LOGINสงครามเย็นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกต จนกระทั่งอาหารมื้อที่น่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของเมรีจบสิ้นลง และแขกทั้งคณะย้ายตัวไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมเด็กๆ ทั้งสาม
ส่วนเมรีนั้นขออาสาช่วยเก็บจานชามในครัวเพื่อหาเหตุหลบเลี่ยงสายตาใครบางคนที่ทำให้เธอหงุดหงิดมาตลอดเช้านี้
เขาช่างไม่กลัวว่าหวานใจจะจับได้เอาเสียเลย แต่ก็นั่นแหละ ตั้งแต่พบกันมา เขาก็เป็นแบบนั้นเสมอ คนหล่อที่แสนเย็นชา เข้าถึงยาก แต่กลับทำให้สาวน้อยคนหนึ่งโดนตกเพราะลุคนั้นตั้งแต่แรกพบจนคิดเกินเลย
เมรีวางผ้าเช็ดโต๊ะ ก่อนทิ้งตัวลงนั่ง ตามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยใจให้คิดถึงภาพความหลังตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกันเมื่อสี่ปีก่อน...
‘นี่ชิษณุกร หรือ ชิษ น้องชายพี่เอง แล้วนี่ก็น้องเมรีน้องสาวพี่รจเขา สองคนรู้จักกันไว้สิ’
เมรียังจำได้แม่นว่าตัวเองใจเต้นแรงแค่ไหนเมื่อได้พบหน้าน้องชายสุดหล่อของพี่เขยครั้งแรก สาวน้อยผู้มีพี่สาวอย่างรจนาเป็นไอดอลในการหาสามีที่แสนดีและเริ่ดสะแมนแตน โดนความหล่อออร่าพุ่งของหนุ่มเมืองกรุงตกเอาตั้งแต่แรกพบสบตา
ในเมื่อชิษณุกรเป็นน้องชายแท้ๆ ของสาธุคุณพี่เขยเธอ เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน เติบโตมาด้วยกัน เขาก็ควรมีอะไรเหมือนๆ กันกับพี่ชายสิน่า อย่างน้อยก็ความหล่อ ความรวยนั้นยิ่งไม่ต้องสงสัย ได้ยินว่าบ้านพี่เขยเธอมีลูกชายแค่สองคน มีธุรกิจในมือมากมาย มรดกเยอะแยะก็คงไม่ต้องมีตัวหารเยอะเหมือนบ้านอื่นที่แทบฆ่ากันตายแย่งชิงมรดก
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำให้เธอหลงรักเขาหัวปักหัวปำ โดยโนสนโนแคร์ว่าอีกฝ่ายจะไม่มีท่าทีจะสนใจสาวน้อยกะโปโลอย่างเธอก็ตาม
ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก!
โชคเข้าข้างเมื่อพี่สาวพี่เขยไหว้วานให้เธอช่วยเป็นธุระพาชิษณุกรไปดูที่ทางในหมู่บ้านในฐานะเจ้าถิ่นที่รู้จักคนเยอะ เพื่อจะซื้อไว้สำหรับสร้างบ้านพักตากอากาศให้กับพ่อแม่ของสาธุคุณ เพราะทั้งสองอยากอยู่ใกล้ๆ หลานชายฝาแฝดที่กำลังจะเกิด ที่ทางแถวบ้านเธอก็ขึ้นชื่อเรื่องสภาพแวดล้อม และอากาศดีเสียด้วย
แล้วมีหรือที่เมรีจะปฏิเสธโอกาสงามๆ ที่จะได้ใกล้ชิดชายในฝัน ตามที่โบราณเขาว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด หากได้ใกล้ชิดกันบ่อยๆ เขาก็ต้องมองเห็นความน่ารักของเธอบ้างล่ะน่า คนช่างมโนคิดเอาอย่างง่ายๆ
แล้วจากวันนั้นสาวน้อยบ้านนาก็พาหนุ่มเมืองกรุงเที่ยวตะลอนๆดูที่ทางในหมู่บ้านด้วยรถมอเตอร์ไซด์อีแก่ของแม่ แม้ชิษณุกรไม่อยากไปแต่ก็ไม่มีทางเลือก เขาขับรถมอเตอร์ไซด์ไม่เป็น จึงจำเป็นต้องซ้อนท้ายเธออย่างเก้ๆ กังๆ พอเบรกทีเขาก็ตกใจเผลอตะครุบกอดเอวเธอที ทำเอาเมรีฟินไปเลย
ทั้งคู่ตระเวนหาที่อยู่หลายวัน จนกระทั่งมาเจอที่ดินถูกใจแปลงหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับที่นาของพ่อเธอนั่นเอง พอเมรีรู้ว่าเขาอยากได้ จึงอาสาไปเจรจากับเจ้าของที่ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในหมู่บ้านที่เธอรู้จักดี คือลุงบุญปั๋น เมรียังรู้อีกว่าอีกฝ่ายเป็นคนแก่หัวดื้อ แถมเป็นนักดื่มตัวยง หากจะเข้าไปเอ่ยปากขอซื้อที่กันโต้งๆ ลุงแกคงไม่ยอมขายให้ง่ายๆ
เธอเลยวางแผนจัดแจงซื้อของไปกำนัลเป็นเหล้าขาวสี่สิบดีกรี พร้อมกับแกล้มดีๆ แล้วหนีบชิษณุกรไปด้วย พอไปถึงห้างนาน้อยแห่งนั้นก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังกรึ่มสาโทหลังเสร็จจากงานหว่านไถคนเดียว
แล้วเป็นอย่างที่คาด พอเห็นของกำนัลจากสาวน้อย ลุงบุญปั๋นก็ชอบอกชอบใจ และชวนทั้งสองชิมสาโทที่แกหมักเองกับมือจนได้ที่
แม้ชิษณุกรจะไม่อยากร่วมวงด้วยแต่แรกเพราะเห็นแก้วที่ส่งให้มีคราบสกปรกติดอยู่ แต่เมรีกลับกระซิบบอกว่าหากเขาไม่ดื่มก็เท่ากับไม่ได้ใจ ที่ทางที่อยากได้ก็คงหมดหวัง เขาเลยจำต้องดื่มอย่างเสียไม่ได้ แต่เพราะไม่เคยดื่ม พอลองครั้งแรกก็เลยติดใจรสชาติอันหวานหอมลื่นคอ โดยไม่รู้เลยว่าสาโทนั่นยิ่งดื่มยิ่งเมา
รู้ตัวอีกทีทั้งสองก็ดื่มสาโทจนกรึ่มได้ที่ ลุงปั๋นที่เมาแอ๋นำไปก่อนหน้าจึงยอมตกลงว่าจะแบ่งขายที่ให้ และแกก็ขอกลับไปบ้านไปหาเมียก่อน ทิ้งให้สองหนุ่มสาวไว้ที่ห้างนาน้อยของแกตามลำพังพร้อมไหสาโทอีกสองไห
‘ชนแก้ว!’
เมรียื่นแก้วน้ำหมักแสนอร่อยไปตรงหน้าชายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวย แล้วเขาก็ยื่นแก้วชนตอบพร้อมกับหัวเราะร่วนด้วยความรู้สึกสนุก ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ดูรื่นรมย์ไปหมด ขนาดหันไปเห็นควายที่กินหญ้ากลางทุ่งนา เขายังว่าหน้ามันสวย แล้วนับประสาอะไรกับสาวน้อยหน้าใสที่ขยันแจกยิ้มหวานให้ข้างกาย
‘พี่ชิษหล่อจัง โอย หล่อจนใจเจ็บหมดแล้วเนี่ย’ แจกยิ้มไม่พอ ยังแจกจีบไม่อั้น ขยันชมจนเขาจะลอยไปดาวอังคารแล้ว
‘หึๆ ปากดี!’
‘หล่อๆ แบบนี้มีแฟนหรือยังน้า...’ พอกรึ่มได้ทีก็แทะโลมกันไม่ยั้ง
‘ทำไมล่ะ ถ้าพี่บอกว่ายังล่ะ แล้วเธอจะทำไม’
‘ถ้าพี่ไม่มีแฟน เมรีก็จะจีบพี่มาเป็นแฟนไง’ ตรงได้อีกนะแม่คุณ
‘พี่ไม่ชอบกินเด็ก’
‘แต่เมรีอยากกินพี่อะ’ ยิ่งพูดก็ยิ่งไปกันใหญ่ ความเมาบวกมันเขี้ยวคนหล่อทำให้เด็กสาวก้มลงกัดต้นแขนที่มีมัดกล้ามเนื้อแน่นๆ ขาวๆ ก่อนจะยื่นปลายลิ้นไปแตะชิมอย่างหยอกเย้า จนเขาถึงกับสะดุ้งวาบ ร้อนวูบไปทั่วร่าง
‘เนื้อพี่ชิษว้านหวาน’
ยัยเด็กแก่แดด! ชิษณุกรกัดกรามแน่น ตาคมหรี่มองเด็กสาวหน้าแดงระเรื่อที่หัวเราะชอบใจ โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอก่อกวนสิ่งใดในตัวเขาขึ้นมา
‘ไม่ได้หวานแค่เนื้อนะ อย่างอื่นพี่ก็หวาน อยากชิมไหมล่ะ’
หมาหยอกไก่กลับ ทำเอาไก่ขี้เมาถึงกับตาลุกวาว เผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปาก คอแห้งโดยไม่รู้ตัว
‘อยากสิจ๊ะ พี่จะให้เมรีชิมตรงไหนก่อนดีล่ะ’
ชิษณุกรกดยิ้มร้ายกาจ ก่อนชี้ที่ริมฝีปากตัวเอง
‘ตรงนี้!’
ปกติเวลาไม่เมาพออยู่ใกล้คนหล่อก็ไม่ค่อยมีสติสตังอยู่แล้ว ตอนนี้กำลังกรึ่มได้ที่พอถูกคนหล่อท้า สติยิ่งหดหายกลายเป็นฝุ่นผง
เมรียิ้มหวานเพราะเมาทั้งเหล้าเมาทั้งรัก ก่อนขยับกายเข้าหาคนตัวโตกว่า พร้อมกับรวบต้นคออีกฝ่ายให้โน้มลงมา แล้วกดริมฝีปากตัวเองบดเบียดแนบชิดกับเรียวปากอุ่นๆ ของคนหล่อเพื่อชิมความหวานที่ว่าทันที
โดยสาวน้อยหารู้ไม่ว่าจากจูบเดียวจะทำเธอถึงขั้นเสียเอกราชให้ข้าศึกหนุ่มรูปงามผู้มีประสบกามมากกว่าจนราบคาบ...
วันนี้คนตรงหน้าไม่ได้มีความสำคัญใดต่อเธออีกแล้ว ในเมื่อเธอสามารถยืนด้วยสองขาของตัวเองอย่างมั่นคงเป็นหลักให้ลูกน้อยได้อย่างไม่อายใคร หรือจะพูดให้ถูกคือเธอเลยจุดที่อับอายจนกลายเป็นด้านชาเสียแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครโดยเฉพาะคนที่เคยทิ้งกันแบบไม่มีเยื่อใยอย่างเขาวันนี้ชิษณุกรก็แค่คนแปลกหน้าสำหรับเธอเท่านั้น “เอาล่ะ เห็นแก่ที่คุณเป็นน้องพี่สาธุพี่เขยฉัน พี่สาธุเขาเป็นคนดี แล้วเขาก็ดีกับครอบครัวฉันมาก ดังนั้นฉันจะลืมๆ เรื่องบัดซบในอดีตนั่นไปก็แล้วกัน ถือว่าฉันมันโง่เองที่หน้ามืดตามัวหลงผิด เชื่อใจคนง่ายๆ อยากได้ผัวดีๆ แบบพี่รจ คิดว่าคุณน่าจะใช่เพราะเป็นน้องชายพี่สาธุ ใครจะรู้ว่าพี่กับน้องต่างกันอย่างกับฟ้ากะเหวแบบนี้”ชิษณุกรถึงกับสะอึก เถียงอะไรไม่ออก เมื่อได้ยินคำพูดเหน็บแนมของเธอ ในโพรงอกก็รู้สึกแสบร้อนปนวูบโหวง“แต่เอาเถอะ ตอนนี้ฉันตาสว่างแล้ว เลิกเคี้ยวเอื้องแล้ว และฉันก็มีงานดีๆ มีเงินเก็บมากพอสามารถเลี้ยงดูลูกได้สบายๆ ไม่ต้องหวังพึ่งใครหน้าไหนให้มาช่วยสงเคราะห์หรือเวทนา ส่วนที่ผ่านมาก็ถือว่าซื้อบทเรียนราคาแพง ต่อไปนี้เราก็ต่างคนต่างอยู่ ชีวิตก็ใครชีวิตมัน เหมือนที่คุณทำมาตลอด
จนถึงเดี๋ยวนี้ เวลาผ่านล่วงเลยมาสี่ปีกว่า เมรีกลายเป็นซิงเกิลมัมเนื้อหอมประจำหมู่บ้าน แม้จะมีลูกหนึ่งแล้ว แต่ความสาวความสวยของเธอกลับยิ่งหอมฟุ้งเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ตอนนี้เธอเรียนจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมเหรียญทอง เอาความสำเร็จตบปากคนที่เคยนินทาจนเงียบกริบส่วนรจนาพี่สาวก็เปิดไร่ของสาธุคุณให้คนมาเที่ยวแบบเชิงเกษตรแนวใหม่จนโด่งดังไปทั่ว กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดไปแล้ว พวกเขาสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในหมู่บ้านจนเป็นที่นับหน้าถือตาไปทั่ว พลอยให้คนในครอบครัวพลอยมีหน้ามีตารจนากับสามีลงทุนเปิดร้านกาแฟ กึ่งร้านอาหารที่ใช้พืชผักปลอดสารพิษ ผลผลิตจากในไร่มาทำ โดยให้เมรีเป็นผู้จัดการร้านคอยดูแล เพราะเธอจบมาทางด้านบริหารฯ โดยตรง ซึ่งเมรีก็ตั้งใจทำงานอย่างสุดความสามารถ เพราะไม่อยากทำให้ทุกคนที่เธอรักต้องผิดหวังอีกตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กสาวช่างฝันคนเดิมอีกต่อไปแล้ว เธอเปลี่ยนไปเป็นผู้หญิงแกร่งที่ขยันเอาการเอางานจนพ่อแม่และพี่สาววางใจ ทุกอย่างก็เพื่อลูกสาวตัวน้อย ขณะเดียวกันชื่อของชิษณุกรค่อยๆ เลือนลางจางหายไปจากสมองและหัวใจจนกระทั่งเขาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในวันนี้ พร้อมคู่หมั้นคนสวย“เฮ
กว่าจะรู้สึกตัวตื่นอีกที เมรีก็พบว่าตัวเองนอนแผ่สองสลึงอยู่ที่ห้างนาน้อยแห่งนั้นคนเดียวในสภาพที่ดูยังไงก็ไม่ปกติ แม้จะใส่เสื้อผ้าไม่ได้นอนเปลือยกายล่อนจ้อน แต่ร่องรอยต่างๆ บนเรือนร่างก็ทำให้รู้ว่าเธอเสียพรหมจรรย์น้อยๆ ที่แสนหวงแหนไปแล้ว แต่คนที่ร่วมก่อเหตุจนห้างนาน้อยสะเทือนเสาเรือนแทบทรุดนั่นกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยเขาทิ้งไว้แต่ร่องรอยรักและธนบัตรสีเทาที่ยัดใส่มือเธอไว้ให้ดูต่างหน้าหนึ่งใบ กับความแสบระบมที่จุดกึ่งกลางความสาว บอกให้รู้ว่าที่โดนไปนั่น ของแรงแค่ไหน แล้วไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เท่าที่สติอันน้อยนิดจะจำได้ เขาตอกเสาเข็มอัดใส่ตัวเธอไปตั้งสี่ยกแบบจุกๆ เน้นๆสี่ยกเลยเชียวนะ! เดินขาไม่ถ่างก็บุญหัวแล้วพอได้สติสาวน้อยก็รีบกัดฟันคว้ามอเตอร์ไซด์อีแก่ขี่ไปที่ไร่สาธุคุณ เพื่อตามหาชายหนุ่มผู้ฝากรอยรักสะท้านทุ่งนาเอาไว้ แต่ทว่าพี่สาวเธอกลับบอกว่าเขากลับกรุงเทพไปแล้วเมรีตกใจแทบช็อก และได้รู้ว่าตัวเองโดนฟันแล้วทิ้งเสียแล้วไอ้เสียใจมันก็มีอยู่หรอก นี่เป็นครั้งแรกของเธอ ในนิยายที่เคยอ่านมาเรื่องไหนเรื่องนั้น หากพระนางได้กัน มันต้องจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งสิ แต่กลับไม่ใช่เรื่องนี้เธอมองโลกในแง่
สงครามเย็นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกต จนกระทั่งอาหารมื้อที่น่าอึดอัดที่สุดในชีวิตของเมรีจบสิ้นลง และแขกทั้งคณะย้ายตัวไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมเด็กๆ ทั้งสามส่วนเมรีนั้นขออาสาช่วยเก็บจานชามในครัวเพื่อหาเหตุหลบเลี่ยงสายตาใครบางคนที่ทำให้เธอหงุดหงิดมาตลอดเช้านี้เขาช่างไม่กลัวว่าหวานใจจะจับได้เอาเสียเลย แต่ก็นั่นแหละ ตั้งแต่พบกันมา เขาก็เป็นแบบนั้นเสมอ คนหล่อที่แสนเย็นชา เข้าถึงยาก แต่กลับทำให้สาวน้อยคนหนึ่งโดนตกเพราะลุคนั้นตั้งแต่แรกพบจนคิดเกินเลยเมรีวางผ้าเช็ดโต๊ะ ก่อนทิ้งตัวลงนั่ง ตามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยใจให้คิดถึงภาพความหลังตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกันเมื่อสี่ปีก่อน...‘นี่ชิษณุกร หรือ ชิษ น้องชายพี่เอง แล้วนี่ก็น้องเมรีน้องสาวพี่รจเขา สองคนรู้จักกันไว้สิ’เมรียังจำได้แม่นว่าตัวเองใจเต้นแรงแค่ไหนเมื่อได้พบหน้าน้องชายสุดหล่อของพี่เขยครั้งแรก สาวน้อยผู้มีพี่สาวอย่างรจนาเป็นไอดอลในการหาสามีที่แสนดีและเริ่ดสะแมนแตน โดนความหล่อออร่าพุ่งของหนุ่มเมืองกรุงตกเอาตั้งแต่แรกพบสบตา ในเมื่อชิษณุกรเป็นน้องชายแท้ๆ ของสาธุคุณพี่เขยเธอ เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน เติบโตมาด้วยกัน เขาก็ค
“แม่เมจ๋า...”เสียงลูกน้อยช่วยดึงสติกลับมา เจ้าแก้มยุ้ยเอียงคอมองใบหน้าเธอด้วยดวงตาแป๋วแหววไร้เดียงสา นี่คือแก้วตาดวงใจที่ทำให้เมรีต้องอดทน และเปลี่ยนตัวเองให้แกร่งขึ้น ใครจะนินทาว่าร้ายเธอก็ช่าง แต่หากแตะต้องลูกรัก เธอเอาตาย “จ๋า...คนเก่งของแม่”“หนูหิวแล้ว” อารมณ์ที่พุ่งปรี๊ดถูกเสียงออดอ้อนทำให้ใจอ่อนยวบลืมโกรธไปชั่วขณะ เผลอยื่นปลายจมูกไปชนปลายจมูกเล็กๆ อย่างที่เคยทำเวลามันเขี้ยวเจ้าตัวน้อย“งั้นเรากลับบ้านไปกินข้าวกับตากับยายกันดีไหมลูก”“ดีจ้า” เจ้าตัวดียิ้มหวานประจบ ตบมือชอบใจ ก่อนจะยื่นปากเล็กๆ มาจูบแก้มราวกับรู้ว่าแม่กำลังต้องการกำลังใจ“งั้นเดี๋ยวเมรีกลับก่อนนะคะพี่แนน”“เดี๋ยวก่อนสิ! อย่าเพิ่งไป...” ชายหนุ่มเผลอเรียกเสียงดังอย่างลืมตัว หากพอเห็นสายตาวาวโรจน์เอาเรื่องคู่นั้น เขาก็รู้ว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม แน่ล่ะ คนตรงหน้าย่อมไม่เหมือนเดิม และเขาก็รู้ด้วยว่ามันคืออะไร“มีอะไรหรือคะพี่ชิษ”นันทิกาหันไปมองคู่หมั้นหนุ่มอย่างแปลกใจ“พอดีเรากำลังจะกินข้าวเช้า แล้วคุณแม่ก็อยากให้น้องเวียงพิงค์ไปกินข้าวด้วยกัน เธอก็ไปด้วยสิ”“นั่นสิคะ น้องเมรี ทานข้าวด้วยกันก่อนนะ” นันทิกาผู้ไม่
“เมรี!”ชิษณุกรถึงกับตกตะลึงจนตัวชา เมื่อได้พบหน้าสาวน้อย ไม่สิ! วันนี้คนตรงหน้าไม่ใช่สาวน้อยวัยใส แต่เธอโตเป็นสาวสะพรั่งและสวยจนเขาแทบจำไม่ได้แล้วต่างหาก แถมโตจนมีลูกอายุไล่เลี่ยกับหลานชายฝาแฝดของเขาเสียด้วย...ชายหนุ่มมองใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดูของคนในอ้อมแขนหญิงสาวตรงหน้านิ่ง รู้สึกร้อนวูบวาบในอกแปลกๆ“อ้าว! นี่พี่ชิษรู้จักน้องอยู่แล้วหรือคะ” นันทิกาหันไปมองคู่หมั้นอย่างแปลกใจ“ไม่รู้จักหรอกค่ะ” เมรีชิงตอบเสียงเย็นชา แอบเห็นหรอกว่าอีกฝ่ายมีอาการอึ้งไป ใจหนึ่งก็อยากตอกหน้าให้สาแก่ใจ แต่อีกใจก็เห็นแก่หน้านันทิกา อีกฝ่ายดูเป็นคนดี ดูซื่อๆ และไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเมรีถือคติ ดีมาดีตอบ จึงไม่อยากทำร้ายใครโดยไม่จำเป็น“ก็แค่เคยเห็นผ่านๆ เห็นไกลๆ ตอนงานแต่งพี่รจกับพี่สาธุน่ะจ้ะ แต่ไม่ได้อยากรู้จัก เอ๊ย! หมายถึงไม่ได้รู้จักหรือสนิทกันน่ะค่ะ” แล้วนั่นจะจ้องอะไรกันนักหนา จ้องกันจนตาแทบถลนแล้วไหมทำไม! หรือกลัวเธอจะเปิดโปงความเลวให้ว่าที่เมียใหม่ฟังหรือไง ดูท่าคนนี้ยังไม่ทันโดนหลอกฟันสิท่า เลยหวงนัก ยิ่งคิดแล้วก็ชักจะเห็นใจผู้หญิงด้วยกัน นันทิกาเองก็ดูหวานๆ ใสๆ ไม่ทันเล่ห์คน ผู้







