แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: เฉียวเหมย
ทันทีที่ฮั่วหยุนเซียวและโอวจินเดินเข้ามายังประตูด้านหน้า พวกเขาต่างก็ได้รับความสนใจอย่างนับไม่ถ้วน

แม้ว่าหลายคนอยากได้ยศถาบรรดาศักดิ์ของตระกูลฮั่ว แต่ฮั่วหยุนเซียวนั่นเป็นคนแปลกที่แค่ได้ยินชื่อเสียงก็ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาพูดคุยด้วย

ฮั่วหยุนเซียวเดินตรงไปที่เฉินลี้ซาน พร้อมเอ่ยเรียก “คุณเฉิน”

เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้น ก็สามารถดึงดูดสายตานับไม่ถ้วนจากผู้คนได้แล้ว

ตัวตนของฮั่วหยุนเซียวเป็นยังไงน่ะเหรอ? เขาไม่เคยปรากฏตัวในงานเลี้ยงทั่วไปเลยสักครั้ง ทว่าเขาในตอนนี้กลับเข้าไปทักทายเฉินลี้ซานเป็นการส่วนตัวด้วย นี่ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีเลยทีเดียว!

“คุณฮั่ว...บอสฮั่วมาแล้วเหรอ!” เฉินลี้ซานประหลาดใจมาก เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฮั่วหยุนเซียว ออร่าของชายหนุ่มคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ

ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้าเล็กน้อย “เรื่องครั้งก่อน ผมต้องขอบใจคุณเฉินมากสำหรับการช่วยเหลือพิเศษ”

“ไม่เป็นไร มันง่ายจนแทบไม่ต้องออกแรงเลย!” เฉินลี้ซานพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณทำตัวตามสบายเลยนะ ผมขอตัวไปหาคุณปู่ที่ด้านหลังก่อน”

“เชิญครับ”

หลังจากที่เฉินลี้ซานออกไป ฝูงชนก็ร้องอุทานออกมา ฮั่วหยุนเซียวและโอวจินเบนสายตาตามเสียงร้องของฝูงชนไป จนเห็นสาวสวยในชุดสีฟ้าอ่อนกำลังเดินลงบันไดมา

หญิงสาวมีรูปร่างที่ผอมเพรียว ผมยาวของเธอม้วนงอเล็กน้อยอยู่ทางด้านขวา ใบหน้าซ้ายของเธอเหมือนดอกพีช ใบหน้างดงาม ดวงตาเยือกเย็นราวกับน้ำพุบนภูเขา ทำให้รู้สึกซึบซาบเข้าไปในหัวใจ

โอวจินแทบจะสำลักไวน์ “นี่ไม่ใช่...ไม่ใช่...คนที่นายรุนแรงขนาดนั้น…”

ก่อนที่จะได้ฟังจนจบประโยค ดวงตาของฮั่วหยุนเซียวก็ถูกปิดกั้นลงช้า ๆ

เฉินมู่ชำเลืองมองลงมาด้านล่าง และเห็นฮั่วหยุนเซียวที่ยืนโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติได้ในแวบแรกที่ปรายตา เมื่อเห็นหนุ่มหล่อไม่มีใครเทียบที่ “ตกทุกข์ได้ยากร่วมกัน” เมื่อคืนนี้อยู่ตรงหน้าเธอ เท้าเล็กก็สะดุดกึกจนเกือบจะเหยียบเท้าตัวเอง

ขายาวของฮั่วหยุนเซียวก้าวฉับเข้าไปคว้าตัวเฉินมู่ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอล้มต่อหน้าแขกบ้านแขกเรือน

เฉินมู่มองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของฮั่วหยุนเซียว พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “สุดหล่อ ช่างเป็นพรหมลิขิตจริง ๆ !”

ฮั่วหยุนเซียวยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ลู่ซีเจ๋อที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ถามด้วยความโกรธว่า “เฉินมู่! นี่คุณกำลังทำอะไร?”

เฉินมู่มองย้อนกลับไปเพ่งใบหน้าของลู่ซีเจ๋อที่กำลังเปลี่ยนเป็นยักษ์สีเขียวด้วยความโกรธ แล้วทำทีพูดหน้าซื่ออยู่ข้างฮั่วหยุนเซียว ร่างบางเอียงตัวเล็กน้อย “ฉันทำอะไรเหรอ?”

“เฉินมู่ ตอนแรกผมไม่เชื่อที่ชิงเสวี่ยบอกว่าคุณออกไปดื่มกับผู้ชายมาเมื่อคืนนี้! แต่ตอนนี้คุณกลับสนิทสนมกับคนอื่นในที่สาธารณะ ผมคิดว่า ความรักที่คุณมีให้ผมมาตลอดมันแค่เรื่องหลอกลวงใช่ไหม! เรายังไม่ได้ถอนหมั้นกันเลย แต่นี่คุณ…”

ใบหน้าของลู่ซีเจ๋อเป็นสีเขียวเพราะความโกรธจัด

แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเฉินมู่ แต่เฉินมู่ก็เป็นหนอนตามก้นของเขามาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าตอนนี้จะถอนหมั้นแล้ว เฉินมู่ก็ไม่ควรหาใครอื่นมาแทนที่เขาได้เร็วขนาดนี้!

เฉินชิงเสวี่ยดึงชายเสื้อผ้าของลู่ซีเจ๋อ พลางกระซิบเกลี้ยกล่อม “ซีเจ๋อ คุณไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องของเมื่อคืนพี่ก็ได้พูดไปแล้ว จริง ๆ คือ… ”

ฮั่วหยุนเซียวถามทันที “เมื่อคืนนี้ เธอพูดว่าอะไรเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำถามของฮั่วหยุนเซียวแล้ว เฉินชิงเสวี่ยก็ยกยิ้มพอใจ เธอแสร้งหวาดกลัวและไม่กล้าพูด เสียงเล็กเอ่ยตะกุกตะกัก “พี่สาวของฉันบอกว่า เธอได้กับผู้ชายคนอื่นเมื่อคืนนี้…”

“อะแฮ่ม!” เฉินมู่ไอเสียงดัง หวังให้เฉินชิงเสวี่ยคนบ้าคนนี้หยุดพูดเรื่องไร้สาระเสียที

ลู่ซีเจ๋อโต้กลับด้วยสีหน้าเย็นชา “กระแอมทำไมมิทราบ? แล้วยังจะทำหน้าทำตาแต่ไม่พูด? เมื่อคืนคุณพูดเองไม่ใช่เหรอ?”

“ห๊ะ” โอวจินถึงกับสำลักไวน์

ฮั่วหยุนเซียวหันไปมองเฉินมู่ เสียงเข้มถามอย่างสบาย ๆ “ขนาดนั้นเลย?”

เฉินมู่หน้าแดง เธอมองลู่ซีเจ๋อพลันเอ่ยโต้ตอบ “ลู่ซีเจ๋อนี่หัวดีจังเลยนะ ช่างน่าประทับใจซะจริง!”

พูดจบร่างบางก็ดึงฮั่วหยุนเซียว แล้วลากเขาไปที่สวนเล็ก ๆ นอกห้องจัดเลี้ยง

ฮั่วหยุนเซียวปล่อยให้เฉินมู่ดึงตัวเองออกไป มือเล็กๆ อันอบอุ่นของหญิงสาวจับมือหนาของเขาแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รังเกียจเมื่อถูกผู้หญิงสัมผัส

ฮั่วหยุนเซียวมองดูท่าทางที่รีบร้อนของหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้า ก่อนที่หูข้างซ้ายของเขาจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ราวกับว่ากำลังจะมีเลือดหยด จนในใจรู้สึกขบขันตัวเองเล็กน้อย

เมื่อเดินเข้าไปในสวน เฉินมู่ก็สะดุดล้มอีกรอบ ทว่าฮั่วหยุนเซียวคว้าตัวเธอไว้ได้ก่อน ร่างของเฉินมู่ถูกดึงกลับมากระแทกเข้าที่หน้าอกที่แข็งของชาย จมูกของเธอเจ็บจนน้ำตาซึม

ฮั่วหยุนเซียวผละตัวออกมายืนพิงเสา แก้วไวน์แดงในมือของเขายังอยู่ดีไม่หกเลอะพื้น คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองเฉินมู่ “คุณเป็นคนชนผมเองนะ จะร้องไห้ทำไม?”

“มันเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่างหาก!” เฉินมู่ตะโกนร้องด้วยความโมโห

ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้า

“เงียบปากไปเลย!” เฉินมู่ใช้มือปิดปากฮั่วหยุนเซียว

คิ้วของฮั่วหยุนเซียวขยับเล็กน้อย เพราะสัมผัสอุ่นจากมือเล็ก ๆ ที่แนบทับริมฝีปากบางของเขา แต่เขากลับไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความรังเกียจให้คนตรงหน้า

เขาถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เมื่อคืนคุณหนูเฉินควบคุมตัวเองให้สงบ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าในใจคุณจะคิด…”

เกิดเป็นเฉินมู่นี่ช่างโชคร้ายเสียจริง เธอกัดฟันแน่น “ฉันแค่พูดมั่ว ๆ ให้ลู่ซีเจ๋อโกรธก็แค่นั้น คุณก็เชื่อกับเขาด้วยเหรอ?”

ฮั่วหยุนเซียวพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “อืม เชื่อ”

ก็เธอเล่นคุยโวโอ้อวดเขาอย่างชัดแจ้ง ทำไมจะไม่เชื่อล่ะ?

เฉินมู่ “…”

เธอมองไปที่ฮั่วหยุนเซียวอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนเอ่ย “สุดหล่อคนนี้นี่ ฉันแค่…”

“ฮั่วหยุนเซียว”

“อะไรนะ?” เฉินมู่กระพริบตา

“ชื่อของผมคือ ฮั่วหยุนเซียว เป็นเมฆที่มีปณิธานอันสะเทือนเลือนลั่น เป็นนักสู้ผู้กล้าหาญและองอาจ” ฮั่วหยุนเซียวพูด

เฉินมู่พยักหน้า “อืม คุณฮั่ว คุณช่วยฉันเมื่อคืนนี้ แถมพาฉันไปหาหมออีก ฉันรู้สึกขอบคุณมาก ๆ ฉัน…”

“ถ้าอย่างนั้น เมื่อไหร่คุณจะตอบแทนผมอย่างจริงจังล่ะ?” ฮั่วหยุนเซียวเริ่มสนใจเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ของตระกูลเฉินมากจนอธิบายไม่ถูก

เฉินมู่เกาหัว “เอ่อ...เรื่องนี้ ถ้าอย่างนั้นก็พรุ่งนี้ไหมล่ะ? ฉันจะชวนคุณไปทานอาหารเย็น”

“ตกลง” ฮั่วหยุนเซียวพอใจเล็กน้อยกับข้อเสนอของหญิงสาว

เฉินมู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไม่นานก็เอ่ยออกมาอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้น เราจะกลับกันเลยไหม เพื่อนคุณอาจจะยังรอคุณอยู่”

เฉินมู่หันไปรอบ ๆ พลันรู้สึกเจ็บหนังศีรษะขึ้นมาเสียอย่างนั้น เจ็บจนต้องยิ้มเหย

“อย่าเพิ่งขยับ” ฮั่วหยุนเซียวดึงเธอกลับมา “ผมของคุณพันติดเป็นปมแล้ว”

เฉินมู่ได้แต่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง และถอยกลับมาย่อเข่าลงเล็กน้อย เธอก้มศีรษะลงที่ให้ฮั่วหยุนเซียวแก้ปมผมออกให้ ดวงตาเรียวสวยมองแต่เนคไทของฮั่วหยุนเซียว ก่อนพูดชมเชยสักนิด “ผูกเนคไทได้ไม่เลวเลยนะ”

“ขอบคุณ”มือหนาของฮั่วหยุนเซียวยังคงขยับแก้ปมไม่หยุด ในหัวค่อย ๆ เริ่มปลุกปั่นคิดหัวข้อสนทนา “พรุ่งนี้คุณจะทานอะไร”

เฉินมู่ส่ายหัว “ฉันไม่รู้ ฉันยังไม่ได้คิดเลย คุณแก้มันหรือยัง ฉันเจ็บหัวเข่าไปหมดแล้ว”

“ใกล้จะเสร็จแล้วครับ”

“ทำไมไม่หากรรไกรมาตัดผมล่ะ!”

“แล้วคุณคิดว่าผมจะเอากรรไกรมาจากไหนล่ะ”

เฉินมู่ทำได้เพียงยอมรับชะตากรรมของตัวเองอีกครั้ง พร้อมก้มศีรษะลง ทางด้านโอวจินที่บังเอิญเดินเข้ามาเจอทั้งคู่ในสวนก็ตะโกนเรียก “หยุนเซียว นาย…”

ทว่าเมื่อเห็นท่าทางของทั้งสอง โอวจินก็อ้าปากกว้างราวกับค้นพบโลกใหม่...
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 255

    ฮั่วหยุนเซียวไม่รู้ว่าควรจะสงสารสาวน้อยตรงหน้าดี หรือควรจะภูมิใจในความหนักแน่นในสถานการณ์ที่อันตรายของเธอดีเขายกมือพร้อมขมวดคิ้ว “ฮานเฉิง จัดการให้เรียบร้อย”“ครับ บอส”ฮานเฉิงยกโทรศัพย์อยู่หลายสาย และแล้วนักข่าวที่สมควรจะอยู่ที่นี่ต่อ กลับแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วเฉิงหยวนกระพริบตา “ทำไมพวกเขาไปกันหมดแล้วล่ะ?”เมื่อฝูงชนสลายตัว สายตาเฉินมู่ก็สะดุดเข้ากับรถเบนท์ลีย์หรูที่จอดอยู่ข้างทาง“ปีศาจร้ายปรากฎตัวแล้ว” เธอกล่าวเฉิงหยวนถือถุงขนมของตัวเองตามไปและถามต่อ “อะไรนะ?”เฉินมู่ช่วยถือของในมือเธอ แล้วพูดว่า “ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านก่อนแล้วกัน”ใต้แสงแดดอบอุ่นในฤดูหนาว สองสาวพูดคุยถึงเรื่องในอนาคต และรถหรูระดับโลกอย่างเบนท์ลีย์คันนั้นก็ขับตามหลังมาอย่างช้า ๆฮานเฉิงถามอย่างสุขุม “บอสครับ พวกเราจะขับช้าขนาดนี้จริงเหรอครับ?”ฮั่วหยุนเซียวมองแผ่นหลังหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แล้วพยักหน้า “ขับช้ากว่านี้”ฮานเฉิง “...”เมื่อเดินมาถึงใต้อาคาร เฉินมู่ก็พูดว่า “คุณไปเก็บของให้เรียบร้อยแล้วเราไปโรงพยาบาลกัน”เฉิงหยวนปัดมือไปมา “ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน พวกเขาแค่ขว้างปาผักมาขู่ฉัน

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 254

    เธอลงจากรถแล้วเห็นเฉิงหยวนที่ถูกฝูงชนล้อมเอาไว้ เหมือนแมวที่กำลังตื่นตระหนกตกใจ และไม่มีที่ซ่อนตัวเธอวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป แล้วดึงเฉิงหยวนเข้ามายังอ้อมอก พร้อมถามอย่างกังวลว่า “เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เมื่อเฉิงหยวนเห็นเฉินมู่ ก็ถึงกลับปล่อยโฮออกมาเธอยื่นมือไปปัดเศษผักบนตัวของเฉินมู่ออกให้ พร้อมส่ายหัว “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”เฉินมู่ประคองเธอให้ลุกขึ้น และแล้วไข่ไก่ฟองหนึ่งก็ลอยมา แต่เฉินมู่ยกมือขึ้นรับไว้ได้อย่างแม่นยํา“แกร๊ก” ไข่ไก่ในมือถูกบดขยี้จนแหลก และไข่ไก่เหลว ๆ ก็ไหลลงมาตามข้อมือของเธอ แววตาอันโหดเหี้ยมของเฉินมู่ทำให้ฝูงชนและนักข่าวต่างค่อย ๆ สงบลงเธอพูดกับหน้ากล้องที่ใกล้ที่สุด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “จรรยาบรรณของนักข่าวคือการนำเสนอความเป็นจริง หวังว่าสื่อมวลชนทุกคนจะตระหนักข้อนี้ไว้หน่อย”พลันมีเสียงดังมาจากด้านหลัง “ความจริงก็คือเฉิงหยวนเป็นมือที่สาม! คนทั้งโลกต่างก็รู้เรื่องนี้!”“ใช่ ๆ คุณเป็นใคร! ทำไมถึงได้แก้ตัวแทนเฉิงหยวน!”เฉินมู่ตอบอย่างเยือกเย็น “เธอไม่ใช่มือที่สาม หวังว่าหลังจากวันที่ความจริงกระจ่างแล้ว ทุกคนในที่นี้ต้องขอโทษต่อการกระทำที่ทำต่อเฉิงหยวน”จ

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 253

    เฉินมู่ซบอยู่ในอ้อมกอดลู่ซีเจ๋อพร้อมเช็ดน้ำตาด้วยท่าทีน้อยใจ “พี่คะ พี่เชื่อฉันสักครั้งเถอะ…”ลู่ซีเจ๋อหมดความอดทนกับเฉินมู่อย่างสิ้นเชิง เขาตะโกนอย่างเหลืออดว่า “ออกไป! ไสหัวออกไป!”เฉินมู่มองท่าทีที่ปวดใจของลู่ซีเจ๋อ แล้วถอนหายใจ “ลู่ซีเจ๋อ คุณ…”ลู่ซีเจ๋อมองหน้าเธอด้วยความโกรธเคืองเฉินมู่จึงได้เงียบลง พลางคิดว่าทำไมต้องปริปากพูดคำนี้ทั้ง ๆ ที่่ก่อนหน้านี้เธองัดหลักฐานเป็นร้อย ๆ อย่างเพื่อให้เห็นถึงจิตใจอันโหดเหี้ยมของเฉินชิงเสวี่ย แต่ลู่ซีเจ๋อก็มองไม่เห็นเธอจะเกลี้ยกล่อมเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แถมยังต้องถูกเฉินชิงเสวี่ยตอกกลับว่าเธออิจฉา“คุณคิดจะพูดอะไรอีก?” ลู่ซีเจ๋อมองเธอด้วยโกรธเคืองเฉินมู่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรแล้ว แต่มีอะไรอยากจะบอกคู่หมั้นสุดที่รักของคุณหน่อย”เฉินชิงเสวี่ยมองเฉินมู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัว “พี่มีอะไรอยากให้ฉันช่วยคะ...”เฉินมู่หัวเราะ แล้วพูดว่า “รบกวนเธอฝากบอกซุยซินยี่กับเฉินชิงโหรวด้วยนะ ว่าเฉิงหยวนจะกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเร็ว ๆ นี้”เฉินชิงเสวี่ยจ้องมองเฉินมู่อย่างปวดใจ พลันเอ่ย “พี่คะ เฉิงหยวนเป็นมือที่สาม ทำไมพี่ยังจะคบหากับคนแบบนั้นอยู่อีก?”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 252

    แผลเป็นที่หน้าเกลียดน่ากลัวเหมือนตัวหนอนเกาะอยู่บนใบหน้า แถมยังมีรอยแดง ๆ อยู่รอบ ๆ เฉินชิงเสวี่ยถอนหายใจอย่างโล่งใจ แผลเป็นยังอยู่!ตอนที่กำลังลองชุดคราวก่อน เธอได้ข่าวว่าเฉินมู่กำลังรักษารอยแผลพวกนี้ มันทำเธอทุรนทุรายไปหลายวันเธอกลัวว่าเฉินมู่จะรักษาร่อยรอยแผลบนใบหน้าจนหายดี เพราะหากใบหน้านี้หายดีแล้ว มันจะกลับมาทำให้ชาวเมืองปินไห่ตกตะลึงอีกครั้ง เฉินชิงเสวี่ยหัวเราะอย่างโล่งใจ แถมยังเย้ยหยันเฉินมู่ต่อว่า “ได้ยินว่าเธอไปรักษาใบหน้า ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่ล่ะ?”เธอชี้ไปยังใบหน้าของเฉินมู่ พร้อมหัวเราะเยาะเย้ย “เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันอาการหนักกว่าเมื่อก่อนอีกน่ะ?”“เฉินมู่ อย่าพยายามต่อไปเลย หน้าของเธอยังไงก็รักษาไม่หายหรอก เธอต้องแบกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลแบบนี้ไปตลอดชีวิต เธอจะถูกผู้คนหัวเราะเยาะตลอดเวลา และถูกทอดทิ้งตลอดไป”เฉินมู่ง้างมือขึ้นแล้วกระแทกไปที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างแรง ใบหน้าของเฉินชิงเสวี่ยหันไปตามเสียงดัง “เพี๊ยะ”เฉินชิงเสวี่ยโดนตบจนโกรธมาก เธอจ้องมองเฉินมู่ด้วยความเคียดแค้น “สมควร ใครให้เธออยู่เป็นหนามยอกอกในตระกูลเฉิน เธอควรตายไปพร้อมกับแม่ของเธอตั้งนานแล้ว!”

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 251

    “นี่คุณ!” ลู่ซีเจ๋อถูกเฉินมู่ปั่นหัวจนออกอาการโกรธอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่ทั้งป่าเถื่อนและชั่วร้ายอย่างเธอมาก่อนเฉินชิงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง “ไม่เป็นไรหรอก พี่สาวก็แค่ล้อเล่น คุณไปเถอะ”เฉินชิงเสวี่ยออดอ้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าอยากจะทานของหวานหน้าโรงพยาบาล ลู่ซีเจ๋อจึงได้แต่ทำตามคู่หมั้น แต่ก่อนเดินออกจากห้องก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่เฉินมู่อีกหนึ่งทีทันทีที่เขาเดินออกไป เฉินมู่ก็ขมวดคิ้วมองไปทางร่างบนเตียงอย่างเร็ว “เหลือเราแค่สองคนแล้ว มีอะไรอยากพูดไม่ใช่เหรอ?”ครั้งแรกเฉินลี่ซานสั่งให้เธอมาที่นี่ ครั้งที่สองลู่ซีเจ๋อก็พาเธอมาด้วยตัวเองอีกหนึ่งครั้ง เฉินชิงเสวี่ยเป็นคนวางแผนทั้งหมดให้เฉินมู่มาที่นี่ ไม่รู้ว่าเธอจะมีแผนการอะไรอีกเฉินชิงเสวี่ยเปลี่ยนสีหน้าในทันที ใบหน้าอ่อนหวานเมื่อสักครู่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเธอมองหน้าเฉินมู่อย่างหงุดหงิด พร้อมพูดว่า “เธออย่ายุ่งเรื่องของตระกูลซุย!”เฉินมู่หัวเราะ ก่อนถามว่า “ทำไมเหรอ? ตระกูลซุยทำไมเหรอ?”เฉินชิงเสวี่ยพูดตรง ๆ ว่า “ฉันเตือนเธอด้วยความหวังดี ตระกูลซุยกับตระกูลเราทำธุรกิจร่วมกันมา ถ้าเธอทำงานแต่งซินยี่

  • เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่   บทที่ 250

    เฉินมู่ยักไหล่เล็กน้อย “ถึงฉันจะทำร้ายเธอจนตาย ฉันก็จะไม่รู้สึกผิด”ลู่ซีเจ๋อขมวดคิ้ว “เฉินมู่ คุณทำร้ายเสวี่ยเอ๋อถึงขั้นนั้น เธอยังไม่ถือโทษโกรธ แค่บอกให้คุณอย่าเข้าไปยุ่งกับตระกูลซุย แค่คุณไปเยี่ยมเธอบ้าง มันยากนักหรือไง?”เธอหัวเราะเยาะเล็กน้อย “แค่เธอบอกว่าไม่ถือโทษโกรธฉัน คุณก็เชื่อเหรอ? ลู่ซีเจ๋อ ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าในสมองคุณมันมีรอยหยักบ้างไหม”ลู่ซีเจ๋ออึ้งไปสักพัก เขาไม่ใช่คนที่ทะเลาะวิวาทกับใครบ่อย ๆ ร่างสูงลากเฉินมู่ไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ไปโรงพยาบาลกับผม!”ช่วงเวลาเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนเดินลงจากอาคาร ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาตรงนั้น และแล้วทั้งสองก็เริ่มตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนเฉินมู่ไม่อยากตกเป็นประเด็นของคนทั้งมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ จึงสะบัดมือออกอย่างจำใจและตอบว่า “ปล่อย ฉันเดินเองได้”ลู่ซีเจ๋อปล่อยมือเธอ เฉินหยวนจึงรีบวิ่งมาดึงแขนเฉินมู่ไว้ “ฉันไปเป็นเพื่อนนะ”เฉินมู่แตะมือเธอเบา ๆ “ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก เธอกลับหอพักไปก่อนเถอะ”เฉินหยวนพูดด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง “งั้นเธอต้องระวังตัวนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นต้องรีบโทรหาฉันนะ หรือไม่ก็… โทรหาตัวรวจเลย!”เฉินหยวนหัวเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status