Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 15

Share

เขื่อนขุนเขา 15

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-05-09 15:30:59

— หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

บ้านหลังใหญ่ยามเช้า แสงแดดอ่อนกระทบกระจกบานใหญ่ภายในโถง ขุนเขาในชุดเสื้อคลุมบ้านสีขาวสะอาดเดินออกจากประตูบ้านอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งประคองหน้าท้องที่เริ่มนูนชัด เข้าเดือนที่ 4 แล้ว อาการแพ้ท้องยังคงหนักหน่วงกว่าปกติ

ตรงหน้าบันได ขุนแผนยืนแต่งตัวเต็มยศ — สูทสีกรมท่าตัดเข้ารูป รองเท้าหนังขัดเงา ผมจัดทรงเนี้ยบผิดจากวันปกติ ใบหน้าคมเข้มมีแววลังเลกับการต้องออกไปโดยทิ้งน้องชายไว้ที่บ้าน

ขุนเขาเดินมายืนตรงหน้าเขา ใบหน้ายิ้มจางๆ แม้ร่างกายจะอ่อนแรง

“ไปเถอะพี่แผน เดี๋ยวงานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมไปด้วยแน่นอน”

ขุนแผนสบตาน้องนิ่งอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าอย่างจำยอม มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องนุ่มของขุนเขาอย่างเบามือ ริมฝีปากกระซิบเสียงนุ่ม

“ไม่ต้องขอโทษนะ… อยู่บ้านพักผ่อนให้ดี เป็นเด็กดีนะครับตัวเล็ก ลุงจะรอหนูออกมา”

ขุนเขาหัวเราะน้อยๆ ยิ้มอ่อนโยนให้คนพี่ ก่อนจะยืนมองแผ่นหลังกว้างของขุนแผนเดินออกจากบ้านขึ้นรถไป

เช้านั้น

ขุนเขาเดินเข้าครัวบอกป้าแม่บ้านเสียงใส

“ป้า ผมอยากกินของเปรี้ยวมากๆ เลย มะม่วงเปรี้ยวมีไหม”

ป้าแม่บ้านหัวเราะเอ็นดูแล้วจัดมะม่วงเปรี้ยวแช่เย็นมาวางให้ ขุนเขาจ้วงกินอย่างเอร็ดอร่อยไปสองลูกเต็มๆ จนป้าแม่บ้านต้องเอ่ยเตือนเบาๆ ว่าอย่ากินมากเกินไปเดี๋ยวจะปวดท้อง

จากนั้นทั้งนั่งเล่นคุยกับแม่บ้านจนเกือบสาย ก่อนออกไปเดินเล่นในสวนหย่อมเขียวขจีที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้และเสียงนก

เหล่าแม่บ้านเดินตามประกบเป็นระยะ ขุนเขาหันมายิ้มบางๆ แม้ในใจจะแอบอึดอัดกับความห่วงใยเกินพอดีนี้ก็ตาม

ห้องประชุมใหญ่ โรงแรมหรูใจกลางกรุง

ห้องประชุมชั้นบนสุดของโรงแรมตกแต่งด้วยไม้โอ๊กเข้ม ผนังบุหนังเรียบหรู โต๊ะยาวกลางห้องรองรับผู้บริหารนับสิบคนจากบริษัทในเครือ

เสียงเอกสารกระทบโต๊ะและพนักงานเสิร์ฟกาแฟเดินผ่านไปมา

ขุนแผนในสูทเนี๊ยบ เดินเข้ามาทักทายสหัสวรรษที่นั่งประจำที่ตัวเอง

“คุณเขื่อน สวัสดีครับ ไม่เจอกันนาน”

เขื่อนลุกขึ้นยืน จับมือแน่นพลางพยักหน้า “คุณแผน สวัสดีครับ ยินดีที่ได้เจอกันอีก”

หลังจากนั้นทั้งสองแยกย้ายไปนั่งที่ประจำของตนเอง

การประชุมเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้า วาระสำคัญว่าด้วยการลงทุนระหว่างบริษัท การเจรจาสัมปทานใหม่ และโครงการขยายตลาดต่างประเทศ

การประชุมผ่านไปอย่างราบรื่นจนถึงบ่ายสามโมง

ค่ำวันเดียวกัน — งานเลี้ยงบริษัท

ห้องจัดเลี้ยงหรูหราตกแต่งสไตล์โคโลเนียล แชนเดอเลียคริสตัลระย้าส่องประกายเหนือหัว ผู้บริหารและครอบครัวแต่งกายเรียบหรูทยอยกันเข้ามา แนะนำตัวกับพันธมิตรและผู้ถือหุ้นอย่างคึกคัก

เขื่อนในสูทเทาเข้มยืนอยู่มุมหนึ่ง มือถือแก้วไวน์แดง แววตาเรียบนิ่งแม้ใจจะไม่เต็มใจอยู่ในงานนี้เท่าไรนัก

มีคนเข้ามาทักทายเรื่อยๆ รวมถึงหญิงสาวจากครอบครัวหุ้นส่วนที่พยายามเข้ามาเริ่มบทสนทนาอยู่บ้าง แต่เขื่อนตอบเพียงสั้นๆ สุภาพตามมารยาท

ขณะกำลังถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก็รู้สึกแรงสะกิดเบาๆ จากด้านหลัง

ขุนแผนยืนอยู่ตรงนั้น รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าคม

“คุณเขื่อน ว่างไหมครับ พอจะคุยกันสักหน่อยได้หรือเปล่า ผมมีเรื่องอยากปรึกษา”

เขื่อนพยักหน้าก่อนจะก้าวออกมาพร้อมกัน ทั้งคู่ยืนที่ระเบียงเปิดโล่ง เห็นวิวตึกสูงยามค่ำ

ขุนแผนเริ่มบทสนทนาเสียงเรียบและมั่นคง

“ผมอยากพูดถึงเรื่องสัมปทานรังนกครับ ปีนี้สัญญาจะหมดลง เราสองฝ่ายทำงานร่วมกันมายี่สิบกว่าปีแล้ว”

เขาเว้นวรรคคำพูดและยกไวน์ขึ้นมาดื่ม

“ผมอยากถามความเห็นคุณ ว่าจะต่อสัญญากันต่อดีไหม เงื่อนไขเดิมหรือมีอะไรอยากเพิ่มเติม”

เขื่อนนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนพยักหน้า

“ความร่วมมือของเรามั่นคงดีอยู่แล้ว ผมไม่มีปัญหากับการต่อสัญญา แต่เรื่องสัดส่วนผลประโยชน์ ผมขอปรับเล็กน้อยให้เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย คุณแผนคงเข้าใจดีว่าค่าแรงและต้นทุนเพิ่มขึ้นทุกปี”

ขุนแผนยิ้มบางๆก่อนที่จะตอบไปตามความต้องการของตน

“เข้าใจครับ ผมเองก็คิดตรงกันว่าเงื่อนไขบางอย่างควรปรับตามสถานการณ์ ผมจะให้ฝ่ายกฎหมายของเราร่างรายละเอียดไว้ ไว้เรานัดคุยกันอีกทีภายในเดือนนี้”

เขื่อนยกแก้วไวน์ขึ้นเล็กน้อย

“ตกลงครับ ผมพร้อมคุยทุกเมื่อ”

ขุนแผนยิ้มพอใจ ก่อนจะพูดต่อ

“อีกเรื่องหนึ่ง… งานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมอยากเชิญคุณเขื่อนไปร่วมอีกครั้ง ผมอยากแนะนำคนสำคัญของผมให้คุณรู้จักด้วย”

เขื่อนเลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนยิ้มบาง

“ยินดีครับ ผมจะไม่พลาดแน่นอน”

ทั้งสองชนแก้วเบาๆ แววตาเจือความเชื่อมั่นและสายสัมพันธ์ของพันธมิตรทางธุรกิจที่ยืนยาว

บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงใหญ่ของโรงแรมหรูยังคึกคัก เสียงหัวเราะและเสียงดนตรีดังกลบความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง เขื่อน — สหัสวรรษ ยืนถือแก้วไวน์อยู่ริมระเบียง ท่ามกลางสายลมเย็นของค่ำคืน

ในมือเขา แก้วไวน์สีแดงเข้มไหวเบาๆ เขามองออกไปนอกระเบียง แววตาว่างเปล่าเหมือนจิตใจล่องลอยไปไกลแสนไกล

“คุณเขื่อน…พักสายตาหน่อยสิคะ ดื่มอะไรเย็นๆ ดีกว่า”

เสียงนั้นทำให้เขื่อนหลุดจากภวังค์ หันกลับมาเห็นหญิงสาวร่างสูงสง่าคนหนึ่งในชุดเดรสเข้ารูปสีน้ำเงินเข้ม เธอคือ คุณนวลจันทร์ ลูกสาวรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง — หญิงสาวที่มีชื่อเสียงทั้งเรื่องเสน่ห์และการหว่านเสน่ห์

เธอยื่นแก้วน้ำสีใสมาให้ เขื่อนยิ้มบางๆ แล้วรับแก้วมาโดยไม่คิดอะไร ก่อนจะยกขึ้นจิบ

แต่เพียงสัมผัสปลายลิ้น เขาก็ขมวดคิ้ว ความรู้สึกแปลกๆ แล่นวาบเข้ามาในสมอง รสชาติของมันขื่นผิดปกติ

เขื่อนนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามหญิงสาว

“ใส่อะไรในนี้หรือเปล่าครับ”

หญิงสาวยิ้มหวาน ยกมือทัดผมพลางหัวเราะเบาๆ ไม่ตอบตรงๆ แต่สายตาเจือความหมาย

นวลจันทร์เธอพูดเสียงหวานแหวว

“แค่ของเพิ่มความสนุกนิดหน่อยเองค่ะ คุณเขื่อนอย่าเครียดนักเลยคืนนี้”

มือเขื่อนเริ่มชา ปลายนิ้วสั่นเล็กน้อย ใจเขาเริ่มเต้นแรงและเร็วผิดปกติ เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วมือแข็งแรงคู่หนึ่งก็คว้าไหล่เขาไว้จากด้านหลัง

เสียงกดต่ำข่มอารมณ์ เสียงที่คุ้นหูดังมาจากด้านหลัง

“เขื่อน กลับได้แล้ว”

ทิวา — หนึ่งในเพื่อนสนิทในกลุ่มยืนอยู่ข้างหลัง ใบหน้าเรียบนิ่งแต่แววตาดุดัน เขาเบียดตัวเข้ามายืนขวางระหว่างเขื่อนกับนวลจันทร์

ทิวาหันไปพูดกับหญิงสาวข้างหน้าตน ไร้วี่แววความใจดี

“ของแบบนี้…อย่าเอามาใช้กับเพื่อนผมอีก ถ้าไม่อยากให้พ่อคุณเสียเก้าอี้”

คำพูดสั้นๆ แต่กดดันจนหญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้ายิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะสะบัดหน้าเดินจากไป

ทิวาหันกลับมาประคองตัวเขื่อนที่เริ่มเซเล็กน้อย

ทิวาหันมาบอกเพื่อนสนิท

“ไป กลับเพนต์เฮ้าส์ เดี๋ยวจัดการให้เอง”

เขื่อนไม่พูดอะไร นอกจากพยักหน้าเบาๆ ปล่อยให้เพื่อนพยุงตัวออกจากงาน

— เพนต์เฮ้าส์ของทิวา

เวลาล่วงไปเกือบตีหนึ่ง ทิวาวางกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถบนเคาน์เตอร์ครัว ก่อนจะพยุงเขื่อนมานั่งบนโซฟาหนังสีเข้มกลางห้อง

แสงไฟสลัวในห้องนั่งเล่นสะท้อนเสี้ยวหน้าเขื่อนที่ซีดลงเล็กน้อย

ทิวาได้ถอนหายใจและยื่นแก้วน้ำเปล่าให้

“ดื่มน้ำเยอะๆ ขับยาออก เดี๋ยวมันจะดีขึ้น”

เขื่อนยกแก้วขึ้นดื่ม น้ำเย็นไหลผ่านลำคอช่วยให้หัวโล่งขึ้นเล็กน้อย เขานั่งนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะพูดเสียงแหบ

เขื่อนพูดเสียงแหลไร้เรี่ยวแรง

“ขอบใจนะ…ถ้ามึงไม่มา กูอาจซวยแล้วก็ได้”

ทิวานั่งลงข้างๆ มือหนาตบหลังเขาเบาๆ

ทิวานิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยคำออกมา

“กูไม่ปล่อยให้เพื่อนกูเป็นอะไรหรอก โดยเฉพาะมึงน่ะเขื่อน…

มึงรู้ใช่ไหมว่าพักนี้มึงเหม่อบ่อยไป”

เขื่อนหลบสายตา แววตาเขาเจือความเศร้าซ่อนลึก

เขื่อนตอบทิวาเสียงแผ่ว

“กู…แค่คิดถึงเรื่องเก่าๆ มากไปหน่อยว่ะ”

ทิวาไม่พูดอะไรต่อ เขายกแขนโอบไหล่เพื่อนแน่นๆ ก่อนจะเอ่ยแผ่วเบา

ทิวาเอ่ยขึ้น

“พักก่อน เดี๋ยวกูไปเอาผ้าห่มมาให้ คืนนี้นอนนี่นะ ไม่ต้องกลับ”

เขื่อนพยักหน้าเบาๆ ปล่อยตัวลงพิงพนักโซฟา สายตาเหม่อลอยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้…ในหัวเขากลับเต็มไปด้วยภาพใบหน้าใครบางคนที่ห่างหายไปนานแสนนาน

ขุนเขา…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 17

    เดือนที่ผ่านมา ขุนเขาดูเปล่งประกายขึ้นผิดหูผิดตา ผิวเนียนละเอียด ผ่องขึ้นเหมือนคนสุขภาพดี แววตาก็อ่อนโยนขึ้น รอยยิ้มหวานแบบที่ไม่ค่อยมีใครเห็นก็ปรากฏให้คนรอบตัวได้เห็นบ่อยขึ้น ส่วนอาการแพ้ท้องที่เคยทรมานหนักในช่วงเดือนก่อนก็ค่อย ๆ เบาบางลง ขุนเขาดูสดใสและสบายตัวขึ้นเรื่อย ๆ แม่บ้านต่างรักและเอ็นดูดูแลไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งหาของเปรี้ยวของหวาน ทั้งพาเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย พี่ชายอย่างขุนแผนก็ใจเย็นและดูแลน้องเป็นพิเศษ ไม่เคยปล่อยให้น้องเหงาหรือทำอะไรหนักไปมากกว่ายกจานข้าว ดูสิว่าพี่ชายของขุนเขาเวอร์วังสักแค่ไหน สัปดาห์ก่อน ขุนแผนพาขุนเขาไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อแม่ที่สุสานประจำตระกูล สองพี่น้องยืนเงียบงันหน้าหลุมศพคู่ที่ประดับด้วยดอกไม้ขาวสะอาด ขุนเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลง นั่งพับเพียบก้มกราบหลุมศพ น้ำตาเงียบไหลซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว “พ่อ…แม่…ผมกลับมาแล้วนะครับ” เสียงขุนเขาเบาแต่สั่น เขายกมือไหว้แนบอก ยังคงพูดกับแผ่นป้ายชื่อที่ตั้งนิ่งตรงหน้า “ผมขอโทษที่หายไปนาน ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก ผมจะดูแลตัวเอง นี่ลูกของผม เป็นเด็กผู้ชาย…” ร่างบางพูดพลางลูบท้องที่ยื่นออกมา “จะดูแลลูกให้ดี…ไม่ต้องห่ว

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 16

    หลายวันผ่านไปเพนต์เฮ้าส์ของเขื่อนเงียบสงัดกว่าทุกครั้ง แสงแดดจาง ๆ จากปลายฤดูฝนทอดผ่านกระจกบานใหญ่ เขื่อนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ดวงตาจ้องมองกระดาษและแฟ้มเอกสารที่วางกระจัดกระจายบนโต๊ะ กระจกแก้วใสที่มีคราบน้ำแข็งละลายค่อย ๆ ซึมออกจากแก้วกาแฟเย็นที่ถูกลืมไว้ ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีโทรทัศน์ มีเพียงเสียงลมที่ลอดผ่านหน้าต่างสูงของเพนต์เฮ้าส์ใจกลางกรุง เสียงเคาะประตูดังขึ้นแผ่วเบา ประตูเปิดออกเผยให้เห็นทิวา เขาเดินเข้ามาช้า ๆ ก่อนวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะตรงหน้าเขื่อน สายตาของทิวาหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง ทิวานั่งลงพลางสูดลมหายใจลึก เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มพูด น้ำเสียงแผ่วต่ำเหมือนระวังไม่ให้ใครนอกห้องได้ยิน “ข่าวที่กูบอกว่ากำลังตามอยู่…เรื่องขุนเขา กูเพิ่งได้มา” เขื่อนเงยหน้ามองเพื่อนสนิท สายตาคมกริบเริ่มมีประกายขึ้นมาเล็กน้อย ทิวาค่อย ๆ ดึงเอกสารออกจากซอง รูปถ่ายสองสามใบปรากฏบนโต๊ะ เป็นภาพถ่ายจากมุมไกลเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอมองออกว่าเป็นขุนแผนที่กำลังพูดคุยกับคนกลุ่มหนึ่งที่แต่งตัวคล้ายลูกน้องเก่าแก๊งประจิม “มีข่าวลือว่าขุนแผนเป็นคนสั่งฆ่าล้างบางพวกแก๊งประจิม ญาติของขุน

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 15

    — หนึ่งสัปดาห์ต่อมา บ้านหลังใหญ่ยามเช้า แสงแดดอ่อนกระทบกระจกบานใหญ่ภายในโถง ขุนเขาในชุดเสื้อคลุมบ้านสีขาวสะอาดเดินออกจากประตูบ้านอย่างระมัดระวัง มือหนึ่งประคองหน้าท้องที่เริ่มนูนชัด เข้าเดือนที่ 4 แล้ว อาการแพ้ท้องยังคงหนักหน่วงกว่าปกติ ตรงหน้าบันได ขุนแผนยืนแต่งตัวเต็มยศ — สูทสีกรมท่าตัดเข้ารูป รองเท้าหนังขัดเงา ผมจัดทรงเนี้ยบผิดจากวันปกติ ใบหน้าคมเข้มมีแววลังเลกับการต้องออกไปโดยทิ้งน้องชายไว้ที่บ้าน ขุนเขาเดินมายืนตรงหน้าเขา ใบหน้ายิ้มจางๆ แม้ร่างกายจะอ่อนแรง “ไปเถอะพี่แผน เดี๋ยวงานฉลองบริษัทเดือนหน้า ผมไปด้วยแน่นอน” ขุนแผนสบตาน้องนิ่งอยู่ครู่ ก่อนพยักหน้าอย่างจำยอม มือหนายกขึ้นลูบหน้าท้องนุ่มของขุนเขาอย่างเบามือ ริมฝีปากกระซิบเสียงนุ่ม “ไม่ต้องขอโทษนะ… อยู่บ้านพักผ่อนให้ดี เป็นเด็กดีนะครับตัวเล็ก ลุงจะรอหนูออกมา” ขุนเขาหัวเราะน้อยๆ ยิ้มอ่อนโยนให้คนพี่ ก่อนจะยืนมองแผ่นหลังกว้างของขุนแผนเดินออกจากบ้านขึ้นรถไป เช้านั้น ขุนเขาเดินเข้าครัวบอกป้าแม่บ้านเสียงใส “ป้า ผมอยากกินของเปรี้ยวมากๆ เลย มะม่วงเปรี้ยวมีไหม” ป้าแม่บ้านหัวเราะเอ็นดูแล้วจัดมะม่วงเปรี้ยวแช่เย็นมา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 14

    หนึ่งเดือนต่อมา ร่างกายของขุนเขาฟื้นตัวเร็วกว่าที่แพทย์คาดการณ์ไว้มาก แผลผ่าตัดสมานดี กล้ามเนื้อเริ่มกลับมาแข็งแรง แม้ยังต้องระวังแผลลึกกับอาการอ่อนเพลีย แต่หมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วในที่สุด เช้านั้น ขุนแผนในชุดสูทสีเข้มเรียบหรู ยืนรอรับน้องชายที่หน้าโรงพยาบาลเช่นเคย รอยยิ้มอ่อนโยนแตะมุมปาก ร่างสูงโปร่งผึ่งผายสะท้อนแสงแดดอ่อนของฤดูหนาว ขุนเขาเดินออกมาช้า ๆ ด้วยท่าทางสงบในเสื้อเชิ้ตบางคลุมทับด้วยคาร์ดิแกนไหมสีอ่อน ใบหน้าหวานซีดจางแต่มีรอยสีชมพูระเรื่อกลับคืนมาเล็กน้อย “กลับบ้านกันนะ” เสียงนุ่มของขุนแผนเอ่ย ขณะยื่นมือมาช่วยประคองน้อง รถยนต์เบนท์ลีย์สีดำเงาวาวแล่นผ่านถนนส่วนตัวที่ทอดยาวเกือบหนึ่งกิโลเมตร สองข้างทางเป็นแนวต้นสนและไม้ประดับนับสิบสายพันธุ์ที่ตัดแต่งอย่างประณีต แดดยามสายกระทบยอดไม้เป็นประกายระยิบระยับ บ้านหลังใหญ่…ไม่สิ คฤหาสน์ 4 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก ผนังหินอ่อนสีขาวอมเทา แกะสลักลวดลายงดงาม ซุ้มโค้งและเสาคอรินเธียนเรียงรายอย่างสง่างาม รอบบ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ น้ำใสจนเห็นพื้นกระเบื้องโมเสก สวนหย่อมกว้างมีศาลาไม้สักและเส้นท

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 13

    เขื่อนเดินลากเท้าช้า ๆ บนพื้นปูนเก่า ท่ามกลางแดดร้อนจัดของเมืองท่า กลิ่นทะเลเจือควันบุหรี่และน้ำมันเครื่องยังคงแตะจมูกไม่จาง มือหนากำแผ่นพับข้อมูลไว้แน่น ใบหน้าคมเต็มไปด้วยความกังวล สามวันแล้ว…สามวันที่ขุนเขาหายไปไร้วี่แวว แม้จะส่งเพื่อนออกตามหาแทบพลิกเมือง แต่กลับได้แค่ข่าวร้ายว่า ‘ชัย’ คนที่พาขุนเขาไป ถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว เขื่อนกัดกรามแน่น ใจเหมือนถูกกรีดซ้ำไปมา ตัดภาพไปที่โรงพยาบาล ในห้องพักฟื้นกว้างขวาง ตกแต่งเรียบหรูด้วยโทนสีขาวและเทา ร่างบางของขุนเขานอนสงบอยู่บนเตียงสีขาว ผ้าห่มปกคลุมถึงอก ผิวซีดขาวจนดูเปราะบาง ชายรูปร่างสูงโปร่ง 193 เซนติเมตร นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ไม้ข้างเตียง สูทสีดำสนิทแนบกายเผยเรือนร่างสมส่วน ผมสีเทาเงินเซ็ตเรียบร้อย ตาคมเข้มกริบใต้คิ้วหนา ริมฝีปากบางขยับน้อย ๆ อย่างคนที่มีความอดทนสูง เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ “นายครับ มีเอกสารที่ต้องเซ็นครับ” หนึ่งในลูกน้องในชุดดำเอ่ยขึ้นพลางยื่นแฟ้ม ชายสูงใหญ่ปรายตาไปทางลูกน้อง เสียงทุ้มต่ำเย็นเยียบตอบกลับอย่างเฉียบคม “แล้วมันด่วนไหม แค่นี้มึงคิดไม่ได้หรือไง” ลูกน้องก้มหน้ารับคำทันทีแล้วถอยออกจากห้องอย่า

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 12

    เสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ รถตู้สีดำแล่นฉิวไปบนถนนใหญ่ ขุนเขานั่งเบียดชิดกระจก ร่างบางสั่นเทิ้ม ดวงตาคมกริบคลอไปด้วยน้ำใส ริมฝีปากเม้มแน่นแต่เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ตึกรามสูงเสียดฟ้า รถราแน่นขนัด ผู้คนเดินขวักไขว่บนฟุตบาท…แต่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวจะสังเกตเห็นว่าเขากำลังถูกจับตัว มือแข็งแรงของชายชุดดำคนหนึ่งวางบนต้นแขนเขาแน่น “ร้องให้มันน้อยๆ หน่อย ไอ้เด็กเวร!” เสียงเหี้ยมตวาดดังขึ้น ขุนเขาสะดุ้งสุดตัว ริมฝีปากเม้มแน่นยิ่งกว่าเดิม เสียงสะอื้นยังสะท้านในลำคอแต่เขาพยายามกลั้นน้ำตาไว้ หัวใจบีบแน่น ร่างกายเย็นเฉียบ แม้เสื้อผ้าจะยังเปื้อนทรายและกลิ่นดินปืนจากการปะทะก่อนหน้า เวลาผ่านไป ถนนค่อยๆ เปลี่ยนจากตึกสูงระฟ้าเป็นเส้นทางโล่งและรกเรื้อ ต้นไม้หนาทึบ โอบล้อมถนนเล็กๆ ดั่งอุโมงค์เขียวครึ้ม เสียงนกร้องและแมลงหึ่งเบาๆ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 11

    เขื่อนก้มตัวหลบหลังแผงไม้ไผ่ เสียงกระสุนเฉียดผ่านหูวูบวาบ กลิ่นดินและควันปืนคละคลุ้งเต็มบรรยากาศ ลูกน้องของเขากระจายกำลังตามจุดที่เตรียมไว้ สาดกระสุนโต้กลับอย่างแม่นยำ เรือสปี๊ดโบ้ทของแก๊งประจิมจอดเทียบท่าเร็วราวสายฟ้า พวกมันสวมชุดดำสนิท ใบหน้าโหดเหี้ยมเต็มไปด้วยอาวุธหนัก “ยิง! อย่าให้มันขึ้นฝั่ง!” เขื่อนตะโกนสั่ง เสียงดังฝ่ากระสุน เขาไถลตัวออกจากที่กำบัง เปลี่ยนแม็กกระสุนอย่างรวดเร็ว ก่อนสาดกระสุนชุดใหญ่ใส่ศัตรูที่กำลังพยายามวิ่งขึ้นฝั่ง กระสุนปืนลูกซองจากพวกเขื่อนกระแทกเข้ากับเกราะกันกระสุนของฝ่ายตรงข้าม เสียงโลหะกระทบดังสนั่น เขื่อนกรามแน่น ใจเย็นอย่างเหลือเชื่อ เขารู้ดีว่าสถานการณ์นี้มันต้องเกิด แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน ทันใดนั้น ลูกน้องคนหนึ่งของเขื่อนพุ่งเข้ามา “เฮีย! ขุนเขาปลอดภัยครับ ชัยพาไปหลบหลังเกาะแล้ว!” เขื่อนพยักหน้าก่อนตะโกนสั่งเสียงแข็ง “จัดการให้จบเร็วที่สุด! มันจะต้องไม่เหยียบเข้ามาถึงบ้านเราเด็ดขาด!” เสียงปืนดังต่อเนื่อง กลิ่นดินปนควันปืนและไอเค็มของทะเลหลอมรวมเป็นสนามรบเต็มรูปแบบ เขื่อนกราดสายตามองคู่ต่อสู้ ไม่มีความลังเลในแววตาแม

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 10

    เช้าวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดม่านเข้ามาในห้อง เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังแผ่วเบา เขื่อนลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า แขนยังโอบร่างบางของขุนเขาไว้แน่น คนในอ้อมแขนยังคงหลับสนิท ใบหน้าซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างของเขา เขื่อนก้มลงมองเสี้ยวหน้าคนรักก่อนจะค่อยๆ ผละตัวออกอย่างแผ่วเบา เขาแต่งตัวเรียบร้อยและเดินออกจากห้องไปยังห้องรับรองเพื่อประชุมกับเพื่อน วันนี้ เพื่อนสนิททั้งสามคน — เจริญชัย ทิวา และศักดิ์ รวมถึงแม็กซ์ มารออยู่แล้ว เอกสารสัมปทานรังนกที่เตรียมไว้ถูกวางกระจายเต็มโต๊ะ เงื่อนไขใหม่จากกรมทรัพยากรธรรมชาติที่เพิ่งส่งมายังเกาะเมื่อคืนนี้ ถูกเปิดอ่านอย่างเคร่งเครียด “เขื่อน เอกสารนี้มันไม่ชอบมาพากลว่ะ” ศักดิ์พูดเสียงเข้ม เขาผลักแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าเพื่อน เขื่อนเลื่อนเอกสารมาตรวจดูอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “สัมปทานชุดใหม่นี้เพิ่มข้อบังคับเรื่องเขตกันชนจากฝั่งเกาะ 15 กิโล ถ้าเรายอมเซ็น… พื้นที่รังนกเราจะหายไปครึ่งหนึ่ง” เจริญชัยอธิบายต่อ น้ำเสียงจริงจัง “มันจงใจบีบเรา” ทิวาเสริม “พวกมันรู้ว่าเราถือหุ้นใหญ่ที่สุด ถ้าถูกบีบแบบนี้ อีกไม่นานราคาสัมปทานจะตก แล้วพวกมันจะย

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 9

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ ทั้งคู่ก็พากันมานั่งที่โซฟาเพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ยามนี้จะดึกมากเพียงใดก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้า ก่อนที่เขื่อนจะออกไปข้างนอก เขาโทรนัดเพื่อนให้มาที่เกาะเพื่อคุยเรื่องสัมปทาน แม้เพื่อนของเขาจะไม่ได้ทำธุรกิจนี้โดยตรง แต่พวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ร่วมกับเขาอยู่ โชคยังดีที่พวกเขามาทันเวลา หากมาไม่ทัน ร่างขาวตรงหน้าเขาอาจถูกจับตัวไปแล้วก็เป็นได้ เขื่อนหันไปมองคนข้างกายที่ตาปรือเต็มทนแต่ยังไม่ยอมไปนอน มือของทั้งคู่ยังคงประสานกันแน่น สหัสวรรษได้สายตาล้อเลียนจากทิวา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจนัก “ตรวจหน่อยไหม” แม็กซ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่นานโพล่งขึ้นมา เสียงของเขาทำให้เจริญชัย ทิวา ศักดิ์ และเขื่อนหันไปมอง “ตรวจอะไร ร่องรอยลายนิ้วมือพวกมันหรือไง?” ทิวาเอ่ยขึ้น พลางยกน้ำดื่มขึ้นจิบแก้กระหาย แม็กซ์จ้องไปที่ท้องของคนรักเพื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ มีเพียงสายตาของเขื่อนที่เริ่มสงสัยและเหลือบมองไปยังท้องของร่างบาง ทว่าก่อนจะทันได้เอ่ยปากถาม ลูกน้องคนสนิทสองคน ชัยและหนึ่ง ก็วิ่งเข้ามา สีหน้าตื่นตระหนกจนคนเป็นนายรอฟังคำตอบแทบไม่ไหว “นายครับ” ชัยพูดขึ้นพลางหอบห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status