เช้ามืดของวันนั้น...มนลิตาปรือตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าร่างกายถูกรบกวน เธอสะลืมสะลือเพราะมันยังเป็นเช้ามืดอยู่ มือหนาถูกสอดผ่านใต้ชุดนอนมากอบกุมเนินอกอิ่ม ร่างอ้วนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อยอดจิ๋วปลายอกถูกสะกิดด้วยปลายนิ้วหนา
“พี่เวย์ ไหนบอกว่าเหนื่อยไงคะ”
“นั้นมันเมื่อคืน แต่นี้มันเช้าแล้ว”
เขากระซิบบอกคนตัวกลมก่อนจะใช้แขนตวัดเธอให้พลิกกลับมาแล้วใช้มืออีกข้างแกะเม็ดกระดุมชุดนอนออกอย่างง่ายดาย ไม่นานท่อนบนก็ไร้สิ่งปกปิดเผยให้เห็นทรวงอกอวบ
ใบหน้าหล่อก้มลงเลียตรงยอดเชอรี่ ก่อนดูดดึงหนัก ๆ พอให้สะดุ้ง เธอคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะทำอะไร บางครั้งยอดอกก็ถูกจับบิด บางทีก็ขยี้ดึงดัน บางจังหวะก็หนีบขึ้นมาดูดเต็มแรง
“อืม...”
สติของมนลิตาแทบเลือนราง มือใหญ่เลื่อนไปลูบไล้ผิวกายนุ่มเนียน ขณะที่หญิงสาวแอ่นตัวให้เขาเชยชม กางเกงนอนตัวเคืองถูกรูดลงไปกองอยู่ตรงข้อเท้า
ริมฝีปากหวานพรมความร้อนตั้งแต่ซอกหู เนินอก และหน้าท้อง สัมผัสโอ้โลมทั่วร่างกายส่งผลให้อารมณ์ถูกปลุกเร้าให้พุ่งทะยานจนรู้สึกวูบวาบขึ้นสมอง
“อ๊า หวาน” ชายหนุ่มรำพึงในลำคอ
แม้ไม่ได้พิศวาสทางความรู้สึกแต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาติดใจก็คือร่างกายของมนลิตา ไม่ว่าจะจับต้องตรงไหนก็นุ่มนิ่มเต็มไม้เต็มมือไปหมด ตั้งแต่ได้ลิ้มลองร่างอ้วนนี้ทำให้เขาหลงลืมหญิงอื่นที่เคยกินจนหมดสิ้น
ปลายลิ้นลากผ่านหน้าท้องจนมาเนื้อเนินสามเหลี่ยมซึ่งปิดสนิททั้งที่ผ่านแก่นกายเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ลุกล้ำส่วนกลางกาย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหญิงสาวจะเก็บความบริสุทธิ์เอาไว้ได้จนอายุจะเข้าเลขสามอยู่แล้ว
ลิ้นลากวนส่วนที่เป็นช่องเล็ก ๆ ซึ่งมีไว้ปล่อยน้ำ เขาเลียจนรู้สึกว่าส่วนนั้นเป็นลูกกวาดรสหวาน น้ำลายช่วยหล่อลื่นระหว่างดูดกลืนจนเกิดเสียงดังเฉอะแฉะเสนาะหู
มือใหญ่ดึงรั้งบั้นท้ายเข้าหาริมฝีปาก สะโพกกลมยกขึ้นสูงตามแรงตวัดของปลายลิ้นด้วยความเสียวซ่าน น้ำหล่อลื่นมันช่างหอมหวานจนเขาไม่สามารถหยุดยั้งเอาไว้ได้
“อ๊า ~ พี่เวย์!”
มนลิตาเรียกชื่อเขาออกมาเสียงกระเส่า ช่วงล่างสั่นระริกแทบไม่มีเรี่ยวแรง แค่คิดคำว่าถึงร่างอวบก็กระตุกถี่ปล่อยน้ำใสหลั่งไหลออกมาจนหมดสิ้น
ร่างอ้วนขยับตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่าแล้วผลักคนตัวโตกว่าลงไปนอนราบ มือนุ่ม ๆ แตะไปที่ความเป็นชายซึ่งกำลังพองโตอยู่ตายร่มผ้า เธอจัดการถลกกางเกงออกจนแก่นกายดีดขึ้นตั้งลำหัวบานราวกับดอกเห็ด
มือโอบล้อมแทบไม่มิดทั้งใหญ่ทั้งยาว แค่แตะปลายลิ้นลงไปบนหัวบานก็ทำเอาเวทัศสะดุ้งเล็กน้อย เธอไล้ลิ้นจากส่วนโคนขึ้นมาก่อนจะครอบครองไว้ในปาก
“โอ้ย...อ๊า”
เสียงทุ้มครางออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปขยุ้มเรือนผมยาวแล้วกดลงลึกจนสุดคอหอย ทำเอาเธอแทบหายใจไม่ออก
คายแก่นกายออกมาได้หญิงสาวรีบอ้าปากเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าปอด แต่เพียงเสี้ยววินาทีลำเอ็นท่อนเดิมก็ถูกยัดเข้ามาใหม่ คราวนี้เธอไม่ต้องออกแรงดูดเพราะเขาขยับบั้นท้ายเข้าออกพร้อมเงยหน้าสูดปากด้วย
ความเสียว
“เมียจ๋า เสียวหัวที่สุด”
เวทัศวางความโกรธความเกลียดลงเพราะความเสี้ยนมันมีมากกว่า ก่อนน้ำในร่างกายจะพุ่งออกมาก่อน จับคนเจ้าเนื้อนอนลงในท่านอนง่าย
“เสียวครับ พี่เสียว”
จะไม่ให้เสียวได้ไงปลายหัวบานถูไถกลีบปากสาวอวบอูมจากโคนสุดปลายจนเปียกชื้นไปหมด ผงกหัวขึ้นมองลำยาวแท่งคุ้นเคย
“ไหนบอกว่าไม่รักมนไง เอามะ...มน ทะ... ทำไมคะ”
“ไม่อยากให้เอา จะให้พี่หยุดไหม”
ท่อนเอ็นซึ่งถูขึ้นลงอยู่นั้นหยุดชะงักลง หญิงสาวส่ายหน้ารัวแล้วขอร้องให้เขาทำต่อ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ขาดใจตายเป็นแน่
ลำเอ็นจ่อไปยังช่องทางคับแคบก่อนจะดันเข้าไป กลีบดอกสาวค่อย ๆ กลืนกินเข้าไปทีละน้อยจนสุดลำแล้วถอนออกมาใหม่กระแทกเข้าไปอีกครั้ง
“โอ๊ย!”
“อ๊า”
เจ้าของเสียงทุ้มครางอยู่ในลำคออย่างพึงพอใจ หรือเพราะความคุ้นเคยและเข้าขากันดีในเรื่องบนเตียง จึงไม่มีความเขินอายใด ๆ อีกคนรุก อีกคนก็รับ ต่างฝ่ายต่างตอบสนองทำให้ทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติจนเขาลืมหยิบถุงยางมาใส่ ไม่สิ ต้องบอกว่าเขาไม่เคยสวมมันเลยสักครั้ง
ร่างกายสองร่างดึงดูดกันเหมือนขั้วแม่เหล็ก โพรงรักตอดรัดแน่นยามเมื่อกระแทกกระทั้นเข้าไปจนสุดลำ แรงตอกทำให้จุกท้องอยู่ไม่น้อยจนต้องใช้มือดันกล้ามหน้าท้องเอาไว้เป็นระยะ
“ผมเสียวมาก ไม่ไหว จะแตกแล้ว”
“มนก็จะเสร็จแล้วค่ะ พี่เวย์ขา เร็วกว่านี้หน่อย”
สิ้นคำขอร้องสะโพกสอบถี่เพียงแค่อึดใจบางสิ่งที่ขยายใหญ่อยู่ในตัวก็ระเบิดออกมา ของเหลวขุ่นข้อนพุ่งทะลักจากแก่นกายราวกับน้ำพุร้อน ช่องทางที่รองรับความต้องการบีบรัดราวกับยินดีที่ปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนเข้ามาด้านใน
ในสมองเกิดประกายไฟวูบวาบ ความสุขสมแล่นริ้วตามแนวกระดูกไล่จากก้นกบเรื่อยไปจนถึงแผ่นหลัง ร่างสูงล้มลงทาบทับคนเจ้าเนื้อ หายใจหอบถี่ด้วยความเหนื่อย โดยที่แก่นกายยังค้างคาอยู่ในช่องทางรัก...
‘ประกาศแต่งฟ้าแลบ! รอบสองกับภรรยาคนเก่ากับไฮโซเวทัศ’พาดหัวข่าวหราทุกแพลตฟอร์มและกลายเป็นประเด็นร้อนทุกออนไลน์กับความรักของทั้งคู่ เพราะไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริงและที่สำคัญเจ้าสาวในวันนี้ไม่ใช่ดาราดังหรือผู้หญิงสวยหน้าตาดีรูปร่างสวยเลย เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาแต่มัดหัวใจของชายหนุ่มได้อยู่หมัด“ยินดีด้วยนะ”เสียงแจ้วของกลุ่มก้อนเดิมดังขึ้นนำทีมโดยพี่ท้อปและตามด้วยน้องเล็กของทีมอย่างเจ้าต้น ก่อนหน้านั้นเจอกันแล้วรอบหนึ่งตอนเธอแวะไปแจกซอง พวกเขายังสนุกสนานเฮฮาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นเงียบ ๆ เหมือนเดิมแขกที่เชิญมามีแทบทุกวงการทั้งบันเทิง การเมือง และสายนักข่าว แต่คนที่เจ้าสาวรอมากที่สุดคงหนีไม่พ้นผู้ชายสวมสูทสีครีมกำลังเดินมา“พี่ตุลย์ ขอบคุณนะคะที่มา”“ต้องมาอยู่แล้วน้องสาวคนสวยของพี่แต่งงานทั้งที” กำลังจะยกมือขึ้นยีหัวด้วยความเคยชิน แต่คราวนี้มนลิตาหลบทัน“ฮันแน่ ไม่ได้กินหรอก พี่ยังติดยีหัวเหมือนเดิมเลยนะคะ”“นั่นสิ เป็นสัญชาตญาณของมือมั่ง” ทั้งคู่หัวเราะกันคิกคักจนมองไม่เห็นหัวเจ้าบ่าวที่ยืนอยู่ตรงนั้น“อะแฮม”“อ้าว เจ้าบ่าวยืนอยู่ตรงนี้เหรอ นึกว่ารูปปั้
‘ปัง’เสียงกัมปนาทดังขึ้นสนั่นจนหูอื้อเพราะมันอยู่ใกล้แค่ไม่กี่เมตร ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวเขาผลักคนตัวอ้วนไปอีกทางที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยความเจ็บแล่นริ้วขึ้นมาตรงหัวไหล่เขาชำเลืองมองเลือดสีแดงสดกำลังไหลซึมผ่านเสื้อยืดสีขาวผืนบาง ก่อนจะทรุดลงกับพื้น“กรี๊ดดดด พี่เวย์ ๆ”มนลิตาแทบคุมสติไม่อยู่รีบถลาตัวเข้าไปประคองเวทัศเอาไว้พร้อมกับตะโกนบอกคนแถวนั้นให้เรียกรถพยาบาล ชายหนุ่มเห็นอาการคนรักสติกระเจิงจึงจับมืออวบที่กำลังสั่นระริกเพราะความตกใจมากุมไว้“มน ใจ...เย็น ๆ นะพี่ไม่เป็นไร”“ไม่เป็นไรได้ยังไง เลือดออกขนาดนี้” น้ำตาร่วงหล่นลงแก้ม ความกลัววิ่งเข้ามาแทนที เธอไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะบาดเจ็บแต่กลัวว่าเขาจะตาย“พี่ยังไหว แผลแค่นี้เอง” เวทัศพยายามปลอบเธอ แต่นั้นยิ่งทำให้เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นจนพูดแทบไม่เป็นภาษา“พี่เวย์ ห้ามเป็นอะไรนะ นี่เป็นคำสั่ง ไหนว่าอยากอยู่กับมนและลูกไง ถ้าเป็นอย่างนี้มนจะอยู่ยังไง”“พี่จะไม่เป็นไร มนอย่าร้องนะ” เขาบีบมือเธอแน่นขึ้น ไม่นานเท่าไรหูก็ได้ยินเสียงไซเรนดังแว่วมาเจ้าหน้าที่ทำงานเคลื่อนย้ายร่างของเวทัศขึ้นบนเตียง มนลิตากระโดดขึ้นไปบนรถอ้างความเป็นภรรยาทันที รถพยาบ
ในที่สุดวันเวลาของการรอคอยก็มาถึงสักที ทั้งหมดเดินทางมาถึงภูเก็ตด้วยเครื่องบิน พอมาถึงคนของเวทัศก็นำรถมารับถึงสนามบิน“คุณท่านรออยู่ที่โรงแรมแล้วครับ” คนขับรถบอกกับเวทัศแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้ทุกคนนั่ง รถยนต์เคลื่อนตัวตรงไปโรงแรมทันทีโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ริมหาดกะตะบนแนวสันเขาของเกาะบริเวณหน้าโรงแรมเป็นหาดทรายขาวละเอียด มีลักษณะเป็นวงกว้างและมีความโค้ง คลื่นลมสงบ น้ำนิ่งสามารถลงเล่นน้ำได้และที่นี่ยังมีแนวปะการังแปลกตา ยาวไปจนถึงเกาะปู ทำให้เป็นที่ฝึกดำน้ำ และจุดดำน้ำยอดนิยมของเหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยงามใต้ทะเล“หูววว พ่อขาทะเล” รถเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าโรงแรมเมทิตาชะเง้อคอขึ้นมองแล้วชี้ออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยความตื่นเต้นตายายหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของหลานแล้วบอกว่าให้รถจากรถก่อนจะได้เห็นชัด ๆ พอก้าวเท้าลงมาคนเป็นย่าก็ยืนรอต้อนรับอยู่แล้วทำให้หนูน้อยลืมน้ำทะเลใสไปเลย“หนูเมย์...”“คุณย่า”ขาสั้นป้อมวิ่งตรงลิ่วไปหาคุณหญิงระย้า แขนเหี่ยวย่นอ้าแขนรับเจ้าตัวเล็กสู่อ้อมกอดแล้วหอมซ้ายหอมขวาเหมือนเคย“คุณย่าขา หนูเมย์ได้นั่งเครื่องบินด้วย บนโน้นมีเมฆ มีนกด้วยค่ะ”เมทิตาเงยหน้าชี้
สองผู้เฒ่านั่งเล่นอยู่ข้างล่างหันมองหน้ากันเชื่อได้เลยไม่นานทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าลูกสาวพวกเขานั้นใจอ่อนตั้งนานแล้วตอนนี้แค่วางฟอร์มเท่านั้น“แม่มนขา พ่อเวย์ขา” น้ำเสียงและท่าทางแบบนั้นมนลิตาพอจะเดาออกว่าลูกสาวต้องอยากได้หรืออยากไปที่ไหนสักที่แน่นอน“อ้อนจะเอาอะไรอีกคะ”“หนูเมย์อยากไปทะเล วันนี้เพื่อนหนูเมย์บอกว่าพ่อกับแม่พาไปทะเลหนูเมย์อยากไปบ้าง” เด็กหญิงทำหน้าอ้อน ๆ ใส่แม่ หันไปกระพริบตาปริบๆกับคนเป็นพ่อก่อนจะวิ่งอ้อมโต๊ะไปสวมกอดตากับยายเพื่อเอาใจมนลิตาแพ้ทางเวลาเมทิตามาอ้อนเพื่อขออะไรสักอย่าง แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตามใจเสียทุกเรื่องแต่เพราะลูกสาวเธอไม่เคยไปทะเลเลยตั้งแต่เกิดมากำลังจะอ้าปากพูดผู้ชายนั่งข้างก็เป็นฝ่ายเสนอขึ้นมา“ถ้าอย่างนั้นเราไปพักผ่อนกันทั้งครอบครัวดีไหมครับ ผมจะได้โทรบอกคุณแม่ด้วย”“ดีค่ะ ไปๆ ไปเที่ยวทะเลกัน” เมทิตาตอบรับแทนทุกคนแล้วชูสองแขนขึ้นกระโดดหมุนตัวไปมารอบโต๊ะกินข้าวเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของลูกกับมนลิตาทำให้เขามีความสุขมากขึ้นไม่ต้องมานั่งทำหน้าอมทุกข์เหมือนแต่ก่อน“แล้วเราจะไปทะเลที่ไหนล่ะ ประเทศเรามีทะเลตั้งหลายจังหวัด” ตา
ว่ากันว่าคนเราไม่เคยมีใครเป็นพ่อกับแม่มาก่อนทุกคนมาเริ่มต้นนับหนึ่งเมื่อมีลูกคนแรก ต่างลองผิดลองถูกกันมาทั้งนั้นสงสัยมันจะเป็นเรื่องจริง เหมือนกับเขาตอนนี้ที่กำลังฝึกหัดการเป็นพ่อคน คนอื่นโชคดีที่ได้ฝึกเป็นพ่อด้วยการอุ้มลูก เปลี่ยนผ้าอ้อม กล่อมนอน แตกต่างจากเขาตอนนี้ที่กำลังเป็นลูกค้าให้กับช่างแต่งหน้าตัวน้อย“พ่อเวย์สวยที่สุดเลยค่ะ” หนูเมย์ยื่นกระจกให้คนเป็นพ่อดูกับความภาคภูมิใจในการแต่งหน้า เขายิ้มรับให้ลูกแล้วทำท่าตื่นเต้นบนหัวผูกจุกเป็นต้นมะพร้าวสามต้น คิ้วถูกระบายหนาเป็นปลิง เปลือกตาทาด้วยสีฟ้าเข้ม ขนตางอนปัดด้วยมาสคาร่า โหนกแก้มแดงยิ่งกว่าตูดลิง ไฮไลท์ดั้งพุ่งโด่งจนแทบทิ่มตา ตบท้ายด้วยปากสีส้มเข้ากันกับแก้มสุดๆ“เฮ้ออออ” เวทัศพ่นลมหายใจออกมายาว ๆ“ถอนหายใจทำไมคะ ไม่สวยเหรอ” เด็กหญิงย่นคิ้ว เวทัศรีบฉีกยิ้มเอาใจลูกสาวเพียงคนเดียว“สวยค่ะ แต่พ่อว่ารอบหน้าเราลองลดความเข้มของสีตา แก้มลงกว่านี้ดีไหม มันจะต้องสวยมากกว่านี้แน่เลย เววี่คอนเฟิร์มคร๊า!”เวทัศดีดตัวสะดีดสะดิ้งราวกับว่าตัวเองเป็นเป็นสาวประเภทสอง แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นตรงประตูทางเข้าและที่น่าอับอา
ช่วงหลังเลิกงานเขาเอาแต่นั่งทำอาหารเกาหลีแทบทุกวันเพื่อที่อย่างน้อยมันก็บรรเทาความคิดถึงผู้หญิงตรงหน้าได้บ้าง และวันนี้เขาก็ได้มีโอกาสทำให้เธอได้กินแล้ว“กินสิ เดี๋ยวเย็นหมดนะ” ชายหนุ่มเลื่อนจานจาจังมยอนมาให้มนลิตาหลุดออกมาจากภวังค์ใช้ตะเกียบเหล็กคีบเส้นสีดำเข้าปาก ทันทีที่ลิ้นสัมผัสกับน้ำซอสสีดำดวงตากลมประกายวาววับขึ้นมาทันทีมุมปากของเวทัศหยักโค้งขึ้นแทบจะถึงติ่งหู หาเรื่องคุยกับง้อตั้งนานแทบจะไม่ได้ผลแต่พอทำของโปรดไว้ให้เขากลับเห็นความสดใสบนใบหน้าของเธออีกครั้งชายหนุ่มเท้าคางบนเก้าอี้มองหญิงสาวกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย กว่าจะรู้ตัวว่าถูกอีกฝ่ายเฝ้ามองเธอก็กินอาหารไปจนเกือบหมดโดยลืมชวนคนทำกินเสียด้วยซ้ำ“ไม่กินด้วยกันเหรอคะ”“ไม่ล่ะครับ พี่เห็นมนกินได้ก็ดีใจแล้ว”เอื้อมมือไปหยิบทิชชูจากกล่องไปเช็ดมุมปากที่เปื้อนน้ำซอสสีดำให้แผ่วเบา ดวงตาทั้งคู่สบกันครู่หนึ่งจนเป็นฝ่ายมนลิตาได้สติขึ้นมาก่อน เธอเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วเช็ดปากด้วยตัวเอง“เรื่องที่เราคุยกันเมื่อคืน...”“มนอยากคุยกับพี่เวย์เรื่องนี้พอดีเลยค่ะ”ยังไม่ทันจะบอกจุดประสงค์จบเลยว่าไม่ต้องรีบเขารอได้ ทว่าหญิงสาวก็เอ่ยตัดบทขึ้นมาเ