Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 16

Share

เขื่อนขุนเขา 16

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-05-09 15:31:03

หลายวันผ่านไปเพนต์เฮ้าส์ของเขื่อนเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง แสงแดดจาง ๆ จากปลายฤดูฝนทอดผ่านกระจกบานใหญ่ เขื่อนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา

ดวงตาจ้องมองกระดาษและแฟ้มเอกสารที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะ กระจกแก้วใสที่มีคราบน้ำแข็งละลายค่อย ๆ ซึมออกจากแก้วกาแฟเย็นที่ถูกลืมไว้ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีโทรทัศน์ มีเพียงเสียงลมที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงของเพนต์เฮ้าส์ใจกลางกรุง

เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบา ประตูเปิดออกเผยให้เห็นทิวา เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ก่อนวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะตรงหน้าเขื่อน สายตาของทิวาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง

ทิวานั่งลงพลางสูดลมหายใจลึก เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูด น้ำเสียงแผ่วต่ำเหมือนระวังไม่ให้ใครนอกห้องได้ยิน

“ข่าวที่กูบอกว่ากำลังตามอยู่…เรื่องขุนเขา กูเพิ่งได้มา”

เขื่อนเงยหน้ามองเพื่อนสนิท สายตาคมกริบเริ่มมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทิวาค่อย ๆ ดึงเอกสารออกจากซอง รูปถ่ายสองสามใบปรากฏบนโต๊ะ

เป็นภาพถ่ายจากมุมไกลเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอมองออกว่าเป็นขุนแผนที่กำลังพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายลูกน้องเก่าแก๊งประจิม

“มีข่าวลือว่าขุนแผนเป็นคนสั่งฆ่าล้างบางพวกแก๊งประจิม ญาติของขุนแผนเอง” ทิวาวางเอกสารแผ่นหนึ่งลง เป็นรายชื่อคนที่ถูกฆ่าเมื่อเดือนก่อน

“เขาบอกว่ามันทำเพราะต้องการเก็บกวาดคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเก่า แล้วก็…เหมือนจะปิดปากพวกนั้นด้วย”

เขื่อนนิ่งไป ความรู้สึกภายในตีวนไม่หยุด ภาพในหัวหมุนกลับไปถึงวันที่ลูกน้องประจิมและหัวหน้าประจิมถูกลอบฆ่าอย่างโหดเหี้ยม

ข่าวนั้นทำให้เขาใจหายวาบ เพราะนั่นหมายความว่าเบื้องหลังเรื่องนี้มีคนใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก

“แล้วเรื่องขุนเขา?” เขื่อนถามเสียงต่ำ

ทิวาเลื่อนกระดาษอีกแผ่นให้เขื่อน มันเป็นข้อมูลที่ไม่ชัดเจนนัก บางส่วนยังเป็นแค่คำบอกเล่า

“ลือกันว่าขุนเขาคือน้องชายแท้ ๆ ของขุนแผน คนที่หายตัวไปสิบกว่าปีก่อน คนนอกไม่รู้เรื่องนี้ เพราะพวกมันปิดข่าวเงียบตั้งแต่ต้น มีคนในบ้านเก่าของขุนแผนแค่ไม่กี่คนที่รู้”

เขื่อนกดริมฝีปากแน่น ขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม ความจริงตรงหน้าเหมือนหมอกหนาทึบ ไม่มีหลักฐาน ไม่มีอะไรชัดเจน ทุกอย่างเป็นแค่ข่าวโคมลอย แต่หัวใจเขาสั่งให้เชื่อว่ามันอาจเป็นจริง

ทิวามองสีหน้าเพื่อนสนิทก่อนพูดต่อ

“กูไม่กล้ายืนยันหรอกนะว่าจริงหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ข่าวนี้ไม่ได้มาจากปากคนเล่น ๆ เพราะคนปล่อยข่าวนี่ เป็นพวกที่เคยอยู่ใต้แก๊งประจิมมาก่อน มันบอกว่าขุนแผนกับขุนเขา…กลับมาแล้วจริง ๆ”

เขื่อนนิ่งงัน สายตาเหม่อมองไปยังวิวเมืองไกลสุดลูกหูลูกตาในยามเย็น ภายในอกปั่นป่วนเหมือนมีบางอย่างกำลังจะปะทุขึ้นมา เขาคิดถึงขุนเขาแทบใจจะขาด แต่ทุกอย่างกลับเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ

เขื่อนก้มมองภาพถ่ายในมือ ใจหนึ่งอยากเชื่อว่าเรื่องนี้จริง แต่อีกใจก็เตือนว่าอาจจะเป็นกับดัก ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรปลอดภัยในเกมนี้อีกแล้ว

“เราจะเช็คข่าวนี้ยังไงต่อ?” เขื่อนถามเสียงนิ่งแต่จริงจัง ทิวายิ้มมุมปากอย่างรู้กัน

“กูมีวิธีอยู่แล้ว เพื่อนกันนี่หว่า”

เขื่อนพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะหลับตาลงลึก สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง วันนี้เขาต้องมีคำตอบให้ได้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร

*

เช้านี้ขุนแผนพาขุนเขาไปโรงพยาบาล ขุนเขานั่งนิ่ง มือวางบนหน้าท้องนูน ขุนแผนมองน้องชายด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนทั้งคู่จะเดินเข้าไปในห้องตรวจ

หมอยิ้มทักทายก่อนจะเริ่มตรวจ ขุนเขามองจออัลตราซาวด์นิ่ง ๆ เสียงหัวใจเต้นของเด็กน้อยดังชัด หมอบอกว่าเด็กแข็งแรงดี และเป็นลูกชาย ขุนเขายิ้มบางเบา ขุนแผนยิ้มกว้างกว่าใคร ก่อนหมอจะนัดตรวจเรื่องความจำต่อในอีกสองสัปดาห์

หลังออกจากห้องตรวจ ขุนแผนประคองขุนเขาออกมาช้า ๆ ริมฝีปากยังมีรอยยิ้มไม่จาง น้องชายของเขาดูนิ่งเงียบเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ขุนแผนเหลือบมอง ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มว่า “ดีใจไหม ได้ลูกชาย” ขุนเขาพยักหน้าช้า ๆ สายตายังคงทอดมองไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย

ขุนแผนไม่เซ้าซี้ถามซ้ำ เพียงเดินเคียงข้างกันไปจนถึงรถ เขาเปิดประตูให้ ขุนเขาค่อย ๆ นั่งลงและลูบหน้าท้องตัวเองเบา ๆ

“เขาแข็งแรงดีเนอะพี่แผน” เสียงของขุนเขาเบาและอ่อนลง พูดพลางลูบหน้าท้องที่นูนออกมาเบาๆ

ขุนแผนยิ้มมุมปาก พลางตอบ “แข็งแรงมาก ตัวโตเหมือนคุณแม่เลย”หันมายีหัวน้องชาย แล้วสตาร์ทรถพากลับบ้าน

ระหว่างทางรถเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ เพลงในรถเปิดคลอเบา ๆ ขุนเขาเอนศีรษะพิงเบาะ ตาเหม่อมองวิวที่วิ่งผ่าน ขุนแผนเหลือบมองเห็นท่าทีแบบนั้นก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ขุนเขา วันนี้หลังจากกินข้าว พี่อยากคุยอะไรด้วยหน่อย”

ขุนเขาหันมามองหน้าคนพี่ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ แล้วกลับไปมองข้างทางต่อ รถเลี้ยวเข้าประตูบ้าน รปภ.โค้งให้ตามปกติ เมื่อรถจอดสนิท ขุนแผนเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่ง ก่อนจะพาขุนเขาขึ้นบ้านไปพัก

ตอนค่ำ ขุนแผนเคาะประตูห้องขุนเขา ก่อนจะถือถาดชามนมอุ่นกับผลไม้เข้ามา ขุนเขานั่งพิงหัวเตียง รอยยิ้มบางเบาผุดขึ้นเมื่อเห็นขุนแผนถือของกินมา

“กินก่อน เดี๋ยวจะไม่มีแรงฟังที่พี่จะพูด” ขุนแผนวางถาดบนโต๊ะแล้วจัดช้อนให้น้องชาย ขุนเขากินเงียบ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนหมด

ขุนแผนถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงปลายเตียง มองหน้าน้องชายตรง ๆ

“ขุนเขา พี่จะพูดเรื่องที่มันหนักหน่อย” เสียงเขานิ่งจริงจัง “มันเกี่ยวกับตัวพี่เอง…แล้วก็นายด้วย”

“พี่อยากให้เรารู้และไม่อยากปิดบัง”

ขุนเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร

“รู้ใช่ไหมว่าเราเคยมีเรื่องกับฝั่งประจิม ญาติเรานั่นแหละ แต่พวกมันหักหลังเรา คิดจะฮุบสมบัติ กิจการสัมปทานรังนกกับบริษัทของบ้านเรา”

ขุนเขานิ่งฟัง

“สิบปีก่อน ตอนขุนเขาถูกลักพาตัว พี่พยายามตามหาเราแทบเป็นบ้าตอนนั้นพี่18ปีแต่ห่ามใช่เล่น ฮ่า ฮ่า”ขุนแผนพูดพลางหัวเราะแต่หางตากลับมีน้ำใสกลิ้งลงข้างแก้ม

“แต่ก็ไม่เจอเลย…ระหว่างนั้นพวกมันเหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังทำร้ายคนของเรา เกือบฆ่าพ่อแม่เรา…”

ขุนแผนหยุดนิ่ง มองน้องชายตรง ๆ ดวงตาแข็งกร้าวขึ้น

“สุดท้ายพี่จัดการพวกมันเอง ทุกคนในแก๊งประจิมไม่มีใครเหลือ”

ขุนเขาสะอึกเบา ๆ ดวงตาไหววูบ

“เราอาจจะเคยได้ยินข่าวลือมาบ้าง พี่ไม่ปฏิเสธ…ใช่ พี่เป็นคนลงมือเองทั้งหมด”

ขุนเขายกมือขึ้นกุมหน้าท้องตัวเอง สายตาลึกซึ้งและแฝงความสับสน ขุนแผนมองแล้วพูดต่อ

“พี่ไม่ได้เสียใจที่ทำ…เพราะมันทำเพื่อเรา เพื่อตัวเราสองคนเอง และเพื่อให้บ้านเราปลอดภัย ไม่งั้นขุนเขาไม่มีทางกลับมาอยู่อย่างสบายแบบนี้ได้”

ห้องเงียบลงชั่วขณะ ขุนเขาหลุบตาต่ำก่อนจะถามเบา ๆ

“แล้วจะมีใคร…เขาจะรู้เรื่องนี้ไหม”

ขุนแผนยิ้มจาง ๆ สายตาเย็นขึ้น

“มันรู้แค่ข่าวลือ ไม่มีหลักฐาน ไม่มีอะไรที่ลากพี่เข้าคุกได้ และพี่ก็มั่นใจว่ามันยังไม่รู้ว่าขุนเขาเป็นน้องพี่จริง ๆ”

ขุนเขาเงียบไป ก่อนจะพูดออกมาแผ่วเบา

“แล้วเราจะทำยังไงต่อไป”

ขุนแผนยื่นมือมากุมมือขุนเขาแน่น ดวงตาจริงจัง

“เราจะใช้ชีวิตของเรา…ไม่มีใครแย่งอะไรจากเราได้อีก ขุนเขาไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น มีพี่อยู่ทั้งคน”

ขุนเขามองพี่ชายตรง ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ สายตาสั่นไหวแต่มั่นคงกว่าเดิม

ขุนแผนยิ้มบาง ดึงน้องชายมากอดเบา ๆ เสียงทุ้มกระซิบชิดหู

“พี่จะไม่ยอมเสียเราไปอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

*

หลังจากนั้นไม่นาน…

ขุนแผนปล่อยมือจากน้องชายก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นแววเหนื่อยล้าในดวงตาขุนเขา เขาเปลี่ยนเรื่องพูดทันที น้ำเสียงกลับมาเรียบสบาย

“หมอบอกว่านายแข็งแรงดี แล้วลูกก็ดีเหมือนกัน พี่ว่าจะให้จัดห้องเด็กไว้เลย จะได้ไม่ต้องรีบตอนใกล้คลอด”

ขุนเขาพยักหน้าช้า ๆ นิ้วเรียวยกขึ้นลูบท้องตัวเองเบา ๆ รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนใบหน้า

“ดีเหมือนกัน ผมอยากได้ห้องที่เห็นวิวสวนหน่อย จะได้พาลูกออกไปเดินเล่นง่าย ๆ”

ขุนแผนยิ้มในหน้า สายตาอ่อนโยนขึ้นทันที

“ได้สิ เดี๋ยวพี่จัดการเอง นายอยากได้สีไหน บอกมาเลย”

ขุนเขาเงียบคิดไปสักครู่ ก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

“สีเขียวอ่อน ผมว่าเด็กน่าจะสบายตา”

ขุนแผนพยักหน้าอย่างพอใจ เขาหยิบสมุดโน้ตเล็ก ๆ ขึ้นมาจดรายละเอียดที่น้องชายพูดไว้

เมื่อบรรยากาศผ่อนคลายลง ขุนแผนเหลือบมองน้องชายอีกครั้งก่อนจะเอ่ย

“แล้วช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง อาการปวดหัว หรือฝันแปลก ๆ ยังมีอยู่ไหม”

ขุนเขาส่ายหน้าช้า ๆ

“ไม่มีแล้วครับ แค่บางทีก็รู้สึก…เหมือนลืมอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา รู้สึกว่ามีคนที่ควรจะจำได้ แต่ก็นึกไม่ออก”

ขุนแผนเลื่อนมือมาลูบศีรษะขุนเขาเบา ๆ น้ำเสียงอ่อนลง

“ไม่ต้องฝืนจำหรอกนะเขา บางทีมันอาจจะดีกว่า ถ้าอะไรที่มันทำให้นายเจ็บปวดจะเลือนหายไปเอง”

ขุนเขามองหน้าพี่ชายอย่างไว้ใจ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ

ขุนแผนยิ้มจาง ๆ ก่อนจะพูดเปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง

“พี่สั่งของเปรี้ยว ๆ ไว้ให้แล้วนะ จะมีมะม่วง น้ำปลาหวาน กะปิหวาน แล้วก็มะยม นายอยากกินอะไรก็บอกป้าแม่บ้านเพิ่มได้”

ขุนเขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ น้ำเสียงนุ่มขึ้น

“ขอบคุณนะพี่แผน ช่วงนี้อยากกินแต่ของเปรี้ยวจริง ๆ”

ขุนแผนพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดู

“ก็หลานชายพี่ไง ต้องบำรุงหน่อย” เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะพูดต่อ “พรุ่งนี้จะออกไปเดินเล่นข้างนอกไหม เดี๋ยวพี่ไปด้วย”

ขุนเขายิ้มบาง พยักหน้าเบา ๆ “ก็ดีเหมือนกัน ผมเบื่ออยู่บ้านแล้ว”

ขุนแผนพยักหน้าอย่างพอใจ บรรยากาศในห้องกลับมาอบอุ่นและผ่อนคลายอีกครั้ง แม้ความทรงจำจะยังพร่าเลือน แต่สิ่งหนึ่งที่ขุนเขารู้สึกชัดเจนเสมอคือ ความปลอดภัยและอุ่นใจเมื่อมีขุนแผนอยู่ข้าง ๆ

เพียงแต่ในบางค่ำคืน ขุนเขาโหยหาอ้อมกอดและกลิ่นกายของใครบางคนที่เผลอลืมไปชั่วขณะหนึ่ง….

ค่ำคืนเดียวกันที่เงียบสงบ มีเพียงแสงไฟจากริมระเบียงส่องลอดเข้ามาในห้อง เขื่อนนอนนิ่งบนเตียง ลมหายใจสม่ำเสมอ ริมฝีปากขยับเล็กน้อยราวกับพึมพำชื่อใครบางคน

ในความฝัน เสียงหัวเราะสดใสดังลอดมาตามสายลม เด็กผู้ชายตากลมโต ผมทรงเห็ดน่ารัก วิ่งเข้ามาจูงแขนเขื่อนด้วยแรงเบา ๆ

“ป๊าเร็ว ๆ แม่รออยู่ตรงนู้น”

เขื่อนหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะวิ่งตามลูกชายไปบนทางเดินในสวนสาธารณะ แสงแดดยามบ่ายอ่อน ๆ เสียงใบไม้เสียดสีกันดังแผ่วเบา ขุนเขายืนอยู่ไม่ไกล ใบหน้านุ่มนวลและรอยยิ้มละมุนตาโบกมือให้ทั้งคู่

เขื่อนเดินเข้าไปหาขุนเขา ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่ง ดึงลูกชายเข้ามากอดแน่น เด็กชายหัวเราะคิกคัก เอียงตัวซบลงบนไหล่เขื่อน

“เหนื่อยไหมป๊า วิ่งกับหนูตั้งไกล” เด็กชายตัวเล็กพูดขึ้น

เขื่อนยิ้มอ่อนโยน ลูบศีรษะลูกเบา ๆ

“ไม่เหนื่อยหรอกลูก ได้วิ่งกับหนูป๊ามีความสุขที่สุดแล้ว”

ขุนเขานั่งลงข้าง ๆ มือแตะเบา ๆ บนหลังเขื่อน สายตาเต็มไปด้วยความรัก

“เขาเล่นซนทั้งวันเลยนะวันนี้” ขุนเขาพูดพร้อมยิ้มมุมปาก

เขื่อนหัวเราะ จ้องดวงตาอีกฝ่ายนิ่งนาน

“เหมือนแม่เขานั่นแหละ ดื้อเหมือนกันเป๊ะ”

เสียงหัวเราะของทั้งคู่ประสานกันอย่างอบอุ่น ลูกชายเอนตัวพิงพ่อพลางพูดเบา ๆ

“ป๊าอย่าลืมนะว่าหนูรักป๊ามากที่สุด”

เขื่อนยิ้มกว้าง ใจเต้นช้าและสงบ ก้มลงจูบหน้าผากลูกชายเบา ๆ ก่อนจะหลับตาแนบหน้าผากลูกไว้

และในห้วงเวลานั้นเอง ทุกอย่างในฝันก็ค่อย ๆ จางหายไป

ในโลกความจริง เขื่อนยังนอนนิ่ง รอยน้ำตาไหลซึมจากหางตา ริมฝีปากขยับแผ่วเบาเหมือนพึมพำคำว่า “ลูก” และ “ขุนเขา” ซ้ำ ๆ ใจเขาหนักแน่นกับความรู้สึกที่ยังฝังแน่นไม่จาง ความฝันนั้นคือสิ่งเดียวที่เขาอยากให้เป็นจริงที่สุดในชีวิตนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 17

    เดือนที่ผ่านมา ขุนเขาดูเปล่งประกายขึ้นผิดหูผิดตา ผิวเนียนละเอียด ผ่องขึ้นเหมือนคนสุขภาพดี แววตาก็อ่อนโยนขึ้น รอยยิ้มหวานแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็นก็ปรากฏให้คนรอบตัวได้เห็นบ่อยขึ้น ส่วนอาการแพ้ท้องที่เคยทรมานหนักในช่วงเดือนก่อนก็ค่อย ๆ เบาบางลง ขุนเขาดูสดใสและสบายตัวขึ้นเรื่อย ๆ แม่บ้านต่างรักและเอ็นดูดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งหาของเปรี้ยวของหวาน ทั้งพาเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย พี่ชายอย่างขุนแผนก็ใจเย็นและดูแลน้องเป็นพิเศษ ไม่เคยปล่อยให้น้องเหงาหรือทำอะไรหนักไปมากกว่ายกจานข้าว ดูสิว่าพี่ชายของขุนเขาเวอร์วังสักแค่ไหน สัปดาห์ก่อน ขุนแผนพาขุนเขาไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่ที่สุสานประจำตระกูล สองพี่น้องยืนเงียบงันหน้าหลุมศพคู่ที่ประดับด้วยดอกไม้ขาวสะอาด ขุนเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลง นั่งพับเพียบก้มกราบหลุมศพ น้ำตาเงียบไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว “พ่อ…แม่…ผมกลับมาแล้วนะครับ” เสียงขุนเขาเบาแต่สั่น เขายกมือไหว้แนบอก ยังคงพูดกับแผ่นป้ายชื่อที่ตั้งนิ่งตรงหน้า “ผมขอโทษที่หายไปนาน ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก ผมจะดูแลตัวเอง นี่ลูกของผม เป็นเด็กผู้ชาย…” ร่างบางพูดพลางลูบท้องที่ยื่นออกมา “จะดูแลลูกให้ดี…ไม่ต้องห่ว

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 16

    หลายวันผ่านไปเพนต์เฮ้าส์ของเขื่อนเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง แสงแดดจาง ๆ จากปลายฤดูฝนทอดผ่านกระจกบานใหญ่ เขื่อนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ดวงตาจ้องมองกระดาษและแฟ้มเอกสารที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะ กระจกแก้วใสที่มีคราบน้ำแข็งละลายค่อย ๆ ซึมออกจากแก้วกาแฟเย็นที่ถูกลืมไว้ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีโทรทัศน์ มีเพียงเสียงลมที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงของเพนต์เฮ้าส์ใจกลางกรุง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบา ประตูเปิดออกเผยให้เห็นทิวา เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ก่อนวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะตรงหน้าเขื่อน สายตาของทิวาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง ทิวานั่งลงพลางสูดลมหายใจลึก เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูด น้ำเสียงแผ่วต่ำเหมือนระวังไม่ให้ใครนอกห้องได้ยิน “ข่าวที่กูบอกว่ากำลังตามอยู่…เรื่องขุนเขา กูเพิ่งได้มา” เขื่อนเงยหน้ามองเพื่อนสนิท สายตาคมกริบเริ่มมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทิวาค่อย ๆ ดึงเอกสารออกจากซอง รูปถ่ายสองสามใบปรากฏบนโต๊ะ เป็นภาพถ่ายจากมุมไกลเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอมองออกว่าเป็นขุนแผนที่กำลังพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายลูกน้องเก่าแก๊งประจิม “มีข่าวลือว่าขุนแผนเป็นคนสั่งฆ่าล้างบางพวกแก๊งประจิม ญาติของขุน

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 15

    — หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บ้านหลังใหญ่ยามเช้า แสงแดดอ่อนกระทบกระจกบานใหญ่ภายในโถง ขุนเขาในชุดเสื้อคลุมบ้านสีขาวสะอาดเดินออกจากประตูบ้านอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งประคองหน้าท้องที่เริ่มนูนชัด เข้าเดือนที่ 4 แล้ว อาการแพ้ท้องยังคงหนักหน่วงกว่าปกติ ตรงหน้าบันได ขุนแผนยืนแต่งตัวเต็มยศ — สูทสีกรมท่าตัดเข้ารูป รองเท้าหนังขัดเงา ผมจัดทรงเนี้ยบผิดจากวันปกติ ใบหน้าคมเข้มมีแววลังเลกับการต้องออกไปโดยทิ้งน้องชายไว้ที่บ้าน ขุนเขาเดินมายืนตรงหน้าเขา ใบหน้ายิ้มจางๆ แม้ร่างกายจะอ่อนแรง “ไปเถอะพี่แผน เดี๋ยวงานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมไปด้วยแน่นอน” ขุนแผนสบตาน้องนิ่งอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าอย่างจำยอม มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องนุ่มของขุนเขาอย่างเบามือ ริมฝีปากกระซิบเสียงนุ่ม “ไม่ต้องขอโทษนะ… อยู่บ้านพักผ่อนให้ดี เป็นเด็กดีนะครับตัวเล็ก ลุงจะรอหนูออกมา” ขุนเขาหัวเราะน้อยๆ ยิ้มอ่อนโยนให้คนพี่ ก่อนจะยืนมองแผ่นหลังกว้างของขุนแผนเดินออกจากบ้านขึ้นรถไป เช้านั้น ขุนเขาเดินเข้าครัวบอกป้าแม่บ้านเสียงใส “ป้า ผมอยากกินของเปรี้ยวมากๆ เลย มะม่วงเปรี้ยวมีไหม” ป้าแม่บ้านหัวเราะเอ็นดูแล้วจัดมะม่วงเปรี้ยวแช่เย็นมา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 14

    หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายของขุนเขาฟื้นตัวเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้มาก แผลผ่าตัดสมานดี กล้ามเนื้อเริ่มกลับมาแข็งแรง แม้ยังต้องระวังแผลลึกกับอาการอ่อนเพลีย แต่หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วในที่สุด เช้านั้น ขุนแผนในชุดสูทสีเข้มเรียบหรู ยืนรอรับน้องชายที่หน้าโรงพยาบาลเช่นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนแตะมุมปาก ร่างสูงโปร่งผึ่งผายสะท้อนแสงแดดอ่อนของฤดูหนาว ขุนเขาเดินออกมาช้า ๆ ด้วยท่าทางสงบในเสื้อเชิ้ตบางคลุมทับด้วยคาร์ดิแกนไหมสีอ่อน ใบหน้าหวานซีดจางแต่มีรอยสีชมพูระเรื่อกลับคืนมาเล็กน้อย “กลับบ้านกันนะ” เสียงนุ่มของขุนแผนเอ่ย ขณะยื่นมือมาช่วยประคองน้อง รถยนต์เบนท์ลีย์สีดำเงาวาวแล่นผ่านถนนส่วนตัวที่ทอดยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร สองข้างทางเป็นแนวต้นสนและไม้ประดับนับสิบสายพันธุ์ที่ตัดแต่งอย่างประณีต แดดยามสายกระทบยอดไม้เป็นประกายระยิบระยับ บ้านหลังใหญ่…ไม่สิ คฤหาสน์ 4 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ผนังหินอ่อนสีขาวอมเทา แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มโค้งและเสาคอรินเธียนเรียงรายอย่างสง่างาม รอบบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสจนเห็นพื้นกระเบื้องโมเสก สวนหย่อมกว้างมีศาลาไม้สักและเส้นท

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 13

    เขื่อนเดินลากเท้าช้า ๆ บนพื้นปูนเก่า ท่ามกลางแดดร้อนจัดของเมืองท่า กลิ่นทะเลเจือควันบุหรี่และน้ำมันเครื่องยังคงแตะจมูกไม่จาง มือหนากำแผ่นพับข้อมูลไว้แน่น ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความกังวล สามวันแล้ว…สามวันที่ขุนเขาหายไปไร้วี่แวว แม้จะส่งเพื่อนออกตามหาแทบพลิกเมือง แต่กลับได้แค่ข่าวร้ายว่า ‘ชัย’ คนที่พาขุนเขาไป ถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว เขื่อนกัดกรามแน่น ใจเหมือนถูกกรีดซ้ำไปมา ตัดภาพไปที่โรงพยาบาล ในห้องพักฟื้นกว้างขวาง ตกแต่งเรียบหรูด้วยโทนสีขาวและเทา ร่างบางของขุนเขานอนสงบอยู่บนเตียงสีขาว ผ้าห่มปกคลุมถึงอก ผิวซีดขาวจนดูเปราะบาง ชายรูปร่างสูงโปร่ง 193 เซนติเมตร นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง สูทสีดำสนิทแนบกายเผยเรือนร่างสมส่วน ผมสีเทาเงินเซ็ตเรียบร้อย ตาคมเข้มกริบใต้คิ้วหนา ริมฝีปากบางขยับน้อย ๆ อย่างคนที่มีความอดทนสูง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ “นายครับ มีเอกสารที่ต้องเซ็นครับ” หนึ่งในลูกน้องในชุดดำเอ่ยขึ้นพลางยื่นแฟ้ม ชายสูงใหญ่ปรายตาไปทางลูกน้อง เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบตอบกลับอย่างเฉียบคม “แล้วมันด่วนไหม แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรือไง” ลูกน้องก้มหน้ารับคำทันทีแล้วถอยออกจากห้องอย่า

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 12

    เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ รถตู้สีดำแล่นฉิวไปบนถนนใหญ่ ขุนเขานั่งเบียดชิดกระจก ร่างบางสั่นเทิ้ม ดวงตาคมกริบคลอไปด้วยน้ำใส ริมฝีปากเม้มแน่นแต่เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ตึกรามสูงเสียดฟ้า รถราแน่นขนัด ผู้คนเดินขวักไขว่บนฟุตบาท…แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะสังเกตเห็นว่าเขากำลังถูกจับตัว มือแข็งแรงของชายชุดดำคนหนึ่งวางบนต้นแขนเขาแน่น “ร้องให้มันน้อยๆ หน่อย ไอ้เด็กเวร!” เสียงเหี้ยมตวาดดังขึ้น ขุนเขาสะดุ้งสุดตัว ริมฝีปากเม้มแน่นยิ่งกว่าเดิม เสียงสะอื้นยังสะท้านในลำคอแต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้ หัวใจบีบแน่น ร่างกายเย็นเฉียบ แม้เสื้อผ้าจะยังเปื้อนทรายและกลิ่นดินปืนจากการปะทะก่อนหน้า เวลาผ่านไป ถนนค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นเส้นทางโล่งและรกเรื้อ ต้นไม้หนาทึบ โอบล้อมถนนเล็กๆ ดั่งอุโมงค์เขียวครึ้ม เสียงนกร้องและแมลงหึ่งเบาๆ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 11

    เขื่อนก้มตัวหลบหลังแผงไม้ไผ่ เสียงกระสุนเฉียดผ่านหูวูบวาบ กลิ่นดินและควันปืนคละคลุ้งเต็มบรรยากาศ ลูกน้องของเขากระจายกำลังตามจุดที่เตรียมไว้ สาดกระสุนโต้กลับอย่างแม่นยำ เรือสปี๊ดโบ้ทของแก๊งประจิมจอดเทียบท่าเร็วราวสายฟ้า พวกมันสวมชุดดำสนิท ใบหน้าโหดเหี้ยมเต็มไปด้วยอาวุธหนัก “ยิง! อย่าให้มันขึ้นฝั่ง!” เขื่อนตะโกนสั่ง เสียงดังฝ่ากระสุน เขาไถลตัวออกจากที่กำบัง เปลี่ยนแม็กกระสุนอย่างรวดเร็ว ก่อนสาดกระสุนชุดใหญ่ใส่ศัตรูที่กำลังพยายามวิ่งขึ้นฝั่ง กระสุนปืนลูกซองจากพวกเขื่อนกระแทกเข้ากับเกราะกันกระสุนของฝ่ายตรงข้าม เสียงโลหะกระทบดังสนั่น เขื่อนกรามแน่น ใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่าสถานการณ์นี้มันต้องเกิด แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งของเขื่อนพุ่งเข้ามา “เฮีย! ขุนเขาปลอดภัยครับ ชัยพาไปหลบหลังเกาะแล้ว!” เขื่อนพยักหน้าก่อนตะโกนสั่งเสียงแข็ง “จัดการให้จบเร็วที่สุด! มันจะต้องไม่เหยียบเข้ามาถึงบ้านเราเด็ดขาด!” เสียงปืนดังต่อเนื่อง กลิ่นดินปนควันปืนและไอเค็มของทะเลหลอมรวมเป็นสนามรบเต็มรูปแบบ เขื่อนกราดสายตามองคู่ต่อสู้ ไม่มีความลังเลในแววตาแม

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 10

    เช้าวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดม่านเข้ามาในห้อง เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแผ่วเบา เขื่อนลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า แขนยังโอบร่างบางของขุนเขาไว้แน่น คนในอ้อมแขนยังคงหลับสนิท ใบหน้าซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา เขื่อนก้มลงมองเสี้ยวหน้าคนรักก่อนจะค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบา เขาแต่งตัวเรียบร้อยและเดินออกจากห้องไปยังห้องรับรองเพื่อประชุมกับเพื่อน วันนี้ เพื่อนสนิททั้งสามคน — เจริญชัย ทิวา และศักดิ์ รวมถึงแม็กซ์ มารออยู่แล้ว เอกสารสัมปทานรังนกที่เตรียมไว้ถูกวางกระจายเต็มโต๊ะ เงื่อนไขใหม่จากกรมทรัพยากรธรรมชาติที่เพิ่งส่งมายังเกาะเมื่อคืนนี้ ถูกเปิดอ่านอย่างเคร่งเครียด “เขื่อน เอกสารนี้มันไม่ชอบมาพากลว่ะ” ศักดิ์พูดเสียงเข้ม เขาผลักแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเพื่อน เขื่อนเลื่อนเอกสารมาตรวจดูอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “สัมปทานชุดใหม่นี้เพิ่มข้อบังคับเรื่องเขตกันชนจากฝั่งเกาะ 15 กิโล ถ้าเรายอมเซ็น… พื้นที่รังนกเราจะหายไปครึ่งหนึ่ง” เจริญชัยอธิบายต่อ น้ำเสียงจริงจัง “มันจงใจบีบเรา” ทิวาเสริม “พวกมันรู้ว่าเราถือหุ้นใหญ่ที่สุด ถ้าถูกบีบแบบนี้ อีกไม่นานราคาสัมปทานจะตก แล้วพวกมันจะย

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 9

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันมานั่งที่โซฟาเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ยามนี้จะดึกมากเพียงใดก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้า ก่อนที่เขื่อนจะออกไปข้างนอก เขาโทรนัดเพื่อนให้มาที่เกาะเพื่อคุยเรื่องสัมปทาน แม้เพื่อนของเขาจะไม่ได้ทำธุรกิจนี้โดยตรง แต่พวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกับเขาอยู่ โชคยังดีที่พวกเขามาทันเวลา หากมาไม่ทัน ร่างขาวตรงหน้าเขาอาจถูกจับตัวไปแล้วก็เป็นได้ เขื่อนหันไปมองคนข้างกายที่ตาปรือเต็มทนแต่ยังไม่ยอมไปนอน มือของทั้งคู่ยังคงประสานกันแน่น สหัสวรรษได้สายตาล้อเลียนจากทิวา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก “ตรวจหน่อยไหม” แม็กซ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่นานโพล่งขึ้นมา เสียงของเขาทำให้เจริญชัย ทิวา ศักดิ์ และเขื่อนหันไปมอง “ตรวจอะไร ร่องรอยลายนิ้วมือพวกมันหรือไง?” ทิวาเอ่ยขึ้น พลางยกน้ำดื่มขึ้นจิบแก้กระหาย แม็กซ์จ้องไปที่ท้องของคนรักเพื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มีเพียงสายตาของเขื่อนที่เริ่มสงสัยและเหลือบมองไปยังท้องของร่างบาง ทว่าก่อนจะทันได้เอ่ยปากถาม ลูกน้องคนสนิทสองคน ชัยและหนึ่ง ก็วิ่งเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนกจนคนเป็นนายรอฟังคำตอบแทบไม่ไหว “นายครับ” ชัยพูดขึ้นพลางหอบห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status