Share

บทที่ 11 รัชทายาทจิ้งไฉ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-11-05 21:11:07

องค์รัชทายาทจิ้งไฉ พระโอรสลำดับที่สองของอดีตฮ่องเต้ประสูติแต่อดีตพระสนมกุ้ยเฟย ซูหนิงซาน แห่งตระกูลซู 

 

 ความรูปงามขององค์รัชทายาทจิ้งไฉกล่าวกันว่า หากสวรรค์มอบความสง่างามแก่ชายหนึ่งผู้คู่ควรจะครองบัลลังก์ชายผู้นั้นย่อมคือองค์รัชทายาทจิ้งไฉ

 

พระวรกายสูงสง่าท่วงท่าผึ่งผายสมบุรุษผู้เกิดในวงศ์มังกร พระพักตร์รูปไข่เรียวได้สัดส่วน คิ้วคมประดุจลายพู่กันหมึกดำ ขนงขวางเรียวเหนือดวงเนตรคู่ล้ำลึกดั่งสายน้ำยามราตรี เยือกเย็น นิ่งสงบ แต่แฝงรอยคมกล้า ริมพระโอษฐ์มักคลี่ยิ้มบางจนยากหยั่งถึงพระทัย วาจาอ่อนโยนแต่แฝงอำนาจในทุกถ้อยคำ

เมื่อทรงเครื่องฉลองพระองค์สีดำปักมังกรทอง เส้นไหมทอสะท้อนแสงยามต้องแดด ราวกับเปลวไฟบนหิมะ ยิ่งขับให้พระสิริโฉมงามประหนึ่งหยกเยือกแข็งที่ไม่อาจแตะต้อง ว่ากันว่าผู้ใดสบพระเนตรนั้น จะรู้สึกเหมือนตนกำลังถูกมองทะลุถึงหัวใจ งามสง่าเกินชายทั่วไปงามจนคล้ายเทพอสูรในตำนาน

ฮ่องเต้จิ้งอู่และองค์รัชทายาทจิ้งไฉ เป็นพี่น้องต่างมารดาแต่เติบโตมาท่ามกลางความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง จิ้งอู่ในฐานะพี่ชายเป็นคนเด็ดขาด รอบคอบและแบกรับความคาดหวังของราชสำนักตั้งแต่วัยเยาว์ เขาได้ขึ้นครองราชย์ด้วยความสามารถและความเด็ดเดี่ยว แต่ความสำเร็จนั้นแลกมาด้วยหัวใจที่เย็นชาและระแวดระวังทุกสิ่ง

 

ส่วนจิ้งไฉผู้น้องกลับเป็นคนตรงข้ามมีความสามารถด้านศิลป์ ฉลาดหลักแหลมแต่ใจอ่อน มักเห็นค่าความเมตตามากกว่ากฎระเบียบ ความคิดแบบนี้ทำให้เขาได้รับความรักจากประชาชนและขุนนางสายปัญญาชน แต่กลับทำให้พี่ชายรู้สึกว่าถูกท้าทายอำนาจอยู่เสมอ

 

เรื่องขัดแย้งระหว่างทั้งคู่เริ่มตั้งแต่สมัยยังเป็นองค์ชาย เมื่อจิ้งไฉเคยช่วยเหลือขุนนางที่ถูกกล่าวหากบฏ ซึ่งต่อมากลายเป็นคนของศัตรูทางการเมือง ฮ่องเต้จิ้งอู่จึงถือเป็นตราบาปของน้องชายและนับแต่นั้น ความสัมพันธ์ก็มีแต่รอยร้าวลึกขึ้น

 

เมื่อเติบโตมาในฐานะฮ่องเต้กับองค์รัชทายาทความหวาดระแวงยิ่งทวี จิ้งอู่กลัวว่าน้องชายจะรวบรวมพรรคพวกโค่นตน ส่วนจิ้งไฉก็เจ็บปวดที่พี่ชายไม่เคยเชื่อใจ

 

อดีตพระสนมเต๋อเฟยแห่งตระกูลฉินมารดาของฮ่องเต้จิ้งอู่ กับอดีตพระสนมกุ้ยเฟยแห่งตระกูลซู มารดาขององค์รัชทายาทจิ้งไฉ ต่างเป็นหญิงงามผู้มีอิทธิพลในรัชกาลก่อน แต่กลับเป็นศัตรูคู่อาฆาตในราชสำนัก

 

ตระกูลฉินถือเป็นตระกูลขุนนางฝ่ายทหารมีอำนาจในกองทัพครึ่งหนึ่ง ส่วนตระกูลซูเป็นตระกูลปัญญาชนสายบุ๋นที่ มีซูเหวินอี้มหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย ผู้มีอำนาจครอบคลุมราชสำนักกว่าครึ่ง พระสนมกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานจากอดีตฮ่องเต้มากกว่า ความแตกต่างนี้ทำให้สองพระสนมมักขัดแย้งกันทั้งในเรื่องฐานะและอำนาจเบื้องหลัง

 

เมื่อครั้งยังอยู่ในวังหลังซูกุ้ยเฟยเคยได้รับพระเมตตาจากอดีตฮ่องเต้ จนเกือบจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นฮองเฮา แต่กลับถูกขัดขวางโดยฉินเต๋อเฟย ซึ่งใช้กำลังจากฝ่ายทหารและความสัมพันธ์กับขันทีผู้ใหญ่ทำให้พระสนมซูกุ้ยเฟยถูกลดความสำคัญลง

 

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทั้งสองฝ่ายต่างเฝ้าปลูกฝังบุตรของตนด้วยแนวคิดที่ตรงข้ามกัน เต๋อเฟยสอนให้จิ้งอู่รู้จักเข้มแข็ง ไม่ไว้ใจผู้ใด แม้แต่สายเลือดเดียวกัน กุ้ยเฟยกลับสอนให้จิ้งไฉ มีเมตตา เชื่อมั่นในคุณธรรม และอย่าปล่อยให้ความหวาดระแวงครอบงำหัวใจ เพราะไม่ให้องค์รัชทยาทจิ้งไฉหลงใหลในอำนาจเหมือนท่านลุง แต่ก็อย่างไรองค์รัชทยาทจิ้งไฉก็ถูกเสี้ยมสอนโดยท่านลุงผู้กระหายอำนาจอยู่ดี

 

 

ห้องเสวยชั้นในในวังหลวงเย็นใจ เบื้องหลังผ้าม่านผ้ากำมะหยี่สีมุก เสียงโคมไฟกระพริบเป็นจังหวะเดียวกับลมหายใจของผู้ถูกเรียกเข้าเฝ้า พระสนมซูกุ้ยเฟยถูกสั่งให้อมวานพัดไว้ในมือ เดินเข้ามาอย่างสง่างาม แต่แววตายังซ่อนหวาดกลัวของความระมัดระวังไว้อย่างมิดชิด

ตรงหน้าเธอ พระองค์ผู้มีอำนาจสูงสุดอยู่ครึ่งในวังบัดนี้ องค์รัชทายาทจิ้งไฉถือเป็นลูกพี่ลูกน้องของพระสนมกุ้ยเฟย และเป็นคนที่พระสนมกลัวมากกว่าท่านพ่อของตัวเองด้วย ดวงตาคมที่สังเกตการณ์ทุกลมหายใจ พบว่าดวงหน้าขององค์รัชทายาทตอนนี้ราวกับน้ำแข็งที่ปิดทับเปลวไฟสักดวงไว้ จิ้งไฉไม่พูดพร่ำพราก เรียกเพียงชื่อของนางแล้วมองนิ่ง

“ซูอี้ผิง ข้ามีเรื่องอยากเตือนเจ้า” 

น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นแต่หนักแน่น พระสนมกุ้ยเฟยโค้งคำนับด้วยความกลัว

“พระองค์ทรงเมตตา ข้าจะรับฟังเพคะ” อี้ผิง

เธอตอบด้วยโทนสุภาพพยายามไม่ให้สั่น จิ้งไฉก้าวเข้าไปใกล้ขึ้นอีกก้าว แสงเทียนสะท้อนบนเหรียญโลหะที่ประดับอกเสื้อชั้นในของพระองค์

“องค์หญิงหลิงเซียงเป็นเลือดมียศของราชวงศ์ และเป็นน้องสาวที่ข้าต้องปกป้อง ไม่ว่าเพราะหน้าที่หรือเพราะเหตุผลอื่นใดก็ตาม ข้าได้ยินข่าวว่าเจ้าสั่งลงโทษหลิงเซียงและคนในตำหนักไฉ่หงโดยไร้เหตุผลและเกินกว่าเหตุ” จิ้งไฉ

“พระองค์เพคะหม่อมฉันผิดไปแล้ว เห็นแก่ที่เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน อย่าเอาความหม่อมฉันเลย เพค๋ะ” อี้ผิง

“อย่าเสแสร้ง แกล้งรับปากล่ะ หากเจ้ายังกล้าเคลื่อนไหวใกล้ชิดองค์หญิงในเชิงข่มขู่หรือระราน วันนั้นแม้แต่ท่านลุงหรือเสด็จแม่ของข้าก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้” จิ้งไฉ

ประโยคนั้นเหมือนลูกศรปักกลางอก พระสนมกุ้ยเฟยนิ่งไปชั่วครู่ 

“หม่อมฉันสัญญาเพค่ะ” อี้ผิง

เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่น และเจ็บแค้นภายในใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะลูกพี่ลูกน้องคนนี้น่ากลัวมากจริง ๆ

องค์รัชทายาทจิ้งไฉความโหดเหี้ยมที่เย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง พระพักตร์ของจิ้งไฉมักสงบนิ่ง ไม่มีแววโกรธหรือรอยยิ้ม แต่ผู้ที่เคยเห็น ยามพระองค์ลงมือต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเท่าความเงียบก่อนพระองค์เอ่ยคำสั่ง

จิ้งไฉไม่เคยตะโกน ไม่เคยใช้เสียงดัง แต่คำพูดเพียงสั้น ๆ ของพระองค์กลับหมายถึงชีวิตและความตาย และนั่นคือประโยคที่ข้าราชบริพารทุกคนต่างจดจำได้ขึ้นใจ

ว่ากันว่าครั้งหนึ่งมีขุนนางชั้นรองผู้กล้าเสนอความเห็นค้านในที่ประชุม จิ้งไฉเพียงแค่เงยตาขึ้นมอง ไม่มีเสียงตอบกลับ ไม่มีพระดำรัสใดทั้งสิ้น แต่วันรุ่งขึ้น ขุนนางผู้นั้นถูกพบเป็นศพในบ่อน้ำแห้งท้ายวัง โดยไร้ร่องรอยการต่อสู้ ราวกับถูกบีบให้สิ้นใจด้วยมือที่มองไม่เห็น

หรือครั้งหนึ่งมีองครักษ์ลับพยายามทรยศต่อราชสำนัก ขายข่าวให้ตระกูลศัตรู องค์รัชทายาททรงเรียกเข้าพบส่วนตัว และคืนนั้นเอง เสียงเหล็กเสียดกับพื้นศิลาในห้องสอบสวนใต้ดินก็ดังขึ้นเกือบทั้งคืน รุ่งเช้าประตูห้องนั้นเปิดออก เฉพาะพระองค์ที่ยังยืนอยู่โดยไม่เปื้อนเลือด แต่ภายในห้องกลับไร้ร่างใดให้พบ เหลือเพียงผ้าคลุมองครักษ์ที่ถูกวางไว้กลางพื้นอย่างเรียบงาม

ความน่ากลัวของพระองค์ไม่ได้อยู่ที่การลงโทษ แต่อยู่ที่พระองค์ไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงแววตาเดียว เหล่าผู้ภักดีรอบข้างก็พร้อมทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นตามพระประสงค์ และทุกการลงทัณฑ์ ล้วนเกิดขึ้นในเงาไม่มีหลักฐาน ไม่มีเสียงร้อง ไม่มีพยาน จิ้งไฉเป็นผู้ที่รู้จักความกลัวของมนุษย์ดียิ่งกว่าใคร พระองค์ไม่ต้องขู่ เพียงแค่เงียบคนก็ตายทั้งเป็น ถึงพระมารดาจะคอยสอนให้มีเมตตา แต่ถ้าใครกล้าแตะคนที่พระองค์รักมันตายสถานเดียว 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่เป็นองค์หญิงวิปลาส   บทที่ 78 หนีรอดแต่ก็ไม่รอด

    รุ่งสางหมอกบางคลุมลานหินนอกกำแพงวัง ทหารหลวงและหน่วยองครักษ์พิเศษล้อมพื้นที่แน่นหนา ร่างนักฆ่าเงารัตติกาลสามคนถูกจับกดไว้กับพื้นแขนถูกมัด เลือดเปื้อนเสื้อผ้า ดวงตาทุกคู่ยังคงว่างเปล่าไร้ความหวาดกลัวมู่เทียนหลางยืนอยู่เบื้องหน้า เสื้อเกราะยังมีรอยคมมีด สายตาเย็นเยียบ“ใครเป็นคนสั่ง” เทียนหลางเสียงของเขาเรียบ แต่กดดันหนึ่งในนักฆ่าเงยหน้าขึ้น มุมปากยกยิ้มประหลาด“สายไปแล้ว…คุณชายมู่”มู่เทียนหลางขมวดคิ้ว“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” เทียนหลางนักฆ่าคนนั้นกัดฟันแน่นก่อนที่ใครจะทันขยับกร๊อบ!เขากัดแคปซูลเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ลิ้น เลือดสีดำไหลออกจากปากทันที“หยุดเขาไว้ ห้ามให้ตายเด็ดขาด!” เทียนหลางแต่ไม่ทันแล้วอีกสองคนทำเช่นเดียวกัน ร่างกระตุกเพียงครู่ก่อนแน่นิ่ง ความเงียบปกคลุมพื้นที่ กลิ่นโลหิตและยาพิษลอยคลุ้ง หมอหลวงรีบเข้าตรวจ ก่อนส่ายหน้าอย่างเคร่งเครียด“พิษปลิดชีพขอรับออกฤทธิ์เร็วมาก ไม่มีทางช่วย”มู่เทียนหลางกำมือแน่นเส้นเลือดที่ขมับปูดขึ้น“แม้ตาย…ก็ยังซื่อสัตย์ต่อสำนัก” เทียนหลางหัวหน้าทหารหลวงคุกเข่าลง“ขออภัยคุณชายมู่พวกมันไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เลย”มู่เทียนหลางหลับตาชั่วขณะในใจหนั

  • เกิดใหม่เป็นองค์หญิงวิปลาส   บทที่ 77 แผนลอบปองร้ายองค์หญิงในวัง

    คืนนั้นวังหลวงเงียบงันเกินปกติแม้แสงโคมจะส่องสว่างตามระเบียง แต่กลับให้ความรู้สึกเย็นเยียบอย่างประหลาด ในเงามืดของเรือนร้างใกล้กำแพงชั้นใน ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ใต้ชายคา หน้ากากสีดำปิดครึ่งใบหน้า ดวงตาคมกริบไร้ความรู้สึก“แผนเริ่มได้แล้ว”หัวหน้านำเงารัตติกาลกล่าวเสียงของเขาเบาแต่เด็ดขาด ร่างเงาหลายร่างคุกเข่าลงพร้อมกัน“เป้าหมายอยู่ในตำหนัก”หนึ่งในนั้นถามหัวหน้านำยกมือขึ้น ในมือคือผ้าไหมปักลายหงส์เครื่องหมายตำหนักไฉ่หง“วันนี้องค์หญิงหลิงเซียงต้องตายและวังหลวงจะลุกเป็นไฟ ตระกูลเกาจะหมดความอดทนกับราชสำนักแน่”คำสั่งนั้นทำให้เงาทั้งหมดนิ่งงันไปชั่วขณะ แม้แต่นักฆ่าก็รู้ดีว่า เป้าหมายนี้ไม่ธรรมดา“อย่าให้ใครสงสัยถึงเรา อย่าให้มีร่องรอยว่าเป็นการลอบสังหาร ต้องดูเหมือน…อุบัติเหตุในวัง”ดวงตาของหัวหน้านำฉายแววเย็นเยียบ“และคืนนี้ต้องเป็นคืนที่องค์หญิงจะมีชีวิตอยู่”ภายในตำหนักไฉ่หงองค์หญิงหลิงเซียงกำลังเตรียมบรรทม หัวใจของนางไม่สงบตั้งแต่รู้ว่าการย้ายจวนล้มเหลว“ไปพักผ่อนเถอะเพค่ะ”นางกำนัลเอ่ยเสียงเบา หญิงพยักหน้า แต่ในวินาทีนั้นเอง มีเสียงดังปึกเสียงเบา ๆ ดังจากหลังคา องครักษ์หน้าตำหนักชะงัก

  • เกิดใหม่เป็นองค์หญิงวิปลาส   บทที่ 76 เผชิญหน้ากับองค์รัชทายาท

    ข่าวว่ามู่เทียนหลางขอเข้าเฝ้าองค์รัชทายาทโดยตรง สร้างความตกตะลึงให้กับคนในวังไม่น้อย เพราะผู้ใดต่างรู้ดีว่านี่มิใช่การเข้าเฝ้าเพื่อทักทาย หากเป็นการเผชิญหน้าที่ไม่มีผู้ใดถอยง่าย ๆ ตำหนักบูรพาอากาศในท้องพระโรงเงียบงัน มู่เทียนหลางคุกเข่าลงอย่างสง่างามแผ่นหลังตรง“กระหม่อมมู่เทียนหลาง ขอเข้าเฝ้าองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ” เทียนหลางจิ้งไฉประทับอยู่บนบัลลังก์ต่ำ พระเนตรทอดมองลงมาอย่างเย็นชา“ลุกขึ้น เจ้ามาด้วยเรื่ององค์หญิง…ใช่หรือไม่” จิ้งไฉมู่เทียนหลางลุกขึ้นช้า ๆ“พ่ะย่ะค่ะ” เทียนหลาง“เช่นนั้นข้าไม่อ้อมค้อเลยแล้วกัน ข้าไม่ยินยอมให้พาน้องสาวข้าไปไหนทั้งนั้น” จิ้งไฉคำตอบนั้นชัดเจนราบเรียบแต่หนักหน่วง มู่เทียนหลางประสานมือค้อมศีรษะเล็กน้อย“กระหม่อมมาที่นี่ มิใช่เพื่อขออนุญาตจากองค์รัชทายาท หากแต่มาเพื่อขอให้ทรงถอนการคัดค้าน” เทียนหลางบรรยากาศรอบกายแข็งค้างขันทีและองครักษ์ต่างกลั้นลมหายใจ จิ้งไฉหัวเราะเบา ๆ“มู่เทียนหลาง…เจ้ากำลังท้าทายข้าหรือ” จิ้งไฉ“กระหม่อมไม่กล้า แต่กระหม่อมจะไม่ถอย” เทียนหลางพระเนตรขององค์รัชทายาทหรี่ลง มู่เทียนหลางเงยหน้าขึ้น สายตานิ่งมั่นคง“องค์หญิงหลิงเซียงไม่ใ

  • เกิดใหม่เป็นองค์หญิงวิปลาส   บทที่ 75 ขอย้ายเข้าจวนตระกูลมู่

    หลังจากพาองค์หญิงหลิงเซียงกลับจากจวนตระกูลมู่ มู่เทียนหลางยังคงเห็นภาพรอยยิ้มอบอุ่นของคนในบ้านลอยวนอยู่ในความคิดตั้งแต่บิดามารดา พี่ชาย พี่สะใภ้ ไปจนถึงหลาน ๆ ทุกคนล้วนต้อนรับองค์หญิงด้วยความเคารพจริงใจ มิใช่เพราะฐานะ หากเป็นเพราะรักและเอ็นดูในตัวนางอย่างแท้จริง มู่เทียนหลางหลังจากที่พาองค์หญิงไปจวนตระกูลมู่ ได้เห็นครอบครัวตัวเองต้อนรับองค์หญิงเป็นอย่างอบอุ่น จึงอยากลองขอฮ่องเต้จิ้งอู่พาองค์หญิงย้ายไปอยู่ที่จวนตระกูลมู่คืนนั้น มู่เทียนหลางนั่งอยู่ในตำหนักไฉ่หง มององค์หญิงที่กำลังอ่านตำราด้วยสีหน้าสงบหัวใจเขากลับไม่อาจสงบตามไปได้“หลิงเซียง” เทียนหลางเขาเอ่ยเสียงแผ่ว องค์หญิงเงยหน้าขึ้นมอง “มีอะไรหรือเจ้าค่ะท่านพี่” หลิงเซียงมู่เทียนหลางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง“วันนี้ที่จวนตระกูลมู่…เจ้าดูมีความสุขมาก” เทียนหลางองค์หญิงนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนยิ้มบาง“เพราะทุกคนอบอุ่นมากเพคะ ทำให้หม่อมฉันคิดถึงครอบครัวเดิมโดยไม่รู้ตัว” หลิงเซียงคำพูดนั้นทำให้มู่เทียนหลางแน่นอก เขาตระหนักดีว่าแม้ตำหนักไฉ่หงจะหรูหรา มีอำนาจ มีคนรับใช้รายล้อม แต่กลับขาดความอบอุ่นของคนในครอบครัว ห

  • เกิดใหม่เป็นองค์หญิงวิปลาส   บทที่ 74 เทศกาลไหว้พระจันทร์

    ในที่สุดเทศกาลไหว้พระจันทร์ก็เวียนมาถึง ค่ำคืนต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าโปร่งใส ดวงจันทร์กลมโตเริ่มทอแสงนวลเหนือหลังคาวังตั้งแต่เช้าตรู่ ตำหนักไฉ่หงก็เต็มไปด้วยความคึกคักนางกำนัลช่วยกันแขวนโคมไฟสีแดงและสีทองเรียงรายตามระเบียง ผืนผ้าลายเมฆและกระต่ายหยกถูกนำมาตกแต่งโต๊ะบูชาอย่างประณีต“แขวนโคมตรงนั้นอีกนิดเจ้าค่ะ!”“โต๊ะขนมไหว้ต้องหันรับแสงจันทร์นะ!”เสียงพูดคุยหัวเราะดังไม่ขาดสาย บนโต๊ะยาวกลางตำหนัก ขนมไหว้พระจันทร์ถูกจัดเรียงอย่างงดงาม ทั้งไส้ถั่วแดง ไส้งาดำ ไส้พุทรา ผลไม้ตามฤดูกาลถูกวางคู่กับชาอุ่นหอมกรุ่น องค์หญิงหลิงเซียงยืนดูความเรียบร้อยด้วยรอยยิ้มอ่อน“อย่าลืมวางขนมรูปกระต่ายหยกไว้ตรงกลางนะ” หลิงเซียงนางกำนัลรับคำอย่างขะมักเขม้น“เพค่ะองค์หญิง!”บรรยากาศก่อนค่ำเมื่อแสงอาทิตย์คล้อยต่ำ ลมเย็นพัดผ่านตำหนักไฉ่หงอย่างอ่อนโยน กลิ่นธูปหอมอ่อน ๆ ลอยคลุ้งเสียงพิณเบา ๆ ดังคลอจากด้านใน ทุกคนแต่งกายด้วยชุดสีอ่อนงดงามนางกำนัลหลายคนแอบกระซิบด้วยดวงตาเป็นประกาย“คืนนี้องค์หญิงต้องงดงามมากแน่ ๆ”“ได้ยินว่าคุณชายมู่จะมาร่วมงานด้วยนะ หลังจากนั้นก็จะพาองค์หญิงไปที่จวนตระกูลมู่ด้วยนะ!”เมื่อถึงยามโหย

  • เกิดใหม่เป็นองค์หญิงวิปลาส   บทที่ 73 เข้าปีที่ 2

    ตอนนี้ชีวิตใหม่ที่แสนจะมีวุ่นวายของหมิวที่อยู่ในร่างขององค์หญิงหลิงเซียงเริ่มมีความสุขมากขึ้น มากจนคิดว่าถ้าหากถึงวันที่เกิดเหตุร้ายตามที่เขาศึกษามา เขาคงต้องเสียใจมากแน่เพราะมู่เทียนหลาง เท่าที่รู้มาเขาจะกลายเป็นคุณชายตาบอดไปตลอดชีวิต เพราะเข้าไปช่วยฮ่องเต้ที่ติดอยู่ในกองเพลิง เขาตั้งในแล้วว่าจะไม่มีทางให้มันเกิดขึ้นแน่นอน อีกอย่างตั้งแต่มาอยู่ที่นี้แล้วมีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ล้วนมาจากฝีมือของสำนักเงารัตติกาล หากวิเคราะห์โดยที่ไม่อิงประวัติศาสตร์ที่ศึกษาตัดออกไปไม่เอามาร่วม ก็จะเห็นได้ว่าเหตุการณ์ร้ายที่จะเชื่อมไปถึงในปีที่ 7 ของการของครองราชย์ของฮ่องจิ้งอู่ สำนักรัตติกาลนี้แหละคือตัวร้ายและน่าจะร่วมมือกับคนในราชวงศ์คนใดคนหนึ่งที่ทำให้ ทั้งฮ่องเต้และองค์รัชทายาทแตกหักกันมานานหลายปี วิเคราะห์ดูแล้วเอาเข้าจึง ๆ ไม่เป็นที่ประวัติศาสตร์ในตำราบันทึกไว้เลย ดูท่าเขากับมู่เทียนหลางคงต้องสืบหาคนอยู่เบื้อหลังอีกนานเลยวันนี้องค์หญิงหลิงเซียงอยากฉลองให้ตัวเองที่อยู่รอดปลอดภัยมาถึงปีที่สองจึงอยากทำอาหารฉลองสักหน่อย เมนูก็มีอะไรง่าย ๆ ที่ทำจากหมู หมูผัดกิมจิ ข้าวผัดหมู หมูทอดกระเทียม และหม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status