LOGINไม่ได้เป็นคนงกนะ แค่รู้คุณค่าของเงินทุกบาทที่ได้มาก็เท่านั้น และจำนวนที่ป้าจันทร์บอกมาก็ทำให้เธอตาโต เพราะมันมากมายกว่าที่เธอทำทุกวันหลายเท่านั้นและแถมได้เป็นเงินก้อนเสียอีกด้วย มันเลยทำให้เธอตาโตใสแจ๋วแวววาวและยิ้มออก
เงินที่เจ้านายป้าจันทร์อาจจะคิดว่าไม่มาก แต่เงินก้อนนี้สามารถต่อชีวิตของเธอและน้าชายไปอีกหลายเดือนทีเดียว อีกทั้งยังสามารถชดใช้หนี้สินให้กับเสี่ยอ้วนพุงพลุ้ยเจ้าของตลาดที่มีชื่อว่า “วสันต์” ได้เยอะเสียด้วย ถ้ามีงานแบบนี้ขอแค่เดือนละสองครั้งเท่านั้นเอง เชื่อว่าปีเดียวเธอก็สามารถใช้หนี้ที่น้าชายก่อไว้ได้จนหมดแน่นอน
หลังจากกดกริ่งและยืนรอเพียงไม่นาน กันติชาก็ได้เห็นชายร่างสูงใหญ่ โดดเด่นตั้งแต่ผมสีดำสนิทสะท้อนแสงเงางามน่าจับต้องด้วยกระหายใคร่รู้ว่ามันจะนุ่มเพียงใดยามได้สัมผัสแตะต้อง
‘บ้าแล้ว นี่เราเป็นอะไรไปนี่’ กันติชาพึมพำอย่างงุนงง เมื่อห้ามสายตาให้ไล่มองเค้าโครงหน้าที่แข็งแกร่งและดุกร้าวไปถึงลำคอใหญ่และลาดไหล่ไม่ได้ ดวงตากลมโตเป็นประกายพร่างพราวด้วยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่...เธอกำลังเล่นกับไฟที่พร้อมจะลวกและเผาทั้งร่างกายและหัวใจให้แหลกละเอียดเป็นผุยผงได้ในพริบตาเดียว
ตึก ตึก ตึก… ‘หยุดนะ...อย่าเต้นอย่างนี้สิ’
ยิ่งชายหนุ่มคนนั้นเดินเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งเต้นรัวเร็วเหมือนกับกลองสะบัดชัย ด้วยหุ่นใหญ่ล่ำชวนมอง ยามเมื่อเขาก้าวเดิน สาบเสือคลุมที่แยกออกเลยทำให้เห็นแผ่นอกกำยำกับไรขนเส้นเล็กๆ สีดำสนิทที่ขึ้นประปราย ทำเอากันติชาถึงกับหน้าแดงก่ำ รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
สองแก้มร้อนผ่าว ลำขาเรียวยาวสั่นระริก เมื่อไล่มองลงไปแล้วเห็นทุกครั้งที่ชายหนุ่มย่ำเท้าก้าวมาข้างหน้า ทำให้เธอได้เห็นขาแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งและทรงพลัง
‘เฮ้ย...!!! ฉันกำลังคิดอะไรอยู่นี่’
กันติชาร้องครางเสียงแผ่ว รีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดแปลกๆ ที่ผุดขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด แม้จะก่นด่าและดุตัวเองในใจ ก็ยังทำให้เธอห้ามความรู้สึกแปลกประหลาดนั้นไม่ได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกเช่นนี้กับชายคนที่เพิ่งจะได้เจอหน้ากันครั้งแรก
รัศมีแห่งอำนาจและบางอย่างชวนให้ถวิลหาที่นำพาซึ่งความเร่าร้อนราวจะแผดเผา ก่อเกิดความกลัวแล่นลิ่วเข้ามาเกาะกุมหัวใจดวงน้อย เมื่อร่างหนาเดินมุ่งหน้าตรงมาเรื่อยๆ เอื่อยๆ ราวกับราชสีห์ที่กำลังขี้เกียจและเพิ่งจะตื่นจากนอนจำศีล แต่ก็มีอะไรบางอย่างบอกว่า สิ่งที่เห็นนั้นเป็นเพียงม่านมายาหลอกตาเท่านั้น เพราะเพียงแค่เผลอนิดเดียวเจ้าสัตว์ร้ายก็พร้อมกระโดดกัดกินเนื้อสมันนุ่มนิ่มอย่างเร็วไว
‘หยุดได้แล้วยายว่าว’ กันติชาพยายามบังคับให้ตัวเองถอนสายตาจากร่างหนาแกร่งนั่น แต่ทำอย่างไรเธอก็ทำไม่ได้ การเยื้องย่างแต่ละครั้งที่ก้าวแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของเรือนกายกำยำและทรงพลังที่ทำให้เธอร้อนวูบวาบราวกับโดนไฟเผา
กันติชายิ้มแหยๆ พลางกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ขนลุกซู่ เรือนกายสั่นสะท้านไหววูบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ เมื่อเขาคนนั้นเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้า เท้าเรียวยาวพาร่างโปร่งบางถอยไปด้านหลังเล็กน้อย เพราะรัศมีแห่งอำนาจและความดุร้ายระคนวาบหวามที่แผ่กระจายมา
ดวงตากลมโตเป็นประกายวาววับหลุบลงมองพื้นอย่างไม่สามารถประสานสายตาอันคมกริบที่เหมือนจะมองทะลุเข้าไปถึงในทรวงได้ สิ่งที่เห็นเมื่อครู่ชัดเจนยิ่งขึ้น
‘ทำไมเขาถึงได้ดูดี...ไม่ใช่ ต้องเรียกว่าเฟอร์เฟ็ก สุดยอดที่สุดต่างหากล่ะ’
ใบหน้าออกเค้าสี่เหลี่ยมแข็งแกร่งและคมคร้าม หน้าตารกครึ้มด้วยหนวดและเคราที่ขึ้นเขียวครึ้ม นอกจากจะสร้างความหวาดกลัวให้แล้ว ยังซุกซ่อนอารมณ์บางอย่างเอาไว้อย่างที่คนมองไม่เคยจะรู้มาก่อนว่ามีอยู่
ราชันย์สบถเบาๆ อย่างหงุดหงิดและรำคาญ เมื่อต้องตื่นเพราะเสียงกริ่งที่ดังหนวกหูรบกวนการหลับนอน แล้วก็ต้องมาหงุดหงิดกับท่าทางตื่นกลัวและตระหนกตกใจในดวงตากลมโตของแม่สาวน้อยร่างโปร่งบางอวบอัดด้วยวัยสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่เบื้องหน้า
เรือนกายสูงโปร่งในชุดเก่าๆ จะขาดอยู่รอมร่อ กลับยิ่งเน้นความอวบอิ่มของสัดส่วนเรือนกายสาว ที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งน่าจับต้อง เพียงแค่ได้เห็นครั้งแรกก็ทำเอาไฟอารมณ์ในกายเขาถึงกับลุกโชนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เกิดอาการกำหนัดอยากจับยายเด็กน้อยมาอัดฟัดอย่างเร็วไว
‘ยายเด็กน่าฟัดนี่ลูกเต้าเหล่าใคร ถึงได้มายืนยั่วให้เขาอยากจับโยนขึ้นเตียงอยู่ได้’ สายตาคมกริบสีนิลวาววับจับจ้องไปบนใบหน้ารูปหัวใจ พวงแก้มใสเป็นสีชมพูระเรื่อชวนให้กดปลายจมูกลงไปดมดอม
วงหน้าส่วนที่เด่นที่สุดนอกจากดวงตากลมโตเหมือนกับดวงตาของสมันตัวน้อย เปิดเผยความกลัวและอยากรู้อยากเห็นและที่สำคัญคืออยากลอง ก็คงจะเป็นเรียวปากรูปกระจับอวบอิ่มเป็นสีชมพูระเรื่อที่ดูท่าจะหวานหอมน่าลิ้มลอง ที่เขาอยากยื่นมือไปคว้ากายโปร่งบางมาจูบให้หนำใจ
‘บ้าชะมัด’ ราชันย์สบถก่นด่าตัวเองที่ดันเกิดความปรารถนาในตัวยายเด็กสาวท่าทางยังโตไม่เต็มที่และเพิ่งเจอหน้าเพียงครั้งแรกคนนี้มาอยู่เหนืออารมณ์และเหตุผล แต่ช่างแม่งปะไร ยังไงเขาก็ไม่คิดจะสนใจใครอยู่แล้วนี่นา ถ้าอยากได้ก็ต้องได้
‘โทษตัวเองแล้วกันหนูน้อย เธอมายั่วให้ฉันอยากเอง’ เพียงคิดว่าจะได้ลิ้มลองรสชาติสาวน้อยแรกผลิเหมือนกุหลาบแรกแย้มบาน เพราะรู้โดยสัญชาตญาณของนักล่า สาวน้อยตรงหน้าไม่เคยเจอภมรชอนไช ความแข็งแกร่งในเรือนกายที่หลับใหลอยู่ก็ตื่นตัว พร้อมคำสั่งห้ามปล่อยแม่จอมยั่วหลุดรอดมือไปโดยเด็ดขาด
‘ได้ยายเด็กนี่มาครอบครอง เตียงเขาคงได้ร้อนเป็นไฟไม่ต้องหลับต้องนอนกันล่ะ’ รอยยิ้มมาดหมายผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของปากหนา ก่อนที่มันจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว โดยที่สาวน้อยซึ่งยืนอยู่เบื้องหน้าไม่ทันจะได้เห็น ดวงตาคมกริบมองลงไปตามส่วนอื่นของเรือนกายสาว
‘อื้อฮือ...อวบอิ่มน่าสัมผัสชะมัด’ ทรวงอกอวบอิ่มดุนดันเสื้อยืดกระชับตัวกำลังสะท้อนขึ้นและลงตามการหายใจ ท้ายสุดดวงตาคมดุก็หยุดที่ช่วงขาเรียวยาวที่โผล่พ้นขอบกางเกงยีนนวลเนียนและดูท่าจะนุ่มน่าสัมผัสจริงๆ
เพียงแค่ได้สบสายตาคมดุราวกับพญาเหยี่ยวที่กวาดมองไปทั่วร่าง เหมือนกับกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ออกโยนทิ้งไป กันติชาถึงกับตัวสั่นใจสั่น ขาเรียวพยายามจะก้าวถอยไปด้านหลังอ่อนยวบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนต้องยืนอยู่กับที่
‘เธอเป็นบ้าอะไรนี่’
สะโพกสอบแทรกลึกจุ่มจ้วงกายแข็งแกร่งและร้อนระอุไปในความอุ่นร้อนชื้นอย่างไม่บันยะบันยัง กายสาวตอบรับถี่ยิบทุกสัมผัสที่ถาโถมเข้าหาอย่างเร่าร้อนส่งมอบความสุขให้สองร่างหล่อหลอมกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์บทรักครั้งแรกผ่านพ้น ครั้งที่สองสามก็ตามมาตลอดจนเกือบจะรุ่งสางของอีกวัน ก่อนที่สองร่างจะนอนกกกอดอย่างแนบชิด พลั่ก!! พลั่ก!! “ว้าย!!! พี่ใหญ่/คุณใหญ่” สองสาวกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นราชันย์ก็ต่อยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชายิกาถลาเข้าไปกกกอดคนรัก ในขณะที่กันติชาก็รีบเขากอดราชันย์ขัดขวางไม่ให้ชายหนุ่มไปซ้ำเติมอีกครั้ง“มีอะไรคะคุณใหญ่ ต่อยคุณสิทธิ์ทำไม ไหนเราตกลงกันแล้วนะคะว่าจะยอมปล่อยให้...” “หมัดแรก เพราะมันไม่เชื่อฟังคำพูดฉัน เมื่อวานจำได้ไหมว่าให้เวลาแค่สิบนาที แต่ทำไมวันนี้ยังเสือกอยู่ในบ้านฉันอีก แล้วดูเหมือนไอ้เพื่อนเฮงซวยยังไม่ได้กลับบ้านด้วยซ้ำ ส่วนหมัดสองต่อย เพราะอยากเอาคืนในทุกๆ เรื่อง” ราชันย์ยกมือชี้หน้าสิทธิ์ “แกจำไว้เลยนะไอ้สิทธิ์ ถึงฉันจะยกน้องสาวให้ แต่เมื่อไหร่ที่แกทำให้ยายน้องต้องเจ็บปวด รับรองได้เลยว่าแกได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ได้...ให้โอกาส แต่ขอดูความประพฤติสักสามปีได้ไหมล่ะ ถ้าทำตัวดีก็ให้คบกับยายน้องได้ แล้วก็ดูใจกันอีกสักสี่ห้าปีค่อยแต่งงาน รอได้ไหมล่ะ” วงหน้าคมคร้ามผุดรอยยิ้มในดวงตา สามปีที่อีกฝ่ายจะไม่ได้เจอหน้าชายิกา เพราะเขาจะให้น้องสาวอยู่กับแม่ ให้โอกาสแค่โทรคุยไม่ให้พบหน้า ส่วนเวลาอีกสี่ห้าปีก็ประมาณว่าดูแลแบบห้ามแตะต้อง ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ไต่ตอมแน่ะ...ยังไม่วายตั้งแง่อีก เฮ้อ...วงหน้าสวยส่ายเบาๆ หันไปส่งกำลังใจให้สองคนที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปยืนใกล้กัน มือเล็กอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เริ่มขยับเคลื่อนสอดไปด้านหลัง หวังโอบรอบกายบอบบาง แต่ต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอกับสายตาคมกริบที่จับจ้องอย่างไม่คลาดแม้สักนิดเดียว “คุณใหญ่อย่าแกล้งคุณสิทธิ์กับคุณน้องซิคะ” “ไม่ได้แกล้ง แต่ยายน้องยังเด็ก ก็อยากให้คบกันนานๆ สักหน่อย อีกอย่างฉันอยากให้ยายน้องเรียนจบตรีก่อนจะมีแฟน เรียนจบโทแล้วค่อยแต่งงาน” ราชันย์พูดกลั้วหัวเราะ แล้วเมื่อเห็นหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของสิทธิศักดิ์จนอยากจะหัวเราะให้ดังลั่นห้อง เออ...แกล้งคนนี่สนุกดีเหมือนกัน ทำให้น้องสาวเขาเจ็บและเป็นทุกข์จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมไปเป็นกอง ก็ทรมานอีกสักหน่
“ผมรู้ว่าคำตอบที่ให้ไปจะทำให้คุณเจ็บปวด เพราะตัวผมเองก็เจ็บปวดเหมือนกัน แต่ผมรู้อย่างเดียวว่าผมทำร้ายริตาไม่ได้” นี่คือความจริงใจจากเขาที่จะยังทำให้อาริตาได้ ความซื่อสัตย์และภักดีอย่างที่คนรักควรจะมอบให้แก่กัน แม้อีกฝ่ายจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตามที“ถ้าอย่างนั้นนายมาที่นี่ทำไม มาทำให้ฉันเจ็บปวดอีกทำไม” หญิงสาวถามพร้อมเสียงสะอื้น น้ำตาอุ่นร้อนไหลอาบสองแก้ม ร่างบอบบางสั่นสะท้านกับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจและร่างกาย กัดกร่อนหัวใจที่กำลังเต้นอยู่ให้แทบจะหยุดเต้น ทำไมถึงไม่บอกให้เธอดีใจก่อน แล้วค่อยบอกให้รู้ในวันหลัง ซึ่งคงจะทำใจได้มากที่จะยอมรับความจริงนี้ได้แล้ว“ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยฉันไป ไม่นานฉันคงทำใจได้” “เพราะผมรักคุณ ผมรักคุณน้อง คุณจะให้โอกาสผมได้ไหม” “ไม่ได้...ถ้าแกยังคิดว่ายายฉันมีบุญคุณกับแกอยู่ และยังคิดว่าฉันเป็นเพื่อนก็ออกไปจากบ้านฉัน อย่าให้ต้องเรียกตำรวจ” ราชันย์ห้ามเสียงแข็งกร้าวและดุร้าย ใบหน้าคมคร้ามแดงคล้ำด้วยความโกรธ มือใหญ่กำหมัดเอาไว้แน่น นี่ถ้าไม่ฉุกใจว่าไอ้รถที่แอบจอดอยู่ห่างจากบ้านไปไม่มากเป็นรถสิทธิศักดิ์ละก็ ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกฝ่ายจะทำร้ายอะไรน้องสาวเขาอี
“นายมาทำไมอีกนายสิทธิ์” เพียงแค่เห็นหน้าสิทธิศักดิ์เท่านั้นชายิกาก็ยิงคำถามไปในทันที และแทบจะไม่รอฟังคำตอบด้วยซ้ำ ปิดหนังสือนิตยสารในมือลงดังปังใหญ่ รีบวางลงบนโต๊ะพร้อมร่างเล็กบอบบางผุดลุกจากที่นั่ง แต่ก็ไม่ทัน ร่างหนาที่ถลาเข้ามาดักทางไว้ แล้วเมื่อจะหันไปอีกด้านการตัดสินใจก็ช้าไป แขนเรียวถูกคว้าไว้และออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างอรชรอ้อนแอ้นก็ถลาขึ้นไปนั่งบนตักกว้าง พร้อมแขนที่สอดรัดระหว่างลำตัว“ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ นายไม่มีสิทธิ์จะมาทำแบบนี้กับฉัน” หญิงสาวตวาดเสียงเขียว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มจนแบนราบเรียบ สองมือเล็กพยายามจิกทึ้งดึงแขนใหญ่ออกจากกาย แต่ยิ่งขัดขืนอ้อมแขนแข็งแกร่งก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้น หัวใจที่เพียรสร้างความเข้มแข็ง พยายามบอกว่าอย่าหวั่นไหว แต่เพียงแค่ได้เห็นหน้า ได้สัมผัสกลิ่นกายที่คุ้นเคย หัวใจก็เริ่มไหวหวั่นเสียแล้ว “ปล่อยฉันนะนายสิทธิ์ ถ้าพี่ใหญ่มานายเจ็บตัวแน่” ในเมื่อทำอย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปล่อยก็ยกชื่อพี่ชายมาขู่ หวังว่าอีกฝ่ายจะกลัวและรีบไปเสียที ก่อนที่หัวใจซึ่งเธอพยายามก่อกำแพงไม่ให้หวั่นไหวจะพังทลายครืนลงมาสิทธิศักดิ์หัวเราะในลำคอ ก็เขาน่ะเฝ้าอยู่หน้าบ้าน
วงหน้าคมหวานเหลียวมองซ้ายขวาลากพากันติชาและชายิกาไปยังมุมสุดของห้องที่ก่อสร้างไม่เสร็จและมีเส้นทางเล็กๆ ให้เดิน แต่ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะมีเศษดินเศษไม้และเหล็กแหลมๆ กองอยู่เต็ม ถึงแม้จะพยายามระมัดระวังตัวมากเท่าไหร่ แต่อีกสองสาวที่พยายามขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ไม่ยอมเดินตามง่ายๆ ก่อนที่ขาใหญ่จะเดินพลาด เหยียบเข้ากับกองไม้ขนาดใหญ่ซึ่งภายในนั้นมีเหล็กแหลมๆ ซุกซ่อนอยู่ “โอ๊ย!”แต่ถึงแม้จะเจ็บกายสักเพียงใดนภดลก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มือใหญ่กระชากร่างเล็กทั้งสองร่างตามติดไปด้วย แต่ทั้งราชันย์และสิทธิศักดิ์ รวมถึงตำรวจอีกหลายนายที่เฝ้าจับตาดูอยู่ไม่ยอมให้ชายหนุ่มทำได้ง่ายๆ รีบตรงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนจะยังเป็นความซวยของชายิกา เพราะเมื่อราชันย์กระชากตัวน้องสาวมาได้ร่างเล็กก็กลิ้งไป จนลอยคว้างอยู่บนปลายเหล็กแหลมๆ ที่สอดไว้ทำคานพื้น ในขณะที่นภดลนั้นก็เหมือนจะเป็นคราวเคราะห์ เมื่อร่างใหญ่ล้มทับเหล็กแหลมและมันได้เสียบเข้าที่ช่องท้อง เหนือทรวงอกเล็กน้อย เลือดไหลทะลักออกจากร่างที่กำลังกระตุกถี่ๆ ดวงตาเบิกกว้าง แต่กระนั้นอีกฝ่ายก็หารับรู้ถึงความเจ็บปวดไม่ ยังคงส่งเสียงแผดร้องด่าทอกันติชา







