로그인บริ้งค์ก้าวไปข้างหน้า โซเซบ้างในบางจังหวะเนื่องจากสายตาคอยแต่จะชำเลืองมองเสี้ยวหน้าคมคายของคนที่เดินเคียงข้างมากกว่าถนนหนทาง ซึ่งใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่รับรู้
"ถึงแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ"
ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มหวาน แม้ระหว่างทางจะไร้ซึ่งบทสนทนา ทว่าใจดวงน้อยกลับรู้สึกดีกับการปกป้องดูแลของคนแปลกหน้านี้อย่างประหลาด
"กลับบ้านไปซะ"
บริ้งค์ก้มศีรษะแทนคำขอบคุณอีกครั้ง มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋าคลัชท์ซึ่งมักใช้ถือติดตัวเสมอหากมาเที่ยวเพื่อหยิบกุญแจรถ
แต่พอนึกถึงคำที่เพื่อนสาวเคยพูดกรอกหูบ่อย ๆ เธอก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มอีกครั้ง
"เอ่อ คุณชื่ออะไรคะ คือ...ขอไอจีได้ไหมคะ"
"ฉันไม่เล่น"
"แล้วไลน์ล่ะคะ"
"ไม่มี"
ใบหน้าหวานม่อยลงไปหลายส่วนหลังฟังจบ ทว่ายังคงไม่ละความพยายาม เอาวะ อย่างสุดท้ายแล้ว ถ้ายังไม่ยอมให้อีกเธอก็จะยอมตัดใจ
"งั้นขอเบอร์ก็ได้ค่ะ"
"ฉันไม่ชอบเด็ก"
คำปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาทำเอาบริ้งค์สะอึก เธอเด็กตรงไหน บรรลุนิติภาวะก็ถือว่าไม่ใช่เด็กแล้วหรือเปล่า
หญิงสาวทำหน้ามุ่ย ตวัดสายตามองค้อนคนแก่ไปหนึ่งทีแล้วสะบัดหน้าหนี เตรียมจะเปิดประตูรถ
แต่เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นโจทก์เก่ายืนหลบมุมอยู่ไม่ไกล คล้ายกับรอจังหวะเพื่อทำอะไรบางอย่างเธอก็หน้าตาตื่น หันกลับมารั้งแขนคนข้าง ๆ แล้วเบียดกายเข้าหา
ยัยเด็กนี่เป็นไบโพลาร์เหรอวะ?
ติณณ์ชักสีหน้าหงุดหงิด มือใหญ่แตะลงบนเอวคอดทว่าในจังหวะที่จะดันเด็กสาวออกห่าง เธอก็เงยขึ้นมาสบสายตาก่อนตวัดสองแขนขึ้นโอบรัดรอบคอ
"ขอสิบวิค่ะ"
บริ้งค์กระซิบกระซาบเสียงอ่อน ขืนเธอขับรถกลับตอนนี้คนเดียวคงไม่แคล้วถูกตามแล้วลากตัวขึ้นคอนโดแน่ ๆ ถึงที่ผ่านมาแฟนหนุ่มจะยอมทำแค่ภายนอก แต่ในเมื่อตอนนี้แตกหักกันแล้ว เธอกลัวใจเขาเหลือเกินว่าจะทำอะไรไม่ดี
แม้สัมผัสได้ถึงแรงต่อต้านแต่บริ้งค์ก็ยังเกาะเขาแน่นหนึบ สายตาหวาดหวั่นชำเลืองมองไปทางทิศที่อดีตแฟนหนุ่มยืนอยู่ ก่อนจะลอบถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำเพียงสบถก่อนจะก้าวฉับ ๆ กลับเข้าไปในคลับด้วยสีหน้าไม่พอใจ ไม่ได้ตั้งมั่นปักหลักรออย่างที่นึกกลัว
"ยัยเด็กแก่แดด"
ติณณ์ตำหนิเสียงเข้มแล้วออกแรงผลักไสคนที่เกาะหนึบแรงขึ้น ส่งผลให้คนตัวเล็กทิ้งรอยลิปสติกไว้บนเสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งโผล่พ้นเสื้อสูทอย่างไม่ได้ตั้งใจ
+++++++++++++++
ในซีรีย์ LOVE LINE มี 5 เรื่อง
1. เตชินท์ x มิริน จาก รักเลยตามเลย 2. กวิน x เคท จาก สัญญารักร้าย 3. ติณณ์ x บริ้งค์ จาก เพียงเพื่อรัก 4. บดินทร์ x จัสมิน จาก เสี่ยงรักเดิมพันหัวใจ 5. วอลเลอร์ x มัสลิน จาก รักแลก สามารถอ่านแยกกันได้ค่ะ เพียงแค่มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันในบางฉากเท่านั้นความวิตกกังวลที่ฉายชัดบนใบหน้าหม่นหมอง บวกกับข้อมูลล่าสุดที่ลูกน้องคนสนิทส่งมาทำให้ติณณ์พอเข้าใจว่าตอนนี้เธอรู้สึกเช่นไร ปลายนิ้วสากเคาะลงบนหน้าผากนูนดึงความสนใจแล้วยกยิ้มบาง ๆ"ฉันรู้ว่าเธอตั้งใจและพยายาม แต่บางครั้งสิ่งที่เลือก มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมในเวลานั้นก็ได้"บริ้งค์ทำตาโต หันมองชายหนุ่มด้วยแววตาทึ่งจัด นี่เป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่านะที่เธอได้ยินเขาสื่อสารด้วยประโยคยาว ๆ แถมฟังดูแล้วมันยัง .... เหมือนจะมีสาระ"แต่ถ้าเธอเลือกแล้ว ฉันก็จะช่วย""จริงเหรอคะ?"บริ้งค์ฉีกยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้นดีใจ ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างขึ้นกว่าเก่าอีกเท่าตัวเมื่อร่างสูงขยับย้ายมานั่งเคียงคู่โดยไม่ต้องร้องขอมิหนำซ้ำยังยกท่อนแขนขึ้นมาพาดบนขอบพนักพิงของเก้าอี้จนทำให้ตอนนี้ดูคล้ายว่าเขากำลังโอบเธออยู่"เดี๋ยวค่ะ คุณลุงจะทำไรอะไรคะเนี้ย เดี๋ยวนักข่าวก็เอาไปเขียนลงเว็บอีกหรอก""แฟน""แฟนปลอม ๆ ค่ะ"บริ้งค์รีบท้วงแก้คำเสียใหม่ ถามว่าอยากทำตามแผนเดิมไหม ก็อยากแหละ แต่รอบนั้นเธอเล่นโดนรถทัวร์ขบวนใหญ่วิ่งมาจอดเต็มพื้นที่จนต้องตั้งค่าบัญชีให้กลายเป็นส่วนตัวชั่วคราวและพอสังเกตได้ว่าตอนนี้สายตาหลายคู่
แม้ภายในร้านจะใช้สีดำเป็นหลักในการตกแต่ง ทว่าเมื่อทุกอย่างถูกเนรมิตให้ดูคล้ายกับเมืองแห่งเทพนิยาย แถมมีหุ่นแม่มดสุดสวยเป็นมาสคอตตั้งตระหง่านอยู่ตรงมุมที่เดาว่าน่าจะเป็นจุดเช็กอิน มันจึงกลับกลายเป็นความลึกลับที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้เธอหยุดมองไม่ได้เลย"มาการองเหมือนเดิมนะ"เสียงทุ้มเอ่ยถามทำให้บริ้งค์ดึงสายตากลับคืน หันมาพยักหน้ารับพร้อมยิ้มกว้าง แอบประหลาดใจเล็ก ๆ ที่อีกฝ่ายจดจำชื่อเมนูของที่เธอชอบทานทั้งที่ไม่เคยอ่านให้ฟัง แถมครั้งที่เธอก็ใช้วิธีการชี้สั่งกับพนักงาน"คุณลุงรู้จักร้านนี้ได้ยังไงคะ""กรณ์บอก""อ้อ~"กะแล้วว่าคนหน้าตึงอย่างคุณลุงคงไม่รู้จักที่ ๆ น่ารักขนาดนี้แน่ แล้วที่สั่งมาการองมาให้ก็คงไม่พ้นพี่กรณ์บอกอีกส่ายหน้ายิ้มขำกับความคิดเข้าข้างตัวเองแล้วบริ้งค์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดถ่ายรูปบรรยากาศรวมทั้งตัวเองเก็บไว้อืม รอบที่แล้วกระแสตอบรับดีมาก ขนาดเห็นแค่ข้อมือคนยังกรี้ดกราด ชมกว่าหล่อ งั้นวันนี้เธอแถมให้อีกนิดก็แล้วกัน!ยกยิ้ม กระหยิ่มใจในยอดกดไลค์ของรูปที่ปล่อยไปก่อนหน้านี้แล้วบริ้งค์ก็สลับไปใช้กล้องหลัง ก่อนจะลั่นชัตเตอร์เก็บภาพที่เธอใช้มืออีกข้างทำท่ามินิฮาร์ตโดยมีพื้น
"วันนี้มันวันอะไรเนี้ย งานก็ไม่เสร็จ ขนมก็ไม่ได้กิน"แถมเผลอ ๆ เธออาจจะไม่ได้ไปตี้กับเดอะแก้งแล้วด้วย เพราะหากยังหาที่นั่งเพื่อจบธุระกันไม่ได้แบบนี้ คงไม่แคล้วได้ออกจากห้างตอนหนึ่งทุ่ม"เฮ้ออ สมกับเป็นวันแฮปปี้ฟรายเดย์ไนท์จริง ๆ อ๊ะ!"ขณะกำลังพร่ำบ่นตามประสาคนผิดหวังอยู่นั้น พลันดวงตาก็เบิกกว้าง ถลาเข้าไปช่วยประคองร่างของชายแปลกหน้าที่เซมาทิ้งน้ำหนักพิงผนังใกล้ ๆ จนเธอตกอกตกใจด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะล้ม หัวฟาดเข้ากับเหลี่ยมเสาแล้วได้เลือด"คุณลุง! เป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บตรงไหนไหมคะ"บริ้งค์เอ่ยถาม สายตาห่วงใยมองไล่ไปตามใบหน้าซีดเซียวของอีกฝ่ายอย่างร้อนรน ก่อนจะพ่นลมหายใจยาว ๆ โล่งอกเมื่ออีกฝ่ายส่ายหน้าแทนคำตอบกระนั้นก็ยังรู้สึกไม่ไว้วางใจในอาการอ่อนล้าที่ฉายชัด เธอจึงหันซ้ายหันขวา มองหาที่นั่งพักให้เขาและตัวเองไปพร้อม ๆ กันปรากฏรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าหวานหลังสายตาสะดุดเข้ากับม้านั่งตัวยาวซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ยืนอยู่ประมาณห้าเมตร มือเรียวสอดเข้าพยุงคนป่วยก่อนพยักพเยิดหน้าเป็นสัญญาณให้ก้าวตาม"ไปนั่งตรงนั้นก่อนนะคะ อย่าเพิ่งฝืนเดินไปไหนไกล ๆ เดี๋ยวจะหน้ามืดเอาอีก"ทว่าหลังปล่อยมือออกจากท่อนแ
"เดี๋ยวพาไปกินขนม""ที่ไหนคะ? ร้านเดิมหรือเปล่าคะ?"เด็กสาวผู้ถูกของกินหลอกล่อหันขวับ เอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะกระแอมไอ ทำทีเป็นหยิบชุดขึ้นมาเพิ่งพินิจพิจารณาใกล้ ๆ แก้เก้อที่เผลอแสดงอาการตื่นเต้นทั้งที่กำลังโกรธ"อืม"เพียงเท่านี้ใบหน้าบูดบึ้งก็หวนกลับมาปรากฏรอยยิ้มสดใสดังเดิม"ค่ะ ๆ รับทราบค่ะ คุยงานต่อที่ร้านขนมนะคะ คุยเสร็จแล้วก็ไปส่งหนูกลับบ้านเลยนะคะ"บริ้งค์รวบรัดตัดบทโดยไม่ลืมยกเอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้างแล้วรีบกดเลื่อนกระจกขึ้นปิดก่อนที่ตัวเองจะหลุดยิ้มอีกรอบมือเรียวจัดการยกเสื้อสูทขึ้นจากหน้าตักขณะที่อีกข้างเอื้อมไปดึงที่ปลดล็อกหมายจะลงไปใช้บริการห้องน้ำของห้าง พลันทุกการกระทำก็ชะงักหยุดกึกเมื่อสายตาปะทะเข้ากับความผิดปกติบางอย่างคุณพระ! กระโปรงทรงเอตัวเดิม หากแต่ตอนนี้เพิ่มเติมด้วยรอยผ่าหน้าที่แหวกสูงขึ้นมาจนเกือบถึงเห็นขอบเพนตี้สีดำตัวจิ๋ว อวดความขาวนวลของเรียวขาที่ไม่ได้ตั้งใจโชว์มาได้ไงเนี้ย จะว่าเธอเดินเหินไม่ระวังก็คงไม่ใช่ เพราะวัน ๆ เธอลุกเดินแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น นอกจากตอนที่...พลันพวงแก้วนวลก็ร้อนฉ่า แดงก่ำเมื่อภาพสองร่างกอดรัดร้อนแรงในห้องทำงานฉายชัดขึ้นในค
"เหมือนอย่างที่เว็บบอกเลยว่าคนแก่ ยิ่งอายุมากก็จะยิ่งเอาแต่ใจเหมือนเด็ก"บริ้งค์พึมพำบ่นอุบ ขยับตัวขยุกขยิกเมื่อความเงียบเข้าปกคลุมห้องโดยสารนานจนคนช่างพูดเริ่มเกิดความรู้สึกอึดอัด ทั้งยังตัวสั่นงก ๆ หนาวเหน็บเพราะอุณหภูมิที่ลดต่ำกว่าปกติบ้านเกิดอยู่ขั้วโลกหรือยังไง? บริ้งค์กระแหนะกระแหนในใจ ทำหน้าหงิกพลางดึงเอาเสื้อสูทที่ชายหนุ่มโยนทิ้งไว้ขึ้นมาคลุมร่างอย่างถือวิสาสะและในจังหวะที่หันไปชำเลืองมองเสี้ยวหน้าคมคายอีกครั้ง ภาพใบหน้าดุดันของหมีขาวที่กำลังยืนอ้าปาก ร้องคำรามอยู่บนแผ่นน้ำแข็งก็ผุดขึ้นมาทับซ้อน ทำเอาคนจินตนาการลึกล้ำถึงกับหลุดหัวเราะขบขันพรืดใหญ่คิกคิก เหมือนจริง ๆ แหละ ทั้งโหดทั้งขาวเหมือนหมีขาวขั้วโลกไม่มีผิด!"โอ๊ะ"คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาฉายแววประหลาดใจเมื่อรถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้ามาในลานจอดเร่งด่วน ทว่ายังไม่ทันจะได้ถามไถ่ถึงเหตุผลที่แวะ สารถีก็ขโมยกระเป๋าคู่ใจออกจากอ้อมแขนพร้อมออกคำสั่งที่น่าหมั่นไส้ว่า"รอนี่"จากนั้นเจ้าของรถก็ก้าวฉับ ๆ ตรงไปยังทางเข้าห้าง ทิ้งให้คนที่เหลือแค่ตัวและเสื้อผ้าได้แต่นั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พ่นคำก่นด่าไล่หลังออกมายาวเหยียดจะให้เธอไ
นานนับนาทีกว่าสติที่หลุดลอยจะหวนคืนกลับเข้าที่ ดวงตากลมโตละจากถนนเบื้องหน้ามามองคนนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่หลังพวงมาลัยแล้วกระชับอ้อมแขน กอดกระเป๋าใบหรูที่อีกฝ่ายมีน้ำใจหยิบฉวยติดมือมาให้แน่นขึ้น ใจดวงน้อยเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆรู้สึกเหมือนกำลังถูกคนร้ายลักพาตัวแบบในหนังไม่มีผิด!ว่าแต่เขาจะพาเธอไปไหนเนี้ย ถึงนัดของพี่กรณ์จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ว่าคืนนี้เธอยังมีแพลนเที่ยวกับเดอะแก้งจ่อรออยู่อีกนะเอาไงดี ถามหรือไม่ถามดี?"พูดมา"บริ้งค์สะดุ้งเมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำราวกับรับรู้ความในใจทั้งที่เธอยังไม่ทันได้เอ่ยปากเอ้ะ หรือว่าหน้าเธอมันฟ้องแววตาหวาดหวั่นเหล่มองเสี้ยวหน้าคมคาย คาดคะเนอารมณ์ของชายหนุ่มอยู่ครู่หนึ่งจนแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในโหมดคนปกติ ไม่ใช่ยักษ์ขมูขีอย่างเมื่อสิบนาทีก่อนจึงอ้อมแอ้มถามเสียงอ่อน"คุณลุง~ จะพาหนูไปไหนคะเนี้ย""คุยงาน""แต่นี่มันสี่โมงเย็นแล้วนะคะ หนูเลิกงานแล้ว"แล้วอีกอย่างคือเธอก็ไม่ได้หอบหิ้วข้อมูลและพาวเวอร์พ้อยท์ที่เกี่ยวกับโปรเจกต์นี้ติดตัวตลอดเวลา เธอเซฟเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศนู้น คนอยากกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตั







