เสียงเคาะประตูในเวลาหลังเลิกงานทำให้ซีอีโอหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนคิ้วขมวดเข้าหากันเพราะจำได้ว่าตนเองบอกเลขาให้กลับบ้านไปพักผ่อนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน
“เข้ามา” เสียงเข้มตะโกนบอกก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ
“งานยุ่งเหรอวะ”
“เฮ้ย ไอ้วิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไหนว่าทริปยุโรปจะไปครึ่งเดือน” พีรกันต์ถามเพื่อนด้วยความสงสัยเพราะธนวินท์บอกเขาเองว่าจะพาแฟนไปเที่ยวยุโรปครึ่งเดือนแต่นี่มันผ่านมาแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น
“พ่อไม่สบายไอ้นุโทรไปบอก”
“คุณลุงเป็นอะไรมากไหม แล้วตอนนี้คุณลุงอยู่ที่ไหน”
“หมอบอกว่ามีเลือดออกในกระเพาะอาหารตอนนี้อยู่โรงพยาบาล” เขาบอกชื่อโรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยในเรือนจำให้เพื่อนฟัง
“ย้ายมาที่นี่สิ”
“อย่าเลยกันต์ ทางเรือนจำเขามีกฎระเบียบของเขา”
“ลองคุยกับผู้คุมดูสิ บางทีเขาอาจจะยกเว้นให้เป็นกรณีพิเศษนะ พ่อมึงอายุมากแล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะรับโทษครบ” บิดาของธนวินท์ต้องโทษคดีปั่นหุ้นและศาลตัดสินให้จำคุก 4 ปีซึ่งอีก 4 เดือนก็จะครบกำหนดปล่อยตัว
“กูไม่อยากยุ่งเท่าไหร่”
“งั้นก็ตามใจมึงนะ แล้วเขาให้ไปเยี่ยมไหม”
“อือ”
“มึงไปเยี่ยมมาแล้วใช่ไหม”
“กูก็คิดเอาไว้ว่ามาถึงจะไปเยี่ยมเพราะเป็นห่วงแต่พอเห็นรูปที่ทนายส่งมากูก็เลยเปลี่ยนใจ”
“ทำไมวะ”
“มึงดูเอาเองก็แล้วกัน” ธนวินท์ส่งรูปที่นุกูลทนายของครอบครัวให้กับพีรกันต์ดู
“เธอชื่ออะไร”
“ก็น้าปรางเมียน้อยพ่อกูไง กูว่าไม่ได้ป่วยอะไรมากหรอกน่าจะยัดเงินให้หมอเพื่ออยากจะออกมาหากันมากกว่า”
“กูรู้ว่านั่นคือน้าปรางเมียน้อยพ่อมึงแต่ที่ถามว่าชื่ออะไรกูหมายถึงพยาบาลที่อยู่ด้านหลัง”
“ไม่รู้สิ ทำไมสนใจเหรอ” ธนวินท์ถามอย่างรู้ทันเพราะถ้าพีรกันต์ถามแบบนี้ก็แปลว่าชายหนุ่มกำลังสนใจ
“มากด้วย”
“กูก็เห็นมึงพูดแบบนี้ทุกครั้งที่เจอผู้หญิงสวย”
“คนนี้สนใจจริง น่าจะแม่ของลูกเลย”
“นั่นก็มากไป”
“ทำไงดีกูอยากเจอ” พีรกันต์เจ้าชู้และคบผู้หญิงไปทั่วแต่ยังไม่เคยมีใครทำให้เขาสนใจได้มากขนาดนี้ แค่เพียงเห็นหน้าเขาก็รู้สึกถูกชะตา หญิงสาวในรูปหน้าคล้ายกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยเจอเมื่อหลายปีก่อน
“ถ้าอยากเจอก็ไปเยี่ยมพ่อกูสิ ไปแทนกูด้วย”
“แล้วมึงจะไม่ไปดูเขาหน่อยเหรอ”
“ก็เห็นอยู่ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากจะไปดูให้เสียเวลาทำไม ไหนๆ มึงก็อยากไปเจอพยาบาลอยู่แล้วกูก็ฝากมึงเยี่ยมเลยก็แล้วกันนะ”
“ได้เลย” พีรกันต์รีบเก็บของบนโต๊ะทันที
“มึงจะรีบไปไหน”
“ก็ไปเยี่ยมพ่อมึงไง”
“ไม่ทันแล้วโรงพยาบาลรัฐเขาให้เยี่ยมเป็นเวลา ถ้าอยากไปจริงก็ไปพรุ่งนี้เที่ยง คืนนี้มึงไปกินเหล้ากับพวกกูก่อน”
“ไอ้นุไปด้วยไหม”
“ไปสิ มึงไปเจอมันก็ดีพรุ่งนี้จะได้ไปพร้อมกันเลย”
“มึงจะไปที่ร้านเลยไหม” เขาหมายถึงผับที่ตนเองและเพื่อนหุ้นกันลงทุนโดยมีอธิษหรือเกื้อเป็นคนบริหาร
“ไปเลยสิ กูติดรถมึงไปนะ”
“มึงกะเมาเต็มที่ใช่ไหม” เพราะทุกครั้งที่ธนวินท์อยากจะดื่มหนักเขาก็มักจะไม่เอารถไปเองเนื่องจากขากลับจะได้ให้พีรกันต์ไปส่งที่คอนโดซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้านพอดี
“ไม่ได้เมานานแล้วคืนนี้ขอหน่อยก็แล้วกัน มึงจะเมาด้วยไหมล่ะ กูจะได้บอกไอ้นุไปส่งเราสองคน”
“ไม่ล่ะ กูอยากพักตับบ้าง” พีรกันต์นั้นดื่มหนักมาหลายปีตอนนี้จึงอยากจะเพลาๆ ลงบ้าง
“พักได้มันก็ดี” อดีตหมอโรคทางเดือนอาหารและตับที่ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์บอกเพื่อน
“มึงล่ะ เมื่อไหร่พัก”
“ขออีกนิดน่าหลังแต่งงานกูก็คงได้พักยาว”
“ถึงมึงไม่อยากพักเจ้าเอยแฟนมึงก็ต้องบังคับอยู่ดี”
“ก็เพราะกูรู้ไง ช่วงนี้กูเลยกินเต็มที่”
พีรกันต์และธนวินท์มาถึงผับก็ตรงไปยังบริเวณชั้นสองซึ่งตอนนี้เพื่อนสนิทของพวกเขามาถึงก่อนหน้าแล้ว เด็กเสิร์ฟของร้านรีบชงเครื่องดื่มมาส่งให้อย่างรู้งาน
“เป็นไงบ้างวะวีร์ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอมึงเลย
“งานยุ่งนิดหน่อย สาขาใหม่กำลังจะเปิดเดือนหน้า” วีรวิชญ์เจ้าของสถาบันเสริมความงามที่มีสาขาไปทั่วประเทศตอบด้วยใบหน้าที่อิดโรย เพราะช่วงนี้สาขาใหม่กำลังจะเปิดตัวและงานบางอย่างมันก็ไม่ลงตัว
“มึงก็ขยันเปิดสาขาจริงนะ”
“น้ำขึ้นกูก็ต้องรับตัก มึงอย่าว่าแต่กูเลยมึงก็ขยันไม่แพ้กูหรอก เข้าเวรตั้งหลายโรงพยาบาล”
“กูไม่มีบริษัทเหมือนพวกมึงกูก็เลยต้องขยันหน่อย” เมฆาเป็นเพื่อนคนเดียวในกลุ่มที่จบแพทย์มาแล้วยังทำงานตามที่เรียนมา ส่วนพีรกันต์นั้นเรียนจบแพทย์แล้วก็มาต่อบริหารโดยยอมเอาเงินส่วนใช่ทุนให้กับรัฐบาล เช่นเดียวกับธนวินท์และวีรวิชญ์ที่ชดใช้ทุนแล้วออกมาทำธุรกิจส่วนตัว
“กูยอมรับเลยว่ามึงขยันจริงแต่ก็ควรแบ่งเวลาบ้าง ถ้ายังทำงานหนักแบบนี้เมื่อไหร่จะมีแฟน วันๆ เจอแต่คนไข้กับพยาบาลไม่เบื่อเหรอเมฆ” นุกูลที่รู้ความเป็นไปของเพื่อนดีกว่าใครก็พูดขึ้น
“มันก็มีเบื่อบ้าง แต่พยาบาลที่กูเจอก็สวยๆ ทั้งนั้นมันเลยไม่เบื่อเท่าไหร่” เมฆาตอบไปตามความจริง
“เออใช่กูเกือบลืมไปเลย” พีรกันต์เพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้ตนเองก็กำลังสนใจพยาบาลอยู่ก็พูดขึ้นมาจนเพื่อนพากันตกใจ
“นึกอะไรได้” อธิษที่นั่งใกล้ที่สุดถามขึ้น
“กูมีพยาบาลคนหนึ่งอยากรู้จัก คนนี้ไงมึงรู้จักไหม” เขาเอารูปที่ธนวินท์ส่งให้ทางไลน์ยื่นให้กับเมฆาดู
“สวยนี่หว่า น่าจะพามาเป็นพรีเซนเตอร์นะ” วีรวิชญ์ชะโงกหน้ามาดูก่อนใครแล้วพูดขึ้น
“ว่าไงหมอเมฆมึงรู้จักไหม”
“หน้าคุ้นๆ นะ น่าจะอยู่วอร์ดMedชาย” เขาหมายถึงวอร์ดผู้ป่วยอายุรกรรมชาย
“ใช่แล้ววอร์ดนั้นแหละ”
“มึงรู้ได้ยังไงกันต์”
“ก็พ่อไอ้วินแอดมิทอยู่ที่นั่น ว่าแต่มึงรู้จักใช่ไหม”
“ก็เจอตอนไปราวน์แต่ไม่สนิท” เมฆาเป็นหมออายุรกรรมประจำโรงพยาบาลจึงได้เจอกับพยาบาลแผนกนี้อยู่เกือบทุกวันแต่ก็ไม่สนิทกับใครเป็นพิเศษและพยาบาลก็มีมากจนจำชื่อได้ไม่หมด
“ถามทำไมหรือว่าสนใจเข้าแล้ว”
“โสดไหม”
“กูก็บอกไปว่าไม่สนิท”
“มึงนี่พึ่งพาไม่ได้เลยนะเมฆ”
“ถ้ามึงเจ็บป่วยแล้วกูไม่รักษามึงค่อยพูดว่ากูพึ่งไม่ได้ แต่นี่มันคนละเรื่องกันเลย” เมฆาบ่นอย่างไม่จริงจังนัก
“มึงสนใจจริงเหรอกันต์” วีรวิชญ์เห็นท่าทางของเพื่อนที่ดูจริงจังก็ถามขึ้น
“สนใจสิ พรุ่งนี้กูจะไปเยี่ยมพ่อไอ้วินมึงไปกับกูด้วยนะนุ”
“ทำไมกูต้องไป”
“ก็มึงต้องไปเยี่ยมคุณลุงแทนไอ้วินไม่ใช่เหรอ”
“กูนึกว่ามันกลับมาแล้วจะไปเยี่ยมพ่อเอง” นุกูลกันมามองธนวินท์ซึ่งนั่งทำหน้านิ่งเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับอาการป่วยของบิดา
“ไม่ล่ะกูไม่อยากเจอน้าปราง” ธนวิทย์กับแม่เลี้ยงไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่เจอกันทีไรก็ต้องปะทะคารมกันอยู่ตลอด
เกินจะทน (ตอบจบ)พีรกันต์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเองก็เคยคิดเรื่องนี้แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกจึงยอมปล่อยเลยตามเลย“ถ้าเขาไม่ยอมให้ตรวจมึงก็แอบตรวจสิ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเรื่องแค่นิคิดไม่ได้”“แต่มันผิดกฎหมายนะ” นุกูลทนายหนุ่มพูดขึ้น“กูถามมึงหน่อยนะไอ้นุถ้ามึงเป็นไอ้กันต์มึงอยากจะรู้ไหมว่าเด็กที่เรียกว่าลูกน่ะเป็นลูกของมึงจริงๆ หรือเปล่า”“เป็นใครก็ต้องอยากรู้”“งั้นมึงก็เงียบไปเลยนะ” ธนวินท์หันมาทำตาดุใส่เพื่อน“ถ้ายังไม่อยากตรวจDNAก็ตรวจแค่กรุ๊ปเลือดก่อนก็ได้ มึงรู้ไหมน้องข้าวหอมกรุ๊ปเลือดอะไร”“กูไม่รู้แต่น่าจะมีในผลตรวจเลือด” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีเมลที่ทางโรงพยาบาลส่งให้เมื่อครั้งก่อนพอเห็นกรุ๊ปเลือดของลูกสาวแล้วก็หน้าซีด“ไหนกูขอดูหน่อย” เมฆาคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนไปดูจากนั้นก็เงยหน้ามองพีรกันต์แล้วนิ่ง“มึงเลือดกรุ๊ปอะไร”“AB” เขาตอบเหมือนคนไร้วิญญาณเพราะถ้าเขาเลือดกรุ๊ปABก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ข้าวหอมจะมีเลือดกรุ๊ปO“นั่นมึงจะไปไหนกันต์” อธิษถามเห็นพีรกันต์ลุกขึ้น“กูจะไปถามหลินให้รู้เรื่อง”“ใจเย็นก่อน” เมฆาที่นั่งอยู่ใกล้ฉุดมือของพีรกันต์ให้นั
การอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไม่ง่ายเลยสำหรับพีรกันต์เพราะนอกจากเขาจะคอยดูแลข้าวหอมแล้วยังต้องคอยหลบหลีกลินรดาที่มักจะเข้าใกล้และยุ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากกว่าที่คุยกันไว้“นี่มันดึกแล้วนะกันต์จะออกไปไหนอีก”“หน้าที่ของผมคือเล่านิทานและพาลูกเข้านอนตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้วผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม” พีรกันต์ตอบอย่างหัวเสีย“หลินอยากคุยกับคุณ ขอเวลาหลินได้ไหมเราไปคุยกันที่ห้องนะคะ”“เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก”“ก็เรื่องของเรา”“ระหว่างผมกับคุณมีแค่เรื่องของลูก ไม่มีเรื่องของเราหรอกนะ”“คุณชวนหลินมาอยู่ที่บ้านแต่คุณไม่เคยสนใจหลินเลยนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ คุณไม่มีใครหลินก็ไม่มีใครทำไมเราไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง”“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าจะเป็นแค่พ่อของข้าวหอมที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลย”“คุณจะกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อเนยเหรอคะ คุณคิดว่าเธอจะรอคุณเหรอ”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนยเพราะถึงไม่มีเนยผมก็คิดจะกลับไปคบกับคุณ อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีของข้าวหอมเรื่องอื่นผมไม่อยากคิด”“หลินทำผิดอะไรคุณถึงไม่คิดจะกลับมาเป
“พี่กานต์มีเบอร์อาจารย์หมอศาสตราไหมขอผมหน่อยสิ”“มีสิ นายจะเอาไปทำอะไรหรือจะจ้างอาจารย์มาตรวจพี่ว่าอย่าเสียเวลาเลยพี่เคยชวนท่านหลายครั้งแล้ว”“เปล่าครับ”“แล้วจะเอาเบอร์ไปทำไมหรือมีใครป่วย”“ผมอยากปรึกษาท่าน”“กันต์มีอะไรหรือเปล่า หรือลูกไม่สบาย” เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเครียดคนเป็นมารดาก็ร้อนใจ“เปล่าครับแม่ คนที่ใม่สบายคือข้าวหอม”“อะไรนะ หลานแม่ป่วยเป็นอะไร”“เนยบอกผมว่าข้ามหอมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครับแม่”“ป่วยถึงขั้นไหนแล้วตรวจเจอนานหรือยังรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ต้องให้คีโมหรือเปล่า”“ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับวันนี้ว่าจะพาข้าวหอมไปหาอาจารย์หมอ”“น่าสงสารจังตัวแค่นั้นก็ป่วยแล้ว กันต์ต้องดูแลลูกดีๆ”“ครับแม่”“คนที่บอกนายว่าข้าวหอมป่วยคือเนยเหรอ”“ครับพี่ เนยบอกผมเมื่อคืน”“แปลกดีนะทำไมคนที่บอกไม่ใช่แม่ของข้าวหอมล่ะ แล้วเนยไปรู้มาได้ยังไง”“ผมมัวแต่ตกใจเลยลืมถามเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ช่างมันเถอะจะรู้จากใครความจริงก็คือความจริง”“ถ้าต้องไปดูแลข้าวหอมบ่อยๆ กันต์ก็คุยกับหนูเนยให้เข้าใจนะลูก แบ่งเวลาให้ดี” เพราะคนหนึ่งก็หลานสาวอีกคนก็ว่าที่ลูกสะใภ้“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับแม่”“ก
เพราะมีข้าวหอมมาอยู่ด้วยที่บ้านพีรกันต์เลยไม่คิดมากเรื่องรัญรวีเท่าไหร่จนกระทั่งผ่านไปสามวันหญิงสาวก็ยังไม่ติดต่อกลับมาพีรกันต์ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ววันนี้เขาจึงมาดักรอหญิงสาวตรงทางเดินระหว่างโรงพยาบาลกับคอนโดมิเนียม“เนย”“พี่กันต์” รัญรวีตกใจเพราะจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากมุมถนน“พี่ขอคุยด้วยหน่อย”“เอาไว้คุยวันหลังดีไหมคะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“พี่ไม่อยากรอแล้วนะ สามวันมานี้เนยไม่ติดต่อพี่มาเลย”“เนยงานยุ่งค่ะ”“ไปนั่งคุยกันในรถก่อน”“แต่เนยจะกลับไปพักแล้ว”“จะไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้มไปละเนย"เพราะคำขู่ของเขารัญรวีเลยยอมเดินตามมาที่รถ เธอขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งแต่ความรู้สึกแปลกออกไปเพราะตอนนี้คนข้างกายของเธอไม่ใช่คนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยอีกต่อไปแล้ว“พี่กันต์จะคุยอะไรคะ”“เนยเป็นอะไร โกรธอะไรพี่หรือเปล่า พี่ทำอะไรผิดเหรอเนยถึงไม่ติดต่อพี่เลยแล้วยังเก็บของพี่ออกจากคอนโด”“พี่กันต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ เนยเองที่ผิด ผิดที่ไปรักคนมีเจ้าของอย่างพี่”“กำลังพูดเรื่องอะไรพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ก็พี่กับครอบครัวของพี่”“ครอบครัวของพี่ก็คือเนย เราจะแต่งงานและร่วมสร้างมันด้วยกัน”“พี่กันต์ค่ะ
รัญรวีตื่นขึ้นมาในตอนสายเธอในขณะที่พีรกันต์ออกไปทำงานแล้ว หญิงสาวมองสภาพห้องนอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขที่เขามอบให้เมื่อคืนมันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ คำบอกรักที่เขากระซิบข้างหูเธอจำมันได้อย่างดีและจะจดจำมันไปตลอดว่าตนเองเคยมีความสุขมากแค่ไหนหญิงสาวเข้าห้องน้ำมองตัวเองในกระจกร่างกายเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้ มันตอกย้ำว่าเธอและเขาผ่านเรื่องบนเตียงมาแล้วอย่างเร่าร้อนแต่มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเพราะรัญรวีไม่คิดจะนอนกับใครอีกแล้ว การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเหงาแต่ที่ผ่านมาเธอก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอดหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหญิงสาวก็เก็บของใช้ของพีรกันต์ลงกระเป๋าก่อนะจะเอาไปฝากไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านล่างและสั่งไว้แล้วว่าห้ามเขาขึ้นมาบนห้องเธออีก รหัสที่ประตูหน้าห้องถูกเปลี่ยน รัญรวีตัดการติดต่อทุกช่องทางเพราะกลัวว่าถ้าได้ยินเสียงของเขาเธอจะตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้หญิงสาวใช้เวลาว่างตลอดวันจัดห้องใหม่เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ก็จะคิดถึงเขา กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็เป็นเวลาเย็น เธอทำอาหารจากของสดที่เหลืออยู่ในตู้จากนั้นก็นั่งทานคนเดียวเงียบๆโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าดังขึ้นรีญ
พีรกันต์กอดกระชับร่างที่หอบเหนื่อยรอจนเธอหายใจเป็นปกติจากนั้นก็รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้เธอก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียง“เนยจ๋า พี่ไม่ไหวขออีกคืนนี้ขอแรงหน่อยไหม” เพราะท่าทางยั่วยวนและลีลารักเมื่อครู่มันปลุกความดิบเถื่อนในกายเขาจนต้องเอ่ยขอ“เนยตามใจพี่กันต์ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายเธอก็อยากให้เขาทำทุกอย่างไปตามใจปรารถนา รัญรวีอยากเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาขึ้นไว้เป็นความทรงจำเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้นพีรกันต์ก็เริ่มบทรักอีกครั้ง ปากร้อนจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอดูดแรงจนขึ้นรอย รัญรวีทั้งเจ็บทั้งเสียวจนได้แต่ครางหวาน“อื้อ...พี่กันต์ขาจูบเนยหน่อยได้ไหม”ลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากนุ่มตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน เธอเองก็จูบกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้เขาครางอย่างพอใจหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับปากร้อนที่จูบเบียดแนบชิด เธอปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปรารถนาพีรกันต์จูบจนพอใจก็ยอมให้ปากเล็กเป็นอิสระ เขาลากไล้ความเปียกชื้นมาตามผิวนุ่มขบเม้มแทะเล็ม ฝากรอยประทับไว้ทั่วเนินอกอิ่ม ตาคมมองยอดถันที่ชูชัน ลิ้นร้อนลากวนอย่างปลุกเร้าก่อนจะครอบครองเข้าอุ้งปากร้อน ดูดแรงอย่างคนกระหาย ยิ่งเธอแอ่นโค้งเข้าหาเ