Home / โรแมนติก / เขาคนนั้น / บทที่ 13 แผนเริ่มต้น

Share

บทที่ 13 แผนเริ่มต้น

last update Last Updated: 2025-05-17 23:49:07

แสงไฟอยู่บนทั้งเชิงเทียน และลอยน้ำยิ่งยกระดับความหรูหรามากขึ้น อินถาไม่รู้แสงสว่างตรงจุดนี้เป็นตัวช่วยขับเสน่ห์ให้กับเธอ ทั้งความสวยและสดใสเขย่าใจคนมอง เลี่ยงเปรียบเทียบกับผู้หญิงหลายคนที่เคยผ่านมาและพามาไม่ได้ หากแต่ข้อเปรียบเทียบนี้จะต้องเก็บไว้ในใจ ให้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบนั้น

สีหน้าอินถาแลดูเปลี่ยนทันที หลังได้ยินคำตอบของคำถามที่ตนใคร่รู้ โชคดีบรรยากาศตอนกลางคืนซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิด ลับกับเสียงไฟจากดวงกลมรอบๆร้านจงใจจัดแต่งให้ดูดีมีสไตล์มากขึ้น และลมเบาหวิวพัดโชย ทำให้การเกี่ยวเส้นผมมาทัดหู ยามปลิวว่อนปกปิดหน้า ไม่ได้ถูกมองว่าเคอะเขินจนดูแย่ แต่ดูน่าค้นหาไปอีกแบบ

ผู้หญิงตรงหน้า เป็นคนเดียวที่ทำให้เขาเสียอาการ ในความสดใสถึงขนาดพกติดสมองไปด้วยทุกที่ ช่วงไหนที่ว่างช่วงนั้นเรื่องราวของเธอจะมาแทรกแซง

“ว่ายังไงคะ ได้ไหม? หนูยังไม่ให้คำตอบพี่เลย”

ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมาจากจานอาหาร หลังถูกยกเสิร์ฟได้สักพัก พร้อมเม้มริมฝีปากแนบสนิท ในหัวปั่นป่วนพอๆกับท้องน้อย ถ้าสมมุติปฏิเสธเขาจะเป็นอย่างไร?

ร่างบางคิดหนัก พยายามทบทวนความเป็นจริงระหว่างระยะเวลาที่สั้น ไม่เหมาะสมกับการตอบรับ กลับทำความรู้สึกลึกๆภายใต้สัญชาตญาณเห็นแก่ได้ เกิดบังคับให้เธอมองผ่านสิ่งนั้น

เธอชอบเขา

และเขากำลังจะจีบเธอ!

เป็นประโยคเดียวที่ได้ยิน วนเวียนอยู่ในความคิด ซึ่งแน่นอนว่านี่คือโอกาส

“เดี๋ยวนี้เลยเหรอคะ”

“ถ้าลำบากใจที่จะบอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไรค่ะ พี่จะถือว่าหนูรับรู้แล้ว การจะไปไหนมาไหนกับพี่ หรือพี่มาหาหนูบ่อยๆ จะได้ไม่สงสัยว่าทำไปทำไม เพื่ออะไร”

นี่หรือเปล่าเรียกว่าการมัดมือชก เขาไม่รอคำตอบจากเธอ แต่เขาเดินหน้าต่อ เสมือนการตอบหรือไม่ตอบไม่ใช่สิ่งสำคัญ

ส่วนเธอ..แค่คิดว่าเขาจะหายไปจากชีวิต ก็ใจสั่นแล้ว

อันที่จริง..ใจนั้นรู้คำตอบ และความต้องการของตัวเองเป็นที่สุด เพียงแต่กระดากอายเกินกว่าจะพูดออกมาได้

เอาไงดี?

“งั้นหนูขอไม่ตอบละกันนะคะ”

“หืม?” ชายหนุ่มยิ้มอ่อน “หมายความว่าพี่จีบหนูได้สินะ”

“คะ?”

“หนูเขินแบบนี้..แสดงว่าหนูเองก็มีใจให้พี่”

คนถูกต้อนหันไปทางอื่น ไม่กล้าผสานตากับคู่สนทนาอีกต่อไป หลังกำลังแปรเปลี่ยนเป็นอีกอย่าง ชนิดพอเห็นแล้วใจเต้นระทึก

แต่แล้ว..

“เดี๋ยวค่ะ” กลับต้องหันขวับเมื่อนึกถึงบางอย่าง “แล้วผู้หญิงของคุณ?”

ราล์ฟเลิกคิ้วสูง ถึงกับชะงักกลางอากาศ ก่อนจะกลั้นขำ

“ทำไมถามกันอย่างนั้นละครับ นี่ถ้ายังมี พีาจะมาจีบหนูทำไม”

“อ่าว ไม่ทราบสิคะ เผื่อคุณเจ้าชู้”

เธอเองก็ตอบทันทีโดยไม่คิด ยิ่งทำให้เขาชะงักมากขึ้น ชายหนุ่มจ้องหน้าก่อนหัวเราะร่วน แน่นอนนั่นเป็นชนวนเหตุทำให้เธอตกใจ ถึงกับอ้าปากค้าง จ้องหน้าเขาเขม็ง

เขาไม่เคยยิ้มให้เห็นชัดๆเลย

แต่ตอนนี้เขาหัวเราะ

“หนูพูดอะไรผิดไปเหรอคะ”

“พูดไม่ผิดครับ แต่มองผิด”

น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นราบเรียบ พร้อมกับแววตาจับจ้อง เสมือนเขากำลังบอกเป็นนัยว่าจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สองเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก และให้เธอต้องจำเอาไว้

“อ๋าา อย่างนั้นเหรอคะ”

ขณะเดียวกันสาวเจ้านั้นรับรู้ ถึงได้ยิ้มเจื่อนหลุบตาลงต่ำ

บทสนทนาถูกตัดจบชั่วคราว ต่างคนต่างทานอาหารเงียบๆ ท่ามกลางบรรยากาศดีสูงสุด หากนี่มากับคนพิเศษที่มีเคมีเข้ากัน คงเป็นที่น่าจดจำและสนุกกว่านี้

ราล์ฟยกข้อมือดูเข็มบนหน้าปัดนาฬิกา หลังดื่มไวน์ล้างคอรวดเดียวหมด

“กลัวผมมอมหรือครับ”

จิกกัดคนตรงหน้าเล็กน้อย จังหวะเหลือบตามองแก้ว เห็นน้ำในนั้นหายไปไม่ถึงเศษเสี้ยวของกึ่งหนึ่ง

อินถาเลิกลั่ก ละสายตาจากวิวโดยรอบหันกลับมาริมฝีปากเผยอเผยฟันสองซี่ดูมีเสน่ห์

“คะ? เปล่าค่ะ หนูไม่ชอบเมา”

ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลาย ขณะสมองหลุดโคจรไปไกลโพ้น ในหัว ณ ตอนนี้มีแต่เรื่องลามก เขาอยากให้เธออยู่บนเตียง โดยมีเขาคร่อมตัวอยู่

“ไม่ได้ให้เมาขนาดค่ะ แค่พอตึงๆ จะได้สนุก” เร่งเปลี่ยนเรื่องกลัวเธอจะรู้ทัน “หนูคงไม่รู้ ผู้หญิงเวลาดื่มพอตึงๆ แก้มแดงหน่อยๆน่ารักจะตาย”

คนตัวเล็กอมยิ้ม เปลี่ยนเป็นก้มหน้าลงหัวเราะภายหลังก็ตอนรู้ทันความคิด

“จริงเหรอคะ ไม่ใช่หลอกชมให้หนูกระดกรวดเดียวหมดแก้วนี้ บอกเลยหนูเมาไม่เหมือนใครอื่น คุณอาจจะทิ้งหนูไว้ที่นี่แล้วเผ่นกลับบ้านไปก็ได้”

พลันหุบยิ้มทันควัน ก็ตอนเขายิ้มบ้าง แต่เป็นรอยยิ้มที่ร้าย

“หนูเคยเมาหรือ?" หลังคนตรงหน้าถามน้ำเสียงยียวน เลิกคิ้วสูง "เอาสิคะ พี่อยากเห็นอีก”

ลืมไปเสียสนิทว่าก่อนหน้านี้ เขาเคยแบกเธอมาแล้ว

พระเจ้า!

ในผับคืนนั้น...เธอลืมไปเลย ลืมได้ยังไงกัน!

“เอ่อ....”

“พี่ไม่บอกใครหรอกค่ะ" เขายิ้มกว้าง "ไม่บอกว่าหนูเคยนัวเนียและลวนลามพี่แบบไหน ตอนนั้นแก้มพี่กับปลายจมูกหนูเนี่ย..”

ดวงตากลมโตขึงกว้างขึ้นอีกครั้ง

“หืม? เงียบไปเลย พี่พูดอะไรผิด”

“ปะ เปล่าหรอกค่ะ แค่คุณทำให้หนูใจสั่น..”

และอึ้งกับความหล่อของคุณนิดหน่อย แค่นั้นเอง

ประโยคนี้ทำได้แค่พูดในใจเท่านั้น อินถาเกาแก้มตัวเอง ขณะก้มหน้าลง ผิดหวังกับตัวเองสุดๆ ที่เผลอทำหน้าอึ้งใส่เขา ซึ่งกว่าจะรู้ว่าความเผลอนั้นได้ฉีกหน้าเธอก็ตอนไวน์ในแก้วถูกกระดกรวดเดียวหมด พร้อมกับสีหน้าเหลือเชื่อของคนตรงข้าม

“อึก..”

เวลาผ่านไปจวนร้านปิด เธอผู้ที่ไม่อยากเมากลับกลายเป็นกลืนน้ำลายตัวเอง

ณ เวลานี้คงจำอะไรไม่ได้อีก นอกจากเขาข้างกายและภาพเลือนรางของทางข้างหน้า

ราล์ฟวางแผนจัดการด้วยตัวเองเสร็จสรรพ เหตุเพราะคนมาด้วยไม่มีสติที่จะตัดสินใจให้ เขาพาเธอไปยังรถซึ่งจอดสนิทอยู่ที่ออฟฟิศ และถือวิสาสะขับไปยังคอนโดเนื่องจากอยู่ที่เดียวกัน โดยรถตัวเองจอดทิ้งไว้แทน เป็นการสลับเพื่อให้สาวเจ้ามีรถมาทำงานในวันพรุ่งนี้ ส่วนเขาผู้ที่มีอาชีพอิสระ ไม่ใช่พนักงานเฉกเช่นหล่อน จะมาเอาตอนไหนอย่างไรก็ได้

ตลอดทางที่ขับมา บนรถไม่ต่างกับการมีเด็ก เด็กเล็กวัยสามขวบที่พูดไม่รู้ความ หล่อนคล้ายเช่นนั้นและเหมือนจะมากกว่า เพราะนับครั้งไม่ถ้วนที่เขาขับมือเดียว ส่วนอีกมือมีไว้จับตัวหล่อน ไม่ดันหัวยามพุ่งมาซบเขา ก็รวบมือตอนยื่นมาหวังดีจะช่วยบังคับพวงมาลัย

“มาค่ะ..ช่วยยย”

“ไม่ต้อง..”

“ฮื้มม”

กว่าจะถึงที่หมายเล่นเอาเหงื่อแตกตกกันเลยทีเดียว

ร่างสูงถอนหายใจพรืด ขณะลงจากรถมายืนอีกฝั่งของประตู ก่อนจะดึงแขนเรียวออกมาแล้วอุ้มขึ้นบ่า ท่ามกลางความเงียบสงัดของคอนโดเพราะดึก มีแต่เสียงละเมอของคนเมาให้ได้ยินเท่านั้น พลางถูกปล่อยลงก็ตอนมาถึง

“ขอคีย์การ์ดหน่อยค่ะ”

เสียงทุ้มเอ่ย แต่ดูเหมือนคำขอจะล้มเหลว คนตัวเล็กข้างกายไร้สติ ไม่พอมือซนไต่ลูบไปทั่ว ลำบากเขาต้องใช้แขนรัด โอบกอดรอบคอดันศีรษะทุยแนบไว้กลางอกตัวเองแทน ขณะค้นหาคีย์การ์ดไขสลักด้วยมืออีกข้างหนึ่ง

จากนั้นจึงยกอุ้มแค่ให้เท้าลอยพื้น เพื่อบังคับเข้าห้อง และทุ่มร่างนั้นลงกลางเตียงนอน

ตุบ!

ถึงกับปาดเหงื่อ ยืนมองผลงานตัวเองด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาขณะมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมาหยุดอยู่ตรงใบหน้านั้น เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยทันที ไม่พอยังเอาโทรศัพท์ของเธอมาพิมพ์ลายนิ้วมืออีก ก่อนกดเข้าไปข้างในเพื่อแฮกระบบ

พลางยิ้มมุมปากก็ตอนทำสำเร็จ แล้วส่งคืนหล่อน เขามองหน้าสะสวยหวานใสอยู่พัก โน้มตัวเข้าไปหาใช้ริมฝีปากร้อนฉ่าของตัวเองทาบทับบนริมฝีปากนุ่มนิ่มนั้น ก่อนจะดูดดื่มจนหนำใจแล้วถอนออก

“ฝันดีนะคะ ว่าที่ภรรยา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้น   บทที่ 13 แผนเริ่มต้น

    แสงไฟอยู่บนทั้งเชิงเทียน และลอยน้ำยิ่งยกระดับความหรูหรามากขึ้น อินถาไม่รู้แสงสว่างตรงจุดนี้เป็นตัวช่วยขับเสน่ห์ให้กับเธอ ทั้งความสวยและสดใสเขย่าใจคนมอง เลี่ยงเปรียบเทียบกับผู้หญิงหลายคนที่เคยผ่านมาและพามาไม่ได้ หากแต่ข้อเปรียบเทียบนี้จะต้องเก็บไว้ในใจ ให้มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยิน ภายใต้ใบหน้านิ่งเรียบนั้นสีหน้าอินถาแลดูเปลี่ยนทันที หลังได้ยินคำตอบของคำถามที่ตนใคร่รู้ โชคดีบรรยากาศตอนกลางคืนซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวท่ามกลางท้องฟ้ามืดมิด ลับกับเสียงไฟจากดวงกลมรอบๆร้านจงใจจัดแต่งให้ดูดีมีสไตล์มากขึ้น และลมเบาหวิวพัดโชย ทำให้การเกี่ยวเส้นผมมาทัดหู ยามปลิวว่อนปกปิดหน้า ไม่ได้ถูกมองว่าเคอะเขินจนดูแย่ แต่ดูน่าค้นหาไปอีกแบบผู้หญิงตรงหน้า เป็นคนเดียวที่ทำให้เขาเสียอาการ ในความสดใสถึงขนาดพกติดสมองไปด้วยทุกที่ ช่วงไหนที่ว่างช่วงนั้นเรื่องราวของเธอจะมาแทรกแซง“ว่ายังไงคะ ได้ไหม? หนูยังไม่ให้คำตอบพี่เลย”ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมาจากจานอาหาร หลังถูกยกเสิร์ฟได้สักพัก พร้อมเม้มริมฝีปากแนบสนิท ในหัวปั่นป่วนพอๆกับท้องน้อย ถ้าสมมุติปฏิเสธเขาจะเป็นอย่างไร?ร่างบางคิดหนัก พยายามทบทวนความเป็นจริงระหว่างระยะเ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 12 ภาพจำที่ต่าง

    ชายหนุ่มในคราบเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำ กับกระดุมเสื้อถูกปลดออกไปแล้วสองเม็ด ไม่ได้ทำให้ดูแย่ลง กลับกันทำให้เข้าใจง่ายว่าเขาเหนื่อยมาจากงานที่ทำด้วยซ้ำ และการเผยช่องโหว่ของแผงอกเป็นการคลายความร้อนกับความอึดลงอย่างหนึ่งอินถายิ้มน้อยๆเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า โดยระดับความสูงของเธอเทียมหน้าอกของพอดิบพอดี เพราะระดับต่างกันจึงทำให้ต้องแหงนหน้าขึ้นไปคุย“เอ่อ..” สายตามองผ่านไปยังรถของตัวเองก่อน จึงจะลากกลับมายังใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง “คุณมารออหนูเหรอคะ”“ใช่ค่ะ”ตอบทันควันแบบไม่ได้คิด คนชะงักไปไม่ถูกกลายเป็นคนที่ถาม เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองรอบที่ล้าน!“รอทำไมคะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าหนูยังอยู่ที่นี่”“เอาคำถามไหนดี ก่อนหรือหลัง”ต่างจากเขาที่ดูสบายๆ ราวกับช่ำชองเรื่องนี้มานาน ดูไม่ประหม่า ควบคุมสถานการณ์ได้ดีและอยู่หมัดนาทีนี้อินถารู้สึกถึงความเล็กภายในตัวเองที่เล็กยิ่งกว่าอะตอมภายใต้เซลล์ประหนึ่งควาร์ก (Quark)ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่ไม่ได้ดีมากขนาดนั้น เข้าถึงง่ายแต่ไม่เปิดโอกาสให้สนิทเอาเป็นว่า เขาคือผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาคนหนึ่ง หากเปรียบด้วยผู้คนตลอดชีวิตยี่

  • เขาคนนั้น   บทที่ 11 ดักรอ

    เช้าตรู่ของการตื่นนอนที่ไม่ปกติ เนื่องจากตื่นก่อนเวลาเป็นชั่วโมง แต่พอเดินออกมายังห้องรับแขกที่มีโซฟา กลับพบว่าอีกคนตื่นเร็วกว่า แถมไม่อยู่ตรงนั้นแล้วอินถาถอนหายใจพรืด หมุนตัวเดินกลับไปที่เดิม เพื่ออาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะกลับออกมาใหม่อีกครั้งก็ตอนฟ้าสว่าง จังหวะนั้นกำลังจะเดินผ่าน เหลือบตามองเห็นกระดาษโน้ตสีเหลืองวางอยู่บนโต๊ะโดยมีรีโมตแอร์ทับไว้'ขอบคุณมากค่ะ ไว้คราวหน้าพี่จะพาไปทานข้าวนะ'สาวเจ้าเลิกคิ้วเอียงคอ ทำไมต้องพาทานข้าว เธอไม่ได้อดอยากสักหน่อย พลางสูดลมหายใจยิ้มกว้าง เตรียมตัวไปทำงานต่อ ก่อนจะเดินมุ่งหน้าสู่กล่องลิฟต์ไม่วายยืนจ้องมองประตูห้องของเขา คิดไปเองว่าชายหนุ่มอาจจะอยู่ในนั้น แต่ต้องขมวดคิ้วภายหลังเมื่อนึกขึ้นได้ว่า..“คีย์การ์ดเขาหายนี่นา..”จึงจะส่ายศีรษะหนีจากความคิด มุ่งสู่ที่ทำงานตามเดิมที่ทำงาน...แปะ!“ฮึ่ย”คนตัวเล็กบนเก้าอี้สำนักงานสะดุ้ง ให้กับฝ่ามือใหญ่ที่จงใจปะทะเข้าหากันเพื่อปลุกให้ตื่นจากการเหม่อลอย"เป็นอะไรเนี่ย"เจ้าของมือคือนักรบ เขาถามก่อนคำตอบของเธอจะเป็นต้นเหตุของรอยยิ้มที่หายไป“รบ เมื่อคืนเขามานอนห้องฉัน”“ฮะ” ไม่พอ แถมหัวคิ้วขมวดเข้าหากันด้วย “

  • เขาคนนั้น   บทที่ 10 อ่อย

    เสียงร้องมาพร้อมกับเท้าสะดุด ผลของการเดินเร็วจนเกินไป แล้วหยุดชะงักกลางคัน เพราะภาพตรงหน้าคือผู้ชายคนหนึ่งยืนเปลือยล่อนจ้อนอยู่หน้าไม่อาย!สามารถใช้คำนี้ได้เลยอินถาอ้าปากค้างมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนขึงตาโตก็ตอนเห็นตรงนั้นประเจิดประเจ้อ“เหวอ!”เธอเบือนหน้าหนีไปทางอื่น หลังตั้งสติได้ว่าไม่ควรจ้องนาน กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ สาบานเลยว่าสิ่งที่เห็นเต็มสองตาเมื่อครู่ จะไม่มีวันลืม“ขอโทษค่ะ พี่ไม่คิดว่าหนูจะกลับมาเร็ว”แล้วถ้าเดินกลับมาช้าจะเป็นยังไงเล่า จะล่องหนหรือหายตัวไปนะหรือ“คุณมีคาถาหายตัวได้รึไงกัน”ร่างบางกัดฟันกรอดเอ่ยเสียงแผ่ว ยังคงยืนหันหลังให้เขาอยู่ คนถูกถามกระตุกยิ้ม กลั้นขำ“ก็จะหันหลังให้ จะไม่ยืนโจ่งแจ้งแบบนี้”“ห๊า..” ถึงกับลืมตาโพลง คิดตามที่เขาพูด เมื่อคิดยังไงก็ไม่ใช่เหตุผลถึงกับคอตก “คุณก็รอหนูกลับมาก่อนก็ได้นี่ ของสงวนแบบนั้นไม่ควรเอาออกมาให้เห็นกันง่ายๆรู้ไหมคะ”“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ถือ”What??!อินถากะพริบตาถี่ เขาโดนซ้อมจนสมองตีลังกากลับหลังไปแล้วกระมัง“แต่ถาเป็นผู้หญิงนะคะ”“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอโทษก็แล้วกัน ขอผ้าเช็ดตัวให้พี่ได้หรือยัง”“ยะ อย่าเข้ามานะคะ”สาวเจ้

  • เขาคนนั้น   บทที่ 9 พาผู้ชายขึ้นห้อง

    “เฮ้ยคุณ!”เธอปล่อยถุงอาหารหลุดมือ พร้อมขึงตาขึ้นกว้าง มากกว่าปกติ ความตกใจลืมหมดแม้ความเย็นชื้นจากสายฝนที่กระหน่ำเทลงไม่ขาดสาย ไม่เหลือพื้นที่แห้งบนเสื้อผ้า แล้วนิ่งทำอะไรไม่ถูก จนเห็นร่างนั้นเริ่มขยับเขยื้อนอีกครั้ง ถึงจะถลาเข้าไปช่วยประคองดึงให้ลุกขึ้นมาส่วนเขาพยายามแหงนหน้า ใช้ม่านตาพร่ามัวที่สายฝนเม็ดใหญ่พรั่งพรูใส่ไม่หยุดมอง ก่อนนิ่วหน้าตอนเธอทำเขาเจ็บ บางทีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลก็สำคัญ เสียดายที่ไม่จดจำสมัยได้เรียน“ตัวคุณหนักมาก ฉันคนเดียวไม่ไหวหรอก ไปตามคนมาช่วยดีกว่า”หมับ!แขนเรียวถูกฉุดรั้งทันทีที่พูดจบ ด้วยแรงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเขา“คะ?”ก่อนอ้าปากค้าง หลังเขาส่ายหน้าท้ายที่สุดเป็นเธอที่ต้องพยายาม ดิ้นรนพยุงพาไปยังรถจอดอย่างทุลักทุเล ความหนักของเซลล์ทุกส่วนเป็นอุปสรรคให้ต้องกัดฟันกรอด หลังใช้เท้ายึดพื้นให้มั่นคง เพื่อทรงตัวจังหวะหิ้วปีกเขาลุก“ค่อยๆนะ”“เกิดอะไรขึ้นคะ คนพวกนั้นเป็นใคร มาทำร้ายคุณทำไม”อินถาหันไปถาม ดึงเข็มขัดมาคาดลำตัว เตรียมทำหน้าที่เป็นพลขับ บวกกับความสับสนพยายามไขข้อข้องใจ ให้เหมาะสมไม่คุ้มเสียแก่การตัดสินใจช่วยเหลือเขาด้วยตัวเองแ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 8 ฟ้าฝนเป็นใจ

    ยิ่งใกล้ไตรมาสสุดท้ายงานยิ่งล้นมือ หลายวันมานี้อินถาไม่มีเวลาแม้แต่จะเข้ายิม หรือโผล่หน้าสดไปให้พนักงานร้านกาแฟได้เห็น ชีวิตมีอยู่แค่สองทาง คือทางกลับบ้านกับทางไปทำงาน และสายทุกวัน“ฮ๊าววว~”เสียงหาววอดผสานกับเสียงเสียดสีของก้นแก้วกาแฟเลื่อนผ่านโต๊ะเนื้อไม้มาจอดอยู่ตรงหน้า สาวเจ้าเหลือบมอง พยักหน้ายิ้มบางๆแทนคำขอบคุณ“ขอบใจนะ”“เมื่อคืนดึกหรือ”นักรบทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม ในมือก็ถืออยู่อีกแก้วหนึ่ง“ใช่~ พี่ติ๋วอะดิ แกบ้าจี้อะไรไม่รู้โทรมาสั่งให้แก้งานกะทันหัน กะจะไม่รับสายแล้วนะ แต่ก็กลัวจะเป็นเรื่องด่วนหรือเป็นแกเองที่ขอความช่วยเหลือ”ได้ทีอินถาบ่นใหญ่ ทว่าสายตาไม่ได้จับจ้องคู่สนทนา แต่หรี่ต่ำมองแก้วในมือตัวเอง มองควันที่พวยพุ่งจากความร้อนนั้นอยู่ดีๆในหัวเกิดมีภาพแห่งความทรงจำเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านทำไมกันนะ กับอีแค่ยาไม่กี่แผง ถึงได้มีอิทธิพลทำให้เธอรู้สึกดีได้มากขนาดนี้ ทั้งๆที่เขานั้นก็มีเจ้าของอยู่แล้วอินถาเผลอยิ้ม แอบเข้าข้างตัวเอง แต่ปัจจุบันเขานั้นหายไปเลย ไร้วี่แววแม้แต่เงา เสียงเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ในห้องข้างๆในขณะเดียวกันก็ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อไปด้วย เ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 7 กลิ่นเทาเขาคิวปิด

    อินถายืนสงบนิ่งให้กับความสับสนของตัวเองที่ได้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว ในมือชูถุงยาขึ้น มองมันราวกับเป็นของวิเศษแวบมาจากทิศทางใดไม่รู้สักแห่ง ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาเขา เจ้าของผู้กระทำนำพา ทว่าทั้งทางเดินพบแต่ความว่างเปล่าความรู้สึกกระดี่ได้น้ำถูกเก็บไว้ในที่ตื้น ชนิดหากไม่รีบทำอะไรสักอย่างอาจโผล่พ้นออกมาให้เห็นได้เนื่องจากยากต่อการควบคุม เธอถึงได้เร่งเปิดประตูแล้วพาตัวเองเข้าไปในห้องนั้น เพื่อกระโดดโลดเต้น ดีใจประหนึ่งถูกรางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาล จิตใต้สำนึกบวกสัญชาตญาณกระซิบบอกให้เข้าข้างตัวเอง สิ่งนี้ที่ถืออยู่อาจเป็นของเขาผู้ชายที่แอบชอบไม่รอช้าหญิงสาวรีบคลี่ปมของมันทันที ก่อนจะหยิบออกมาดูทีละชิ้น เมื่อพบว่าเป็นยารักษาแผลทั้งภายในและภายนอก ก็ขึงตาโต“พระเจ้าคะ..” มือผสานเข้าหากัน แหงนหน้าขึ้น พร้อมยิ้มปลื้มดุจน้ำตาจะไหล ซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าจูปิเตอร์ “ทรงได้ยินคำขอของอินถาแล้วสินะคะ อินถาสามารถตัดชุดแต่งงานรอได้เลยใช่ไหม งื้อ..”ความตื่นเต้นถึงขนาดหัวเราะดังลั่นห้องอย่างลืมอาย จากนั้นจึงจะเดินไปทิ้งตัวลงกลางเตียง“เฮ้อ สบายใจจัง...”แล้วเผลอหลับไปเพราะความเพลียในที่สุดด้

  • เขาคนนั้น   บทที่ 6 ด้วยความปรารถนาดีและถุงยา

    ตลอดการเดินทางระหว่างคอนโดกับสถานที่นัดลูกค้า คนหลังพวงมาลัยเอาที่เหม่อลอย เอาแต่นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ การเจอกันระหว่างเขากับเธอ ที่มันไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ ทำให้สมองเธอปั่นป่วน โชคดีมากไม่เกิดอันตรายใดๆระหว่างเดินทาง แล้วถึงที่หมายอย่างปลอดภัยอินถายกมือลูบหน้า บุคลิกนี้จะมีก็แต่ยามเผลอตอนเรียกสติเท่านั้น เมื่อใดที่เห็นเมื่อนั้นจะรู้ได้ทันทีสาวเจ้ากำลังประหม่า ไร้ความเป็นตัวของตัวเอง และเครียดสะสมมา“บ้าจริง”เธอพึมพำหลังดับเครื่องยนต์ ล็อครถแล้วเดินลงไป แสงแดดจ้าช่วงกลางวันที่ไม่สามารถควบคุมได้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ปลุกให้เธอตื่น หายสับสนขึ้นมาบ้าง เตือนตัวเองให้เกียรติตัวเองอย่าได้เอาคนนอกเข้ามา แม้ไม่ถึงกับรกสมอง แต่ก็มีผลต่อการทำงาน เนื่องจากอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะต้องเจอลูกค้าแล้วตุบ!เสียงโยนกระเป๋าลงเบาะมาก่อนเจ้าของจะทิ้งตัวนั่ง นักรบที่กำลังนั่งอ่านรายละเอียดงานเพื่อจะทำแทน ถึงกับสะดุ้ง หันขวับมองสีหน้าฉงน“อิน?”“กลับออฟฟิศไปเลย”“ฮะ?”“นี่ไงฉันมาแล้ว”“บอกว่าให้พักไง”ชายหนุ่มยานคาง พลางสายหน้าเอือมระอา ไม่ได้สนใจประโยคทักทาย ไม่พอยังก้มลงอ่านเอกสารต่อ“เรื่องอะไร งานขอ

  • เขาคนนั้น   บทที่ 5 ใจสลาย

    ห้องที่คุ้นเคย?เจ้าของขนตาแพยาวไร้การเสริมแต่ง กวาดมองไปทั่วห้องก่อนขึงตาโต ชนิดกว้างครั้งแรกในชีวิต ก็ตอนเห็นควันโขมงพร้อมกลิ่นลอยอยู่บนอากาศ บริเวณนอกโดยมีประตูเลื่อนกั้นกลางระหว่างห้องนอนกับระเบียง ด้วยกระจกที่ใสมองเห็นจากข้างในแต่ทึบข้างนอกไร้ผ้าม่านปกคลุม ทำให้เจ้าของควันถูกมองไม่ชัด เขายืนอยู่ในท่าหันหลัง ด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวอย่างหมิ่นเหม่หญิงสาวก้มมองเลือดบนเตียงสลับกับเขาอยู่หลายรอบ ก่อนกรีดร้องสุดเสียงก็ตอนเขามองข้ามไหล่กลับมา“กรี๊ด!!!!”ครืน ครืน“เฮือก!”เสียงโทรศัพท์ทำคนบนเตียงสะดุ้งตื่น ร่างบางผุดลุกขึ้นนั่งพลางกุมขมับ ไม่ใช่แค่ความตกใจจากฝันเสมือนจริงทำให้เธอปวดหัว แต่เป็นฤทธิ์จากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปอย่างหนักหน่วงของเมื่อคืนด้วย“บ้าจริง”อินถาลูบหน้า กว่าจะรับโทรศัพท์ได้ปล่อยให้ดังตั้งนาน(เธอ เป็นไงบ้าง)“นะ นักรบ”เสียงแหบพร่าร้องเรียก ปลายสายที่มักจะโทรมาได้จังหวะ และเธอมักจะลืมดูหน้าจอก่อนกดรับทุกที(ฟังจากเสียง น่าจะดูแย่เหมือนกันนะ ไหวไหมเนี่ย ถ้าไม่ไหวลางานก็ได้ เดี๋ยวเรื่องลูกค้าที่นัดไว้วันนี้ รบจะไปแทนเอง)“เดี๋ยวนะ..”หญิงสาวหันมองนาฬิกาบนหัวเตียง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status