นายาที่ตระหนักว่าตนเองเสียมารยาทจึงไม่ได้พูดอะไรอีกไม่นานนักรถของมาร์คก็มาจอดที่ด้านนอกของร้านกาแฟ ไบรอันลงจากที่นั่งคนขับและเดินเข้ามาโดยสั่งว่า “ขอขนมที่เป็นเมนูแนะนำของคาเฟ่นี้สองที่และอเมริกาโนสองแก้ว”อาหารสองชุดสำหรับมาร์คและเอลลี่แอเรียนขมวดคิ้ว “นี่ ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นคนขี้เหนียวถึงขนาดซื้อของสองชุดสำหรับคนสามคน” เธอเย้ยหยันโดยไม่รู้ตัวถึงความเย่อหยิ่งในน้ำเสียงของเธอไบรอันหลบสายตาของเธอด้วยการพยักหน้าเงียบ ๆ และห้วน ๆปฏิกิริยาของไบรอันทำให้แอเรียนเข้าใจผิด เขาเคยเรียกเธอว่า “นายหญิง” หรือแม้แต่ “คุณหญิง” ก่อนที่เธอจะแต่งงาน แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่และทำตัวห่างเหินราวกับว่าเธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนแปลกหน้าก็ได้ บางทีมันอาจจะถูกต้องในทางเทคนิคแล้วที่บริวารของครอบครัวเทรมอนต์จะปฏิบัติต่อเธอเหมือนคนแปลกหน้าในตอนนี้ แต่แอเรียนไม่คิดว่าสายสัมพันธ์ที่ทั้งคู่มีร่วมกันจะอ่อนแอ หากไบรอันมองเธอเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะต้องสั่นสะท้านเมื่อไปพบแมรี่และเฮนรี่อีกครั้ง พวกเขาจะปฏิบัติต่อเธอแตกต่างเหมือนกันไหม?ใช่ แอเรียนยอมรับมาเสมอว่าเธอเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ถูกรับเลี้ยงเข้ามาใน
นายาก็เห็นข่าวนั้นเช่นกัน มันกลายเป็นข่าวพาดหัวเลยทีเดียว ใคร ๆ ก็คงเห็นมัน “แอริ ฉันไม่ได้อยากจะยุ่งนะ แต่ ทุกคนเห็นมันหมดแล้ว มีอะไรในใจเธอรึเปล่า?”แอเรียนปิดโทรศัพท์ของเธออย่างเฉยเมย “ไม่ ฉันไม่สนใจ การแต่งงานของฉันกับเขาเป็นเปลือกที่ว่างเปล่าอยู่แล้ว”ไม่สนใจ? นายาไม่ได้เปิดโปงแอเรียน แต่แอเรียนมีคำว่า 'ฉันสนใจเป็นอย่างมาก' เขียนไว้บนใบหน้าของเธออย่างชัดเจน!บรรยากาศแปลก ๆ ปกคลุมร้านขนมตลอดทั้งเช้า ไม่มีใครกล้าล้อเล่นกับแอเรียนเหมือนปกติ แม้ว่าเธอพยายามอย่างหนักที่จะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทุกคนก็รู้ดีว่าเธอแค่แกล้งเฉย ๆ ท้ายที่สุด เธอเป็นคนที่จะปกปิดอารมณ์ได้ดีที่สุดแม้ว่าฟ้าจะถล่มจู่ ๆ หญิงสาวคนสวยคนหนึ่งก็เข้ามาในร้านในตอนบ่าย และปฏิกิริยาแรกของธัญญ่าคือการก้าวออกมาและพูดอย่างประหม่าว่า “ขนมของเราขายหมดแล้ว! ไม่มีเหลือเลย!”เอลลี่เหลือบมองไปที่ห้องครัว “ของหวานส่วนใหญ่ของคุณทำขึ้นใหม่หลังจากที่ได้รับคำสั่งทันที ลูกค้าที่นี่ยังเยอะอยู่เลย ทำไมถึงหมดทันทีที่ฉันเข้ามา? พวกคุณแค่ไม่ขายให้ฉันเหรอ?”ธัญญ่าโกหกได้แย่มาก เธอตื่นตระหนกและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรนายามีประสบการณ์มากกว่า
แอเรียนหรี่ตาลง "คุณพยายามจะสื่ออะไร? ในเมื่อคุณต้องการอยู่กับเขา คุณควรหวังให้เราหย่ากันโดยเร็วที่สุดเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเป็นเมียน้อยของเขาเพราะมันจะทำให้ชื่อเสียงของคุณเสื่อมเสียเท่านั้น ด้วยวิธีนี้ เราจะได้ประโยชน์ทั้งคู่ ถูกไหม? อีกอย่าง ฉันนึกว่าคุณแต่งงานแล้ว? คุณหย่าแล้วเหรอ?"ในขณะนี้ เอลลี่รู้สึกรำคาญ เธอได้ทุ่มเทในบทบาทของเธอในฐานะคนรักของมาร์คในช่วงเวลานี้อย่างเต็มที่ แต่แอเรียนดึงชีวิตแต่งงานของเธอเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าแอเรียนกำลังชี้ให้เห็นข้อบกพร่องของเธอ “นั่นเป็นเรื่องส่วนตัว หากคุณไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณก็บอกฉันมาตรง ๆ เลย”แอเรียนยิ้ม "ไม่เลย"เอลลี่กัดฟัน “ในเมื่อคุณไม่ได้รักเขาและเลือกที่จะทิ้งเขา ก็อย่าปล่อยให้เขาต้องรอสิ เลิกขาดกันไม่ดีกว่าเหรอ? จากนั้น คุณทั้งคู่ก็ไม่ต้องเสียเวลาและต่างคนก็ต่างสามารถใช้ชีวิตแยกทางกันได้”แอเรียนหยุดครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “นั่นเป็นเรื่องส่วนตัวเช่นกัน มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”เอลลี่ไม่ตอบ เธอหันหลังกลับและเดินจากไปด้วยใบหน้าบูดบึ้งโดยละทิ้งของหวานเธอสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้งเมื่อมาถึงที่สำนักงา
เธอกำลังจะกรีดร้องเมื่อได้ยินเสียงล็อคประตู แต่ทว่าก็มีมือใหญ่ ๆ มาปิดปากของเธอพลางทำให้เธอทำโทรศัพท์ตกพื้น ในเวลานี้ตัวเธอแข็งด้วยความกลัว ไฟยังถูกปิดอยู่เธอจึงมองไม่เห็นใบหน้าของชายคนนั้น ทั้งหมดที่เธอรู้คือ ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับการบุกเข้าบ้านมากมายและไม่มีข่าวไหนจบลงโดยดี เธอจำได้ว่าเธอพกเงินไม่มากนัก เธอมีเครดิตสองสามพันในบัตรเครดิตของเธอ แต่เธอไม่อยากมอบมันให้เขา ผู้บุกรุกจะโกรธและฆ่าเธอถ้าเธอปฏิเสธที่จะให้เงินเขาไหม?ชายคนนั้นเหวี่ยงเธอไปที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์หนัก ๆ บนร่างกายของเขา เธอจับที่หลังโซฟาอย่างหวาดกลัวเพื่อให้ตัวเองมั่นคงและฉวยโอกาสกัดแขนของชายคนนั้น ความเจ็บปวดทำให้เขาต้องปล่อยมือจากปากของเธอและเธอก็ร้องออกมาว่า “ฉันไม่มีเงิน! ปล่อยฉัน! ฉันสามารถให้รหัสบัตรเอมีเอ็มคุณได้และฉันจะไปหายืมเงินส่งให้คุณในวันพรุ่งนี้ อย่าฆ่าฉัน!”น่าแปลกที่ชายคนนั้นไม่ขยับและไม่ตอบเธอ เธอคิดว่าบางทีเขาอาจจะกำลังพิจารณาใหม่อยู่ เขาเลยสงบลง “ผู้หญิงที่อายุเท่าฉันใช้ชีวิตเดือนชนเดือน ฉันจะมีเงินได้อย่างไร? หากคุณกำลังวางแผนที่จะปล้น คุณมาหาผิดคนแล้ว และฉันก็ไม่ได้สวยขนาดน
เธอจะไม่ค้างคืนกับคนเมาที่ไร้เหตุผลแน่นอน ใครจะรู้ เขาอาจจะลองทำอะไรอีกครั้งก็ได้! หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็โทรหาไบรอัน “มารับเขาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะโยนเขาทิ้งที่ถนน หากมีใครเห็นภาพนั้น ครอบครัวเทรมอนต์จะต้องอับอายขายหน้า”จากนั้น เธอก็วางสายทันทีและเดินเข้าไปใกล้มาร์ค อย่างน้อยเขาก็ใส่กางเกงในอยู่ ด้วยวิธีนี้ ไบรอันจะไม่รู้สึกอึดอัดหรือเขินอายเมื่อมาถึงไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตู เธอจ้องไปที่ไบรอันที่ยืนอยู่หน้าประตูและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “คราวหน้า อย่าปล่อยให้เขาคลาดสายตาเมื่อเขาเมาอีก”ไบรอันดูเขินอายเล็กน้อย เขาก้มศีรษะลงและอธิบายว่า “ผมควบคุมไม่ได้ว่าคุณเทรอมนต์จะไปที่ไหน”เขาพูดถูก แอเรียนไม่รบกวนไบรอันมากนักและยืนอยู่ที่ประตูพลางรอให้เขาอุ้มมาร์คที่หมดสติไป เธอรอจนกว่าพวกเขาจะเดินออกไปก่อนที่จะปิดประตูเธอกลับไปที่ห้องของเธอและนอนลงบนเตียง เธอถอนหายใจยาวพลางรู้สึกเหมือนฝันร้าย ความอึมครึมในใจรบกวนเธอโดยปฏิเสธที่จะปล่อยเธอไปที่แย่ที่สุดคือหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแตก ตอนนี้โทรศัพท์ของเธอมีรอยร้าวขนาดใหญ่สองรอย โชคดีที่มันไม่ได้กระทบการทำง
เฮเลนยังคงมีรูปลักษณ์ของผู้หญิงที่มีตำแหน่งอาชีพสูง เธอแต่งตัวให้เหมาะสมในทุกโอกาส เธอดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าและรักษากริยาท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี ไม่มีช่องโหว่ให้เห็นบนใบหน้าของเธอเลย จึงยากที่จะอ่านอารมณ์ของเธอออก ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงไม่กล้าประเมินเธอต่ำเกินไป เธอวางมือบนโต๊ะและหยุดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า “แม่เสียใจมากสำหรับทุกสิ่งที่แอรี่และฌองทำกับลูก แม่คิดว่าแม่รับมือกับมันได้ไม่ดี”“ช่างมันเถอะ” แอเรียนตอบอย่างใจเย็น “พวกเขาไม่ได้รบกวนฉันมาสักพักแล้ว ช่วงนี้ค่อนข้างสงบ แต่เมื่อมีโอกาสฉันจะจัดการกับพวกเขา นั่นคือเหตุผลที่คุณมาที่นี่เหรอ?”ดวงตาของเฮเลนกวาดสายตาไปรอบ ๆ ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดว่า “ตอนนี้พวกเขาอยู่ในคุก คนหนึ่งถูกตัดสินจำคุกห้าปีและอีกคนถูกตัดสินให้จำคุกหนึ่งปี แม่เพิ่งรู้ไม่นานมานี้เอง มาร์คเป็นคนทำ แม่แน่ใจว่าลูกคงไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม?”แอเรียนตกใจมาก แต่เธอไม่แสดงมันออกมา ในเวลาเดียวกัน เธอเริ่มสงสัยในเหตุผลที่เฮเลนมาเยี่ยมในวันนี้ เนื่องจากเฮเลนได้นำเรื่องที่แอรี่และฌองติดคุกขึ้นมาพูด จึงชัดเจนว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยกันเฉย ๆ ณ จุดนี้ แอเรียนทราบถึงส่วน
หลังจากที่ครุ่นคิด แอเรียนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความหามาร์ค “เฮเลนมาหาฉัน ฉันรู้ว่าคุณส่งแอรี่กับฌองเข้าคุก คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น ฉันไม่ต้องการติดค้างคุณ ต่อจากนี้ไป ปัญหาของฉันไม่ใช่เรื่องของคุณ”คำตอบตามมาในไม่ช้า “ตราบใดที่เธอเป็นของฉัน ปัญหาของเธอก็จะเป็นเรื่องของฉันเสมอ เธอกล้าที่จะส่งข้อความถึงฉันแทนที่จะบอกต่อหน้าฉันงั้นเหรอ?”เธอปิดโทรศัพท์และตรงไปที่เตียง เธอปฏิเสธที่จะตอบข้อความของเขาและเธอไม่กล้าที่จะเผชิญหน้าเขาด้วย เธอไม่ได้ส่งข้อความนั้นไปเพื่อบอกให้เขาปล่อยแอรี่กับฌอง เธอเพียงต้องการให้เขาเลิกยุ่งกับปัญหาของเธอ เธอจะได้พักจากเขาโดยดีหรือไม่?...เมืองหลวงทิฟฟานี่ต้องเจอกับกำแพงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เธอไปสมัครงานในบริษัทต่าง ๆ จนเธอเริ่มกังวล เธอเพิ่งก้าวเข้ามาในบ้านและสัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นจากเครื่องปรับอากาศพลางรู้สึกสดชื่นมากจนเธอรีบเตะร้องเท้าออกจากเท้าและเดินไปที่โซฟาอย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะทันได้นั่งลง ลิเลียนก็หยุดเธอ “อยู่ให้ห่างจากโซฟา ไปอาบน้ำก่อน ฉันเพิ่งซื้อโซฟานี้มา มันแพงมาก อย่าแม้แต่กล้านอนบนมันกับร่างกายที่เหงื่อโซกของเธอ เธอออกไ
แจ็คสันยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาจ้องมองไปที่ทิฟฟานี่และใส่แว่นกันแดดของเขาโดยไม่ตอบสนองต่อเธอ น่าเสียดายที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ตัวต่อพฤติกรรมแปลก ๆ ของเขาโดยสิ้นเชิง เธอเดินไปจับแขนเขา “ฉันโอนเงินให้คุณแล้วนะ คุณได้รับมันหรือยัง? คุณวางแผนที่จะอยู่กี่วัน? ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณได้ถ้าคุณวางแผนที่จะอยู่เป็นเวลานาน ฉันอยู่ได้เพียงสองวันก่อนที่ฉันจะต้องกลับไปหาทำงานต่อ”แจ็คสันเม้มปากและพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องรอผม” หลังจากที่พูดจบเขาก็เดินไปที่บูธขายตั๋วในเวลานี้ ในที่สุด ทิฟฟานี่ก็ตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอวิ่งเข้าไปหาเขา "คุณเป็นอะไร? คุณดูไม่มีความสุขเลย”เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “สำคัญด้วยเหรอว่าผมจะมีความสุขหรือไม่? ตราบใดที่คุณมีความสุขมันก็ไม่สำคัญหรอก”ระฆังเตือนภัยดังขึ้นในหัวของทิฟฟานี่ทันที "เดี๋ยวก่อน! คุณหมายความว่าอะไร? ทำไมมันฟังดูเหมือนฉันทำให้คุณโกรธ? คุณเป็นผู้ชายนะ ทำไมต้องงอแงเหมือนผู้หญิงด้วย? แค่บอกฉันว่ามีอะไรผิดปกติ เราจะได้แก้ไขมัน”แจ็คสันไม่มีอารมณ์ที่จะพูดถึงเรื่องผิดปกติในสนามบินที่มีผู้คนพลุกพล่าน ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ใช่คนที่ชอบทะเล