“เจ้าเขินอายเยี่ยงนี้ ข้าไม่กวนใจเจ้าแล้ว”
โอ้โห้ขึ้นเลยสำคัญตัวผิด
“ใครบอก ฝ่าบาทพูดเองคิดเอง ข้าพระองค์แค่คิดถึง...คนรักเก่า”
คิ้วคมขมวดเข้าหากันแสดงอาการไม่พอใจ
“เจ้าเมื่อมาอยู่ในตำหนักข้า ก็คงจิตใจบอบซ้ำจะคิดฆ่าตัวตายก็ไม่แปลก แต่คำพูดนั้นตรงไปหน่อย กิริยาไม่แน่ว่าเป็นหญิงงาม”
ล้ำลึกจริงๆ คำพูด
“การเป็นหญิงงามก็เหมือนดอกเหมยยามโดนลมหนาว ไหวเอนก็เพียงนิดหน่อยจะแกว่งไกวก็คงไม่เหมาะ เพราะดอกเหมยถูกสร้างมาเพียงเพื่อทานลมหนาว”
โอ้แพรวา เจอ คำคมล้วนๆ เป็นดอกเหมยก็ขอเป็นดอกเหมยสีแดงละวะจัดจ้านดี
“ฝ่าบาทว่าข้าพระองค์ฆ่าตัวตายมิสู้ เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าหม่อมฉันตกลงไปในน้ำได้อย่างไร”
“เจ้าร่วงลงมาจากสะพานหรือที่ไหนไม่อาจรู้ได้ อย่างนั้นข้าจึงเรียกเจ้าว่าเฟยลี่ ข้าเองกำลังหารือกับเสนาบดีอยู่ อากาศหนาวเช่นนั้นใครจะลงไปช่วย”
นึกย้อนไปเมื่อครั้งรับเสื้อคลุมมาจาก เสี่ยวโอขันทีน้อย คลุมร่างบางที่เปียกปอนจนเสนาบดีสองสามคนต้องลงทุนคุกเข่าทัดทานว่าเสื้อคลุมมังกรจะใช้คลุมให้หญิงสาวนั้นไม่อาจทำการเป็น ผู้อยู่สูงสุดของแผ่นดีนี่มันยากลำบากนัก
“แล้วฝ่าบาททรง เห็นวัตถุอื่นใดไหม”
เผื่อจะเห็นรถคันโปรดของเธอ
“วัตถุใด คาดว่าจะไม่เห็น....นอกจาก....”
นึกเห็นทรวดทรงองค์เอวเมื่อยามเปียกปอน กับอาภรณ์ที่ห่อหุ้มประหลาดตาเหลือเกิน แต่กลมกลืนกับร่างสวยที่สวมใส่ยิ่งยามเปียกน้ำ อมยิ้มทันที
“นอกจากอะไร”
ยิ้มโลกสว่างนั้น แพรวาไม่อาจละสายตา
“รู้ ไม่สู้ไม่รู้ อยากบอกไม่อาจบอก ไว้โอกาสหน้าเจ้ามีข้อแลกเปลี่ยน”
อะหะ หัวหมอเจ้าเล่ห์ เจอเธอเสียบ้างเมื่อครั้งอยู่กับเพื่อนๆ เธอมักจะถูกเรียกว่ามนุษย์.ป้า.ทั้งที่อายุ20ต้นๆ
“ฝ่าบาทอยากได้อะไรเพคะ”
แพรวาพูดด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย
“ก็แค่ เจ้าจะยอมสละ บางสิ่งเพื่อความสำราญของข้า”
ใจเต้นรัวแพรวาเอ๊ย ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงจนจมูกเกือบติดจมูกหัวใจเต้นแรง
เจอสายหื่นเสียแล้วม้างเพิ่งจะออกลายเบี่ยงตัวหลบ
ประตูตำหนักเปิดออก เสียงใสๆ แว่วมาแต่ไกล
“ฝ่าบาท”
เสียงมาก่อนตัวผู้ที่ถูกเรียกว่าฝ่าบาท ถอนหายใจด้วยความระอา
“เจ้าเป็นใครทำไมมาอยู่บนแท่นบรรทมของฝ่าบาท”
นิ้วเรียวสวยชี้ไปยัง ร่างของแพรวา
“แค่ หญิงหนึ่งที่ผ่านมาพักพิง”
แพรวารีบออกตัวรอยยิ้มพึงพอใจจากริมฝีปากบางเล็ก
“ซีหลิว.. คราวหลังมาต้องให้สุ้มให้เสียงทำเยี่ยงนี้หรืออยากจะเป็นหญิงงาม”
คำว่าหญิงงามค้ำคอผู้หญิงทุกคนในที่แห่งนี้แน่ๆ
ใบหน้าใสซื่อสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ทุกที ก็ไม่เห็นต้อง มีพิธีรีตอง ฝ่าบาทก็รู้ว่าซีหลิว เป็นอย่างนี้มาตั้งนาน ครานี้ทรงตำหนิต่อหน้าหญิงนางอื่น”
หันซ้ายหันขวาลุกลี้ลุกลน
“เฮ้อ ซีหลิวเมื่อไหร่เจ้าจะโตเสียทีทำตัวเป็นเด็ก”
แพรวากลั้นหัวเราะกับกิริยาของหญิงสาวอ่อนวัย
“ไปหา โหวหยางจื้อดีกว่า”
งอนได้อีก
แววหนักใจจากแววตาคม
ขันทีที่ชื่อเสี่ยวโอเดินเข้ามาทำความเคารพ
“ฝ่าบาท ไทฮองไทเฮามีรับสั่งหาพระองค์ที่ตำหนักฟางซิน (ความสุขอันหอมหวาน) ”
หยางหลงฮ่องเต้ หุนหันออกไปจากตำหนักทันทีไม่รอช้า ขันทีน้อยหันมายิ้มเยือนกับแพรวาด้วยสายตาเป็นมิตร
แพรวาถอนหายใจยาวเหยียดเวลาพักของเธอมาแล้วหรือ หาทางหนีดีว่าแต่จะหนีไปไหนในวังแห่งนี้อันตรายมากมายจะเหมือนในซีรีส์ที่เคยดูไหมนะที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุด แม้ต้องฆ่าคนถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆแพรวาจะเอาชีวิตรอดได้กี่วัน ในเมื่อเธอไม่รู้จักใครเลยในนี้มีเพียงฮ่องเต้รูปงาม ที่ออกโรงปกป้องเธอ แต่จะได้สักกี่น้ำ เพราะในซีรีส์จีนที่เคยดูมา ฮ่องเต้ต้องฟังความเห็นของหลายฝ่ายถ้าหากมัวแต่ทรงสนพระทัยเรื่องส่วนตัวไม่เห็นแก่ราษฎร และประเทศชาติและไม่ฟังความเห็นของพวกขุนนาง คงจะต้องมีอันต้องจบเห่โดนก่อกบฏแน่นอน ก่อนอื่นต้องหาที่ยึดเกาะให้เหนียวแน่นเพื่อเอาชีวิตรอดในที่แห่งนี้
ภายในบริเวณตำหนักฟางซิน ที่อบอวลไปด้วยมวลดอกไม้หญิงชราแต่ทว่าร่างกายยังคงแข็งแรง นอนตะแคงเหยียดยาวนางในสองคนบีบนวดไปมา ข้างๆ กันนั้นหญิงงามผู้หนึ่งนั่งอยู่ไม่ห่างนางในสองสามคนยืนอยู่เบื้องล่างที่ประทับ
กุ้ยเหรินลู่เอิน (หยกที่สง่างาม) นั่นเองไม่พ้นต้องนำข่าวเรื่องเขากับเฟยลี่ มาบอกพระอัยยิกา
“ฮ่องเต้เสด็จ “
ประสานเสียงกันเซ็งแซ่
องค์อัยยิกาผุดลุกขึ้น มองมาที่หลานชายด้วยแววตาอ่อนโยน
“มิใยที่ย่า เรียกเจ้าไม่ต้องให้รอให้เสียเวลา”
เหลือบมองไปยังกุ้ยเหริน (สนมชั้นเอก)ที่นั่งพับเพียบเรียบร้อย
“เสด็จย่า มีเรื่องอันใด”
“ข่าวคราวของเจ้า ต้องให้ได้ยินจากปากของผู้อื่นนี่ถ้าหากไม่มีกุ้ยเหรินย่าคงพลาดเรื่องสำคัญไปแน่”
ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยิ้มโลกสว่างไม่บ่อยครั้งที่ฮ่องเต้จะยิ้มเยือนแบบนี้และมีเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็น ไทฮองไทเฮาอดจะยิ้มตามไม่ได้ท่าทางออดอ้อนไม่ผิดเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก
“เป็นกุ้ยเหรินเองหรือ ที่มาบอกกล่าว”
ปรายตามองด้วยสายตาตำหนิ
“จะโทษกุ้ยเหรินไปก็ใช่ที่ เพราะเรื่องเล่าลือนั้นได้ยินไปทั่วทั้งวังหน้าวังหลัง แล้วยังจะเรื่องเล่าใหม่เมื่อเช้าตรู่จากไทเฮาที่เพิ่งจะลาย่าไปเมื่อกี้ เรื่องเจ้าจะแต่งตั้งหญิงงาม ...ที่ไร้ที่มาเป็นฮองเฮา”
หยางหลงฮ่องเต้ยังคงยิ้มเยือนแต่แววตาเปลี่ยนไปเป็นแววครุ่นคิด
“หลานพูดไปด้วยความไม่คิด ไทฮองไทเฮาโปรดอย่าถือสา”
“หลายปีมานี้เจ้าก็เติบโตเป็นชายชาตรี สนมนางในมากมาย แต่หามีใครที่มีบุญญาธิการได้เป็นฮองเฮาอีกทั้งยังไม่เคยปรากฏ โอรสสวรรค์ แม้เพียงสักคนเหล่าสนมนางในของเจ้าก็แวะเวียนไปมา มีเรื่องเกี่ยวกับเจ้าที่ไม่ค่อยจะมีเวลาให้พวกนาง แล้วเมื่อไหร่โอรส สวรรค์จะมีประสูติการ”
“เสด็จย่า ใจร้อนยิ่งกว่าหลาน”
“ท่านเสนาบดี เห็นสมควรให้คัดเลือกผู้ที่จะทำหน้าที่ฮองเฮา แต่ก็ติดที่ยังไม่มีใครให้ประสูติการโอรสสวรรค์ บัลลังก์ไม่สมบูรณ์ อำนาจย่อมสั่นคลอน ฮ่องเต้เข้าใจคำนี้ดี.ใช่ไหม เพราะฉะนั้นต่อไป ต้องมีการเลือกป้ายในทุกคืน”
ฮ่องเต้ตาโต กุ้ยเหรินก้มหน้าซ่อนยิ้ม
“ต่อไป ห้ามหาทางเลี่ยงอีกเป็นอันขาด ย่าอยาก อุ้มเหลนแล้ว"
คะนิ้งลืมตาตื่นมาบนแท่นนอนหนานุ่ม บรรยากาศน่านอนจนไม่อยากชันกายลุกขึ้น รู้สึกว่าผิวแก้มเย็นเฉียบ ยกมือขึ้นลูบแก้มทั้งที่ยังไม่ลืมตา กลิ่นกำยานกลิ่นแปลกๆ โชยมาเข้าจมูกเป็นระยะๆ รู้สึกหนักบนอกอิ่มเหมือนมีอะไรอุ่นๆ มากดทับขยับตัวลำบาก พรึ่บลืมตาตื่นด้วยความตกใจ“กรี๊ดดดดดด” คะนิ้งส่งเสียงร้องดังลั่นเมื่อเห็นว่ามีผู้ชายมานอนอยู่ข้างกาย ….แต่เดี๋ยวก่อนผู้ชายหรือผู้หญิงวะ ทำไมผมยาว ใบหน้าขาวใส เหมือนผู้หญิง แต่จมูกเชิดหยิ่งน่าดึงเล่น ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเป็นทอม แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็คงจัดว่าหล่อทีเดียว ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวแน่น ผู้ชายแน่ๆคนที่นอนกอดอยู่สะดุ้งสุดตัว“เอะอะ อะไรของเจ้า” น้ำเสียงงัวเงียแต่ทุ้มนุ่มหูพิลึก“นาย นายเขามาได้ยังงัย”นึกขึ้นได้ที่นี่ไม่ใช่ที่นอนของเธอ แต่เป็นที่ไหน สภาพแปลกไป ผ้าม่านยาวบางที่ล้อมแท่นนอนวงกลมปลิวสะบัด โต๊ะตั่งก็แปลกตา แม้แต่หมอนยังเหมือนกับ….หรือว่า ไม่นะ ไม่ไม่ไม่“เจ้านี่อย่างไรกัน ทำไมต้องเอะอะ” คะนิ้งยกมืออุดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาไทยแต่เป็น ภาษาจีนที่เรียนมาตั้งแต่อยู่อนุบาล“นอนๆ เจ้าจะรีบตื่นไปไหน” เสียงประตูเปิดออกมา หนุ่มน้อยอีกค
หย่าจิ้ง ไทฮองไทเฮาและไทเฮาดื่มชาคารวะจากบ่าวสาวพร้อมเพรียงกัน หยางหลงและแพรวาหันมาสบตากันนิ่งนาน“ต่อแต่นี้สิ่งร้ายๆ ได้ผ่านไปแล้ว ย่าหวังว่าจะมีสิ่งดีๆให้ได้ชื่นใจบ้าง”“เสด็จย่า คอยเวลาอุ้มเหลนตัวน้อยได้แล้ว อีกไม่นานหลานหวังอย่างนั้น”เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน ชินอ๋องเผลอสบตาลี่มี่ด้วยประกายตาลึกซึ้ง ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีต้องขอบคุณเฟยลี่ที่นางทำให้ทุกอย่าง เป็นไปตามที่คาดหวังไว้แพรวาสวมชุดเจ้าสาวสีแดงที่ส่งให้แพรวางดงามอย่างหาที่ติไม่ได้บนศีรษะสวมมงกุฎบ่งบอกฐานะฮองเฮาชัดเจนมือบางลูบคลำราวสะพาน ด้วยความรู้สึกขอบคุณ เบื้องล่างน้ำใสไหลเชื่องช้า ลี่มี่ยืนอยู่ด้านหลังถือเสื้อคลุมอากาศหนาวจับใจแต่ภายในอบอุ่นอย่างประหลาดคำพูดของหมอหลวงที่บอกแพรวาก่อนหน้านั้น“ห้วงเวลาที่แม่นางข้ามผ่านถูกปิดแล้วนับจากนี้ไม่ว่าแม่นางอยากจะจากไปแค่ไหนก็ไม่อาจที่จะไปได้ เพราะทุกอย่างเหมือนถูกสวรรค์ลิขิตไว้แล้วแม้แต่ข้าเองยังไม่สามารถข้ามผ่านไปได้เช่นกัน แม่นางแพรวาได้สาบสูญไปจากภพภูมิของนางเหลือเพียงเยว่ถิงหรือแม่นางเฟยลี่เท่านั้นที่ยังอยู่ที่นี่.ในฐานะฮองเฮา”“ฮองเฮาเพคะอากาศหนาว สวมเสื้อคลุมจะดีก
ภาพความทรงจำที่ผุดขึ้นให้เขาเห็นช้ำแล้วช้ำเล่าเมื่อคราวที่แพรวารับกระบี่แทนเขา มันมิใช่เพียงเพิ่งเกิดขึ้นหากเกิดขึ้นถึงสองครั้งสองครา คราวนั้นเขาไม่สามารถมองเห็นเจ้าของกระบี่ แต่ภาพความทรงจำเด่นชัดคราวนี้เป็นเท้าจางที่ส่งกระบี่คมลงกลางอกของแพรวาหากแต่ดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญ อย่างนี้จะให้เขายังมีสิ่งใดที่ต้องสงสัยในตัวของเฟยลี่ได้อีกเป็นเขาที่ติดค้างนาง“ฝ่าบาททรงคิดถึงเฟยลี่ใช่ไหม”ใบหน้าหวานยิ้มยียวน“ไม่เคยคิดถึงหากแต่คิดอยู่เสมอว่าทำอย่างไรจะให้เจ้าฟื้นคืนมาเจรจาเหมือนอย่างนี้ได้”“ฝ่าบาททำอย่างไรกับสนมฮุ่ย”“นางในที่รอดชีวิตจากการช่วยเหลือของเสี่ยวโอ เมื่อคราวหลบหนีออกจากวังยอมให้พูดความจริงเรื่องที่ฮุ่ยเหนียงใช้ยาบำรุงครรภ์จนแท้งแต่กลับโยนความผิดให้เจ้าเฟยลี่ ใต้เท้าจางลงมือสังหารหมอที่นำเข้ามาจากนอกวัง แล้วยังสังหารเหล่านางในนับสิบที่รู้เรื่องนี้ ส่วนนางในคนที่เหลือกำลังจะหาทางหนีดีที่เสี่ยวโอพบเข้าเสียก่อน สนมฮุ่ยข้าให้นางสำนึกผิดในตำหนักเย็นชั่วชีวิตของนาง”แพรวาเลิกคิ้วฟังอย่างตั้งใจรู้สึกสบายกายสบายใจอย่างประหลาดแต่ก็อดที่จะสงสารสนมฮุ่ยไม่ได้เพราะเคยดูซีรีส์จีนตำหนักเย็นโดดเดี่ย
แสงเรืองรองตรงขอบฟ้านั่น แพรวาขยับตัวบิดตัวไปมารู้สึกถึงความวาบหวามจากคนข้างกายพลิกตะแคงกอดร่างใหญ่ข้างๆ มือใหญ่ลูบไล้แก้มเนียน“หายป่วยแล้วสงสัยจะได้ยาดี”“ไออุ่นจากฝ่าบาทนั่นอย่างไรที่ทำให้ข้า จากป่วยไข้ก็กลายเป็นสบายดี”หยางหลงเขย่าหัวเบาๆ ยังไม่ทันได้ชื่นจิตเสียงฝีเท้าหนักๆ ก็ดังเล็ดลอดเข้ามาภายในกระท่อมหยางหลงพลิกตัวแพรวาให้ลงไปนอนด้านข้างเตียง เสียงวิ่งกรูกันเข้ามาบ้างมาจากด้านหน้า และวิ่งมาจากด้านหลังถูกล้อมกรอบถึงเพียงนั้นหยางหลงฉุดแขนแพรวาลุกจากที่ยังนอนอยู่ใช้กระบี่ในมือแหวกเป็นทางเพื่อพาตัวเองและแพรวาฝ่าวงล้อมออกไปใต้เท้าจางและทหารองครักษ์นับสิบยืนดาหน้าในมือมีอาวุธครบครัน“ฝ่าบาท ตามข้าน้อยกลับวังหลวงจะดีกว่า ตอนนี้คนของข้าได้เข้ายึดวังหลวงไว้เสียสิ้นฝ่าบาทออกมาเช่นนี้ข้าเห็นทีต้องเชิญฝ่าบาทกลับไปประทับยังวังหลวงตามเดิม”หยางหลงขมวดคิ้วคิดไม่ถึงว่าใต้เท้าจางจะคิดการใหญ่ถึงเพียงนี้ข่าวเรื่องเขาออกจากวังไม่มีใครรู้แต่ทำไมใต้เท้าจางถึงฉวยโอกาสนี้บุกยึดวังหลวง"เหตุใดท่านถึงคิดการใหญ่ขนาดนี้ในเมื่อท่านก็ได้ทุกอย่างไปหมดแล้วทั้งอำนาจก็มีเสียมากมายมีสิ่งใดที่ท่านต้องการอีก”“ฝ
“ปล่อยข่าวออกไปเรื่องที่ข้าสำเร็จโทษพวกนางนั่นเป็นเพราะพวกนางไม่ดูแลพระสนมที่กำลังทรงครรภ์ให้ดีจึงต้องโทษถึงตาย และต่อไปต้องเป็นคราวของแม่นางเฟยลี่บ้างแล้ว เป็นการกดดันฝ่าบาทไม่ให้ใจอ่อนกับหญิงงามล่มเมืองคนนั้น"“แต่ใต้เท้าฝ่าบาทจะทรงสอบสวน”“ข้าจะนำเหล่าขุนนางทั้งหลายร่วมกันกดดันฝ่าบาทอีกทาง อย่างไรเสียพระสนมต้องไม่มีผู้ใดเทียบเคียงหากเรายังต้องการยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในแผ่นดินนี้”ใบหน้าเหี้ยมเกรียมแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียดท้องฟ้ามืดไร้ดาราและจันทราส่องแสง นางในนางหนึ่งหอบห่อผ้าที่บรรจุของมีค่าเล็กน้อย วิ่งหลบหลีกเร้นกายตามเงามืดด้วยความรุกลี้รุกรนแต่ดวงตาคมกริบคู่หนึ่งที่จับจ้องความเคลื่อนไหวอยู่ก่อนแล้วกับทะยานขึ้นสู่หลังคาตำหนักวิ่งตามไปทางเดียวกับที่นางเร้นกายทว่าวิชาตัวเบาเยี่ยมยอดจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าแม้แต่น้อยอีกด้านทหารยามหน้าห้องขังถูกชายลึกลับที่โพกหน้าด้วยผ้าดำสกัดจุด จนหมดสติแล้วก็ลากร่างหนักอึ้งให้ไปนอนแผ่คุดคู้แสนสบายข้างกำแพงห้องขังกุญแจถูกหยิบมาใช้อย่างง่ายดายแพรวานอนขดตัวด้วยความหนาวเหน็บ ชุดนักโทษสีขาวบางเบาไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้ ชายลึกลับไขกุญแจเข้าไปภายในห้องขั
คำแรกที่เห็นหน้าสนมฮุ่ย“ลูกไม่อยากให้โอกาสหลุดลอยไปเราส่งมือสังหารไปฝ่าบาทก็อยู่ที่นั่นปกป้องนาง ครั้งนี้ถือเสียว่ายืมมือฝ่าบาทจัดการกับนางแค่เรื่องปองร้ายพระสนมนางก็ไม่อาจหลุดพ้นโทษประหารแล้วยังจะโทษฐานทำให้ลูกต้องสูญเสียองค์รัชทายาท มีกี่หัวก็ไม่พอให้ตัด”“แล้วเจ้าได้อะไร ได้เพียงให้ตาย ตายจากไปแต่ไม่ช้าไม่นานฝ่าบาทก็จะมีสนมคนอื่นอีกแต่หากเจ้ารั้งที่จะไม่บอกใครเรื่องการสูญเสียองค์รัชทายาทอย่างน้อยข้าก็เตรียมการให้เจ้าแล้วข้าไปเกณฑ์คนที่อายุครรภ์เท่ากับเจ้ามากักไว้เพื่อให้เจ้าได้มีองค์รัชทายาทเป็นแม่ขององค์รัชทายาทและแม่ของแผ่นดิน เจ้ากับทำให้ทุกอย่างพังทลายลงไป”สนมฮุ่ยหน้าเสีย แต่สักพักก็กลับเป็นปกติ“ท่านพ่อ องค์รัชทายาทจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ยังคงใช้แผนการของท่านพ่อได้เพียงแต่ลูกแสร้งว่ามีครรภ์แล้วเราก็สรรหาเด็กที่ไหนมาเป็นองค์รัชทายาทก็ได้ แต่โอกาสกำจัดนางนั้นหายากยิ่งตอนนี้ลูกยอมแลกทุกอย่างเพื่อการณ์นี้”“เจ้าอย่างไรก็ทำอะไรไม่หารือพ่อก่อน”“ลูกขออภัยท่านพ่อแต่ลูกเกลียดนาง นางแย่งฝ่าบาทและ แววตาอ่อนโยนของฝ่าบาทไปจากลูก”“ไม่จำเป็นต้องมีความรักความสงสาร มีเพียงอำนาจที่ได้รับเมื่อนั้