แชร์

บทที่ 22 หนังสือหย่า

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 09:49:04

บทที่ 22

หนังสือหย่า

            ตอนนี้บรรยากาศกำลังดี สักครู่หนึ่ง กลับมีสตรีอายุสิบแปดสิบเก้าเดินบิดเอวเข้ามายืนข้างๆ เฟิงหยาง สตรีนางนั้นวาดมือเกาะแขนของเขาอย่างสนิทสนม

            หางคิ้วของฉินหรูกระตุก

            “ท่านแม่ทัพกลับมาสักทีนะเจ้าคะ พวกเรารอท่านจนไม่เป็นทำอะไรแล้ว”

            สตรีผู้มากจริตมารยาพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน ดูจากการแต่งตัวและท่าทางสนิทสนมของทั้งคู่แล้ว ฝ่ายนั้นย่อมไม่ใช่แค่บ่าวในเรือนธรรมดาอย่างแน่นอน

            หรือจะเป็นสตรีอุ่นเตียง?

            ฉินหรูคิด พร้อมกับมองทั้งคู่ที่แนบชิดสนิทสนมด้วยสายตาไร้อารมณ์

            ด้านเฟิงหยางเม้มปากเงียบไม่พูดไม่จา ยอมให้สตรีนางนั้นเกาะแกะ หากดวงตาคมเข้มคอยสังเกตปฏิกิริยาของฉินหรู

            เฟิงหยางเพิ่งอายุยี่สิบต้นๆ อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ กรำศึกในสนามรบตั้งสี่ปี ย่อมต้องมีความใคร่ในแบบของบุรุษ เขาจะมีสตรีหลับนอนด้วยย่อมไม่ใช่แปลก อีกอย่าง สตรีนางนี้รูปร่างอวบอิ่ม ทรวดทรงองค์เอวดูเย้ายวน ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงล่างของนางก็ดูแข็งแรง เหมาะจะรองรับแรงม้าพ่อพันธุ์รูปงามอย่างเฟิงหยางพอดี

            หากมีสตรีนางนี้คอยอุ่นเตียงในยามที่เฟิงหยางคึกคักขึ้นมา ฉินหรูก็จะรอดพ้น ไม่ถูกเขาบดจนร่างแหลกคาเตียง

            แต่...

            แม้จะคิดอย่างนั้น ฉินหรูกลับรู้สึกไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย

            หากสตรีนางนี้เลื่อนขึ้นมาเป็นฮูหยินรอง ถึงตอนนั้นนางจะไม่กลายเป็นหมาหัวเน่าหรอกหรือ

            ระหว่างที่ฉินหรูคิดอย่างไม่สบอารมณ์

            เจ้าตัวเล็กมองสตรีแปลกหน้าสลับกับท่านพ่อด้วยตาแป๋วแหวว ครู่ต่อมา มืออวบอ้วนก็ยื่นไปตีมือของหญิงสาวแล้วตะโกนสุดเสียง

            “ห้ามจับ!”

            ทุกคนที่เห็นและได้ยินต่างตะลึง 

            ต่อมา บนใบหน้าของหญิงสาวนางนั้นผุดพรายรอยยิ้ม ก่อนจะถามเด็กน้อยด้วยความท้าทาย

            “ทำไมจะจับไม่ได้”

            “ท่านพ่อ...เป็นของอาเหยา”

            ใช่ๆ อาเหยาของแม่กล้าหาญมาก เจ้าต้องเกาะขาเก้าอี้ทองคำเอาไว้

            หญิงสาวนางนั้นเงียบไปสักพักครู่ พอปล่อยมือจากแขนล่ำสันของเฟิงหยาง นางก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ด

            “ตัวแค่นี้รู้จักหวงท่านพ่อแล้วหรือ น่ารักเสียจริง” หญิงสาวพูดพร้อมแตะปลายจมูกเล็กๆ ของอาเหยา จากนั้นค่อยหันมาย่อกายคารวะให้ฉินหรูด้วยท่าทางเป็นมิตร

            “ขออภัยฮูหยิน เมื่อครู่ข้าแค่แกล้งท่านเล่นเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะเจ้าคะ”

            “....”

            ฉินหรูงงงันวูบ

            “นางชื่อว่าซินเหมียว เป็นภรรยาของสหายข้าเอง” เฟิงหยางไขข้อสงสัย

            “ภรรยาของสหายท่านหรือ” ฉินหรูทวนคำ พร้อมกับมองรอบๆ บ้าน

            แม้เป็นบ้านแม่ทัพ แต่จนถึงตอนนี้กลับยังไม่เห็นบ่าวรับใช้สักคน หมายความว่ายังไง

            “ถ้ามองหาพี่จั่นเฉิงละก็ ตอนนี้เขาออกไปทำธุระให้กับท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ” ซินเหมียวบอก “ที่ข้าสนใจคือเจ้าตัวน้อย นอกจากจะหน้ารักน่าชังแล้ว ยังกล้าหาญด้วย เหมือนท่านแม่ทัพเลยเจ้าค่ะ”

            ได้ยินเช่นนี้เฟิงหยางผุดยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ

            “เรื่องที่ให้เจ้าเตรียม ถึงไหนแล้ว” เฟิงหยางถาม

            “อ๋อ เรื่องนั้นข้าเตรียมเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” ซินเหมียวตอบ

            เฟิงหยางพยักหน้าตอบซินเหมียวว่า อืม จากนั้นก็หันมาพูดกับฉินหรูต่อ

            “เสี่ยวหรู จากนี้ข้ากับเจ้าต้องหย่ากัน”

            ฉินหรูอึ้งอีกรอบ

            หย่าหรือ!

            ในขณะนั้น...

            ภายในห้องโถงของบ้านเสิ่น

            เสิ่นเทา หนิงลี่ เสิ่นเซียวอวี้และภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์แก่ ทั้งสี่นั่งรอบโต๊ะ สีหน้าตึงเครียด

            “ท่านพี่ เสิ่นหยางลูกชายท่านทำเช่นนี้นับว่าอกตัญญูยิ่งนัก!” หนิงลี่โวยวายเสียงแหลม

            เสิ่นเซียวอวี้เห็นด้วยกับมารดา รีบพยักหน้าเออออ “ท่านแม่พูดถูก จู่ๆ พี่ใหญ่ก็เปลี่ยนแซ่ ทำแบบนี้ไม่ไว้หน้าท่านพ่อเลยขอรับ”

            ความจริง เสิ่นเซียวอวี้กังวลว่าหากครั้งหน้ามีการเกณฑ์ทหารไปสนามรบอีก ตนที่เป็นคนแซ่เสิ่นจะต้องรับหน้าที่ออกไปรบ

            เสิ่นเทานั่งตรงหัวโต๊ะตำแหน่งประธาน ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นของชายวัยกลางคนฉายแววกลัดกลุ้ม

            เจ้าลูกอตัญญูนั่นเปลี่ยนไปใช้แซ่ ‘เฟิง’ จากนี้ต้องเรียกเจ้านั่นว่า ‘เฟิงหยาง’

            ไม่ใช่แค่นั้น เด็กคนนั้นยังกลับมาในฐานะแม่ทัพเฟิงหยาง หากรู้ว่าเป็นอย่างนี้ ตอนนั้นไม่น่าตัดรายชื่อออกจากวงศ์ตระกูลเลย

            สิ่งที่เสิ่นเทากังวลตอนนี้ ไม่ใช่แค่เสียดายที่ลูกชายคนโตได้ดิบได้ดีกลับมาในฐานะของคนตระกูลเฟิง แต่ธุรกิจที่ตนทำตอนนี้ เกรงว่าลูกชายคนนั้นจะเอามาเปิดโปง

            คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นเทาตวัดสายตาดุดันไปทางหนิงลี่ “เจ้าบอกว่าเขาหนีทหารไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงกลับตาลปัตรเช่นนี้เล่า”

            หนิงลี่ตีหน้าเศร้า พูดอย่างสำนึกผิด “ใครจะรู้ว่าลูกชายตัวดีของท่านอยู่ดีๆ จะเปลี่ยนแซ่ นายทหารที่ข้ารู้จัก ตรวจสอบให้ตายก็ไม่พบชื่อ ‘เสิ่นหยาง’ ตอนอยู่บ้านเสิ่น เขาเองก็เป็นคนขี้ขลาดขนาดนั้น ข้าก็เลยเข้าใจว่าเขาต้องหนีทหารเป็นแน่”

            เหตุผลนี้เสิ่นเทาเข้าใจได้

            หนิงลี่พูดต่อ “ข้ากลัวว่าเขาจะทำให้บ้านเสิ่นของเราเดือดร้อน ทางที่ดีควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เอาชื่อเขาออกจากวงศ์ตระกูลไปเสียก่อน ท่านพี่ นี่ไม่ใช่ความผิดข้าเลยสักนิด”

            นายทหารที่หนิงลี่จ้างวานคนนั้นเป็นคนรู้จักกับตระกูลของนางอีกที ที่จริงแล้ว นางไม่ได้จ้างให้คอยสอดแหนมความเคลื่อนไหวของเฟิงหยาง แต่จ้างให้ไปกำจัดฝ่ายนั้น โดยทำทีเป็นว่าให้ตายอยู่ในสนามรบ ใครจะคิดว่า นอกจากเจ้านั่นจะมีชีวิตรอดกลับมา ยังได้ดิบได้ดีเป็นถึงแม่ทัพ

            ที่น่าเจ็บใจกว่านั้น!

            คนที่ทำตัวมืดมน ขี้ขลาดมาตั้งแต่เด็กๆ ดูอย่างไรก็ไร้กำลัง จะซ่อนความสามารถมาตลอด

            “ท่านพี่ ถึงลูกชายของท่านคนนั้นจะหันไปใช้แซ่เฟิง แต่เขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน สายเลือดย่อมตัดไม่ขาดใช่หรือไม่”

            “นั่นก็ใช่ เจ้าถามเช่นนี้ คิดจะทำอะไร?”

            “ไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้นเจ้าค่ะ แค่อยากให้ท่านพี่ตระหนักถึงจุดยืนของท่าน หากเขาทำเรื่องที่ไม่ไว้หน้าบ้านเสิ่น เพียงแค่ได้ใจเพราะเปลี่ยนไปใช้แซ่เฟิงแล้ว คนที่ถูกตราหน้าว่าอกตัญญูก็คือเขา ในทางกลับกัน เขาเป็นลูกชายคนโตบ้านเสิ่น ชื่อเสียงของเขาก็เป็นหน้าเป็นตาของท่านเหมือนกัน”

            “ถูกของเจ้า”

            เสิ่นเทาเห็นด้วย ชั่วอึดใจนั้น บนใบหน้าเหี่ยวๆ ก็ผุดรอยยิ้มย่ามใจ

            ธุรกิจปล่อยเงินกู้ของเสิ่นเทาตอนนี้กำลังสร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ ถ้าเจ้าเด็กคนนั้นเห็นแก่ที่เขาเป็นพ่อแท้ๆ อย่างน้อยก็ต้องไว้หน้าพ่อคนนี้บ้าง

            ด้านหนิงลี่นั้นคิดว่า หากเล่นงานเฟิงหยางตรงๆ ไม่ได้ ก็ยังมีวิธีจัดการอย่างอื่น นางผู้หญิงบ้านนอกคนนั้นเป็นหมากโง่เง่าชั้นดี

            ผู้หญิงบ้านนอกคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือฉินหรูนั่นเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ มิตรภาพ

    บทพิเศษมิตรภาพ หลังจากเฟิงหยางออกบ้านไปได้สักพัก เสี่ยวจินกับไป๋เหิงก็มาเยือน หญิงสาวทั้งสามยังคงสนิทสนมกันดี แม้ภายหลังต่างแยกย้ายไปมีเส้นทางของตนเอง แต่พวกนางมักมารวมตัวกันบ้านเฟิงบ่อยๆ ไป๋เหิงกับคุณชายใหญ่เซวียเยี่ยนจื่อ คุยกำหนดการและวันแต่งงานเรียบร้อยแล้ว เห็นว่าพธีแต่งงานจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า เสี่ยวจินลงเอยกับเฉินต้านเมื่อไม่นานมานี้ แม้ไม่ได้จัดงานแต่งงานใหญ่โตเหมือนกับไป๋เหิง แต่อย่างน้อย นางได้กราบไหว้ฟ้าดินและทำพิธีคารวะญาติผู้ใหญ่ “เสี่ยวหรู สามีเจ้าเพิ่งออกไปค่ายทหารหรือ ระหว่างทางพวกข้าเห็นเขาควบม้าออกไปพอดี นี่ๆ เจ้ากับสามีหักโหมเกินไปหรือไม่ ทำเขาไปสายแล้ว” เสี่ยวจินเปิดประเด็น ท้ายประโยคยังแซวสหายพลางหัวเราะคิก “ใช่ๆ ไปค่ายเวลานี้ ไม่นับว่าสายไปหรือ” ไป๋เหิงยิ้มแย้ม เอ่อออกับเสี่ยวจิน ฉินหรูแกล้งทำหน้ามุ่ย โบกมือแล้วกล่าวตัดบทพวกนางทั้งสอง “ช่างเรื่องของสามีเถอะ ข้าสนใจเรื่องของพวกพี่สาวมากกว่า พี่เสี่ยวจิน วันนี้ปักปิ่นมาสวยเชียว ไม่คิดเลยว่าเฉินต้านจะเป็นสามีที่เอาอกเอ

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ เป็นวันที่ดี

    บทพิเศษเป็นวันที่ดี รุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองทอประกายเข้ามาทางหน้าต่าง ทันทีที่เฟิงหยางลืมตาตื่นขึ้น พลันพลิกตัวนอนตะแคง มุมปากยกยิ้มขณะมองภรรยาที่ยังหลับใหลบนที่นอน เมื่อคืนเขาคงรังแกนางมากไปหน่อย ทำให้นางอ่อนเพลียต้องตื่นสายแล้ว คิดจบ เฟิงหยางก็ยื่นมือออกไปลูบไล้แก้มเนียนของภรรยาแผ่วเบา ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เขารู้สึกถึงความสุขและอุ่นหัวใจเมื่อเห็นว่านางยังอยู่เคียงข้าง ครู่ต่อมา ขนตาหนาเป็นแพรของหญิงสาวขยับไหวราวกับปีกผีเสื้อ ก่อนดวงตาคู่สวยจะเปิดปรือขึ้น ฉินหรูค่อยๆ ลืมตาตื่น ทันใดนั้นก็เห็นว่าสามีกำลังยิ้มมองนางอยู่ ริมฝีปากของนางพลันคลี่ยิ้มให้เขาด้วยความอ่อนเพลีย ขณะเดียวกัน ดวงตาคู่สวยก็เต็มไปด้วยความรักที่ไม่มีวันหมด “ท่านพี่...” ริมฝีปากของฉินหรูขยับเรียกสามีแผ่วเบา “ข้าทำเจ้าตื่นหรือ” แม้เฟิงหยางจะถามเช่นนั้น หากนิ้วมือกลับเลื่อนลงมาลูบไล้กลีบปากอิ่มสวย ราวกับไม่อาจหักห้ามใจให้ปล่อยมือจากนาง “ปกติข้าตื่นเช้ากว่

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทพิเศษ อุ่นรัก(อีกครั้ง)

    บทพิเศษอุ่นรัก(อีกครั้ง) กลิ่นอาหารที่กำลังปรุงใหม่ๆ ลอยมาจากโต๊ะกลางห้อง กลิ่นนั้นหอมมาก ทั้งยังทำให้กระเพาะของเฟิงหยางถึงกับร้องระงม ตั้งแต่รับนางกับลูกกลับมาอยู่ด้วยกัน ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม้นานๆ ครั้งนางจะเข้าครัวสักที แต่เฟิงหยางย่อมรู้ถึงความอร่อยในรสมือของฉินหรู นอกจากนี้ยังทำให้เขาคลั่งไคล้อย่างที่สุด เช้านี้เฟิงหยางครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ เพราะไม่มีเรื่องใดให้เขาต้องปวดหัวหรือเป็นกังวลอีกแล้ว เหนืออื่นใด คนงามของเขาเป็นยอดภรรยาหาผู้ใดเทียบไม่ได้ หัวใจเขามอบให้นางไปจนหมดสิ้น สิ่งที่ทั้งคู่ยังขาดคือการเติมความหวานละมุนละไมให้แก่กัน อีกอย่างหนึ่ง ช่วงนี้อาเหยาอ้อนไปอยู่บ้านท่านตาเพราะกำลังเห่อน้องสาว นับว่าทางสะดวก! หลังจากจบคดีความของเสิ่นเทา ผ่านมาแล้วสองเดือน เขากับนางไม่ได้ร่วมเตียงกันอีกเลย เขาเองก็เป็นบุรุษ ย่อมมีความใคร่ อยากกอดภรรยาใจจะขาดอยู่รอมร่อ ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งจะกอดนางไปแค่คืนเดียวก็ตอนที่อาเหยาไปอยู่กับท่านตาท่านยาย! เวลานี้ เฟิงหยางกำลังแช่ตัวอยู่ใน

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 45 บทสรุป

    บทที่ 45บทสรุป ย้อนกลับมา ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองฉาง หลังจากหัวหน้ามือปราบยกหีบเก็บเงิน เอกสารรายรับรายจ่ายและสมุดรายชื่อเข้ามาในที่ว่าการ เสิ่นเทาก็ทรุดลงกับพื้นทันที คร่ำครวญว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ หีบเงินและสมุดรายชื่อเหล่านี้เป็นของผู้อื่น ตนถูกคนใส่ความ แน่นอนว่า คำพูดของเสิ่นเทาโกหกอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่หัวหน้ามือปราบไปยังห้องลับนั้น หนิงลี่กำลังสั่งให้พวกบ่าวขนย้ายข้าวของออกไปพอดี เรียกได้ว่าจับได้แบบคาหนังคาเขา ในเมื่อหลักฐานแน่นหนาถึงเพียงนี้ เหล่าขุนนางกังฉินยังประทับลายนิ้วมือ สารภาพผิดกันหมดแล้ว เสิ่นเทาก็ไร้หนทางรอดเช่นกัน วันต่อมา เสิ่นเทายอมรับสารภาพ ทั้งยังขอร้องให้ละเว้นชีวิตของเสิ่นเซียวอวี้และหลานที่กำลังจะคลอด นายอำเภอเซวียไม่ได้ตอบทันที แต่ใช้เวลาพิจารณคดีสองวันสองคืน ในที่สุด การตัดสินคดีก็ถูกติดบนป้ายประกาศ ขุนนางกังฉินและเสิ่นเทาเกี่ยวข้องกับคดีมากมาย ทั้งคดีฆาตกรรมทั้งหาเงินมาอย่างมิชอบ ได้รับโทษประหารในอีกเจ็ดวันให้หลัง เสิ่นเซียวอวี้ผู้เป็น

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 44 ชะตากรรมของบ้านเสิ่น

    บทที่ 44ชะตากรรมของบ้านเสิ่น ตั้งแต่เสิ่นเทาถูกทางการเรียกตัว หนิงลี่ร้อนรนเหมือนไฟลนก้น เรียกทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง หารือว่าจะช่วยเสิ่นเทาอย่างไร เพียงไม่นาน เสิ่นเซียวอวี้กับจางเหมยเหมยก็มาถึง พ่อบ้านเสิ่นกับไฉ่ไฉ่มารอก่อนแล้ว จึงไม่ต้องเสียเวลานาน หนิงลี่นั่งไม่ติดเก้าอี้ เดินกลับไปกลับมาพลางว่า “สามีข้าถูกทางการเรียกตัว ไต่สวนคดีปล่อยกู้และติดสินบน พวกเจ้าช่วยคิดหาวิธีช่วยเขาออกมาหน่อย” พ่อบ้านเสิ่นครุ่นคิด ก่อนจะเสนอให้ยัดเงินนายอำเภอเซวีย ไฉ่ไฉ่นั้นจนปัญญา ไม่มีความคิดดีๆ เนื่องจากยังตรอมใจที่คนรักทอดทิ้งนางไป ด้านจางเหมยเหมยกลุ้มใจยิ่งกว่า เป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้า ไม่คิดว่าจะต้องมาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ในขณะที่ทุกคนร้อนใจจะเป็นจะตายเรื่องที่เสิ่นเทาถูกจับ กลับมีเพียงคนคนเดียวที่ไม่ทุกข์ร้อน นั่งหัวเราะคิกคักราวกับเห็นเป็นเรื่องตลก คนคนนั้นก็คือเสิ่นเซียวอวี้! เสิ่นเซียวอวี้กวาดสายตามองสีหน้าเป็นทุกข์ของทุกคนในห้องโถง ชี้หน้าเรียงตัวพร้อ

  • เกิดใหม่ทั้งที จะเป็นมารดาที่ดีให้ได้!    บทที่ 43 ไต่สวน

    บทที่ 43ไต่สวน คดีขุนนางทุจริตเกี่ยวโยงกับคดีปล่อยกู้ของเสิ่นเทา นอกจากนี้ พบว่าวิธีการทวงหนี้ของเสิ่นเทานั้นยังโหดร้ายทารุณ ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตไม่น้อย ในเมื่อมีผู้เสียชีวิตย่อมเป็นคดีฆาตกรรม แต่เสิ่นเทารอดพ้นความผิดมาได้เพราะความช่วยเหลือจากขุนนางกังฉิน อย่างไรก็ตาม การฆาตกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ย่อมมีหลักฐาน บัดนี้ หลักฐานและพยานบุคคลครบเรียบร้อย นายอำเภอเซวียจึงเรียกขุนนางกังฉินเหล่านั้นสอบสวนทีละคน สุดท้ายถึงค่อยเป็นเสิ่นเทา หลายวันต่อมา เสิ่นเทาถูกเรียกตัวมายังที่ว่าการอำเภอ จากนั้นผู้ช่วยนายอำเภออ่านสรุปสำนวนคดี เสิ่นเทาเบื้องหน้าทำธุรกิจค้าขาย แต่เบื้องหลังปล่อยกู้ มอบเงินสินบนแก่ขุนนาง และยังชุบเลี้ยงโจรกลุ่มหนึ่ง หากลูกหนี้ใช้หนี้คืนไม่ตรงตามกำหนด เสิ่นเทาจะใช้วิธีทวงเงินอย่างโหดเหี้ยมทารุณ กังขังหน่วงเหนี่ยว ทรมานจนถึงแก่ชีวิตก็มี ญาติของลูกหนี้ที่เป็นผู้หญิง จะถูกจับไปขายให้กับหอคณิกา อ้างว่าเพื่อขัดดอก... ทั้งที่เสิ่นเทาทำการอุกอาจ แต่ยังลอยนวลม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status