Share

ห้วงความฝัน

last update Last Updated: 2025-05-04 18:30:00

ห้วงความฝัน

เด็กชายตัวเล็กพยายามยื้อแย่งตุ๊กตาในอ้อมปากของเจ้าหมาจอมดื้อ

"อื้ออ... อย่าเอาของน้อง! แงงง!"

เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น ดึงสุดแรงเกิด แต่แรงเด็กน้อยสู้หมาตัวโตไม่ไหว ตุ๊กตาหมีสีเหลืองยังคงถูกคาบแน่นในปากของมัน

"แง... แงงง!" เสียงร้องดังลั่นไปทั่วสนามหญ้า จนเด็กอีกคนวิ่งเข้ามาพร้อมกับไม้ในมือ

"ไอ้หมา! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!"

...ฟาด!

... ฟาด!

เจ้าหมาสะดุ้งเฮือก ส่ายหัวไปมา ก่อนจะทนความเจ็บไม่ไหว ยอมคลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองออกจากปาก

"เย้ๆๆ!" เด็กน้อยกระโดดดีใจ เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้น พี่ชายใจดีที่ช่วยปกป้องเขาหยิบตุ๊กตาขึ้นมา

"อันนี้ของเราสินะ แต่มันเปื้อนหมดเลย"

"ไม่เป็นไรครับ... หมูเหลืองไปซักได้"

เด็กชายตัวน้อยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย ก่อนภาพทุกอย่างจะเลือนหายไป…

.

.

.

วี๊วอ! วี๊วอ!

เสียงไซเรนรถพยาบาลดังระงมไปทั่ว ความวุ่นวาย เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ เสียงวิทยุสื่อสารแทรกเป็นระยะ

มือของเขาเปื้อนเลือด...เลือดสีแดงฉานที่ไหลรินลงมาตามนิ้วสั่นเทา ภาพที่เขาเห็นทำให้เขาเริ่มเขาหายใจไม่ออก... เหมือนมีบางอย่างรัดแน่นที่หน้าอก อึดอัดจนแทบขาดใจ น้ำตาค่อยๆไหลอาบหน้า

"อึก...!"

ความหวาดกลัวพุ่งทะยานขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างกำลังจมหายไปในความมืด—

แต่แล้ว...

เสียงกระซิบแผ่วเบา ดังขึ้นข้างหู

"เราไม่เป็นไรนะ..."

"ไม่ต้องกลัวนะ... กนกไม่เป็นอะไรแล้ว"

สัมผัสอ่อนโยนลูบไล้บนเส้นผมของเขา ความอบอุ่นที่คุ้นเคยซึมซับเข้ามาอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากนุ่มประทับลงบนหน้าผาก ละมุนละไม จนความตื่นกลัวเริ่มจางหายไปทีละน้อย...

ค่ำคืนนี้ ฝันร้ายถูกปลอบโยนด้วยสัมผัสที่อบอุ่นที่สุด

สัมผัสของใครบางคน ที่เฝ้าดูแลเขาเสมอมา…

เมื่อคืนกนกหลับสนิท แม้จะเหนื่อยล้าจากการร้องไห้ แต่กลับรู้สึกอบอุ่นราวกับได้รับการปลอบโยนอย่างอ่อนโยนจากบางสิ่งที่มองไม่เห็น

เช้าวันรุ่งขึ้น เสียงพูดคุยเบาๆ ดังขึ้นในห้องพัก

"เมื่อคืนเหมือนแกฝันร้ายเลยนะ แกเหมือนจะร้องไห้ เรากำลังจะปลุกแต่จู่ๆ แกก็กลับมาสงบลงเอง" มิวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย

กนกชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้ารับ "อืม...แต่ตอนนี้โอเคแล้วล่ะ"

"ก็ดีแล้ว อย่างน้อยก็ได้พักผ่อนบ้าง" มิวถอนหายใจเบาๆ ก่อนก้มดูนาฬิกาข้อมือ "ว่าแต่ นี่กี่โมงแล้ว?"

กนกหันไปมองนาฬิกา แล้วพยายามหลบสายตาจากเจ้าหมีตัวน้อยที่วางอยู่ข้างเตียง มันเป็นเพียงตุ๊กตาธรรมดา แต่ทุกครั้งที่มอง เขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างแฝงอยู่ในนั้น บางสิ่งที่เขาไม่สามารถอธิบายได้

เมื่อกลับมาเรียน กนกสังเกตตัวเองว่าเขาระแวดระวังผิดปกติจนเพื่อนๆ พากันแซว

"แกเป็นอะไรของแกเนี่ย มองซ้ายมองขวาอย่างกับคนกำลังหาอะไรอยู่ตลอด" พราวเอ่ยถาม พลางเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัย

"ไม่ได้หาอะไรหรอก..." กนกตอบเสียงเบา แต่สายตายังคงไล่มองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง

พราวจ้องเพื่อนนิ่ง "หรือว่า...แกเห็นอะไรที่พวกเราไม่เห็น?"

กนกเม้มปากแน่นเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะตอบดีไหม แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร พราวก็หวีดร้องลั่นห้อง

"กรี๊ด!"

เธอรีบพุ่งไปหลบหลังมิว ทำเอาเพื่อนทั้งห้องหันมามองเป็นตาเดียว

"เป็นอะไรของพราว! อายคนเขาไหมเนี่ย?" มิวหันไปเอ็ดเสียงเบา

พราวชี้นิ้วไปทางกนก ดวงตาเบิกกว้าง "กนก...กนกมัน..."

กนกสะดุ้ง รีบหันไปมองรอบตัวทันที แต่...ไม่มีอะไรผิดปกติ

มิวถอนหายใจ ก่อนแกะมือพราวออกจากแขนของตัวเองแล้วเดินไปหากนก "แกโอเคหรือเปล่า?"

"มะ...ไม่มีอะไร" กนกพึมพำ "แค่รู้สึกเหมือนมีใครจ้องอยู่"

มิวหันไปมองรอบๆ ตามคำพูดของเพื่อน แต่กลับไม่พบสายตาของใครที่จ้องมาทางพวกเขาเลย มีเพียงกลุ่มนักศึกษาที่กำลังเดินไปยังอาคารแลปเท่านั้น

"แกคิดมากไปเองหรือเปล่า?" มิวตบบ่าเบาๆ "เอาเถอะ รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวเข้าเรียนไม่ทัน"

พูดจบก็คว้าไหล่กนกแล้วพาเดินออกไป ส่วนพราวก็รีบวิ่งตามมาติดๆ

ระหว่างอยู่ในคลาสเรียนรวม พราวกระซิบเบาๆ "แกเอานิยายมาอ่านอีกแล้วใช่ไหม?"

กนกสะดุ้งเฮือก รีบปิดหนังสือลง

"เป็นอะไร? ฉันแค่ถามเฉยๆ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น?"

กนกเหลือบมองหนังสือในมือ นิยาย ลิขิตรักจากฟากฟ้า ตอนที่กำลังอ่านอยู่เป็นช่วงเหตุการณ์ลี้ลับในอาณาจักร—เหล่าเชื้อพระวงศ์ถูกปลงพระชนม์ทีละองค์ ร่องรอยที่เหลืออยู่ชวนให้เชื่อว่ามันเป็นฝีมือของมนต์ดำ

เขาขมวดคิ้ว "...หรือว่า เราจะโดนมนต์ดำเหมือนกัน?"

"หืม? แกว่าอะไรนะ?"

"ปะ...เปล่าๆ ไม่มีอะไร"

พราวมองหน้าเพื่อนอย่างจับผิด แต่สุดท้ายก็ยักไหล่ "เอาเถอะ อย่างน้อยแกก็กลับมาอ่านนิยายได้ แปลว่าแกเริ่มปกติขึ้นแล้ว" ว่าแล้วก็หันไปสนใจโปรเจกเตอร์หน้าห้องต่อ

กนกไล้นิ้วไปบนปกหนังสือเบาๆ ยิ่งอ่านนิยายเล่มนี้ เขายิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูดเข้าไปในโลกของมันจริงๆ ราวกับมีบางสิ่งดึงดูดเขาไว้ไม่ให้วางมันลง

หรือว่า... หนังสือเล่มนี้จะมีเรื่องลี้ลับซ่อนอยู่จริงๆ?

แต่ถึงจะคิดแบบนั้น เขาก็ยังวางมันไม่ลง

คืนนั้น หลังจากกลับมาถึงห้อง กนกรีบอาบน้ำ ทำการบ้าน เวลานี้งานล้นมือ ใกล้สอบปลายภาค ทั้งรายงาน ทั้งหนังสือเรียน และที่สำคัญ นิยายที่เขาต้องแบ่งเวลาให้

กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จ ก็ล่วงเลยมาตีหนึ่งอีกแล้ว

เขาลุกจากโต๊ะหนังสือ เดินไปที่ประตู ตั้งใจจะตรวจดูให้แน่ใจว่าล็อกแล้ว แต่ขณะที่กำลังจะจับลูกบิด...

มันหมุนไปอีกด้านเอง!

กนกเบิกตากว้าง ก่อนที่ประตูจะเปิดออก และทันใดนั้น—ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก็พุ่งเข้ามาโอบกอดเขาแน่น!

"เฮ้ย!"

เขาพยายามดิ้นหนี แต่เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ ข้างหู

"...ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะไม่ทำร้ายเธอ"

"อะ...อะไร"

"จะไม่มีใครทำร้ายเรา"

สัมผัสอบอุ่นจากอ้อมกอดของชายแปลกหน้าทำให้กนกนิ่งงันไปชั่วขณะ หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ ราวกับเสียงกระซิบแผ่วเบานั้นมีอำนาจสะกดเขาไว้

ถึงแม้จะรู้สึกอบอุ่น แต่ความหวาดระแวงก็ยังคงอยู่ กนกพยายามดันแขนแกร่งออก ทว่าคนตรงหน้ากลับโน้มใบหน้าลง กดจมูกลงที่ข้างแก้มของเขา หอมฟอดใหญ่!

"อ๊ะ!"

เขาสะดุ้งเฮือก ความตกใจทำให้ร่างกายแข็งทื่อ แต่ชายหนุ่มเพียงยิ้มบาง

"วันนี้พี่ชื่นใจแล้วครับ"

กนกอ้าปากค้าง หัวสมองว่างเปล่าแม้แต่คำเดียวก็พูดไม่ออก

"คนเก่งของพี่ หลับฝันดีนะ หลังจากนี้เราไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว เพราะพี่จะปกป้องเราเอง"

หลังจากพูดจบ ชายหนุ่มก็เปิดประตู เดินออกไป ทิ้งให้กนกยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

ตกใจ ประหลาดใจ เขินอาย และ...อบอุ่น...ใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ไม่สมบูรณ์แต่เข้าใจ

    หน้าบ้านหลังเล็กที่เงียบงัน มีเพียงเสียงสะอื้นปะปนกับเสียงลมอ่อน ๆ ที่พัดผ่านราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ปล่อยให้มีเพียงสองร่างในอ้อมกอดกันแน่นอยู่กลางห้วงเวลาอันแสนเจ็บปวด ภพกอดร่างของกนกแน่น รู้สึกได้ถึงแรงสั่นจากการร้องไห้ที่ไม่มีทีท่าจะหยุดลงง่าย ๆ น้ำตาของคนน้องเปียกเสื้อเขาจนชื้น และแรงกอดของกนกก็เหมือนเป็นการยึดเหนี่ยวสุดท้ายไว้กับความจริง“ฮึก… พี่ภพ… มันเจ็บ…” เสียงสะอื้นแผ่วเบารอดออกจากริมฝีปากสั่น“ไม่เป็นไรแล้ว…” ภพกระซิบเบา ๆ มือใหญ่ลูบหลังคนน้องอย่างอ่อนโยน“พี่อยู่นี่แล้ว ไม่มีใครทำร้ายกนกได้อีกแล้วนะ…”กนกส่ายหน้าเล็กน้อย ซุกหน้าลงที่ไหล่กว้าง เสียงร้องไห้เปลี่ยนเป็นสะอื้นอย่างทรมาน“มันย้อนกลับมา… ภาพพวกนั้น… ตอนเด็ก… ทำไมถึงลืมมันไปได้ ฮึก… ทำไมถึงเพิ่งจำได้ตอนนี้…”“ไม่ต้องโทษตัวเองนะคนเก่ง…” ภพก้มลงจูบผมนิ่ม ๆ ซับน้ำตาที่เปื้อนแก้มเนียนด้วยความอดทนที

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   เผชิญหน้า

    วันนี้พี่ภพชวนผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้า อากาศสดชื่นกว่าทุกวัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้พี่ภพอยู่ข้าง ๆเราไปเดินชมสวนดอกไม้ด้วยกัน แสงแดดอ่อน ๆ ทาบลงบนทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่กำลังผลิบาน นี่เป็นครั้งแรกที่เราถ่ายรูปคู่กัน พี่ภพยิ้มให้กล้อง ผมเองก็ยิ้มตามไปโดยไม่รู้ตัวแปลกดีนะ… ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มของพี่ภพเป็นเหมือนบ้านช่วงบ่าย พี่ภพบอกว่าจะพาผมไปในสถานที่แห่งหนึ่ง "สถานที่แห่งความทรงจำ"ผมไม่ได้ถามว่ามันคือที่ไหน เพราะสิ่งเดียวที่พี่ภพบอกผมก็คือ—"จับมือพี่ไว้แน่น ๆ นะ"และช่วงนี้ ผมกล้าจับมือพี่ภพแล้วด้วยเรานั่งรถมาด้วยกัน ข้างทางเริ่มคุ้นตาขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่าเรากำลังเดินทางกลับไปที่บ้านพี่ภพแต่พอรถเลี้ยวเข้าเส้นทางเล็ก ๆ ผมกลับรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างประหลาดมันไม่ใช่บ้านของพี่ภพ แต่เป็นบ้านเก่าหลังนึงที่สภาพดี แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว เมื่อก้าวลงจากรถ ผมรู้สึกเหมือนถูกสายลมที่มองไม่เห็นกระแทกเข้ามาเต็มแรงลมพัดเอื่อย

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความสุข

    ในห้วงเวลาอบอุ่นช่วงปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว กนกอยู่บ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว พี่ภพเองก็ติดโปรเจกต์ปีสุดท้ายและกำลังเตรียมตัวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ทำให้เราไม่ได้เจอกันบ่อยนัก มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่ส่งหากันเป็นระยะจนกระทั่งวันนี้พี่ภพมาหาน้าแป้น และทักมาหาเขา"วันนี้มาหาพี่หน่อย อยู่เป็นเพื่อนตอนทำงานได้ไหม?"กนกอ่านข้อความแล้วบอกแม่ว่าจะออกไปข้างนอกกับพี่ภพ เมื่อเจอกัน เราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน ก่อนที่พี่ภพจะขับรถพาเขาไปยังห้องพักบรรยากาศภายในรถเงียบสงบ มีเพียงเสียงเพลงบรรเลงคลอแผ่วเบา อากาศเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสบายใจ กนกไม่ได้ถามว่าทำไมพี่ภพถึงพาเขามาที่ห้องพัก—เขาแค่ไว้ใจคอนโดของพี่ภพอยู่ไม่ไกลจากหอในของเขานัก เป็นห้องขนาดกว้าง แบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นระเบียบ พื้นที่ครัวเล็กๆ อยู่มุมหนึ่ง ห้องนอนเชื่อมกับพื้นที่ทำงาน เตียงกว้างและดูนุ่มมาก"เราจะนั่งอ่านหนังสือที่เตียงพี่ก็ได้นะ ถ้าง่วงก็นอนได้เลย""ครับ"กนกตอบรับโดยไม่ถามอะไร เขาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาเปิด แต่ในใจก็แอบสงสัยว่าพี่ภพให้มาอยู่เป็นเพื่อน หรือแค่ต้

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ครอบครัว

    "อ้อมกอดของแม่"คืนนี้เงียบสงบกว่าทุกคืน ลมหายใจของกนกอุ่นขึ้นเมื่อนอนอยู่ข้างแม่ อ้อมกอดที่คุ้นเคยทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ราวกับได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กตัวเล็กๆ อีกครั้ง"วันนี้แม่ขอนอนกับลูกชายคนโปรดได้ไหมครับ?""ได้ครับแม่"กนกขยับตัวให้แม่เข้ามาใต้ผ้าห่มอุ่นๆ พอเพชรล้มตัวลงนอน กนกก็รีบซุกตัวเข้าหาแม่ทันที โอบกอดแน่นราวกับไม่อยากให้เวลานี้ผ่านไปเพชรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลูบผมลูกชายอย่างอ่อนโยน "เป็นยังไงบ้างลูก ปีแรกในมหาวิทยาลัย เหนื่อยไหม?""เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกมากด้วย""เรียนยากไหม?""ก็ยากนิดหน่อยครับ แต่ยังดีที่มีมิวช่วยติวให้ มิวเก่งมากเลยครับแม่""ดีจังเลย แม่จำได้ว่าลูกเล่าเรื่องมิวให้ฟังบ่อยๆ แล้วหนูพราวล่ะ เป็นไงบ้าง?""พราวก็ยังตลกเหมือนเดิมเลยครับแม่ ถ้าผมเครียดๆ เบื่อๆ พราวนี่แหละที่ทำให้ผมยิ้มได้""ดีแล้วล่ะลูก มีเพื่อนดีก็ช่วยกันประคองไปนะ มีอะไรให้แม่ช่วยก็บอกได้ อย่าเก็บไว้คนเดียว"กนกพยักหน้ารับ แล้วเงียบไปครู่หนึ่งเพชรมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจ "แล้วพี่ภ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กำลังใจของกันและกัน

    หลังจากนั้นพบรักก็พากนกกลับบ้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าบ้านพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่น แม้จะมีความหวาดกลัวและกังวลบางอย่างยังค้างอยู่ในใจ แต่การมีพี่ภพอยู่เคียงข้าง คอยโอบกอด คอยปลอบโยน ทำให้เขารู้สึกว่า… ไม่ได้เผชิญทุกอย่างเพียงลำพังและยิ่งรู้สึก… ชอบพี่ภพมากขึ้นทุกวันวันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังไปเยอะ ทั้งร่างกายและหัวใจเลยเหนื่อยล้าเต็มที กนกหยิบหนังสือนิยายขึ้นมา หวังว่าจะอ่านเล่นสักหน่อยก่อนจะหลับไปแต่ก่อนที่เปลือกตาจะหนักอึ้ง มือถือก็สั่นเบา ๆ แจ้งเตือนข้อความจาก LINEพี่ภพ: “นอนหรือยังครับ”กนก: “กนกจะอ่านหนังสือนิยายสักหน่อย แล้วก็คงจะนอนแล้วครับ”พี่ภพ: “นอนไวจัง เพิ่งสามทุ่มเอง”กนกหลุดยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับกนก: “พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าครับ”พี่ภพ: “พี่เหนื่อยนิดหน่อย พอดีส่งงานให้ลูกค้าอยู่ กำลังปั่นงานเลย”กนก: “วันนี้พี่ภพกลับไปในเมืองหรอครับ”

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   สวนมะพร้าวบ้านพี่ภพ

    เพชรมองหน้าลูกชายตัวน้อยที่กำลังยิ้มกับโทรศัพท์ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมา“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกันครับ คุณกนกของแม่?”กนกสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงอ้อมแอ้ม “ยิ้มอะไรกันล่ะครับ แม่คิดไปเอง กนกไม่ได้ยิ้มสักหน่อย”เพชรหัวเราะเบา ๆ “ก็เห็นยิ้มกับโทรศัพท์ไง”เด็กหนุ่มเม้มปาก หันไปมองหน้าจออีกครั้ง ก่อนจะยอมรับเสียงเบา “ก็...พี่ภพ LINE มาบอกนะครับว่าอยู่บ้านตัวเองแล้ว”“อ้อ”“แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน กนกก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน” เจ้าตัวพูดต่อ “แต่ว่าพี่เขาบอกว่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านเราตรงนี้นี่เอง”เพชรพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่แววตายังคงมองสำรวจลูกชายของตัวเอง“วันนี้เขาจะมาหาหรือเปล่า?”“พี่ภพเหรอครับ?”“จ้ะ”“เห็นบอกว่าวันนี้จะพาไปเที่ยวสวนมะพร้าวเล็ก ๆ”เพชรเลิกคิ้วเล็กน้อย “สวนมะพร้าว?”กนกพยักหน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status