Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 8

Share

เขื่อนขุนเขา 8

Author: Meithimm
last update Huling Na-update: 2025-05-01 21:44:15

หลายวันผ่านไป อากาศบนเกาะยังคงอบอุ่นและสดชื่นเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความสัมพันธ์ระหว่างเขื่อนกับขุนเขา มันเริ่มมีเส้นสายที่ชัดเจนมากขึ้น… ไม่ใช่แค่คนรู้จักหรือคนที่มาเยี่ยมเยือนกันอีกต่อไป

เย็นวันหนึ่ง เขื่อนนั่งอยู่ริมระเบียงกับขุนเขา สายลมพัดอ่อน ๆ กลิ่นเกลือทะเลลอยมาตามลม ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงจริงจังแผ่วต่ำ

“หนู… พี่มีอะไรจะบอก”

ขุนเขาหันมามอง ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสนใจ

“พี่… ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเดินเรือกับค้าสินค้าต่างประเทศ มันมีทั้งถูกกฎหมายแล้วก็บางอย่างที่… เสี่ยงนิดหน่อย” เขื่อนพูดตรง ๆ ไม่มีเลี่ยงหลบสายตา “พี่อยากให้หนูระวังตัวไว้บ้าง ช่วงนี้พวกมันเริ่มไหวตัว มันอาจจะไม่ชอบใจที่พี่เอาหนูมาอยู่ใกล้ตัวแบบนี้”

ขุนเขานิ่งฟัง ก่อนจะพยักหน้า “อืม… เข้าใจ หนูจะระวังตัว”

เขื่อนยิ้มบาง ๆ อย่างโล่งใจ ยกมือขึ้นลูบผมนิ่มของอีกฝ่ายเบา ๆ “เด็กดีของพี่”

เช้าวันต่อมา เขื่อนออกเรือตามปกติ ทิ้งให้ขุนเขาอยู่บ้านบนเกาะเพียงลำพัง แต่ไม่นานก็มีเพื่อนใหม่เดินเข้ามาในชีวิต

“ชื่อปริมจ้ะ ลูกสาวพ่อตันที่ดูแลรีสอร์ตฝั่งเหนือเกาะ” หญิงสาววัยไล่เลี่ยกันยิ้มสดใสให้ขุนเขา

ทั้งสองคนสนิทกันอย่างรวดเร็ว ปริมสอนขุนเขาทำอาหารพื้นบ้าน ใช้เตาถ่านย่างปลาที่เพิ่งจับสด ๆ จากท้ายเกาะ และสอนพายเรือแคนูไปจับปู ปลาหมึก

เสียงหัวเราะและบทสนทนาเต็มไปด้วยความสนุกสนานจนขุนเขาแทบลืมเวลา

แต่บางช่วงสายตาของขุนเขาก็เหลือบไปเห็นเงาคนแปลกหน้าด้อม ๆ มอง ๆ แถวป่าหลังเกาะ เงาวูบวาบที่ไม่คุ้นเคย เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมาก คิดว่าอาจเป็นชาวบ้าน

ตกเย็น เขื่อนกลับมาบ้าน สีหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัด ขณะนั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะ เขาก้มหน้าคิดอะไรเงียบ ๆ ไม่แตะข้าวในจานเลย

ขุนเขานั่งที่โซฟาใกล้ ๆ มองอยู่นานจนอดถามไม่ได้

“เป็นอะไร… ทำไมดูเครียด ๆ”

เขื่อนเงยหน้าขึ้น สบตาคนตัวเล็ก เสียงทุ้มพร่าบอกช้า ๆ “วันนี้มีข่าวว่าพวกมันเริ่มขยับตัว ใกล้กว่าเดิมแล้ว… พี่แค่เป็นห่วงหนู งานพี่ก็เยอะขึ้นทุกวัน”

ขุนเขาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะเบือนหน้ามองทีวีต่อ เขื่อนมองจานข้าวตัวเองแล้วคิ้วขมวด

“แล้วหนูไม่กินข้าวเหรอ ทำไมไม่แตะเลย?”

ขุนเขาส่ายหัว “ไม่กิน ข้าวมันเหม็น…” เสียงพูดเรียบ ๆ แต่ไม่อ้อนเหมือนตอนป่วย ร่างบางเริ่มแปลกไปหลังจากที่ป่วย ดูไม่อยากอาหารสักเท่าไหร่

เขื่อนขมวดคิ้ว งุนงงนิด ๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาไม่อยากกดดันคนตัวเล็กตอนนี้ เขื่อนเลือกแค่ยิ้มจาง ๆ แล้วพูดเบา ๆ

“ไม่กินก็ไม่เป็นไร แต่ขอแค่ดูแลตัวเองนะ… อย่าเผลอเดินไปไหนคนเดียวตอนนี้” เขื่อนพูดพร้อมชี้นิ้วสั่งอีกคน

ขุนเขาหันกลับมายิ้มบาง ๆ ให้เขื่อน ดวงตานิ่งสงบ “อื้อ หนูรู้แล้ว..”

เขื่อนมองแววตานั้นแล้วรู้ได้ทันทีว่าขุนเขาไม่ได้เป็นแค่คนตัวเล็ก ๆ ที่ต้องให้เขาคอยปกป้องฝ่ายเดียว…

เช้าวันนั้น เขื่อนออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี เขาบอกกับขุนเขาว่าต้องออกไปดูงานที่เกาะสัมปทานรังนก เพราะมีข่าวว่าพวกมัน—กลุ่มคนที่จ้องจะช่วงชิงผลประโยชน์—เริ่มเข้ามาป้วนเปี้ยน

“อยู่บ้านดี ๆ นะ อย่าลืมล็อกประตูหน้าต่างให้หมด” เขื่อนย้ำก่อนจะหอมขมับบางเบา และจูบลงที่ปากอวบอิ่มก่อนแล้วเดินออกไป

ขุนเขาพยักหน้ารับ เขาไม่ได้รู้สึกกังวลนัก เพราะตั้งแต่ป่วยแล้วเขื่อนก็เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยไว้ค่อนข้างดี แต่เขาไม่รู้เลยว่าวันนี้จะไม่เหมือนทุกวัน

เวลาล่วงเลยถึงช่วงค่ำ คลื่นทะเลสงบแต่บรรยากาศกลับอึมครึมโดยไม่มีสาเหตุ

เพล้ง!

เสียงกระจกหน้าต่างด้านหลังบ้านแตกกระจาย ร่างของชายแปลกหน้า 3 คนก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าแต้มรอยสักและดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ พวกมัน

กระจัดกระจายแยกย้ายกันค้นของอย่างรวดเร็ว

ขุนเขาที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟาในห้องนอนสะดุ้งสุดตัว หัวใจเต้นระรัว มือสั่นจนหนังสือหล่นลงพื้น เสียงฝีเท้าของพวกมันหนักแน่นและใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

เขารีบลุกพรวด วิ่งตรงไปยังตู้เสื้อผ้าด้านล่างเข้าไปขดตัว ซุกตัวในมุมอับที่สุด ใช้มือกวาดเสื้อผ้ากองพะเนินทับศีรษะไว้จนมิด

ในห้อง เสียงฝีเท้าและเสียงพูดคุยดังลอดมา

“ที่นอนยังอุ่น มันเพิ่งหนีไปไม่นานนี้เอง มันยังอยู่แถวนี้แน่ ๆ”

“เช็กใต้เตียง กับในตู้เร็ว เดี๋ยวมันหนีหลุดมือไปอีก”

“ถ้าคราวนี้จับตัวมันไปได้พวกมึงได้กินเงินเดือนเพิ่มขึ้นสิบๆเท่าแน่”

ขุนเขาหายใจถี่แรง น้ำตาไหลอาบแก้มไม่รู้ตัว มือขาวกำเสื้อแน่นจนสั่น เขากัดปากแน่นจนเจ็บเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกไป ร่างกายเขาสั่นระริก เหงื่อเย็นไหลซึมเต็มแผ่นหลัง

ปัง! ปัง!

เสียงปืนดังลั่นขึ้นนอกบ้าน กัมปนาทสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงร้องโวยวายของพวกคนแปลกหน้าเปลี่ยนเป็นตะโกนลนลาน

“ไอ้เหี้ย! พวกมันมาแล้ว! ถอยโว้ย!”

เพล้ง!!

เสียงกระจกแตกอีกครั้ง พวกมันกระโจนพรวดออกไปทางหน้าต่างชั้นสองหายวับไปทันที

เพื่อนของเขื่อนทั้งสี่คนพากันวิ่งขึ้นบ้านชั้นสองทันทีหลังเสียงปืนสงบ พวกเขาเรียกชื่อขุนเขาเสียงดังสลับกันอย่างร้อนรน

“ขุนเขา! อยู่ไหน!” ทิวา

“มึงไปหาทางนั้น! ขุนเขาออกมาได้แล้ว ปลอดภัยแล้วนะ!” เจริญชัย

“พี่มาแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ!” ศักดิ์

เมื่อเจอตัว ขุนเขาถูกพาออกมาจากตู้เสื้อผ้าอย่างทะนุถนอม เจริญชัยคว้าผ้าคลุมไหมพรมใกล้ตัวของตัวเองคลุมไหล่คนตัวเล็กไว้แน่น ก่อนจะพากันประคองลงไปนั่งโซฟาชั้นล่าง

ขุนเขายังสะอื้นไห้ตัวโยนอยู่ ผิวแก้มแดงจัดจากแรงสะอื้น ร่างกายยังสั่นเทิ้มไม่หยุด เพื่อนของเขื่อนคนหนึ่ง—พี่ศักดิ์—นั่งยองลงตรงหน้า พูดด้วยเสียงอ่อนโยน

“โอเคไหมน้อง? หายใจลึก ๆ นะ” เขารู้วิธีปลอบคนและมันก็ใช้ได้ผลกับคนรักของเพื่อน

ขุนเขาพยักหน้าหวาด ๆ แต่ไม่ทันได้พูดอะไร ทำท่าจะอ้วก จู่ ๆ ก็ลุกพรวดวิ่งพรวดไปที่ห้องน้ำ เสียงอาเจียนดังลอดออกมา น้ำหูน้ำตาไหลพรากอีกครั้งโดยที่ไม่มีใครแตะต้องเลย

ในเวลาเดียวกัน เขื่อนเพิ่งมาถึงหน้าบ้าน เสียงรองเท้ากระแทกพื้นรีบเร่ง เขาตะโกนลั่นบ้านด้วยความร้อนรน

“ขุนเขาอยู่ไหน!?”

แม็กซ์รีบตอบ “ไปอ้วกในห้องน้ำ”

ได้ยินแบบนั้นก็แอบหัวเสีย เขื่อนไม่รอช้า รีบวิ่งตรงไปทันที

ในห้องน้ำ เขาพบคนรักของเขาคุกเข่าเหนื่อยหอบอยู่ข้างชักโครก ตัวสั่น น้ำตายังไหลไม่หยุด ขุนเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นเขื่อนก็กระโจนเข้ากอดแน่น

“ฮึก… พี่เขื่อน… ฮือ หนูกลัว”

เสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เขื่อนรีบโอบคนตัวเล็กแน่น ซบปลายคางลงบนศีรษะของขุนเขา พูดเบา ๆ พลางลูบหลังปลอบโยน

“ใจเย็นนะ เด็กดีของพี่ หนูปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไร พี่อยู่ตรงนี้แล้ว”

ขุนเขายังคงสะอื้น แต่ไม่นานก็รู้สึกคลื่นไส้อีกระลอก ไม่ทันได้หันหนีก็อ้วกซ้ำจนเปื้อนเสื้อของเขื่อนเต็มไปหมด

เขื่อนหลุบตาลง มองเสื้อของตัวเองเลอะเทอะเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มบาง ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น

“ฮึก ฮืออ ห..”

“หรูอ้วกใส่พี่ ฮื่อออ”ขุนเขาร้องโหวกเหวกพยายามจะผลักคนพี่ออกจากห้องน้ำ แต่ก็ดึงกลับเข้ามากอดไว้แน่น

“โอเค ๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ขอถอดเสื้อก่อน อย่าเพิ่งกอดแน่นนะครับ เดี๋ยวเปื้อนหนูอีก”

พอขุนเขาเห็นเขื่อนจะผละตัวก็ตาแดง ๆ น้ำตาคลอ พูดงอแงขึ้นอีก

“อย่าไป หนูไม่อยากอยู่คนเดียว พี่ไม่กอดหนูแล้ว ฮือ…”

เขื่อนหัวเราะเบา ๆ อย่างเอ็นดู ก่อนจะจับคนตัวเล็กมายกขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าในห้องน้ำ

“โอเค ๆ พี่อยู่ตรงนี้ ไม่ไปไหนนะ นั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่อาบน้ำแป๊บเดียว”

ขุนเขานั่งนิ่งเชื่อฟัง ถึงแม้จะยังมีเสียงสะอื้นเบา ๆ อยู่ในลำคอ

เขื่อนอาบน้ำอย่างเร็วที่สุด พอเสร็จออกมาก็นุ่งผ้าขนหนูเดินมาหาขุนเขา ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดปากและเช็ดใบหน้าให้อย่างเบามือ ก่อนจะพาไปบ้วนปากเรียบร้อย เขื่อนเปิดประตูห้องน้ำแล้วเรียกเสียงดัง

“ไอ้ชัย! หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ให้หน่อย”

ไม่นานเสื้อผ้าชุดใหม่ก็ถูกส่งเข้ามา เขื่อนจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็ว ก่อนจะประคองขุนเขากลับออกไปที่โซฟา

เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดทุกอย่างก็ดูสงบลง

ขุนเขาเดินออกมาจากห้องน้ำในเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขื่อน กางเกงผ้านิ่มสบาย ส่วนเขื่อนก็สวมชุดใหม่ที่เพื่อนเอามาให้ เขายังไม่พูดอะไร แค่เดินไปยืนแอบอยู่ด้านหลังเขื่อน ไม่กล้าสบตาเพื่อน ๆ ของเขา ใบหน้ายังแดงระเรื่อจากการร้องไห้และเหนื่อยอ่อน

เขื่อนรู้สึกตัว หันกลับมาลูบศีรษะขุนเขาแผ่วเบา

“ ไม่มีใครว่าอะไรหนูหรอก ทุกคนเป็นห่วงหนูทั้งนั้น”

เพื่อน ๆ ของเขื่อนก็มองมายิ้ม ๆ สีหน้าผ่อนคลาย ไม่ได้แสดงท่าทีอึดอัดหรือรังเกียจเลยสักนิด

“ปลอดภัยก็ดีแล้ว”เจริญชัยพูดขึ้น

ขุนเขาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ มุมปากคลี่ยิ้มนิด ๆ น้ำตาซึมเพราะซึ้งใจ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 25

    โรงพยาบาล – ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ข้างห้อง ICU, เวลา 10:15 น. เสียงสายลมเบาๆ พัดผ่านม่านสีขาวสะอาด ขุนเขานั่งอยู่บนโซฟานุ่มริมหน้าต่าง แสงแดดยามสายตกต้องบนใบหน้าที่ซีดเซียวแต่ยังคงความอ่อนโยน ร่างเล็กที่พึ่งผ่านการคลอดไม่กี่วัน อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบอก เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูจ้องตาแม่ไม่กระพริบ ริมฝีปากเล็กๆ ขยับเบาเหมือนจะพยายามพูดอะไรสักอย่าง “หนูดูพ่อสิลูก ขี้เซามาก ไม่ยอมตื่นมาเล่นกับเราเลย…” เสียงอ่อนโยนของขุนเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยุดพูดไปเมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยเปล่งออกมาเป็นเสียงอ้อแอ้ “แอ๊ะ… แอ๊ะ…” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ ทั้งน้ำตาคลอหน่วย เอียงหน้ามาแตะหน้าผากลูกอย่างแผ่วเบา “ไว้พ่อฟื้น แม่จะพาหนูมาใหม่นะครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง…” เขายกมือขึ้นลูบผมนิ่มๆ ของลูก แล้วเงยหน้ามองเตียงคนไข้เบื้องหน้า… เขื่อน นอนนิ่งอยู่บนเตียง เครื่องช่วยหายใจยังคงทำงานช้าๆ สม่ำเสมอ สายรัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังพันเต็มร่างกาย สีหน้าของเขาดูสงบ แต่ก็ยังไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ขุนเขากัดปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้ “ด…เดี๋ยวพ่อก็ฟื้น… พ่อจะต้องฟื้น…” เสียงสั่นเค

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 24

    เสียงไซเรนของรถพยาบาลและรถตำรวจดังแหวกอากาศมาแต่ไกลแสงไฟวูบวาบตัดกับท้องฟ้ายามบ่ายแก่ที่เริ่มขมุกขมัว ผู้คนมุงดูอยู่ริมถนนสายหลักที่ทอดผ่านเขตชานเมือง ตรงบริเวณโค้งลงเขาซึ่งขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดแห่งหนึ่งรถ SUV สีดำขลับ พังยับเยินจนเกือบจำเค้าเดิมไม่ได้ ฝากระโปรงยุบย่นกระแทกเข้าไปถึงที่นั่งคนขับ กระจกหน้าแตกละเอียดกระจายเต็มพื้นถนน ล้อหน้าข้างหนึ่งหลุดกลิ้งออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุ กลิ่นน้ำมันและเขม่าควันโชยตลบอบอวลเสียงหวอของเจ้าหน้าที่กู้ภัยประสานกับเสียงวิทยุสื่อสารตลอดเวลา“เราพบผู้บาดเจ็บติดอยู่ในรถคนเดียวครับ เป็นชาย… อายุประมาณสามสิบต้นๆ หมดสติ มีเลือดออกจากศีรษะและอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง!”เจ้าหน้าที่รีบใช้เครื่องตัดถ่างแงะประตูด้านคนขับที่บิดเบี้ยวอย่างหนัก เสียงเหล็กเสียดสีกันแหลมคมสะท้านเข้าไปถึงหัวใจภาพของเขื่อน—ร่างกายแน่นิ่งคาอยู่กับพวงมาลัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและเศษกระจกเสื้อเชิ้ตสีขาวมีเลือดเปรอะเปื้อน ส่วนอกด้านซ้ายบุบยุบจนน่ากลัว กระจกแตกทิ่มเข้าเนื้อและแขนจนเห็นเนื้อแดงฉาน“ได้ตัวแล้วครับ! เตรียมเปลนิ่มเร็ว!”เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ดังแทรก“ชีพจรยังมี แต่อ่อ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 23

    ย้อนกลับไปในค่ำคืนนั้นที่งานเปิดตัวโรงแรมของเครือขุนเขาเป็นไปด้วยความหรูหรา แขกมากหน้าหลายตาเข้าร่วมงาน ทั้งนักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคคลสำคัญในวงการต่าง ๆท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงดนตรี และแสงแฟลชจากกล้องมากมายขุนเขาในชุดเรียบหรูแบบคนมีฐานะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขื่อนเองก็ไม่ได้แนะนำออกไมโครโฟนอย่างเป็นทางการทว่าทุกคนกลับรู้สึกได้ว่า คนคนนี้พิเศษกับเขื่อน มากและนั่น… คือสิ่งที่สายตาหนึ่งจับจ้องอย่างสนใจจากชั้นสองของโถงจัดงาน มีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีเข้ม ยืนพิงราวบันไดมองลงมาด้านล่าง ดวงตาคมเฉียบเต็มไปด้วยแววรังสีที่คล้ายกับงูเห่าเมื่อจับเหยื่อไว้ในสายตา“หึ…หน้าคุ้นแปลก ๆ นะ…”“หน้าตาแบบนี้…เหมือนใครบางคนที่กูเคยเห็น…”เขาหยิบมือถือขึ้นมา แอบถ่ายภาพของขุนเขาอย่างแนบเนียน ก่อนจะส่งไปยังเครือข่ายของตนให้สืบข้อมูลทันทีชายคนนั้น หรือที่ผู้คนในวงการใต้ดินรู้จักในนาม “อาคิระ”ชายสัญชาติญี่ปุ่น หนึ่งในศัตรูเก่าแก่ที่มีคดีขัดผลประโยชน์กับขุนแผนมานานหลายปี เปิดแฟ้มข้อมูลที่เพิ่งได้รับจากสายข่าวภาพใบหน้าของขุนเขาปรากฏชัดเจน พร้อมชื่อเดิม สถานที่เคยอยู่ และ…“…ลูกของไอชา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 22

    ยามค่ำคืนในเพ้นต์เฮ้าส์เงียบสงบ แสงไฟสีอุ่นจากโคมตั้งพื้นทาบทาลงบนโซฟาและพื้นไม้ ขุนเขานั่งพิงอกเขื่อนอยู่บนเตียงกว้าง กลิ่นสบู่จาง ๆ จากร่างกายสะอาดของกันและกันยังลอยอ้อยอิ่งในอากาศ พวกเขานอนคุยกันเรื่อยเปื่อย หัวเราะบ้าง ล้อเล่นกันบ้าง ก่อนที่ความเงียบจะค่อย ๆ ปกคลุมลงทีละน้อย เสียงของเขื่อนดังขึ้นเบา ๆ ราวกลัวจะรบกวนช่วงเวลาสงบตรงหน้า “ขุนเขา… ถ้าวันหนึ่งเราลืมกันไป… ขุนเขาจะยังจำความรู้สึกนี้ได้ไหมครับ” ขุนเขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขื่อน ยิ้มอ่อน ๆ ที่มุมปาก ราวกับว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว “จำได้สิครับ… มันดีมากเลยนะในตอนนี้” เสียงของขุนเขานุ่มนวลแต่หนักแน่น แฝงความมั่นคงอย่างไม่ต้องอธิบาย พูดจบ ขุนเขาก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ ใช้สองแขนโอบกอดเขื่อนเอาไว้แน่นอย่างที่ใจต้องการ หน้าแนบอกอีกฝ่าย ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคง เขื่อนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองคนในอ้อมแขน ก่อนจะโน้มตัวลงจูบเบา ๆ บนหน้าผาก สัมผัสนั้นอ่อนโยนนัก เหมือนสัญญา เขื่อนกระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ถ้าไม่เป็นการรบกวน… ถ้าพี่อยากจะขอดูแลขุนเขานับต่อจากนี้… ขุนเขาจะว่าอะไรไหมครับ” ขุนเขาส่

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 21

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอุ่นยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องอย่างนุ่มนวล ขุนเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองข้างกาย ที่ตรงนั้น… เขื่อนยังนอนอยู่บนฟูกที่ปูไว้ข้างเตียง ใบหน้าหล่อดูสงบและผ่อนคลายเหมือนเด็กชายในยามหลับ ขุนเขามองนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว หลังจากลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ขุนเขาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น และพบว่าเขื่อนตื่นแล้ว แถมยังเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย “ตื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเขาทักเสียงเบา “ครับ วันนี้หน้าคุณดูสดใสดีนะ” เขื่อนยิ้มพลางยื่นขนมปังปิ้งให้ “รับรองว่าไม่ไหม้แน่ครับ เพราะผมตั้งใจเฝ้าเตาอย่างดี” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ รับขนมปังมาถือไว้ “ขอบคุณนะครับ” หลังจากนั่งกินข้าวกันอยู่สักพัก ในจังหวะที่บรรยากาศเงียบสงบ เขื่อนก็เอ่ยขึ้นเบาๆ “คุณขุนเขาครับ…” “ครับ?” “ไปเที่ยวทะเลกับผมไหมครับ?” ขุนเขาชะงักนิดหน่อย มองเขื่อนนิ่งด้วยแววตาแปลกใจ “ผมหมายถึง…แค่สองวันหนึ่งคืนก็ได้ครับ ผมเห็นคุณอยู่แต่ในบ้านกับโรงพยาบาล คงเบื่อแย่ อยากให้คุณได้ออกไปเจอลม เจอคลื่น เจอท้องฟ้า…ก่อนที่คุณจะรู้สึกว่ามันไม่สะดวก” ขุนเขานิ่งคิด แต

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 20

    หลังจากที่ทั้งคู่ เขื่อนและขุนเขาไปมาหาสู่กันก็เข้าสัปดาห์ที่3ที่ในชีวิตของขุนเขามีเขื่อนอยู่ด้วย เขาเคยแกล้งถามว่ามาหาตนทุกวันอย่างนี้แล้วงานล่ะใครจะทำ เขื่อนก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็บอกว่ามีคนดูอยู่ ขุนเขาเลยไม่ตื้อไม่อะไร และเดือนนี้ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนที่6ของการตั้งครรภ์แล้ว ขุนเขาเริ่มจะทำอะไรไม่สะดวก ไม่ค่อยออกไปไหนเพราะกลัวจะลำบากและรบกวนขุนแผน ภายในบ้านยามบ่าย แดดลอดผ่านผ้าม่านบางเบา ขุนเขานั่งพิงหมอนใบใหญ่บนโซฟา มือหนึ่งลูบท้องกลมเบาๆ อีกข้างถือโทรศัพท์เลื่อนดูรูปอาหารที่อยากกิน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเสียงกริ่งประตูดัง “มาอีกแล้วเหรอครับ” เสียงพูดเหมือนจะบ่น แต่รอยยิ้มกลับแต้มขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เห็นว่าเป็นเขื่อน “ก็คิดถึงนี่ครับ” เขื่อนพูดหยอกล้อและยกถุงขนมและของโปรดของขุนเขาเข้ามา พร้อมกับน้ำผลไม้เย็นจัดในมือ “วันนี้ไม่ต้องมาก็ได้ครับ ผมไม่เป็นไร” ขุนเขาวางโทรศัพท์ลง “ไม่มาไม่ได้ครับ เดี๋ยวลูกงอน” เขื่อนพูดขำๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงข้างๆ อย่างไม่เร่งรัด “จะลูกใครก็ยังไม่รู้เลยนะครับ” ขุนเขาว่าทั้งที่ไม่ได้โกรธ สีหน้ายังมีรอยยิ้มเจือจางอยู่ “ผมไม่ซีเรียสครับ ไม

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status