LOGINใช่ว่าจะไม่เคยมีชายใดสนใจ เพราะแถวบ้านมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แวะเวียนมาแจกขนมจีบเป็นประจำ แต่เธอไม่สนใจเอง ผิดกับชายคนนี้ที่เพียงแค่กวาดสายตามองมา หัวใจดวงน้อยๆ ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ร่างกายอ่อนยวบอ่อนระทวยเหมือนเรี่ยวแรงที่มีจะถูกดูดหายไป แต่ก็เหมือนกับมีอะไรดึงรั้งเอาไว้ไม่ให้ถอนสายตาจากบุรุษหนุ่มเจ้าเสน่ห์ชวนหลงใหล อยากถูกเติมไฟ...ปรารถนา
‘อา...ร้อนจังเลย’ ปลายลิ้นเล็กสีชมพูยื่นออกมาไล้เลียริมฝีปากด้วยความกระหายอยากที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ทันรู้ตัว ดวงตามองชายตรงหน้าด้วยความหวาดกลัวกึ่งอยากรู้อยากลอง มือเล็กเรียวเย็นเฉียบด้วยความงุนงงและสงสัย เธอเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้ร้อนวูบวาบเหมือนถูกไฟเผา เกิดอารมณ์อยากกระโดดเข้าหา กดกอดและจุมพิตปากหนาๆ นั่นเร็วๆ
‘หยุด...หยุดได้แล้วยายว่าว หยุดคิดเรื่องบ้าๆ เสียที แกมาทำงาน นะ ไม่ใช่มาให้ปล้ำผู้ชาย’ กันติชาพยายามเตือนและดึงสติตัวเองให้กลับมาสู่ปัจจุบันตรงหน้า แต่ทำอย่างไรเธอก็ยังอดที่จะวาดภาพตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดชายหนุ่มตรงหน้า คลอเคลียแนบชิดและ...จุมพิตอย่างหนักหน่วงถึงใจไม่ได้
“เธอเป็นใคร และมาที่นี่ทำไม”
น้ำเสียงห้วนดุที่ออกจากปากหนาใหญ่ทั้งห้วนดุและแข็งกร้าว ยิ่งทำให้กันติชากลัวจนอยากก้าวถอยหลังแล้ววิ่งหนีกลับบ้านไป แต่พอนึกถึงจำนวนเงินเรือนหมื่นที่จะได้รับ ก็ต้องหักใจข่มความกลัวตอบกลับเขาไปเสียงเบาหวิว จนคนที่ยืนอยู่ด้วยแทบจะไม่ได้ยิน
“มาหา...คุณราชันย์ค่ะ ป้า...จันทร์บอกว่าคุณราชันย์ให้มาพบค่ะ” กันติชาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เพราะต้องการปกปิดความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในหัวใจและเรือนกาย โดยไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือเจ้าของบ้านที่เธอต้องมารับคำสั่งเรื่องการจัดทำอาหารให้
ยามกลีบปากบางขยับ น้ำเสียงเล็กหวานใสและเซ็กซี่ ยิ่งยั่วไฟปรารถนาในกายราชันย์ให้ลุกโชน ลำคอแห้งผากขึ้นมาอย่างกะทันหัน อยากจะคว้าแขนเรียวลากเข้าบ้านแล้ว...
ชายหนุ่มต้องสงบสติอารมณ์ที่พลุ่งพล่านที่ไหลตามกระแสเลือดเดือดระอุ ดวงตาเข้มดุราวกับตาเสือยามมีโทสะจับจ้องที่ร่างโปร่งบางอย่างราชสีห์จ้องตะครุบเหยื่อ...แสนโอชะ
“มาหาฉันเหรอ...?” ราชันย์ครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะร้องอ๋อในลำคอเมื่อนึกขึ้นได้ วันนี้เขาเป็นคนสั่งการให้ป้าจันทร์นัดใครมาหา
ใบหน้าคร้ามแกร่งผุดรอยยิ้มตรงมุมปากด้านหนึ่ง ความโกรธและหงุดหงิดที่ถูกปลุกจากเตียงนอนกลับกลายเป็นสนุกสนานขึ้นมา
“เธอมาหาฉันเรื่องอะไรล่ะ?” เอ่ยถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว พลางกวาดสายตามองสาวตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ พวงแก้มอิ่มเต็มเหมือนจะเห็นเส้นเลือดแดงระเรื่อ ดวงตากลมโตเป็นประกายเศร้าปนหวาน เชิญชวนด้วยความพิศวาสแสนหวานระคนเร่าร้อน จนเขาแทบจะเป็นบ้าตาย เพราะกระหายใคร่อยากลิ้มลองความสาวสด
กันติชาอ้าปากค้าง เมื่อรับรู้ว่าชายหนุ่มนัยน์ตาดุคนนี้คือ...คุณราชันย์ แข้งขาสั่นเทา มือไม้เย็นเฉียบที่เกะกะจนไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหน ในลำคอก็แห้งผาก พูดไม่ออกบอกไม่ถูกขึ้นมาในฉับพลัน
“มา...”
“มา...อะไร” สองมือใหญ่ยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอก แสงแดดจากพระอาทิตย์ที่สาดส่องมา ทำให้เขาร้อนจนเหงื่อแตกซิกไปตามขมับและร่องรูขุมขน แล้วยังจะร้อนด้วยไฟปรารถนาที่มาจากแม่สาวอวบสวย ที่ชวนให้หงุดหงิดงุ่นง่านและรำคาญใจ คงต้องให้ไอเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศช่วยลดอุณหภูมิความร้อนในร่างกายไปเสียบ้าง มือใหญ่ยื่นไปคว้าแขนเล็กเรียวและลากเข้าไปคุยต่อในบ้าน
“โอ๊ย!! คุณทำอะไรนี่ ปล่อยหนูนะคุณ หนูเจ็บ” กันติชาเผลอเรียกตัวเองว่าหนูไปตามถนัดปาก ใบหน้าขาวเหยเก มือเล็กพยายามดึงเอาคีมเหล็กที่คีบแขนไว้ออกไป ไหนจะแรงอันมหาศาลที่ลากจนหัวตุงคว้างไปข้างหน้า อย่างกับเธอเป็นเพียงแค่ปุยนุ่นไร้น้ำหนัก
“เงียบ!” ราชันย์หันไปตะคอกเสียงดังเหมือนสิงโตคำราม ในดวงตาเป็นประกายเกรี้ยวกราดและดุร้ายเหมือนพญาเสือหนุ่มกำลังพิโรธ ลมหายใจหอบแรง เพียงแค่แตะต้องผิวกายเนียนนุ่มไฟปรารถนาที่เขาคิดว่ามันจะมอดดับกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนกายปวดร้าวแสนสุดจะทน อย่างที่ไม่คิดสิ่งใดเขาแกร่งกระชากร่างเล็กเข้ามาหาตัว สอดแขนรัดระหว่างเอวเล็กคอดบดเบียดกายใหญ่กับกายโปร่งบางจนแทบชิดไปทั่วสรรพางค์
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เรียวปากบางแต่อวบอิ่มอ้าค้าง กลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น มือที่ยกขึ้นจะผลักดันอกกว้างกลับหมดแรงเสียดื้อๆ เมื่อเจอกับความร้อนราวกับถูกไฟช็อต ใบหน้าขาวสวยเนียนเป็นสีแดงสลับซีด ศีรษะทุยได้รูปส่ายหนี แต่กลับถูกมือใหญ่จับรั้งปลายคางเอาไว้
“อย่า...” เสียงห้ามเบาหวิวขาดหาย เมื่อปากอุ่นร้อนฉกวูบลงบนเรียวปากนุ่มอย่างแม่นยำ กดคลึงสลับดูดกลืนกลีบปากนุ่มหวาน ปลายลิ้นสากระคายลากไล้ไปทั่วเรียวปากนุ่ม สอดแทรกเข้าไปแตะไล้ฟันขาวสะอาดที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม
มือใหญ่กระชับท้ายทอยให้หญิงสาวรับจุมพิตแผดร้อนอย่างถนัดถนี่ ก่อนขยับเคลื่อนไปตามลำคอระหง เรื่อยลงไปถึงไหล่กว้าง ลูบไล้แผ่นหลังนุ่มบางอยู่เป็นชั่วครู่ ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปลูบไล้ผิวกายแท้ๆ ที่เนียนและนุ่มดุจใยไหม
“อืม...หวาน” เอ่ยเสียงแหบพร่า พลางกดย้ำจุมพิตลงไปดื่มด่ำกับปากอิ่มนุ่มแสนหวานละมุนอย่างหนักหน่วงหลงใหล
กันติชาทำอะไรไม่ถูกได้ แต่ยืนตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนใหญ่ เรียวปากนุ่มถูกบุกรุกอย่างอาจหาญ ลิ้นสากร้อนแต่งแต้มไปทั่ววงปากนุ่ม เกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเล็กๆ อย่างเอาแต่ใจ บัวตูมเต่งตึงถูกฟอนเฟ้นอย่างหนักหน่วงและรุนแรงจนเจ็บ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเสียวซ่านและรัญจวนใจ ปั่นป่วนในช่องท้อง สองขาเรียวยาวสั่นเทาจนยืนไม่อยู่ ต้องรีบเอนกายอิงแอบร่างหนาใหญ่
“อืม...อย่า” กายสาวสั่นระริกด้วยเปลวไฟร้อนผ่าวที่แล่นพล่านไปทั่ว จุมพิตที่ได้รับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับวิญญาณถูกดูดกลืนออกจากร่างไปอย่างเชื่องช้า ความช่ำชองที่อีกฝ่ายมีทำให้ใจสาวไม่ประสายอมสยบ ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ปล่อยตัวรับสัมผัสอบอุ่นแฝงไว้ด้วยความกระหาย
ปลายลิ้นเล็กๆ ตวัดไล้ตอบรับลิ้นสากระคาย มือที่ไม่รู้ว่าถูกปล่อยตั้งแต่เมื่อไหร่จับแขนใหญ่และจิกลงไปแรงๆ สลับเคลื่อนไปตามความแข็งแกร่ง ใบหน้าแดงปลั่งแหงนหงายไปด้านหลัง ให้จุมพิตร้อนผ่าวที่ดูดกลืนวิญญาณเธอให้ออกจากร่างเคลื่อนไปขบเม้มลำคอระหงอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของและหลงใหล
ราชันย์วาดแขนควานหาร่างนุ่มนิ่มและหอมกรุ่นที่เขากอด รับและส่งมอบความสุขให้ตลอดทั้งคืนอย่างแทบไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ไม่พบ คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยพร้อมดวงตาคมกริบที่กะพริบถี่ๆ และหรี่ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า ปรับให้เขากับแสงพระอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามา เพราะผ้าม่านที่กั้นไว้ปลิวไหวตามกระแสลมแรง บ้านพักที่นี่อยู่ใกล้ภูเขา ยามค่ำคืนอากาศเย็นสดชื่น เลยไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ สามารถนอนเปิดหน้าต่างนอนฟังเสียงแมลงกลางคืนส่งเสียงร้องแข่งกันอย่างไม่น่าเบื่อเลยสักนิด เมื่อมันเป็นเหมือนเสียงดนตรีขับขานกล่อมสองร่างให้นอนหลับฝันดี ดวงตาคมกริบลืมมองอย่างเต็มที่ ศอกใหญ่เท้ากับเตียงนอนหกฟุต กวาดมองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นคนที่ต้องการ เกือบจะยื่นมือไปคว้าเอาผ้าห่มที่คลุมเรือนกายบางส่วนอย่างหมิ่นเหม่ออกแล้ว เผอิญประตูห้องนอนก็เปิดออก ร่างโปร่งเดินเข้ามาพร้อมกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น“ตื่นแล้วหรือคะ” กันติชาเอ่ยทักเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวานอบอุ่น เหมือนกับเปิดแย้มโลกที่มัวซัวให้สว่างและสดใสขึ้นทันตา ร่างโปร่งบางเดินไปวางกาแฟบนพนักเตียง ก่อนจะยื่นมือเล็กไปวางบนมือใหญ่ที่ยื่นมาหา กระตุกเพียงเล็
“อ๋อ...เหรอ ข้อหาอะไรครับคุณผู้หญิง ข่มขืนกระทำชำเราหรือ กล้าจะบอกตำรวจไหมละ ฉันทำอะไรกับเธอบ้าง กล้าไหมถ้าจะบอกตำรวจไปว่าฉันจับตรงนี้” มือใหญ่ลูบไล้ไปตามก้อนเนื้ออวบอิ่มเต่งตึงที่ไหวกระเพื่อมตามแรงโกรธของคนตรงหน้า กายใหญ่ทาบทับขึ้นเหนือร่าง กับมือที่ลากไล้ไปตามสัดส่วนอันอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก “ทำอย่างนี้กับร่างกายของเธอนะชายิกา” ริมฝีปากหนาและร้อนผ่าวประทับกึ่งกลางทรวงสล้างอวบอิ่ม ขบเคลื่อนขึ้นไปทีละน้อย พร้อมกับคำถามเหมือนคมมีดที่กรีดเข้าไปในเนื้อกายสาวให้ต้องช้ำชอกและกลัดหนอง ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปถึงมุกมณีเม็ดงามที่หลบซ่อนอยู่ล่างพงไหมนุ่มและมีกลีบดอกไม้บางนุ่มปกปิดอยู่อีกชั้นกดคลึงเบาๆ “กล้าไหมที่จะบอกเขาไหม ฉันทำให้เธอร้องเสียงแหบเสียงแห้งตอนที่...” “อือ...” กายสาวสั่นสะท้าน วาบหวิวกับมือใหญ่ที่เริ่มร่ายมนตร์มายาใส่ ริมฝีปากอวบอิ่มเห่อแดงขบกัดจนกลายเป็นเส้นตรง ยิ่งเมื่อห้ามปราม กลับถูกสิทธิ์ศักดิ์บังคับด้วยแรงที่มากกว่าจนระบบภายในร่างกายเริ่มปั่นป่วน จุมพิตร้อนผ่าวที่นาบอยู่บนผิวเนื้อ ทำให้เสียววูบไปถึงรูขุมปากหนาอ้างับและดูดกลืนปลายนิ้วยาวเรียวจนเปียกชื้น “เอาน่าชายิกา จะคิ
กายแข็งแกร่งถาโถมเข้าหาบุปผาอบอุ่นอีกครั้งและอีกครั้ง พร้อมระเบิดลูกขนาดย่อมที่ระเบิดตูมๆ ติดกันหลายตลบ ก่อนจะตามด้วยระเบิดลูกยักษ์ที่แตกตัวกลายเป็นสะเก็ดดาวพร่างพราวจนเต็มท้องฟ้า กับสายธารอุ่นร้อนที่ไหลรินรดกุหลาบดอกน้อยจนอาบล้น ส่วนหนึ่งไหลปรี่ออกมาเบื้องนอกกับใบหน้าคมคร้ามที่ซบซุกบนสองเต้าสวย สองกายอาบชุ่มเหงื่อจากเพลิงพิศวาสแผดร้อนกอดประคองแนบชิด ลมหายใจหอบสะท้านด้วยเพลิงพายุพิศวาสที่อาบล้น แล้วก็เป็นชายิกาได้สติก่อน รีบผลักดันร่างหนาให้ถอยห่างด้วยความเจ็บปวดและอับอายขายขี้หน้า แต่ในความรู้สึกเหล่านั้นส่วนหนึ่งกลับแฝงไว้ด้วยความสุขที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ริมฝีปากอวบอิ่มขบเม้มเข้าหากันจนราบเรียบ ในหน่วยตามีน้ำใสๆ อาบล้นเมื่อแขนแกร่งเป็นดังเหล็กกล้าไม่คลายออกแม้แต่น้อย “ปล่อยฉันได้แล้ว” แม้จะพยายามข่มกลั้นน้ำเสียงให้ราบเรียบ แต่ความใกล้ชิดและสิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเป็นเรื่องธรรมชาติของชายหญิงวัยเจริญพันธุ์ก็ยังทำให้ชายิกาทำใจไม่ได้ “ปล่อย แล้วทำไมต้องปล่อย” สิทธิศักดิ์เอ่ยถามน้ำเสียงยิ้มกริ่มเริงรื่นอย่างคนที่อารมณ์ดี ศอกใหญ่เท้ากับพื้นเตียงชะโงกศีรษะ ปลายนิ้วลากไล้ผ่านส่วนเว้าส่วนโค้
“ออกไปนะคนใจร้าย ออกไป” ชายิการ้องเสียงแหบแห้ง จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้างและลากอย่างแรงเท่าที่จะทำได้ ริมฝีปากอวบอิ่มขบกัดจนแทบจะได้เลือด แต่ความเจ็บปวดที่ไหลล้นอยู่บนเรือนกายก็ไม่จางหายไปเลยแม้แต่น้อยและยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับเคลื่อนไหวตัว “โทษทีนะชายิกา แต่เราคงจะหยุดไม่ได้ ฉันเตือนเธอแล้วไม่ใช่หรือไง อย่าเล่นกับไฟ ระวังมันลวกมือตัวเอง” ชายหนุ่มทุ่มทั้งกายปลุกเร้าบีบนวดบั้นท้ายกลมกลึง ไพล่ไปถึงลำขากลมกลึง บีบนวดไล่ไปถึงข้อพับและลากไล้กลับขึ้นมาสอดแทรกจากต้นขาด้านใน ซอกซอนไปลากไล้ฉวัดเฉวียนกดขยี้มุกมณีอันอ่อนไหว สูดลมหายใจร้อนผ่าวเข้าจนเต็มปอด พร้อมขบเม้มจุมพิตไต่ไล่ขึ้นไปซุกไซ้ใบหน้าคมคร้ามกับซอกคอระหง ดูดกลืนผิวกายสีขาวอมชมพูเหมือนกับกลีบซากุระจนแดงช้ำ ก่อนไถลไปลูบไล้ลำขาเสลา บีบนวดสะโพกหนั่นแน่นเรื่อยไปตามสีข้างเนียนนุ่ม ไล้ไปด้านหน้านวดคลึงหน้าท้องแบนราบเรียบ ก่อนจะตรงเข้าครอบครองเต้าอวบอิ่มนุ่มหยุ่น ปลายนิ้วลากไล้วนเวียนรอบป้านบัวนุ่มที่แข็งตัวเป็นไต กดคลึงขยี้แผ่วเบา ครอบครองด้วยฝ่ามือใหญ่เคลื่อนไหวคลึงไปมา จุมพิตร้อนผ่าวขบเคลื่อนทั่ววงหน้านุ่ม กดซับหยดน้ำตาจาก
“สายไปเสียแล้วคุณน้อง...ฉันจะชำแรกแทรกลึก จะทำให้คุณทัวร์สวรรค์แต่ลงนรกในคราวเดียวกัน” ‘ไม่ใช่...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการสักหน่อย’ ชายิกาบอกกับใจตัวเอง เมื่อถูกคลื่นความสยิวซ่านโอบรอบ ในสมองคล้ายๆ มีกระไอหมอกและควันสีขาวไหววูบวาบ ในทรวงหวิวไหวคล้ายคนจะเป็นลม แต่ที่หนักคงจะเป็นระบบต่างๆ ในร่างกายซึ่งทำงานผิดปกติ ไม่เชื่อฟังคำสั่งที่มาจากสมองและหัวใจเธอเลยสักนิด สองมือที่วางทาบบนบ่ากว้างหวังจะผลักกายใหญ่ให้ออก แต่ไม่รู้ว่าเรือนกายสิทธิศักดิ์ปราศจากเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ กระตุ้นให้มือเล็กเคลื่อนไหวไปตามกล้ามเนื้อแข็งแกร่งอย่างสะเปะสะปะ ยิ่งเป็นการเพิ่มไฟปรารถนาให้ลุกโชนมือใหญ่รีบเกี่ยวเอาเสื้อผ้าที่มีอยู่บนกายโยนทิ้งไป อย่างไม่สนใจว่ามันจะไปตกอยู่ตรงตำแหน่งใดของห้อง ใบหน้าคร้ามเต็มไปด้วยไรหนวดและเครา ประพรมจุมพิตเคลื่อนขึ้นพร้อมปลายลิ้นไล้เลียผิวเนื้อนุ่มและหอมหวานเหมือนไอศกรีมที่เคลือบด้วยคาราเมล แต่ใช่ว่าชายหนุ่มจะยอมละมือจากความอุ่นนุ่มและร้อนผ่าว “อืม...” เสียงร้องแหบพร่าและกระเส่าดังจากสองกายเป็นระยะ กายใหญ่บดเบียดความแข็งแกร่งและร้อนผ่าวกับกลีบกายอันอ่อนนุ่มเหมือนกับไหมชั้นดี
“ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ ปะ...ปล่อยฉันไปดีกว่า” “ปล่อยทำไมและทำไมต้องปล่อย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเหมือนกับจะหยอกเย้า แต่ในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยคำถากถางและเย้ยหยัน ฟันขาวสะอาดอ้างับปลายยอดถันกดขยี้แรงๆ “อยากให้ฉันบำรุงบำเรอความสุขให้จนตัวสั่นไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้ถึงมาทำสะบิดสะบิ้งเหมือนสาวขี้อาย ไม่เคยนอนกับใครมาก่อนเสียได้ล่ะ อย่างเธอน่ะคงจะยั่วเขาไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำแล้วละแม่คุณหนูจอมยั่ว” สิทธิศักดิ์พูดอย่างลืมไป แม้ราชันย์จะไม่สนใจแม่และน้อง แต่ชายหนุ่มยังควบคุมความประพฤติไม่ให้คนใดคนหนึ่งออกนอกลู่นอกทางเสมอและบ่อยครั้งที่ส่งเขาไปดูแล“ไม่...อือ...” คำพูดที่จะปฏิเสธกลายเป็นเสียงร้องด้วยเสียวซ่านแทน เมื่อสิทธิศักดิ์ไม่ยอมฟัง สองมือเล็กที่วางทาบบนบ่ากว้างและผลักออกไปก็เหมือนเอามือไปผลักหิน ที่ไม่มีอาการขยับเขยื้อนแม้แต่อย่างใด เรือนกายเล็กบางสั่นสะท้านไหวหวิวจากริมฝีปากหนาร้อนและใบหน้าคมซุกไซ้เคลื่อนไหวลงตามหน้าท้องแบนราบเรียบ จุมพิตวนเวียนรอบหน้าท้องไร้ไขมัน สลับปลายลิ้นสอดแทรกกระเซ้าเย้าแหย่ช่องสะดือบุ๋ม สองแขนสอดกระชับบีบนวดบั้นท้ายหนั่นแน่น ดันขึ้นพร้อมเกี่ยวรูดเอาชุดนอนที่ยั







