Share

Chapter 3. ผู้หญิงของฉัน

last update Last Updated: 2025-01-19 22:00:42

“โผล่มาได้แล้วเหรอครับไอ้หน้าหล่อ”

หนึ่งในสมาชิกของวงเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นจีเซลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูอารมณ์ดีมากผิดจากปกติ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจเพราะช่วงสองเดือนมานี้ ตั้งแต่ที่รับนักเต้นอิสระกลุ่มหนึ่งเข้ามาพวกเขาก็พอจะรู้เรื่องจีเซลที่ตามขายขนมจีบให้แดนเซอร์คนสวยคนดังอยู่ ขนาดพวกเขาเองตอนที่เห็นเธอครั้งแรกยังคิดว่าเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปเลยด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าแฟนเก่าของรุ่นพี่ในวงการบันเทิงที่พวกเขาชื่นชอบจะสวยขนาดนี้ สวยกว่าในรูปเป็นไหนๆ แต่เพราะว่าจีเซลออกตัวแรงตั้งแต่วันแรกคนอื่นๆ ในวงจึงไม่ได้ยุ่งกับเธอคนนั้นเลย ถือว่าเพื่อนของเขาจองแล้วกัน...อีกอย่างพวกเขาไม่ชอบที่จะมีปัญหากันเองในวงด้วย

“พูดเหมือนมึงไม่หล่อเนอะไอ้ชาย” จีเซลหันไปตอบกลับกวนๆ

“ผมชื่อซันชายน์ครับไอ้จีเซล ขอร้องเถอะ...เรียกเต็มๆ ชื่ออ่ะ อีกอย่างกูพี่มึงนะ”

ซันชายน์พูดตอบพร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ที่เพื่อนของเขาชอบเรียกว่าไอ้ชาย (น์) มันดูเก่าแก่เข้มขลังเหมือนอยู่ในยุค80ยังไงอย่างนั้น เพื่อนคนอื่นๆ ต่างหัวเราะกับท่าทีของซันชายน์ที่ไม่ชินเรื่องนี้สักที

จีเซล หนึ่งในกลุ่มนักร้องบอยแบรนด์ชื่อดังยุคนี้ ดังทั้งในและต่างประเทศ ถือว่าในเหมู่เกาะเพอร์เพิลนี้วง Beyond the sun ความหมายที่ยิ่งใหญ่อย่าง เหนือกว่าดวงอาทิตย์ หรือที่ใครๆ ก็เรียกว่า วง beyond (บียอนด์) ซึ่งตอนนี้พวกเขาไม่ได้ดังแค่ในประเทศเท่านั้นแต่ดังไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้

วงบียอนด์มีสมาชิกทั้งหมด 7คน หรือ 7s (เซเว่นเอส) โดยมี ดีน หนุ่มแว่นเป็นหัวหน้าวงของพวกเขา แต่ใครจะเชื่อว่าเขาเป็นนักRaper กับ ซันชายน์และ ไลก้าหนุ่มหล่อหน้าตี๋แสนเย็นชาขวางโลกหน่อยๆ ปากร้ายจนผู้หญิงยังอาย แต่ไลก้าทั้งเก่งและนิ่งขรึมที่สุดไม่จำเป็นเขาจะไม่พูดเลยด้วยซ้ำ ไม่หนำซ้ำเขายังเป็นคนแต่งเพลงให้กับวงอีกด้วย ส่วนซันชายน์นั้นเก่งมากเรื่องออกแบบท่าเต้นให้กับวงจะเรียกว่าครูสอนเต้นของวงคงไม่ผิด

จีเซล ชาร์วี วินซ์และจีนส์ ล้วนแต่เป็นนักร้องหลักผลัดกันคอรัสแล้วแต่เพลง จีเซลจะเด่นเรื่องไลน์การเต้นที่เป็นเอกลักษณ์มีคาริสม่าชัดเจนจนน่าหลงใหล (คาริสม่า=พรสวรรค์,มีเสนห์ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้อยู่หมัด) กับการร้องเสียงสูงได้ทรงพลังและไพเราะ แต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ อุปนิสัยแตกต่างกันจนไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้

“เอาเถอะๆ ยังไงก็อย่าให้เสียงานละกัน”

ดีนกล่าวพร้อมปรายตามองไปทางจีเซลที่ยังคงยืนยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านแถมยังยักไหล่เบาๆ เหมือนกับต้องการจะบอกดีนว่ามันไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่ถ้าตราบใดที่เขายังต้องการทำงานอยู่ เมื่อทุกคนทักทายกันเรียบร้อยต่างก็พากันไปยังห้องซ้อมที่นัดแดนเซอร์ไว้ อีกไม่กี่อาทิตย์พวกเขามีงานคอนเสิร์ตรวมนักร้องดังๆ จากทุกค่ายซึ่งเป็นงานประจำปีของเมืองหลวงนี้โดยเฉพาะ แฟนคลับจากทั่วสารทิศต่างพากันมารวมตัวที่นี่...เพราะอย่างนั้นพวกเขาจึงตั้งใจกับงานนี้มากเป็นพิเศษ

“สวัสดีครับ”

สมาชิกในวงต่างทักทายเหล่าแดนเซอร์ที่มารออยู่ก่อนแล้ว จีเซลมองไปรอบๆ ห้องแต่กลับไม่เห็นผู้หญิงที่เขาต้องการจะพบหน้าเลย อุตส่าห์ยอมแยกกันมาซ้อมแท้ๆ และดูเหมือนว่าเพื่อนๆ ของเขาจะรับรู้ว่าจีเซลต้องการจะเจอใครโดยเฉพาะซันชายน์ พี่หรือว่าเพื่อนที่สนิทที่สุดของจีเซล ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ เดินเข้าไปเตรียมตัวและทักทายคนอื่นๆ ซันชายน์กลับเอี้ยวตัวมาถามจีเซลเบาๆ

“ยูแอลไปไหนวะ?”

“ถ้ากูรู้จะมองหาไหมล่ะไอ้ชาย”

“อ้าว แล้วทำไมมึงไม่ไปถามเพื่อนของเขาล่ะ?”

“พี่ยูไม่อยากให้ใครรู้เรื่องของเรา”

“เวรเถอะครับ สรุปคือยังไม่ได้คบ?”

“อืม...ไหนๆ ก็เสือกแล้ว ไปถามให้กูหน่อยดิ”

“กูอีกแล้ว? มึงนี่อะไรๆ ก็กู”

“ช่วยไม่ได้ มึงเสือกมากไปหน่อย”

จีเซลพูดขำๆ แต่ซันชายน์ไม่ได้ขำด้วยเลยสักนิด ซันชายน์ส่ายหน้าไปมาแต่เพราะจีเซลเพื่อนรุ่นน้องของเขาพยายามผลักไสเขาเข้าไปหากลุ่มเพื่อนสนิทของยูแอล เขาจึงจำใจต้องหันไปปั้นหน้ายิ้มให้เกรซและซาซ่าอย่างเลี่ยงไม่ได้ จะเลี่ยงได้ยังไงล่ะในเมื่อเพื่อนๆ ของยูแอลหันมองทางเขาอย่างสงสัยตั้งแต่ที่จีเซลผลักเขาเข้าไปหาพวกเธอแล้ว

“มีอะไรคะ? คุณซันชายน์” เกรซเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

“เอ่อ...คือว่า....”

“มัวแต่เอ่ออ่าแบบนี้จะรู้เรื่องไหมคะวันนี้?” เกรซไม่วายที่จะกัดเขาอย่างไม่สบอารมณ์อารมณ์กับท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ของเขา เธอเพียงแค่ไม่ปลื้มใจผู้ชายขี้ขลาดเท่าไหร่นัก และซันชายน์เองก็เป็นผู้ชายแบบที่ว่ามา ซาซ่าปรายตามองเพื่อนก่อนจะสะกิดเพื่อนสาวอย่างเกรซเบาๆ เพื่อให้เธอเก็บอาการและสีหน้าหน่อย ยังไงนั่นก็คือศิลปินที่พวกเธอต้องร่วมงานด้วยอีกยาว เพราะทางค่ายจ้างระยะยาว

“คุณซันซายน์มีอะไรคะเนี่ย?” กลับเป็นซาซ่าที่หันไปยิ้มให้ซันชายน์และถามเขาอย่างสุภาพ

“อ๋อ ผมแค่จะถามว่าวันนี้แดนเซอร์มาไม่ครบหรือครับ...ไม่เห็นยูแอล”

เมื่อได้รับทราบใจความสำคัญจากปากของไอดอลหนุ่มซาซ่าก็หันไปยิ้มให้เกรซที่ยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะหันไปมองจีเซลที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ไม่ไกลนักถึงจะยอมหันกลับมาตอบซันชายน์

“อ๋อ พอดีมีคนมาหานางน่ะค่ะ เลยออกไปคุยกันข้างนอกห้องซ้อม” ซาซ่าตอบ

“เมื่อกี้พวกผมเข้ามาไม่เห็นนะครับ”

จีเซลที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลนักได้ยินอย่างนั้นก็รีบเดินตรงปรี่เข้ามาหาทั้งสามคนแล้วพูดขึ้น ใบหน้าหล่อของเขาขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัยว่าใครกันถึงมาหาเธอถึงในค่ายได้ แถมยังเป็นในโซนที่ห้ามไม่ให้คนนอกเข้าอีกต่างหาก คงจะไม่ใช่คนที่ตำแหน่งธรรมดาๆ แน่ๆ

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ พอมีเพื่อนในกลุ่มมาบอก แล้วยูแอลก็ออกไปเลย”

เกรซตอบข้อสงสัยของจีเซลขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าพวกเธอไม่รู้จริงๆ จีเซลยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาว่าใกล้จะถึงเวลาซ้อมหรือยังก่อนจะรีบเดินพรวดพราดออกจากห้องซ้อมไปปล่อยให้ทั้งสามคนยืนมองหน้ากันไปมา

“อะไรของมันวะนั่น” ซันชายน์มองตามแผ่นหลังเพื่อนของตนอย่างไม่เข้าใจ นี่มันก็ใกล้จะถึงเวลาซ้อมแล้วแค่รอยูแอลก็กลับมาก็เท่านั้นเพราะยูแอลไม่เคยสายหรือขาดซ้อมเลยสักครั้ง แต่ท่าทางรีบร้อนของเพื่อนรุ่นน้องคนสนิททำให้เขาใจคอไม่ดีเลย คับคล้ายคับคลาเหมือนว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น...

“ขออย่าให้มีเรื่องอะไรเลยเถอะ” เกรซพูดขึ้น

“ผมก็คิดแบบนั้น” ซันชายน์ตอบกลับคำพูดของเธอ แต่เกรซกลับเมินคำพูดของเขาเสียอย่างนั้น....

จีเซลเดินออกจากห้องซ้อมก็มองซ้ายขวาไปมาก่อนจะเดินไปเปิดห้องอื่นๆ ภายในชั้นนี้ของตึกที่คิดว่าน่าจะพอเป็นที่คุยกันได้ แต่ไม่ว่าจะเปิดไปกี่ห้องก็ไม่เห็นวี่แววของยูแอลเลย ใจดวงโตเต้นไม่เป็นล่ำเป็นสันมันเต้นแรงจนหงุดหงิด...ไม่รู้ว่าเพราะความเหนื่อยหอบจากการที่เขาวิ่งหรือว่าเพราะใจกำลังกังวลอะไรบางอย่างกันแน่...

ไอดอลหนุ่มหยุดยืนอยู่ที่สุดท้ายคือหน้าประตูทางออกไปบันไดหนีไปของชั้น7 ซึ่งมันใกล้กับห้องซ้อมที่พวกเขาซ้อมอยู่ มีเพียงที่นี่ที่เดียวที่เขายังไม่ได้เข้าไปหา...แต่...ทำไมต้องมาคุยกันที่บันไดหนีไฟล่ะ คนที่มาหายูแอลเป็นใครกันแน่...

สองขาวยาวก้าวเข้าไปใกล้ประตูหนีไฟนั้นเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงของคนสองคนคุยกัน...ไม่สิ...ทะเลาะกันมากกว่า ยิ่งเดินใกล้ประตูบานนั้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ยินเสียงชัดขึ้น นั่นเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยไม่ผิดแน่... มือหนาผลักประตูเข้าไปอย่างแรงเมื่อเสียงทะเลาะนั้นรุนแรงขึ้น...ก่อนที่เขาจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า...

“เธอต้องครางเรียกชื่อฉันเท่านั้น...เรียกได้แค่ชื่อฉัน!เพราะเธอคือผู้หญิงของฉัน!”

“ไม่...อุ๊บ!!!”

ภาพของรุ่นพี่ในวงการที่เขาชื่นชอบและนับถือเป็นต้นแบบมาตลอด ตอนนี้กำลังบดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มของผู้หญิงที่เขาตั้งใจจะรักและมีสัมพันธ์กันมาตั้งแต่สองเดือนที่ผ่านมา เขาคือแฟนเก่าของเธอ...ซีอีโอของค่ายเพลงคู่แข่งของเขา...เจซี..

“พี่ยูแอล!!...”

แม้จะได้ยินเสียงเรียกของจีเซลและเห็นเขายืนทำหน้าอึ้งนิ่งค้างจากหางตา แต่เธอไม่สามารถผลักคนตรงหน้าให้ปล่อยเธอออกไปได้ทั้งที่ผลักสุดแรงกำลังที่มีแต่เขากลับกอดรัดเอวของเธอแน่นขึ้นมากกว่าเดิมโดยไม่สนใจผู้ที่เข้ามาเยือนเลยด้วยซ้ำ เจซีเห็นว่าจีเซลมองอยู่ เขาก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะปล่อยยูแอลเลยซ้ำยังบดป้อนจูบหนักหน่วงและดูดดื่มมากกว่าเดิมเสียอีก น้ำตาใสไหลลงอาบสองแก้มเนียนของเธออย่างห้ามไม่ได้ ทั้งอึดอัดใจ ทั้งอายและอีกหลายความรู้สึกถาโถมเข้ามา...เธอไม่อยากให้จีเซลเห็นอะไรแบบนี้เลย...ไม่อยากให้เห็นเลยสักนิด...

พรึ่บ!ผัวะ!!!

มือหนาคว้าข้อมือเล็กของยูแอลกระชากมายังด้านหลังของตนก่อนจะปล่อยหมัดหนักๆ เข้าเต็มเบ้าหน้าหล่อของเจซีอย่างสุดแรงจนเจซีหน้าหันไปตามแรงชกและเซเล็กน้อย เจซียกยิ้มขึ้น...เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้แสดงถึงความสะใจแต่เป็นรอยยิ้มที่หงุดหงิดสุดๆ ไม่คิดว่าคนอย่างจีเซลจะกล้าลูบคมคนอย่างเขา

“มึง!!”

ผลั่ก!! ผัวะ!!ผัวะ!!

“หยุด!!หยุดนะ!!ฉันบอกให้หยุด!!!”

ยูแอลพยายามร้องห้ามทั้งสองคนที่แลกหมัดฟัดกันไปมาอย่างเอาเป็นเอาตายไม่มีใครยอมใคร ก่อนจะเข้าไปดึงแขนของจีเซลที่ตอนนี้เขาคร่อมเหนือร่างเจซีและปล่อยหมัดไม่ยั้งด้วยอารมณ์ที่โกรธจัดโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงเลยสักคำ จีเซลยอมลุกออกจากเจซีตามแรงดึงของยูแอลแต่ยังไม่วายจ้องมองคนที่ล้มไปกองกับพื้นเขม็งทั้งที่ตัวเองหอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อยหลังจากออกหมัดไปหลายหมัดเต็มแรงจนเจซีถึงกับเลือดซิบ ทั้งโหนกแก้มและมุมปากหยักได้รูปนั้นของเขา

“หึๆๆ ...แรงดีใช้ได้นี่ไอ้น้อง”

“ใครน้องมึง!!กูขอเตือน...อย่ามายุ่งกับพี่ยูอีก!! และอย่าทำให้พี่ยูของกูร้องไห้อีก!!”

“ทำไมกูจะยุ่งไม่ได้? ในเมื่อนั่นเมียกู...กูจะทำให้ร้องไห้ หัวเราะ หรือแม้แต่ร้องครางชื่อกูมันก็เรื่องของกู...ผู้หญิงของกู...มึงหรือเปล่าที่อย่าเสือกยุ่ง”

“ไอ้เวร!!”

จีเซลที่เคยเป็นคนสุภาพหายหมดแล้ว ณ วินาทีนี้ ซ้ำยังรุดหน้าจะพุ่งเข้าใส่เจซีอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่โกรธมากกว่าเดิม คำพูดของเจซีทำเขาฟีลขาด นั่นคือผู้หญิงที่เขาเฝ้าทะนุถนอมคนที่เขารักและตามหาเฝ้าจีบมาตลอด แต่ต้องมาโดนผู้ชายที่เขาเคยนับถือดูถูกเหมือนกับว่าเธอไม่ได้มีค่าจะทำยังไงกับเธอก็ได้แบบนั้น แต่....

“จีเซล....”

ยูแอลรีบเอาตัวเข้าไปขวางหน้าจีเซลไว้และเอ่ยเรียกชื่อของเขาอย่างแผ่วเบา ดวงตาสวยที่เปื้อนคราบน้ำตาจ้องมองมายังเขาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด...นัยน์ตาที่ดูสับสน ใบหน้าสวยที่ดูอึดอัดกับสถานการณ์ตอนนี้อย่างเห็นได้ชัด จีเซลหยุดชะงักตรงหน้าของเธอพร้อมกับจ้องมองเธออย่างไม่เข้าใจ...ก่อนที่ความไม่เข้าใจนั้นหายไปเมื่อเธอค่อยๆ เดินถอยหลังไปหาเจซีอย่างเงียบๆ ทั้งที่ดวงตาสวยยังจ้องมองเขาอยู่....คิ้วเรียวกระตุกขมวดเล็กน้อย มือหนากำหมัดพร้อมสันกรามถูกขบแน่น...คนที่ดูเจ็บปวดมากกว่าเธอก็คือตัวเขาเอง...

“พี่ยูแอล...ทำไม....” จีเซลถามด้วยสายตาที่ดูเจ็บปวดไม่แพ้เธอ แต่เขาก็ยังมีความอ่อนโยนในแววตานั้นเมื่อมองเธอเสมอ...

“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า? ....เฮ้ย!!ไอ้จีเซล!! ระ...รุ่นพี่....”

“สะ...เอ่อ...สวัสดีครับ”

ไม่ทันที่ยูแอลจะได้ตอบคำถามของจีเซล...ซันชายน์และวินซ์ก็เดินเข้ามาหลังจากที่ได้ยินเสียงเอะอะดังไปถึงข้างนอก มันเป็นจังหวะพอดีกับที่พวกเขาทั้งสองคนกำลังมาตามหาจีเซลและยูแอลเพราะได้เวลาเริ่มซ้อมแล้ว แต่ก็ต้องช็อกกับสภาพสะบักสะบอมของจีเซลและเจซี ดูยังไงก็ต้องมีเรื่องชกต่อยกันแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นซันชายน์ก็ยังคงเอ่ยสวัสดีอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรหรือพูดอะไรดี สถานการณ์มันน่ากระอักกระอ่วนใจไปหมด ยังไงเจซีก็เป็นคนที่พวกเขานับถือ

“นายกลับไปห้องซ้อมก่อนเถอะ...เดี๋ยว...ฉันตามไป...”

“ผมถามว่าทำไมกันครับพี่ยูแอล…พี่ทำแบบนี้หมายความว่าไงครับ? ...แล้วที่เราคุยกัน....”

“ไอ้จีเซล ไปกันก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยคุยกันทีหลัง”

ซันชายน์พูดพร้อมกับทั้งลากทั้งดึงจีเซลที่ยังคงรั้งตัวเองไว้มองยูแอลอย่างต้องการคำตอบ แต่ยูแอลกลับเบือนหน้าเศร้าๆ นั้นหันไปมองทางอื่นโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำและยังคงยืนนิ่งให้เจซีที่หยัดตัวลุกขึ้นมาโอบไหล่เธออยู่อย่างนั้นต่อหน้าต่อตาจีเซล วินซ์เห็นอย่างนั้นจึงช่วยซันชายน์ลากเพื่อนของตนออกจากตรงนั้นทันที

“เลือกถูกแล้วค่ะที่รัก...ยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้น”

เจซีพูดขึ้นพร้อมยกยิ้มอย่างพอใจหลังจากที่ทั้งสามคนออกจากตรงนั้นไปเรียบร้อยแล้ว ยูแอลปัดมือหนาที่โอบไหล่ของเธออย่างไม่ไยดีก่อนจะหันไปมองเจซีด้วยแววตาที่ดูเจ็บปวดและโกรธเคืองเขา ...ทำไมเขาถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้ไปได้...ทำไมเขาถึงได้พูดไม่ให้เกียรติเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า...และทำไมเขาถึงไม่ยอมสำนึกได้เสียที...แววตานั้นของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เข้าใจเขาเลยสักนิดว่าเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่ ทั้งที่เลิกกันไปแล้ว...เธอก็เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ของเขาแต่ทำไมเขาไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ และยังคงตามรังควานไม่เลิก ตามสืบตลอด6เดือนที่เลิกกันมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้แค่ไม่อยากสนใจ

“ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่...ขอโทษได้ไหมคะ?”

“อย่าเข้าใจผิด...ฉันไม่ได้เลือกพี่”

“.........”

“ที่ฉันทำแบบนั้นก็เพื่อจีเซล...ไม่อยากให้พี่ยุ่งกับเขา”

“เฮอะ...เธอรักมันเหรอ?”

เจซีพูดก่อนจะเอาลิ้นดุนข้างแก้มบ่งบอกว่าเขาไม่พอใจอย่างหนัก ดวงตาคมหันกลับมามองเธออย่างแข็งกร้าว แม้ยูแอลจะไม่ได้ตอบแต่เขาก็พอจะรับรู้ได้ว่าเธอเริ่มเอนเอียงไปทางจีเซลมากพอสมควร ไม่อย่างนั้นคนอย่างยูแอลจะไม่มีทางทำเพื่อจีเซลขนาดนั้นโดยการที่ยอมให้คนอื่นเข้าใจเธอผิด เพื่อนของจีเซลอาจจะมองว่าเธอเป็นผู้หญิงร่านรักที่ไม่รู้จักพอ จับปลาสองมือทั้งเขาและจีเซลแต่...ยูแอลกลับไม่สนใจ เธอดันสนใจแค่ว่าไม่ให้เจซียุ่งกับจีเซล...หรือง่ายๆ ...ไม่ให้เจซีทำลายชื่อเสียงของจีเซลด้วยอิทธิพลที่มี... แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังลืมเขาที่คบกันมานานถึง10ปีไม่ได้...

“ระหว่างฉันกับมัน...เธอรักใครมากกว่ากัน”

“..........”

เป็นคำถามที่ทำเอายูแอลถึงกับสะอึก ครั้นจะเค้นให้เธอตอบตอนนี้คงพูดไม่ได้...กับจีเซลเธอก็พึ่งเริ่มความสัมพันธ์นอกเหนือจากคู่นอนมันจึงยากที่จะตัดสินใจในตอนนี้ ยูแอลทำได้แต่เงียบแล้วเบือนหน้าหนีตามเคย เจซีเห็นอย่างนั้นก็ยกยิ้มอย่างได้ใจ...เพียงเท่านี้เขาก็พอรับรู้ได้แล้วว่ายูแอลยังลังเลและแน่นอนว่ายังมีเขาอยู่ในใจอยู่มากพอสมควร...จะลืมได้ยังไงล่ะ...ก็เขาเป็นรักแรก เป็นคนแรกของเธอนี่...

“แค่นี้ฉันก็รู้แล้วล่ะแอล”

“อะไรที่พี่คิด...มันไม่ใช่เสมอไป...”

“แล้วยังไงล่ะ? ในเมื่อใจเธอเองยังตอบคำถามฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”

เจซีพูดพร้อมกับย่างเท้าเข้าไปใกล้ๆ มือหนาเอื้อมขึ้นลูบไรผมหญิงสาวตรงหน้าอย่างเบามือด้วยรอยยิ้มบางๆ สายตาจ้องมองเธออย่างนึกหลงใหล...ตอนนี้เขาอยากจะจัดการเธอให้อยู่ใต้อาณัติของเขาดังเดิมเสียจริงๆ ...แต่ยูแอลกลับเอี้ยวตัวหลบมือนั้นของเขาและกระแอมเบาๆ เหมือนเตือนสติชายตรงหน้า สายตาของเขามันบ่งบอกชัดเก็บไม่มิดว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ

“ไม่ทราบว่าพี่มาที่นี่ทำไม?”

“มา...คุยงานนิดหน่อย”

“กับบริษัทคู่แข่งเนี่ยนะ?”

“หืม? สนใจเรื่องของฉันด้วยเหรอ?”

“เปล่า...ถ้ามีธุระก็ไปเถอะค่ะ ฉันต้องไปซ้อม”

ยูแอลพูดพร้อมกับเดินไปทางประตูทันทีโดยไม่รอให้เขาได้เอ่ยคำร่ำลาใดๆ เจซีเองก็ยอมปล่อยเธอไปแต่โดยดีเพราะตัวเขาก็ต้องไปจัดการเรื่องที่เขาเข้ามาที่นี่ มาที่ค่ายเพลงคู่แข่งในวันนี้ ก่อนที่ยูแอลจะเดินลับตาไปเขาก็ได้เอ่ยขึ้นมาพอให้เธอได้ยิน

“แล้วเจอกันครับที่รัก...”

ยูแอลเพียงแค่ชำเลืองมองเขาด้วยหางตาอย่างนึกสงสัย ถ้าเป็นไปได้เธอไม่อยากที่จะเจอเขาอีกครั้งแน่นอน...แต่การที่เขาพูดแบบนั้น...คนอย่างเจซีพูดก็ต้องเป็นไปตามนั้นด้วยนิสัยที่อยากได้อะไรต้องได้ของเขา ยูแอลสะบัดความคิดของตัวเอง พยายามไม่คิดไปก่อนแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องซ้อมพร้อมขอโทษเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ...แน่นอนว่าสายตาของจีเซล วินซ์และซันชายน์มองเธอเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่เลือกที่จะไม่พูด เพราะมันคือเวลางาน...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 45. Ending not THE END

    จากการออกไปเดทดินเนอร์หลายๆ ที่ด้วยกัน จากที่ขอทำงานเต้นก็ได้ทำและเธอก็ได้สร้างทีมนักเต้นทีมใหม่ขึ้นมาโดยมีซาซ่าและเกรซเป็นผู้ร่วมทีม แถมยังเปิดรับสมัครนักเต้นคนอื่นๆ ที่อยากร่วมงานอีกด้วย จากการกดดันของวงบียอนด์ที่ให้ประธานค่ายอย่างคริสต้องเซ็นสัญญารับทีมของยูแอลเข้ามาเป็นนักเต้นหลักในค่าย แต่ยังคงมีวงอื่นจากค่ายอื่นมาจ้างงานได้และมันต้องผ่านการแสกนจากวงบียอนด์ก่อนยูแอลได้กลับมาเฉิดฉายบนเวทีอีกครั้ง และแน่นอนมาเธอเป็นที่สนใจของไอดอลหนุ่มหน้าใหม่อีกหลายวงๆ จนจีเซลต้องตามไปคุมแทบจะทุกงาน จากที่ยุ่งๆ อยู่แล้วยุ่งกว่าเดิมเสียอีก ไอดอลที่ว่างานเยอะยังไม่เท่ายูแอลตอนนี้เลย...เธอไม่ได้งานเยอะแต่เธอบ้างานจนแทบจะไม่มีเวลาให้เขา...มันน่าน้อยใจจริงๆ ...“เย็นนี้ไป...ดินเนอร์กันไหม? ผมจองร้านไว้แล้ว”“อ๋อ โทษทีนะจีเซล วงไซบอกซ์มีกินเลี้ยงขอบคุณหลังจบงานน่ะ ฉันเป็นหัวหน้าทีมด้วยสิ”“.........”“ไปก่อนนะ ไว้วันอื่นนะคะ จุ๊บ!” ยูแอลเดินเข้ามาจุ๊บที่แก้มของเขาเบาๆ ก่อนจะรีบเดินไปหาเพื่อนๆ ที่ยืนรออยู่

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 44. การมีไอดอลเป็นแฟน

    “จีเซล!!!” ยูแอลถึงกับอึ้งหันไปมองชาร์วีที่ตอนนี้เขาแค่ยกยิ้มเพียงเท่านั้น ไม่คิดว่าจีเซลจะกลับมาเร็วขนาดนี้และสีหน้าของเขาที่เข้ามาเห็นดูเหมือนว่าเขาเข้ามาเห็นตั้งแต่ก่อนที่ชาร์วีจะปล่อยมือจากเธอเสียอีกแน่ๆ ยูแอลรีบเดินเข้าไปหาจีเซลที่ขบเคี้ยวเขี่ยวฟันอย่างหงุดหงิด“มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ...ฉันก็แค่จะล้มแล้วชาร์วีก็..”“มาช่วยไว้สินะครับ....”“ใช่ๆ แค่นั้นจริงๆ ...”“สงสัยผมคงต้องล่ามพี่ไว้บ้างแล้วล่ะครับ จะได้ไม่ต้องไปเที่ยวล้มที่ไหนอีก” จีเซลพูดพร้อมกับขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะคว้าข้อมือของเธอเดินออกจากห้องฟิตเน็ตไปทันที ชาร์วีมองตามอ้าปากค้างก่อนจะแบะปากยักไหล่แล้วเดินกลับไปออกกำลังกายต่อพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง“ไอ้จีเซลขี้หึงเป็นบ้าเลยแฮะ...คลั่งรักอะไรขนาดนั้น” พูดไปพลางยกน้ำหนักไปอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่สนใจเท่าไหร่นัก (อย่าให้ถึงทีนายนะนายชาร์วี!)จีเซลลากยูแอลให้เดินตามเขาไปยังห้องรับแขกก่อนจะหยุดชะงักฝีเท้าแล้วหันมาทางเธอด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 43. ชดใช้กรรม

    “สวัสดีครับ...ผมเป็นหมอที่คุณชาร์วีส่งมาครับ” ชายหน้าประตูพูดขึ้นพร้อมกับยื่นบัตรประจำตัววิชาชีพโชว์หน้ากล้อง จีเซลเห็นอย่างนั้นก็โล่งอกก่อนจะตอบรับเขา“ครับ...เชิญครับ” จีเซลกดเปิดประตูอัตโนมัติให้คุณหมอเข้ามาก่อนจะเดินนำไปที่ที่ยูแอลนั่งอยู่ ยูแอลลุกขึ้นหวังจะกล่าวสวัสดีแต่คุณหมอกลับรีบบอกให้เธอนั่งลง“ไม่เป็นไรครับ นั่งก่อนเถอะครับคนไข้”“อ๋อ ค่ะ” ยูแอลพูดจบก็หย่อนตัวนั่งโดยมีจีเซลคอยพยุงอยู่ข้างๆ และจับมือเธอไว้ ก่อนจะยกข้อเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา คุณหมอที่ถืออุปกรณ์การแพทย์เข้ามาก็เริ่มล้างแผลทำความสะอาดอย่างเบามือและพันแผลให้เธอ“อย่าให้แผลโดนพวกเครื่องสำอางอีกนะครับ...ไม่อย่างนั้นติดเชื้อแน่หรือแผลอาจจะเป็นเชื้อรา”“ค่ะ”“ช่วงอาทิตย์แรกหมอจะเข้ามาล้างแผลให้นะครับ และอย่าลืมทานยาให้ตรงเวลาจนหมดแผงที่หมอให้ไป”“ได้ค่ะ”“อ๋อ แล้วก็คุณจีเซลไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ยังไงผมก็เป็นหมอประจำบ้านของคุ

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 42. ร่วมงานกัน

    เวลาผ่านล่วงเลยไปจนต้องได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เจซี ยูแอลและจีเซลได้เข้ามาถ่ายทำเอ็มวีอย่างที่เจซีคอยลั่นปากไว้กับแฟนคลับเพื่อแก้ข่าวให้ยูแอลด้วย จึงได้ไปถ่ายงานสถานที่ที่คล้ายกันกับบ้านของยูแอลแทน เพราะเจซีไม่อยากให้ยูแอลเข้าไปเจอยายด้วยสภาพที่ผอมโซกว่าเดิมอย่างนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมายูแอลก็พยายามที่จะไม่ทำให้เจซีโกรธแม้จะต้องแสดงให้เขาเชื่อก็ตาม...เพื่อรอวันที่จะเจอจีเซลอย่างเช่นวันนี้...ทุกคนต่างเดินทางมาถึงสถานที่ถ่ายทำกันหมดแล้ว เจซีและยูแอลเองก็มาถึงก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมงเพราะต้องมาแต่งตัวแต่งหน้าลองเข้าฉากหามุมกล้องที่ถูกใจ และจีเซลดันมาถึงก่อนพวกเธอเสียอีก...แต่เขาแค่ลอบมองเธอเป็นระยะเท่านั้นไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเท่าไหร่นัก ทุกอย่างดำเนินได้ด้วยดี...ตามเนื้อหาเอ็มวีคือเธอต้องเป็นผู้หญิงที่เดินจากเจซีไปเพื่อไปหาจีเซลเมื่อเพลงเปิดขึ้นยูแอลถึงกับอึ้งไม่อยากเชื่อว่าทั้งสองคนจะทำงานเข้ากันได้ดีถึงขนาดอัดเพลงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แค่ฟังก็รู้ว่าจะต้องติดหูมากแค่ไหน ใครจะไปรับรู้ว่าเบื้องหลังเวทีที่มีการร่วมงานกันมันคือการแข่งขันที่จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพราะมันจะมีก

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 41. ส่งข่าว

    หลังจากที่จีเซลแอบขับรถตามเจซีไปก็ได้รู้ที่อยู่ของเจซีและยูแอล แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไรผลีผลามเหมือนก่อนหน้านี้เคยเป็น เขาเพียงแค่จ้องมองคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นพร้อมกับเชิดหน้าเอามือเท้าหน้าต่างรถที่เปิดกระจกอยู่และยกยิ้มขึ้น... ก่อนจะกลับรถตรงไปยังบริษัทเพื่อที่จะทำงานต่อในช่วงเช้าเกรซและซาซ่าเดินทางมายังค่ายเพลงบีคริส ค่ายที่วงบียอนด์สังกัดอยู่เพราะช่วงบ่ายมีซ้อมเต้นกับวงพวกเขา แต่ทั้งสองสาวเลือกที่จะมาก่อนเวลาประมาณสองชั่วโมงเพื่อดักรอจีเซล ตั้งใจว่าจะส่งข่าวให้เขาได้รับรู้ถึงความยากลำบากของเพื่อนสาวของตน...ยังไงจีเซลก็ต้องได้รับรู้ และทั้งสองก็รอได้ไม่นานก็เห็นวงบียอนด์เดินเข้าบริษัทมากันครบวง แต่จะรอช้ากว่านี้คงจะไม่ได้ ทั้งสองจึงพยักหน้าให้กันแล้วรีบวิ่งไปยังจีเซลทันที“คุณจีเซล!” เกรซเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นตระหนก จีเซลหันมองเกรซและซาซ่าด้วยสีหน้าสงสัยแต่...เพื่อนรุ่นพี่อย่างซันชายน์รีบเข้ามาขวางหน้าไว้เสียก่อน“มีอะไรหรือครับคนสวย คิดถึงผมขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซันชายน์เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มร่า เกรซหันไปมองเขาตาขวางก่อนจะผลั

  • ฺBack Stage 7s เวทีรักเล่ห์ร้าย I   Chapter 40. ความลับในบ้าน

    สองร่างกอดกันแน่นบนเตียงกว้างสีน้ำเงินเข้ม ชุดนอนถูกร่นออกอย่างง่ายดายเพราะมันเป็นเพียงชุดกระโปรงยาวสีขาวตัวบาง ชุดชั้นในนั้นไม่มีให้เกะกะเนื่องจากคิดว่าต้องนอนแล้วถึงไม่ได้ใส่มัน...อีกอย่างไม่ใช่บ้านของเธอจึงไม่ได้เตรียมมาเปลี่ยน ร่างบางบิดเร่าอยู่ใต้ร่างหนากัดปากตัวเองแน่นเมื่อคนด้านบนเลื่อนมือไปไปกอบกำเต้าสวยพอดีมือก่อนจะเลื่อนลงไปดูดกลืนปลายยอดนั้นอย่างไม่ลดละ รุนแรงจนตัวเกร็งไปหมด..“อึ๊..อื้ม” เสียงครางออกมาผ่านลำคอจากการสกัดกลั้นมันเอาไว้ด้วยความทรมาน แอ่นอกรับริมฝีปากนั้นอย่างลืมตัวแม้ว่ามือเล็กจะพยายามดันไหล่ไล่เขาออกไปก็ตาม แต่ก็แปรเปลี่ยนเป็นจิกเกร็งไหล่แกร่งนั้นแน่น...ห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย...มือหนาอีกข้างจับขาเรียวของเธอให้อ้าออกพอที่จะแทรกร่างของตัวเองเข้าไปอยู่ระหว่างขานั้น ทั้งที่ปากยังคงไม่ว่างคอยปรนเปรอพรมจูบไปทั่วบริเวณอกสวย ก่อนจะเลื่อนใบหน้าพรมจูบไปทั่วหน้าท้องแบนราบจยไปถึงส่วนนูน... มือหนาข้างหนึ่งบีบคลึงเต้าตึงอีกข้างหนึ่งบดขยี้จุดอ่อนไหวจนร่างบางสะดุ้งโหยงและเบือนหน้าหนี แต่ก็ต้องหันหน้ากลับมาหลุบตามองส่วนล่างเม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status