“สวัสดีครับ ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เขายิ้มให้อย่างสุภาพ นลินทราจึงพยักหน้าให้เขา
“เชิญค่ะพี่ก้าว ยายพลอย แกรู้จักพี่ก้าว กวินภพอยู่แล้วเนอะ น้าจินนี่เล่าให้ฟังแล้วใช่รึเปล่า” ประโยคหลังนลินทราหันไปคุยกับพลอยพัดชา
“เล่าให้ฟังแล้วละ รู้ว่าเคยแสดงอะไรมาบ้าง แต่ยังไม่เคยคุยกัน”
พลอยพัดชาตอบไปตามตรง เพราะหญิงสาวเคยเห็นเขาแค่ในโทรทัศน์ และโฆษณาบางตัวเท่านั้น
“คุณพลอยจำผมได้ด้วย ผมดีใจนะเนี่ย” กวินภพยิ้มกว้าง สีหน้ามีแววขัดเขินเล็กน้อย
นลินทราลอบสังเกตท่าทางที่กวินภพมีต่อพลอยพัดชาอยู่เงียบ ๆ เท่าที่เธอรู้มา พระเอกหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยมีข่าวเสื่อมเสียหรือข่าวซุบซิบให้ได้ยินสักเท่าไร เขาเป็นนักแสดงที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่สิ่งที่เธอติดใจมีเพียงอย่างเดียวคือเธอไม่รู้สาเหตุที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวที่เคยล่มหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ แล้วมาอยู่กับจินตวาตี เพราะตอนถามจินตวาตี อีกฝ่ายก็บอกเพียงว่าหมดสัญญากับคนเก่า และคนเก่าไม่ต้องการทำงานเป็นผู้จัดการให้แล้ว
“ก็ต้องจำได้สิคะ แหม...คุณก้าวออกจะดัง ใครไม่รู้จัก หรือไม่เคยเห็นก็คงเชยแย่” พลอยพัดชายิ้มให้อย่างเป็นมิตร ไม่นำพากับสายตาของเพื่อนสนิทที่เหล่มองมาราวกับต้องการเตือนอะไรบางอย่าง
พลอยพัดชามองชายหนุ่มด้วยความชื่นชม วันนี้กวินภพสวมกางเกงชายหาดยาวแค่เข่ากับเสื้อยืดสีขาวและมีเสื้อฮาวายลายแสบสันคลุมทับ เขาทำผมด้านหน้าตั้งขึ้นดูแล้วเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุไม่ถึงยี่สิบปี ใบหน้าหมดจดของเขาชวนมองขนาดนี้ แล้วจะให้เธอทำหยิ่งเพื่ออะไรกัน ใครบ้างไม่ชอบของสวย ๆ งาม ๆ เธอก็แค่ชอบมองคนหล่อ ใช่ว่าเธอจะไปเป็นแฟนกับเขาเสียเมื่อไร
“แล้วตอนนี้คุณก้าวกำลังจะมีงานอะไรหรือคะ”
พลอยพัดชาชวนกวินภพคุยเพราะดูเหมือนชายหนุ่มจะประหม่าไม่น้อยเวลาที่อยู่ต่อหน้าตน
“ตอนนี้ก็กำลังจะมีละครเรื่องหนึ่งครับ เล่นกับคุณนิ้งด้วย” พูดถึงตรงนี้ เขาก็หันไปยิ้มให้นลินทรา
“แล้วก็กำลังจะเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้วันมิลค์” กวินภพพูดไปยิ้มไป สายตาที่มองพลอยพัดชาดูอ่อนเชื่อมมากกว่าปกติจนคนที่แอบสังเกตอย่างนลินทราได้แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“โอ้โห วันมิลค์ด้วย ดีจัง ขอให้งานเข้าปัง ๆ นะคะ” พลอยพัดชาฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะมองเลยด้านหลังของเขาไปพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม กวินภพจึงหันไปมองด้านหลังของตน
ทีมงานจัดเลี้ยงคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกพลอยพัดชาที่โต๊ะ
“คุณพลอยคะ ได้เวลาแล้วค่ะ”
“โอเคค่ะ เดี๋ยวขอตัวไปจัดเซอร์ไพรส์ให้น้าสาวสุดที่รักก่อนนะจ๊ะ ขอตัวก่อนนะคะคุณก้าว” พลอยพัดชาลุกขึ้นแล้วเดินตามทีมงานคนนั้นไปทันที
คล้อยหลังพลอยพัดชาแล้ว นลินทราจึงเป็นฝ่ายชวนกวินภพคุยบ้าง เพราะไหน ๆ ก็ต้องนั่งอยู่กับเขาแค่สองคนในโต๊ะ
“เป็นไงบ้างคะคุณก้าว น้าจินนี่ป้อนงานให้เยอะเลยละสิ”
“สำหรับผมแล้วก็ถือว่าเยอะพอสมควรเลยครับ พี่จินนี่คอนเนกชันเยอะมากจริง ๆ คิดไม่ผิดเลยที่ย้ายมาอยู่กับพี่เขา” กวินภพตอบด้วยท่าทีสุภาพ แววตาที่มองนลินทราก็เหมือนมองเพื่อนหรือคนรู้จักทั่วไป ไม่ได้หวานเชื่อมเหมือนตอนคุยกับพลอยพัดชา
“ใช่ค่ะ น้าจินนี่เขารู้จักคนเยอะ มาอยู่กับแกรับรองเลยว่าคำว่าไม่มีงานน่ะแทบเป็นไปไม่ได้” เว้นเสียแต่ว่านักแสดงคนนั้นจะทำตัวแย่จนผู้จัดละครเบื่อหน่ายและแบนดาราคนนั้น
“จริงครับ”
“นิ้งแอบได้ยินมาว่าคุณก้าวมีปัญหากับผู้จัดการคนเก่า เรื่องนี้จริงรึเปล่าคะ” นลินทราเข้าเรื่องทันที ใครจะหาว่าเธอยุ่งเรื่องชาวบ้านก็ช่าง แต่ในเมื่อผู้ชายคนนี้สนใจเพื่อนสนิทของเธอ ดังนั้นจึงต้องซักประวัติกันสักหน่อย จะได้รู้ว่าข่าวลือเรื่องที่ตนได้ยินมากับเรื่องที่ออกจากปากของคนต้นเรื่องนั้นต่างกันแค่ไหน
“ก็...ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอกครับ พี่ปลาเขาแค่จะกลับบ้านไปดูแลพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดน่ะ ความจริงพี่เขาคุยกับผมมาสักพักแล้วละว่าจะกลับไปอยู่บ้าน แต่เขาจะเคลียร์งานของผมให้หมดก่อน ถึงได้ไปคุยกับพี่จินนี่เอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะหมดสัญญากัน”
“อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ” นลินทราพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้บาง ๆ
“ว่าแต่ คุณนิ้งรู้จักคุณพลอยมานานรึยังครับ ผมเห็นคุณนิ้งก็เรียกพี่จินนี่ว่าน้าเหมือนคุณพลอยเลย”
“นิ้งกับพลอยเรียนมหา’ลัยมาด้วยกันค่ะ สนิทกันตั้งแต่ตอนนั้นเลย ที่นิ้งมาเป็นดาราได้ก็เพราะยายพลอยเป็นเจ๊ดันให้นิ้งน่ะ”
นลินทราตอบไปตามตรง เพราะบรรดาเด็กในสังกัดของจินตวาตี มีเธอเพียงคนเดียวที่เรียกอีกฝ่ายว่าน้าตามพลอยพัดชา นอกนั้นจะเรียกว่าพี่จินนี่กันทุกคน
จู่ ๆ เสียงเพลงก็เงียบลงไป จึงทำให้ทั้งสองคนหยุดคุยแล้วหันไปมองด้านหน้าของสระว่ายน้ำ ซึ่งขณะนั้นเริ่มมีการให้ของขวัญและกล่าวคำอวยพรกันตามลำดับอาวุโส จนกระทั่งมาถึงคนสุดท้าย เป็นสาวสวยเซ็กซี่ในชุดบิกินี แต่มีผ้าคลุมสะโพกเอาไว้เดินถือกล่องสีม่วงออกมาจากในตัวบ้าน ท่าทางเยื้องย่างราวกับนางงามบวกกับรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้น สะกดสายตาของทุกคนได้เป็นอย่างดี
และเพราะงานนี้มีคนดังหลายคนไปร่วมงาน จึงต้องมีการถ่ายรูป การไลฟ์สดจากดาราหลายคนเพื่อให้แฟนคลับของตนได้ร่วมติดตามไปด้วย รวมถึงสื่อมวลชนที่อยากเข้ามาเก็บภาพไปทำข่าว จึงเลี่ยงไม่ได้เลยที่ภาพหลายภาพจะมีพลอยพัดชาอยู่ในนั้น ตอนนี้หน้าเฟซบุ๊กของหญิงสาวจึงมีแต่รูปที่ถ่ายกับดาราหลายคน และดาราเหล่านั้นพากันแท็กชื่อของพลอยพัดชาจนหญิงสาวแทบไม่ต้องโพสต์ด้วยตัวเอง
ธามเลื่อนดูรูปเหล่านั้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันมุ่น โดยเฉพาะภาพที่พลอยพัดชาถ่ายกับนักแสดงหนุ่มหล่อหลายต่อหลายคน และนักแสดงหนุ่มเหล่านั้นต่างพากันชื่นชมเธอกันทุกภาพ และที่สำคัญคือหญิงสาวใส่แค่บิกินีเดินเตร่ไปทั่วงาน แม้จะมีผ้าคลุมสะโพกเอาไว้ก็เถอะ
ดูแต่งตัวเข้า คนอื่นไม่เห็นเขาจะโป๊ขนาดนี้เลย!
“สวัสดีค่ะทุกคน พลอยเองนะคะ” พลอยพัดชายิ้มกว้างพลางมองไปรอบงานให้ครบทุกคน ก่อนจะหันไปมองจินตวาตีที่ยืนอยู่ข้างตนแล้วพูดต่อ
“ของขวัญที่พลอยจะให้น้าจินนี่ชิ้นนี้เนี่ย พลอยใช้เวลาทำหลายเดือนมากกว่าจะได้ที่ถูกใจ ซึ่งพลอยคิดว่าของขวัญชิ้นนี้เหมาะกับน้าจินนี่ที่สุดแล้ว เพราะน้าจินนี่เป็นทั้งพ่อและแม่ เป็นพี่สาว เป็นเพื่อน พูดง่าย ๆ เลยก็คือน้าจินนี่เป็นทุกอย่างในชีวิตพลอยจริง ๆ ตั้งแต่พ่อกับแม่ของพลอยจากไป ก็มีแต่น้าจินนี่ที่คอยอยู่เคียงข้างพลอยเสมอ เพราะฉะนั้นพลอยจึงขอยกให้น้าจินนี่เป็นที่หนึ่งในชีวิตของพลอยค่ะ”
พลอยพัดชาพูดจบ จินตวาตีก็น้ำตาอาบสองแก้มไปแล้ว หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปริ่ม ยิ่งเห็นของขวัญที่อยู่ในมือของหลานสาวสุดที่รัก รอยยิ้มก็ยิ่งกว้างขึ้นกว่าเดิม
“โถ...ยายเด็กน้อยของน้า” จินตวาตีโผเข้ากอดหลานสาวจนน้ำตาเปียกหัวไหล่ของอีกฝ่าย
“น้าจินนี่ดีกับพลอยขนาดนี้ มงต้องลงแล้วค่ะ”
พลอยพัดชาพูดไปน้ำตาก็เริ่มคลอขึ้นมาเช่นกัน หญิงสาวกะพริบตาหลายครั้งเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาแล้วบรรจงใส่มงกุฏให้ผู้เป็นน้า ตามด้วยสายสะพายที่มีข้อความว่า ‘สวย รวย เริ่ด’
“น้าจินนี่เกิดวันจันทร์ พลอยก็เลยเลือกบุษราคัมมาประดับมงกุฏคู่กับเพชร สีเหลืองเรืองรองแบบนี้งานจะได้เข้าเยอะ ๆ และทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็จะได้ปัง ๆ ไปด้วยกันนะคะ”
พลอยพัดชาพูดจบ ดารานักแสดงในสังกัดของจินตวาตีทุกคนก็พากันปรบมือโห่ร้องด้วยความดีใจ จากนั้นก็มีนักแสดงสาวคนหนึ่งตะโกนถามขึ้นว่า
“พลอย” เขาเรียกเธอเสียงพร่า หญิงสาวจึงแกล้งละเลงลิ้นลงบนกล้วยอีกครั้งพลางตอบรับเบา ๆ“ขา พี่อยากทำงานก็ทำไปสิคะ พลอยก็แค่...หิว”พูดจบเธอก็ส่งกล้วยเข้าปากไปอีกครั้ง และเช่นเคยที่เธอไม่ยอมกัดกินมัน แต่กลับเอาออกมาแล้วส่งเข้าไปใหม่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุดธามก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเพื่อปิดเครื่อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“อุ๊ย!” สายตาของพลอยพัดชาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงเขาทันที เพราะตอนนี้มันเป็นรูปเป็นร่างจนเห็นเด่นชัด“ตื่นแล้วอะ ทำยังไงดีน้า” หญิงสาวใช้นิ้วชี้ลากเบา ๆ ไปตามรอยที่นูนขึ้นมาอย่างยั่วเย้า“ยั่วเก่งดีนักนะ แล้วอย่ามาบ่นละกันว่าปวดขาปวดเอว”เขาพูดจบก็คว้าสูทมาพาดไว้ที่แขนเพื่อเป็นการบังเป้ากางเกงไปด้วย มืออีกข้างก็โอบเอวภรรยาจอมยั่วพลางกระซิบว่า“กล้วยนี้มันไม่อร่อยหรอก ขึ้นไปกินกล้วยกับพี่บนห้องดีกว่า อร่อยกว่าเยอะแถมกินได้ไม่อั้น”พลอยพัดชายิ้มกริ่มพลางทิ้งกล้วยหอมนั้นลงถังขยะทันที จากนั้นก็เดินตามสามีออกจากห้องทำงานแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุ
สองปีต่อมาพลอยพัดชามองเงาตัวเองในกระจกแล้วอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้พุงของเธอป่องมากราวกับลูกโป่งใบใหญ่ เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าสาวน้อยที่อยู่ในพุง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบนับวันถอยหลังรอแต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อ เพราะตั้งแต่รู้ว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกสาว ธามก็ลงทุนจัดห้องไว้รอรับด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีชมพูอ่อน ซื้อเตียงและเปลเจ้าหญิงเอาไว้รอ รวมถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นสีชมพูและไม่ใช่แค่ธามเท่านั้นที่เตรียมห้องไว้รอบุตรสาวคนแรก จินตวาตีก็เช่นกันที่จัดเตรียมห้องไว้รอต้อนรับหลานสาวคนแรกที่จะได้เรียกตนว่าคุณยายหญิงสาวหยิบโลชั่นสำหรับกันรอยแตกลายมาทาเบา ๆ ที่หน้าท้อง เพราะแม้จะใกล้ได้เป็นคุณแม่แล้ว แต่ร่างกายส่วนอื่นของพลอยพัดชาก็ยังคงสภาพเดิม มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นแหล่งอาหารของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ทว่าตอนนี้คนที่ดูจะคลั่งไคล้กับหน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นของเธอเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นสามีของเธออ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหล
พลอยพัดชากับนลินทรายืนมองผืนน้ำสีเขียวมรกตด้วยแววตาระยิบระยับ นานมากแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นมาทะเลครั้งนี้พวกเธอจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้เติมพลังชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“พี่ธามไปไหนน่ะ” นลินทราถามถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน“ไม่รู้สิ เห็นมีโทรศัพท์มาเมื่อกี้แล้วก็เดินไปคุยที่อื่นน่ะ” พลอยพัดชาตอบก่อนจะหันไปโบกมือให้จินตวาตีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่ในที่ร่ม“น้าจินนี่เอาชุดว่ายน้ำกับพร็อพมาเพียบเลยแก ทั้งหมวกเอย ผ้าคลุมเอย คือนางไม่ได้จะมาเล่นน้ำหรอก แต่จะมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เห็นบอกว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่” พลอยพัดชาได้ที จึงแอบเม้าท์ผู้เป็นน้า“ว่าแต่น้าจินนี่ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะยะ มาเที่ยวแค่สี่วันแต่กระเป๋าเดินทางตั้งสองใบ อีบ้า ทำอย่างกับจะมาอยู่เป็นเดือน” นลินทราค้อนให้เพื่อน พลอยพัดชาจึงได้แต่หัวเราะคิกคักทั้งสองสาวเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาที่ชายหาดกันบ้างแล้วจึงหันไปมองหน้ากัน“ฉันว่าเราไป
“เจ้าค่า...คราวนี้ก็ออกกันยกแผงเลยสิคะ”“ใช่ ตอนนี้ให้ฝ่ายบุคคลของส่วนกลางประกาศรับพนักงานใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะไปแทนตำแหน่งของพิษณุกับโชคชัยนั้น พี่ว่าจะลองคุยกับคุณพ่อดูว่าจะคัดเลือกคนเก่ง ๆ ของที่นี่ไปประจำอยู่สาขานั้นดีไหม ถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปในตัว แล้วพลอยล่ะเป็นไงมั่ง”“ตอนนี้ที่ร้านได้พนักงานใหม่มาเพิ่มแล้วค่ะ หน่วยก้านดีใช้ได้ ไลฟ์สดเก่งด้วยเพราะเขาเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามาก่อนก็เลยคล่องมากตอนอยู่หน้าจอ ส่วนน้าจินนี่อาการดีขึ้นมากแล้ว เริ่มให้พวกพี่เลี้ยงที่ดูแลศิลปินเข้าไปคุยเรื่องงานโดยตรงในห้องพักได้แล้วค่ะ เพราะจะได้ช่วยฟื้นความจำด้วย”“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงไอ้ก้าว ตอนนี้ฝากขังไว้ที่เรือนจำแล้วละ รอศาลตัดสินโทษ แต่คิดว่าคงติดคุกไม่นานหรอก ไม่กี่ปี แต่เรื่องของเพื่อนพลอยนี่สิ กว่าคดีจะเสร็จสิ้นคงอีกนานเลย น่าจะเป็นปี”พลอยพัดชาได้ยินอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงกนกลดา“ว้าย อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นางไม่ใช่เพื่อนพลอยสักหน่อย แค่คนรู้จักยังไม่อยากจะเป็นเลย เท่ากับว่าตอนนี้นางกับพ่อก็ยัง
พลอยพัดชาตื่นขึ้นมาช่วงสายเพียงลำพังบนเตียงนอนหลังใหญ่ ไม่รู้ธามไปไหน แต่เดาว่าเขาคงลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของโรงแรมตามเคยหญิงสาวพาร่างที่เมื่อยขบของตนไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ครึ่งชั่วโมงถัดมาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น แต่แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องใหญ่บนเตียง ดูแล้วเหมือนกล่องใส่เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้หลายชิ้นทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และต่างหู“หรือว่าจะเป็นกล่องใส่นาฬิกาของพี่ธาม” เธอรู้ว่าธามเป็นคนที่ชอบสะสมนาฬิกา ก็เลยคิดว่าเขาคงหยิบมาเลือกใส่จึงไม่ได้สนใจมันอีก จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดของตนออกมาสวม“จะไม่เปิดดูหน่อยหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตูห้องนอน หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง ธามยืนเปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงลำลองอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังยืนกอดอกและส่งยิ้มมาให้“กล่องนาฬิกาของพี่ธามรึเปล่าล่ะคะ”“ไม่ใช่ กล่องนั้นของพลอยทั้งกล่องเลย”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ถามจริง”เธอแขวนชุดไว
“เม็ดสีเหลืองคือพลอยปลอม วิธีสังเกตอย่างง่ายเลยก็คือให้ดูประกายของมันเวลาส่องกับแสง ถ้ามีประกายรุ้งคือปลอมชัวร์ เป็นพลอยที่สังเคราะห์ขึ้นมา และอีกวิธีที่สังเกตด้วยตาเปล่าได้ก็คือให้ดูที่เส้นของพลอย พลอยบางเม็ดมันจะมีเส้นตรงเรียง ๆ กันเป็นแถบให้เห็นกันเลย แต่บางเม็ดเราก็อาจจะต้องใช้ลูปหรือกล้องส่องพระขยายดูข้างในว่ามันมีเส้น ๆ พวกนี้ไหม จำไว้ว่าต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ถ้ามีเส้นโค้งให้เห็นนั่นคือปลอม และถ้าใช้ลูปส่องดูแล้วมีฟองอากาศหรือรูปร่างกลม ๆ เหมือนโดนัทกระจายอยู่ นั่นก็ปลอมเหมือนกัน” พลอยพัดชาลองให้วนิตาใช้ลูปส่องพลอยดูด้วยตัวเอง“เส้นหรือแถบสีในเนื้อพลอยมันก็เหมือนลายนิ้วมือของคนเรานั่นแหละ แต่ละเม็ดก็จะแตกต่างกันไป ไม่มีเม็ดไหนที่เหมือนกันหรอก”พลอยพัดชาอธิบายพลางเดินไปหยิบถ้วยสีขาวในตู้มารองน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิม“และอีกวิธีที่ง่ายในการดูด้วยตาเปล่าก็คือการจุ่มน้ำ” เธอหยิบพลอยเม็ดสีเขียวมาจุ่มลงไปในน้ำแล้วถามว่า“นิตาเห็นอะไรไหม”“เห็นค่ะ มันเป็นแถบสีเป็นเส้น ๆ” วนิตาตอบ&