Home / โรแมนติก / เด็กเสี่ย / บทที่ 16 ยังอยากได้แพงอยู่ไหม

Share

บทที่ 16 ยังอยากได้แพงอยู่ไหม

last update Last Updated: 2025-11-15 11:27:28

           ตึกร้างถูกตั้งเป็นบ่อนโดยมาเฟียตึกสีพ่น ที่ยึดมาครอบครองด้วยการแย่งชิงมาหลายต่อหลายมือ สิ่งนี้วัดกันด้วยชัยชนะ และเมื่อแก๊งนี้ปกครองยาวนานแบบไม่มีใครสามารถโค่นลง จึงย่อมมีผู้มั่งคั่งและอำนาจด้านมืดปกครองอีกที 

           แน่นอนหลายพรรคหลายพวกอยู่ได้เพราะมีเขา..อาคีรา  เนื่องจากอาชีพที่เขาทำมักต้องใช้เส้นสาย และการรู้จักเหล่าผู้มีอำนาจในพื้นที่ไว้บ้าง เปรียบเสมือนการปูทางให้กับเขา แต่นั่นก็ย่อมแรกมาด้วยเงินไม่ใช่น้อย

           “ไงพวก แพ้อีกแล้วสิมึง”

           เสียงใครคนหนึ่งกระตุ้นความเครียดของเพชรให้เผยออกมา หลังจากเก็บเอาไว้ในใจผ่านก็แต่สีหน้า

           “กูว่าพอแล้วมั้ง วันนี้มึงโชคไม่ดีว่ะ”

           มือสากใหญ่จับและกดบนบ่าแกร่ง แต่ถ้าเทียบกระดูกกันระดับเบอร์คงจะห่างกันหลายขนานอยู่ ทว่าเพียงแค่นั้นก็ทำให้เพชรหน้าซีดแล้ว

            “ขอแก้มืออีกสักตาได้ไหมพี่ คราวนี้ผมมั่นใจว่าจะได้คืน”

           การพนันไหลเข้าเส้นกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเลือด เขาจำไม่ได้ว่าเริ่มติดตั้งแต่ตอนไหน หากแต่วันใดไม่ได้เล่นราวกับขาดอะไรไปสักอย่าง

           “ได้ดิ แต่ไหนทุนมึงล่ะ” รองหัวหน้าแก๊งสีพ่นเอียงคอถาม ใบหน้าที่เรียบเฉยไม่สามารถคาดเดาความคิดได้เลย ไหล่แกร่งถูกกดด้วยนิ้วมือ บังคับให้หันกลับมาเผชิญ พลางส่ายหน้าดูแคลน “ถ้าคิดจะยืมลูกพี่กูอีก ไม่ได้แล้วนะไอ้เพชร ตอนนี้ก็ล้านหนึ่งแล้ว จะเอาของใหม่ก็คืนของเก่าก่อนสิวะ”

           สติเหมือนจะถูกดึงกลับมาก็ตอนที่ได้ยินจำนวนเงิน ชายหนุ่มขึงตากว้างทว่าสิ่งนั้นถูกซ่อนไว้ด้วยการก้มหน้างุด เหงื่อแตกพลั่กเต็มหน้าผาก

           “ผะ ผม กะว่าจะเล่นให้ได้แล้วคืนพี่ครับ”

           เพียงแค่นั้นสีหน้าของรองหัวหน้าก็เปลี่ยนไป ใบหน้าเรียบเฉยเมื่อครู่ ที่พอจะมีรอยยิ้มหลงเหลืออยู่บ้าง หุบยิ้มลงทันควัน พลันกลายเป็นถมึงทึง ฉวยคอเสื้อคนตรงหน้าจนเท้าลอย

  “ใครสั่งใครสอนให้มึงเอาเงินมาเดิมพันกับดวง? ฮะ..”           

เสียงกดต่ำทำให้เพชรเริ่มหงอย เพราะมันไม่แค่ฉวยคอเสื้อ แต่เอาปืนจ่อหัวด้วย

“ผมถึงได้ขอยืมอีกสักก้อนไงครับ จะได้..”

           “อ๊า มึงกล้ามากไอ้เหี้ย มึงกำลังจะบอกว่าที่ยืมไปทั้งหมดนี้ถ้าไม่ชนะ มึงก็ไม่มีคืน?”

           “ก็ผมกำลัง...”

           “ไอ้ควายเอ๊ย... ลากตัวมันไป!”

           “พี่ ให้โอกาสผมนะพี่ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว...พี่!”

           เสียงแจ้งเตือนข้อความในช่วงค่ำละความสนใจของคนกำลังเอนหลังอยู่บนโซฟา เธอวางแมคบุ๊คที่เปิดค้างจอหน้าสมัครงานลงข้างๆ เปลี่ยนเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแทน พลันเปิดดูหัวคิ้วก็ขมวด เป็นข้อความของใครคนหนึ่งที่แจ้งเพิ่มเพื่อนใหม่ เมื่อกดเข้าก็ขึงตาอีกที

           Lynn : คนสวย

           เธอไม่ได้กดรับเพื่อนในทันที แต่เลือกที่จะตอบก่อน

           PP : สวัสดีค่ะ พี่หลิน

           Lynn : ว้าย คนสวยจำพี่ได้ดีใจจังเลยค่ะ

           มุมปากกระจับเผลอยิ้ม เธอมีเพื่อนแค่ไม่กี่คน และคนแปลกหน้าเข้ามาในชีวิตสามารถจำได้ทั้งหมด ไม่มีปัญหาเลย ลืมหล่อนไปก็อัลไซเมอร์แล้ว เพียงแค่แปลกใจนิดหน่อย ทำไมถึงเป็นหลินที่เป็นฝ่ายดีลมา ทั้งที่ควรเป็นเธอที่จะต้องติดต่อไปก่อน แต่เนื่องจากยังตัดสินใจทำงานที่แม็กแนะนำไม่ได้จึงเงียบไป

           PP : จำได้ค่ะ พี่หลินมีอะไรให้แพงช่วยเหรอคะ

           Lynn : มีแน่นอนค่ะ ต้องขอโทษนะที่เสียมารยาททักเธอไปก่อน ทั้งที่คนสวยอาจไม่สนใจ แต่พี่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว คืองี้ขอเข้าเรื่องเลยละกัน เรื่องงานแข่งรถที่กำลังจะถึงนี้อะ พี่ขาดคน อยากให้น้องมาช่วยหน่อยค่ะ ได้ไหมคะ แค่วันเดียว

           PP: วันไหนคะพี่

           Lynn: วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้

           เธอเหลือบมองปฏิทินโดยอัตโนมัติ ก็ประมาณอีกสองวัน แต่ไม่ทันได้พิมพ์กลับ อีกฝั่งพิมพ์ต่อท้ายมาติดๆ

           Lynn: ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้างานนะคะ ไม่มีอะไรยากเลยค่ะ แค่เดินสวยๆกางร่มให้นักแข่งแค่นั้นเลย

           คนตัวเล็กอ่านไปหย่อนคิ้วไป อยู่ๆใจก็เผลอนึกถึงใครคนหนึ่งขึ้นมา และคิดว่าสปอนเซอร์ต้องเป็นเขาแน่ หากแต่ไม่ได้คิดไปไกลกว่านั้น อาทิเช่นต้องเจอกัน ระดับนั้นคงไม่มายืนเกาะสนาม หรือเดินตามเธอ แต่ถ้าจ้างฉุดนะไม่แน่ เธอรู้มาว่าคนอย่างเขาไม่สามารถทำอะไรแบบเจิดจรัสในที่สว่างได้  ทว่าถึงจะคิดในแง่ดีขนาดนั้น แต่ความกลัวก็ยังครอบงำอยู่ดี ไม่อยากเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียว

           PP: ขอแพงคิดก่อนได้ไหมคะ สักพักแพงจะตอบกลับค่ะ

           Lynn: ได้เลยค่ะคนสวย พี่จะรอนะคะ รออย่างมีความหวังค่ะ

           คนตัวเล็กส่งยิ้มให้กับหน้าจอโทรศัพท์ พลางวางลงที่เดิมสลับกับอีกอย่างที่มีเนื้อหาภายในให้สนใจกว่า เธอยังคงนั่งหางานอย่างเงียบๆ จนกระทั่งตาลาย หาววอด และเผลอหลับไป สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีตอนกระดิ่งหน้าห้องดัง

           “ใครคะ”

           สิ่งแรกที่ทำคือการเหลือบมองเวลา เมื่อเห็นว่าเกือบจะสองทุ่มแล้วถึงได้ขมวดคิ้ว ถึงไม่ดึกมากแต่นี่ก็ถือว่ายามวิกาลสำหรับเธอ คอนโดนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนใหญ่แขกที่มาพักไม่เป็นนักศึกษาทำงานส่งตัวเองเรียน ก็เป็นพนักงานเอกชน แถมห้องของเธอไม่เคยมีประสบการณ์ใครมาหาโดยไม่แจ้งกันล่วงหน้าก่อน

           ไม่มีเสียงตอบรับ และไม่เจอใครภายนอกหลังใช้ตาแมวสอดส่อง กลับพบเพียงความว่างเปล่าและแสงไฟนีออนเท่านั้น เธอกำลังจะเดินหันหลังอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าหลังประตูบานนั้นเกิดเสียงเคาะขึ้นมาจนต้องชะงักและหันไปสนใจอีกที แถมไม่รู้อะไรดลใจให้เธอกล้าที่จะเปิดประตูด้วย พลันถึงกับยืนอึ้งในทันทีที่เห็น

           น้องชายของตนนั่งอยู่กับพื้น แผ่นหลังแนบชิดกับกำแพงบ่งบอกถึงการไร้เรี่ยวแรง ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือรอยฟกช้ำเต็มหน้าพร้อมกับคราบเลือดอีก

            “เพชร!”

           ไม่ถึงชั่วโมงร่างสูงที่สลบไปก่อนหน้าค่อยๆลืมตาขึ้นมาเพราะกลิ่นหอมของอาหาร เขาลุกขึ้นนั่ง เห็นร่างเล็กเดินไปเดินมาอยู่ไกลๆ หากให้เดานั้นคงเป็นโซนครัว จากนั้นข้าวต้มร้อนๆก็ถูกยกมาด้วยมือบาง และวางลงบนโต๊ะข้างกันกับโซฟาที่เขานอน

           เพชรขมวดคิ้วพยายามนึกถึงเรื่องราวที่ผ่าน สำหรับเขามันค่อนข้างจะเลวร้าย แต่สิ่งที่จะพูดออกไปหลังจากนี้คาดว่าคงจะร้ายกว่า

           เสียงกระแทกช้อนลงบนชาม เรียกสติให้เขาตื่นจากภวังค์ ร่างสูงที่มีหน้าตาดีและคล้ายกับคนตรงหน้ามากๆ น่าเสียดายที่ตอนนี้กลับมีบาดแผลเต็มไปหมด แม้ว่าจะถูกทายาให้ด้วยพี่สาวไปแล้ว

           “ไม่ต้องเอาใจกันขนาดนี้ก็ได้ รู้พอผมฟื้น พี่ก็จะไล่กันทันที”

           พะแพงแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่น้องชายไม่เคยเห็น และนั่นยิ่งทำให้เขากังวล เนื่องจากเหตุการณ์เกือบจะเอากันถึงตายในตอนนี้ก็เพิ่งจะเป็นครั้งแรกของเขาเช่นกัน

           “ก็รู้นี่ แต่คราวนี้ฉันจะใจดีให้แกได้กินก่อน กินซะสิ”

           คนตัวเล็กพยักหน้าไปยังข้าวต้มที่มีควันโขมงโชยออกมาจากชาม พลางเบือนหน้าไปทางอื่น ใจจริงไม่อยากจะรับรู้เรื่องของน้องชายนักหรอก เพราะไม่เคยเป็นเรื่องดีเลยสักครั้ง เผลอๆครั้งนี้หนักกว่าที่แล้วมา หากเธอไม่มีปัญญาช่วยจะทำยังไง

           “พี่..”

           เธอคิดไว้ไม่มีผิด หญิงสาวแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง บอกตามตรงเธอยังไม่พร้อม แต่พอมาคิดๆดูแล้ว ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใครอีกที่จะต้องยื่นมือช่วย

           “พี่...”

           “คราวนี้ไปก่อเรื่องอะไรเอาไว้อีกล่ะ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าเป็นเรื่องเงินฉันไม่..”

           “อืม เงิน”

           “.......”

           พะแพงหันขวับมามองเขา สีหน้าตอนนี้ของเธอบึ้งตึง หากแต่ยังคงความสะสวยจนน้องชายแท้ๆยังแอบชมอยู่ในใจ

           “เยอะด้วย..”

           ทั้งห้องเงียบกริบ คนตัวเล็กกัดริมฝีปากแน่น มีบางอย่างแทรกเข้ามาในจิตใจ ทันทีที่น้องของเธอพูด อยู่ๆจิตใต้สำนึกก็เหมือนจะย้ายไปที่อื่น เธอราวกับมีจิตสัมผัสดุจรู้ล่วงหน้าว่าหายนะกำลังจะมาแล้ว และก็จริง

           “เท่าไหร่”

           “ล้านนึง”

           “ไอ้เพชร!”

           ร่างทั้งร่างของเธอลุกขึ้นยืนอัตโนมัติ กับสภาวะสมองเบลอ และหูอื้อที่มาพร้อมๆกัน น่าแปลก เธอเป็นถึงขนาดนี้ราวกับคนช็อค แต่คนพูดยังคงนั่งนิ่ง ไม่พอยังแหงนหน้าขึ้นมองเธอตาไม่กะพริบตา

           “ผมเข้าใจที่พี่ตกใจ แต่ทำไงได้มันติดไปแล้ว”

           “ละ ล้อกันเล่นหรือเปล่า”    

           ถ้าจะเหลือก็คงเป็นความหวัง ที่น้องชายอาจจะแค่แกล้งกัน ทว่าดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เพราะแววตาของมันเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

           “หน้าตาผมบอกอย่างนั้นเหรอ”

           “แกไปติดใครมา”

           “จะใครอีกล่ะ พี่ดูหน้าผมสิ”

           พะแพงหรี่ตามองตาม หากแต่ความสงสารตอนนี้หมดไปแล้ว เธอกลับมาสงสารตัวเองแทน นั่นเพราะไม่รู้ว่าจะต้องช่วยยังไง

           “แล้วมาหาฉันทำไม”

           “พี่จะไม่ช่วยผม?”

           ความโกรธที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต หลังรู้ว่ามีเขาคลานตามกันมา วันนี้กลับต้องเห็น นั่นเพราะเธอรู้สึกมันเกินกว่าจะเยียวยา หญิงสาวกัดฟันกรอด จ้องเขาตาเขม็ง

           “ติดคุกซะดีไหมเพชร ฉันไม่เคยคิดว่าจะมีน้องชายที่เลวระยำแบบนี้”

           แต่แทนที่คนฟังจะสะทกสะท้านกลับยักไหล่แล้วหัวเราะในลำคอ

           “พี่ไม่กล้าหรอกน่า”

           “ว่าไงนะ?”

           “พี่ควรจะคิดแบบแม่นะ ยังไงผมก็เกิดมาเป็นสายเลือดเดียวกันกับพี่แล้ว จะเปลี่ยนอะไรได้”

           “ทำไมถึงเห็นแก่ตัวอย่างนี้นะเพชร”

           “เพราะผมเลือกที่จะเป็นคนเลวแล้วไง!” เขาเถียงอย่างไร้เหตุผล แต่นั่นไม่ได้ทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเท่ากับการตวาด เธอรู้สึกริมฝีปากล่างเลือดออกซิบๆเพราะถูกฟันขูดโดยไม่รู้ตัว และรู้สึกเจ็บที่มือเพราะตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เผลอกำมือแน่นซะจนเล็บจิก “คนเลวจะไปเข้าใจอะไรกับความคิดของคนดีเล่า เอาเป็นว่าช่างเถอะ ผมอยากรู้ว่าพี่จะช่วยหรือเปล่า”

           “เงินเป็นล้านนะเพชร แกบ้าไปแล้วรึไง ฉันอายุแค่นี้ ยังเรียนอยู่เลย จะไปหามาจากไหนให้แกผลาญ อีกอย่างมันไม่ใช่เรื่องของฉันด้วย ฉันไม่ช่วย”

           เสียงหัวเราะเย้ยหยันออกมาจากลำคอของเขาอีกครั้ง คราวนี้สร้างความโกรธให้กับคนฟังอีกเท่าทวีคูณ

           “ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร งั้นผมจะให้แม่ช่วย ที่ดินบ้านที่แม่อยู่ยังไม่เคยเอาไปจำนองที่ไหนใช่หรือเปล่า”

           “ไอ้เพชร! ไอ้เหี้ย!”

           เหมือนเสียงตวาดลั่นห้องตอนนี้จะหวนกลับมาเป็นเธอ คนตัวเล็กเหลืออด และหมดความอดทน ความโกรธที่มีมากจนล้นปรี่กลายเป็นความอึดอัด และความอึดอัดมากมายจะต้องหาที่ระบายทำให้เธอถึงกับกระทืบเท้า ปล่อยโฮออกมาอย่างลืมอาย

           ในขณะท่ี่เพชรยังคงยืนมอง สายตาของเขาไม่มีแม้แต่ความรู้สึกผิด หรือเห็นใจเลยสักนิด เขามองร่างเล็กที่ทิ้งตัวลงบนโซฟา มองเธอร้องไห้ราวกับเด็กน้อยในตอนนั้น ที่เคยโดนเขาแอบตัดผมตุ๊กตาบาร์บี้ตัวโปรดและทำสัตว์เลี้ยงในทามาก็อตของเธอตาย  พลันลุกขึ้นยืนหยิบเสื้อช็อปข้างตัวมาพาดบ่า

           “มันให้เวลาผมสามวัน หวังว่าพี่จะช่วยผม ถ้าครั้งนี้พี่ช่วยได้ ผมจะพิจารณาตัวเองเป็นคนดีเพื่อพี่และแม่สักครั้ง”

           พลางเดินออกไปจากห้องหน้าตาเฉย ไม่สนใจพี่สาวของเขา ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่กำลังเครียดจัดจนหูดับ และมองอะไรไม่เห็นเพราะขนตาเปียกชุ่มไปแล้วตอนนี้

เวลาเลยไปเกือบเที่ยงคืน คนร่างเล็กเพิ่งจะฟื้นจากการร้องไห้มาอย่างหนัก นั่นเพราะอาจไม่มีน้ำตาหลงเหลือให้ไหลออกมาแล้ว และร่างกายก็เหนื่อยจนอยากพัก เธอถึงได้นั่งเอนหลังพิงหัวเตียงอย่างหมดแรง

           “ชั่วพริบตาเดียวเลยแฮะ”

           คนตัวเล็กพึมพำกับตัวเองพลางหัวเราะ เพิ่งจะยิ้มได้อยู่ชั่วครู่กับการได้นอนเต็มอิ่ม หลังลิสต์งานที่วางแผนจะไปสมัครในวันพรุ่งนี้ ทว่ากลับพังทลายลงเพียงเพราะน้องชายเหยียบเข้ามา สลับกับการเปิดจอโทรศัพท์มองแจ้งเตือนทวงคำตอบของหลินที่ส่งมาทิ้งไว้  มาถึงตอนนี้เธอไม่รู้จะตกลงดีไหม กับการทำงานนี้ที่หล่อนบอกว่าง่ายก็แค่กางร่มให้นักแข่งก็พอ แต่ไม่ว่าจะยังไงภายในระยะเวลาสามวัน งานนี้ก็ไม่สามารถนำเงินหนึ่งล้านมาให้เธอได้ เว้นก็แต่...

           มือบางสั่นเทาราวกับหนาวเหน็บ ทันทีที่ปลดล็อคหน้าจอ เข้าไปยังประวัติการโทร แล้วตัดสินใจกดหาหมายเลขที่ไม่ได้เมม แต่กลับจำได้ ซึ่งไม่นานปลายสายก็รับ และนั่นราวกับเธอกำลังเดินเข้าหานรกด้วยตัวเอง

           (ฮัลโหล)

           “คุณยังอยากจะได้แพงอยู่ไหมคะ”

           (ครับ?)

           

           

           

           

           

           

           

       

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 151 จะอยู่ในทุกช่วงเวลา

    “ครับ ผมจะทำให้เลย ทำทันที และเร็วที่สุด”ก่อนความเงียบจะเข้าปกคลุมทันทีที่พุนพินเอ่ยจบ และค่อยๆเรียกรอยยิ้มของคนทั้งสามออกมาเปื้อนใบหน้า เมื่อคำขอนั้นแท้จริงไม่ได้ยากอะไรเลย กลับกันเป็นอีกเรื่องที่พวกเขากำลังครุ่นคิด และมีอยู่ในหัวอยู่ก่อนแล้ว“แต่งงานกับลูกสาวของน้าในตอนที่น้ายังแข็งแรงอยู่ได้ไหมคะ”“ได้ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมกับแพงคิดอยู่เหมือนกันว่าจะเอายังไง พอเป็นแบบนี้ก็ดีครับ งั้นจบทริปนี้ กลับไปผมจะให้พ่อแม่มาสู่ขอเลยละกัน แพงว่าไง..หนูโอเคไหม”คนถูกถามละสายตาจากมือบางที่แอบบีบเข้าหากันแน่นเพราะความเขิน เงยหน้าขึ้น มองหน้าผู้เป็นแม่สลับกับเขาแล้วยิ้มกว้าง ถึงจะรู้สึกติดเรื่องเรียนอยู่เล็กน้อย เพราะรู้สึกเหมือนจะฉุกละหุกจนเกินไป แต่ถ้านี่คือความต้องการของแม่เธอ หญิงสาวก็ไม่ขัด ดีซะอีก จะได้ไม่ต้องค้างคา เพราะถึงยังไงคนที่เธอคิดจะฝากชีวิตและอยู่ด้วยกันจนวันสุดท้ายก็เป็นเขาอยู่แล้ว“ได้ค่ะ แพงโอเค”“ถ้าอย่างนั้นก็ตามนั้นครับ”“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากที่เอ็นดูและรักยัยแพง”“ครับ ผมยินดี”วันต่อมาด้านของปานดาวเช้านี้หล่อนได้รับข่าวดีที่ทำให้กล้ามเนื้อทั้งมัดเล็กมัดใหญ่โลดเต้น

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 150 มีอะไรอยากทำไหม

    จุดหมายปลายทางคือบ้านสวนที่อาคีราซื้อทิ้งไว้แถวปริมณฑล เคยเป็นที่ดินเปล่ารกร้างมาก่อน แต่ถูกดัดแปลงให้เป็นบ้านสวนเพื่อการพักผ่อนโดยเฉพาะ แน่นอนว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ย่าของเขาชื่นชอบ แต่ไม่มีเวลาได้มาพักผ่อนเลยสักครั้ง เนื่องจากท่านเสียชีวิตไปซะก่อน เหตุการณ์ครานั้นเป็นสิ่งย้ำเตือนใจเขา หากคิดจะทำอะไรสักอย่างอย่ารอวันที่สาย อาทิเช่นตอนนี้กับว่าที่ภรรยาของเขาคือพะแพงและแม่ของเธอ ที่ไม่อยากให้เวลาเดินไปข้างหน้าอย่างสูญเปล่าแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว เขาจึงจัดทริปนี้ขึ้นมา เพื่อให้แม่ของเธอได้สูดอากาศที่มาจากธรรมชาติจริงๆบ้าง อีกนัยยะ ไม่อยากให้อุดอู้อยู่แต่กับบ้าน ถึงมันจะใหญ่มากก็เถอะ“ซื้อไว้นานแล้วเหรอคะ”เสียงหวานกังวานหันมาถามทันทีที่เดินลงมาจากรถ โดยมีปุณและพยาบาลดูแลพุนพินอีกคนช่วยกันยกของ รวมถึงเขาและเธอที่ช่วยกันละไม้คนละมือ ไม่ได้เดินตัวเปล่าลงมา“ครับ หลายปีแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่สามที่พี่มา”พะแพงเพิ่งสังเกตเห็นคนสวนเดินเข้ามาอย่างนอบน้อมและถ่อมตน ทันทีที่หยุดอยู่ตรงหน้าร่างสูงก็ยกมือไหว้ หลังจากนั้นเดินไปเปิดประตู แล้วไปช่วยปุณยกของต่อ“คนนี้..”“ลุงพันอยู่เฝ้าที่นี่ตั้งแต่แรก” เขา

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 149 คำขอจากแม่

    มหาวิทยาลัย “ปิดเทอมคราวนี้ไปไหนกันดี” “เคยพูดว่าอยากไปภูเขาไม่ใช่รึไง” “แพงว่าไงแกจะไปไหน” ทั้งสามเดินทอดน่องจากตึกคณะมานั่งตรงม้าหินอ่อนที่ประจำเพื่อรอส่งงานอาจารย์ หลังจากนั้นจะปิดเทอม คนถูกถามได้ยินเสียงเพื่อนคุยกันเรื่องเที่ยว แต่ไม่ได้ยินคำถามที่เจาะจงมายังตัวเอง พอบรรยากาศเงียบผิดปกติเพราะเพื่อนของเธอจ้องมองอยู่ถึงได้หลุดออกจากภวังค์นั้น “ฮะ ถามว่าอะไรนะ” “ทำไมเหม่ออีกแล้วล่ะ” พะแพงไม่ได้ตอบในทันที เธอมองหน้าเพื่อนสลับกันก่อน พลางถอนหายใจ “ม่อนกับบาสอย่าทิ้งแพงนะ เรียนจบไปแล้วก็ห้ามทิ้งแพงนะ” ไม่ใช่หัวคิ้วคนนั่งใกล้สุดอย่างม่อนเพียงคนเดียวที่ขมวดชนกัน แต่เป็นบาสด้วย พร้อมกับท่าทีที่ไปไม่ถูก เพราะงุนงงอยู่ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ใครจะทิ้งแพง เป็นอะไรไป” สังเกตจากดวงตาแดงก่ำ ก็ยิ่งทำให้เพื่อนร้อนรน ม่อนหันไปมองบาสก่อนจะหันกลับมามองหน้า ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิม “แม่แพงอาการแย่ลงแล้วอ่า แพงกลัวว่าจะอยู่ไม่ถึงวันแต่งงาน”

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 148 สั่นระฆังฉลอง (ดีใจ)

    ณ คลับประจำ ร่างสูงนามว่าเหนือเมฆนั่งอยู่ในที่แห่งนี้ ตรงโซฟาโซนวีไอพี ในมือของเขาถือแก้วบรั่นดีที่มีของเหลวอยู่ครึ่งแก้ว สายตาทอดมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย หนึ่งเดือนมานี้เขามีแต่คำถามมากมายในหัว เกี่ยวกับเพื่อนสนิท และการกระทำของตัวเอง ที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกลังเลเลยสักครั้ง หากใจสั่งให้ทำเรื่องที่ถูกต้องก็ทำเลยโดยไม่ต้องคิด จนกระทั่งครั้งนี้ เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า สิ่งที่ทำลงไปมันถูกต้องรึเปล่า หรืออาจเป็นเพราะผลของมัน จึงไม่อยากจะรับความจริงถูกตัดเพื่อนทั้งที่ทำเรื่องที่ถูกต้อง และหวังดี“มาคนเดียวเหรอคะ”จู่ๆก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาทัก ทั้งที่เธอดูสวยแต่เขากลับมองด้วยสายตารำคาญ“เห็นใครนั่งอยู่ด้วยปะล่ะ”น้ำเสียงเย็นชาโพล่งออกมาอย่างไม่คิด แค่ต้องการตัดบทให้คนมาใหม่ไปไกลๆเสีย ทว่าเปล่าเลย เธอกลับคลี่ยิ้มที่มุมปากด้วยท่าทางยั่วยวน เสมือนมองสิ่งนั้นเป็นการท้าทาย แล้วเดินนวยนาดเข้ามานั่งข้างๆ“ให้นั่งเป็นเพื่อนไหมคะ”“ลุก”“งื้อ อย่าไล่กันอย่างนี้สิคะ รู้ไหมว่าความหล่อของคุณมันทิ่มแทงไปถึง..มดลูกของเอวา”เธอจงใจเน้นประโยคหลังด้วยเสียงที่แหบพร่า หากแต่ร่างสูงกลับถอนหายใจออกมาแรงๆจนอีกฝ่

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 147 คำขอของเธอ

    หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จอาคีรากับเกรียงไกรก็แยกตัวไปยังห้องทำงานเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องงานในบริษัทใหม่ของเขา เนื่องจากมีลูกค้าบางกลุ่มที่เข้ามาติดต่อเคยเป็นลูกค้าของบริษัทในตระกูลมาก่อน ปล่อยให้พะแพงนั่งเล่นเดินเล่นอยู่คนเดียวในบ้านกินเวลาไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมง แชทกลุ่ม : เพื่อนกันแค่นี้เพราะไม่มีใครคบแล้ว PP : เบื่อออออออ MON : อะไรยะ ไม่ได้อยู่บ้านสามีหรือไง PP : อยู่ MON : แล้ว? PP : เขาไปคุยงานกับพ่อ แพงนั่งคนเดียวอยู่ในห้องรับแขก เป็นชั่วโมงแล้วเนี่ย MON : โธ่ แม่คุณ ไอ้เราก็นึกว่าถูกเขาทิ้งเอาไว้ข้างทาง กะจะให้ @BAS ไปรับแล้วเนี่ย พะแพงถึงกับหลุดยิ้มตอนที่เห็นรายชื่อนั้นถูกแท็ก จากนั้นก็ขึ้นว่าอ่านทั้งหมด BAS : ออกมาทำงาน MON : ไหนบอกว่าวันนี้หยุด BAS : พรุ่งนี้ มึงจำผิดป่าว MON : บอกผิดหรือเปล่าเถอะ อย่างกูไม่มีทางจำผิด BAS : ?

  • เด็กเสี่ย    บทที่ 146 ของแทนใจ

    “ไม่ได้ยังไง นี่มันห้องนอนพี่ใครมันจะเข้ามา” “แต่พ่อกับแม่อยู่ข้างล่าง ไหนจะพ่อบ้านแม่บ้านอีก อีกอย่างยังกลางวันอยู่เลย” ร่างสูงที่ตามคร่อมลงมาซ้อนทับเธอถึงกับชะงัก พลางขมวดคิ้ว “นี่กลายเป็นคนหัวโบราณตั้งแต่เมื่อไหร่ ลืมไปแล้วเหรอว่า..ในรถเราก็เคยทำกันมาแล้ว” “อย่าพูดนะ” พะแพงหลับตาปี๋ไม่อยากได้ยินคำนั้นจากปากเขา แต่ลืมไปว่าการหลับตาแบบนั้นจะเปิดโอกาสให้กับคนฉลาดแกมโกง แน่นอนว่าคนที่กำลังหิวกระหายไม่มีทางปล่อยให้มันหลุดมือ เลิกเสื้อเธอขึ้นจนเผยหน้าอกสวยสร่างขาวเนียน ก้อนเนื้อกลมโตเกินตัวต่อหน้าต่อตา เธอเบิกตากว้าง อ้าปากจะห้ามกลับถูกอวัยวะเดียวกันฉกแย่งไปจูบครั้งนี้เป็นจูบที่ดูดดื่มที่โหยหาที่สุด เธอไม่เคยรู้สึกวาบหวามจนสมองขาวโพลนขนาดนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะทั้งคู่ห่างนานเกินไป เมื่อถึงช่วงเวลาประจวบเหมาะกลับมาสานต่อความสัมพันธ์ ความต้องการที่มีปกติอยู่แล้ว ยิ่งทวีคูณเข้าไปอีก ต่างฝ่ายต่างโหยหาซึ่งกันและกัน พอร่างกายสัมผัสจึงปานไฟราคะโชนลุก ลำคอระหงแหงนขึ้นจังหวะปลายจมูกโด่งชอนไชเข้ามา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status