Home / วาย / เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว / เล่ม 2 ตอนที่ 9 ตัวแทนคนที่จากไป

Share

เล่ม 2 ตอนที่ 9 ตัวแทนคนที่จากไป

last update Last Updated: 2025-06-20 19:56:31

        หวังเยี่ยนหลงยามไร้โอสถละอองบุปผาโลหิตต้องทรมานจากปราณมารปะทุอย่างน้อยเดือนละครั้ง ทั้งยังเสี่ยงจะถูกคนล่วงรู้ความลับนี้แล้วฉวยโอกาสลอบสังหารเขา

          นับว่าเขายังคงพอมีโชคอยู่บ้างเรื่องความจงรักภักดีของลูกน้องคนสนิทอย่างซวงและหลุน อย่างน้อยคงเพราะมีสายเลือดเดียวกันกระมังและเขาช่วยให้สองคนนี้หลุดพ้นจากการกดขี่ของผู้อื่น

          หวังเยี่ยนหลงเพิ่งจะปลดปล่อยปราณมารเมื่อสองคืนก่อน ปิดบังตัวตนของตนเองเดินทอดน่องอย่างไร้จุดหมายจนมาหยุดยืนด้านหน้าป้ายหลุมศพของคนผู้หนึ่ง เดิมทีมีป้ายอีกชื่อวางไว้เคียงข้างกัน แต่ถูกเขาทำลายแตกกระจายไม่มีชิ้นดี

          “เฮอะ” ทันทีที่อ่านป้ายนั้น เขาก็หัวเราะตัวเองที่ทำเรื่องงี่เง่า ชอบหลงมายังที่แห่งนี้ทุกครา

          หวังเยี่ยนหลงนอนลงข้าง ๆ หลับตาฟังเสียงสายลมจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

          เสียงนกบินกลับรังทำให้เขารู้สึกได้ว่าฟ้ากำลังจะมืด หวังเยี่ยนหลงเดินกลับสำนักของตนเองตามเคย หากแต่วันนี้ได้พบใครบางคนที่เหมือนคนผู้นั้นจนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

          เขาเอื้อมมือคว้าตัวชายหนุ่มผู้นั้นเอาไว้ สายตายังคงมองไม่วางตา ปลายนิ้วไล้ใบหน้าคนตรงหน้าราวโหยหา

          “ท่านเป็นผู้ใดกัน” ชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีเอ่ยปากถาม

          “...” หวังเยี่ยนหลงไม่ตอบ

          ชายหนุ่มผู้นี้สบแววตาของเขาแล้วยิ้มให้

          “ใต้เท้า ปล่อยข้าเถิด” เขาพยายามสะบัดมือ ทำทีเดินจากไป

          หวังเยี่ยนหลงกลับดึงเขาเข้ามาใกล้ มองดวงหน้าให้ชัดเจน พินิจพิเคราะห์ แล้วพาตัวของชายผู้นั้นกลับมาที่เรือนใบไผ่ของตน

          “ใต้เท้า ท่านจะทำสิ่งใดกับข้า” ชายผู้นี้ควรจะต้องรู้สึกตกใจหรือหวั่นใจบ้างแล้วที่ถูกคนแปลกหน้าพามายังที่ไม่คุ้นเคย ทว่า เขากำลังปิดซ่อนความรู้สึกปลื้มใจไว้อยู่

          “เจ้า... เหตุใดดูคล้ายกันเพียงนี้” หวังเยี่ยนหลงยังคงพึมพำ เจ้าตัวดูหักห้ามใจเอาไว้ไม่ได้ “เป็นเจ้าจริงหรือ”

          “ใต้เท้า ข้าเกรงว่าท่านจะจำคนผิดแล้ว ปล่อยข้าเถิด”

          โจวอิ่งฉิน มั่นใจว่าเขาไม่เคยพบคนตรงหน้ามาก่อน รูปร่างหน้าตาดึงดูดใจเพียงนี้ เห็นเพียงครั้งเดียวย่อมต้องจำได้ขึ้นใจ

          “เฮอะ นั่นสินะ ข้าคงจำผิดไปจริง ๆ” หวังเยี่ยนหลงรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นผ่านมาแค่สิบปี ไม่มีทางเป็นชายหนุ่มผู้นี้ไปได้

          “ใต้เท้า หากท่านไม่ถือสา ข้ายินดีช่วยท่าน” โจวอิ่งฉินโอบรอบคอของหวังเยี่ยนหลง สีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงที่เขาพูดนุ่มนวลราวกับจะสะกดหวังเยี่ยนหลงเอาไว้

          รอยยิ้มนั้นที่เขาไม่ได้เห็นมาเนิ่นนาน ไม่ใช่สิ เขาไม่เคยเห็นมันด้วยซ้ำจึงทำให้ใจหวังเยี่ยนหลงเต้นตึกตัก

          บัดซบ! เขาสบถด่าตัวเอง

          “ไปซะ!” เขาตวาดโจวอิ่งฉิน เบือนหน้าหนีไม่สนใจ

          “ใต้เท้า ข้ารู้ว่าท่านต้องการสิ่งใด ข้า... ช่วยท่านได้” เขายังคงพูดโน้มน้าวให้คล้อยตามสิ่งที่ตัวเขาเองปรารถนา

          โจวอิ่งฉินเป็นคนในหอเงาราตรี วิชาเพลงขับกล่อมยามค่ำคืนจะทำให้คนผู้นั้นมองเห็นตัวเขาเป็นใครก็ตามที่หวนนึกถึง เขาใช้วิชานี้กับผู้คนมากมายที่หลั่งไหลมาหอเงาราตรีหาความสำราญ แต่เขาก็เป็นได้เพียงตัวแทน หาได้มีผู้ใดหลงใหลตัวเขาด้วยความจริงใจ

          ผิดกับตอนที่ได้เจอหวังเยี่ยนหลง หน้าตาและรูปร่างของเขาคงจะบังเอิญเหมือนใครจริง ๆ จนไม่ต้องใช้วิชาเพลงขับกล่อมด้วยซ้ำ

          “อย่ามายุ่งกับข้า” เสียงของหวังเยี่ยนหลงดังขึ้น “รีบไปซะ” เขาไล่ให้โจวอิ่งฉินออกมานอกเรือนใบไผ่

          “เช่นนั้น ข้าขอตัว” โจวอิ่งฉินจึงจำยอมเดินจากไปด้วยความเสียดาย

          ทันทีที่เขากลับมาถึงหอเงาราตรี โจวอิ่งฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์สีสันลวดลายสวยงามเว้าแหวก ก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่มีผู้คนคลาคล่ำ เริ่มบรรเลงเพลงพิณไพเราะจับใจจนผู้คนในที่แห่งนั้นตกอยู่ในภวังค์

          หลังจากบรรเลงดนตรีจบเรียบร้อย ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองคนก็เดินตามเขากลับไปที่ห้อง สายตาจ้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้า จับจ้องทุกท่วงท่าของโจวอิ่งฉิน เสื้อผ้าแหวกบนแหวกล่างวับแวมชวนค้นหาเรือนร่างภายใน

          ทันทีที่ประตูห้องปิดลง คนทั้งสองก็เข้ามาใกล้โจวอิ่งฉิน เริ่มถอดเสื้อผ้าให้เขาทีละชิ้น มือไม้จับทั่วร่าง ขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังจะประกบจูบใครสักคนในนั้น ประตูห้องก็ถูกเลื่อนเปิดออกเสียงดังจนคนในห้องสะดุ้ง

          “เจ้าเป็นผู้ใด” หนึ่งในนั้นโพล่งถาม ใครกันบังอาจมาขัดจังหวะรื่นรมย์ของพวกเขา

          “...” ผู้มาเยือนไม่ตอบสิ่งใด สายตามองร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งสามแล้วเกิดอาการคิ้วกระตุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหน้าเหมือนที่เปลือยกายอยู่ใต้ร่างชายอื่น

          “ใต้เท้า ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ” โจวอิ่งฉินเอ่ยปากถาม เมื่อครู่เพิ่งจะไล่เขาออกมา เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้โผล่มาอยู่ในเรือนของเขาเร็วปานฉะนี้

          หวังเยี่ยนหลงเดินเข้ามาใกล้ เอาเสื้อผ้าคลุมกายของโจวอิ่งฉิน แล้วตวาดใส่ชายหนุ่มทั้งสอง “ออกไป!”

          “เจ้าเป็นผู้ใดถึงกล้าทำเรื่องเสียมารยากับข้า เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร”

          “ข้าจ่ายค่าตัวเขาแล้ว เจ้าสิต้องออกไปจากห้องนี้”

          ชายหนุ่มทั้งสองคนดึงดัน พวกเขาจ่ายค่าตัวของโจวอิ่งฉินเพื่อหาความสำราญในคืนนี้ไปไม่น้อย ฉะนั้นแล้วเจ้าคนไร้มารยาทมีสิทธิ์อันใดมาไล่

          “จะไปดี ๆ หรือจะไปแบบไม่เหลือวิญญาณ” แววตาของหวังเยี่ยนหลงเปลี่ยนเป็นดุดัน น้ำเสียงเยือกเย็น คำพูดกดดันทำให้ชายหนุ่มทั้งสองไม่กล้าหือพากันรีบคว้าเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที

          “คนอะไรน่ากลัวชะมัด”

          “อื้อ นิสัยต่ำทรามสุด ๆ”

          เสียงบ่นกระปอดกระแปดของทั้งคู่ดังมาระยะหนึ่งจนหายลับไป

          หวังเยี่ยนหลงมองคนตรงหน้า สายลมพัดผ้าคลุมกายไหลลงมากองที่เอวบางของโจวอิ่งฉิน เผยให้เห็นผิวนวลใต้แสงจันทร์

          “ใต้เท้า ท่านคงเห็นข้าแล้วนึกถึงผู้ใดกระมัง แต่ข้าไม่ใช่ อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับข้าอีกเลย อีกอย่างท่านมารบกวนข้าถึงที่นี่ ต่อไปลูกค้าของข้าจะกล้าเข้าหาข้าหรือ” โจวอิ่งฉินเอ่ยปากเตือนเขา

          “ลูกค้า?” หวังเยี่ยนหลงทวนสิ่งที่คนตรงหน้าพูด

          “ท่านตามข้ามาถึงที่นี่ ไม่ได้สังเกตหรือว่าเป็นที่ใด” โจวอิ่งฉินยืนขึ้น ผ้าคลุมชิ้นนั้นจึงร่วงหล่นลงกับพื้น ร่างเปลือยเปล่ากำลังเดินนวยนาดเข้ามาหาเขากระซิบบอกข้างหู “ท่านกำลังทำให้ข้าเสียเวลา”

          ลมหายใจของโจวอิ่งฉินเป่ารดต้นคอ มือของเขาที่สัมผัสใบหน้าของหวังเยี่ยนหลงนุ่มนวลจนเขาอยากจะคว้ามันไว้

เพียงแต่คนทั้งสองไม่ใช่คนเดียวกัน

          “เจ้าจะไปที่ใด” เขาเอ่ยถาม

          “หาลูกค้าคนใหม่ มีคนอีกมากมายที่รอข้าอยู่” โจวอิ่งฉินทำท่าเดินจากไปอย่างไม่ใยดี

          “เพื่อสิ่งใด”

          เสียงหัวเราะของโจวอิ่งฉินดังขึ้น “อยู่หอเงาราตรี จะทำสิ่งใดเล่า หากเมื่อครู่ไม่ถูกท่านขัดจังหวะไปเสียก่อน ข้าคงได้สุขสมกับคุณชายทั้งสองท่านนั้นไปแล้ว ร่างกายอิงแอบแนบชิด ท่วงท่าเร่าร้อน เสียงครางกระเส่าคงจะดังจนรุ่งสาง”

          หวังเยี่ยนหลงฟังที่โจวอิ่งฉินเล่าพลางคิดตาม “เจ้าใช้ใบหน้านี้ทำเรื่องเช่นนั้นหรือ”

          “ใบหน้าข้า ร่างกายข้า จะทำสิ่งใดย่อมได้” โจวอิ่งฉินขึ้นเสียง

          “ไม่ได้!”

          “เฮอะ ท่านเป็นใครถึงมาห้ามข้า คนรักข้าหรือ ก็ไม่ใช่” เขายั่วยุหวังเยี่ยนหลง เดินกลับมาหาแล้วจับมือของหวังเยี่ยนหลงมาลูบใบหน้าของตนเอง ไล้ผ่านคอเรียว หน้าอก หน้าท้องวางพักมือคู่นั้นไว้ที่บั้นท้าย แล้วประกบริมฝีปาก สอดลิ้นเข้าไปด้านใน จูบเขาอย่างดูดดื่ม จากนั้นจึงพูดกับหวังเยี่ยนหลงว่า “ข้าจะให้ผู้ใดทำเช่นนี้กับข้าย่อมได้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 12 เกิดใหม่อีกกี่ครา วานวาสนาผูกกันไม่เสื่อมคลาย (จบ)

    สามเดือนต่อมาเช้าวันหนึ่งเสี่ยวหยุนมองเหลียนเฟินที่กำลังนอนหลับใหลในอ้อมกอดของเขา สายตาเต็มไปด้วยความรักท่วมท้นในใจก่อนจะพึมพำร่ายอาคมอย่างหนึ่งขึ้นมาพลันกรีดปลายนิ้วจนได้เลือดหยดหนึ่งหลอมรวมกับลูกกลมสีฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แม้เป็นวิชาที่เขาเพิ่งคิดค้นขึ้นมาได้แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกเสี่ยวหยุนตั้งชื่ออาคมนั้นว่า “พันธะวิญญาณ” อาคมที่สามารถผูกวิญญาณของพวกเขาทั้งสองไว้ด้วยกันในทุก ๆ ชาติ ไม่ว่าเหลียนเฟินจะเกิดเป็นผู้ใด อยู่ที่ไหน เขาจะรู้ได้ในทันที นับต่อจากนี้ไม่มีพรากจากลมหายใจของร่างบางในอ้อมกอดสัมผัสแผ่นอกกว้างของเขาเตือนสติให้รู้ตัว ล้มเลิกความคิดเช่นนั้น เสี่ยวหยุนยิ้มมุมปากพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วบีบอาคมนั้นให้แตกสลายไปริมฝีปากจุมพิตหน้าผากเรียกเหลียนเฟินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฟูเหรินของข้า”“อืม…” เหลียนเฟินยังคงงัวเงียพลันได้รับจุมพิตที่แก้ม โลมเลียลงลำคอ สัมผัสเรียวลิ้นร้อนชื้นดูดเม้มก่อนจะถูกใครบางคนคร่อมร่างกายท่อนบนเอาไว้“ฟูเหริน ท่านยังไม่ตื่นอีกหรือ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 11 ความรู้สึกที่โหยหา(NC)

    เหลียนเฟินนอนนิ่งบนแผ่นอกของเขา ส่วนล่างกระตุกบีบแก่นกายที่ค้างอยู่ราวกับเชิญชวนจึงถูกพลิกตัวเป็นฝ่ายนอนใต้ร่างพลางโดนเสี่ยวหยุนจับขาสองข้างยกขึ้นแล้วขย่มสะโพกเป็นจังหวะ“ข้าเพิ่งจะ…อ๊ะ...” เหลียนเฟินไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องเม้มปากตัวเองอีกครั้ง มือสองข้างจับหมอนที่วางอยู่ ขยำจนผ้ายับยู่ยี่ ลมหายใจร้อนหอบถี่ ฟังแล้วยิ่งกระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดความต้องการอย่างยิ่งยวดแก่นกายที่ครูดเข้าออกเร่งขึ้นอย่างเร่าร้อนจนน้ำที่ปล่อยเอาไว้เมื่อครู่กระเซ็นเปรอะเปื้อน คนกระทำยิ้มมุมปากชอบใจยิ่งนักที่ได้เห็นร่องรอยของเขาบนตัวคนรักเมื่อโพรงเนื้อโอบรอบจนมิดแน่นขนัดยิ่งเสียวซ่านจนตาเหลือกลอย “อือ… เหลียนเฟิน” ในใจวนเวียนแต่คำว่า อีกนิด ข้าขออีกนิดในขณะที่คนใต้ร่างแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่ พึมพำแผ่วเบา “ข้าไม่ไหวแล้ว… อย่าเพิ่งขยับ”“จะให้ข้าหยุดจริงหรือ” เขาเอ่ยถามแต่ส่วนลับยังคงกระทุ้งเข้า ๆ ออก ๆ บดเบียดภายใน หยอกล้อเหลียนเฟินเพราะอยากเห็นสีหน้าแดงระเรื่อ สุขสม พลันวางขาทั้งสองข้างลงแล้วพลิกตัวเหลียนเฟินให้นอนคว่ำในพริบตาก่อนจะยกส

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 10 ความรักเอ่อล้น (NC)

    เหลียนเฟินโอบแขนรอบคอของเสี่ยวหยุนกดแรงโน้มตัวเขาลงมาหา จ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตาพลันยิ้มอ่อนโยน เอ่ยกระซิบยืนยันความรู้สึกของตัวเอง “ข้ารักเจ้า”คนได้ฟังคำรักน้ำตาไหลเอ่อไม่อาจกั้นด้วยความรู้สึกผิดระคนกับความรู้สึกอื่น ๆ ในใจ แม้รู้ตัวว่าไม่สมควรมายืนอยู่ข้างเขาแต่เวลานี้ก็ไม่อาจขยับกายหรือเบือนหน้าหนีอีกฝ่ายได้เลยเขารักเหลียนเฟิน ผู้เป็นฟูเหรินของเขาและไม่อยากถูกพรากจากอีกแล้ว ทั้งยังดีใจเพราะใบหน้าที่มองเขาในเวลานี้ไม่ใช่ใบหน้าของคนที่เกลียดชังเขาจนต้องจ่อปลายกระบี่เข้าหาราวกับแค้นเคืองกันมาเนิ่นนาน“เสี่ยวหยุน” เสียงเรียกหาอ่อนหวานจับใจ “ยังคงจำได้อยู่ใช่หรือไม่ว่าเวลานี้เจ้าคือฟูจวินของข้า”“…” เขาพยักหน้าเล็กน้อย เม้มปากแน่นแล้วกอดเหลียนเฟินเอาไว้ครั้นสะสางความหลัง ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างพลันคลี่คลาย ไม่มีสิ่งใดติดค้างกันอีกต่อไปหวังซีซวนและพรรคพวกแวะมาหาพวกเขาเหมือนอย่างเคย สังเกตได้ว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาทั้งสองคนดูอึมครึมเล็กน้อย ดวงตาเสี่ยวหยุนบวมช้ำปรากฏเด่นชัดจนอดถามไม่ได้“

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 9 ความทรงจำหวนคืน

    ครั้นเรื่องราววุ่นวายที่ใจกลางตลาดจบลงไปได้ด้วยดี เหลียนเฟินจึงพาเสี่ยวหยุนกลับมาพักฟื้นร่างกายที่บ้านหลังน้อย พลางขอให้หวังซีซวนช่วยกลั่นยาสมุนไพรให้เขาจนกว่าจะหายดีเขาหลับลึกอยู่หลายวันเพราะใช้เรี่ยวแรงร่ายวิชาอาคมโดยไม่สนขีดจำกัดของตัวเองเพียงเพราะเป็นห่วงเหลียนเฟินและไม่อยากให้สถานการณ์ยืดเยื้อใบหน้าสงบนิ่งยามหลับใหลทำให้เหลียนเฟินโล่งใจได้บ้างว่าเขาคงไม่ได้ฝันร้ายเหมือนที่ผ่านมาจึงปล่อยให้คนตรงหน้าพักผ่อนให้เต็มที่“ท่านเซียน เขาเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” หลี่จิ้นหลิงแวะมาเยี่ยมเพราะได้ข่าวว่าเสี่ยวหยุนยังไม่ฟื้น“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เขาเพียงแค่ต้องนอนให้เยอะ ๆ ก็เท่านั้น” เหลียนเฟินยิ้มให้อีกฝ่ายนึกขอบคุณที่เขาช่วยหาตำราต้องห้ามจนพบ“หากท่านเซียนต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องใด อย่าได้ลังเลใจที่จะบอกข้านะขอรับ” หลี่จิ้นหลิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องฟื้นฟูพลังชีวิตของท่าน ถ้าตำราต้องห้ามไม่ได้ผล ข้ายินดีหาหนทางอื่น”เหลียนเฟินส่ายหน้าเข้าใจดีว่าทุกคนเป็นห่วงแต่ว่าเขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว ไม่ว่าผลที่ได้จะออกมาเป็น

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 8 ปกป้องคนรัก

    “ปล่อยคุณหนูหลี่” เหลียนเฟินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเห็นอีกฝ่ายเคลื่อนไหวรวดเร็ว เขากำกระบี่ในมือไว้แน่นพลันยกขึ้นมากันท่าไม่ให้เสิ่นหยางพุ่งตัวเข้าใกล้ระยะประชิดก่อนจะม้วนตัวแล้วถีบคนตรงหน้ากระเด็นไปอีกทางด้วยแรงที่ออมไว้สามส่วน“ฝีเท้าหนักใช่เล่น” เขาเอ่ยชม รอยยิ้มกวนประสาทราวกับถูกใจอย่างยิ่งยวด “อย่าขัดขืนนักเลย เมื่อครู่ข้าเพียงยั้งมือเอาไว้เท่านั้นเพราะไม่อยากทำให้ร่างกายของท่านเซียนมีบาดแผล”เสิ่นเหยา แฝดผู้พี่ที่จับตัวหลี่ฮวาเอาไว้ลูบปลายจมูกตัวเอง “หากท่านเซียนยินยอมมากับพวกข้า ข้าจะคืนสตรีนางนี้เป็นการแลกเปลี่ยน”“เช่นนั้นปล่อยนางก่อน” เหลียนเฟินไม่ตกลงง่าย ๆ และเป็นห่วงความปลอดภัยหลี่ฮวาที่เวลานี้กำลังกลั้นน้ำตาไม่ร้องไห้เสียงดังด้วยความหวาดกลัว“ท่านเซียนคงไม่รู้ว่าข้าเป็นผู้ใดจึงพยายามเล่นแง่ยืดเวลาออกไปใช่หรือไม่ แต่ข้ายืนยันได้เลยว่าสองชั่วยามต่อจากนี้ไม่มีผู้ใดเข้ามาก้าวก่ายที่แห่งนี้ได้อย่างแน่นอนและหากทุกสิ่งไม่เป็นอย่างที่ข้าต้องการ ข้าจะทำลายหมู่บ้านให้ราบคาบ” เสิ่นหยางประกาศก้อง คำพูดของเขาทำให้ชาวบ้านขวัญ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   ตอนพิเศษ 7 พรรคมารก่อความวุ่นวาย

    ครั้นพูดคุยเรื่องตำราต้องห้ามเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็กลับมายังบ้านหลังน้อยจึงได้เห็นว่าหลี่จิ้นหลิงกำลังนั่งเล่นอยู่ตั่งไม้กับเหลียนเฟินแววตาเสี่ยวหยุนเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”“ข้าเห็นว่าท่านเซียนเมาหลับไป วันนี้จึงอยากมาดูให้แน่ใจว่ามีอาการใดหรือไม่” เขายักไหล่พูดด้วยสีหน้าสบายอารมณ์หากแต่เสี่ยวหยุนอารมณ์ดีจึงไม่ใส่ใจแล้วเดินไปนั่งข้างเหลียนเฟิน เอ่ยกับเขาว่า “ข้าต้องไปหอสมุดวังหลวง คุณชายหวังซีซวนบอกว่าที่นั่นมีตำราเก็บไว้อยู่ อาจช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของท่านได้”“เขาไม่ได้บอกหรือว่าที่แห่งนั้นห้ามให้คนนอกเข้าไป” เหลียนเฟินหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ทำท่าเหมือนรู้ทุกอย่าง “หากคิดไปขโมยตำรามาก็หยุดแต่เพียงเท่านั้นเถิด พลังชีวิตของข้ามีแค่ครึ่งเดียวแล้วอย่างไร ไม่เห็นหรือว่าข้ายังแข็งแรงดี”“ไม่อยากอยู่กับข้านานกว่านี้หรือ” สีหน้าของเขาเศร้าสร้อยหากต้องล้มเลิกความตั้งใจ รู้ว่าบำเพ็ญคู่จะสามารถยืดอายุขัยออกไปได้ แต่หากพลังชีวิตของเขากลับมาเหมือนเดิม ย่อมมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันนานมากขึ้นไปอีกเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status