หลังจากที่ภาคินัยได้เปิดเผยความลับในอดีตของเขาให้ปลายฝันฟัง ความจริงเรื่องรวินท์รยาและการที่เขาต้องแบกรับปมความเจ็บปวดมานานนับปี ก็ทำให้ปลายฝันเข้าใจเขามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจนั้นก็มาพร้อมกับความกังวลที่เพิ่มขึ้น เธอรู้สึกเหมือนภาคินัยยังมีโลกอีกใบที่เธอไม่สามารถเข้าถึงได้ โลกที่ถูกสร้างขึ้นจากความเจ็บปวดและบาดแผลในอดีต ซึ่งเธอกลัวว่าเธอจะไม่มีวันข้ามผ่านกำแพงนั้นไปได้
ปลายฝันกลับมาที่บ้านด้วยความรู้สึกหลากหลาย เธอเข้าใจภาคินัยมากขึ้นจริง ๆ ถึงเหตุผลที่เขามักจะปิดกั้นตัวเอง แต่ในขณะเดียวกัน ภาพของรวินท์รยาก็ยังคงติดตาเธอ ใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความรักและความเจ็บปวดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับภาคินัย ทำให้ปลายฝันอดคิดไม่ได้ว่าความรักในอดีตของเขานั้นลึกซึ้งเพียงใด และเธอกลัวว่าเธอจะไม่สามารถแทนที่รวินท์รยาในใจของภาคินัยได้
ในคืนนั้น ปลายฝันนอนไม่หลับ เธอลุกขึ้นมานั่งที่หน้าต่าง มองออกไปนอกท้องฟ้าที่มืดมิด ความคิดต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ เธอรักภาคินัยมาก แต่เธอก็รู้สึกไม่สบายใจกับอดีตที่ยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่ เธอรู้ว่าภาคินัยกำลังพยายามอย่างหนักที่จะแก้ไขเรื่องราวทั้งหมด แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่าเธอจะสามารถเป็นความสุขที่แท้จริงของเขาได้หรือไม่
เสียงโทรศัพท์สั่น ปลายฝันหยิบขึ้นมาดู เห็นชื่อของน้ำหวานปรากฏบนหน้าจอ เธอรับสายทันที
“ปลายฝัน แกเป็นอะไรไป” น้ำหวานถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “ฉันรู้สึกได้เลยว่าแกยังไม่สบายใจ”
“ฉันไม่รู้จะทำยังไงดีแก” ปลายฝันตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้า “ฉันเข้าใจคุณภีมมากขึ้นนะ แต่ฉันก็ยังกลัวอยู่”
“กลัวอะไรปลายฝัน” น้ำหวานถาม
“ฉันกลัวว่าฉันจะไม่สามารถเข้าไปในโลกของเขาได้ทั้งหมดแก” ปลายฝันพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า “โลกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากอดีตของเขาน่ะ”
น้ำหวานถอนหายใจเล็กน้อย “ฉันเข้าใจความรู้สึกของแกนะปลายฝัน แต่แกต้องให้เวลากับคุณภีมนะ เขาเองก็คงต้องใช้เวลาในการเยียวยาบาดแผลในใจของเขาเหมือนกัน”
“แต่ฉันเห็นแววตาของคุณรวินท์รยาแล้วแก” ปลายฝันพูด “เธอรักคุณภีมมากจริงๆ นะ”
“แกก็รักคุณภีมมากเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” น้ำหวานถาม “แล้วคุณภีมก็รักแกนะปลายฝัน”
ปลายฝันเงียบไป เธอรับฟังคำพูดของน้ำหวานอย่างตั้งใจ แต่ความกังวลก็ยังคงเกาะกุมใจเธออยู่
“แกต้องเชื่อใจคุณภีมนะปลายฝัน” น้ำหวานปลอบใจ “เขาเลือกแกแล้วนะ”
“ฉันก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะแก” ปลายฝันตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
หลังจากวางสาย ปลายฝันก็ยังคงนั่งคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด เธอรู้ดีว่าเธอจะต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อไปกับภาคินัย หรือจะปล่อยให้ความกังวลในใจของเธอเข้ามาบงการความสัมพันธ์ของพวกเขา
ในขณะเดียวกัน ภาคินัยก็ยังคงเดินหน้าตามแผนการที่จะยกเลิกงานแต่งงานกับทิชาอย่างเต็มที่ เขานัดพบกับทนายความและปรึกษาถึงขั้นตอนต่างๆ ที่จะต้องทำ เพื่อให้การยกเลิกงานแต่งงานเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด และส่งผลกระทบต่อทุกคนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ธามที่คอยอยู่เคียงข้างภาคินัยเสมอ ก็สังเกตเห็นถึงความมุ่งมั่นในตัวเพื่อนสนิท
“แกแน่ใจนะภีมว่าจะทำแบบนี้” ธามถามด้วยความเป็นห่วง “เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ”
ภาคินัยพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ฉันแน่ใจธาม ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อปลายฝัน”
“ฉันจะช่วยแกนะภีม” ธามเอ่ยขึ้น “เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”
“ขอบใจมากนะธาม” ภาคินัยเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกขอบคุณ
ในวันถัดมา ภาคินัยตัดสินใจที่จะเข้าไปหาปลายฝันที่แผนกออกแบบ เขาต้องการที่จะคุยกับเธออีกครั้ง เพื่อให้เธอสบายใจและเชื่อใจเขาให้มากที่สุด
เมื่อภาคินัยเดินเข้ามาในแผนกออกแบบ ทุกคนต่างก็หันมามองเขาด้วยความสนใจ ปลายฝันที่เห็นภาคินัยเดินเข้ามา ก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
ภาคินัยเดินตรงเข้าไปหาปลายฝันที่โต๊ะทำงานของเธอ
“ปายครับ” ภาคินัยเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น
ปลายฝันเงยหน้าขึ้นมองภาคินัย ใบหน้าของเธอมีแววเศร้าเล็กน้อย
“คุณภีมคะ” ปลายฝันตอบ
ภาคินัยยื่นมือไปจับมือของปลายฝันเบาๆ “ผมอยากจะคุยกับคุณนะปาย มีเรื่องสำคัญอยากจะพูดกับคุณ”
ปลายฝันพยักหน้าช้าๆ ทั้งสองคนเดินออกไปคุยกันที่มุมสงบของแผนก
“ผมรู้ว่าคุณคงยังกังวลอยู่” ภาคินัยเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ผมอยากจะบอกคุณว่าผมรักคุณมากแค่ไหน และผมจะไม่มีวันทิ้งคุณไปไหนเด็ดขาด”
ปลายฝันเงียบไป เธอรับฟังคำพูดของภาคินัยอย่างตั้งใจ
“ผมรู้ว่าอดีตของผมมันอาจจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ” ภาคินัยกล่าวต่อ “แต่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าคุณคือคนเดียวที่ผมรักตอนนี้ คุณคือความสุขของผมนะปาย”
ปลายฝันมองไปที่ภาคินัยด้วยสายตาที่สับสน “ปายเข้าใจค่ะคุณภีม แต่ปายกลัวว่าปายจะไม่สามารถเข้าไปในโลกของคุณภีมได้ทั้งหมด”
“โลกของผมคือคุณนะปาย” ภาคินัยเอ่ยขึ้นอย่างจริงใจ “ผมไม่มีอะไรจะปิดบังคุณอีกแล้ว”
“ผมอยากให้คุณช่วยผมนะปาย” ภาคินัยพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “ช่วยให้ผมก้าวผ่านเรื่องราวในอดีตไปให้ได้”
คำพูดของภาคินัยทำให้ปลายฝันรู้สึกถึงความจริงใจของเขา เธอเห็นถึงความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความแข็งแกร่งของเขา
“ปายจะช่วยคุณภีมค่ะ” ปลายฝันตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ปายจะอยู่ข้างๆ คุณภีมเสมอ”
ภาคินัยยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เขาดึงปลายฝันเข้ามาสวมกอดเบาๆ เพื่อเป็นการแสดงความรู้สึกขอบคุณ
“ขอบคุณมากนะปาย” ภาคินัยเอ่ยขึ้น “คุณคือคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกมีชีวิตอีกครั้ง”
ในขณะที่ภาคินัยและปลายฝันกำลังปรับความเข้าใจกัน ทิชาและรวินท์รยาก็กำลังเดินหน้าตามแผนการของพวกเธออย่างไม่หยุดยั้ง
ทิชาเริ่มปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของภาคินัยและปลายฝันไปในวงกว้าง เพื่อสร้างความสับสนและทำให้ภาคินัยต้องเสียชื่อเสียง
รวินท์รยาเองก็เริ่มปรากฏตัวในงานสังคมต่างๆ บ่อยขึ้น โดยมักจะแสดงออกถึงความสนิทสนมกับภาคินัยในอดีต เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของเธอว่าเป็นคนรักเก่าที่ภาคินัยเคยทุ่มเทให้
วันหนึ่ง รวินท์รยาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเล่าเรื่องราวความรักของเธอกับภาคินัยในอดีตอย่างละเอียดยิบ เธอพยายามแสดงออกถึงความเสียใจที่ต้องจากไป และความหวังที่จะได้กลับมาอยู่กับภาคินัยอีกครั้ง
“ดิฉันรักคุณภาคินัยมากค่ะ” รวินท์รยาพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “และดิฉันเชื่อว่าคุณภาคินัยก็ยังคงรักดิฉันอยู่”
คำสัมภาษณ์ของรวินท์รยาถูกเผยแพร่ไปทั่ว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม บางคนเห็นใจรวินท์รยาที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวที่น่าเศร้า ขณะที่บางคนก็ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของภาคินัยที่ดูเหมือนจะมีผู้หญิงถึงสองคนในเวลาเดียวกัน
ปลายฝันที่ได้รับรู้ข่าวนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกโจมตีจากทุกทิศทุกทาง
น้ำหวานที่อยู่กับปลายฝันในตอนนั้น ก็พยายามปลอบใจเธอ
“แก ไม่เป็นไรนะปลายฝัน” น้ำหวานปลอบใจ “นี่มันคือแผนการของพวกเขานะ”
ปลายฝันถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ฉันรู้แก แต่ฉันรู้สึกแย่มากจริงๆ”
ในขณะเดียวกัน ภาคินัยที่ได้รับรู้ข่าวการให้สัมภาษณ์ของรวินท์รยา ก็รู้สึกโกรธจัด เขารู้ว่ารวินท์รยากำลังร่วมมือกับทิชาเพื่อทำลายเขาและปลายฝัน
เขาโทรศัพท์หาธามทันที
“ธาม นายเห็นข่าวรวินท์รยาไหม” ภาคินัยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“เห็นแล้วภีม” ธามตอบ “ฉันว่าพวกเขากำลังเล่นเกมที่สกปรกมากนะ”
“ฉันไม่ยอมให้พวกเขาทำแบบนี้หรอก” ภาคินัยพูด “ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้ได้”
ธามพยักหน้าช้าๆ “ฉันจะช่วยแกนะภีม”
ภาคินัยตัดสินใจที่จะจัดการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด และยืนยันความรักที่เขามีต่อปลายฝันอย่างเปิดเผยที่สุด เขารู้ดีว่าการกระทำครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของเขา แต่เขาก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันทุกรูปแบบเพื่อปกป้องปลายฝัน และเพื่อความรักของพวกเขา
เรื่องราวความรักที่ซับซ้อนของภาคินัยและปลายฝันกำลังจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน และความจริงบางอย่างที่ถูกปกปิดไว้กำลังจะถูกนำมาตีแผ่ ทำให้ทุกคนต้องตระหนักถึงปมปัญหาในอดีตของภาคินัย และเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเขามากขึ้นอย่างลึกซึ้ง
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ