หลังจากที่ภาคินัยและปลายฝัน เริ่มวางแผนอนาคตร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ความสุขก็แผ่ซ่านไปทั่วคฤหาสน์ภาคินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณปู่ ที่มองเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวหลานชายสุดที่รักอย่างชัดเจน วันนี้เป็นอีกวันที่แสนพิเศษ เมื่อปลายฝันมาเยี่ยมบ้านและได้ใช้เวลาอยู่กับ คุณปู่อย่างอบอุ่น ทำให้คุณปู่ได้เห็นแล้วว่าปลายฝันไม่ใช่แค่คนรักของหลานชาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวภาคินัยอย่างแท้จริง
แสงแดดยามบ่ายทอดผ่านม่านลูกไม้สีขาวสะอาด เข้ามาในห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างหรูหราแต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นของคฤหาสน์ภาคินัย เสียงหัวเราะสดใสของปลายฝัน ดังคลอไปกับเสียงสนทนาที่เต็มไปด้วยความเมตตาของคุณปู่ เองก็ยิ้มอย่างมีความสุข มองดูภาพตรงหน้าด้วยความอิ่มเอมใจ
คุณปู่ในชุดเสื้อผ้าสบายๆ กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตัวโปรด มือของคุณปู่ถือหนังสือพิมพ์ฉบับเดิมที่อ่านค้างไว้แต่สายตาของคุณปู่กลับจับจ้องไปที่ปลายฝันที่กำลังจัดดอกไม้ในแจกันแก้วคริสตัลอย่างตั้งใจ
"หนูปายนี่เก่งจริงๆ เลยนะ จัดดอกไม้ก็สวยทำกับข้าวก็อร่อยยังจะช่วยตาภีมบริหารบริษัทอีก" คุณปู่เอ่ยชมด้วยรอยยิ้ม
ปลายฝันหันมายิ้มเขินๆ "ขอบคุณค่ะคุณปู่ปายก็แค่ทำในสิ่งที่ชอบน่ะค่ะ"
"ชอบหรือว่าทำเพราะตาภีมนะ" คุณปู่แกล้งแซว
ปลายฝันหน้าแดงเล็กน้อย "ก็ทั้งสองอย่างแหละค่ะคุณปู่"
ภาคินัยเดินเข้ามานั่งข้างๆ คุณปู่ เขาเอื้อมมือไปกุมมือ ปลายฝัน ที่ยังคงถือดอกไม้อยู่
"จริงนะครับคุณปู่ ปายเก่งจริงๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ดีไปหมด"
คุณปู่ หัวเราะเบาๆ "หลงเข้าไปแล้วสิเจ้าหลานชายของปู่"
ภาคินัยยิ้มเขิน "ก็ต้องหลงสิครับคุณปู่ ปายน่ารักขนาดนี้"
ปลายฝันแอบหยิกแขนภาคินัย เบาๆ ด้วยความเขิน แต่ในใจเธอเต็มไปด้วยความสุขที่ได้เห็นภาคินัยแสดงออกถึงความรักต่อเธออย่างเปิดเผยต่อหน้าคุณปู่
หลังจากจัดดอกไม้เสร็จ ปลายฝันก็เดินไปนั่งลงบนพรมผืนนุ่มข้างๆ เก้าอี้โยกของคุณปู่ คุณปู่เล่าเรื่องราวในอดีตของภาคินัย สมัยเด็กๆ ให้ปลายฝัน ฟังอย่างสนุกสนาน ทำให้เธอได้รู้จักอีกมุมหนึ่งของชายหนุ่มที่เธอรัก
"รู้ไหมหนูปายตอนเด็กๆ เจ้าภีมน่ะซนเป็นลิงเลยนะ ชอบปีนต้นไม้ เล่นซนจนเสื้อผ้าขาดอยู่เรื่อยเลย" คุณปู่เล่าพลางหัวเราะเบาๆ
ปลายฝันหันไปมองภาคินัยที่นั่งอมยิ้มอยู่ "จริงเหรอคะคุณภีม ปายไม่เคยคิดเลยว่าคุณภีมจะซนขนาดนี้"
"คุณปู่ก็เล่าเกินไปครับปาย" ภาคินัยแกล้งทำเสียงดุแต่ในใจเขาอบอุ่นที่ได้เห็น ปลายฝันเข้ากับคุณปู่ได้ดีขนาดนี้
"จริงสิ! ปู่จะโกหกทำไม" คุณปู่ยืนยัน
"มีอยู่ครั้งนึงนะมันปีนไปเก็บมะม่วงบนต้นสูงๆ แล้วตกลงมา ข้อเท้าแพลงไปหลายวันเลย"
ปลายฝันหัวเราะคิกคัก "คุณภีมคะ ฟังดูเหมือนเด็กดื้อเลยนะคะ"
"พอเลยครับคุณปู่ อย่าแฉผมมากไปกว่านี้เลย" ภาคินัยพูดพลางกอดคุณปู่เบาๆ
คุณปู่ลูบหัวหลานชายด้วยความเอ็นดู "ก็ปู่เห็นว่าหนูปายเป็นคนในครอบครัวแล้วนี่นา เล่าให้ฟังได้หมดแหละ"
คำพูดของคุณปู่ทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างมากเธอรู้สึกเหมือนได้รับการยอมรับจากครอบครัวของภาคินัยอย่างเต็มที่
ต่อมาภาคินัยและปลายฝันก็พาคุณปู่ออกไปเดินเล่นในสวนหลังบ้านสวนที่ถูกดูแลอย่างดีมีดอกไม้นานาชนิดเบ่งบานส่งกลิ่นหอม สระน้ำเล็กๆ ที่มีปลาคาร์ปแหวกว่ายทำให้บรรยากาศดูสดชื่นและผ่อนคลาย
ภาคินัยเดินจูงมือคุณปู่ไปเรื่อยๆ โดยมีปลายฝันเดินตามหลัง มองดูภาพตรงหน้าด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น
"หนูปายรู้ไหมว่าตาภีมเป็นหลานชายที่ปู่รักมากที่สุด" คุณปู่ พูดขึ้นมา "ปู่เลี้ยงมันมาตั้งแต่เล็กๆ เห็นมันเติบโตมากับตา"
"ค่ะ ปายรู้ค่ะ" ปลายฝันตอบ
"ปู่เคยเป็นห่วงมันมากนะ ตอนที่มันต้องมารับช่วงบริษัทต่อจากพ่อมัน ปู่กลัวว่ามันจะแบกรับภาระไม่ไหว" คุณปู่พูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย
"แต่ดูตอนนี้สิ มันทำได้ดีกว่าที่ปู่คิดไว้เยอะเลย"
"คุณภีมเก่งอยู่แล้วค่ะคุณปู่" ปลายฝันกล่าวเสริม
"ใช่ มันเก่งจริงๆ นั่นแหละ" คุณปู่ยิ้ม "และที่สำคัญที่สุดคือปู่ดีใจที่เห็นมันมีความสุข"
คุณปู่หันมามองปลายฝัน "หนูปายนี่แหละที่ทำให้ตาภีมมีความสุขขนาดนี้ ปู่ขอบใจหนูมากนะ"
ปลายฝันยิ้มให้คุณปู่อย่างจริงใจ "ปายก็ดีใจค่ะที่คุณภีมมีความสุข"
ภาคินัยได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เขารู้สึกตื้นตันใจอย่างมาก เขาโอบไหล่ คุณปู่และปลายฝันไว้พร้อมกัน
"ผมก็มีความสุขมากครับคุณปู่ ที่ได้มีคุณปู่และปายอยู่เคียงข้าง" ภาคินัย พูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
เมื่อถึงเวลาอาหารค่ำทุกคนมานั่งรวมกันที่โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ อาหารมากมายถูกจัดวางอย่างสวยงาม ส่วนใหญ่เป็นเมนูโปรดของคุณปู่ที่ ปลายฝัน ตั้งใจทำด้วยตัวเอง
"โห วันนี้อาหารน่าอร่อยจังเลย" คุณปู่กล่าวชมทันทีที่นั่งลง
"ปายตั้งใจทำมาให้คุณปู่โดยเฉพาะเลยนะคะ" ปลายฝันบอกด้วยรอยยิ้ม
"น่ารักจริงๆ เลยหนูปาย" คุณปู่ยิ้มกว้าง
ระหว่างมื้ออาหารพวกเขาสนทนากันอย่างออกรส สลับกับการหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน คุณปู่สังเกตเห็นว่าภาคินัยคอยตักอาหารให้ปลายฝัน อย่างสม่ำเสมอและปลายฝันก็คอยดูแลเอาใจใส่คุณปู่อย่างดีเยี่ยม ทำให้คุณปู่รู้สึกเหมือนมีลูกสาวอีกคนเพิ่มขึ้นมาในครอบครัว
"ว่าแต่เรื่องแต่งงานของแกกับหนูปายไปถึงไหนแล้วล่ะตาภีม" คุณปู่ ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ภาคินัยสำลักเล็กน้อยส่วนปลายฝันก็หน้าแดงก่ำ
"คุณปู่ครับ!" ภาคินัยพูดอย่างเขินๆ
"อะไรเล่า ก็ปู่ถามจริงๆ นี่นา" คุณปู่แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ปลายฝันยิ้ม "คุณภีมเขาก็เพิ่งจะขอปายแต่งงานไปเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะคุณปู่"
"จริงเหรอ!" คุณปู่ ตาเป็นประกาย "แล้วหนูปายตกลงไปแล้วใช่ไหม"
"ค่ะ ปายตกลงแล้วค่ะ" ปลายฝันตอบด้วยรอยยิ้มหวาน
"ดีๆๆๆ" คุณปู่ ตบมือด้วยความดีใจ "งั้นก็รีบๆ จัดงานเลยนะ ปู่อยากอุ้มเหลนแล้ว"
ภาคินัยและปลายฝันมองหน้ากันแล้วยิ้มพวกเขารู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นคุณปู่มีความสุขมากขนาดนี้
เมื่อมื้อค่ำจบลงคุณปู่นั่งพักผ่อนอยู่ที่โซฟาโดยมีปลายฝัน นวดเท้าให้เบาๆ ภาคินัยนั่งอยู่ข้างๆ คอยพูดคุยกับคุณปู่เรื่องต่างๆ
"ปู่มีความสุขจริงๆ เลยนะวันนี้" คุณปู่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เหมือนบ้านเรากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง"
"ผมก็มีความสุขครับคุณปู่" ภาคินัยตอบ
"หนูปายนี่แหละที่นำความสุขกลับมาให้เรา" คุณปู่พูดพลางลูบผมของ ปลายฝันอย่างเอ็นดู
ปลายฝันยิ้มตอบ "ปายดีใจค่ะที่คุณปู่มีความสุข"
คุณปู่มองดูหลานชายและว่าที่หลานสะใภ้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความหวังตลอดหลายปีที่ผ่านมา
คุณปู่ต้องเผชิญกับความว้าเหว่หลังจากที่ลูกชายและลูกสะใภ้จากไป แต่ตอนนี้ภาคินัยได้เติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งและที่สำคัญที่สุดคือเขามีคนที่รักและพร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดชีวิต
ภาพของภาคินัยและปลายฝันที่อยู่เคียงข้างกัน ทำให้คุณปู่รู้สึกมั่นใจว่าอนาคตของครอบครัวภาคินัยจะสดใสและมั่นคงอย่างแน่นอน
ก่อนที่ภาคินัยจะพาปลายฝันกลับ คุณปู่ได้มอบสร้อยคอไข่มุกเก่าแก่ประจำตระกูลให้กับปลายฝัน
"นี่เป็นของที่แม่ของตาภีมเคยใส่นะ ปู่เก็บไว้นานแล้ว วันนี้ปู่ขอมอบให้หนูปายนะถือว่าเป็นของขวัญต้อนรับสู่ครอบครัวภาคินัย" คุณปู่พูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง
ปลายฝันน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใ เธอรับสร้อยคอมาด้วยความเคารพ "ขอบคุณค่ะคุณปู่ ปายจะดูแลอย่างดีที่สุดเลยค่ะ"
ภาคินัยโอบกอดคุณปู่และปลายฝันไว้พร้อมกันเขารู้สึกซาบซึ้งใจกับความรักและความเมตตาที่คุณปู่มีให้พวกเขา
เมื่อภาคินัยและปลายฝัน กลับมาถึงคอนโด ปลายฝันก็ยังคงตื้นตันใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้
"คุณภีมคะ ปายดีใจมากเลยค่ะที่คุณปู่ยอมรับปายขนาดนี้" ปลายฝันพูดพลางกอดสร้อยคอไข่มุกไว้แน่น
ภาคินัยโอบกอดเธอไว้ "คุณปู่รักปายอยู่แล้วครับปาย เพราะปายเป็นคนดีและทำให้ผมมีความสุข"
"ปายก็รักคุณปู่ค่ะ"
ภาคินัยจูบลงบนหน้าผากของปลายฝันอย่างอ่อนโยน "และปายก็รักผมใช่ไหมครับ"
"แน่นอนสิคะ ปายรักคุณภีมที่สุดเลย" ปลายฝันตอบด้วยรอยยิ้มหวาน
ค่ำคืนนั้นปลายฝันเข้านอนด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความอบอุ่น เธอรู้สึกเหมือนได้พบกับบ้านที่แท้จริงไม่ใช่แค่ที่พักอาศัยแต่เป็นที่ที่มีความรักความเข้าใจและครอบครัวที่อบอุ่น
คุณปู่เองก็นอนหลับฝันดีในค่ำคืนนั้น ความสุขของหลานชายคือความสุขที่สุดของคุณปู่ การได้เห็น ภาคินัยและปลายฝันอยู่เคียงข้างกันอย่างมีความสุข ทำให้คุณปู่รู้สึกหมดห่วงและมั่นใจว่า ภาคินัย กรุ๊ปและครอบครัวภาคินัยจะก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงด้วยความรักที่แข็งแกร่งของทั้งสองคน
ตอนที่ 122 บทส่งท้ายกาลเวลาหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความทรงจำที่สวยงามยังคงถูกถักทอขึ้นอย่างต่อเนื่องในชีวิตของภาคินัย ปลายฝัน ธามและน้ำหวาน ทุกเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมา ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือท้าทาย ล้วนหล่อหลอมให้พวกเขากลายเป็นคนที่สมบูรณ์ในวันนี้ บทสรุปของเรื่องราวนี้จึงเป็นการสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความรักที่อบอุ่น และอนาคตที่สดใส ที่พวกเขาได้สร้างขึ้นด้วยกันวันหยุดสุดสัปดาห์ที่สดใสครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน รวมถึงธามและน้ำหวาน ได้วางแผนเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เด็กๆ จะได้สัมผัสผืนทรายและน้ำทะเลด้วยตัวเองรถตู้คันใหญ่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทเพลงจากเด็กๆ น้องเมฆและน้องเมษาที่ตอนนี้เริ่มเดินได้คล่องแคล่ว ต่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่ไม่คุ้นเคย"คุณภีมคะ ดูสิคะน้องเมฆชี้ไปที่ทะเลใหญ่เลย" ปลายฝันยิ้มอย่างมีความสุข"เมษาก็ตื่นเต้นเหมือนกันค่ะคุณธาม" น้ำหวานเสริม พลางมองลูกสาวที่กำลังยิ้มกว้างเมื่อเดินทางถึงรีสอร์ตหรูริมทะเล ภาคินัยและธามต่างช่วยกันขนสัมภาระลงจากรถ ส่วนปลายฝันและน้ำหวานก็ดูแลเด็กๆ ที่วิ่งสำรวจไปทั่วบริเวณด้วยความกระตือ
ตอนที่ 121 บทสรุปของความรักชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดำเนินมาถึงบทสรุปที่งดงาม พวกเขาได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในทุกมิติ ทั้งในด้านความรักที่มั่นคง ครอบครัวที่อบอุ่น และหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ ความรักของพวกเขาสุกงอมและเบ่งบานอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับธามและน้ำหวาน ที่ต่างก็สร้างสรรค์ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างลงตัว บทสรุปของความรักครั้งนี้จึงเป็นการเฉลิมฉลองให้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความเข้าใจ และการเติมเต็มซึ่งกันและกันผ่านมาหลายปี นับตั้งแต่น้องเมฆลืมตาดูโลก ชีวิตของภาคินัยและปลายฝันดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบในทุกด้าน พวกเขายังคงเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างลึกซึ้ง ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทวีคูณขึ้นตามกาลเวลา แม้จะมีความรับผิดชอบมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่เคยละเลยที่จะเติมเต็มความปรารถนาและความเร่าร้อนให้แก่กันและกันค่ำคืนหนึ่งหลังจากที่น้องเมฆหลับไปแล้ว แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนอย่างนุ่มนวล ภาคินัยโอบกอดปลายฝันจากด้านหลังอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยทำให้ปลายฝันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เธอซบหน้ากับแผงอกที่คุ้นเคยของเขา"ปายครับ คุณสวยที่สุดเลยนะ" ภาคินัยกระซิบเสียงพร่า พลางจูบลงบนไหล
ตอนที่ 120 ความสุขหลังจากผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งความรัก ความสุข ความท้าทาย และการเติบโตในบทบาทใหม่ ทุกคู่ต่างค้นพบความสุขในแบบของตัวเอง ภาคินัยกับปลายฝัน และธามกับน้ำหวาน ต่างได้ใช้ชีวิตในแบบที่พวกเขาปรารถนา เติมเต็มความหมายของคำว่า "ความสุขที่แท้จริง" ในแบบฉบับของตัวเองชีวิตของภาคินัยและปลายฝันตอนนี้เปรียบเสมือนภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ ทุกองค์ประกอบต่างถูกเติมเต็มอย่างลงตัว ด้วยความรักที่เปี่ยมล้นจากน้องเมฆ และความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ภาคินัยยังคงทุ่มเทให้กับการบริหารภาคินัย กรุ๊ปอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะจัดสรรเวลาให้สมดุลระหว่างงานและครอบครัว เขามักจะตื่นเช้าขึ้นมาเล่นกับน้องเมฆก่อนไปทำงาน และพยายามกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อใช้เวลาช่วงเย็นกับภรรยาและลูกชาย การเห็นน้องเมฆเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือพลังขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา"วันนี้น้องเมฆเรียก 'ป๊า' ชัดขึ้นเยอะเลยนะครับปาย" ภาคินัยเล่าด้วยรอยยิ้มกว้างในมื้อเย็นปลายฝันยังคงเป็นกำลังสำคัญอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของภาคินัย เธอทำหน้าที่ภรรยาและคุณแม่ได้อย่างไม่มีที่ติ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย อบอุ่
ตอนที่ 119 มิตรภาพที่ยั่งยืนท่ามกลางความวุ่นวายของชีวิตในบทบาทใหม่ ทั้งการเป็นพ่อแม่และการบริหารธุรกิจที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มิตรภาพที่ถักทอขึ้นระหว่างภาคินัยและธาม รวมถึงปลายฝันและน้ำหวาน กลับยิ่งแข็งแกร่งและหยั่งรากลึก พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่ามิตรภาพที่แท้จริงไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา แต่กลับยิ่งเปล่งประกายและเป็นพลังใจให้แก่กันเสมอครั้งหนึ่ง ภาคินัยและธามเคยเป็นคู่แข่งทางธุรกิจที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในสนามแข่งขัน แต่ด้วยความจริงใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาก็ได้ก้าวข้ามกำแพงแห่งการแข่งขันและแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพที่แข็งแกร่ง การมีลูกในเวลาใกล้เคียงกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นบ่ายวันหนึ่ง ภาคินัยโทรหาธามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแกมขบขัน "เฮ้ยธาม! วันนี้น้องเมฆงอแงไม่ยอมนอนเลยว่ะ ฉันแทบไม่ได้ทำงานเลย"ธามหัวเราะจากปลายสาย "ฉันก็เหมือนกันภีม! น้องเมษาวันนี้เล่นไม่หยุดเลย พลังเยอะจริงๆ เด็กสมัยนี้"บทสนทนาของพวกเขาไม่ใช่เรื่องธุรกิจอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องราวของผ้าอ้อม นมผง และการนอนไม่พอ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นคุณพ่อมือใหม่กลายเ
ตอนที่ 118 การเติบโตของภาคินัย กรุ๊ปหลังจากที่น้องเมฆเข้ามาเติมเต็มชีวิตครอบครัวของภาคินัยและปลายฝัน แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ไม่เพียงแต่ในเรื่องส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการบริหารงานของภาคินัย กรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด ภายใต้การนำของภาคินัย และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากปลายฝัน บริษัทก็ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่โดดเด่นยิ่งกว่าเดิมเช้าวันหนึ่งที่สดใสในเดือนมิถุนายน ภาคินัยเดินนำปลายฝันและน้องเมฆที่อยู่ในรถเข็นเด็ก เข้าสู่ล็อบบี้สุดหรูของภาคินัย ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ภาคินัยในชุดสูทสีเข้มดูภูมิฐานและสง่างามกว่าเคย ส่วนปลายฝันในชุดเดรสสีอ่อนสบายตาดูสวยสดใสในมาดคุณแม่ลูกหนึ่ง น้องเมฆตัวน้อยในรถเข็นมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าจิ้มลิ้มมีรอยยิ้มอ้อแอ้ตลอดเวลา"วันนี้ลูกชายมาเยี่ยมบริษัทป๊าครั้งแรกนะลูก" ภาคินัยกระซิบกับน้องเมฆพลางยิ้มอบอุ่นปลายฝันหัวเราะเบาๆ "สงสัยจะชอบบรรยากาศนะคะเนี่ย"พนักงานในล็อบบี้ที่กำลังสัญจรไปมา ต่างหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นและสมบูรณ์แบบนี้ หลายคนส่งยิ้มและโค้งคำนับให้ผ
ตอนที่ 117 คุณปู่กับทายาทเมื่อน้องเมฆเติบโตขึ้นในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่ภาคินัยและปลายฝันเท่านั้นที่ภาคภูมิใจ แต่ยังมีคุณปู่ของภาคินัย ผู้เป็นรากฐานของอาณาจักรภาคินัย กรุ๊ป ที่เปี่ยมด้วยความสุขอย่างยิ่งที่ได้เห็นทายาทคนใหม่ การมาถึงของน้องเมฆไม่เพียงแต่เติมเต็มความหมายของคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ยังเป็นการยืนยันว่าธุรกิจที่สร้างมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย จะมีผู้สืบทอดต่อไปอย่างมั่นคงคุณปู่ของภาคินัย แม้จะอยู่ในวัยชรา แต่ดวงตาท่านยังคงเปล่งประกายด้วยความสุขและความเฉียบแหลม การมาถึงของน้องเมฆ เหลนชายและทายาทของเหลนคนเดียวของตระกูล ทำให้หัวใจของคุณปู่เต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่านเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน วันที่จะได้เห็นสายเลือดของตระกูลยังคงดำเนินต่อไปคุณปู่ก็เดินทางมาเยี่ยมเหลนชายที่บ้านทันที ท่านนั่งลงข้างเปลนอนของน้องเมฆ มองเหลนชายตัวน้อยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเอ็นดู"ตาหนูเมฆของปู่ ในที่สุดเจ้าก็มา" คุณปู่กระซิบเสียงแผ่ว พลางเอื้อมมือที่เหี่ยวย่นลูบไล้แก้มยุ้ยของน้องเมฆอย่างอ่อนโยนภาคินัยและปลายฝันยืนมองภาพนั้นด้วยความซาบซึ้ง พวกเขารับรู้ได้ถึงความรักอันลึกซึ้งที่คุณ