Share

บทนำ (2)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-12 23:27:52

เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งแว่วมา

“ร้านเวียงพิงค์ยินดีต้อนรับค่ะ ต้องการดอกไม้แบบไหนบอกได้เลยนะคะ ทางเรายินดีจัดให้ตามต้องการค่ะ” เจ้าของร้านคนสวยเอ่ยต้อนรับโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เข้ามาใหม่ก่อน เพราะมัวแต่สาละวนกับการจัดช่อดอกไม้ให้กับลูกค้าหนุ่มอยู่ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องปรับเปลี่ยนสีหน้าในทันที

“ร้านหล่อนใกล้จะปิดตัวลงรึยังยัยพิ้งค์ ถ้าใกล้แล้วอย่าลืมบอกให้ฉันกับพ่อแกรู้ล่วงหน้านะจะได้หาคนมาเช่าต่อ รู้ใช่ไหมว่าเราต้องเสียรายได้ต่อเดือนไปมากน้อยแค่ไหน แทนที่จะได้เงินใช้อย่างสบาย ๆ ต้องมาให้แกเปิดร้านบ้าๆนี่ขึ้นมาทั้งที่ดูก็รู้ว่ามันไม่น่าจะไปรอด คุณวิชาญไม่น่าจะใจอ่อนยอมแกเลยจริง ๆ” สตรีมีอายุเอ่ยถากถางลูกเลี้ยงสาวอย่างไม่คิดจะสนว่ามีใครนั่งอยู่ในร้านและได้ยินบทสนทนาที่บ่งบอกความใจร้ายของตัวเองแม้แต่น้อย

“มาถึงก็ปากไม่เป็นมงคลเลยนะคะน้ามณี ถ้ารู้ว่าพูดดี ๆด้วยกันไม่ได้ก็ไม่ควรมาเหยียบที่นี่นะคะ เพราะที่นี่ต้องการความสงบกรุณาอย่ามาสร้างความวุ่นวายให้กับร้านหนูเลยค่ะ คนทำมาหากินไม่มีเวลามาต่อปากต่อคำด้วยนาน ๆ หรอกนะคะคุณน้า” เวียงพิงค์วางมือจากการจัดดอกไม้ชั่วคราว เพราะขืนจัดต่อไปผลงานคงออกมาไม่ดีแน่ ปะทะฝีปากกับแม่เลี้ยงทีไรมักจะกินเวลานานตลอด บางครั้งการอยู่เงียบๆก็ไม่ค่อยเป็นผลเท่าไหร่ ดีที่ว่าตอนนี้มีลูกค้าแค่คนเดียวไม่อย่างนั้นแล้วเธอต้องรับฝีปากกับคนตรงหน้าให้หลายสายตาได้ดูแน่ ลูกน้องก็ดันไม่อยู่ด้วยเพราะอยู่ในช่วงพักกลางวันเธอเลยไม่มีใครทำงานแทนได้

“นังพิ้งค์!” นางมณีขึ้นเสียงตวาดกร้าว ลูกเลี้ยงคนนี้ไม่กินเส้นกับนางและลูกสาวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะมันไม่ยอมลงให้อย่างที่ควรจะเป็น

“เป็นแค่แม่เลี้ยงอย่ามาเหิมเกริมให้มากนักนะคะ เอาเวลามายุ่งเรื่องของหนูเนี่ยมันเปล่าประโยนช์มาก ๆ เลยรู้ไหมคะ ถ้าว่างมากก็ช่วยไปดูแลลูกสาวสุดที่รักของตัวเองเถอะค่ะ และเชิญกลับออกไปได้แล้วเพราะที่นี่เป็นร้านขายดอกไม้ไม่ใช่สถานที่ทะเลาะวิวาท” นิ้วเรียวยาวชี้ไปทางประตูโดยไม่มองหน้าแม่เลี้ยงปากร้ายแต่อย่างใด เจอหน้ากันทุกครั้งก็ต้องมีเรื่องให้ได้ปะทะกันตลอดชาตินี้คงดีกันยากและไม่คิดจะญาติดีด้วยหรอก แม้มันจะเป็นความปรารถนาของพ่อเธอก็ไม่อาจจะทำใจยอมรับได้

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่แรกอย่างปริญนั่งนิ่งอยู่กับที่เหมือนกับไม่มีตัวตนอยู่ในนี้ ที่เห็นว่าอ่อนหวานบอบบางดูนุ่มนิ่มแบบนั้นเวลาโมโหขึ้นมาก็สามารถโต้ตอบได้เผ็ดร้อนอย่างไม่น่าเชื่อ สงสัยเขาต้องมองเธอใหม่เสียแล้วล่ะ ไม่ใช่มองใหม่ในทางที่ไม่ดีแต่มันกลับดีมาก ๆ ที่เธอสามารถปกป้องตัวเองได้จากยัยแม่เลี้ยงใจร้ายที่จงใจสาดใส่ความร้ายกาจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในร้าน

“ฉันจะตั้งตารอดูวันย่อยยับของร้านแกนังพิ้งค์ คงอีกไม่นานนี้หรอก” ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ก็ใช้วาจาเฉือดเฉือนก่อนจะสะบัดหน้าใส่อย่างทระนงตัว

เวียงพิงค์สูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อเรียกสติของตัวเองให้กลับมาคืนร่างโดยเร็ว เพราะรู้ตัวว่าตอนนี้มีคนนอกที่รู้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าพิศมัยนี้ด้วย

“ขอโทษด้วยนะคะที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่ได้อยากให้เกิดเลยจริง ๆ นะคะ” รีบขอโทษขอโพยลูกค้าหนุ่มอย่างเกรงใจที่ต้องมานั่งเสียเวลากับเรื่องส่วนตัวของเธอเช่นนี้ ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ชายคนนี้จะมาใช้บริการร้านเธอแน่ ๆ 

“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดแบบนั้นหรอกนะครับคุณผู้หญิง ผมบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่รีบ ดังนั้นเลิกคิดมากเรื่องที่คิดว่าทำให้ผมเสียเวลาได้แล้วนะครับ เสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ” เขาย้ำให้เธอได้รู้สึกดีขึ้นจะได้ไม่เก็บไปคิดให้กลัดกลุ้ม เพราะแค่เรื่องเมื่อกี้ก็หนักสมองมากพอแล้ว

“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจฉัน” เธอยิ้มอย่างดีใจและรีบก้มหน้าก้มตาจัดการกับงานของตัวเองต่อทันที

ไม่นานช่อกุหลาบโต ๆ ก็ส่งถึงมือของลูกค้าหนุ่มหล่อที่นั่งรออย่างใจเย็น เวียงพิงค์ตั้งใจว่าจะไม่คิดเงินเขาเพราะอยากจะตอบแทนในน้ำใจที่เขาไม่คิดจะว่ากล่าวที่เธอทำให้เขาเสียเวลา

“ช่อนี้ฉันขอไม่คิดเงินคุณละกันนะคะ เป็นการขอโทษที่ทำให้เสียเวลาค่ะ” เธอชิงบอกก่อนที่เขาจะควักเงินออกมาจ่าย

“ของซื้อของขายจะมาให้กันฟรี ๆ แบบนี้ผมไม่เห็นด้วยนะครับ คิดเงินผมเถอะครับอย่าใจดีกับลูกค้าเลยเท่าไหร่ผมก็ยินดีที่จะจ่ายให้” เขาไม่คิดจะรับมันมาฟรี ๆ หรอกนะ ลูกค้าเธอก็ใช่ว่าจะเยอะ ร้านมันต้องมีเงินทุนหมุนเวียนถึงจะทุนหนาแค่ไหนแต่ก็ไม่ดีที่ทุก ๆ เดือนเจ้าของจะต้องใช้เงินเก็บตัวเองโปะค่าใช้จ่าย หากวันดีคืนดีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หลายครั้งไม่ต้องให้ฟรีกับลูกค้าทุกคนเลยหรือยังไง

“แต่ฉันไม่สบายใจจริง ๆ นะคะคุณ” เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ นี่นา 

“ผมก็ไม่สบายใจที่ต้องเอาเปรียบคุณแบบนี้” เปิดกระเป๋าสตางค์แล้วหยิบธนบัตรใบสีเทาออกมาห้าใบยัดใส่มือบางของคนที่อิดออดไม่ยอมที่จะคิดเงินเขา

“มันเยอะไปแล้วค่ะแค่สองใบก็พอ” เห็นเงินในมือก็ตาโตกุหลาบช่อนี้มันไม่ถึงห้าพันหรอก พอเธอทำท่าจะคืนเขาก็ส่ายหน้าปฏิเสธซะอย่างนั้น

“ถือว่าเป็นทิปจากผมละกันนะครับคุณเวียงพิงค์” ขยิบตาแล้วยิ้มก่อนจะรับช่อกุหลาบแสนสวยมาไว้ในอ้อมแขนให้เจ้าของร้านคนสวยที่ยืนงงมองหน้าเขาตาปริบ ๆ กว่าจะได้สติลูกค้าใจป้ำก็เดินไปถึงหน้าประตูแล้วเรียบร้อย

“ขอบคุณที่ใช้บริการร้านเรานะคะ โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ” โค้งคำนับแล้วยิ้มหวานให้เมื่อเขาหันกลับมามอง แล้วคำถามที่ว่ารู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเธอได้อย่างไรก็ยังคิดไม่ตก แต่ในทางกลับกันมันคงไม่แปลกที่เขาจะรู้ว่าเจ้าของร้านชื่ออะไร

อืม จะว่าไปผู้ชายคนนี้หล่อใช้ได้เหมือนกันนะ ไม่สิไม่ใช่แค่ใช้ได้สิหล่อมากเลยแหละ ทรงผมเธอไม่รู้ว่ามันเรียกทรงอะไรแต่มั่นใจว่าไม่ได้เซตอย่างแน่นอนเพราะเส้นผมสีดำมันทิ้งตัวเป็นธรรมชาติปรกหน้าผากตัดกับใบหน้าหล่อขาวใส ขนคิ้วสีเดียวกับผมแต่ไม่เข้มมากมีความโค้งแบบแมน ๆ รับกับดวงตาเรียวชั้นเดียว จมูกโด่งเป็นสันมันพุ่งมากจนน่าอิจฉา ริมฝีปากออกสีชมพูอ่อน เค้าโครงหน้าดูดีลงตัวหมดทุกอย่าง รูปร่างก็สูงใหญ่กว่าเธอมากเหมือนเป็นพวกนักกีฬาเลย แต่คงไม่ใช่หรอกน่าจะชอบออกกำลังกายมากกว่า

“พอ ๆ เลิกคิดเพ้อถึงลูกค้าได้แล้วเวียงพิงค์” สลัดความคิดพวกนี้ออกจากหัวแล้วกลับไปทำงานของตนเองต่อจะได้เลิกฟุ้งซ่านถึงผู้ชายที่เพิ่งจากไป ไม่ได้ตั้งใจจ้องอะไรขนาดนั้นแต่แปลกที่เธอดันจำรายละเอียดเขาได้ดีขนาดนี้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เพียงใจ (Only you)   Special 2 (2)

    สองปีต่อมา... สิ่งที่ตั้งใจประสบความสำเร็จจนได้หลังจากใช้เวลาไม่นานตามที่ใจปรารถนา ครอบครัวจะเป็นครอบครัวเมื่อมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆมาเติมเต็มให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น “พ่อจ๋า พ่อจ๋ามา” เสียงใสๆของเด็กหญิงตัวน้อยร้องเรียกบิดาอย่างชัดเจน ชูแขนป้อมๆขึ้นแล้วกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเมื่อเห็นพ่อจ๋าเดินยิ้มร่าเข้ามาหา “อย่าวิ่งสิลูกเดี๋ยวหกล้มแล้วหนูจะเจ็บตัวนะคะคนสวยของพ่อจ๋า” ดุลูกสาวที่ยังเดินไม่แข็งแล้วอ้าแขนออกกว้างเพื่อให้เจ้าหญิงตัวน้อยเข้ามากอดมาหอม “อุ้มๆ ลิซ” ปากจิ้มลิ้มยิ้มแฉ่งเอาใจพ่อจ๋าแล้วชูแขนขึ้นอย่างรู้งานเพื่อให้อุ้มเมื่อไม่อยากเดินเอง คนเป็นพ่อที่หลงลูกสาวหัวปักหัวปรำมีหรือจะขัดศรัทธา เต็มอกเต็มใจช้อนลูกสาวตัวจ้อยขึ้นมาไว้ในวงแขน พลางจูบหอมแก้มป่องอมชมพูซ้ายขวาอย่างมันเขี้ยว “เราไปหาแม่จ๋ากันดีกว่านะคะน้องอลิซ” ชวนลูกสาววัยสองขวบเศษคุยแล้วส่งยิ้มให้เมียรักที่ยืนกอดอกมองดูอยู่ที่ระเบียง บ้านหลังนี้สร้างขึ้นหลังจากแต่งงานได้ไม่นานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสมาชิกใหม่และมันก็เพิ่งจะเสร็จไม่นานนี้เอง มีสวนดอกไม้สวยๆหลากหลายชนิด มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ความร่มรื่น และมีสนามหญ้ากว้างๆให้ลูกได้ว

  • เพียงใจ (Only you)   Special 2

    ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าลงตรงเบื้องหน้าเมื่อจับเมียสาวคนสวยเปลื้องผ้าออกจนหมดลมหายใจร้อนระอุเป่ารดกลางกายเวียงพิงค์ระลอกแล้วระลอกเล่า ใบหน้าเห่อแดงลามเลียจนถึงลำคอแกร่งไม่ต่างจากเมียรักที่ยืนเอนแอ่นตัวโดยให้แผ่นหลังพิงเคาน์เตอร์คิดเงินแล้วใช้แขนเท้าไว้อีกทีอย่างยั่วยวน เรียวขาสองข้างถูกจับแยกออกจากกันจนกว้าง กลีบกุหลาบสีแดงสดที่ปิดจุกนมน่าดูดไว้หมิ่นเหม่ช่างเรียกเลือดลมให้สูบฉีดเดือดพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย ใจกลางความสาวตรงนาผืนน้อยมีดอกกล้วยไม้สีขาวโป๊ะอยู่ตรงกลาง เห็นเส้นไหมดำขลับเลือนรางเพราะมันปิดไม่มิด อารมณ์ตอนนี้คล้ายกำลังจับเมียถ่ายแบบเซ็กซี่อยู่ ซึ่งเขาคิดว่าเมียตัวเองสวยกว่านางแบบพวกนั้นอีก รูปร่างหน้าตา กิริยาท่าทาง โอยย หัวใจไอ้ปริ๊นท์จะวายตาย เลือดกำเดาแทบพุ่งออกมา ไม่มีวันไหนที่เขาไม่ตื่นเต้นยามได้เห็นเมียแก้ผ้าให้มอง เวียงพิงค์เม้มปากแน่น มองตัวเองในตอนนี้ไม่ต่างจากนางยั่วสวาทตามบาร์สักเท่าไหร่ ทั้งหมดทั้งมวลเธอไม่ได้คิดแต่สามีจอมหื่นต่างหากที่จับแล้วบังคับให้ยืนหรือแม้กระทั่งหาอะไรมาปิดตามเนื้อตัวซึ่งมันช่วยอะไรไม่ได้เลย “หอมจังพิ้งค์จ๋า แม่นางฟ้านางสวรรค์ของผัว” จม

  • เพียงใจ (Only you)   Special (2)

    (ฮัลโหลล) “มีอะไรวะโด้” ถามเสียงห้วนติดงัวเงีย คิ้วผูกกันเป็นโบว์ หน้าตาก็บึ้งหน่อยๆ สายตาก็คอยสอดส่องมองหาเมียรักที่ไม่รู้หายไปอยู่ส่วนไหนของร้าน (ปริ๊นท์เพื่อนรักเราไปนั่งจิบบรั่นดีรสเลิศกันดีกว่า ห่างหายไปนานแล้วนะเว้ยอยากผ่อนคลายหลังจากต้องตรากตำทำงานหนักมาหลายวัน ชวนแกเสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยชวนไอ้แทน) เสียงลั้นลาสุดๆเมื่อพูดถึงเรื่องดื่มเหล้าและอาจมีเคล้านารีควบคู่ไปด้วย คนโสดก็ดีเงี้ยอยากทำอะไรก็ได้ทำแต่ติดที่ว่าชอบให้เพื่อนรักเพื่อนซี้ไปด้วยทุกครั้งเพราะมันสนุกกว่าเป็นไหนๆ เหล่สาวสวยไปด้วยคุยไปด้วยกระชุ่มกระชวยดี “กูไม่ไป มึงชวนไอ้แทนเถอะเคนโด้” ชัดถ้อยชัดคำ ตัดความรื่นรมย์ของเคนโด้ให้จางหายไปในบัดดล (ไอ้นี่ ถ้าไม่อยากมาคนเดียวก็หอบเมียมานั่งกอดด้วยเหมือนทุกครั้งสิวะ ปฏิเสธแบบไม่คิดงี้ฉันเสียใจนะเว้ย ไม่เจอกันหลายวันละนะคิดถึง) ตั้งแต่ก่อนแต่งหรือหลังแต่งมันเอาเมียไปด้วยทุกครั้งมาครั้งนี้ทำเล่นตัว อยู่ใกล้ๆพ่อจะเตะก้นให้ “อย่ามาทำน้ำเสียงงอน ขนลุก!” (งอนจริงนี่หว่า น่านะมาเถอะ) “ไม่เอา ไม่ว่างไปไหนทั้งนั้นแหละโว้ย! กูจะทำลูก ทำลูกน่ะเข้าใจไหมวะไอ้หมาโด้ เลิกเซ้าซี้สักทีเถอะ

  • เพียงใจ (Only you)   Special

    การเข้าทำงานที่บริษัทเต็มตัวพร้อมมีตำแหน่งรองประธานพ่วงท้ายประหนึ่งนามสกุลอีกหนึ่งนามสกุลย่อมมีบทพิสูจน์ให้ได้ทดสอบศักยภาพนับไม่ถ้วนแม้ว่าตนเองเป็นถึงลูกชายผู้ก่อตั้งบริษัทหรือน้องชายของท่านประธานหนุ่มหล่อคนปัจจุบัน ถือคติที่ว่ากว่าจะเก่งได้ต้องมีประสบการณ์ที่แน่น ดังนั้นใครจะอยากลองภูมิเขาก็ไม่เคยหวั่นหรือย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงที่ดาหน้าเข้ามาหาเพราะโดยส่วนตัวชื่นชอบเรื่องท้าทายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงสบายๆออกจะผ่อนคลายเสียด้วยซ้ำรวมถึงมีกำลังใจที่ดีมากๆ ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเมียคนสวยของเขาที่นับวันยิ่งสวยชวนตะลึงให้ผัวปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน แต่งงานกันมาเกือบเข้าสู่เดือนที่สี่ที่ห้าเข้าไปแล้วแต่ความรู้สึกเขาเหมือนมันเพิ่งผ่านพ้นไปแค่ประมาณสองถึงสามอาทิตย์เท่านั้นเอง จะเรียกว่ากำลังอยู่ในช่วงเห่อเมียหลงเมียหรือช่วงข้าวใหม่ปลามันก็คงไม่ใช่เพราะเขาเห่อพิ้งค์หลงพิ้งค์มาแต่ไหนแต่ไรจนเป็นที่รู้กันในหมู่ของคนสนิทว่าอาการนี้คงไม่มีทางแก้หายไปได้ นึกถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมาก็พาลคิดถึงช่วงเวลาที่ไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่น มันชุ่มชื่นหัวใจเป็นบ้าแม้จะต้องแลกกับการโดนเมียงอนและโกรธแทบทุกวันก็

  • เพียงใจ (Only you)   บทส่งท้าย (3)

    “ไม่ว่าจะอยู่ในชุดอะไรพิ้งค์ก็เร้าใจอยู่เสมอ” ดันตัวเองขึ้นแล้วตลบชายกระโปรงด้วยความรวดเร็ว เวียงพิงค์ไม่ทันได้ตั้งหลักต้องยึดท่อนแขนแข็งแรงไว้มั่น แรงกอดรัดทางด้านหลังทำให้แก่นกายโป่งพองเสียดสีแถวสะโพกกลมกลึง แม้ชุดจะหนาแต่มันก็ยังรับรู้ถึงความต้องการของสามีหนุ่มได้ กางเกงสแล็คสีดำหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นเช่นเดียวกับเสื้อ ตอนนี้ร่างกายกำยำของบุรุษเพศเปลือยเปล่าต้องแสงไฟสีส้มในห้องนอนไรขนอ่อนลุกพรึ่บน่าลูบไล้เล่น ใบหน้าหล่อจัดเครียดเขม็งพอๆกับแก่นกายที่ดีดขยายแข็งปั๋ง “ปริ๊นท์” กวาดสายตามองเรือนร่างกำยำที่น่าซุกซบและมีเธอคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้อย่างชื่นชม “จับชายกระโปรงชุดสวยของพิ้งค์ให้ปริ๊นท์หน่อยสิครับ ให้จับเองมันทำรักไม่ถนัด” เวียงพิงค์พยักหน้าว่าง่าย ถลกชายขึ้นแล้วกำเอาไว้แน่น เมื่อเริ่มเข้าที่เข้าทางดีแล้วปริญก็ยึดเรียวแขนเล็ก พลางแอ่นตัวไปข้างหน้าแล้วเริ่มสอดใส่แก่นกายเข้าไปอย่างช้าๆ “อ๊ะ...จุก” เม้มปากแน่น “เดี๋ยวก็ดีขึ้น อดทนหน่อยนะที่รักจ๋า” ยังใส่ไม่หมดก็เริ่มรู้สึกว่ามันตึงเปรี๊ยะ เลยเอามือข้างหนึ่งเอื้อมไปเคล้นหน้าอกอวบที่ยังไม่ได้ปล่อยให้ออกมาสูดอากาศภายนอก เพ

  • เพียงใจ (Only you)   บทส่งท้าย (2)

    “แม่คิดว่าจะต้องขึ้นไปตามลูกสองคนถึงบนห้องเองแล้วนะเนี่ย” คุณหญิงสิรินาถเข้ามาจูงแขนลูกสะใภ้พลางมองค้อนลูกชายที่อมยิ้มอย่างหมั่นไส้ “แยกกันอยู่กับพิ้งค์มาตั้งอาทิตย์หนึ่งผมก็อยากอยู่กับเมียให้หายคิดถึงนานๆหน่อยสิครับ” บีบแขนมารดาอย่างประจบเอาใจแต่คำตอบดันไม่ถูกใจทั้งแม่ทั้งเมีย “น้อยๆหน่อยเถอะพ่อตัวดี พูดมากนักเราน่ะ” บิดเอวลูกชายสุดที่รักเต็มแรง “โอ๊ย! เจ็บนะครับคุณแม่ พิ้งค์จ๋าเจ็บจัง” แกล้งสำออยให้มียโอ๋แต่ปรากฎว่านอกจากจะไม่สนใจแล้วยังเบ้ปากใส่อีก แม่เผลอเมื่อไหร่จะจับจูบให้หายมันเขี้ยวเลยคอยดูเถอะ “มาถ่ายรูปกันก่อนอย่ามัวแต่มองหนูพิ้งค์เจ้าปริ๊นท์” คุณหญิงกวักมือเร่งเจ้าบ่าวที่เอาแต่มองเจ้าสาวตาปรอย การจัดดอกไม้ของงานแต่งงานงานนี้อลังการงานสร้างมากเนื่องจากเจ้าสาวเป็นถึงเจ้าของร้านดอกไม้เองโดยตรงจะให้ธรรมดาได้ยังไงกัน หัวเรือใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนจีน่าและบรรดาพนักงานในร้านที่ลงทุนทุ่มกันสุดตัวเพื่อเจ้านายสาวคนสวย กลิ่นหอมตลบอบอวลของมวลบุปผาทั้งหลายช่วยให้แขกที่มาร่วมงานต่างพากันชื่นชม “ยิ้มจนแก้มปริแล้วนะยะยัยเจ้าสาวคนสวยแห่งปี” หมวยแซวเมื่อเดินเข้ามาสวมกอดเพื่อนรัก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status