Share

-22- คบกันไหม

last update Last Updated: 2025-10-25 15:42:30

รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย 

เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ 

"กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้

"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ

"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้

"มันก็เป็นความผิดพี่จริงๆไม่ใช่หรอ" กล้าดียังไงมาพูดเหมือนว่าตัวเองไม่ผิดแต่ยอมให้เธอคิดว่าเขาผิดก็ได้แบบนั้น เป็นเขานั่นแหละที่ผิด เป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด 

จนวันนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจเจตนาที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเก็บเอาไว้ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะให้นอนคิดทบทวนอีกกี่ร้อยกี่พันรอบก็เดาไม่ได้เลยว่าเขาคิดดีหรือคิดร้ายกับเธอกันแน่

"พี่ไม่เคยคิดทำแบบนั้นเลย ไม่มีเลยสักครั้งที่คิดจะทำร้ายความรู้สึกข้าว" รามิลพยายามพูดความจริงใจของเขาที่มีต่อเธอออกมา แต่ดูเหมือนว่าคนบนเตียงคนไข้จะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด ดูจากที่เธอสวนกลับมาทันทีหลังเข้าพูดจบ

"ใครจะไปรู้ละ ข้าวมันก็แค่ผู้หญิงคนนึงที่ขายตัวให้พี่ พี่อาจจะแค่นึกสนุกแล้วอยากทำร้ายข้าวก็ได้" 

"พี่ดูแลข้าวดีขนาดนี้" 

"แต่พี่บอกเองว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน" ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นคนพูดแบบนั้นออกมา แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

"มันสำคัญด้วยหรอว่าสถานะของเราจะเป็นยังไง พี่ดูแลข้าวดีกว่าใครทั้งนั้น แค่นี้ยังพิสูจน์ไม่ได้อีกหรอว่าข้าวสำคัญกับพี่เกินกว่าที่พี่จะคิดทำลายเราแบบนั้น"

"ข้าวจะไปรู้ได้ยังไง พี่อาจจะดูแลผู้หญิงทุกคนดีแบบนี้เหมือนกันหมด" ยอมรับว่าคำพูดของเธอทำเขาหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย 

รามิลรู้ตัวเองดีเขาไม่เคยดูแลผู้หญิงคนไหนดีเท่าข้าวหอมเลยสักคน เธอเป็นคนเดียวที่เขายอมให้ไปอยู่ด้วย เป็นคนเดียวที่เขายอมตามใจแทบทุกอย่าง แค่นี้มันยังยืนยันไม่ได้อีกหรอว่าเธอสำคัญสำหรับเขาที่สุด

เสียงเคาะประตูดังขึ้นจังหวะเดียวกันกับที่คนตัวเล็กดึงมือที่เำขากอบกุมอยู่ออก เป็นธีธัชที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกระเช้าผลไม้สำหรับเยี่ยมคนป่วย 

รามิลหันมองข้าวหอมที่เอาแต่ต้อนรับคนมาใหม่ซะจนเขานึกหงุดหงิด ก็รู้แหละว่าโกรธกันอยู่ แต่ไม่ต้องทำท่าทีน่ารักแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นก็ได้ไหม โดยเฉพาะไอพวกคิดไม่ซื่อแบบธีธัช

"พี่ซื้อผลไม้มาเยี่ยม ไม่รู้ว่าพี่รามิลก็อยู่ด้วย" ธีธัชยกถุงผลไม้ที่เขาตั้งใจเลือกให้เธอดู เหลือบมองรามิลอย่างเก้ๆกังๆแล้ววางถุงผลไม้ลงบนโต๊ะหน้าโซฟา

"ก็บอกให้กลับไปแล้วแหละ แต่ไม่ยอมกลับไปสักที" 

"อยากไล่นักใช่ไหม ก็จะนั้งอยู่ตรงนี้แหละ" รามิลยอมหลีกทางให้ธีธัชเดินไปข้างเตียงส่วนเขาเดินมานั่งลงบนโซฟาด้วยความงุดหงิด แขนแกร่งยกขึ้นกอดอกนั่งมองคนตัวเล็กด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเวลาที่ข้าวหอมดื้อจะแสบถึงขนาดนี้

"แล้วกินข้าวแล้วหรอ พี่ซื้อเกี๊ยวน้ำมาฝากด้วยนะ" 

"ขอบคุณนะคะ กำลังอยากกินพอดี" น้ำเสียงหวานที่เคยใช้ไว้พูดแค่กับเขาแต่ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังใช้มันพูดกับคนอื่นยิ่งทำให้อยากลุกขึ้นไปต่อยหน้าไอรุ่นน้องตัวดีให้รู้แล้วรู้รอดไป 

"งั้นพี่ไปใส่ชามให้นะ"

รามิลนั่งมองธีธัชที่นั่งป้อนผลไม้คนป่วยอยู่หลังจากป้อนเกี๊ยวน้ำหมดไปก่อนหน้านี้ เสียงเปิดประตูดังขึ้นจนเขาต้องเอี้ยวตัวไปมอง เป็นปลายฟ้าที่มาพร้อมกับทิวเขา เพราะมัวแต่หงุดหงิดก็เลยไม่ทันได้นึกแปลกใจอะไรที่สองคนนี้มาด้วยกันได้ 

"ข้าวเป็นไงบ้าง" เอ่ยถามเพื่อนแล้วเดินไปข้างเตียงอีกฝั่ง ข้าวหอมยิ้มให้เธอคลายกังวลลง ปลายฟ้าก้มลงโอบกอดเพื่อนแล้วลูบแผ่นหลังปลอบประโลมกับสิ่งที่อีกคนต้องเจอ 

เรื่องที่เพื่อนเธอเจอมันหนักมาก แต่ข้าวหอมก็ยังเข้มแข็งมากเหมือนกัน ถ้าเป็นเธอเองที่ผชิญกับเรื่องพวกนี้ เธอก็คงทำอะไรไม่ถูก หรือเอาแต่นั่งเสียน้ำตาไปวันๆแน่

"ข้าวว่าจะดรอปเรียนสักพัก" ประโยคเมื่อครู่ทำเอาทั้งห้องเงียบสนิท ปลายฟ้าจับมือเพื่อนแล้วเลิ่กคิ้วถามให้มันใจว่าที่อีกคนพูดมันจริงหรือเปลล่า

"ดรอปเลยหรอ คิดดีๆก่อนนะ"

"คิดดีแล้ว ข้าวสู้กับสายตาคนพวกนั้นไม่ไหวหรอก อีกอย่างเกิดเรื่องขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าทุนจะโดนยึดคืนไหม"

"พี่จะไม่ยอมให้ทุนข้าวโดนยึดคืน" รามิลลุกขึ้นมาแล้วพูดเสียงดังลั่น เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรอีกคนอีก หรือถ้าทุนของคนตัวเล็กถูกยึดคืนขึ้นมาจริงๆแบบหาทางเลี่ยงไม่ได้ เขาจะใช้เงินของเขาส่งข้าวหอมเรียนด้วยตัวเอง

"พี่จะไปทำอะไรได้" คำพูดแสนดูถูกทำให้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็ไม่รู้ทำไมพอเป็นคำพูดของคนตัวเล็กแล้วมันถึงทำให้ใจของเขาปวดหนึบไปหมด เธอพูดเหมือนเขาไม่สามรถปกป้องหรือทำอะไรเพื่อเธอได้ มันจะมากเกินไปแล้ว

"แล้วถ้าพี่ทำได้ละ"

"ขนาดเรื่องมันเกิดมาขนาดนี้ พี่ยังทำอะไรไม่ได้เลย แล้วข้าวยังจะหวังอะไรจากพี่ได้อีก" รามิลกำมือตัวเองแน่นอย่างข่มอารมณ์ ถึงเขาจะดูเย็นชาขนาดนี้แต่ก็เจ็บปวดเป็น อีกคนไม่รู้สึกว่าใจร้ายกับเขาเกินไปหรือไง

"ข้าวหอมพี่รู้นะว่าเราโกรธมาก แต่อย่าพูดจาทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ได้ไหม พี่ก็มีความรู้สึกเหมือนกัน พี่เจ็บเหมือนกันนะเวลาข้าวพูดแบบนี้อ่ะ"

"พี่่พูดอะไรของพี่เนี่ย" เรียวคิ้วขมวดนิดน่อยแล้วมองเขาอย่างงุนงง ปกติรามิลไม่เคยแสดงออกท่าทีหรือพูดจาแบบนี้มาก่อนเลย คนตัวสูงเดินเข้ามาหาเธอแล้วจับมือเธอไว้

"คบกันไหม?" เป็นคำถามที่ชวนให้ตกใจไปหมดทั้งห้อง แม้แต่ทิวเขาเองก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนพูด ถ้ารามิลสนใจข้าวหอมจริงเขาเองก็ยินดีเพราะดูน้องจะชอบเพื่อนเขามากเหมือนกัน แต่ถ้าอีกคนแค่ทำไปด้วยอารมณ์ในตอนนี้ละ ต้องเกิดปัญหาขึ้นอีกแน่

"มึงพูดอะไรของมึงไอมิล" จับไหล่เพื่อนแล้วถามย้ำกับไปอีกรอบ ขนาดเขาที่เป็นเพื่อนกันมานานยังไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินเลย แล้วคิดว่ารุ่นน้องตัวเล็กจะเชื่อหรอ

"กูพูดจริง คบกันนะข้าว" รามิลพูดย้ำอีกรอบแล้วลูบมือบางไปมา 

ข้าวหอมยังนงุนงงราวกับทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่าใจดวงน้อยเต้นแรงแค่ไหนตอนได้ยินรามิลถามแบบนั้นออกมา มันเป็นประโยคที่เธอไม่คาดหวังว่าจะได้ยินจากเขาด้วยซ้ำ แต่รามิลกำลังพูดมันในตอนนี้ต่อหน้าใครอีกหลายคน

"ฟ้าว่าเรากลับกันก่อนดีไหมคะ สองคนนี้จะได้คุยกัน" เป็นปลายฟ้าที่เอ่ยชวนทุกคนขึ้นมาก่อน ทิวเขาพยักหน้าอย่างเห็นด้วยแลวพากันเดินออกไป 

ธีธัชยิ้มให้ข้าวหอมแล้วเดินตามออกไปอีกคน ถึงจะอยากรู้ว่าเธอจะตอบตกลงไหม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะอยู่เพื่อฟังได้

"ข้าวยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะ" รามิลถามย้ำคนที่มองตามคนที่เดินออกไปนอกห้อง ข้าวหอมหันมามองเขาพรูลมหายใจออกมา

"แล้วข้าวควรตอบอะไร" เป็นคำถามที่ในใจเธอเองก็คิดไม่ตก ความรู้สึกดีมันตีตื้นขึ้นมาตอนได้ยินคำพูดนั้นจากเขา แต่ว่าเธอคู่ควรที่จะตอบตกลงเขาจริงหรอ อีกอย่างเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันก็ยังไม่ลงตัวเลยด้วยซ้ำ

"ตอบตามใจตัวเอง แล้วพี่ก็มั่นใจว่าคำตอบมันคือตกลง" เขาไม่เคยมั่นใจอะไรเท่านี้มาก่อน ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กคิดกับเขาแบบไหน ทุกการแสดงออกมันชัดเจนมากแล้วป็นเขาเองที่ไม่อยากผูกมัดเลยทำเป็นไม่รับรู้อะไรไปแบบนั้น 

แต่ว่าในตอนนี้คงปล่อยผ่านไปไม่ได้อีกแล้ว และมันจะเป็นทางเดียวที่เขาจะปกป้องเธอจากคำพูดของผู้คนได้ดีที่สุดด้วย

"หลงตัวเอง"

"แล้วตกลงไหมครับ" รามิลถามย้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเขารอคำตอบจากเธออยู่

"ไม่ตกลง" คำตอบของข้าวหอมทำเขานิ่งไปพักใหญ่ ใบหน้าสวยเรียบนิ่งดูจริงจังกับคำตอบว่าไม่ได้กำลังแค้พูดแกล้งเขาอยู่ รามิลก้มหน้านิ่งเพราะในชีวิตเขายังไม่เคยโดนใครปฏิเสธมาก่อนเลยสักครั้ง

"......"

"จนกว่าข้าวจะเห็นว่าพี่จะจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้ยังไง"

"แล้วก็ช่วยทำให้ข้าวมั่นใจหน่อย ว่าพี่พูดมาเพราะอยากคบกับข้าวจริงๆ ไม่ได้พูดมาเพราะอารมณ์ตอนนี้เฉยๆ"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมียวิศวะ (เด็กเลี้ยงพี่รามิล)   -25- แต่งเลยไหม

    ข้าวหอมเหลือบมองคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง ร่วมอาทิตย์แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น เธอตัดสินตอบรับคบกับรามิลและยอมกลับมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้เพราะเอาแต่กังวลเรื่องแม่อีกคนก็เลยคิดหนัก แต่ในเมื่อจะเล่นกันแรงแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย รามิลสัญญาว่าจะปกป้องเธอ คำพูดเขามันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอถึงกล้าตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ดู ก็อยากจะรู้ว่าถ้าแม่ของรามิลที่หวงลูกชายมากจะรู้สึกยังไงยามได้รู้ว่าเธอกับรามิลกำลังคบหากัน นั่งลงข้างเตียงแล้วส่งมือไปลูบตามกรอบหน้าของรามิล ใบหน้าราวกับฟ้าประทานแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่ใครจะหลงรัก เธอเองก็เป็นอีกคนที่เผลอใจไปให้เขาเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่แค่เพราะเขาหน้าตาดีเพียงเท่านั้น ถ้าตัดเรื่องที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเอาไว้จนทำให้เธอเจอเรื่องแย่ในชีวิต เขาก็เป็นอีกคนที่ดูแลเธอดีมากที่สุด มือบางถูกรามิลจับไว้แล้วดึงไปหอมลงที่หลังมือ คนนอนอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวเข้าใกล้เพื่อหอมแก้มเธอ เขายิ้มสดใสออกมาจนข้าวหอมเองก็ยังได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ดูมีคยามสุขมากขนา

  • เมียวิศวะ (เด็กเลี้ยงพี่รามิล)   -24- ใครส่งเธอมา

    รามิลน่ังกอดอกทิ้งตัวฟังแม่เขาบ่นด้วยความเบื่อหน่าย เขาถูกตามตัวกลับมาที่่บ้านทันทีที่แม่กลับมาหลังจากไปดูงานที่ต่างประเทศมาร่วมสองอาทิตย์ เขาเองรู้ดีแต่แรกว่าแม่ต้องการคุยเรื่องอะไรถึงอีกคนจะไม่บอกเขาในตอนที่เรียกตัวให้กลับมา แม่คงจะรู้เรื่องที่เขาไปป่าวประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเขาแล้ว ถึงได้บ่นเป็นฟืนเป็นไฟไม่รู้จบอยู่แบบนี้เรื่องราวที่แม่พูดมันถูกแต่งเติมซะจนเขาเองได้แต่กรอกตามองบน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่เขา ทั้งที่ปกติแม่เขาเป็นคนฉลาดมากจนเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรทำให้แม่เขาเชื่อในมารยาของเพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาขนาดนั้น หรือแค่ทำเป็นเชื่อเพราะไม่ชอบคนตัวเล็กของเขากันแน่คนตัวสูงลุกขึ้นด้วยอารมณ์รุกกรุ่นที่ได้ยินผู้เป็นแม่พูดถึงข้าวหอมในทางไม่ดีมาพักใหญ่ บอกปัดผู้เป็นแม่ไปว่าเหนื่อยแล้วรับเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะอดไม่ไหว ประตูห้องนอนที่เขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบถูกปิดลงดังลั่น เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาคิดไม่ตกมาตลอดว่าควรทำยังไงแม่เขาถึงจะเลิกทิฐิแล้วชอบเธอขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนว่ามันการันตีได้ดีว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหน ก่อนหน้านี้เ

  • เมียวิศวะ (เด็กเลี้ยงพี่รามิล)   -23- ข้าวหอมเป็นเมีย

    คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกมาคลายความกังวลในใจ เธอตัดสินใจมาเรียนตามปกติหลังจากรู้จากเพื่อนว่ารามิลไปเคลียจนไม่มีการยึดทุนคืน เมื่อวานเธอเข้าไปเยี่ยมแม่แล้วได้รับกำลังใจมาเยอะแยะ แม่ของเธอเอาแต่ย้ำใซ้ำไปซ้ำมาว่ารามิลดีกับเธอมาก และเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่ ได้แต่ยิ้มรับตอบแม่ไปทั้งที่ในใจยังไม่ได้สบายใจมากนัก เดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเรื่องราวของเธอแบบไม่ได้เรียกว่าเป็นกันนินทาแต่เหมือนตั้งใจให้ได้ยินมากกว่า กว่าจะเดินมาถึงใต้คณะก็รู้สึกอัดอัดแทบแย่ พยักหน้ากับตัวเองว่าเก่งมากแล้วที่เดินมาถึงตรงได้ ก้าวเดินต่อได้เพียงไม่กี่ก้าวก็มีใครบางคนมายืนขวางเธอเอาไว้คนตัวเล็กเงยมามองแล้วทำหน้าเซ็งเพราะคนที่มาดักเธอว่าคือรุ่นพี่สาวสวยคู่ขาเก่าของรามิล อีกคนยิ้มเยาะเธออย่างสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ บางทีก็อยากพุ่งเขาไปหยุมหัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น่ารำคาญเป็นบ้า"ยังกล้ามาเรียนอีกหรอ" คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นแล้วตั้งคำถามที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา "แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยละ" คนตัวเล็กพูดสวนกลับไปแล้วกอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้

  • เมียวิศวะ (เด็กเลี้ยงพี่รามิล)   -22- คบกันไหม

    รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ "กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้"มันก็เป็นความผิด

  • เมียวิศวะ (เด็กเลี้ยงพี่รามิล)   -21- พี่ก็แค่ถ่ายไว้

    "พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" รามิลยังคงเดินตามคนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากขอพูดคุยแบบที่เขาพยายามทำมาทุกวัน ปฏิกิริยาเรียบนิ่งไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมให้เขาคุยด้วยเป็นเครื่องการันตีว่าอีกคนโกรธเขามากแค่ไหนร่วมอาทิตย์ที่พยายามเข้าหาเพื่อขอโทษหรืออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เลย ทุกครั้งที่ดักรอหน้าคณะอีกคนก็จะหนีไป ยามที่ไปดักรอหน้าหอของยี่่หวาเพื่อนของคนตัวเล็กก็เอาแต่ขวางเขาเอาไว้"คุยกันหน่อยได้ไหมครับ" คนตัวสูงเอ่ยปากถามอีกรอบแล้วจับมือคนตรงหน้ามากอบกุมไว้ ข้าวหอมดึงมือออกอย่างไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ "ข้าวไม่อยากคุย" พูดปฏิเสธแล้วเตรียมเดินหนีแต่รามิลก็ยังวิ่งมาดักข้างหน้าเอาไว้ คนตัวเล็กหลับตาลงแล้วก้มหน้าหนี ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยที่ต้องคอยเอาแต่เดินหนีเขาอยู่แบบนี้"ให้พี่อธิบายหน่อย พี่ไม่ได้ส่งต่อภาพพวกนั้นไปให้ใครนะ""แต่มันก็คือรูปที่พี่ถ่ายใช่ไหมละ!" เขาอธิบายออกมาง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับเธอแต่ดูเหมือนกับรามิลจะไม่ใช่แบบนั้น "พี่ก็แค่ถ่ายไว้...." "แบล็คเมล์" พูดขัดทันทีแบบไม่รอให้เขาได้พูดต่อ คนตรงหน้าดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งที่ในใ

  • เมียวิศวะ (เด็กเลี้ยงพี่รามิล)   -20- ไม่ได้เป็นอะไรกัน

    รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status