แอเรียนคิดไม่ออกเหมือนกันว่ามาร์คกำลังคิดอะไรอยู่ เธอเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่ได้พูดถึงลูกเลย แต่พอนึกได้ว่าเขาเป็นคนที่เย็นชา ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น ผู้ชายแบบนั้นคงไม่คิดอะไรมากกับลูกจากสายเลือดตัวเองแค่คนเดียวหรอก เขาบอกว่าเขารักเธอ นั่นเป็นคำโกหกรึเปล่า? หรือ… นั่นมันเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว? ทิฟฟานี่ระบายความผิดหวังของเธอกับรถ Audi ตอนที่พวกเขาออกมาจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ “ถ้าฉันมีเงินมากพอที่จะปฏิเสธ ฉันจะไม่ยอมขับรถคันนี้อีก ใครอนุญาตให้มาร์คได้มีเงินเยอะขนาดนี้? ในเวลาแบบนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากว่าต้องก้มหัวยอมพวกคนเลว รวมถึงแม่ของฉันด้วย ขืนถ้าเธอยังอยู่ต่อที่บ้านเรา แม่จะต้องคิดทำอะไรไม่ดีอีกแน่ ๆ ถึงเวลานั้นเราอาจจะไม่มีปัญญาแก้ปัญหาที่แม่จะสร้าง ภายในวันสองวันฉันจะช่วยเธอหาห้องใหม่ มันจะดีกว่าหากเธอย้ายออก ฉันจะไปเยี่ยมเธอบ่อย ๆ และฉันจะคอยไปรับไปส่งเธอที่ทำงานทุกวัน ฉันไม่ได้พยายามจะไล่เธอออกนะ ; ฉันต้องบอกให้เธอเข้าใจฉันในจุดนี้ก่อน เธอรู้ว่าฉันทำเพราะหวังดีกับเธอใช่ไหม?”ครั้งนี้แอเรียนไม่ปฏิเสธความช่วยเหลือ การย้ายออกเป็นความคิดที่ดี แค่มีลิเลียนอยู่ด้วยทิฟฟานี่
มาร์คกัดฟันตัวเอง เขาไม่เคยนึกหาเหตุผลว่าทำไมแอเรียนจึงย้ายออกจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ 10 ปี เป็นเวลาที่นานมากที่เธอไม่ได้ออกจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ เลย แต่ตอนนี้เธอจะไปซะอย่างนั้น ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดว่าทำไม เขาไม่เคยขอร้องให้เธออยู่ต่อด้วยซ้ำ พอได้ฟังคำเตือนของแอรี่แล้วเขาถึงได้เข้าใจ เธอย้ายออกเพราะเรื่องที่พวกเขาทะเลาะกันเรื่องวิลจริง ๆ เหรอ? ดวงตาของแอรี่เป็นประกายด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะเมื่อเธอเห็นแววตาที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ บนใบหน้าของมาร์ค “โอเค พี่มาร์ค อย่าไปนึกถึงมันเลย ลองชิมของหวานที่ฉันเอามาให้ดีกว่า อร่อยนะ ฉันชอบขนมร้านนี้ตั้งแต่เด็ก ฉันจะอยู่รอพี่เลิกงาน หลังจากนั้นเราไปหาอะไรทานกัน ดีไหม?” มาร์คไม่ปฏิเสธขนมที่แอรี่ป้อนเขา แต่อย่างไรก็ตาม ขนมที่ควรจะมีรสชาติหวานกลับไร้รสชาติ อย่างกับว่าเขากำลังเคี้ยวยางอยู่ เฮเลนและฌอง คินซีย์ เดินตามกันออกมาจากสำนักงานกิจการพลเรือน “นี่คือ… จุดจบของเราจริง ๆ เหรอ?” ฌองพูดแบบไม่อยากจะเชื่อ พวกเขาใช้ชีวิตด้วยกันมามากกว่าครึ่งชีวิตของกันและกัน เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเฮเลน ที่แต่ก่อนเคยขาดเขาไม่ได้ จะเป็นคนยุติความสัมพันธ์นี้ เขานึกว่าเธอขอ
เฮเลนหยิบโฉนดทรัพย์สินและบัตรธนาคารออกจากกระเป๋าเงินของเธอ “นี่คือเงินออมของแม่ทั้งหมดที่แม่ออมไว้ระหว่างที่อยู่กับพวกคินซีย์ตลอดระยะเวลาหลายปีนี้ การหย่าร้างของแม่กับฌองนั้นจบด้วยดี บริษัทและบ้านเป็นของเขา ส่วนแม่ได้รับ 80% ของเงินออมทั้งหมดรวมกับอสังหริมทรัพย์อีกสองที่ แม่ให้ลูกหนึ่งหลังกับเงินอีกครึ่งนึงของทั้งหมด แม่ตั้งใจว่าเงินที่เหลือในส่วนของแม่ แม่จะเอาไปก่อตั้งบริษัทเอง เมื่อแม่ตาย บริษัทก็จะเป็นของลูก แม่ไม่ได้เก็บมาเยอะเพราะหลัง ๆ นี้พวกคินซีย์ก็ค่อนข้างแย่เหมือนกัน รายได้เดียวก็มาจากการพยายามทำงานร่วมกับมาร์คเพื่อเอาตัวให้รอด อย่าคิดมากกับเรื่องนี้เลย ตอนนี้ลูกกำลังต้องใช้เงิน”แอเรียนมองไปที่สิ่งของในมือเฮเลนแต่เธอไม่ได้ตอบรับทันที อสังหาริมทรัพย์คงจะมีมูลค่าอย่างน้อยสองสามแสน รวมถึงเงินในบัตรนั้นก็คงจะมีจำนวนไม่น้อยกว่ามูลค่าของอสังหริมทรัพย์ หากว่าพวกคินซีย์ไม่ได้ตกอับจำนวนเงินคงจะมากกว่าสองสามเท่า ใช่ สิ่งของเหล่านี้กำลังเป็นสิ่งที่เธอต้องการพอดี แต่ว่าเธอไม่ได้อยากได้มันจากเฮเลนในส่วนของเฮเลน แอรียนหวังว่าผู้หญิงคนนี้จะหายไปจากโลกนี้และไม่ติดต่อเธอกลับมาอีก นี่คือข
แอเรียนแซวเล่น “อาจจะเป็นเธอก็ได้ที่ได้แต่งงานกับเขา เธอจะได้กินและใช้จ่ายได้เต็มที่”ทิฟฟานี่หัวเราะ เสียงหัวเราะเธอฟังดูร้ายกาจนิดหน่อย “ฮ่าฮ่า… ตอนนี้กระเพาะฉันติดอาหารเขาไปแล้ว ฉันคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากจะเก็บเขาไว้ตลอดชีวิตเลย ดูสิ เขาทั้งสูง รวย และทำอาหารเป็นด้วย -- ผู้ชายแบบนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก? และบางทีฉันก็ฝันเห็นเขา… ฮิฮิ… โป๊ เขาแต่งตัวเทห์มาก เขาต้องหุ่นดีแน่ ๆ เมื่อเขาถอดเสื้อผ้าออกมา! โชคดีที่ฉันหลงเสน่ห์เขาเพียงเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นนะฉันกินเขาไปนานแล้ว!”แอเรียนขนลุก “โอ๊ย… เธอนี่นะ โอเค พอแล้ว ๆ ไปกินข้าวเถอะ”หลังจากที่ทิฟฟานี่วางสาย เธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังเธอในขณะที่เธอยังคงยิ้มเป็นนัย ๆ จากการคุยโทรศัพธ์ พอเธอหันไปดูเธอก็พบว่าแจ็คสันกำลังจ้องมองเธอด้วยความตะลึง เธอรู้สึกราวกับว่าเส้นเลือดในสมองกำลังจะแตก เขาได้ยินทุกอย่างเลย!“เอ่อ… ฉันแค่ล้อเล่นนะ…” เธอตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับความรู้สึกที่อายจนอยากจะมุดดินหนี“เอ่อ… ผมก็แค่เดินผ่านพอดี ทานอาหารให้อร่อยล่ะ ผมจะ… กลับไปที่ห้องทำงานผมแล้ว” แจ็คสันคงจะตกใจกับคำพูดที่ชัดเจนของเธอจนเขาต้องใช้เวลา
ไบรอันอึกอัก “ครับ นายท่าน ผมจะไปส่งนายท่านเดี๋ยวนี้”ไบรอันขับรถไปที่ที่พักของแอเรียน พอไปถึงไบรอันก็ช่วยพยุงมาร์คที่เมามากขึ้นไปที่ห้องของแอเรียน ไบรอันไม่กล้าเคาะประตูหนักเกินไปจึงเรียกเบา ๆ “นายหญิง นายท่านมาหา…”ไม่มีเสียงตอบรับจากในห้อง มาร์คจึงเคาะประตูดัง ๆ “เปิดประตู!” ไบรอันตกใจและรีบหยุดการกระทำของมาร์ค แอเรียนกำลังท้องอยู่ เธอคงจะไม่อาจรับมือกับความกลัวแบบนี้กลางค่ำกลางคืนได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเพราะสิ่งนี้มันจะสายเกินไปที่จะรู้สึกผิดในภายหลัง!แอเรียนตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะประตู เธอสอดดูที่ตาแมวก่อน เธอถอนหายใจเมื่อเห็นไบรอันกับมาร์ค ; เธอเปิดประตู ก่อนที่เธอจะทันได้พูดอะไร มาร์คก็โซเซมาหาเธอและกอดเธอไว้อย่างแน่นพร้อมกับพึมพัมอะไรบางอย่างที่ไม่อาจจับใจความได้“ผมไปก่อนนะ ฝากนายท่านด้วย” ไบรอันพูดเมื่อเห็นเช่นนั้นแอเรียนไม่ทันได้ตอบโต้ด้วยซ้ำก่อนที่ไบรอันจะปิดประตูแล้วหนีไป เธอเห็นได้ชัดว่ามาร์คเมามาก ด้วยความกังวล เธอจึงใช้มือนึงพยุงท้องตนเองและช่วยพยุงมาร์คอีกมือนึง “ช้า ๆ… ตามฉันมา…”ในตัวมาร์คยังมีเศษเสี้ยวของสติหลงเหลืออยู่ เขาจึงไม่ได้ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดของตัวเขา
แอเรียนล้มเลิกที่จะขัดขืน ไม่ว่าเธอจะพยายามเท่าไหร่ มาร์คจะไม่ยอมจนกว่าจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการ...การเคลื่อนไหวของมาร์คน่ากลัวพอ ๆ กับเสียงฟ้าร้องที่ทำให้หูหนวกได้ ในที่สุดทุกอย่างก็จบลงท่ามกลางเสียงสะอื้นของแอเรียนฝนหยุดตกในช่วงกลางคืนของวันนั้น ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นยามเช้าส่องแสงกระทบละอองฝน ทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก แอเรียนรู้สึกหวาดกลัวตลอดทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้นอนเลย เธอตรวจให้แน่ใจว่าลูกของเธอยังสบายดี แต่เธอก็ยังคงไม่พอใจในตัวมาร์คเธอไม่ได้เงียบในขณะที่เธอล้างหน้าแปรงฟัน ความเหนื่อยล้าและอาการแพ้ท้องทำให้พลังงานที่เหลืออยู่ของเธอหมดลงอย่างมากจนเธอไม่เหลือแรงแม้แต่จะก้มลงหยิบถ้วยที่ตกลงพื้น เธอไม่มีอาการแพ้ท้องมาก่อน แต่ดูหลังจากที่มาร์คมาสิ เธอคิดว่าเขาต้องมีผลกับเธอแน่ ๆ …ในที่สุดมาร์คก็ตื่นขึ้นเนื่องจากแอเรียนที่ส่งเสียงดัง เมื่อมองไปที่สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเขาก็เข้าสู่ความงุนงงชั่วขณะ ชิ้นส่วนความทรงจำของคืนที่แล้วผ่านเข้ามาฉายซ้ำในความคิดของเขา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามที่จะจำให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความทรงจำของเขาปฏิเสธที่จะกลับมาอย่างครบถ้วน แน่นอนว่าเขาจำสิ่งที่เขาพูดไม่ได้
แอเรียนถามอย่างสบายๆ “ใครส่งมาหรอ?”หญิงสาวตอบตามคำถาม “เขาแจ้งว่าชื่อไบรอันค่ะ”ไบรอันเหรอ แอเรียนปวดหัวเล็กน้อย วิธีการพูดของมาร์คตอนพูดกับเธอนั้นไม่ได้น่ารักเท่าไหร่นัก เธอไม่คิดว่าเขาจะขอให้ไบรอันมาส่งอาหารเช้าให้เธอด้วย แต่ถ้าเขาไม่ได้สั่ง ไบรอันคงจะไม่กล้าทำด้วยตนเองเป็นแน่ เธอเดาไม่ออกว่ามาร์คกำลังคิดอะไรอยู่อากาศนั้นร้อนมากขึ้นทุกวัน และอายุอาหารก็ลดลงไปเรื่อย ๆ เธอคงทานคนเดียวไม่หมด คิดได้เช่นนั้นเธอจึงแจ้งไปว่า “ฉันเอาแค่นี้ ที่เหลือก็เอาไปแบ่งกันนะ ยังไงฉันก็คงทานไม่หมดแน่ ๆ”หญิงสาวหน้าแผนกต้อนรับทำตามที่เธอบอกอย่างดีอกดีใจและเก็บของดี ๆ ไว้ให้เอริกโดยเฉพาะ ตอนที่เอริกเห็นป้ายบนกล่องอาหารเขาก็กระเดาะลิ้น “สงสัยจะคืนดีกันแล้ว ดูนี่สิ ส่งอาหารมาถึงที่ออฟฟิศด้วย…”“คุณนาธานเนียล ว่าอะไรนะคะ?” สาวแพนกต้อนรับถามด้วยความงุนงงเอริกส่ายหัว “ไม่มีอะไร กลับไปทำงานได้”เมื่อทำงานเสร็จสำหรับวันนั้นแล้ว แอเรียนไม่ได้ให้ทิฟฟานี่มารับ เธอเลิกงานเร็วกว่าปกติ เวลาจึงไม่ตรงกัน เลยไม่อยากทำให้วุ่นวายเมื่อแอเรียนเปิดประตูเข้าห้องเธอ เธอก็รับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ปกติข้าวปั้นจะต
เขามองไปที่เธอด้วยความสนใจในขณะที่เธอกำลังอุ้มข้าวปั้น มาร์ครู้สึกได้ถึงความน้อยใจของตนเอง มันดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนเดียวที่แอเรียนทำตัวไร้หัวใจใส่ แม้ขนาดเจ้าแมวน้อยยังได้รับความรักมากกว่ามาร์คมากแอเรียนไม่ค่อยกล้าที่จะขึ้นรถไปกับมาร์คเพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนกลัวเชื้อโรคและเป็นห่วงว่าขนของเจ้าแมวน้อยจะไปร่วงในรถ “ความจริงแล้วคุณไม่ต้องรีบมาก็ได้... วันนี้การให้น้ำเกลือก็ได้เสร็จไปแล้ว มันก็แค่ ฉันให้ยามันเองที่บ้านคนเดียวไม่ได้... และพรุ่งนี้ก็ต้องมาให้น้ำเกลือใหม่อีกรอบด้วย”มาร์คกระโดดออกจากรถและเอากระเป๋าใส่สัตว์เลี้ยงที่แอเรียนใส่ข้าวปั้นมาในตอนแรกและโยนมันเข้าไปในรถ “ฉันไม่มีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระของเธอหรอกนะ ขึ้นรถมา”แอเรียนตกใจ เธอเป็นห่วงว่าหากข้าวปั้นอยู่ข้างในนั้นจะเป็นยังไงบ้างหลังจากที่เขาโยนกระเป๋าแมวแบบนั้น แต่เธอก็ไม่กล้าเถียง อากาศวันนี้ร้อนและแห้งมาก ทำให้คนอารมณ์เสียได้ง่าย คนอย่างเขาไม่แปลกหรอกที่จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวพอกลับไปถึงที่พักมาร์คก็จัดการถอดเสื้อสูทของเขาและวางมันไว้บนโซฟาทันทีที่เขาเดินเข้าห้องพัก จากนั้นเขาก็จัดการพับแขนเสื้อตนเองขึ้น “มา”แอเรียนไ