แชร์

บทที่ 7 ~ พี่แสง

ผู้เขียน: พริมริน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 21:58:59

บทที่ 7 ~ พี่แสง

มือบางยังถือผ้าห่อกระดูก นิ้วลูบไปตามเนื้อผ้าดิบสีขาวเนียนเรียบใช้ความคิด

เร็ว ๆ นี้เขาจะมาขอคำตอบว่าเธอจะทำตามข้อตกลงเพื่อเป็นเมียเก็บของเขาหรือเปล่า แลกกับสร้อยทับทิมและไร่เดือนฉาย

ถ้าพ่อเลี้ยงพันแสงมีคนที่หมายปองให้ขึ้นเป็นแม่เลี้ยงอยู่แล้ว นั่นอาจจะเป็นสัญญาณที่ดีก็เป็นได้ คงไม่มีผู้ชายคนไหนจะยังเก็บเมียบำเรอไว้ทั้ง ๆ ที่ตัวเองใกล้จะแต่งงาน

ระหว่างทางกลับไร่เธอมองไปยังหุบเขาของไร่ชัยสงคราม ยังจดจำวันเฉลิมฉลองที่เขาจบดุษฎีบัณฑิตเกษตรศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังภาคเหนือ มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเกลื่อนไปทั้งใบหน้าคมเข้ม วันที่เธอโดนเฆี่ยนจากพ่อเลี้ยงตา

“พ่ออุ๊ยคำคะ รบกวนจอดตรงห้วยบะต่อม[1]ให้เดือนหน่อยนะคะ”

พ่ออุ๊ยคำใคร่ประหลาดใจ ห้วยบะต่อมเป็นห้วยเล็ก ๆ ผ่านทางเข้าไร่ ที่ต้นทางไหลมาจากไร่ชัยสงคราม เขาจอดรถลงเข้าข้างทางให้เรียบร้อยก่อนจะลงมาช่วยคุณหนูเปิดประตูรถกระบะคันเก่า

ศศินาประคองห่อผ้าเถ้ากระดูกในมือเดินไปยังลำห้วยข้างหน้า  ลำห้วยยามหน้าหนาวมีน้ำน้อยและใสจนเห็นก้อนหินกรวดใหญ่เล็กก้นห้วย เธอถอดรองส้นเตี้ยสีดำข้างลำห้วยก่อนจะย่ำลงไปในลำน้ำเย็นเยียบ

“คุณหนู!”

เสียงแม่อุ๊อุทานตกใจเมื่อเห็นเธอเปิดห่อผ้า เทเถ้ากระดูกลงในลำน้ำ สีหน้าคุณหนูเยือกเย็นและสงบนิ่งอย่างคนที่คิดแล้วถ้วนถี่

“ในเมื่อพ่อเลี้ยงตาอยากจะได้พื้นดินไร่เดือนฉายมากนัก ก็ขอให้พ่อเลี้ยงตาอยู่ดูแลที่นี่ไปแล้วกัน”

ศศินาปล่อยผ้าขาวบางในมือให้ปลิวลอยไปตามสายลมหน้าหนาวของหุบเขารอยต่อระหว่างไร่เดือนฉายและไร่ชัยสงคราม

แม่ แม่!!”

ศศินาวิ่งสวมกอดสังวาลขณะที่แม่ของเธอกำลังก้มคู้ตัวลง เด็กน้อยอายุเพียงหกขวบทำได้เพียงร้องไห้โอบมือเล็กนุ่มไปกับร่างมารดา สังวาลล้มตัวลงด้วยความเจ็บปวด

“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!”

เสียงเด็กน้อยตะโกนเรียกให้คนช่วยปนเสียงสะอึกสะอื้น เธอเขย่าร่างอ่อนแรงของแม่พยายามไม่ให้แม่ของเธอหลับ

“เดือน เดือน”

สังวาลจับมือลูกสาวไว้แน่นเท่าที่เรี่ยวแรงของเธอยังมี ใบหน้าเจ็บปวดจากโรคร้ายที่เกาะกินเธอมาหลายปี เธอรู้ว่าครั้งนี้คงจะยากเกินเยียวยาหลังจากที่เทียวเข้าออกโรงพยาบาลมาเนิ่นนาน

ศศินาน้ำตานองหน้า เธอมองแสงไฟบนหลังคาของรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลในอำเภอที่กำลังลับหายไปในยามเย็นพลบค่ำ

เด็กน้อยในวันนั้นตัดสินใจคว้าจักรยานใต้ถุนบ้านแล้วปั่นออกไปข้างนอก แม้ว่าท้องฟ้ากำลังจะมืดมิดลงแล้วก็ตาม แต่ใจของเด็กน้อยมุ่งมั่นต้องไปให้ถึง ศศินาต้องการความช่วยเหลือและเธอไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปหาที่พึ่งใดได้นอกจากไร่ชัยสงคราม

“หนูเดือน!”

คุณน้าระพีตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นเด็กน้อยขี่จักรยานมาที่ไร่ตามลำพังเวลาเลยโพล้เพล้ไปมากโข

“ช่วยแม่หนูด้วย ช่วยหนูด้วยค่ะ ฮือ ฮือ”

ทันทีที่เธอเห็นคุณน้าระพี ศศินาทิ้งจักรยานในมือให้ล้มลง แล้ววิ่งเข้าไปหาสวมกอดสะอื้นฮัก

“แม่ ฮือ แม่หนู ฮือ แม่ล้มลง ฮือ”

“เกิดอะไรขึ้นครับแม่”

ชายหนุ่มร่างสูงเก้งก้างวิ่งลงมาจากชั้นบนของบ้าน พันแสงในวัยสิบห้าปีแม้จะยังเป็นวัยรุ่นหากแต่เริ่มมีเค้าความหล่อเข้ม เขานั่งยองลงและดึงเด็กน้อยที่ยังสวมกอดคุณน้าระพีไว้ให้หันมาหาเขา

“เดือน เกิดอะไรขึ้น”

“พี่แสง แม่ ฮือ ฮือ แม่ล้มลง แล้ว ฮือ มีรถมารับไปแล้ว ฮือ ฮือ”

พันแสงเงยหน้ามองแม่ มือหนาอย่างเด็กผู้ชายทำงานหนักในไร่กอดเด็กสาวไว้แน่น

“เดี๋ยวแม่โทรไปถามพ่อเลี้ยงตาดู แล้วนี่อะไรค่ำมืดขนาดนี้ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง ที่ไร่ไม่มีใครเลยหรือยังไง”

พันแสงจูงมือศศินาขึ้นบนบ้านก่อนจะหยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ เขามองแม่ที่เดินออกไปโทรศัพท์ข้างนอกบ้าน

“ไม่เป็นไรแล้วเดือน เดี๋ยวน้าสังวาลก็หาย พรุ่งนี้ก็ได้กลับบ้านแล้ว”

“ฮือ พี่แสงอย่าหลอกเดือนเลยค่ะ ฮือ ทุกทีแม่ไม่เคยเป็นแบบนี้”

พันแสงโอบไหล่เล็กที่ยังสั่นเป็นจังหวะสะอึกสะอื้น เขาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้ศศินาอีกครั้ง

“เป็นไงบ้างครับแม่”

“โอ๊ย จะเป็นยังไง นี่พ่อเลี้ยงตาเป็นบ้าหรือเปล่า นอกจากไม่ดูดำดูดีลูกเมียแล้วยังขู่อีกว่าถ้าไม่พาลูกสาวเขาไปส่งบ้านเดี๋ยวนี้ เขาจะแจ้งความ”

พันแสงก้มมองเด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างเขา แม้ใบหน้าจิ้มลิ้มยังก้มหน้ามองพื้น แต่เขารู้ว่าศศินาตั้งใจฟังทุกคำพูด

“เดี๋ยวผมไปส่งน้องเดือนเองครับแม่”

“อืม ค่อย ๆ ขับไปล่ะ”

“ครับ”

พันแสงจูงมือเด็กสาวให้เข้าไปนั่งในรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ แล้วยกจักรยานไว้ท้ายกระบะ

“ไม่ต้องร้องไห้แล้วน้องเดือน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“พี่แสง เดือนกลัว”

พันแสงลูบผมเด็กหญิงที่ใบหน้ายังมีคราบน้ำตา เขาเชยคางเล็กขึ้นให้จ้องมาที่เขา

“ไม่ต้องกลัว น้องเดือนยังมีพี่อยู่เสมอจำไว้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นพี่และครอบครัวของพี่จะอยู่เคียงข้างน้องเดือนเอง”

ศศินาพยักหน้า นัยน์ตากลมโตสบตาดำสนิทคมเข้มของพันแสง เธอนั่งพิงพนักเบาะรถ ร่างกระเด็นกระดอนไปตลอดทางขณะรถวิ่งเข้าไร่เดือนฉาย ดวงใจน้อย ๆ ของเด็กหญิงตื้นตันและจดจำ รับรู้ถึงไอร้อนด้านข้างที่สัญญาไว้กับเธอว่าจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป

ศศินาสะดุ้งเฮือกตื่นจากฝัน ร่างเล็กชื้นไปด้วยเหงื่อมองฝ่าความมืดยามวิกาลไปรอบห้องนอนห้องเดิม

[1] กระดุม

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทพิเศษ 2

    บทพิเศษ 2ใจดวงเล็กทั้งตื่นตระหนก ทั้งตื่นเต้นปะปนคละเคล้ากันไป กายสาวสั่นระริกไปทั่วร่าง สัมผัสแปลกใหม่ทำสาวแรกรุ่นใจเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งอยากรู้อยากลอง ต้องการเป็นของเขาทั้งตัวทั้งใจ ยินยอมขยับต้นขาเปิดออกให้ปลายนิ้วแทรกลงกลางไรขนอ่อนนุ่มราวผ้าไหม“เดือน อ่า นุ่มมือมาก”หน้าเข้มขยับเลื่อนขึ้นซอกคอสูดกลิ่นกายสาวดูดขบเม้มเนื้ออ่อนใกล้จุดชีพจรแสนอ่อนไหวตรงฐานลำคอนิ้วสัมผัสกายสาวฉ่ำชื้นแทรกลงตรงกลางกลีบแหวกออก ส่งนิ้วชี้ลูบไล้จนกระทั่งพบเม็ดเล็กกลางร่องงาม ร่างเล็กสะดุ้งขึ้นยามเขากดลงแรงคลึงเม็ด“เดือนจ๋า คนดี พี่ขอได้ไหม”สาวน้อยไร้ประสบการณ์ไม่เข้าใจสิ่งที่พันแสงถาม เธอเอียงหน้าไปอีกทางยามเขาซุกไซ้ลำคอ มือแกร่งด้านล่างยังล้วงลึก อีกมือกอบกุมทรวงงามบีบเคล้นลงแรงเต็มมือ ร่างเล็กนอนระทวยทำได้เพียงแอ่นร่างรับไฟพิศวาสส่งเสียงครางในลำคอ กระทั่งนิ้วของคนด้านบนเริ่มสอดใส่เข้าไปทางร่องรักจึงได้รู้สึกตัว“พี่แสง อ่า ไม่ได้นะ อื้อ อ่า อย่า อย่าสอดนิ้วเข้าไป”เสียงห้ามปรามแผ่วเบาปนกระเส่า น้ำหวานเอ่อล้นสวนทางกลับเสียงร้องทักท้วง นิ้วยาวเรียวส่งเข้าทาง แม้ว่าไม่ถนัดถนี่นักแต่ยังพอเข้าไปได้“โอ้! เด

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทพิเศษ 1

    บทพิเศษ 1หกปีที่แล้ว“มา ๆ หนูเดือน มากินกัน”ศศินารีบวิ่งนำพันแสงมาจากทางเนินเขาหลังบ้านเมื่อได้ยินเสียงคุณน้าระพีร้องเรียกแต่ไกล“พี่แสง เร็ว ๆ สิ เดือนหิวแล้วนะ”เสียงหัวเราะหวานใสบนใบหน้าของเด็กสาววัยสิบเจ็ด พวงแก้มยุ้ยออกเล็กน้อยด้วยโฮร์โมนวัยรุ่น ผมเลยติ่งหูแต่ไม่ประบ่าพันแสงมองตามร่างเล็กในชุดกางเกงยีนส์สีซีดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งลายสก็อตสีแดงตัวเก่งที่ศศินาชอบสวม เธอวิ่งไปหัวเราะไปจนเสียงฝีเท้ากระทบพื้นดินหยอกล้อไปกับเสียงหวานใสผสมผสานเสียงของลมหนาวที่กำลังพัดผ่าน นำกลิ่นใบยาสูบที่บ่มอยู่ในโรงบ่มกำจายโดยรอบบ้านไม้สองชั้นกลางไร่ยาสูบชัยสงคราม“ค่อยเดินสิ ประเดี๋ยวก็ล้ม”“ไม่หรอกค่ะ ฮ่า ฮ่า เร็วสิ พี่แสงเดินอย่างกับคนแก่”“พี่ไม่ใช่คนแก่สักหน่อย”ศศินาหยุดแล้วหันหลังกลับมายืนเท้าสะเอวมองตรงไปทางร่างสูงใหญ่ผิวสีเข้มผิดไปจากคนเหนือทั่วไป เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มใส่ในกางเกงยีนส์คาดเข็มขัดหนังสีน้ำตาลธรรมดา สวมรองเท้าบูธสำหรับใส่ในไร่สีดำ ผมยุ่งเหยิงจากแรงลมที่พัดไปมารอบตัว ดวงตาสีนิลจ้องตอบเธอเปล่งประกายเจิดจ้ามีความสุขวันนี้พันแสงเรียนจบปริญญาโทดั่งที่ตั้งใจไว้ เขากลับมาอยู่บ้านเพื่

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 30  ~ จบบริบูรณ์

    บทที่ 30 ~ จบบริบูรณ์พันแสงหยุดรถกลางทางมองศศินาที่หันจ้องหน้าเขาแววตาสงสัย หน้าคมเข้มยิ้มกว้างยกมือเล็กขึ้นจูบ“วันนี้คนที่บ้านเยอะหน่อยนะ”“อะไรนะคะ คนอะไรกันคะ คนงาน?”พันแสงหัวเราะเบา ๆ ชะโงกหน้าจูบปากหวานจิ้มลิ้มแล้วถอยห่างออกมา“เราจะไปไร่ชัยสงครามกัน”“อ้าว ทำไมคะ เดือนจะกลับบ้านนะ”พ่อเลี้ยงปล่อยมือสาวร่างเล็ก หันไปขับรถต่อแต่เลี้ยวเข้าทางไร่ชัยสงครามปล่อยให้ศศินามึนงงสงสัย กระทั่งเข้ามาถึงปากทางเข้าบ้านจึงเห็นลานบ้านมีแต่โต๊ะงานเลี้ยงและเวทีเล็ก ๆ กลางลาน“มีงานเหรอคะ งานอะไรกัน”ศศินาชะเง้อมองคนงานที่กำลังทำอาหารกันวุ่นวาย มีแขกมาบ้างแล้วนั่งอยู่ที่โต๊ะ“งานแต่งงาน”“หื้อ งานแต่งงานใครคะ”ศศินาเอี้ยวใบหน้าหวานคมกลับมาที่พันแสง เห็นสีหน้ายิ้มกรุ่มกริ่มไม่พูดอะไรแล้วลงจากรถไปเธอรอให้เขาอุ้มร่างเล็กลงรถแล้วประคองเธอเดินตัดผ่านลานบ้านไปยังตีนบันไดขึ้นบ้าน“มากันแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาว”ศศินาทวนคำในใจ เจ้าบ่าวเจ้าสาว เธอมองบนบ้านห้อยทั้งสายสิญจน์และดอกไม้ประดับประดาเต็มเรือน“ไปห้องพี่ก่อน”ศศินาถูกจูงมือแม้เธอจะยังเหลียวหลังมองข้าวของบนเรือน ทั้งบายศรี และยังพานพุ่มดอกไม้เธอก้า

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 29 ~ ได้โปรด

    บทที่ 29 ~ ได้โปรดพันแสงขับรถด้วยความเร็วลงเนินเขา ใจเต้นโครมครามเมื่อนึกถึงใบหน้างาม เขามีเรื่องจะบอกเธอ คำพูดที่เขาติดค้างเธอไว้เมื่อหกปีก่อนชายหนุ่มลดความลงเร็วเมื่อถึงโค้งหักศอกใกล้ตีนเขา สังเกตเห็นรถมูลนิธิข้างทางและรถของฝูงชนที่มุงดูเหตุการณ์อีกฝั่งเป็นรถหกล้อบรรทุกรวงข้าวคงกำลังเร่งเพื่อไปให้ทันโรงสีปิดจนเกิดเหตุเขาชะลอรถเพื่อดูรถของผู้เสียหาย แสงอาทิตย์ยามเย็นพาดผ่านเหลี่ยมเขาแมกไม้เป็นเงาทอดยาวสีทองส่องไปยังรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่“ไม่ ไม่ ไม่!!”“เอี๊ยด!!”เขาตบพวงมาลัยเข้าข้างทางกะทันหัน ลงจากรถวิ่งข้ามถนนไปยังรถเกิดเหตุอย่า! ขอเถอะ! อย่าเป็นอย่างที่เขาคิด อย่า! ได้โปรด!ช่วงเวลาช่างยาวนานในระหว่างที่เขากระโดดก้าวข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม หัวใจเต้นถี่รัวและบีบรัดแน่น ช่องท้องมวนขึ้นตีจนจุกถึงลิ้นปี่“ป้อเลี้ยง! มาทำอะไรครับ เดี๋ยวครับ”พันแสงไม่ฟังเสียงห้าม เขาแหวกคนมูลนิธิเข้าไปใกล้รถที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่เห็นร่างเล็กในรถ“เธออยู่นี่ครับ”พันแสงมองหน้าคนมูลนิธิ สติยังไม่กลับคืนมา เขามึนจนแยกไม่ออกว่าเสียงที่พูดหมายถึงอะไร“ป้อเลี้ยง ป้อเลี้ยง รู้จักคนในรถเหรอครับ”หน้าคม

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 28 ~ พราวพิลาส

    บทที่ 28 ~ พราวพิลาสมือใหญ่ยังตัดขนมสาคูไส้หมูออกเป็นสองชิ้นก่อนจะใช้ส้อมเล็กจิ้มเข้าปากตามด้วยพริกเม็ดใหญ่และผักสด มองหน้าแม่รอคำถามต่อไป“เรื่องหนูเดือน”“ครับหนูเดือน”“เขาลือว่าเห็นลูกจูบกันกับหนูเดือนที่หน้าร้านเบเกอรี่ที่หนูเดือนเป็นเจ้าของ จริงหรือเปล่า”“ครับ จริง”เขาจิ้มสาคูชิ้นที่เหลือเข้าปากตามด้วยพริกสดและผัก“ฝีมือแม่อร่อยเหมือนเคย แล้วยังไงครับ”“กะ ก็ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ทำไมแม่ไม่รู้”เขาวางส้อมลงแล้วหยิบน้ำขึ้นดื่ม เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะวางแก้วน้ำลง“ก็ประมาณสามเดือนครับแม่ ตั้งแต่เดือนกลับมางานศพพ่อเลี้ยงตา”ระพีสะดุ้งตกใจ สามเดือนนั้นมันถือว่านานพอสมควร แล้วลูกชายของเธอก็ปิดบังเรื่องนี้มาตลอด“ตอนนี้ผมกับเดือน เรา เอาเป็นว่าอยู่ด้วยกันแล้วครับแม่”“ได้ยังไง ก็ ก็ลูกอยู่บ้านตลอด”“ผมจะไปเฉพาะช่วงกลางคืนแล้วค่อยกลับมานอนบ้านครับ”“แสง!!”ระพีร้องอุทาน เธอนึกถึงเด็กสาวอายุสิบเจ็ดร่างเล็กที่เธอเห็นครั้งสุดท้ายในวันเพลิงไหม้ มือเล็กของศศินาประคองร่างเธอไว้ไม่ให้ล้มโดยที่พันแสงยืนชี้หน้าเด็กสาวคนนั้น“แสง แสงบอกแม่สิว่า แสงไม่ได้ทำลงไปเพราะอยากจะแก้แค้น”พันแ

  • เมียบำเรอพ่อเลี้ยง   บทที่ 27 ~ อดีตยากจะฝังกลบ

    บทที่ 27 ~ อดีตยากจะฝังกลบ“แม่อุ๊”แม่อุ๊ร่างท้วมวางไม้กวาดทางมะพร้าวพิงไว้กับเสาบ้าน เดินไปหาพ่อเลี้ยงพันแสงที่ยืนเสียงอยู่ตรงตีนบันได“เจ้า ป้อเลี้ยง”“ฉันมีเรื่องจะถาม”พันแสงเดินลงมุดเข้าใต้ถุนบ้านที่เตี้ยเกินไปสำหรับเขานั่งลงบนแคร่ไม้ข้างใต้บทที่“ป้อเลี้ยงจะถามหยั่งข้าเจ้า”“เรื่องรอยบนหลังของเดือน”แม่อุ๊สะดุ้งจ้องหน้าเข้มดุเอาเรื่อง นึกสงสัยพ่อเลี้ยงเห็นรอยแผลของคุณหนูได้ยังไง“คุณหนูบ่หื้อผู้ใด๋อู้”“แต่แม่อุ๊ต้องพูด”ร่างท้วมเหลียวมองไปบนบ้านยังได้ยินเสียงน้ำไหลจากในห้องน้ำแล้วจึงหันกลับมาหาพ่อเลี้ยง“ก็เมื่อปี๋นั้นคืนที่ฉลองงานรับปริญญา ป้อเลี้ยงจำได้ก๋า”พันแสงพยักหน้า เขาจะจำไม่ได้ได้อย่างไรในเมื่อเขาพาสาวน้อยแวะเข้าข้างทางแล้วทำให้เธอต้องเสียสาวเป็นครั้งแรก“ป้อเลี้ยงมาส่งเปิ้นสะค่อนดึ๋ก ป้อเลี้ยงตาเกี้ยดนั่ก[1] เจ๊า[2]มาหื้อคนงานมัดคุณหนูกับเสาพู้น”พันแสงมองตามมือแม่อุ๊ไปที่เสากลมหน้าสุดของใต้ถุนบ้าน หน้าคมเข้มเริ่มเปลี่ยนสี“มัด?”“เจ้า เปิ้นสั่งคนงานมาหันเปิ้นลงแส้ แฮงนั่ก ตะโกนลั่น หื้อจำไว้บ่าต้องแอ่วบ้านป้อเลี้ยงอีก ไม่งั้นเปิ้นจะเผาไฟไร่ชัยสงคราม โอ้ย!ป้อเลี้ย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status