Accueil / อื่น ๆ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / บทที่ 122: เสียงของพระที่เงียบงัน

Share

บทที่ 122: เสียงของพระที่เงียบงัน

Auteur: mafath9
last update Dernière mise à jour: 2025-07-07 16:42:34

เสียงของพระที่เงียบงัน

บ้านหลังเล็กใต้เขาตะวันตก อยู่ห่างจากศาลาเงาไปครึ่งวันเดินเท้า ไม่มีระฆัง ไม่มีแท่น ไม่มีธูปสักดอก

แต่ภายในบ้านไม้หลังนั้น มีโต๊ะหนึ่งตัว ตะเกียงน้ำมันหนึ่งดวง และสมุดวางเรียงอยู่สิบห้าเล่ม — หน้าปกเป็นเพียงผ้าขี้ริ้วพันไว้ ไม่ต่างจากผ้าพันแผลของคนเจ็บ

ฮากุโร่ไม่ได้พูดอะไรเลย นับแต่เขาก้าวเข้าสู่บ้านนั้น

เขานั่งลงอย่างเงียบ ๆ

ข้างหน้าเขา…คือหญิงชราเงียบงันผู้หนึ่ง

และสมุดเล่มหนึ่ง…ซึ่งเปิดค้างไว้ที่หน้าเก่า

หน้าแรกเขียนด้วยลายมือที่สั่น…แต่มั่นคง

ว่า…

“วันที่ข้าฟังชื่อของคนตาย โดยไม่ต้องรู้ว่าพวกเขาเคยเป็นอะไร…”

สมุดนั้น…เป็นบันทึกของพระคันริว


หญิงชราในบ้านนั้น…เคยเป็นพระลูกวัดของโฮเซ็นจิ

ชื่อของเธอคือ อุเมะ

เธอไม่เคยเทศน์

แต่เธอเคยล้างชามให้คันริวทุกเช้า

เคยฟังเขาพึมพำบทสวดเก่าจนเคลิ้มหลับในคืนฤดูหนาว

และเคยเห็นเขาร้องไห้…หลังฟังเด็กชายอ่านชื่อพ่อ

“เขียนไว้หมดเลยหรือ” ฮากุโร่ถามเบา ๆ ในที่สุด

อุเมะพยักหน้า ช้า ๆ

ก่อนจะหยิบสมุดอีกเล่ม วางไว้ต่อหน้าเขา

“เล่มนี้เขาเขียนไว้ หลังจากเผาตำราเล่มสุดท้าย”

ฮากุโร่เปิดดู

หน้าที่สอง เขียนว่า…

“เมื่อไม่เหลืออะไรให้เทศน์

จึงเริ่มเรียนรู้การฟัง”


สมุดนั้น…ไม่ใช่เพียงบันทึกของพระ

แต่มันคือบันทึกของคนที่เคยศรัทธาในเสียงของตน

ก่อนจะยอมละเสียงตนนั้น เพื่อฟังเสียงของผู้อื่น

ฮากุโร่อ่านต่อ…ช้า ๆ ทีละหน้า

“ข้ารู้ว่าการสวดคือการรักษา

แต่ข้าพบว่า การฟัง คือการรักษาโดยไม่ล่วงละเมิด”

“เด็กบางคนพูดชื่อพ่อแม่โดยไม่ร้องไห้

แต่ข้าร้อง…เพราะข้าเคยสวดให้ศพคนมากมาย

โดยไม่เคยรู้จักชื่อพวกเขาเลย”

“ในเสียงของคนอื่น ข้าพบตัวเองอีกครั้ง

ไม่ใช่ในคำสวด

แต่ในความเงียบระหว่างคำพูด”


ฮากุโร่วางสมุดลง เขาหลับตา

นานมาก…

ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ ว่า

“เขาฟังมาก…จนตัวเองกลายเป็นความเงียบ…”

อุเมะหัวเราะเบา ๆ

“แต่ความเงียบนั้น…ดังที่สุดในวัดโฮเซ็นจิ”


หลังเผาตำรา คันริวไม่ได้หายไปจากโลก

แต่เขากลายเป็นบุคคลที่ผู้คนมาหา…เพื่อไม่ให้พูด

เพียงให้ฟัง

มีหญิงหม้ายผู้หนึ่ง เดินข้ามเขาสามลูกมา

เพื่อเล่าเรื่องลูกชายที่ตายในสงคราม

เธอเล่าว่า…ลูกของเธอเขียนกลอนทุกคืน

แต่ไม่มีใครเคยอ่านมัน เพราะไม่มีพระคนใดเปิดอ่านสมุดที่ไม่มีตรา

คันริวเปิดอ่านกลอนนั้น

นั่งฟังเธออ่านออกเสียง

แล้วจดชื่อของลูกเธอลงสมุด

ใต้บรรทัดนั้น…เขาเขียนว่า

“เสียงของเขาไม่ใช่ของข้า

ข้าจึงให้มันอยู่ในโลก…โดยไม่ตีความ”


อีกวันหนึ่ง

เด็กชายในหมู่บ้านหนึ่งที่เคยถูกห้ามเข้าใกล้วัด

เดินเข้ามาหาคันริว

เขาบอกว่า…อยากให้ชื่อของแม่ที่ตายตอนคลอดเขา

ถูกเขียนไว้ในสมุด

แต่เขาไม่รู้ชื่อแม่

คันริวไม่ถามต่อ

เขาเพียงให้เด็กคนนั้นหลับตา

แล้วพูดออกมา…ว่าแม่เคยทำอะไร

เด็กชายพูดว่า…

“เธอเคยร้องเพลงไร้คำ…ตอนข้าร้องไห้ในท้อง”

คันริวเขียนบรรทัดนี้ลงในสมุด

“เสียงแรกที่เด็กชายจำได้ คือเสียงที่ไม่มีคำ

และนั่น…คือชื่อของแม่เขา”


วันหนึ่ง

คันริวเขียนประโยคสุดท้ายในสมุดเล่มสุดท้ายของเขา

“เมื่อฟังจนครบทุกเสียง

ข้าจึงรู้ว่าไม่มีเสียงใดควรถูกลืม

แม้จะไม่ศักดิ์สิทธิ์…มันก็เป็นของมนุษย์”

และหลังจากนั้น

เขาหยุดเขียน

หยุดพูด

หยุดเทศน์

แต่ยังคงฟัง


อุเมะบอกกับฮากุโร่ว่า

ก่อนคันริวเสีย เขาขอเพียงสิ่งเดียว

“จงส่งสมุดของข้าให้กับคนที่เคยสวดมาก่อน

เพื่อเขาจะได้รู้ว่า บทใหม่…ไม่ต้องเริ่มด้วยคำ

แต่อาจเริ่มด้วยการฟัง”


ฮากุโร่มองสมุดสิบห้าเล่มตรงหน้า

เขานิ่ง…แต่น้ำตาซึม

เขาเคยเป็นขุนศึก

เคยสั่งฆ่าคนโดยไม่รู้ชื่อ

เคยผ่านสงครามที่เสียงตะโกนกลบเสียงร่ำไห้

วันนี้

เขาได้ฟังเสียงเหล่านั้น…ที่กลับมาอีกครั้ง

ในความเงียบของพระผู้เงียบงัน


คืนสุดท้ายนั้น

ฮากุโร่นั่งในศาลาเล็ก ๆ กับอุเมะ

เขาไม่ได้พูดอะไร

เพียงฟังเธออ่านบันทึกหน้าแล้วหน้าเล่า

และเมื่อดวงตะวันลับลงหลังเขา

เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ ว่า

“ข้าอยากเขียนบันทึกเล่มแรกของข้า…

ที่ไม่มีชื่อข้าเลย

แต่เต็มไปด้วยชื่อคนอื่น”


จบบท: เสียงของพระที่เงียบงัน

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 123: ศาสนจักรแตกเสียง

    ศาสนจักรแตกเสียง - พระหญิงไคเซ็นแปรพักตร์แคว้นตะวันตกเฉียงใต้ของโยะริมิยะ เป็นแคว้นที่แสงตะวันตกตกช้าที่สุดในทุกวัน และเป็นที่ตั้งของ “วัดซุยเร็นจิ” — สำนักของพระหญิงไคเซ็น ผู้ได้รับสมญา “ผู้สวดในเงาแสง”แต่ในวันหนึ่งของเดือนที่ไร้จันทร์เงากลับปรากฏบนใบหน้าของเธอพระหญิงไคเซ็น ยืนอยู่หน้าแท่นเทศน์ในวิหารกลางของศาสนจักรตะวันตกในมือเธอไม่มีตำราไม่มีลูกประคำไม่มีสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ใดมีเพียง สมุดฟัง เล่มเดียวที่ถูกห่อด้วยผ้าเก่ารอบตัวเธอ คือพระชั้นผู้ใหญ่ ศิษย์ในส

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 122: เสียงของพระที่เงียบงัน

    เสียงของพระที่เงียบงันบ้านหลังเล็กใต้เขาตะวันตก อยู่ห่างจากศาลาเงาไปครึ่งวันเดินเท้า ไม่มีระฆัง ไม่มีแท่น ไม่มีธูปสักดอกแต่ภายในบ้านไม้หลังนั้น มีโต๊ะหนึ่งตัว ตะเกียงน้ำมันหนึ่งดวง และสมุดวางเรียงอยู่สิบห้าเล่ม — หน้าปกเป็นเพียงผ้าขี้ริ้วพันไว้ ไม่ต่างจากผ้าพันแผลของคนเจ็บฮากุโร่ไม่ได้พูดอะไรเลย นับแต่เขาก้าวเข้าสู่บ้านนั้น เขานั่งลงอย่างเงียบ ๆ ข้างหน้าเขา…คือหญิงชราเงียบงันผู้หนึ่ง และสมุดเล่มหนึ่ง…ซึ่งเปิดค้างไว้ที่หน้าเก่า หน้าแรกเขียนด้วยลายมือที่สั่น…แต่มั่นคง ว่า…

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 121: พระที่ล้มแท่นของตน

    พระที่ล้มแท่นของตน — พระบางคนเผาตำราเก่าและฟังเสียงเด็กแทนในหุบเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของแผ่นดินโยะริมิยะมีวัดหนึ่งที่ชื่อว่า โฮเซ็นจิเป็นวัดไม้สูงเจ็ดชั้น ตั้งอยู่กลางผืนป่ามีระฆังทองแดงหนักเจ็ดร้อยชั่งมีตำราสวดร้อยกว่าเล่มมีพระผู้เฒ่าสามสิบรูปและคำสวดที่เหมือนกันหมดทุกเช้าเย็นแต่ในวันที่พระรูปหนึ่งเดินลงจากแท่นเอื้อมมือหยิบตำราหนึ่งมา…และวางมันลงในกองเพลิงตรงลานกลางวัดเสียงไฟที่แตกเปรี๊ยะ…เงียบกว่าการสวดพันบทพระที่ไม่สวดอีกต่อไปเขาชื่อว่า คันริวในสมัยหนุ่ม คันริวเป็นผู้เทศน์ที่เข้มงวดที่สุดในโฮเซ็นจิเขาสามารถท่องตำราสิบสามเล่มโดยไม่หยุดเขาเคยคัดลอกบทสวดด้วยหมึกดิบทุกคืนจนมือช้ำเขาเคยลงโทษพระลูกวัดที่ออกเสียงผิดด้วยการไม่ให้สวดหนึ่งสัปดาห์แต่เขาก็เป็นคนเดียวที่ทุกคืน…นั่งอยู่ใต้ต้นสน นอกหอและจดสิ่งที่ไม่อยู่ในตำรา“เสียงที่แม่ร้องไห้”“คำสุดท้ายของเด็กที่ไม่มีพ่อแม่”“ชื่อที่ถูกลืมในพิธีศพ”“เรื่องเล่าในความเงียบที่ไม่มีใครอยากฟัง”เขาไม่เคยพูดถึงสมุดเล่มนั้นกับใครจนกระทั่งเด็กชายคนหนึ่งปีนข้ามกำแพงวัดมาในคืนฝนตกเด็กที่ไม่ต้องการให้ใครสวดให้พ่อเด็กคนนั้นชื่อว่า

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 120: แผ่นดินที่ไม่มีตำรา

    แผ่นดินที่ไม่มีตำรา – พื้นที่ที่ไม่มีศาสนจักรเข้าถึงเริ่มจัดพิธีฟังแทนศาสนาในแผ่นดินที่หมึกของตำราไม่เคยเปื้อนในหมู่บ้านที่พระไม่เคยสวดถึงในหุบเขาที่เสียงระฆังไม่เคยเดินทางไปถึงนั่นคือจุดเริ่มต้นของ “ศรัทธาที่ไม่มีตำรา”หรือที่คนบางกลุ่มเรียกกันเบา ๆ ว่า...“พิธีฟัง”หมู่บ้านอิวาเระ — ดินแดนที่ไม่เคยมีแท่นบูชาหมู่บ้านอิวาเระอยู่ลึกในหุบเขาโซเซ็นต้องข้ามหินร้อยลูก ต้องเดินผ่านป่าไร้ทางไม่มีวัดไม่มีศาลเจ้าไม่มีพระไม่มีธงตระกูลมีเพียงกระท่อนไม้สิบห้าหลัง กับเสียงลมที่โหยหวนในคืนฝนตกแต่เมื่อข่าวของ “สมุดฟัง” แพร่ไปทั่วแคว้นหญิงชราคนหนึ่งในหมู่บ้าน — โยรุมิ — ตัดสินใจใช้ผ้าเก่าเย็บเป็นเล่มสมุดบนหน้าปก นางเขียนว่า“สำหรับชื่อที่ไม่มีใครฟังอีกแล้ว”ไม่มีพิธีเปิดไม่มีโฆษณาไม่มีคำประกาศจากตระกูลไม่มีบทสวดเริ่มพิธีแต่ในคืนเดือนดับชาวบ้านสิบหกคนรวมตัวกันใต้ต้นสนเก่าและเริ่มอ่านชื่อของคนที่จากไปในจังหวะที่ไม่เท่ากันในเสียงที่สั่นในอารมณ์ที่เปลือยเปล่าเด็กชายผู้ไม่เคยเห็นพระเด็กคนหนึ่งชื่อ “ชิน”อายุสิบขวบเขาไม่รู้ว่าพระคืออะไรไม่รู้ว่าพิธีกรรมต้องทำอย่างไรรู้เพียงว่าแม

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 119: พิธีจำที่ไม่มีผู้สั่ง

    พิธีจำที่ไม่มีผู้สั่ง – คนทั่วแผ่นดินเริ่มร่วมพิธีจำชื่อผู้ตายแบบไม่มีลำดับชั้นฤดูใบไม้ผลิในปีที่เรียกกันภายหลังว่า “ปีแห่งการฟัง” มิได้มาพร้อมเสียงนกร้อง หรือการเบ่งบานของซากุระเช่นทุกคราแต่มันเริ่มด้วยเสียงเรียกชื่อคนตายเสียงที่ไม่มีบทไม่มีผู้นำไม่มีธงและไม่มีคำสั่งลมจากภูเขาเหนือในหุบเขาอันห่างไกลทางตอนเหนือของแคว้นยามาโนะมีหมู่บ้านที่ไม่มีแม้แต่ชื่ออยู่บนแผนที่แต่กลับมีโต๊ะไม้เก่า ๆ ตัวหนึ่งตั้งอยู่กลางลานเปล่าบนโต๊ะวางสมุดเล่มหนึ่ง ปกหนังสีเข้ม ขอบลุ่ยเช้าของวันนั้นหญิงชราในชุดทอมือสีน้ำหม่นเดินมาช้า ๆเธอเปิดสมุดเขียนชื่อของน้องชายที่ถูกสังหารเมื่อห้าสิบปีก่อนแล้ววางดอกไม้แห้งหนึ่งดอกจากนั้น...ก็เดินกลับบ้าน โดยไม่พูดอะไรบ่ายวันนั้น เด็กวัยสิบสามเดินมาจากอีกหมู่บ้านเขียนชื่อของแม่ที่ไม่เคยพบแล้วนั่งอ่านชื่อทั้งหมดในสมุดเบา ๆ คนเดียวและเมื่อดวงจันทร์ลอยเหนือเงาไม้...โต๊ะนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้ที่ไม่มีใครรู้ว่าใครวางแต่ทุกดอกมีความหมายเท่ากันต่อให้วางด้วยมือที่เคยจับดาบหรือมือที่เคยล้างจานการเดินทางของสมุดภายในสัปดาห์เดียวโต๊ะแบบเดียวกันผุดขึ้นในอีกสามสิบหม

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 118: ผู้เงียบที่เริ่มพูด

    "ผู้เงียบที่เริ่มพูด” – คนเงียบในตระกูลใหญ่กลายเป็นผู้นำใหม่ลมฤดูหนาวร่วงผ่านยอดไม้ในเขตตะวันออกของแคว้นยามาโนะ เสียงของสายลมยังไม่ดังเท่าเสียงในใจคนที่กำลังเปลี่ยนไปณ ปราสาทฮิรายามะ ปราสาทที่สูงตระหง่านกลางหุบเขา เคยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของอำนาจเก่า ภายใต้การปกครองของตระกูลอาโออิ — ตระกูลที่ภายนอกดูแข็งแกร่งไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แต่ภายใน…เริ่มแตกร้าวโดยไม่มีใครกล้าเอ่ยชายหนุ่มนามว่า อาโออิ อาคินาริเขาเป็นบุตรคนรองของผู้นำตระกูลไม่มีตำแหน่งในสภาไม่มีบทบาทในกองทัพไม่มีเสียงในพิธีใหญ่และที่สำคัญ…ไม่มีใครเคยเห็นเขาพูดเกินสามคำในที่สาธารณะเขาคือ “คนเงียบ” แห่งตระกูลอาโออิแต่เมื่อเงาเริ่มเดินกลางเมืองเมื่อสมุดที่ไม่มีชื่อกลายเป็นสมบัติประจำหมู่บ้านและเมื่อเสียงของเด็กๆ แทรกซึมเข้าสู่ห้องที่เคยปิดตาย…เสียงของผู้เงียบ…เริ่มก้องดังกว่าธงใด เงาที่ไม่มีใครฟังอาคินาริเติบโตมาท่ามกลางคำสั่งของพี่ชายและกฎของบิดาเขาฝึกดาบตั้งแต่ห้าขวบอ่านตำราศาสนจักรตั้งแต่เจ็ดขวบและเรียนรู้วิธีไม่พูดตั้งแต่อายุเก้าขวบเพราะในบ้านของเขา การแสดงความเห็นถือเป็นความอ่อนแอการตั้งคำถามคือการทรยศและการพูดถ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status