หลานหรงพอเห็นฟู่จาวหนิงเข้ามา ในใจก็ลิงโลดพระชายายังไม่วางใจท่านอ๋องสินะ? เพราะเขาเห็นฟู่จาวหนิงสะพายกล่องยามาด้วยเช่นนี้ในใจท่านอ๋องก็คงจะดีขึ้นบ้างแล้วเมื่อครู่ท่านอ๋องออกไปพักหนึ่ง หลังจากกลับมาก็เข้าห้องปิดประตู กลิ่นอายทั้งตัวทำเอาคนสันหลังวาบจนไม่กล้าเข้าใกล้ต่อให้ไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง ก็ยังรู้ว่าอารมณ์ของเขาดิ่งวูบแค่ไหน"พระชายาท่านมาแล้ว"หลานหรงยกเสียงสูง หวังว่าท่านอ๋องในห้องจะได้ยิน"ท่านอ๋องของพวกเจ้าล่ะ?"ฟู่จาวหนิงมองประตูห้องที่ปิดสนิท"ท่านอ๋องอยู่ในห้องขอรับ..."พอสิ้นเสียงหลานหรง พวกเขาก็เห็นแสงเทียนที่ลอดออกมาจากหน้าต่างกระดาษดับลงทันที ในห้องมืดลงทันควันครึ่งประโยคหลังของหลานหรงจุกอยู่ตรงคอไม่ใช่สิ ท่านอ๋อง ท่านทำอะไรเนี่ย?ฟู่จาวหนิงเองก็ถูกท่าทีของเซียวหลันยวนทำให้โมโหเสียแล้ว"เซียวหลันยวน ข้ายังเป็นหมอของท่านนะ ข้าจะเข้าไปจับชีพจร แล้วรักษาต่อ!"นางพอคิดถึงการทำร้ายต่อตัวเขาของเสี่ยวชิ่น ก็รู้สึกว่าตนเองยอมถอยให้ก้าวหนึ่งได้ ดังนั้นต่อให้จะโกรธ ก็ยังอดระงับไฟโกรธในใจแล้วพูดออกมา"ไม่ต้อง ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ" ในห้องมีเสี
หลานหรงพอได้ยินการเคลื่อนไหว ก็ส่งองครักษ์ลับสี่คนแอบตามไปไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ปกป้องพระชายาให้ปลอดภัยคือเรื่องสำคัญที่สุด"นางออกไปแล้วหรือ?"ฟู่จาวหนิงพอออกไป เซียวหลันยวนก็ได้ข่าวชิงอีพอมองท่านอ๋อง "ออกไปแล้ว หลานหรงส่งคนตามไปเรียบร้อย แต่เป็นการแอบคุ้มครองลับๆ ไม่ได้ให้พระชายารู้ตัว""อืม""ท่านอ๋อง แต่พระชายาโกรธขนาดนี้ไม่เป็นไรหรือ?""มากไป"เซียวหลันยวนไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ต่ออย่างเห็นได้ชัดเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อตอนนี้คึกคักเอามากๆ จริงๆ คนบนถนนมากมายเต็มไปหมด ไหล่เบียดชนขวักไขว่ไปมาไม่หยุดถนนตรอกซอกซอยล้วนมีคนมาวางแผงขายของ ร้านรวงสองฝั่งก็ล้วนธงราวโบกสะบัด เถ้าแก่บริการเข้าออกคอยรับแขกเหรื่อสินค้ามากมายหลายประเภท ละลานตาไปหมด ทำเอาดูกันไม่หวาดไหวเลยทีเดียวร้านบางส่วนที่ขายดีหน่อย ด้านหน้าก็มีผู้คนล้อมกันจนเดินไม่ได้เสื้อผ้าที่คนบนถนนสวมก็มีมากมายหลากสีผู้คนที่เดินผ่านข้างกายฟู่จาวหนิง มักจะได้ยินภาษาที่แตกต่างกัน นางยังได้ยินภาษาหนานฉือด้วย ดูท่าคนจากแคว้นหนานฉือกู่ก็ยังมากันที่ต้าชื่อด้วยในอากาศมีกลิ่นต่างๆ ปนเปกันอยู่ส่วนมากล้วนเป็นกลิ่นหอม กลิ่นห
ฟู่จาวหนิงไม่ค่อยแน่ใจเสียแล้ว"การค้าของหออันดับหนึ่งดีเสียขนาดนี้ จะมีห้องชั้นสูงไว้ให้ตระกูลเสิ่นด้วยหรือ?""งานเทศกาลอวยพรสารทฤดูที่ผ่านๆ มาแม้จะไม่ได้คึกคักแบบปี้นี้ แต่ที่นี่ปลักๆ ก็มีแขกเต็มอยู่แล้ว แต่หออันดับหนึ่งก็จะเหลือห้องชั้นสูงเอาไว้ เพราะตระกูลฮั่วจะเหลือไว้สองห้องเตรียมไว้ตลอดเวลา อย่างมากพวกเขาก็เอาห้องของตนเองนั้นออกมาให้นั่นล่ะขอรับ""ปีนี้คึกคักขนาดนี้ น่าจะเพราะองค์หญิงใหญ่กลับเมืองหลวง"คนเยอะเหลือเกิน...วันนี้พวกเขาเบียดกันมาครึ่งเช้าจนรู้สึกเหนื่อยหน่อยๆ แล้วฟู่จาวหนิงที่เพิ่งเตรียมจะเข้าไป ด้านหลังก็มีคนเบียดเข้ามา"หลีกหน่อยๆ อย่ามาขวางข้าที่จะกินเห็ดเชียนเสวี่ย!""คุณหนูระวัง"สืออีรีบคุ้มครองฟู่จาวหนิงทันที สือซษนพลิกมือแหวกทางอีกฝ่ายเพราะคนกลุ่มนั้นเบียนดเข้ามาค่อนข้างรุนแรง ฟู่จาวหนิงเกือบถูกพวกเขาเบียดไปชนกับโครงประตู เสี่ยวชิ่นเซไปข้างๆ ยังดีที่ไป๋หู่ประคองตัวนางไว้ ไม่เช่นนั้นคงได้ล้มลงไปแล้วสือซานตอนนี้จึงพลิกมือ ผลักอีกฝ่ายโซเซจนไปชนพวกเดียวกันพวกเขาโมโหขึ้นทันที เดิมทีที่คิดจะรีบพุ่งเข้าไป ตอนนี้ทั้งหมดก็หยุดลงหันตัวกลับมา ถลึงตามอง
"คุณหนู" สีหน้าเสี่ยวชิ่นไม่ค่อยดีนัก "โหวผิงเอินเป็นพวกสืบทอดบรรดาศักดิ์ โหวผิงเอินคนแรกเป็นลูกพี่ลูกน้องกับจักรพรรดิองค์ที่แล้ว นับเป็นสมาชิกอาวุโสของราชวงศ์ น้องสาวของโหวผิงเอินเป็นพระชายาหมิ่นในวังอยู่ตอนนี้""ได้รับการโปรดปรานหรือ?""โปรดปรานเอามากๆ"เดิมทีบรรพบุรุษก็เป็นเชื้อพระญาติในราชวงศ์ เป็นขุนนาง ตอนนี้ในบ้านยังมีพระชายาคนโปรดอีกคนหนึ่ง ไม่แปลกที่โหวผิงเอินนี่จะกำเริบเสิบสานได้ขนาดนี้ด้านหลังพวกเขามีคนกระซิบกระซาบ เถ้าแก่ของหออันดับหนึ่งมีบริกรไปอ้อนวอน จึงรีบวิ่งตรงเข้ามาสมกับที่เป็นเถ้าแก่ใหญ่ของหออันดับหนึ่ง สวมเสื้อผ้าไหมหรูหราสีน้ำตาล ดูแล้วยังทรงสง่ายิ่งกว่าพวกนายท่านผู้ดีมีเงินทั่วไปเสียอีกเขาพอมาถึงก็รีบคารวะให้กับโหวผิงเอิน"ท่านโหวมาหรือ? แล้วยังมีเหล่ารัฐทายาทกับคุณชายอีก มากันหมดเลยหรือ? เห็ดเชียนเสวี่ยอีกครู่หนึ่งก็ทำเสร็จแล้ว ทุกท่านรีบขึ้นไปด้านบนเถิด อย่าเพิ่งยุ่งกับคนเหล่านี้เลย อารมณ์ดีเข้าไว้ อีกเดี๋ยวร่ำสุรากินอาหารจะได้ยิ่งเบิกบาน"เขาเข้าง้อพวกของโหวผิงเอินทันทีพี่ชายบริการอีกคนก็รีบส่งสัญญาณมือพูดกับพวกไป๋หู่"พวกท่านก็รีบเลี่ยงออกไปเถิด
เถ้าแก่ใหญ่เองก็ร้อนรนขึ้นมาถ้าหากหออันดับหนึ่งเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาเองก็เดือดร้อนยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่อล้วนมากินข้าวกันที่หออันดับหนึ่งกันทั้งนั้น เช่นนั้นพวกเขาถ้าปกป้องได้แค่ไหนก็ต้องทำ ทว่าตอนนี้ดูจะปกป้องคนเหล่านี้ไม่ไหวแล้ว"ไม่อย่างนั้น รอท่านโหวกินเห็ดเชียนเสวี่ยเสร็จก่อนค่อยว่ากันดีไหม? ถึงอย่างไรเห็ดเชียนเสวี่ยถ้าแช่น้ำแล้ว ต้องฝานแผ่นลงหม้อภายในหนึ่งเค่อ ตอนนี้ในครัวเองก็เตรียมจะฝานแผ่นแล้วด้วย ถ้าเสียเวลาไปคงไม่ดีนัก"คิดไม่ถึงว่าพอเถ้าแก่ใหญ่พูดถึงเรื่องนี้ ก็หยุดโหวผิงเอินไว้ได้จริงๆ"อย่างนั้นหรือ?""ท่านโหว พวกเราเดิมทีก็มาเพื่อเห็ดเชียนเสวี่ย จะให้พวกแมลงไม่กี่ตัวนี้ทำพวกเราเสียเวลาไม่ได้นะ" ชายอ้วนอีกคนก็เอ่ยตามขึ้นมา"ได้ เช่นนั้นก็เห็นแก่หน้าเห็ดเชียนเสวี่ยแล้วกัน"โหวผิงเอินชี้พวกไป๋หู่ "แต่คนพวกนี้ยังไปไหนไม่ได้ ให้อยู่ที่นี่ไปก่อน ให้พวกเขาเห็นพวกเรากินกันจนอิ่มหมีพีมันก่อน แล้วพวกเราค่อยไปชำระหนี้""ถูกต้องถูกต้อง"คนเหล่านั้นพอโบกมือ ด้านนอกก็มีพวกคนคุ้มครองเรือนล้อมกรอบเข้ามาทันที ขวางทางพวกไป๋หู่เอาไว้นี่คือไม่ให้พวกเขาออกไปจริงๆ"ไปๆๆ ขึ้นชั้น
"ฮ่าๆๆ น่าสนใจ นิสัยดุดันเสียด้วย"เขาเห็นพวกของไป๋หู่ตามเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง ก็อดปรบมือพูดขึ้นมาไม่ได้ "ที่แท้พวกเขาก็เป็นองครักษ์สาวงามนี่เอง? มิน่าอารมณ์ถึงเป็นแบบเดียวกับเจ้า ถ้าเจ้าเงยหน้าขึ้นมาเร็วกว่านี้ ข้าเองคงจะอ่อนโยนขึ้นบ้างแล้ว""โหวผิงเอินสินะ? เจ้ากำเริบเสิบสานต่อไปเถอะ เจ้าแบบนี้ก็ดูลับๆ ล่อๆ ดี""ฮ่าๆ ข้าชอบที่สาวงามมาชมข้าแบบนี้ มาๆๆ มานั่งนี่ จะให้สาวงามยืนแกร่วได้อย่างไร? มานั่งนี่มา เดี๋ยวข้าจะป้อนเห็ดเชียนเสวี่ยให้เจ้าสักคำ!"ฟู่จาวหนิงก็เดินตรงไปทางเขาจริงๆเสี่ยวชิ่นร้อนรน "คุณหนู!"สืออีเองก็หน้าเปลี่ยนสีแล้วแม้จะรู้ว่าฟู่จาวหนิงเองก็มีฝีมือพอตัว บนตัวมีเข็มพิษอยู่ไม่น้อย ไม่ค่อยจะเสียเปรียบใคร แต่ก็ยังกลัวว่านางจะเกิดเรื่องอยู่ดีแต่ฟู่จาวหนิงโบกมือให้พวกเขาจากทางด้านหลัง เป็นสัญญาณว่าไม่ต้องตามมาตอนที่ฟู่จาวหนิงใกล้จะเดินไปอยู่ข้างๆ โหวผิงเอิน เถ้าแก่ใหญ่ก็วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น"ท่านโหว วันนี้เกรงว่าคงจะไม่ได้กินเห็ดเชียนเสวี่ยแล้ว ข้าน้อยจึงรีบขึ้นมาขอโทษท่านโหวเสียก่อน ท่านโหวกับเหล่าคุณชายโปรดสั่งอาหารอื่นเถิด?""เจ้าว่าอะไรนะ?"โหวผ
ฟู่จาวหนิงรีบวิ่งลงไปชั้นล่างสืออีพวกเขาเองก็รีบตามไป ตอนนี้โหวผิงเอินสนแต่จะเข้าไปคุยกับองค์ชายสอง เตรียมจะไปอาละวาดกับหออันดับหนึ่ง จึงไม่ได้สนใจพวกเขาเลย"พวกเจ้าห้ามเข้าไป"ฟู่จาวหนิงตอนวิ่งมาถึงห้องครัวก็ถูกคนห้ามเอาไว้"ไป๋หู่" นางร้องขึ้นทันทีพวกของไป๋หู่เข้ามา กันผู้ช่วยพ่อครัวไว้ ให้ฟู่จาวหนิงวิ่งเข้าไปได้อย่างสะดวกด้านหลังครัวมีเรือนเล็กอยู่หลังหนึ่ง ใต้ชายคามีเก้าอี้ยาวหลายตัววางไว้ ตอนนี้มีคนนอนอยู่บนเก้าอี้ยาวหลายตัวนั้น ข้างๆ มีคนล้อมเขาอยู่ ล้วนลนลานทำอะไรกันไม่ถูกและพ่อครัวซุนที่นอนอยู่ยังมีอาการชักอยู่ฟู่จาวหนิงพอเห็น สีหน้าก็เปลี่ยนไปรีบวิ่งมาด้วยและกำชับขึ้นด้วย "กันพวกเขาออก"ตัวนางเองพุ่งตรงไปยังพ่อครัวซุน "หลีกไป อย่ามาล้อมดูเขา!""เจ้าเป็นใครน่ะ? เจ้าเข้ามาที่นี่ทำอะไร?"คนเหล่านั้นดูแล้วน่าจะเป็นคนที่คอยช่วยในห้องครัว ตอนนี้ล้อมกันอยู่ข้างๆ พ่อครัวซุนฟู่จาวหนิงไม่สนพวกเขา พอเดินเข้าไป ก็ยกมือหนีบเข็มออกมา แล้วแทงลงไปบนหัวของพ่อครัวซุนทันที"เจ้าทำอะไรน่ะ!"คนข้างๆ ตกตะลึง รีบจะยื่นมือเข้าไปตบนาง แต่พอจะลงมือก็ถูกพวกไป๋หู่กับสืออีแยกออกมาแล้
เถ้าแก่ใหญ่เองก็เหงื่อตกฝ่ามือ"คนอื่นห้ามแทงมั่วซั่ว แต่คุณหนูพวกเราทำได้ ไม่ใช่สิ คุณหนูของพวกเราเองก็ไม่ได้แทงมั่วซั่ว นางกำลังรักษาอาการป่วย" ไป๋หู่เอ่ยขึ้น"พ่อครัวซุนถ้าหากเกิดตายขึ้นมา นั่นจะไม่ใช่ความผิดของนางหรอกหรือ?" โหวผิงเอินหัวเราะเย็นชาขึ้นมาพูดตลกอะไร หญิงสาวที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบคนนี้น่ะหรือเป็นหมอเทวดา?สืออีตอบอย่างไม่ต้องคิด "ถ้าท่านพูดแบบนี้ หลังจากนี้ป่วยจนตายไปก็ไม่มีหมอใหญ่คนไหนกล้ามารักษาให้หรอก""เจ้าพูดว่าใครจะป่วยตาย?!"โหวผิงเอินโมโหขึ้นมา นี่ไม่ใช่กำลังแช่งเขาหรือ?ตอนที่เขากำลังจะถลกแขนเสื้อ องค์ชายสองก็กดบ่าเขาไว้ "โหวผิงเอิน ใจเย็นๆ อย่าบุ่มบ่าม"โหวผิงเอินหงุดหงิด แต่ก็ไม่กล้าคัดค้านองค์ชายสองน้องสาวเขาแม้จะเป็นพระชายาคนโปรด แต่เสด็จแม่ขององค์ชายสองเองก็เป็นพระชายาคนโปรดเช่นกัน ยิ่่งไปกว่านั้นมีความรักกับองค์จักรพรรดิมาตั้งแต่เยาว์วัยด้วยองค์จักรพรรดิโปรดปรานพระชายาหมิ่น แต่ก็ยังเคาระต่อเสด็จแม่ขององค์ชายสองอยู่พอสมควรองค์ชายสองพูดออกมาแล้ว คนทั้งหมดจึงไม่กล้าขยับ ล้วนยืนอยู่ที่นี่มองดูฟู่จาวหนิงช่วยชีวิตคน"เจ้าว่า นางถูกพวกเราจ้องมองเ
คิดไม่ถึงว่าตรงนี้ยังมีเรื่องของนางอยู่ด้วย?"ข้าน้อยพบว่า สินค้ามากมายของนายท่านเจี๋ยเป็นของที่ฮูหยินอู๋คนนั้นให้มา ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านเจี๋ยก็ยังฟังคำพูดฮูหยินอู๋มากด้วย ฮูหยินเฉิงคิดว่านายท่านเจี๋ยชอบนางมากจริงๆ แต่อันที่จริงคนที่นายท่านเจี๋ยชอบคือฮูหยินอู๋"เซียวหลันยวนขมวดคิ้วพูดไปพูดมาก็ยังวกอยู่กับความรักของคนสามคนนั้น? สับสนยุ่งเหยิงไปหมดแต่เซียวหลันยวนเองก็รู้ว่าคนผู้นี้พอพูดถึงฮูหยินอู๋แล้ว เรือ่งก็น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาจึงระงับความรำคาญแล้วฟังต่อไป"นายท่านเจี๋ยมาที่เมืองจื่อซวี เป็นคำสั่งของฮูหยินอู๋ และที่นายท่านเจี่ยเลือกฮูหยินเฉิง ก็เป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย นายท่านเจี่ยให้ข้าไปคัดคน ให้พวกเขาขึ้นยอดเขาโยวชิงหาตัวพระชายามารักษาโรค น้ำเสียงที่บอกกับข้ามาตอนนั้น ก็เหมือนจะเป็นเจตนาของฮูหยินอู๋ด้วย"ฟังถึงจุดนี้ เซียวหลันยวนก็หน้าขรึมลง"ดังนั้น นี่เป็นคำสั่งของตระกูลอู๋รึ?""เรียนท่านอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่กล้ายืนยัน พูดได้แค่ว่าข้าน้อยได้ยินมาคือแบบนี้ ไม่กล้าปิดบังท่านอ๋อง เพื่อไม่ให้ท่านอ๋องตรวจสอบผิดทิศทาง""ให้เงินประชาชนพวกนั้นไปเท่าไร?""
พอได้ยินว่าหวดแส้ห้าสิบที แล้วยังสาดน้ำเกลืออีก คนติดตามคนนั้นก็พับยวบลงไป"อ๋องเจวี้ยนโปรดไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!""ตี" เซียวหลันยวนไม่มีปราณี พอเห็นว่าไม่ว่าเขาจะอ้อนวอนอย่างไรก็คิดจะตีลงมาฟาดแสห้าสิบที ชีวิตคงไม่เหลือแน่ๆ"ข้าบอกข้าบอกแล้ว!" คนติดตามตกใจจนน้ำหูน้ำตาไหลชิงอีเห็นเขาก็ร้องหึในลำคอ"ขี้ขลาดแบบนี้ ยังกล้าคิดจะวางแผนทำร้ายพระชายาเราอีก?"ยังคิดว่าจะแข็งกร้าวหน่อย ที่แท้ก็แค่นี้เอง?"ข้าน้อยแต่ก่อนเคยอยู่ที่เมืองหลวงจริงขอรับ เป็นญาติบ้านฝ่ายหญิงฮูหยินรองแห่งจวนตระกูลซ่งในเมืองหลวง"จวนตระกูลซ่ง ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยายังเป็นท่านหญิง จวนตระกูลซ่งทุกวันก็เต็มไปด้วยรถม้าสัญจรไปมา เป็นตระกูลที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูซ่งอวิ๋นเหยาคิดจะทำร้ายฟู่จาวหนิง นางกับตระกูลซ่งถูกเซียวหลันยวนถอนรากถอนโคน ตอนนี้ในเมืองหลวงไม่มีจวนตระกูลซ่งอยู่อีกแล้วเซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้คิดว่าที่นี่จะมีคนที่เกี่ยวข้องไปถึงจวนตระกูลซ่งอยู่ด้วย"หลังจากจวนตระกูลซ่งเกิดเรื่อง ครอบครัวของเราเองก็ล้วนหดหัวใช้ชีวิตกัน พวกเพื่อนๆที่เคยเรียกกันเป็นพี่น้องของข้าก็ทอดทิ้งข้าไม่สนใจข้า ร้านรวงที่เกี่ยวข้องกับจว
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่พวกนางก่อนหน้านี้ทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนั้นแท้ๆ และรู้ว่าหล่อนต้องไม่ชอบนางแน่ แต่ก็ยังวิ่งแจ้นมาโผล่ตรงหน้าเรียกร้องความสนใจอยู่เรื่อยในเมื่อกระทั่งเซียวหลันยวนก็ยังปล่อยวางแล้ว เช่นนั้นก็ควรจะอยู่ห่างจากนางหน่อยถึงจะถูก"นี่ท่าน...""หลบไปเถอะ"ฟู่จาวหนิงผลักนางออกไปข้างๆ เดินผ่านข้างตัวนางไป"ฟู่จาวหนิง!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดจะยื่นมือไปดึงนาง แต่เสี่ยวเยว่ก็เข้ามาขวางแทนฟู่จาวหนิงแล้ว "องค์หญิงใหญ่โปรดสำรวมด้วย"อย่าเอาแต่พัวพันกับคุณหนูของพวกเขาให้ตายสิ แค่เพื่ออ๋องเจวี้ยนคนเดียว องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพัวพันคุณหนูของพวกนางนานเกินไปแล้วองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นทำได้แค่มองฟู่จาวหนิงเดินจากไปนางกัดฟัน เต็มไปด้วยความจนใจและผิดหวังเซียวหลันยวนลงเขาไป เพียงไม่นานก็ตรวจสอบจนเจอคนที่ยุยงคนเหล่านั้นให้ขึ้นไปหาฟู่จาวหนิงบนยอดเขาโยวชิงแม้จะไม่ใช่ฮูหยินเฉิง แต่ก็เกี่ยวข้องกับฮูหยินเฉิงอยู่ระดับหนึ่งหลังจากเจ้าอุทยานเฉินตายไป มีพ่อค้ามั่งคั่งคนหนึ่งนำขบวนพ่อค้าผ่านเมืองจื่อซวี ตนเองก็คิดไม่ถึงว่า จะสามารถทำกำไรอย่างมา
"แต่ที่ข้าเห็นในการทำนายดารา ถ้าหากข้ายังอยู่กับอ๋องเจวี้ยน สุด้ายข้าก็ถูกท่านฆ่าตายอยู่ดี! ท่านรู้ไหมว่าทำไมท่านถึงมาฆ่าข้า? เพราะท่านกับอ๋องเจวี้ยนอยู่ด้วยกันตลอด หลังจากนี้ก็จะเจอความยากลำบากครั้งใหญ่ด้วยกัน เรื่องเหล่านั้นจะกดดันตัวท่าน ทำให้ท่านพังทลาย ตอนนั้นท่านก็บิดเบี้ยวไปหมดแล้ว เอาแต่จะเกาะเขาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวทั้งหมดที่เข้าใกล้อ๋องเจวี้ยน ท่านล้วนเกลียดชัง ล้วนคิดจะฆ่าทิ้งให้หมด!"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลัวฟู่จาวหนิงไม่ฟัง ดังนั้นจึงพูดออกมาอย่างรวดเร็วและร้อนรนนางยื่นมือจะจับแขนฟู่จาวหนิง แต่ก็ถูกฟู่จาวหนิงเบี่ยงออก"จริงนะ แม้ข้าจะถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว แต่สุดท้ายสภาพเจ้าแบบนั้นก็น่ากลัวมาก! เจ้าเปลี่ยนไปหมด เหมือนนางปีศาจไม่มีผิด ไม่ใช่หมอเทวดาที่ผู้คนยกย่องอีกแล้ว ไหนๆ ก็รู้จักกันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ล้วนเป็นหญิงสาว ท่านเองก็ยังเคยรักษาโรคของข้ามาแล้ว ข้าไม่อยากเห็นท่านกลายเป็นแบบนั้นในตอนท้ายเลยจริงๆ!""ถึงตอนนั้น อ๋องเจวี้ยนก็จะรังเกียจท่าน ไม่ดีกับท่านอีกแล้ว สุดท้ายพวกท่านก็จะเกลียดชังกัน ข้าไม่เห็นว่าตอนสุดท้ายพวกท่านเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายท่านก็สู้เขาไม่ได
ฟู่จาวหนิงรู้ เซียวหลันยวนเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่จะโหดร้ายกับประชาชน น่าจะเพราะพวกเขาทำเกินไปกันจริงๆนอกจากด่านางบีบคั้นนางแล้ว ยังมีความรู้สึกทรยศอยู่บ้างต่อสิ่งที่เขาทำไว้มากมายในอดีตเซียวหลันยวนไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่ และยังมีอีกจุด เรื่องครั้งนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เบื้องหลังจะต้องมีคนกำลังยุยงประชาชนพวกนั้นอยู่แน่นอนนางเดาว่าเซียวหลันยวนรู้จุดนี้ ดังนั้นจึงพาคนลงจากเขาฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รำคาญอยู่ เดินทางมายอดเขาโยวชิงนับพันลี้ ใครจะคิดว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้ลับหลัง แล้วยังพุ่งเป้ามาที่นางอย่างเห็นได้ชัดนางผิดใจคนไปเท่าไรแล้วกันนะ?ฟู่จาวหนิงบอกไม่สนก็คือไม่สน ออกไปเดินเล่นทันที หลังจากมาถึงนางยังไม่ได้ไปดูจริงๆ เลยว่าอารามโยวชิงมีหน้าตาอย่างไรทิวทัศน์ในอารามโยวชิงสง่างดงามมาก แต่ละจุดล้วนเป็นทิวทัศน์หมด มีกระทั่งมุมเล็กๆ ที่เห็นได้ถึงความใส่ใจ อย่างเช่นใต้ระเบียง ก้อนหินซ้อนเรียงกันสามก้อน บนก้อนหินยังมีตะไคร่เป็นภาพทิวทัศน์เล็กๆ มีต้นกล้าเล็กๆ โตอยู่ในรอยแยกหิน นั่งอยู่ราวระเบียง พอเห็นภาพนี้ก็จะถูกดึงดูดไปหรือบนหน้าต่างหินที่แกะสลักดอกหยวนเซียวห้อยลงมา ข้า
ฟู่จาวหนิงกินข้าวเช้าแล้วแต่เซียวหลันยวนก็ยังไม่กลับมา จึงให้สืออีไปหาสืออีเองก็ออกไปพักหนึ่งถึงกลับมา ดูท่าทางโมโหหน่อยๆ ด้วย หลักๆ คือได้ยินว่าคนพวกนั้นพูดอะไรกันนั่นล่ะแต่ต่อมาการกระทำของเซียวหลันยวนก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมากหลังจากกลับมาก็เลือกคำพูดส่วนหนึ่งมาบอกกับฟู่จาวหนิง"ท่านอ๋องไล่คนออกไปแล้วขอรับ และคนเหล่านั้นไม่ใช่ว่าลงเขาไปแล้วจะไม่เป็นไร พวกขเาคงไม่รู้แน่นอนว่าผลลัพธ์จะรุนแรงแค่ไหน""ท่านอ๋องหลายปีนี้ก็ช่วยเหลือจื่อซวีเอาไว้มาก ก่อนหน้านี้การค้าขายและเส้นทางการค้าส่วนหนึ่งของเจ้าอุทยานเฉิน ก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่จัดคนมาช่วยเหลือ การสนับสนุนลับๆ พวกนี้คงจะขาดหายไปด้วยแล้ว จื่อซวีหลังจากนี้ไม่มีทางจะคึกคักแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก""และยังมีร้านยาในเมืองอีก วัตถุดิบยาเหล่านั้นก็ล้วนเป็นท่านอ๋องที่ออกเงินอุดหนุน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าวัตถุดิบยาในเมืองนี้จะขายได้ถูกแบบนั้นหรือ? แล้วก็หมอเฉียวในเมืองนั่นอีก ก็เป็นท่านอ๋องที่จัดมาให้ ทุกปีท่านอ๋องก็ให้เงินเขาก้อนหนึ่ง ดังนั้นค่ารักษาของเขาจึงเก็บแค่พอเป็นพิธี"หลายปีนี้อุทยานเขาเฉิงอวิ๋นผิดใจกับใครไว้ ตอนที่ทำอะไรด้านนอก
คนตายไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร"อ๋องเจวี้ยน...""ไสหัวไป"เซียวหลันยวนพอโบกมือ กำลังภายในก็พัดพวกเขาลอยออกไป"จำไว้ เป็นข้าที่ไม่ให้พระชายาออกมาพบพวกเจ้า"มีเรื่องอะไรก็ซัดมาทางเขานี่หลายปีนี้เขาตอบแทนให้เมืองจื่อซวีไม่น้อยแล้วจริงๆคนพวกนี้ล้มแล้วล้วนลุกกันไม่ขึ้น หน้าขาวซีด ไม่ว่าจะป่วยจริงป่วยปลอม ตอนนี้ไม่มีคนไหนที่แกล้งแล้ว รู้สึกเสียใจกันขึ้นมาจริงๆเซียวหลันยวนหมุนตัวจากไป หลังจากออกไปก็เหล่มองซางจื่อผาดหนึ่ง"ถ้าคนพวกนี้ยังไม่ไป หรือลงจากเขาไปแล้วข้ายังได้ยินคำก่นด่ากล่าวโทษพระชายาอีกล่ะก็ ข้าจะจัดการครอบครัวเขาเสียให้หมด"ซู๊ดซางจื่อจนใจ "เชื่อว่าพวกเขาไม่กล้าแน่""เมืองจื่อซวีไม่ใช่ที่ที่พวกเขาจะมาตัดสินใจได้ ถ้าข้าพูดพฤติกรรมวันนี้ของพวกเขาให้ชาวเมืองฟัง ลองดูว่าชาวเมืองจะคิดว่าพวกเขาทำถูกหรือไม่"พอได้ยินคำนี้ของเซียวหลันยวน คนเหล่านั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไปพวกเขายังไม่รู้ที่ไหนว่าตนเองทำอะไรผิดไป?ประชาชนคนอื่นไม่กล้ามาทำแบบนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนอีกไม่น้อยที่รอให้พระชายามีเวลาลงเขาไปเพื่อตรวจรักษาการกุศล พวกเขายังได้ยินอีกว่า มีบางคนเตรี
สายตาเซียวหลันยวนกวาดไปทางพวกเขาอย่างเย็นชา มองดูปฏิกิริยาของพวกเขา"สิบหกปีก่อน รู้ว่าที่เมืองจื่อซวีนี้ไม่มีหมอ จะรักษาทีก็ลำบาก เจ้าอุทยานเฉินของอุทยานเขาเฉิงอวิ๋นก็กังวลมาก เพราะพ่อของเขาก็ป่วยตายที่นี่ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นแผลในใจเขา อต่ว่าในเมืองตอนนั้นก็ยากจนมาก การเดินทางสัญจรก็ติดขัด นอกจากหมอเท้าเปล่าที่เป็นคนในท้องถิ่นแล้ว จะไม่มีหมอคนอื่นเข้ามาเปิดโรงหมอที่นี่"คำพูดเหล่านี้ของเซียวหลันยวน ทำให้พวกเขาอดเงียบลงมาไม่ได้ สีหน้าเองก็ซับซ้อนขึ้นมาก็จริง พวกเขาในฐานะประชาชน แล้วยังอายุปูนนี้กันแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องรู้อยู่แล้ว"ดังนั้น เจ้าอุทยานเฉินจึงคิดว่า ขอแค่ให้เมืองคึกคักขึ้นมา ก็สามารถดึงดูดหมดมาได้ และอาจจะทำให้ทุกคนมีเงินขึ้นมาบ้าง บางคนคนของตนเองอาจจะเปิดโรงยา แล้วเชิญหมอมาประจำได้""หมอเฉียวที่เมือง ไม่ใช่ว่าถูกเชิญมาสิบปีแล้วหรือ? ถึงเขาจะไม่ได้เป็นหมอเทวดา แต่วิชาแพทย์ก็ถือว่าดีอยู่ พวกปวดหัวเป็นไข้ หกล้มกระแทกฟกช้ำ เขาก็รักษาได้หมด เขาเองก็เปิดโรงยาด้วย ยาในร้านก็ขายในราคาต่ำสุดให้กับประชาชน"ตอนนี้ซางจื่อพูดความเป็นจริงออกมา"อันที่จริงร้านยานี้ ก็เป็นท่านอ
ซางจื่อขมวดคิ้ว เขาได้ยินเสียงฝีเท้าอ๋องเจวี้ยน แต่ยังไม่ได้ยินเสียงของเขา หรือว่านี่ยังจะคอยดูว่าคนเหล่านี้ยังจะพูดอะไรออกมาอีก?เขารู้สึกว่า คนเหล่านี้ยิ่งพูดอีกมากแค่ไหน อย่าว่าแต่พวกเขากำลังป่วยเลย อ๋องเจวี้ยนคงจะให้พวกเขาไปตายๆ กันให้หมดเสียด้วยซ้ำเขาถอนหายใจ ยกเสียงสูงขึ้นมา"ทุกคนฟังข้าพูดหน่อย อ๋องเจวี้ยนแม้จะเคยอยู่ในยอดเขาโยวชิง แต่เขาก็ไม่ได้ติดค้างสิ่งใดกับประชาชนที่เมืองเลยนะ ยิ่งไปกว่านั้น พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็เรียนแพทย์มาก่อนที่จะแต่งงานด้วย ไม่ใช่คอยรักษาแต่เฉพาะคนชั้นสูงอย่างที่พวกท่านเจ้าพูดกัน พระชายาเป็นคนจิตใจดีงาม แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเจ้าจะมาคุกคามด้วยวาจาได้แบบนี้""อาจารย์น้อยซางจื่อ ท่านพูดแบบนี้พวกเราไม่เห็นด้วยนะ พวกเรามาคุกคามนางตรงไหน?""ใช่เลยใช่เลย ถ้าพวกเราจะคุกคามนาง ยังต้องลำบากลำบนปีนเขาขึ้นมาตั้งแต่ฟ้าไม่สางทำไม? ให้นางตั้งโต๊ะตรวจที่ด้านล่างเขาก็พอนี่?"ซางจื่อโมโหขึ้นแล้ว"ปกติยอดเขาโยวชิงก็เป็นกันเองกับทุกคน แต่ตอนนี้พวกเจ้าฟังบ้างไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา? นางเป็นถึงพระชายา ยังต้องมาถูกพวกเจ้าคุกคามให้ไปรักษาโรคให้พวกเจ้ารึ? ต่อให้นางไม