

ฟู่จาวหนิงไม่ใช่คนนิสัยที่ชอบอดทนกล้ำกลืนอยู่แล้ว

พอสิ้นเสียงฮองเฮา นางก็เอ่ยปากขึ้น ด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวกับฮองเฮา

"จาวหนิงเองก็ไม่คิดเช่นกัน ว่าข่าวจะส่งไปยังวังหลวงเร็วเช่นนี้ แต่ว่าในเมื่อฮองเฮาก็ทรงได้ยินแล้ว ก็คงจะรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์ต่อรัฐทายาทเซียว ที่วันแต่งงานไม่ยอมไปรับเจ้าสาว แต่ยังอยู่บ้านสวมชุดไว้ทุกข์ ซ้ำยังมาโอบกอดผู้หญิงคนอื่นที่กลางถนนด้วยใช่หรือไม่?"

คนทั้งลานจ้องมองนางอย่างตกตะลึง

คุณหนูฟู่ตอนนี้ยังกล้าพูดอีกหรือ? แล้วยังปะทะกับฮองเฮาอีกด้วย

หญิงสาวที่ถอนหมั้นแล้วออกเรือนอีกครั้งกลางถนน ความกล้าหาญนี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเอาไปเปรียบด้วยจริงๆ!

ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่อ "จาวหนิงเดิมทีก็ไม่ได้รู้จักมักจี่กับรัฐทายาทเซียวเท่าไรนัก ไม่ต้องพูดเรื่องความรู้สึกเลย ก็แค่การแต่งงานจากการหมั้นหมายของสองตระกูล รวมไปถึงเห็นแก่สุขภาพของท่านปู่ จึงทำให้ต้องจำใจแต่งงานกับรัฐทายาทเซียวก็เท่านั้น"

อ๋องเจวี้ยนในดวงตาเปล่งประกาย

ไม่ค่อยรู้จักมักจี่กับรัฐทายาทเซียวหรือ? นี่อยากบอกว่านางไม่ได้ชอบเซียวเหยียนจิ่งใช่ไหม?

"แต่ว่าจาวหนิงก็แสนจะโชคดี เกี้ยวเจ้าสาวยังไม่ทันหามเข้าจวนตระกูลเซียวก็มีคนทำให้ข้าได้เห็นธาตุแท้ของรัฐทายาทเซียว และได้พบกับชายหนุ่มที่ยอดเยี่ยมเหนือผู้อื่นอย่างอ๋องเจวี้ยน ทิ้งตาปลาคว้าไข่มุก จาวหนิงเลือกทำผิดหรือ? หรือว่าฮองเฮาคิดว่าที่จาวหนิงเลือกอ๋องเจวี้ยนเป็นสิ่งผิด?"

ตอนที่นางพูดคำนี้ก็หันไปมองอ๋องเจวี้ยน

อ๋องเจวี้ยนสีตาหม่นลงเล็กน้อย

ไทเฮาเองก็มองฟู่จาวหนิงอยู่ตลอด

หญิงสาวคนนี้กำลังเปลี่ยนความคิด ยิ่งไปกว่านั้นยังบีบให้ฮองเฮาพูดว่านางทำไม่ถูกไม่ได้ด้วย มิเช่นนั้นจะเท่ากับเขาสู้เซียวเหยียนจิ่งไม่ได้

ท่านอ๋องเซียวก็เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกับองค์จักรพรรดิเท่านั้น ลูกชายของลูกพี่ลูกน้อง จะมาเทียบกับลูกชายคนเล็กที่ไท่ซ่างหวงรักที่สุด น้องชายขององค์จักรพรรดิได้อย่างไร ไม่มีทางเทียบกันได้

ฮองเฮาต่อให้เกลียดชังอ๋องเจวี้ยนแค่ไหน ก็ไม่อาจพูดต่อหน้าองค์จักรพรรดิได้

"คุณหนูฟู่นี่ช่างปากคอคมคายเสียจริง"

ฮองเฮาประโยคนี้พูดออกมาจนเสียงดูเย็นชา

"ข้าก็แค่กังวลว่าอ๋องเจวี้ยนที่รีบร้อนแต่งงาน จะจัดงานได้ไม่ยิ่งใหญ่พอ แต่คุณหนูฟู่ก็พูดออกมาเสียมากมาย ปากนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ"

"เอาล่ะเอาล่ะ ในเมื่ออายวนก็ยอมรับแล้ว พวกเราไม่ต้องกังวลแทนเขาหรอก" ไทเฮาเอ่ยขึ้นบ้าง "ฤกษ์ดีแล้วใช่ไหม? ควรกราบไหว้ฟ้าดินได้แล้ว"

เมื่อไทเฮาเอ่ยขึ้น ฮองเฮาในใจจะไม่ยินดีเช่นไรก็พูดอะไรต่อไม่ได้แล้ว

องค์จักรพรรดิกลับมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตั้งใจ "เซียวหลันยวน เจ้าคิดจะรับฟู่จาวหนิงเป็นภรรยาจริงใช่หรือไม่ คิดดีแล้วนะ?"

อ๋องเจวี้ยนยังไม่ทันเอ่ยปาก ด้านนอกก็มีเสียงคนตะโกนขึ้นมา "เขาจะไม่แต่ง!"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2252

    "แต่ก็จะดูถูกพวกเขาไม่ได้ บางครั้งพวกงูพิษในที่มืดนั่นล่ะที่รับมือยากสุด""ข้าเข้าใจ" เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากผู้อาวุโสจี้คุยกับเขาต่ออีกสองสามคำ จากนั้นก็ทอดถอนใจออกมา "จะว่าไป ข้าเองก็เคยใฝ่ฝันถึงตงฉิงมาก ได้ยินว่าที่ตงฉิงมีภูเขาโอสถอยู่ บนภูเขามีสมุนไพรต่างๆ อยู่มากมาย และยังมีพวกผลไม้ ผิวไม้กิ่งไม้รากไม้ เถาวัลย์ที่เอามาใช้เป็นยาได้ กระทั่งยังมีพวกดินพวกหินที่ใช้ทำยาได้อีกด้วย""ภูเขาโอสถหรือ?" เซียวหลันยวนไม่รู้เลย พอได้ยินก็รู้สึกสนใจมาก "ผู้อาวุโสจี้ได้ยินมาจากไหนหรือ?""เรื่องนี้ข้าได้ยินมาจากเจ้าพันธมิตรคนก่อนน่ะ""เจ้าพันธมิตรโอสถคนก่อนหรือ?""ใช่ คิดแล้วคนนอกคงจะไม่ค่อยเข้าใจนัก อันที่จริงพันธมิตรโอสถใต้หล้าตอนแรกสุดเป็นเจ้าพันธมิตรโอสถคนก่อนสร้างขึ้นมา ต่อมาจึงส่งต่อมาให้เจ้าพันธมิตรคนปัจจุบัน""เจ้าพันธมิตรคนอื่นเคยไปภูเขาโอสถของตงฉิงมาหรือ?""ได้ยินเขาบอกว่าตอนยังเด็กมาก เคยหลงเข้าไปในภูเขาโอสถ แต่ว่าตอนนั้นตงฉิงสาบสูญไปแล้ว ภายหลังเขาออกมาจากภูเขาโอสถ พอจะหาทางกลับไปสถานที่นั้น พอเอาแผ่นที่แผ่นดินมากางดูแล้วก็พบว่า ภูเขานั้น น่าจะเป็นพื้นที่ในตงฉิง"

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2251

    ถังอู๋เยว่ตอนนี้ฝังเข็มไปแล้ว ถ้าสามารถได้หลับดีดีสักรอบ ฟื้นฟูจิตใจให้เต็มที่ ความอยากอาหารก็จะดีขึ้นไปด้วยการรักษาเขาต้องค่อยเป็นค่อยไป เร่งรีบไม่ได้และนางก็ต้องกลับไปจัดเรียงการวินิจฉัยวันนี้เสียหน่อย แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะกำหนดแผนการรักษาอย่างไร"ได้ ฟังเจ้าทั้งหมดเลย"ถังอู๋เจวี้ยนเดิมทีก็เชื่อมั่นฟู่จาวหนิงอยู่แล้ว วันนี้พอได้เห็นความเป็นมืออาชีพและความใส่ใจของนาง เขาก็ยิ่งไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ"ข้าจะส่งเจ้ากลับเรือนแขก" ถังอู๋เจวี้ยนเห็นเสี่ยวเยว่หลับลึก ก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยเฝ้าอยู่ที่นี่ฟู่จาวหนิงมาครั้งนี้ เสียเวลาไปนานโขอยู่เซียวหลันยวนกระทั่งหลับไปแล้วครู่หนึ่งแต่เขาก็ไม่ได้หลับลึก ให้ชิงอีเสี่ยวเยว่คอยสังเกตไว้ตลอด มีอะไรก็ให้มาเรียกเขาทันทีตอนที่ฟู่จาวหนิงถูกถังอู๋เจวี้ยนส่งกลับมา เซียวหลันยวนกำลังลงหมากกับผู้อาวุโสจี้ผู้อาวุโสจี้ก็ใช้ช่วงที่ลงหมากนี้ ถามการตัดสินใจของเขาต่อฟู่จาวหนิงหลังจากนี้ว่าเป็นอย่างไร จะพเนจรอยู่ข้างนอกนี้ตลอด มันก็ดูจะเหนื่อยเกินไปเขาไม่หวังให้ฟู่จาวหนิงต้องมีชีวิตแบบนั้นต่อให้เวลาผ่านไป บางทีจักรพรรดิเจาพอเห็นว่าพวกเขาไม่มีความคุก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2250

    ดังนั้น เสี่ยวเยว่จึงมีโอกาสที่จะช่วยได้แล้วจริงๆ"ก็ไม่ใช่ว่าหมอเหล่านั้นวิชาแพทย์แย่นักหรอก" ฟู่จาวหนิงยังคิดจะพูดให้หมอเหล่านั้นหน่อย "โรคนี้ของคุณชายน้อยถัง ที่จริงก็หาได้ยากมาก การไม่เคยมีประสบการณ์การรักษา ไม่มีตัวอย่างที่เทียบเคียงได้จริง จึงยากมากที่จะจ่ายยาให้"นางอยากจะบอกว่า จุดที่นางได้เปรียบคือมาจากยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นบนตัวนางยังมีห้องเภสัชที่เป็นพื้นที่ล้ำสมัย มีอุปกรณ์ต่างๆ นานา ระดับมาตรฐานวิชาแพทย์ก้าวล้ำกว่าตอนนี้ไปไม่รู้กี่ร้อยปีนางนั่นล่ะที่ไม่ปกติ แต่หมอคนอื่นนั้นปกติ จะรู้สึกว่าหมอเหล่านั้นไม่ได้เรื่องเพราะนางไม่ได้หรอก"เข้าใจ เป็นเพราะศิษย์น้องหญิงมีพรสวรรค์ ฉลาดปราดเปรื่อง วิชาแพทย์ของเจ้ายอดเยี่ยมน่าทึ่ง พวกเขาเทียบเจ้าไม่ได้ก็ไม่ใช่ความผิดพวกเขา"ถังอู๋เจวี้ยนหัวเราะขึ้นมาในรอยยิ้มมีประกายอยู่จนตอนที่ถังอู๋เยว่สงบลงมาได้ ฟู่จาวหนิงจึงฝังเข็มให้เขาฝังเข็มครั้งนี้ใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วยามและการฝังเข็มนี้ นางก็ยังพบปัญหาเข้าจริงๆ ชีพจรของถังอู๋เยว่มีจุดติดขัดอยู่หลายแห่งในขั้นตอนฝันเข็ม ถังอู๋เยว่ทนไม่ไหวผล็อยหลับไปแล้วบนตัวเขาอย่างน้อยมี

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2249

    ฟู่จาวหนิงอันที่จริงมีแผนการรักษาเบื้องต้นต่อโรคของถังอู๋เยว่แล้ว"ตอนนี้ข้าอยากจะฝังเข็มตรวจสอบชีพจรทั้งตัวของเจ้าก่อนว่ามีตรงไหนติดขัดหรือไม่ เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวกหรือเปล่า"ส่วนจุดที่ต้องใช้อุปกรณ์ในคลังยาพวกนั้น นางก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้มากแล้วถึงยังไงอาการเซลล์เสื่อมของถังอู๋เยว่ มีบางส่วนไม่อาจเกิดใหม่ได้แล้ว นางพูดไปพวกเขาก็คงไม่เข้าใจนางต้องเข้าไปค้นคว้าในห้องเภสัชอีกสักหน่อย แล้วค่อยดูว่าจะสามารถเจาะเลือดจากคนในตระกูลถังมาสักดเซลล์ที่จำเป็นให้ถังอู๋เยว่ได้หรือไม่นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเสร็จในวันสองวัน ตอนนี้ยังต้องตรวจสอบชีพจรให้เขาเสียก่อน"ศิษย์น้องหญิง ความหมายของเจ้าคือ เจ้ามั่นใจว่าจะรักษาเสี่ยวเยว่ได้แล้วหรือ?"พอตื่นเต้น พอดีใจ ถังอู๋เจวี้ยนก็อดเรียกว่าศิษย์น้องหญิงขึ้นมาไม่ได้ยังดีที่อ๋องเจวี้ยนตาเจ้าคนขี้หึงนั่นไม่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้น แค่พูดว่าศิษย์น้องหญิงคำเดียว อ๋องเจวี้ยนคงได้สงสัยว่าเขาคิดอะไรกับฟู่จาวหนิงแน่อันที่จริงเขาก็อธิบายไม่ถูก เขารู้ว่าตนเองชื่นชมฟู่จาวหนิงมาก และชอบนางมาก แต่ก็รู้สึกว่าความชอบนี้ไม่ใช่อาการใจหวั่นไหวกับหญิงสาวทำนองนั้น

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2248

    พอเห็นรอยยิ้มของนาง ถังอู๋เยว่ก็ถูกทำให้ติดไปด้วยแล้ว ความรู้สึกต่อต้านไม่พอใจในตอนแรกก็หายไปในพริบตา"หมอเทวดาฟู่หมายความว่ายอ่างไร?""ท่าทีกับอารมณ์ของเจ้า ดูดีมาก ยิ่งไปกว่านั้นการเลียงดูกับมารยาทของเจ้าเองก็ดีมากด้วย"ฟู่จาวหนิงไม่ได้พูดเพื่อปลอบเขา"โรคที่หาได้ยากเช่นนี้ ทั่วทั้งใต้หล้าอาจจะหาตัวอย่างโรคที่เหมือนกันคนที่สองไม่ได้แล้ว เจ้าเจอกับมัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นมาแล้วหลายปี แต่เจ้าก็ไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังพังทลาย ไม่กล่าวโทษคนอื่น ตอนที่หมอเข้ามา เจ้าก็ยังให้ความร่วมมือในการวินิจฉัย นี่เป็นท่าทีกับการอบรมสั่งสอนที่หาได้ยากยิ่ง"ถังอู๋เยว่ตกตะลึง เหลือบมองพี่ชายผาดหนึ่ง หลังจากนั้นก็ลังเลเอ่ยขึ้น "ก็ ก็ไม่ได้ดีแบบที่ท่านบอกหรอก อันที่จริงข้าก็เคยพังทลายมาก่อน เคยขว้างข้าวของ เคยด่าคนด้วย""ข้า ข้าเองก็ไล่หมอไปแล้วหลายคน ยิ่งไปกว่านั้นปกติข้าก็ไม่ค่อยพบคนด้วย เหล่าพี่น้องในตระกูลก็มาหาเพราะเป็นห่วงข้า ข้าเองก็ปฏิเสธพวกเขาไปจนหมด ข้าไม่อยากพบพวกเขาเลย พวกเขาคงคิดว่าข้ามีอารมณ์แปลกประหลาดแน่ๆ"คนในตระกูลไม่น้อยคงมีคนพูดว่าเขาแปลกประหลาด กระทั่งบอกว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดด้วยซ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2247

    เพราะกวางน้อยชอบฟู่จาวหนิง และด้วยของขวัญชิ้นนี้ที่ถูกใจถังอู๋เยว่ ทำให้การวินิจฉัยดรคต่อจากนี้ของฟู่จาวหนิงค่อนข้างราบรื่นบนพื้นฐานแล้ว นางถามอะไร ถังอู๋เยว่ก็จะตั้งใจตอบนางแต่ว่า ถังอู๋เจวี้ยนที่มองดูอยู่ข้างๆ ก็พบแล้วว่า ต่อให้จะถามวินิจฉัย วิธีการของฟู่จาวหนิงกับคำถามก็ยังทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายแต่ก่อนมีหมอ ใช้คำถามมาถามเสี่ยวเยว่ ทำให้เสี่ยวเยว่ฟังแล้วรู้สึกกีดกัน ต่อให้รู้ว่าตอบแล้วจะทำให้หมอเข้าใจอาการป่วยของตนเอง แต่เขาก็ยังตอบได้แบบฝืนๆมีบางคำถาม ทำให้ไม่อยากตอบเอาเสียเลยอย่างเช่นมีหมอที่ถามถังอู๋เยว่ว่า "ตำราแพทย์บางเล่มเขียนไว้ว่า หากผู้ชายมีการหลั่งน้ำเชื้อมากเกินไป จะทำให้ปราณชี่เสียหาย และหากกินยาที่มีฤทธิ์รุนแรง ก็จะทำให้คนเสื่อมได้เร็วขึ้น ขอถามคุณชายน้อยหน่อย ว่าท่านได้หมกมุ่นเรื่องพวกนี้อยู่หรือไม่?"เดิมทีก้เป็นคำถามที่ทำให้ถังอู๋เยว่รู้สึกอับอายอยู่แล้ว แม้เขาจะส่ายหัวไม่พูดอะไร แต่แพทย์ก็ยังถามต่อว่า "ไม่จำกัดแค่เรื่องของสตรีเท่านั้น การทำกับตนเองอย่างรุนแรงก็ด้วยเช่นกัน"คำพูดแบบนี้ ถังอู๋เยว่ตอบได้ลำบากมากยังมีคนถามอีกว่า "ได้ยินว่าคุณชายชอบอยู่คนเดีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status