หน้าหลัก / โรแมนติก / เมียเฉิ่มของมาเฟีย / ตอนที่ 4 ซินเดอเรลล่ากับบัตรพนักงาน

แชร์

ตอนที่ 4 ซินเดอเรลล่ากับบัตรพนักงาน

ผู้เขียน: Golden Daffodil
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-20 14:01:50

หลายวันมานี้ เจย์เดนให้ครามและคิรินตามหาผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอเธอเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเธอเป็นซินเดอเรลล่าที่เขามีโอกาสได้พบเพียงแค่คืนเดียว แต่สิ่งที่เธอทำตกไว้ไม่ใช่รองเท้าแก้ว แต่เป็นบัตรพนักงานของยัยป้าที่ทำงานอยู่ร้านมินิมาร์ทเล็กๆ หน้าไนต์คลับของเขา

แต่สิ่งที่ยังติดค้างอยู่ในใจที่หลายวันมานี้เฝ้าครุ่นคิดว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเธอคนนั้นกับยัยป้านั่นจะเป็นคนๆ เดียวกัน

ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวหลายครั้ง แล้วก็โดนปัดตกไปเสียทุกครั้ง เพราะเขาเป็นคนเห็นด้วยตาและสัมผัสมาแล้วทั้งเรือนร่างของเธอ

เธอคนนั้นสวยราวกับนางฟ้า แตกต่างจากป้าแว่นคนนั้นราวกับฟ้ากับเหว ไม่ได้อยากจะบูลลี่หรอกนะ แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ

 

“นายครับ” ครามเดินเข้ามายืนอยู่ด้านหลังขณะที่ร่างสูงใหญ่กำลังยกดัมเบลขนาดสิบกิโลกรัมขึ้นลง ท่อนบนเปลือยเปล่าจนเผยกล้ามเนื้อจากแผงอกแข็งแรงและลอนจากซิกแพ็กเป็นมัดๆ ช่วงล่างเป็นกางเกงวอร์มแบรนด์เนม แม้จะมีเพียงกางเกงวอร์มตัวเดียวบนร่างกายทว่าก็ส่งผลให้ดูดีไม่น้อย

ร่างสูงใหญ่หันมามองผู้มาใหม่แวบเดียวก็หันกลับไปยกดัมเบลต่อ 

“ว่าไงวะ” 

“ผู้หญิงที่นายให้ไปตามสืบ ยังไม่มีทีท่าว่าจะพบเลยครับ”

ถึงครามจะไม่รายงาน เขาก็รู้ดีว่ายังไม่พบเธอ เพราะถ้าหากเจอตัวแล้ว ป่านนี้ก็คงจะรู้แล้วแหละ

“เออ แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะ”

“ผู้หญิงที่ทำงานพาร์ททามอยู่ที่ร้านมินิมาร์ทน่ะเหรอครับ” 

“เออ เป็นยังไงบ้าง” ชายหนุ่มที่กำลังยกดัมเบลขึ้นลงหลายสิบครั้งแล้วเริ่มเป่าปาก เหงื่อกาฬไหลชโลมตามกล้ามเนื้ออย่างน่าหลงใหล

เขายกมันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะวางไว้ที่แท่นวางแล้วเดินออกไปเปิดม่านกระจกใสที่ส่องออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ทั้งหมดของกรุงเทพ ณ เพ้นเฮาส์สุดหรู

“ก็ไม่มีอะไรเลยครับ เธอก็ยังคงมาทำงานตอนห้าโมงเย็นแล้วก็กลับออกไปตอนเที่ยงคืนทุกวัน”

“แล้วตอนกลางวันล่ะ”

“ตอนกลางวันเธอก็ทำงานที่ร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลจากแถวนั้นเท่าไรครับ”

“ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เหรอวะ”

“ครับ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยล่ะครับ แล้วนายจะสนใจเธอไปทำไมเหรอครับ” ครามเอ่ยถามอย่างสุภาพ ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์แม้ว่าภายในจะสงสัยมากก็ตามว่าผู้เป็นนายจะอยากรู้ความเป็นไปของผู้หญิงคนนั้นทำไม

“กูไม่ได้สนใจยัยป้านั่นหรอก แต่เพราะเธอเป็นคนเดียวที่กูยังคงสงสัยว่าอาจจะรู้จักกับผู้หญิงที่อยู่บนเตียงกับกูในคืนนั้น”

ที่แท้ก็อยากตามหาผู้หญิงสวยคนนั้นนี่เอง เจ้านายของเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร แต่ไหนแต่ไรมา ตั้งแต่เลิกกับคุณเมลินดาไพลินไปเมื่อห้าปีก่อนก็ไม่เคยเห็นจะสนใจผู้หญิงคนไหนเท่านี้มาก่อนเลย แม้ว่าจะมีพีอาร์สาวสวยระดับตัวท้อปเป็นสิบเป็นร้อยคนอยู่ในมือก็ตาม

แต่ครามที่สนิทสนมและรับใช้เจย์เดนมาเป็นสิบปีย่อมรู้ดีว่าเสปคของเจย์เดนเป็นอย่างไร เขาชอบผู้หญิงธรรมชาติ หน้าไม่ปลอม หุ่นและโดยเฉพาะนมต้องเป็นของแท้ ซึ่งหาได้น้อยนักในบรรดาพีอาร์สาวสวยเหล่านั้น

แต่หากจะให้ธรรมชาติเกินอย่างยัยป้านั้นก็ไม่ไหว แค่คิดก็ขำก๊าก

“มึงขำอะไรวะ” ไม่รู้สิ่งที่กำลังคิดอยู่จะทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มเผลอขำออกมาโดยไม่รู้ตัว หันมามองผู้เป็นเจ้านายอีกทีก็ได้รับสายตาดุใส่ เล่นเอาปรับสีหน้าและอาการให้เป็นปกติแทบไม่ทัน

“ปละ เปล่าครับนาย”

“งั้นมึงก็ไปจับตาดูเธอต่อไป ได้เรื่องยังไงแล้วค่อยมาบอกกูอีกที”

“ได้เรื่องนี่ ได้เรื่องอะไรเหรอครับนาย” ไม่เห็นว่าวันๆ ยัยป้าคนนั้นจะเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองให้เปลี่ยนไปเลยสักนิด ชีวิตยังวนลูปอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง ขนาดเขาติดตามเธอมาแค่อาทิตย์เดียวก็เบื่อจะแย่

สู้ให้เขาไปจับปืนยิงถล่มคู่อริยังจะสนุกเสียกว่า…

 

“เรื่องคุณปู่เป็นยังไงบ้าง” เจย์เดนเอ่ยถาม เขามอบหมายให้ครามผู้ที่เป็นมือขวาติดต่อเรื่องของคุณปู่ ด้วยความสนิทและไว้ใจมากที่สุด รองลงมาคือคิริน

“อาการยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ครับ การรับรู้และการตอบสนองเริ่มช้า นายจะทำอะไรก็รีบทำนะครับ” สิ้นเสียงของผู้เป็นบอดี้การ์ด เจย์เดนหันขวับมามองทันที

“เออ งั้นมึงไม่ต้องตามสืบยัยป้านั้นแล้ว แต่ไปตามสืบผู้หญิงที่คุณปู่ของกูจะให้แต่งงานด้วยดีกว่า”

“ครับ” 

“ไม่มีอะไรแล้ว ไปได้”

“ครับ นายครับ ให้ผมเรียกซินดี้เข้ามารับใช้ไหมครับ” ครามเสนอ 

“ไม่ กูอยากอยู่คนเดียว” ขณะที่บอกออกไปอย่างนั้นทว่าในหัวสมองกลับคิดบางอย่างออก “เดี๋ยว ก็ได้ ไปเรียกซินดี้เข้ามาพบกูหน่อย”

“ครับ” ครามกล่าวเสร็จก็เดินออกไป ปล่อยให้ร่างสูงใหญ่เปลือยท่อนบนยืนมองวิวของสีสันในยามบ่ายของเมืองกรุงอย่างนั้นสักพัก

 

นริศราเตรียมตัวเก็บข้าวของเพื่อขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ทว่าขับมายังไม่ถึงสองนาที เหมือนกับว่าเบื้องหน้าเกิดการต่อสู้ย่อมๆ เกิดขึ้น เธอจะไม่สนใจอะไรหากว่าภาพตรงหน้ามันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกผู้ชายสองคนรุมทำร้าย

ไอ้ชาติชั่ว! รุมทำร้ายผู้หญิง ไอ้พวกเลวระยำสัสหมา

“นี่ พวกมึงปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้นะ ไอ้พวกชั่ว” สาวแว่นวิ่งเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้น ยิ่งเข้ามาเห็นใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นสวยมากแค่ไหน อีกทั้งการแต่งตัวก็บ่งบอกว่าทำอาชีพพริตตี้พีอาร์อะไรทำนองนั้น และที่ผู้ชายสองคนที่กำลังฉุดกระชากลากถูคนละแขนของผู้หญิงสวยคนนั้นก็คงเพราะต้องการฉุดเธอไปทำมิดีมิร้ายแน่นอน

“ฮ่าๆ แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่เนี๊ย มึงเป็นใครฮะ ถึงมาชี้หน้าด่าให้พวกกูปล่อยผู้หญิงคนนี้” หนึ่งในสองของชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่หัวเราะเยาะ ทำเอาเพื่อนของมันอีกคนระเบิดหัวเราะอย่างขบขันไปด้วย

“ใช่ ป้า มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลยนะถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปด้วยอีกคน” 

“เอ หรือว่าป้าอยากจะไปขึ้นสวรรค์กับพวกเราด้วยล่ะ เชิญเลยนะ มาเลย” 

“หน็อย นี่แน่ะ!” 

โชะ! นริศราหยิบท่อนไม้ที่วางอยู่ข้างถนนได้ก็ตีเข้าที่หัวของชายฉกรรจ์คนหนึ่ง ขณะที่อีกคนวิ่งเข้ามาหมายจะทำร้ายแต่เธอก็ไหวตัวทันและสะบัดไม้ในมือใส่ที่หลังของมันจนเสียงดังอึก

“โอ๊ย! นี่มึง อีนังตัวดี”

ปั่ก! หญิงสาวไม่ปล่อยโอกาสที่พวกมันกำลังเจ็บตัวหยิบก้อนหินที่อยู่บริเวณนั้นปาเข้าที่หัวของพวกมันคนละที ผู้หญิงสวยคนนั้นได้สติก็รีบช่วยหยิบก้อนหินมาปาพวกมันด้วยเช่นกัน

“โอ๊ย! โอ๊ย! เชี่ยเอ๊ย! มึงเจอกูแน่” 

“เธอ หนีกันเถอะ เราสู้มันไม่ไหวแน่” นริศราจับข้อมือของหญิงสาวไปที่มอเตอร์ไซค์ กะว่าจะขึ้นคร่อมแล้วขับหนี ทว่าไม่ทันเสียแล้ว พวกมันวิ่งตามมาแล้ว สิ่งที่คิดได้ตอนนี้คือวิ่งหนีให้เร็วที่สุด

 

“แฮ่กๆๆ…เฮ้อ เหนื่อย พวกมันคงไม่ตามมากันแล้วนะ…เฮ๊ย! เธอหายไปไหนแล้วล่ะ” นริศราหันซ้ายหันขวาก็รู้สึกว่ารอบข้างเปลี่ยนไป แล้วผู้หญิงที่วิ่งมาด้วยกันหายไปไหนแล้ว

“แฮ่กๆ…ฉันอยู่นี่” เสียงหอบหายใจดังอยู่ข้างๆ ไม่ไกล นริศราหันไปตามต้นเสียงก็พบกับร่างอรชรทว่ากลายเป็นภาพพร่าเบลอ 

สองมือรีบเลื่อนขึ้นมาจับที่ใบหน้าของตัวเองทันที 

“ให้ตาย! แว่นฉัน” สงสัยจะตกหายไปตอนที่วิ่งหนีไอ้พวกชั่วสองคนนั้น จะให้ทำยังไงได้ มันอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงต้องรีบวิ่งหนีมาก่อน “แว่นฉัน อันตั้งหลายพัน ซวยๆ เสียตังค์โดยใช่เหตุอีกแล้ว”

“ฉันขอโทษนะ เลยทำให้แว่นเธอหายเลยอ่ะ เอางี้ เดี๋ยวฉันซื้อให้ใหม่เอาไหม” 

“ไม่เป็นไรๆ ฉันก็บ่นไปงั้นแหละ เรื่องแค่นี้ไม่เป็นไร”

“อุตส่าห์มาช่วยฉันแท้ๆ เลย ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันพาไปตัดแว่น ถือซะว่าเป็นคำขอบคุณที่ช่วยฉันไว้” หญิงสาวสวยยังคงดึงดันยินดีที่จะช่วย

“ไม่เป็นไรจริงๆ ที่จริงแว่นมันก็เก่าแล้ว ฉันเองก็กำลังจะซื้อใหม่อยู่พอดี”

“เหรอ เออนี่ ฉันชื่อซินดี้นะ ยินดีที่ได้รู้จัก เธอชื่ออะไรเหรอ”

“ฉันเหรอ นุ่มนิ่ม แต่ว่าเธอ สวยจัง” เอ่ยพลางจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าเขม็งเพราะความพร่าเบลอที่ไม่มีแว่นตา ที่จริงสายตาของเธอสั้นขนาดนี้ควรจะไปทำเลสิคได้แล้ว แต่ติดที่ไม่มีเงินเป็นแสนขนาดนั้น

“ไม่สวยฉันไม่ได้เป็นพีอาร์น่ะสิ”

“นี่เธอเป็นพีอาร์เหรอ ถึงว่าล่ะ สวยจัง ชุดที่ใส่ก็สวยและก็เซ็กซี่ด้วย แล้วนี่ไปทำอีท่าไหนถึงไปให้ไอ้พวกชั่วสองคนนั่นมันฉุดเอาได้” จะว่าไปแล้วพีอาร์คนสวยๆ อย่างซินดีนี้น่าจะเป็นพีอาร์ระดับตัวท้อป ไม่มีทางที่ไอ้สองคนนั้นมันจะมีปัญญาจ่ายค่าดริ้งค์เธอได้หรอก ยิ่งไม่มีทางที่จะมีปัญญาจ่ายแพงๆ เพื่อพาเธอออกไปรับแขกข้างนอกได้ แต่ทำไมเธอถึงออกมาอยู่ที่เปลี่ยวๆ กับพวกมันได้

“พอดีฉันออกมากับแขกน่ะ แต่ว่าแขกมันจะทำมิดีมิร้ายฉัน ก็เลยกระโดดลงรถมัน หวังจะขอความช่วยเหลือแต่ดันหนีเสือปะจระเข้ มาเจอไอ้พวกเหี้ยนี่อีก”

“อ๋อ อย่างนี้เอง พวกมันคงไปกันแล้วมั้ง เธอโทรให้คนของเธอมารับสิ เดี๋ยวฉันจะกลับไปเอามอเตอร์ไซค์ จะได้กลับบ้านสักที เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” ประโยคหลังนริศราเหมือนบ่นกับตัวเองเสียมากกว่า เพราะทำงานมาทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืน กะว่าจะกลับไปอาบน้ำนอน มีเวลาสักนิดสักหน่อยเผื่อจะดูซีรี่ส์แต่กลับมาเจอเรื่องซวย จนป่านนี้ยังไม่ถึงบ้านเลย

“อย่าเพิ่งกลับไปนุ่มนิ่ม ไม่กลัวไอ้พวกนั้นมันดักรออยู่หรือไง ฉันว่านะ พวกมันเหี้ยขนาดนั้น ป่านนี้มอเตอร์ไซค์เธอคงไม่เหลือหรอก มันเอาไปแล้วแหละ”

“ฮะ!” คราวนี้ตกใจยิ่งกว่ารู้ว่าแว่นหาย

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด แว่นน่ะหลักพัน แต่มอเตอร์ไซค์น่ะหลักหมื่นนะโว๊ย กูจะมีปัญญาหาเงินที่ไหนทันก่อน!

“นุ่มนิ่ม ฉันขอโทษจริงๆ นะ ทำเธอซวยไปด้วยเลย”

“ไม่เป็นไร” คราวนี้นริศราเอ่ยเสียงอ่อย มันทั้งเสียดายและเสียใจจริงๆ 

แม้ว่าของเหล่านั้นมันจะเป็นของนอกกาย คิดในแง่ดีทั้งเธอและซินดี้ปลอดภัยก็โชคดีสุดๆ แล้ว แต่มันก็อดเสียดายไม่ได้ เธอไม่ได้รวยถึงขนาดมีเงินถุงเงินถังถึงจะไม่เดือดร้อนอะไรเลยนี่นา ชีวิตของเธอมันยากลำบากแค่ไหนกว่าจะมีปัญญาหาเงินมาได้แต่ละบาท

“เออ ตำรวจ เราไปแจ้งตำรวจก็ได้นี่” พลันความคิดก็เข้ามาในหัวสมอง ทว่าซินดี้รีบส่ายหน้าทันที

“ไม่ได้ๆ”

“ทำไม”

“เธอคิดว่าตำรวจจะช่วยได้จริงๆ เหรอ”

“ก็อย่างน้อย ตำรวจก็ต้องมีหน้าที่ช่วยคนอย่างเรานี่นา” นริศราลุกขึ้น ซินดี้ลุกขึ้นตามแต่คว้ามือนริศราไว้

“นุ่มนิ่ม เชื่อฉันเถอะ ไม่ต้องไปแจ้งตำรวจหรอก เอานี่ ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเธอต้องการอะไรน่ะบอกฉันได้เลย ฉันติดหนี้บุญคุณเธอนะ ฉันทำงานเป็นพีอาร์ แค่ค่าดริ้งค์แต่ละวันฉันก็ได้ตั้งหลายแสนแล้ว แค่แว่นแล้วก็มอเตอร์ไซค์น่ะมันไม่เหนือบ่ากว่าแรงฉันหรอก เอาโทรศัพท์มานี่”

“โทรศัพท์? ทำไมเหรอ” นริศราฉายแววงุนงงและสงสัยอยู่เต็มใบหน้าแต่ก็เอาโทรศัพท์รุ่นราคาไม่ถึงหมื่นขึ้นมาให้ซินดี้

ซินดี้หยิบไปแล้วเลื่อนไปเลื่อนมาอยู่หลายนาทีก่อนจะส่งกลับคืนให้ 

“ทั้งเบอร์ ทั้งไลน์ เรามีช่องทางการติดต่อกันแล้ว เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ จากนี้ไปเธอต้องการรับความช่วยเหลืออะไรจากฉันก็ได้เลย เต็มที่ไม่ต้องเกรงใจ” 

ในที่สุด ฉันก็มีเพื่อนใหม่ที่ทั้งสวยแล้วก็เซ็กซี่สุดๆ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 34 ฮีโร่ตัวจริง

    นี่มันโรงพยาบาลนี่นา สายน้ำเกลือ เตียง ผ้าปูที่นอน รวมถึงชุดผู้ป่วยที่กำลังสวมอยู่ตอนนี้ก็บ่งบอกว่าตอนนี้เธอกำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจริงๆพระเจ้าเธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกขายตัวให้กับแก๊งค้ามนุษย์ ทั้งที่ก่อนสลบไปเธออยู่กับเขา…“ฟื้นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มห้าวดังข้างหู นริศราหันขวับไปทางต้นเสียงทันทีร่างสูงใหญ่บึกบึนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดกระดุมสามเม็ดกับกางเกงแสล็คสีเข้ากันกำลังจ้องเธออยู่ ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเขาไม่ได้หายไปไหนหรอก แต่ตอนนี้กำลังยืนจ้องเธอไม่วางตา โชคดีที่เขายังไม่เอาเธอไปขาย หรือคงเห็นว่าเธอบาดเจ็บจึงเอามารักษาตัวก่อน ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องรีบหนีไปจากเขาให้เร็วที่สุด“คิดอะไรอยู่เหรอ” เมื่อเธอยังเงียบเขาเลิกคิ้วถามอีกครั้ง“อะ…เอ่อ…” “ช็อคจนพูดไม่ออกเลยเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ เธอปลอดภัยแล้ว”ปลอดภัยจากไอ้พวกชั่วสองตัวนั่นแต่กลับมาตกอยู่ในอันตรายเพราะแกอีกน่ะสิ“เธออาจจะยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรเพราะเรื่องที่เจอคงหนักพอสมควร ไม่เป็นไรพักผ่อนไปก่อนก็ได้ ฉันไม่รบกวนเธอแล้ว แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็เรียกได้ตลอดเวลา” คาลอสเอ่ยเสร็จก็เดินไปนั

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 33 หนีเสือปะจระเข้

    “ไปคุยกับมันทำไม” เจย์เดนกระชากเสียงถามคนที่วิ่งมาหาอย่างโมโห แสดงอาการหึงหวงอย่างโจ่งแจ้ง“ฉันไม่รู้จักเขา เขามาช่วยฉันต่างหาก เมื่อกี๊ฉันจะหงายหลังเขาก็เลยเจ้ามาช่วย ก็แค่นั้นเอง ไม่มีอะไรเลย” คนหน้าแดงเพราะฤทธิ์ไวน์หนึ่งอึกพยายามอธิบาย“ก็เคยบอกแล้วไงว่าอย่าไปยุ่งกับมัน”“เคย?” นริศราเอียงคอขมวดคิ้วสงสัย สมองอันพร่าเบลอในเวลานี้กำลังคิดทบทวนว่าเขาเคยบอกเธอตอนไหนว่าไม่ให้ไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้นอ๋อ จำได้แล้ว คืนนั้นเอง เจย์เดนเคยบอกว่าเขาเป็นมาเฟียค้ามนุษย์ ถ้าไม่อยากชะตาขาดก็อย่าไปยุ่งกับเขาแต่เอไม่ได้ไปยุ่งกับเขานะ เขาเข้ามาช่วยเธอเอง วันนี้ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ“จำได้หรือยัง”หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ สลัดความคิดเรื่องผู้ชายคนนั้นออกจากหัวแล้วโฟกัสกับผู้ชายตรงหน้าที่ตีหน้าเข้มหึงหวงตัวเองอยู่ เข้าไปกอดแขนล่ำสันพลางซบลงและจ้องตาอย่างออดอ้อน“เมื่อกี๊มันไม่มีอะไรจริงๆ ทำไมเหรอ หึงฉันหรือไง”“…” เงียบ“หึงก็ยอมรับมาเหอะน่า ไม่ต้องมาทำเข้ม”“ทีหลังห้ามไปยุ่งกับไอ้คาลอส เข้าใจไหม” ไม่รู้ว่าเจย์เดนเคยบอกชื่อผู้ชายหน้าร้ายๆ คนนั้นให้เธอฟังหรือยัง แต่เธอจำขึ้นใจเลยว่าห้ามยุ่งเกี่ยวด้วยเด็ดขาด“ไ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 32 งานเลี้ยงบนเรือยอร์ช

    เจย์เดนปล่อยสาวๆ พูดคุยทำความรู้จักกัน ส่วนตัวเขาลากคริสและหมอธีโอออกมายืนดื่มเหล้านอกที่ระเบียงและอีกหน่อยก็จะเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจสีเทาสักเล็กๆ น้อยๆ “เปิดตัวสักทีนะมึง ก็สวยใช้ได้นี่หว่า ไม่รู้ว่าจะหวงไว้ทำไมตั้งนาน” คริสว่าหลังจากกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก“เออใช่ พอเห็นแล้ว…กูคิดว่ามึงจะยังชอบสเปคเดิมซะอีก เปลี่ยนซะงั้น” หมอธีโอว่า“ไม่ได้เปลี่ยนนิดๆ หน่อยๆ นะเว๊ย เปลี่ยนแบบคนละแนวไปเลย” คริสเสริม“นี่พวกมึงสังเกตอะไรผู้หญิงของกูขนาดนั้น” เจย์เดนหันหน้าต้านลมที่พัดมาต่อเนื่องพลางกระดกเหล้าเข้าปากท่ามกลางคลื่นลมและทะเลสีดำด้านนอกตัวเรือขนาดใหญ่“ไม่ได้สังเกตก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่ะ คนก่อนกับคนปัจจุบันของมึงน่ะต่างกันสุดๆ” พวกเพื่อนต่างก็รู้สึกได้ว่าสเปคของเจย์เดนเปลี่ยนไป เมลินดาไพลิน แฟนคนก่อนของเขานั้นสวยและรวยระดับไฮโซ มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเอง ทว่าต่างกับแฟนคนปัจจุบันของเขาที่แม้ว่าจะสวยไม่ต่างกันแต่เธอดูขี้อายและไม่ค่อยคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมรอบกายของเขา“มึงเลิกพูดถึงเรื่องเก่าๆ สักที แล้วอย่าเอาเรื่องนี้ไปพูดให้นุ่มนิ่มได้ยินเชียวนะ”“กูอยู่เป็นน่า กูไม่ทำให้มึงเดือ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 31 คนมันหวง

    “นอนพักต่ออีกหน่อยไหม” เจย์เดนถามหลังจากที่ทั้งสองรับประทานอาหารที่สั่งพนักงานโรงแรมเอาขึ้นมาส่งให้ที่ห้องเรียบร้อยแล้ว ทั้งเธอและเขาต่างก็สวมชุดคลุมอาบน้ำของทางโรงแรมด้วยสภาพที่โทรมสุดๆ เพราะตั้งแต่ตื่นเมื่อวานก็จัดกันไม่หยุด ยังไม่ได้ออกไปเดินชมบรรยากาศภายนอกเลยด้วยซ้ำ“ไม่เอาแล้ว อยู่แต่ในนี้ทั้งวันทั้งคืน อยากออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง”“งั้นก็ไปอาบน้ำสิ” “อื้ม…” นริศราตอบรับอย่างเขินอายเมื่อเขาดึงเธอเข้าไปใกล้แล้วจรดริมฝีปากลงที่หน้าผากมน มิหนำซ้ำยังกระซิบข้างหู“อาบด้วยกันอีกรอบไหมล่ะ…” น้ำเสียงแหบพร่าเซ็กซี่ทำเอาคนฟังขนลุกซู่เธอผลักเขาออกเบาๆ “ไม่เอา เดี๋ยวก็กินเวลาไปอีก ฉันเหนื่อยแล้ว” รู้น่าว่าคนอย่างเขาคิดอะไรอยู่ กินดุ กินเก่ง แล้วก็อึดชะมัดยาด…ทั้งสองคนอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย เจย์เดนสวมกางเกงขาสั้นแบรนด์เนมเสื้อฮาวายสีน้ำเงิน-ขาวและสวมแว่นตาดำหรูแบบที่ชอบใส่ ส่วนนริศราออกมาในชุดคลุมตาข่ายสีดำทว่าสามารถมองทะลุเข้าไปเห็นบิกินี่สีดำเช่นเดียวกัน เจย์เดนมองเธอด้วยสายตาหวานเชื่อม ไม่คิดว่าเธอจะกล้าสวมใส่ มันเย้ายวนหัวใจเขามากจนไม่อยากพาเธอออกไปเดินเล่นเลย อยากจัดเธอซ้ำ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 30 บนเตียง ระเบียง หรือในอ่าง NC++

    “คุณไม่เห็นบอกฉันก่อนเลยว่าคุณจะพาฉันไปที่ภูเก็ตด้วย” เธอถามพลางเอาใบหน้าเกยไหล่หนาระหว่างที่นั่งอยู่บนเครื่องบินส่วนตัวมุ่งหน้าไปที่ภูเก็ตเขาคิดว่าเป็นเจ้าของชีวิตของเธอหรือไง ทำอะไรก็ไม่ปรึกษา พาเธอมาที่นี่ทั้งที่ยังไม่ได้ลางานเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่คาเฟ่และมินิมาร์ท กลับไปได้โดนไล่ออกกันพอดี“ก็ถ้าชวนดีๆ ก็คงไม่มาด้วยไง ฉันรู้เดี๋ยวเธอก็อ้างโน่นอ้างนี่”“แล้วก็มัดมือชกกันมาเนี่ยนะ” มิน่าล่ะ ทำไมวันนี้ถึงพาไปช็อปปิ้งเสียเยอะแยะขนาดนั้น ชุดว่ายน้ำด้วยอีกต่างหาก ที่แท้ก็จะพามาภูเก็ตนี่เอง“ใช่ แล้วก็ไม่ต้องกลัวนะเรื่องที่ทำงาน”“ทำไม” “ระหว่างที่เธอไปภูเก็ตกับฉัน ฉันให้คนไปทำงานแทนเธอแล้ว ฉะนั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าที่ทำงานของเธอจะขาดคน” เห็นไหม ทำอะไรก็ไม่เคยบอก คิดเองเออเองทั้งนั้นแต่ก็เอาน่า ถือซะว่าได้มาเที่ยวอย่างไม่ต้องห่วงอะไรหารู้ไม่ว่า ที่เจย์เดนหาคนไปทำงานแทนเธอทั้งที่คาเฟ่และมินิมาร์ทนั้นเป็นการจ้างทำแบบถาวรไปเลยเพราะเขาลาออกแทนเธอแล้วเธอจะได้อยู่กับเขาตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาไปทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำแต่ได้เงินเดือนละไม่กี่บาท เขาจะเลี้ยงและดูแลเธอให้ดีที่สุด อย่างที่ได้เคยพูดเอ

  • เมียเฉิ่มของมาเฟีย   ตอนที่ 29 สายเปย์ตัวพ่อ

    หมออนุญาตให้เจย์เดนออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เขากลับมาพักที่เพ้นท์เฮาส์โดยมีพยาบาลส่วนตัวที่คอยดูแลเป็นพิเศษจนอาการทางกายก็ค่อยๆ หายตามปกติ แต่อาการทางใจนั้นเรียกได้ว่าหายสนิทวันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เขาขอให้เธอหยุดงาน ทั้งที่เธอเองก็รู้สึกเกรงใจศรัณญูเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จะลาออกก็เสียดายเพราะทำมาหลายปี อีกทั้งได้ทำอยู่กับเพื่อนสนิทและมีเจ้านายที่ใจดี“ลาออกไหม ฉันเลี้ยงเธอเอง” เขาถามอีกครั้งหลังจากที่เคยยื่นข้อเสนอให้เธอลาออกแล้วเขาจะเป็นคนเลี้ยงเธอเองมันก็รู้สึกดีอยู่นะที่มีคนรักต้องการซัพพอร์ทดูแลเลี้ยงดู แต่ถ้าหากวันหนึ่งเธอกับเขาไปด้วยกันไม่ได้แล้วเธอจะไม่แย่หรอกหรือ เธอไม่ได้ต้องการเกาะใครกินหรอกนะ แต่ก็ไม่ปฏิเสธหรอกถ้าหากเขาจะเลี้ยงเธอน่ะ รู้ดีว่ามันเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท“สายเปย์เหรอ”“ได้หมด” ใบหน้าคมคร้ามยักคิ้วหนาพลางหยักยิ้มมุมปาก ขณะที่ใบหน้ายังมีรอยแดงจางๆ ทว่าก็ยังคงเท่ไม่เปลี่ยนสายเปย์นักใช่ไหม จะหลอกแดกให้หมดเลย“กินเยอะน๊า” “เท่าไหร่เชียว” ต่อให้มีเธออีกสิบคนเขาก็เลี้ยงไหว จะกินสักเท่าไหร่กันเชียว ของโปรดส้มตำไก่ย่าง ไม่ได้กินหรูหราในภ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status