Share

ตอนที่ 2 คุณหนูใหญ่บู

last update Last Updated: 2025-08-04 20:56:39

     

  

          “เจ้าหรือคือคุณหนูใหญ่ตระกูลไป่ที่ช่วงนี้คนเค้าลือกันว่า...” คุณหนูบูเอ่ยถามแต่ก็มิได้จบประโยคเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอ่ยถามแต่แรก แต่เพราะความที่นางเป็นคนปากไวใจร้อน จึงอดเอ่ยปากถามไม่ได้ กว่าจะรู้สึกตัวก็เกือบจบประโยคเสียแล้ว

          “เรียกข้าว่าอาจินก็พอเจ้าค่ะคุณหนูบู เรื่องที่ท่านถามนั่นก็มิมีอันใดต้องปิดบัง ข้านั้นจะเรียกว่า ตกอับ อย่างที่ใครๆเขากล่าวถึงก็คงมิได้ เพราะตัวข้าเองมิเคยได้ถูกวางไว้บนที่สูงแต่อย่างไร ตำแหน่งคุณหนูใหญ่นั่นก็เป็นเพียงคำที่ฮูหยินใหญ่ใช้แดกดัน ใครๆในจวนไป่ต่างทราบดีว่าข้าก็มีชีวิตเทียบเท่าบ่าวไพร่ทั่วไปเท่านั้นเจ้าค่ะ” ไป่จินตอบคำถามครึ่งประโยคด้วยความในใจอันยาวเหยียด

          ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงได้ไว้ใจสตรีแปลกหน้าที่บังเอิญได้พบกันเพียงครั้งแรก หรือจะเป็นเพราะคุณหนูใหญ่บูตรงหน้าก็มีชีวิตไม่ต่างจากนางเท่าใดนัก

          “ข้าเข้าใจเจ้าดี อย่างไรเสียพวกเราก็มีชะตาต้องกันในเมื่อเจ้าไม่ให้ข้าเรียกว่าคุณหนู ก็จงเรียกข้าว่าพี่สาวเถิด เรามาเป็นพี่น้องกันน่าจะดี เพราะข้าเองก็มีเพียงน้องชายทั้งยังเล็กนัก จะพูดคุยอันใดก็ยังมิรู่ความ” คุณหนูใหญ่บูคว้ามือบางที่มีรอยแตกและความหยาบกระด้างขึ้นมากุมพร้อมเอ่ยปากพูดคุยส่วนมือก็นำครีมบำรุงผิวที่รับมาจากฮวยซวงมาลูบไล้ถูทามือของคู่สนทนาไปด้วย

          “ไม่ดีหรอกเจ้าค่ะ คุณหนูบู ข้ามิอาจเอื้อม” ไป่จินพยายามดึงมาออกแต่กับถูกยึดไว้อย่างมั่นคง

          “มีอันใดไม่ดี เจ้าดูสิข้าเป็นลูกฮูหยินรอง จากอันใดจากลูกอี๋เหนียง ทุกวันนี้มีเพียงตำแหน่งไร้อำนาจ แม่มารดาข้าจะเคยเป็นฮูหยินเอกแล้วอย่างไร ปัจจุบันนี้ก็ไร้ซึ่งฐานะอันใด อยู่ในจวนรอรับเบี้ยหวัดไปวันๆ ข้าอยากจะมีน้องสาวสักคนเจ้าเห็นว่าข้าไม่คู่ควรใช่หรือไม่” แม้จะพบเจอไป่จินเป็นครั้งแรกแต่ความรู้สึกถูกชะตานั้นรุนแรงนัก คุณหนูใหญ่บูคิดแต่เพียงว่าเพราะเรื่องราวชีวิตพวกนางช่างคล้ายกัน

          “เฮอะ เจ้าจะหยิ่งอันใดนัก คุณหนูของข้ามิเคยสนใจใคร วันนี้นางใส่ใจเจ้าอยากคบหาเป็นน้องสาวเป็นบุญของเจ้าแล้วนะ ไป่จิน” ฮวยซวงที่พยายามเข้าหาคุณหนูใหญ่บูมาตลอดแต่นางกลับเว้นระยะหมั่นไส้ไป่จินจนอดแดกดันออกมาไม่ได้

          “ฮวยซวงเจ้าไม่พูดก็มิมีผู้ใดว่าเจ้าเป็นใบ้ ถ้าปากว่างนักก็ไปหาหวงเหลียนมาอมเสีย” แม้ว่าจะพยายามสั่งสอนเท่าใดบ่าวคนนี้ก็มิเคยจำ แล้วแบบนี้หากนางออกเรือนไปบ่าวข้างกลายจะมิกลายเป็นหอกข้างแคร่ดอกหรือ

“ขอโทษเจ้าค่ะคุณหนู”

(แหม พยายามแล้วนะ ดันแพ้เสียงในหัว ที่เราพยายามทำดีเข้าหาแทบตายกลับไม่เคยรู้สึกรู้สา รึว่านางจะรู้ทันกันนะ) ฮวยซวงได้แต่คุยกับตัวเองในใจ

“อย่าไปว่านางเลยเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่บู ข้าเองก็ไม่มีพี่สาวน้องสาวร่วมมารดาเช่นกัน หากท่านเมตตาข้าก็ขอรับน้ำใจนี้ไว้เจ้าค่ะ”

“รับน้ำใจพี่แล้วก็เลิกเรียกคุณนงคุณหนูเสียที” คุณหนูใหญ่บูตบมือลงบนมือหยาบเบาๆ ก่อนจะหยิบพู่หยกคาดเอวมายัดใส่ให้

“มิได้เจ้าค่ะพี่หญิง ข้ารับไม่ได้”ไป่จินรีบปฏิเสธเพราะรู้มาว่าฐานะของพี่สาวคนใหม่ก็มิได้ดีดิบอันใด นางหรือจะกล้ารับของมีราคาจากนาง

“มีอันใดมิได้ วันนี้ข้าทำของเจ้าเสียหายยังมิทันได้ชดใช้ นั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่นี่ของรับขวัญน้องสาวถ้าเจ้ายอมรับข้าเป็นพี่สาวก็จงรับมันไว้เสีย เผื่อจวนตัวยังมีสมบัติติดกาย” คุณหนูใหญ่บูตั้งใจให้ของมีมูลค่าเผื่อว่าวันหน้าไป่จินตกที่นั่งลำบากจะได้มีของมีค่าไว้ขายกินแถมยังตั้งใจบอกกล่าวอนุญาตแบบกลายๆอีกด้วย

“เจ้าค่ะพี่หญิง ข้าขอรับไว้และจักรักษาให้ดี” ไป่จินได้แต่จำต้องรับมาเก็บไว้ในอกเสื้ออย่างทะนุถนอม

“ข้าให้เจ้าไว้พก มิได้ให้ไว้เก็บมาสิข้าจะผูกเอวให้เจ้าเอง” พี่สาวคนใหม่ยื่นมือไปรอรับเมื่อน้องสาวส่งหยกพกมาให้นางก็บรรจงผูกไว้กับสายรัดเอวเป็นเงื่อนสวยงาม

“มาแล้วๆ หวังว่าพวกท่านจะรอไม่นาน”เถ้าแก่หวางเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาด้วยใบหน้าผ่องใส

“คารวะเถ้าแก่หวางเจ้าค่ะ” ทั้งสองสาวเอ่ยทักทายอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

“อย่ามัวพิธีรีตองอยู่เลย กำไรหยกของแม่นางไป่ข้าตรวจสอบดูแล้วเป็นกำไรที่บิดาท่านซื้อให้มู่อี๋เหนียงในวันที่รับนางเข้าหอ ถือว่าเป็นหยกน้ำดีวงหนึ่ง มูลค่าในยามนั้นสูงถึง 100 ตำลึง”

“ตายแล้ว นี่เจ้าตั้งใจทำร้านคุณหนูของข้ารึ ถือของราคาแพงขนาดนี้วิ่งมาชนคุณหนูของข้า เจ้ามีเจตนาอันใดกันแน่” ฮวยซวงร้องโวยวายขึ้นก่อนที่เถ้าแก่หวางจะกล่าวจบจนได้รับสายตาคาดโทษจากนายสาวจึงได้รู้สึกตัว

“หึๆ ไม่ต้องโวยวายไปดอกแม่นางเพราะในยามนี้แม้กำไรวงนี้จะสมบูรณ์แบบก็มีมูลค่าเพียง 10 ตำลึงเท่านั้น เพราะลวดลายนั้นล่าสมัยไปมาก” เถ้าแก่หวางรีบพูดต่อให้ทั้งสองฝ่ายสบายใจ เพราะกำไรของไป่จินนั้นมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่ามูลค่ามากนัก

“ถ้าอย่างนั้นท่านช่วยดูกำไรหยกสีเลือดวงนี้ให้ข้าหน่อยเถิด” คุณหนูใหญ่บูเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบกดความตระหนกในใจไว้ เพราะกำไรที่นางนำมาก็มีอายุใกล้เคียงกับไป่จิน ตอนนี้จะเหลือราคาค่างวดเท่าใดกัน หลังจากชดใช้ให้ไป่จินแล้วนางจะพอมีเงินเหลือกับไปใช้จ่ายในเรือนหรือไม่กันนะ

“20 ตำลึง ถึงแม้จะมีอายุไล่เลี่ยกันแต่นนี่คือหยกสีเลือดคุณภาพดี ที่ยังมีราคาเพราะเป็นแบบเรียบ ไม่มีลวดลายจึงไม่ตกยุค” เถ้าแก่หวางอธิบายอย่างตรงไปตรงมา

“ถ้าเช่นนั้นท่านช่วยแยกตำลึงออกเป็น 2 ส่วยให้ข้าด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะชดเชยค่าเสียหายให้น้องหญิงไป่” เจ้าของกำไรหยอกสีเลือดกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่ามีเจตนาขายกำไรวงนี้และยังต้องการชดเชยความเสียหายที่จะว่าไปก็เกิดจากการประมาทร่วมของทั้งสองฝ่าย

“ได้สิคุณหนูใหญ่บู” เถ้าแก่หวางขอตัวไปจัดการตามที่ลุกค้าต้องการ

          “พี่หญิงท่านไม่ต้องชดเชยอันใด ข้าเองเป็นฝ่ายที่ชนพี่ขนต้องเจ็บตัว แม่ท่านจะไม่พูดแต่ข้อมือของพี่เริ่มบวมแล้ว หากไม่รังเกียจเอายานวดสมุนไพรนี่ไว้ใช้เถิด” ไป่จินหยิบตลับไม้ออกมาจากสาบเสื้อก่อนจะจับมือบางที่ยังกุมมือนางอยู่มาแล้วเริ่มนวดข้อมือนั่นด้วยตัวยาสมุนไพรอย่างแผ่วเบา

“เจ้าไม่ต้องกังวลไปข้าไม่ได้เดือดร้อนอันใดที่มาวันนี้ก็แค่อยากเอากำไรมาเปลี่ยนลาย แต่เจ้าสิ อย่าให้ข้าต้องพูดเลยนะ เจ้าควรจะรู้สถานการณ์ของตนเองดี” คุณหนูใหญ่บูโกหกคำโตจนสาวใช้ข้างกายค้อนให้วงใหญ่

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่เถ้าแก่หวางนำถุงเงิน 2 ใบเข้ามาในห้องรับรองหมายเลข 1 สองสาวยื้อยุดไปมาอยู่ชั่วครู่จนคุณหนูใหญ่บูเตือนให้รีบกลับบ้านไป่จินจึงจำใจต้องรับถุงเงินนั้นมาแล้วรีบไปเจียดยาจากร้านยาตระกูลเซียวโดยมิลืมใช้ผ้าปิดหน้าเพื่อปิดบังฐานะของตนเอง

“พี่ใหญ่ต้าข้ากลับมาแล้ว”

“ฮูหยินใหญ่ให้ท่านไปจบที่เรือนใหญ่” น้ำเสียงเคร่งขรึมไม่คุ้นเคยดังขึ้นหลังประตูหลังของจวนตระกูลไป่เปิดออก เสียงประตูเปิดไม่ต่างจากเสียงประตูนรก แม้จะต่อต้านเท่าใดไป่จินก็มิอาจปฏิเสธได้

“กลับมาแล้วรึนางตัวดี ข้าหรือเปิดโอกาสให้เจ้าใช้สมุนไพรในโกดังของตระกูลไป่ของเราเต็มที่แต่เจ้ากลับดิ้นรนออกจากเรือนไปอุดหนุนกิจการของคู่แข่ง” เสียงกดต่ำหวังข่มขู่ของฮูหยินใหญ่มิได้ทำให้ไป่จินกลัวแม่แต่น้อย แล้วก็เหมือนเจ้าตัวจะรู้ดี

“เอานางไปโบยตามกฎบ้าน อี๋เหนียงของนางด้วยไม่สั่งลูกให้ดีมีความผิดเท่ากัน เสร็จแล้วเรียกนายหน้ามาพาตัวไปขาย” แน่นอนว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเพียงข้ออ้าง นางมิเคยใจกว้างให้ไป่จินใช้สมุนไพรอย่างที่กล่าว เมื่อนังเด็กหัวรั้นนี่เปิดช่องให้เอาผิด กฎบ้านจึงถูกยกมาอ้างเพื่อใช้ในการจำใจหนามแทงใจทั้ง 2 คนแม่ลูกออกไปให้พ้นตา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 5 การเจรจา

    “ท่านแม่ข้ามีเรื่องจะปรึกษาเจ้าค่ะ” “มีอันใดเล่าอี้เอ๋อ” ฮูหยินใหญ่บูที่มีเพียงนามเพราะแต่งเข้ามาทีหลังเอ่ยถามคุณหนูใหญ่บูผู้เป็นธิดาคนโต “เรื่องที่ข้าเคยขอท่านเขาวัง ท่านแม่ตัดสินใจได้หรือยังเจ้าคะ” “อี้เอ๋อ หากไว้ทุกข์ให้ท่านพ่อเจ้าครบ 3 ปี ข้าก็จะขอแยกไปอยู่บ้านสวน เจ้าเอาเงินส่วนนี้ไปเก็บไว้เป็นสินเดิมมิดีกว่าหรือ” เข้าวังไหนจะต้องมีเสื้อผ้าเครื่องประดับแล้ว ฮวยซวง ก็เป็นหูเป็นตาแทนบุตรสาวไม่ได้ ฮูหยินใหญ่กังวลยิ่งนักเพราะ วังหลัง ก็มิต่างจากถ้ำเสือวังมังกรตัวนางเองกว่าจะหลุดออกมาได้นั้นก็มิใช่ง่าย “ท่านแม่ มีสินเดิมก็คือต้องแต่งงาน แต่งกับใครก็มีอนุกันทั้งนั้น จะมีอะไรต่างกัน หากข้าเข้าวังยังมีโอกาสได้เป็นกุ้ยเฟย หรือกระทั่ง....” แม้จะกล่าวออกมาไม่หมดแต่การคิดการใหญ่เช่นนั้นก็เป็นที่น่าตกใจไม่น้อย “แล้วสาวใช้ติดตามเจ้าเล่า” ด้วยพวกนาง 2 คนแม่ลุกเคยถกเรื่องนี้กันมาหลานหน ฮวยซวงมีนิสัยโอหัง ไม่เหมาะเป็นสาวใช้ติดตาม แต่พวกนาง 2 คนก็ยังมองไม่เห็นใครที่มีคุณสมบัติที่ดีพอ ก็อย่างที่บูอี้กล่าว แต่งกับใครก็ต้องมีสาวใช้ติดตามอยู่

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนนี่ 4 แสวงหา

    “ท่านยายจางเล่า” หลังจากทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดจากความทรงจำขอเจ้าของร่างเดิมจนหลับไปจริงๆ จินนี่ที่เคยอ่านนิยายจีนแนวข้ามภพมาบ้างก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ตนเองมากขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือตามหาผู้มีอำนาจให้ได้เกาะขอทองคำ ในเมื่อมาเกิดใหม่ในรัชสมัยของจักรพรรดิถังไท่จงทั้งทีคนต่อไปที่จะครองราชย่อมต้องเป็น บูเชคเทียน แล้วจะไปตามหาได้ที่ไหนกันนะ “ฟื้นแล้วรึอาจิน” เมื่อได้ยินเสียงยายจางก็ขานรับทันใดเพราะตอนนี้นางได้วางมือจากงานครัวลงบ้างแล้ว จึงมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นและสามารถเฝ้าไข้คนเจ็บในความดูแลทั้ง 2 ได้อย่างเต็มที่ “ท่านยายฮูหยินใหญ่จะให้นายหน้ามาดูพวกข้าเมื่อใดหรือ” จินนี่ผู้เกิดมาในยุคประชาธิปไตยมีหรือจะยอมถูกขายไปเป็นทาส นางถามเพียงเพื่อต้องการยื้อเวลาเท่านั้น “น่าจะอีกสัก 2-3 วัน รอให้สภาพพวกเจ้าดีขึ้นสักนิดเพื่อจะได้ขายออกไปง่ายๆ แต่เจ้าไม่ต้องห่วงไปข้าให้อาโกว่ไปแจ้งน้าชายเจ้าแล้วเขาคงจะกำลังหาวิธีช่วยเจ้าสองคนแม่ลูกออกไป” ท่านยายจางเอ่ยตอบยาวยืดหวังให้คนถามสบายใจ “ท่านยายเจ้าคะ ถ้าขอถามท่านสักหน่อยว่าตอนนี้เป็นรัชสมัยใดกันแน่”

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 3 จินนี่

    “ฮูหยินใหญ่ อี๋เหนียงไม่ผิด ข้าแอบออกไปเอง ข้าขอรับโทษโบยแทนนางเถิดเจ้าค่ะ” ไป่จินไม่อาจทำใจเห็นมารดาที่แสนจะบอบบางของนางถูกโบย 20 ไม้ได้ลงคอ ได้แต่กัดฟันขอรับไว้เอง “ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้กตัญญูต่อนางเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้เจ้าตายเสียไวๆจะได้ไม่ต้องถูกขายอย่างไรเล่า ลาก่อนนังตัวเสนียด” ด้วยมั่นใจว่าโดนโบย 40 ไม้ครานี้ไป่จินต้องมิรอดแน่จึงได้พูดจาทำร้ายจิตใจนางเสียให้เต็มที่แล้วเดินจากไป “พี่ใหญ่ต้า ท่าน...” ไป่จินพูดไม่ออกเมื่อเห็นร่างใหญ่ที่ถูกมัดอยู่บนม้ายาว เมื่อนางถูกกดให้นอนลงบนม้ายาวอีกตัวที่วางข้างกัน “ไม่ต้องพูดอันใด หายใจเข้าออกลึกๆ อย่าเกร็งต้าน” 3 ประโยคสั้นๆ ก่อนที่ไม้โบยหนาหนักและแบนกว้างจะฟาดลงมาที่บั้นท้ายของทั้ง 2 ไม่มีเสียงอ้อนวอนจากริมฝีปากบาง แม้เสียงสะอื้นก็มิมี เพียงแต่ริมฝีปากบางนั้นแตกและมีรอยเลือดหยาดหยดจนบ่าวไพร่ที่เคยได้รับความช่วยเหลือสงสารจนน้ำตาอาบหน้าไปตามๆ กัน “ปล่อยข้า ปล่อยข้า ข้าจะรับโทษเอง” เสียงแหบแห้งดังมาตามทางซึ่งบ่าวไพร่สตรีล้วนพากันยื้อยุดมู่อี๋เหนียงไว้ไม่ให้ต้องเห็นภาพอันชวนสลดใจเบื้อง

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 2 คุณหนูใหญ่บู

    “เจ้าหรือคือคุณหนูใหญ่ตระกูลไป่ที่ช่วงนี้คนเค้าลือกันว่า...” คุณหนูบูเอ่ยถามแต่ก็มิได้จบประโยคเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอ่ยถามแต่แรก แต่เพราะความที่นางเป็นคนปากไวใจร้อน จึงอดเอ่ยปากถามไม่ได้ กว่าจะรู้สึกตัวก็เกือบจบประโยคเสียแล้ว “เรียกข้าว่าอาจินก็พอเจ้าค่ะคุณหนูบู เรื่องที่ท่านถามนั่นก็มิมีอันใดต้องปิดบัง ข้านั้นจะเรียกว่า ตกอับ อย่างที่ใครๆเขากล่าวถึงก็คงมิได้ เพราะตัวข้าเองมิเคยได้ถูกวางไว้บนที่สูงแต่อย่างไร ตำแหน่งคุณหนูใหญ่นั่นก็เป็นเพียงคำที่ฮูหยินใหญ่ใช้แดกดัน ใครๆในจวนไป่ต่างทราบดีว่าข้าก็มีชีวิตเทียบเท่าบ่าวไพร่ทั่วไปเท่านั้นเจ้าค่ะ” ไป่จินตอบคำถามครึ่งประโยคด้วยความในใจอันยาวเหยียด ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงได้ไว้ใจสตรีแปลกหน้าที่บังเอิญได้พบกันเพียงครั้งแรก หรือจะเป็นเพราะคุณหนูใหญ่บูตรงหน้าก็มีชีวิตไม่ต่างจากนางเท่าใดนัก “ข้าเข้าใจเจ้าดี อย่างไรเสียพวกเราก็มีชะตาต้องกันในเมื่อเจ้าไม่ให้ข้าเรียกว่าคุณหนู ก็จงเรียกข้าว่าพี่สาวเถิด เรามาเป็นพี่น้องกันน่าจะดี เพราะข้าเองก็มีเพียงน้องชายทั้งยังเล็กนัก จะพูดคุยอันใดก็ยังมิรู่ความ” คุณหนูใหญ่บูค

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 1 ไป่จิน

    “ท่านแม่ มู่อี๋เหนียง1 อาการไม่ดีเลยท่านช่วยให้คนตามหมอมาดูอาการนางหน่อยเถอะเจ้าค่ะ” ไป่จินคุกเข่าขอร้องแม่ใหญ่ หรือก็คือภรรยาเอกของบิดาที่เพิ่งจากไปของนาง “ยาในโกดังมีอยู่มากมาย เจ้าไปเอามาต้มให้นางกินซะก็สิ้นเรื่อง จะต้องตามหมอมาทำไมให้เปลืองเงินเปลืองทอง ไหนท่านพี่เอ็นดูเจ้านักหนาจนถึงขั้นสอนตำหรับยาให้มิใช่รึ ขนาดพี่ใหญ่เจ้าที่เป็นลูกเมียเอกอย่างข้าท่านพี่ยังไม่เคยสอนแม้สักครึ่งคำ ในเมื่อเก่งนักก็รักษานางเองสิ” หม่าซื่อตอบบุตรสาวของมู่เจี่ย อนุที่สามีนางทั้งรักทั้งหลง เมื่อสามีจากไปนางก็คิดกำจัดสองคนแม่ลูกในทันทีเป็นผลให้นางมู่เจี่ยต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ตัวไป่จินผู้เป็นบุตรสาวก็ไม่ค่อยดีไปกว่ากันมากเท่าใดต้องอดมื้อกินมื้อและทำงานหนักในจวนไม่ต่างจากบ่าวไพร่ “อาจิน อย่าไปรบกวนฮูหยินเลย ข้า... แค่กๆ ” เสียงแผ่วเบาดังมาตามทางเดินริมระเบียง เจ้าของเสียงอยู่ในสภาพหนังหุ้มกระดูกกำลังกระอักกระไอหลังจากเอื้อนเอ่ยได้เพียงแค่ครึ่งประโยค “อี๋เหนียงท่านออกมาจากห้องทำไม เดี๋ยวก็ต้องลมเย็นจนไอไม่หยุดอีก” ไป่จินถลาเข้าไปประคองผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้าด้วยความห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status