Share

ตอนที่ 3 จินนี่

last update Last Updated: 2025-08-05 02:14:08

          “ฮูหยินใหญ่ อี๋เหนียงไม่ผิด ข้าแอบออกไปเอง ข้าขอรับโทษโบยแทนนางเถิดเจ้าค่ะ” ไป่จินไม่อาจทำใจเห็นมารดาที่แสนจะบอบบางของนางถูกโบย 20 ไม้ได้ลงคอ ได้แต่กัดฟันขอรับไว้เอง

          “ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้กตัญญูต่อนางเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้เจ้าตายเสียไวๆจะได้ไม่ต้องถูกขายอย่างไรเล่า ลาก่อนนังตัวเสนียด” ด้วยมั่นใจว่าโดนโบย 40 ไม้ครานี้ไป่จินต้องมิรอดแน่จึงได้พูดจาทำร้ายจิตใจนางเสียให้เต็มที่แล้วเดินจากไป

          “พี่ใหญ่ต้า ท่าน...” ไป่จินพูดไม่ออกเมื่อเห็นร่างใหญ่ที่ถูกมัดอยู่บนม้ายาว เมื่อนางถูกกดให้นอนลงบนม้ายาวอีกตัวที่วางข้างกัน

          “ไม่ต้องพูดอันใด หายใจเข้าออกลึกๆ อย่าเกร็งต้าน” 3 ประโยคสั้นๆ ก่อนที่ไม้โบยหนาหนักและแบนกว้างจะฟาดลงมาที่บั้นท้ายของทั้ง 2

          ไม่มีเสียงอ้อนวอนจากริมฝีปากบาง แม้เสียงสะอื้นก็มิมี เพียงแต่ริมฝีปากบางนั้นแตกและมีรอยเลือดหยาดหยดจนบ่าวไพร่ที่เคยได้รับความช่วยเหลือสงสารจนน้ำตาอาบหน้าไปตามๆ กัน

          “ปล่อยข้า ปล่อยข้า ข้าจะรับโทษเอง” เสียงแหบแห้งดังมาตามทางซึ่งบ่าวไพร่สตรีล้วนพากันยื้อยุดมู่อี๋เหนียงไว้ไม่ให้ต้องเห็นภาพอันชวนสลดใจเบื้องหน้า

          “มู่อี๋เหนียงท่านอย่าทำให้อาจินต้องเป็นห่วงเลย”

          “เสี่ยวเมาเจ้าพานางกลับไปที่เรือนก่อน”

          ป้าจางหัวหน้าแม่ครัวซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของนายท่านไป่เห็นพวกนาง 2 แม่ลูกคล้ายลูกหลานมาตลอดสั่งให้หลานสาวพามู่อี๋เหนียงกลับเรือนเพราะรู้ดีแก่ใจว่าหากมารดาได้เห็นสภาพตรงหน้าของลูกสาว ร่างกายที่บอบบางและหัวใจที่เปราะบางนั้นอาจรับได้อีก จะไม่เป็นผลดีต่อทั้งแม่และลูกสาว

          “อร๊ายยยยยยยยยยย”เสียงเดียวและเสียงสุดท้ายจากปากไป่จินดังขึ้นเมื่อไม้ที่ 40 ถูกฟาดลงมา ก่อนที่ร่างบางจะสลบไป

          “พาตัวไปเรือนข้าก่อน” ป้าจางรีบให้ลุกหลานสายตรงของนางเข้ามาประคองร่างทั้ง 2 คนออกไป ในยามนี้มีนางเป็นคนเดียวที่กล้างัดข้อกับฮูหยินใหญ่ เพราะนางกุมกระเพาะคนทั้งตระกูลไป่แห่งนี้อยู่ แม้ฐานะตอนนี้จะเป็นเพียงแม่ครัวใหญ่ แต่ดั้งเดิมนั้นนางเป็นถึงแม่นมของนายท่านไป่ครั้นเมื่อฮูหยินใหญ่แต่งเข้ามา

แม่นมจางจึงขอผันตัวไปเป็นแม่ครัวและนายท่านไป่ก็แต่งตั้งให้นางเป็นแม่ครัวใหญ่ของจวนแห่งนี้ อำนาจการออกรายการอาหารและจัดซื้อวัตถุดิบอยู่ในมือนางเพียงผู้เดียว แม่ว่านายท่านไป่จะจากไปแต่นายท่านรอง คุณหนูเล็กตระกูลไป่ก็ยังอยู่ข้างนางเสมอ

“ท่านย่า ยามาแล้ว”

“เจ้าทาให้นาง ส่วนต้าโก่วทาให้อาต้า” แม่ครัวจางสั่งหลานสาวและหลานชายให้ดูแลผู้บาดเจ็บทั้งสองคน

“ท่านย่า พี่จินนาง นาง...” เสี่ยวเมาตกใจจนปากสั้นพูดจาไม่เป็นคำเมื่อร่างบางตรงหน้าเย็นเฉียบ

“ไหนมาให้ข้าดูเอง” แม้จะเป็นแม่ครัวแต่นางเติบโตมาเคียงข้างอดีตนายท่านตระกูลไป่ วิชาแพทย์ของนางแม่จะเหมือนแมวสามขาไปบ้างแต่แค่จับชีพจรนางก็ทำได้อย่างแม่นยำไม่แพ้ใคร

“ตายละวา เสี่ยวเมาเข้ามานวดหัวใจให้นางเดี๋ยวนี้ นวดไปเรื่อยๆข้าจะกดจุดเหรินจงให้นางเอง” ด้วยอายุอานามของแม่ครัวจางหากให้ต้องออกแรงนวดหัวใจยามนี้คงได้ไปเยี่ยมประตูผีทั้งคนป่วยทั้งคนช่วย นางจึงต้องเรียกเสี่ยวเมาหลานสาวมาช่วยทำแทน

“โอ้ย เจ็บๆๆๆ พวกเธอทำอะไรเนี่ย จะฆ่ากันหรืองัย” ร่างบางตรงหน้าทะลึ่งพรวดขึ้นมาเมื่อเสี่ยวเมาลงมือนวดหัวใจไปเพียงคราเดียว แม่ครัวจางยังมิทันกดจุดเหรินจงให้นางด้วยซ้ำ

“อาจินเจ้าฟื้นแล้ว”

“ใครคืออาจิน ถ้าจะเรียกชื่อเล่นก็เรียกว่า จินนี่ เถอะค่ะ” ไป่จินที่เพิ่งฟื้นขึ้นมากลับมีท่าทีและคำพูดแปลกๆ

“เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง เจ็บที่ใดบ้าง” แม่จะรู้ว่าบั้นท้ายงามนั้นแทบแตกสลายแต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีอาการช้ำในด้วยหรือไม่เพราะไป่จินไม่กระอักเลือดแม้เพียงหยดจึงต้องถามเพื่อตรวจอาการตามหลักการซักประวัติและการตรวจร่างกายแบบองค์รวมได้แก่ การดู (มอง), การฟัง (และดมกลิ่น), การถาม, และการสัมผัส (แมะ หรือการจับชีพจร)

“โอ้ยยยยย แหวะ อ้ว.........” ยังพูดได้ไม่กี่คำ เจ้าของร่างก็อาเจียนเอาเลือดดำออกมาเสียจนหมดไส้หมดพุง ในขณะที่กำลังขับของเสียออกนั้นภาพความทรงจำมากมายกลับไหลบ่าเข้าสู่จิตสำนึกของ จินนี่ จินตนา ไป่ตระกูล หญิงสาวจากยุค 5Gที่เพิ่งประสบอุบัติเหตุ เบาะลมที่ใช้รองรับนักแสดงในฉากบู๊ฉีกขาดจนร่างล่วงกระแทกพื้นซีเมนต์เป็นเหตุให้ดวงจิตของนางล่องลอยเข้ามาอยู่ในร่างนี้อย่างมิรู้ที่มาที่ไป

“เฮือก” เมื่ออาเจียนจนหมด เรี่ยวแรงก็หมดตามไปด้วย จินนี่อาศัยจังหวะนี้ทบทวนสถานการณ์ของตนเอง อ่านนิยายข้ามภพมาก็มาก ดูรายการเกี่ยวกับประเทศนี้มาก็เยอะ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้ ยังไม่มีสาธารณรัฐด้วยซ้ำ มันยุคสมัยใดกันแน่นะ เจ้าของร่างไม่น่ารอดจากการขายไปเป็นทาส ต้องทำอย่างไรจึงจะรอดอีกทั้งยังมีมารดาของร่างนี้ที่ไม่สามารถปล่อยวางได้ ชาติก่อนเป็นเด็กกำพร้าหากินด้วยการเล่นกายกรรมโตมาจึงได้เดินสายสตั๊นแมนแลกความเสี่ยงกับค่าตอบแทนอันน้อยนิด แต่เธอก็ต้องทำเพราะเป็นรายได้เดียวที่พอจะช่วยให้เธอมีงานอย่างต่อเนื่อง

“กินยาก่อนเถิด ส่วนมู่อี๋เหนียงน่ะไม่ต้องห่วงช้าให้นางดื่มยาสงบใจแล้วพักผ่อนแล้ว เจ้าเองก็พักผ่อนเสียตื่นมาค่อยจิบน้ำแกง ข้าจะค่อยๆเคี่ยว ยามนี้ร่างกายบอบบางจะใส่โสมก็ยังมิได้เจ้าเองก็คงรู้ดี” แม่นมจางเข้าใจดีถึงความห่วงใยของไป่จินที่มีต่อมู่อี๋เหนียงมารดาบังเกิดเกล้า ส่วนจินนี่ก็อยากหาเวลาจัดระเบียบความคิดจึงได้หลับตาลงพักผ่อนอย่างว่าง่าย

          “เสี่ยวเมาเจ้าเฝ้านางไว้ ข้าจะไปดูอาต้าเสียหน่อย ท่าทางไม่เบาเช่นกัน” แม่ครัวจางสั่งหลานสาวมาเฝ้าไป่จินเพื่อป้องกันนางพลิกตัวหรือขยับร่างจนแผลที่พอกยาไว้ปริแตก

“ท่ายายจางมิต้องเป็นห่วงข้ายังไหว” อาต้าเอ่ยเสียงแผ่วบอกกล่าวต่อสตรีชราตรงหน้าที่เปรียบเสมือนท่านยายของตน เพราะมารดาของนางก็เติบโตมาภายใต้การดูของท่านยายจางและมู่อี๋เหนียง รวมถึงนายท่านไป่ก็เช่นกัน

          “เหอะหากยังไหวอยู่ก็จงบอกข้ามา เจ้าคิดจะทำอันใดต่อไป จะยอมถูกขายไปเป็นบ่าวหรือจะหนี ข้าจะได้สนับสนุนได้ถูก” เพราะไล่อาโก่วไปเฝ้าหน้าประตูเรือนไว้แล้วแม่ครัวจางจึงได้กล้าเอ่ยดังที่ใจต้องการ

“ท่านยายช่วยส่งคนไปแจ้งท่านน้ามู่ หาทางซื้อมู่อี๋เหนียงไปเสียแต่อย่าออกหน้าด้วยตนเอง ฮูหยินใหญ่ไม่มีทางปล่อยให้พวกนางกลับไปอยู่กับคนในครอบครัวเป็นแน่ ส่วนตัวข้าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่ต่างกัน บางทีที่อื่นอาจจะดีกว่าที่นี่เสียด้วยซ้ำ” พี่ใหญ่ต้าหรือไป่ต้าได้แต่บอกท่านยายจางไปตามที่คิด เพราะอีก 2 นางเป็นสตรีขอบบางหากถูกขายออกไปในจวนอื่นไป่จินอาจไม่มีชะตากรรมที่ดี อีกทั้งมู่อี๋เหนียงยังเจ็บไข้ใครจะซื้อนางไปรักษากันเล่า ส่วนตัวเขานั้นก็ตามที่พูด เป็นบ่าวตระกูลอื่นอาจจะมีค่ากว่าเป็นลูกเมียบ่าวในจวนที่เมียเอกจิตใจมืดบอดเช่นนี้

“เอาถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้นข้าจะให้อาโก่วไปส่งข่าวท่านน้ามู่ของพวกเจ้า” ในใจได้แต่ภาวนาว่าเจ้าใหญ่มู่จะสามารถซื้อตัวพี่สาวและหลานสาวของตนกลับไปได้ รวมถึงอาต้าที่เหมือนหลายชายอีกคนของเขาด้วย หากเขามิลืมบุณคุณที่มู่ฟางไถ่ตัวเขาจากตระกูลไป่ออกไปเสียก่อนน่ะนะ

“ขอบคุณท่านยาย ข้าขอพักสักหน่อยเถิด” อาต้าเสียงเริ่มงัวเงียเพราะยาที่ท่านายจางจัดให้นั้นผสมยาสงบใจเพื่อให้คนเจ็บไปพักผ่อนเต็มที่

*จุดเหรินจง จุดเหรินจง (人中) หรือที่รู้จักกันในชื่อจุดสุ่ยโกว (水沟) เป็นจุดฝังเข็มตามศาสตร์แพทย์แผนจีน โดยมีตำแหน่งอยู่บริเวณกลางร่องใต้จมูก (philtrum) ระหว่างส่วนบน 1/3 และส่วนล่าง 2/3 จุดนี้มีความสำคัญในการกระตุ้นการไหลเวียนของพลังปราณ (Qi) และช่วยฟื้นคืนสติในกรณีฉุกเฉิน เช่น หมดสติ หรืออาการช็อก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 5 การเจรจา

    “ท่านแม่ข้ามีเรื่องจะปรึกษาเจ้าค่ะ” “มีอันใดเล่าอี้เอ๋อ” ฮูหยินใหญ่บูที่มีเพียงนามเพราะแต่งเข้ามาทีหลังเอ่ยถามคุณหนูใหญ่บูผู้เป็นธิดาคนโต “เรื่องที่ข้าเคยขอท่านเขาวัง ท่านแม่ตัดสินใจได้หรือยังเจ้าคะ” “อี้เอ๋อ หากไว้ทุกข์ให้ท่านพ่อเจ้าครบ 3 ปี ข้าก็จะขอแยกไปอยู่บ้านสวน เจ้าเอาเงินส่วนนี้ไปเก็บไว้เป็นสินเดิมมิดีกว่าหรือ” เข้าวังไหนจะต้องมีเสื้อผ้าเครื่องประดับแล้ว ฮวยซวง ก็เป็นหูเป็นตาแทนบุตรสาวไม่ได้ ฮูหยินใหญ่กังวลยิ่งนักเพราะ วังหลัง ก็มิต่างจากถ้ำเสือวังมังกรตัวนางเองกว่าจะหลุดออกมาได้นั้นก็มิใช่ง่าย “ท่านแม่ มีสินเดิมก็คือต้องแต่งงาน แต่งกับใครก็มีอนุกันทั้งนั้น จะมีอะไรต่างกัน หากข้าเข้าวังยังมีโอกาสได้เป็นกุ้ยเฟย หรือกระทั่ง....” แม้จะกล่าวออกมาไม่หมดแต่การคิดการใหญ่เช่นนั้นก็เป็นที่น่าตกใจไม่น้อย “แล้วสาวใช้ติดตามเจ้าเล่า” ด้วยพวกนาง 2 คนแม่ลุกเคยถกเรื่องนี้กันมาหลานหน ฮวยซวงมีนิสัยโอหัง ไม่เหมาะเป็นสาวใช้ติดตาม แต่พวกนาง 2 คนก็ยังมองไม่เห็นใครที่มีคุณสมบัติที่ดีพอ ก็อย่างที่บูอี้กล่าว แต่งกับใครก็ต้องมีสาวใช้ติดตามอยู่

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนนี่ 4 แสวงหา

    “ท่านยายจางเล่า” หลังจากทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดจากความทรงจำขอเจ้าของร่างเดิมจนหลับไปจริงๆ จินนี่ที่เคยอ่านนิยายจีนแนวข้ามภพมาบ้างก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ตนเองมากขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือตามหาผู้มีอำนาจให้ได้เกาะขอทองคำ ในเมื่อมาเกิดใหม่ในรัชสมัยของจักรพรรดิถังไท่จงทั้งทีคนต่อไปที่จะครองราชย่อมต้องเป็น บูเชคเทียน แล้วจะไปตามหาได้ที่ไหนกันนะ “ฟื้นแล้วรึอาจิน” เมื่อได้ยินเสียงยายจางก็ขานรับทันใดเพราะตอนนี้นางได้วางมือจากงานครัวลงบ้างแล้ว จึงมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นและสามารถเฝ้าไข้คนเจ็บในความดูแลทั้ง 2 ได้อย่างเต็มที่ “ท่านยายฮูหยินใหญ่จะให้นายหน้ามาดูพวกข้าเมื่อใดหรือ” จินนี่ผู้เกิดมาในยุคประชาธิปไตยมีหรือจะยอมถูกขายไปเป็นทาส นางถามเพียงเพื่อต้องการยื้อเวลาเท่านั้น “น่าจะอีกสัก 2-3 วัน รอให้สภาพพวกเจ้าดีขึ้นสักนิดเพื่อจะได้ขายออกไปง่ายๆ แต่เจ้าไม่ต้องห่วงไปข้าให้อาโกว่ไปแจ้งน้าชายเจ้าแล้วเขาคงจะกำลังหาวิธีช่วยเจ้าสองคนแม่ลูกออกไป” ท่านยายจางเอ่ยตอบยาวยืดหวังให้คนถามสบายใจ “ท่านยายเจ้าคะ ถ้าขอถามท่านสักหน่อยว่าตอนนี้เป็นรัชสมัยใดกันแน่”

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 3 จินนี่

    “ฮูหยินใหญ่ อี๋เหนียงไม่ผิด ข้าแอบออกไปเอง ข้าขอรับโทษโบยแทนนางเถิดเจ้าค่ะ” ไป่จินไม่อาจทำใจเห็นมารดาที่แสนจะบอบบางของนางถูกโบย 20 ไม้ได้ลงคอ ได้แต่กัดฟันขอรับไว้เอง “ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้กตัญญูต่อนางเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้เจ้าตายเสียไวๆจะได้ไม่ต้องถูกขายอย่างไรเล่า ลาก่อนนังตัวเสนียด” ด้วยมั่นใจว่าโดนโบย 40 ไม้ครานี้ไป่จินต้องมิรอดแน่จึงได้พูดจาทำร้ายจิตใจนางเสียให้เต็มที่แล้วเดินจากไป “พี่ใหญ่ต้า ท่าน...” ไป่จินพูดไม่ออกเมื่อเห็นร่างใหญ่ที่ถูกมัดอยู่บนม้ายาว เมื่อนางถูกกดให้นอนลงบนม้ายาวอีกตัวที่วางข้างกัน “ไม่ต้องพูดอันใด หายใจเข้าออกลึกๆ อย่าเกร็งต้าน” 3 ประโยคสั้นๆ ก่อนที่ไม้โบยหนาหนักและแบนกว้างจะฟาดลงมาที่บั้นท้ายของทั้ง 2 ไม่มีเสียงอ้อนวอนจากริมฝีปากบาง แม้เสียงสะอื้นก็มิมี เพียงแต่ริมฝีปากบางนั้นแตกและมีรอยเลือดหยาดหยดจนบ่าวไพร่ที่เคยได้รับความช่วยเหลือสงสารจนน้ำตาอาบหน้าไปตามๆ กัน “ปล่อยข้า ปล่อยข้า ข้าจะรับโทษเอง” เสียงแหบแห้งดังมาตามทางซึ่งบ่าวไพร่สตรีล้วนพากันยื้อยุดมู่อี๋เหนียงไว้ไม่ให้ต้องเห็นภาพอันชวนสลดใจเบื้อง

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 2 คุณหนูใหญ่บู

    “เจ้าหรือคือคุณหนูใหญ่ตระกูลไป่ที่ช่วงนี้คนเค้าลือกันว่า...” คุณหนูบูเอ่ยถามแต่ก็มิได้จบประโยคเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเอ่ยถามแต่แรก แต่เพราะความที่นางเป็นคนปากไวใจร้อน จึงอดเอ่ยปากถามไม่ได้ กว่าจะรู้สึกตัวก็เกือบจบประโยคเสียแล้ว “เรียกข้าว่าอาจินก็พอเจ้าค่ะคุณหนูบู เรื่องที่ท่านถามนั่นก็มิมีอันใดต้องปิดบัง ข้านั้นจะเรียกว่า ตกอับ อย่างที่ใครๆเขากล่าวถึงก็คงมิได้ เพราะตัวข้าเองมิเคยได้ถูกวางไว้บนที่สูงแต่อย่างไร ตำแหน่งคุณหนูใหญ่นั่นก็เป็นเพียงคำที่ฮูหยินใหญ่ใช้แดกดัน ใครๆในจวนไป่ต่างทราบดีว่าข้าก็มีชีวิตเทียบเท่าบ่าวไพร่ทั่วไปเท่านั้นเจ้าค่ะ” ไป่จินตอบคำถามครึ่งประโยคด้วยความในใจอันยาวเหยียด ไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงได้ไว้ใจสตรีแปลกหน้าที่บังเอิญได้พบกันเพียงครั้งแรก หรือจะเป็นเพราะคุณหนูใหญ่บูตรงหน้าก็มีชีวิตไม่ต่างจากนางเท่าใดนัก “ข้าเข้าใจเจ้าดี อย่างไรเสียพวกเราก็มีชะตาต้องกันในเมื่อเจ้าไม่ให้ข้าเรียกว่าคุณหนู ก็จงเรียกข้าว่าพี่สาวเถิด เรามาเป็นพี่น้องกันน่าจะดี เพราะข้าเองก็มีเพียงน้องชายทั้งยังเล็กนัก จะพูดคุยอันใดก็ยังมิรู่ความ” คุณหนูใหญ่บูค

  • เจาะเวลาหาบูเชคเทียน   ตอนที่ 1 ไป่จิน

    “ท่านแม่ มู่อี๋เหนียง1 อาการไม่ดีเลยท่านช่วยให้คนตามหมอมาดูอาการนางหน่อยเถอะเจ้าค่ะ” ไป่จินคุกเข่าขอร้องแม่ใหญ่ หรือก็คือภรรยาเอกของบิดาที่เพิ่งจากไปของนาง “ยาในโกดังมีอยู่มากมาย เจ้าไปเอามาต้มให้นางกินซะก็สิ้นเรื่อง จะต้องตามหมอมาทำไมให้เปลืองเงินเปลืองทอง ไหนท่านพี่เอ็นดูเจ้านักหนาจนถึงขั้นสอนตำหรับยาให้มิใช่รึ ขนาดพี่ใหญ่เจ้าที่เป็นลูกเมียเอกอย่างข้าท่านพี่ยังไม่เคยสอนแม้สักครึ่งคำ ในเมื่อเก่งนักก็รักษานางเองสิ” หม่าซื่อตอบบุตรสาวของมู่เจี่ย อนุที่สามีนางทั้งรักทั้งหลง เมื่อสามีจากไปนางก็คิดกำจัดสองคนแม่ลูกในทันทีเป็นผลให้นางมู่เจี่ยต้องล้มหมอนนอนเสื่อ ตัวไป่จินผู้เป็นบุตรสาวก็ไม่ค่อยดีไปกว่ากันมากเท่าใดต้องอดมื้อกินมื้อและทำงานหนักในจวนไม่ต่างจากบ่าวไพร่ “อาจิน อย่าไปรบกวนฮูหยินเลย ข้า... แค่กๆ ” เสียงแผ่วเบาดังมาตามทางเดินริมระเบียง เจ้าของเสียงอยู่ในสภาพหนังหุ้มกระดูกกำลังกระอักกระไอหลังจากเอื้อนเอ่ยได้เพียงแค่ครึ่งประโยค “อี๋เหนียงท่านออกมาจากห้องทำไม เดี๋ยวก็ต้องลมเย็นจนไอไม่หยุดอีก” ไป่จินถลาเข้าไปประคองผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้าด้วยความห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status