Home / อื่น ๆ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / สมุดที่ถูกเผาไม่หมด – เมื่อลมหายใจกลายเป็นหมึกในยุคที่คำคืออาวุธ

Share

สมุดที่ถูกเผาไม่หมด – เมื่อลมหายใจกลายเป็นหมึกในยุคที่คำคืออาวุธ

Author: mafath9
last update Last Updated: 2025-06-30 03:40:48

สมุดที่ถูกเผาไม่หมด – เมื่อลมหายใจกลายเป็นหมึกในยุคที่คำคืออาวุธ

กลางลานศาลาในหมู่บ้านโคะซึคิ

กองไฟยังคงลุกโชน

เศษกระดาษดำเป็นเถ้า ลอยวนในลมค่ำ

สมุด “จำชื่อ” ทั้งสิบห้าเล่มถูกเผา

เหลือเพียงปกหนังไหม้เกรียมกับคำที่อ่านไม่ออก

แต่เด็กคนหนึ่งชื่อ “ฮินาโอะ”

ยังคงนั่งเขียนด้วยไม้เถาเล็ก ๆ บนดิน

“ข้าอาจไม่รู้ว่าคำสวดว่าอย่างไร

แต่ข้ารู้ว่าแม่เคยพูดกับข้าแค่สองคำว่า

‘อย่าลืมนะ’ ”

เขาเขียนซ้ำ ๆ บนพื้น

แม้รู้ว่าไฟจะลามมาอีก

แม้รู้ว่าคำจะถูกเหยียบจนจมหาย

ที่ชายป่าทางเหนือ

พระหนุ่มจากกลุ่มโยรุโนะมิโกะ

รวบรวม “เถ้ากระดาษ” จากที่ต่าง ๆ

บดรวมกับหมึก

และเขียนคำบนผ้าเก่า

“นี่คือหมึกที่เกิดจากความจำ”

“ไม่ใช่หมึกจากต้นไม้ แต่จากเสียงร้องของคน”

เขามอบผ้าผืนนั้นให้หญิงชราผู้เคยถูกห้ามเรียกชื่อลูก

เธอใช้มันเขียนเพียงคำเดียว

“โทโมยะ”

แล้วร้องไห้เงียบ ๆ จนหมึกเปื้อนมือ

ข่าวลือเริ่มกระซิบผ่านหมู่บ้าน

ว่ามี “สมุดเถ้า”

ที่เขียนจากหมึกของคนที่ถูกลืม

สมุดเหล่านั้นไม่มีใครอ่านออกหมด

เพราะมันถูกเขียนด้วยเสียงสะอื้นมากกว่าภาษา

แต่ทุกหน้าคืออาวุธ

ที่ทำให้ศาสนจักรหวาดกลัวมากกว่าดาบใด

ฝ่ายศาสนจักรเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่

ไม่เผาสมุดอีก

แต่เผา “คนที่เขียน” แทน

เด็กชายในหมู่บ้านอาคิฮาระถูกพาไปสอบสวน

มือเขาถูกพันด้วยเชือก

แต่ในมืออีกข้างที่ยังเหลือ เขาเขียนด้วยนิ้วลงบนผิวของตัวเอง

“ข้ายังจำเขาได้”

“ตราบใดที่ข้ายังหายใจอยู่”

การเขียนด้วยลมหายใจ เริ่มกลายเป็นพิธีลับ

ในบางคืน ผู้คนรวมตัวกันใต้โคมเงา

แทนการสวด

พวกเขาจะพูดชื่อคนที่ถูกห้ามเรียก

พูดเบา ๆ จนแค่ลมหายใจก็เปลี่ยนเป็นเสียง

“มิเนะ…”

“โชจิ…”

“ยูนะ…”

“โอคุงิ…”

ไม่มีบท ไม่มีทำนอง

แต่ทุกชื่อคือดาบ

ที่ฟันลึกลงไปในกำแพงศาสนจักร

ฮากุโร่ ยืนอยู่ริมหน้าผา

ฟังเสียงสายลมพัดผ่าน

เขากล่าวกับซาโยะว่า

“เจ้ารู้ไหม อะไรที่เผาไม่หมด?”

“ไม่ใช่กระดาษ ไม่ใช่สมุด ไม่ใช่เทียน…”

“แต่คือคำที่เขียนซ้ำด้วยมือของคนที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไป”

ในหมู่บ้านหนึ่ง

เด็กที่เคยถูกห้ามเขียนชื่อ

ตอนนี้เป็นผู้นำพิธีเงียบ

เขามอบถ่านก้อนหนึ่งให้ทุกคน

แล้วพูดเพียงว่า:

“คืนนี้ เราไม่เขียนให้ใครเห็น

แต่เราจะเขียนเพราะเราอยากให้เขายังอยู่”

เถ้ากระดาษไม่ได้ส่องแสง

แต่มันระอุในใจ

เหมือนถ่านที่ยังไม่ดับ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทสนธิสัญญาเงา – เมื่อเงาเริ่มเป็นพันธมิตร

    บทสนธิสัญญาเงา – เมื่อเงาเริ่มเป็นพันธมิตรคืนเดือนดับใต้สะพานไม้เก่าที่เชื่อมเขตชายแดนสามแคว้นเงาของคนสิบกว่าคนประชุมโดยไม่มีโคมไฟมีเพียงเสียงลมหายใจ และกระดาษในมือผู้แทนจากตระกูลยามากาตะ, คุเสะ, ชิราโนะ, โทคิโนะ และมินาเสะรวมตัวกันในสิ่งที่ไม่ได้เรียกว่ากองทัพไม่ได้เรียกว่าสภาแต่พวกเขาเรียกว่า“วงแห่งการจดจำ”ไม่มีตราประทับไม่มีชื่อเจ้าภาพมีเพียงสิ่งเดียวที่ร่วมกัน — รายชื่อผู้ถูกห้ามพูดถึงจากศาสนจักรซาโยะนั่งเงียบในเงาข้างกายฮากุโร่ซึ่งยังคงปิดหน้าเธอพูดขึ้นเพียงประโยคเดียวเสียงนั้นเยือกเย็นแต่ชัดเจน“เราจะไม่สู้ด้วยดาบเราจะสู้ด้วยสิทธิในการเรียกชื่อผู้ตายว่า ‘มนุษย์’”ชายจากตระกูลโทคิโนะถาม“หากศาสนจักรตอบโต้มาด้วยไฟลุก… เราจะมีอะไรป้องกัน?”ฮากุโร่ยื่นผืนผ้าขาวให้บนผืนผ้านั้น มีชื่อหลายร้อยชื่อปักด้วยด้ายดำเขาพูดว่า“เราจะไม่ป้องกันแต่จะสะท้อนให้ทุกคนเห็นว่าไฟนั้นเผาอะไรอยู่จริง ๆ”บทสนธิสัญญาเงาถูกเขียนด้วยหมึกสีน้ำตาลแดงจากเปลือกไม้ไม่มีลายเซ็นไม่มีวันเวลาแต่ทุกคนในวงรู้ว่าคืนนี้... พวกเขาไม่ได้มาคุยแต่กำลังลงมือร่วมสร้างเงาให้มีร่างหนึ่งในนั้นเสนอ“เราจ

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”    ปราสาทโอซึกิยามะ – ห้องประชุมลับของเหล่าผู้นำ 12 ตระกูล

    ปราสาทโอซึกิยามะ – ห้องประชุมลับของเหล่าผู้นำ 12 ตระกูลใต้แสงเทียนที่สะท้อนแค่ครึ่งหน้าผู้นำจากตระกูลโทคิโนะ, ยามากาตะ, คุเสะ, ชิราโนะ และอีกเจ็ดสายเลือดล้อมวงอยู่ในห้องประชุมเงียบงันแผนที่แคว้นถูกคลี่บนพื้นรายชื่อ “ผู้สวดเงา” แผ่กระจายดั่งหมึกซึมบางรายชื่อถูกขีดฆ่าด้วยหมึกแดงบางชื่อ… ไม่มีแม้กระทั่งใบหน้าให้จดจำไดเมียวโทคิโนะ ผู้สูงวัยที่สุด มองผ่านแว่นกลมต่ำลงมากล่าวเสียงแผ่ว“สมัยข้า... เสียงที่ไม่มีบท คือเสียงกบฏ”“แต่ตอนนี้ ข้าเริ่มไม่แน่ใจว่าใครกันแน่ที่กบฏต่อมนุษย์”เจ้าแคว้นคุเสะ ผู้ขึ้นชื่อเรื่องกลยุทธ์ พูดพลางลูบบาดแผลเก่าบนฝ่ามือ“หากเราอยู่เฉย เท่ากับปล่อยให้ศาสนจักรทำลายความทรงจำของประชาชนด้วยตรายาง”“แต่นี่ไม่ใช่ศึกที่มองเห็นศัตรู”“นี่คือศึกกับความเงียบ”ผู้นำตระกูลยามากาตะ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ทหารของข้าสิบคนถูกสั่งให้จับเด็กหญิงอายุเจ็ดขวบ เพราะเธอเขียนชื่อแม่บนผ้า... แล้วมอบให้ลม”“ข้าถามตนเองว่า ข้ายังปกครองแผ่นดินอยู่ หรือข้าแค่รับใช้องค์กรที่กลัวชื่อมนุษย์”เกิดความเงียบอีกครู่หนึ่งก่อนที่หญิงผู้นำจากตระกูลชิราโนะ ผู้ขึ้นชื่อเรื่องวรรณกรรมและวิญญาณส

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   กองทัพไม่มีแม่ทัพ

    “กองทัพไม่มีแม่ทัพ” ผู้คนไม่มีหัวหน้า แต่ทุกชื่อที่เอ่ยออก… กลับเคลื่อนทัพได้จริงเสียงที่ไม่มีผู้นำ – เมื่อการจดจำไม่ต้องการธงกลางลานดินแห่งหมู่บ้านโฮรุมิเสียงสวดดังสลับเบาไม่มีเวทีไม่มีนักเทศน์มีเพียงวงคนเรียบง่าย ที่ยืนล้อมกันและสวด "ชื่อ"“อาคิระ…”“มาซาเอะ…”“ชิบุยะ…”“โคโตมิ…”ไม่ใช่บทสวดจากตำราศาสนาแต่เป็นชื่อคนธรรมดาที่เคยถูกสั่งห้ามเอ่ยที่หมู่บ้านฟูรานะชายชราเจ้าของร้านขายของเก่าตั้งกระดานไม้หน้าบ้านให้ทุกคน “ขีด” ชื่อที่อยากจดจำกระดานเต็มทุกวันชื่อที่เขียนด้วยมือไม้สั่นบางชื่อถูกลบแล้วเขียนซ้ำแต่ไม่มีใครถามว่าใครเริ่มเพราะไม่มีใครเริ่มไม่มีใครสั่งและไม่มีใครยอมให้มันหยุดศาสนจักรพยายามรับมือพวกเขาส่งพระรุ่นใหม่เสนอ “บัญชีชื่อที่อนุญาตให้สวด”รายชื่อที่ถูกกลั่นกรองผ่านพิธีผ่านตราประทับผ่านผู้นำที่อนุมัติแต่คนเงียบหญิงชราคนหนึ่งเงยหน้าจากผืนผ้า แล้วกล่าวว่า“ข้าสวด

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   เงาที่ไม่ต้องหนี – เมื่อผู้สวดเงาเริ่มเดินกลางเมือง

    เงาที่ไม่ต้องหนี – เมื่อผู้สวดเงาเริ่มเดินกลางเมืองในวันที่ฟ้าหม่นเหนือเมืองหลวงอิคุตะฝนโปรยบางเบาแต่ในสายตาของศาสนจักรเม็ดฝนกลับดูเหมือนเศษขี้เถ้าจากสมุดต้องห้ามเพราะผู้คนกลุ่มหนึ่งแต่งชุดเรียบง่าย สีเทาดั่งเงาเดินเรียงแถวเข้าสู่ใจกลางเมืองมือเปล่า ไม่มีอาวุธไม่มีแม้เสียงตะโกนพวกเขาถูกเรียกว่า "ผู้สวดเงา"ครั้งหนึ่งเคยแอบสวดในป่าเขียนบนผนังที่ไม่มีใครเห็นแต่วันนี้ พวกเขาเดินในถนนใหญ่สวด "ชื่อ" ของผู้ที่เคยถูกห้ามพูด“ยูซากุ…”“โฮชิเอะ…”“อายูมิ…”“ซาโฮะ…”แต่ละชื่อคือคำสวดแต่ละก้าวคือการต่อต้านไม่ใช่ด้วยดาบ แต่ด้วยการไม่หนีอีกต่อไปเด็กหญิงคนหนึ่งเขียนชื่อพ่อที่ตายเพราะถูกประณามว่า “ลืมบท”ลงบนผ้าสีขาว แล้วผูกกับไม้ไผ่เดินถือเข้าไปในตลาดใหญ่กลางวันแสก ๆไม่มีใครกล้าห้ามแม้เจ้าหน้าที่ศาสนจักรจะยืนอยู่แต่ดวงตาหลายคู่มองมาที่ไม้ไผ่นั้น… แล้วลดสายตาลงอย่างเงียบงันพระหนุ่มแห่งกลุ่มโยรุโนะมิโกะหยุดเดินกลางสี่แยกสวดชื่อเพื่อนที่เคยถูกลากออกจากหมู่บ้านไปโดยไม่มีคำอธิบายเขาพูดเพียงว่า“ศาสนาใดที่กลัวชื่อของผู้ตายคือศาสนาที่กลัวความจริงของผู้ยังมีชีวิต”คืนหนึ่งในศาลากล

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทสวดแห่งการซ่อน

    บทสวดแห่งการซ่อนเมื่อคำกลายเป็นอาวุธ คนจึงต้องซ่อนมันไว้ไม่ใช่แค่จากสายตาแต่จาก “หู” ของผู้คอยฟังเพื่อสั่งฆ่านี่คือยุคที่เสียงไม่เดินทางผ่านลมอีกต่อไปแต่มุดดิน แทรกหิน และซ่อนอยู่ใต้บาดแผลกำแพงที่ไม่มีหู – เมื่อคำถูกซ่อนไว้ใต้หิน ใต้ดิน ใต้ผิวหนังกำแพงหินโบราณที่เคยล้อมรอบศาสนสถานอามาเทระสุบัดนี้ถูกเรียกว่า "กำแพงที่ไม่มีหู"เพราะคำพูดใด ๆ ที่เอ่ยตรงนั้นจะไม่ถูกสอดแนมจะไม่ถูกฟังและจะไม่สะท้อนกลับมาในคืนหนึ่ง เด็กหญิงคนหนึ่งนำหินก้อนเล็ก ๆ ใส่ไว้ในถุงผ้าและกระซิบใส่หินก้อนละคำ:“พ่อ”“แม่”“ข้าไม่ได้ลืม”จากนั้น เธอฝังหินพวกนั้นไว้ใต้ต้นไม้ริมกำแพงไม่มีใครรู้ยกเว้นเธอ และคนที่เธออยากให้ยังมีตัวตนใต้ดินของหมู่บ้านทาคามิกลุ่มผู้สวดเงาจัดพิธีใหม่ชื่อว่า “การฝังคำ”ทุกคนจะเขียนคำหนึ่งคำใส่กระดาษแล้วกลืนมันเชื่อว่า“หากเขียนไม่ได้ ก็จงทำให้คำกลายเป็นเลือดของเราเอง”บางคนเขียนด้วยหมึกบางคนเขียนด้วยเลือดตนเองและบางคนไม่เขียนเลยแค่หลับตาแล้วนึกถึงชื่อที่เคยถูกห้ามพูดเพียงเท่านั้นคำก็กลายเป็นเปลวที่ซ่อนไว้ในอกมีเด็กชายคนหนึ่งในหมู่บ้านอิจิโนะที่ฝังคำลงบนแขนของตนเขาสั

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   สมุดที่ถูกเผาไม่หมด – เมื่อลมหายใจกลายเป็นหมึกในยุคที่คำคืออาวุธ

    สมุดที่ถูกเผาไม่หมด – เมื่อลมหายใจกลายเป็นหมึกในยุคที่คำคืออาวุธกลางลานศาลาในหมู่บ้านโคะซึคิกองไฟยังคงลุกโชนเศษกระดาษดำเป็นเถ้า ลอยวนในลมค่ำสมุด “จำชื่อ” ทั้งสิบห้าเล่มถูกเผาเหลือเพียงปกหนังไหม้เกรียมกับคำที่อ่านไม่ออกแต่เด็กคนหนึ่งชื่อ “ฮินาโอะ”ยังคงนั่งเขียนด้วยไม้เถาเล็ก ๆ บนดิน“ข้าอาจไม่รู้ว่าคำสวดว่าอย่างไรแต่ข้ารู้ว่าแม่เคยพูดกับข้าแค่สองคำว่า‘อย่าลืมนะ’ ”เขาเขียนซ้ำ ๆ บนพื้นแม้รู้ว่าไฟจะลามมาอีกแม้รู้ว่าคำจะถูกเหยียบจนจมหายที่ชายป่าทางเหนือพระหนุ่มจากกลุ่มโยรุโนะมิโกะรวบรวม “เถ้ากระดาษ” จากที่ต่าง ๆบดรวมกับหมึกและเขียนคำบนผ้าเก่า“นี่คือหมึกที่เกิดจากความจำ”“ไม่ใช่หมึกจากต้นไม้ แต่จากเสียงร้องของคน”เขามอบผ้าผืนนั้นให้หญิงชราผู้เคยถูกห้ามเรียกชื่อลูกเธอใช้มันเขียนเพียงคำเดียว“โทโมยะ”แล้วร้องไห้เงียบ ๆ จนหมึกเปื้อนมือข่าวลือเริ่มกระซิบผ่านหมู่บ้านว่ามี “สมุดเถ้า”ที่เขียนจากหมึกของคนที่ถูกลืมสมุดเหล่านั้นไม่มีใครอ่านออกหมดเพราะมันถูกเขียนด้วยเสียงสะอื้นมากกว่าภาษาแต่ทุกหน้าคืออาวุธที่ทำให้ศาสนจักรหวาดกลัวมากกว่าดาบใดฝ่ายศาสนจักรเริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status