ตอนพิเศษ 2
เพราะวันนี้เป็นวันหยุดที่สวนสนุกจึงมีผู้คนค่อนข้างหนาตา ส่วนมากจะจับจูงกันมาเป็นครอบครัวและแก๊งเพื่อน หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรผ่านประตู และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำกันเรียบร้อยแล้ว วินทร์โน้มใบหน้าลงไปไล่สายตาอ่านแผนผังของสวยสนุกแห่งนี้ในมือภรรยา ก่อนจะหันไปถามลูกสาวที่ยืนดูอยู่ด้วยกัน
“เราจะเริ่มจากฝั่งไหนก่อนดี”
เด็กหญิงณิศราทำสีหน้าขบคิด ด้วยตัดสินใจไม่ได้ ซ้ายก็น่าตื่นเต้น ขวาก็น่าไป และยังไม่ทันได้ตอบอะไร เสียงของน้องชายก็ดังขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
“ขึ้น ดลย์อยากขึ้น ๆ” เด็กชายวัยสองขวบที่พูดได้เป็นประโยคแล้วแต่ยังไม่ชัดเท่าไรเอ่ยขึ้น ดวงตากลมโตขยายขึ้นอย่างตื่นตาตื่นใจ พร้อมชี้นิ้วป้อม ๆ ไปที่กระเช้าลอยฟ้าหรือเคเบิลคาร์ที่เคลื่อนตัวไปช้า ๆ บนสายเคเบิล
“เดี๋ยวค่อยเล่น อันนั้นต้องเล่นเป็นอันสุดท้าย” ณิศราผู้ศึกษาสวนสนุกแห่งนี้มาจากช่องยูทูปเอ่ยบอก
“ทำไมต้องเอาเล่นเป็นอย่างสุดท้ายคะ” วินทร์ถามถึงเหตุผลของลูกสาว
“ก็เล่นทุกอย่างมาเหนื่อย ๆ แล้วค่อยขึ้นไปชมวิวบนนั้นไงคะ วิวสวย ๆ จะทำให้เราหายเหนื่อยค่ะ” สาวน้อยพูดตามที่ยูทูปเบอร์คนนั้นเป๊ะ ๆ
วินทร์พยักหน้าช้า ๆ อย่างเห็นด้วย คงจะจริงอย่างที่ลูกบอก “งั้นเราจะเริ่มจากฝั่งไหนก่อนดี ซ้ายหรือขวา”
“ซ้ายค่ะ” หนูน้อยผมเปียชี้ไปฝั่งซ้ายมือซึ่งมีเครื่องเล่นที่ชื่อว่า ‘หมูลมกรด’ อย่างกระตือรือร้น
“ปะ งั้นเราเริ่มจากเจ้านี่เลย” เมื่อเลือกได้แล้ว วินทร์ก็ช้อนตัวหนุ่มน้อยขึ้นมาอุ้ม แล้วจูงมือณิศราไปต่อคิวเพื่อเล่นเจ้าหมูลมกรด
ณิชายกสมาร์ตโฟนขึ้นมาบันทึกภาพสามพ่อลูกที่เดินไปด้วยกัน แล้วยิ้มออกมาด้วยความสุขใจกับภาพที่เห็น ก่อนจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วเดินตามทั้งสามคนไป
“พี่วินทร์ อันนี้ไม่ต้องเล่นหรอก มันน่ากลัว” ณิชาเอ่ยห้ามพลางส่ายหน้าอย่างนึกเป็นกังวล เมื่อเดินมาถึงเครื่องเล่นที่ชื่อว่า ‘เฮอริเคน’ เพียงแค่มองจากไกล ๆ เธอก็รู้สึกได้ว่ามันน่ากลัวและน่าหวาดเสียวมาก ยิ่งได้ยินเสียงกรี๊ดของคนที่กำลังเล่นอยู่ ท้องไส้เธอก็รู้สึกปั่นป่วนไปหมด ถ้าต้องขึ้นไปอยู่บนนั้นจริง ๆ เธอต้องเป็นลมแน่ ๆ หญิงสาวไม่อยากเสี่ยงและพยายามโน้มน้าวไม่ให้วินทร์พาลูกขึ้นไปเล่น
“เล่น ๆ คุณพ่อต้องเล่นนะคะ หนูณิอยากเล่นค่ะ” ณิชาพูดขึ้นอย่างไม่นึกกลัวพลางเขย่าแขนรบเร้าผู้เป็นพ่อ แม้เครื่องเล่นตรงหน้าจะดูหวาดเสียวมาก แต่เด็กหญิงก็อยากรู้อยากลอง อยากกรี๊ดให้สุดเสียงเหมือนในคลิปที่เคยดู
“เล่น ๆ พ่ออยากเล่น” เด็กชายพัทธดลย์ก็เอาด้วยคน มองเครื่องเล่นตาไม่กระพริบ
“ไม่เอาครับลูก น้องดลย์เล่นไม่ได้ครับ” ณิชารีบห้ามด้วยพัทธดลย์ยังเด็กเกินไป อีกทั้งยังตัวเล็กมาก เธอไม่แน่ใจว่าระบบเซฟตีจะรัดกุมมากพอหรือเปล่า
“แต่หนูณิเล่นได้ใช่ไหมคะ หนูณิอยากเล่น” ณิชาหันมาอ้อนวอนผู้เป็นแม่ เมื่อกี้แม่บอกว่าน้องดลย์เล่นไม่ได้ แต่เธอกับพ่อสามารถเล่นได้ใช่หรือไม่ ?
“หนูณิไม่เล่นได้ไหมลูก แม่เป็นห่วง” ณิชาพูดเสียงอ่อน เธอก็ไม่อยากขัดใจลูกสักเท่าไร ด้วยนาน ๆ จะได้มาเที่ยวสวนสนุก ก็ควรจะเล่นให้เต็มที่ แต่เครื่องเล่นตรงหน้ามันน่าหวาดเสียวและดูอันตรายมากเกินไป เธอจึงรู้สึกเป็นกังวล
“คุณพ่อ หนูณิอยากเล่น” เมื่อขอคุณแม่ไม่สำเร็จ สาวน้อยจึงหันกลับมาอ้อนผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
วินทร์เกิดความลำบากใจ อยากให้ลูกเล่นก็อยาก แต่ก็ไม่อยากทำให้ภรรยาเป็นกังวล
“ไหนคุณพ่อบอกว่าวันนี้จะตามใจหนูณิทุกอย่างไงคะ”
“เอ่อ...” วินทร์หันไปมองภรรยาอีกครั้งด้วยแววตาอ้อนวอน ขอลุแก่โทษที่พลั้งปากพูดออกไปว่าจะตามใจลูก และเมื่อถูกคนตัวเล็กทวงสัญญาเช่นนี้แล้ว คนเป็นพ่อที่รักษาสัจจะกับลูกมาตลอดอย่างเขาก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจาก... “ไปค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อพาไปเล่น”
“เย่! คุณพ่อน่ารัก หนูณิรักคุณพ่อที่สุดในโลกเลย” ณิศรายิ้มกว้างพร้อมกระโดดโลดเต้นขึ้นอย่างดีใจ อีกทั้งยังบอกรักพ่อเสียงดังลั่น วินทร์กางแขนกว้างรับลูกเข้ามากอดแล้วหอมแก้มซ้ายขวา ใจฟูคับอก เพียงแค่นี้เขาก็คิดว่าคุ้มที่สุดแล้ว
จากนั้นสองพ่อลูกก็จูงมือกันไปต่อคิว ส่วนณิชากับลูกชายเข้าไปนั่งรอในร่มที่ทางสวนสนุกจัดไว้ให้ ถึงแม้จะมีความกังวลอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่ลืมยกสมาร์ตโฟนขึ้นมาบันทึกภาพสองพ่อลูกที่นั่งข้างกันอยู่บนเครื่องเล่น พร้อมชูสองนิ้วให้กล้องหลังจากที่ตรวจเช็กความเรียบร้อยของระบบเซฟตีเรียบร้อยแล้ว
“แม่ อยากเล่นคับ” เด็กชายพัทธดลย์มองพ่อกับพี่สาวตาละห้อย ณิชารู้สึกเห็นใจ แต่ลูกชายเธอยังเด็กเกินไปสำหรับเครื่องเล่นชนิดนี้จริง ๆ ถึงแม้เธอจะอนุญาตให้เล่น แต่ทางสวนสนุกก็ไม่อนุญาตอยู่ดี เพราะส่วนสูงยังไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
“เอาไว้น้องดลย์ค่อยเล่นอย่างอื่นแทนนะครับ ข้างในยังมีอีกเยอะแยะเลย” เธอบอกเสียงอ่อนโยนแล้วก้มลงจูบศีรษะเล็กอย่างปลอบใจ ก่อนจะชี้ชวนให้เด็กชายมองไปยังคุณพ่อกับพี่สาวที่เริ่มส่งเสียงร้องเมื่อเครื่องเล่นหวี่ยงตัวให้เกิดความรู้สึกหวาดเสียว
กระทั่งหมดรอบ เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้ผู้เล่นลงมาทีละแถว สองพ่อลูกก็เดินจูงมือกันเข้ามาหาผู้เป็นแม่ที่นั่งรออยู่
“เป็นยังไงบ้างคะ” ณิชาเอ่ยถามเมื่อเห็นหน้าซีด ๆ ของทั้งสองคน
“พี่ขอน้ำหน่อย” วินทร์นั่งลงเก้าอี้ข้าง ๆ แล้วอุ้มณิศราขึ้นมานั่งบนตัก หันไปรับขวดน้ำมาจากภรรยา เปิดแล้วยื่นให้ลูกสาวได้ดื่มแก้กระหาย “มียาดมไหม พี่ขอหน่อย”
“มันหนักขนาดนั้นเลยเหรอคะ” ณิชาถามกลั้วหัวเราะพร้อมคว้านหายาดมที่เตรียมมาในกระเป๋ายื่นให้สามี
“หัวใจจะวาย ยิ่งตอนที่มันคว่ำแล้วมีจังหวะนิ่งค้างอยู่บนนั้น ใจพี่แทบหยุดเต้น” ชายหนุ่มเล่าวินาทีระทึกให้ภรรยาฟัง ตอนนั้นห่วงลูกก็ห่วง แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่หันไปมองเป็นระยะ ๆ
“ชาบอกแล้วว่าอย่าเล่น ก็ไม่พากันฟังสักคน” คนเป็นแม่บ่นยิ้ม ๆ ทั้งขำทั้งสงสาร ก่อนจะเล่นเธอก็บอกแล้วว่ามันน่าหวาดเสียวแค่ไหน แต่สองพ่อลูกก็ไม่ยอมฟังเธอเลย “หนูณิล่ะคะ เป็นไงบ้างลูก กลัวไหมคะ”
“กลัวค่ะ” ใบหน้าซีดเซียวพยักลงช้า ๆ หัวใจสั่นระรัวด้วยยังไม่หายกลัวกับเครื่องเล่นอันหวาดเสียว ก่อนจะเล่าความรู้สึกให้ผู้เป็นแม่ฟัง “ตอนที่มันพลิกแล้วมีจังหวะค้างไว้นิดนึง หนูณิกลัวมากเลยค่ะ กรี๊ดออกมาสุดเสียงจนคอแทบแตก เกือบร้องไห้ รู้สึกเหมือนตัวเองจะร่วงลงมา”
“แล้วตอนนี้หายกลัวหรือยังคะ” วินทร์ก้มลงมาถามพลางลูบแผ่นหลังเล็กของลูกอย่างปลอบประโลมให้แกหายกลัว
“รู้ดีขึ้นมานิดนึงแล้วค่ะ”
“จะเล่นอย่างอื่นไหวไหมเนี่ย” ณิชาถามกลั้วหัวเราะ รับขวดน้ำจากลูกมาปิดฝาแล้วเก็บใส่กระเป๋า
“ไหวค่ะ หนูณิยังไม่ได้เล่นไวกิ้งส์เลยนะคะ”
“หืม...หนูจะไหวเหรอลูก ไวกิ้งส์มันก็น่ากลัวพอ ๆ กับไอ้เจ้าเฮอริเคนนี่เลยนะ” คนเป็นแม่ท้วง ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะพูดขึ้นมาอีกคน
“นั่นสิ หนูไม่กลัวแล้วเหรอคะ พ่อว่าเราไปเล่นอย่างอื่นที่น้องเล่นกับเราได้ด้วยดีกว่าไหมคะ”
“กลัวค่ะ แต่ก็อยากเล่น” ณิศราตอบด้วยใจสั่น ๆ อยากเล่นก็อยาก กลัวก็กลัว แล้วเมื่อกี้มันไม่ได้มีแค่ความกลัวเพียงอย่างเดียว แต่มันยังมีความสนุกปะปนอยู่ด้วย “คุณพ่อเล่นกับหนูณินะคะ”
เพราะถ้ามีบิดาอยู่ข้าง ๆ อย่างน้อยเธอก็รู้สึกอุ่นใจมากกว่า
นั่งต่ออีกสักพักทั้งสี่คนก็พากันเดินไปยังจุดต่อ ๆ ไป ไล่เก็บเครื่องเล่นภายในสวนสนุกเกือบครบทุกชนิด ณิชารู้สึกทึ่งในตัวลูกสาวของตนเองอยู่ไม่น้อย ไม่คิดว่าแกจะใจเด็ดและใจสู้ขนาดนี้ สมกับที่แกตั้งหน้าตั้งตารอให้วันนี้มาถึงไว ๆ เมื่อพอถึงวัน แกก็ตื่นตั้งแต่เช้า ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวโดยที่เธอไม่ต้องเข้าไปปลุก
“หมดฤทธิ์ทั้งสองคนเลย” วินทร์ที่เพิ่งขับรถเข้ามาจอดสนิทในรั้วบ้านเอ่ยขึ้น เมื่อหันไปมองเบาะหลังแล้วเห็นแก้วตาดวงใจทั้งสองคนนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวหลังจากเล่นสนุกมาทั้งวัน
“หนูณิสู้มากเลยค่ะ สมกับที่แกอยากไป” ณิชามองตามผู้เป็นสามีแล้วยิ้มให้กับภาพที่เห็น พัทธดลย์หลับอยู่บนคาร์ซีต ถึงแม้เด็กชายจะไม่ได้เล่นเครื่องเล่นที่โลดโผนเหมือนพี่สาว แต่เมื่อถึงเครื่องเล่นที่สามารถเล่นได้ หนุ่มน้อยก็สู้ไม่ถอย สนุกไปกับพ่อและพี่อย่างเต็มที่ “รีบปลุกลูก แล้วเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ”
วินทร์พยักหน้าเห็นด้วย เขาดับรถแล้วเปิดประตูลงไปปลุกณิศราที่หลับอยู่ตอนหลังของรถ พร้อมกับณิชาที่ลงไปปลุกเด็กชายเหมือนกัน
ณิศรายอมตื่นและเดินเข้าบ้านกับผู้เป็นพ่อแต่โดยดี แต่เด็กชายพัทธดลย์มีอาการงอแงเล็กน้อยเมื่อถูกมารดาปลุกทั้งที่กำลังหลับสบาย
“อาบน้ำก่อนครับ แล้วค่อยนอนต่อเนอะ” ณิชาพยายามพูดปลอบลูกชายที่เบะปากจะร้องไห้
“ไม่อาบ” หนุ่มน้อยส่ายหน้าไม่ยอม
“วันนี้น้องดลย์เล่นมาทั้งวัน เหงื่อออกเต็มเลย ต้องอาบน้ำก่อนครับ”
“ไม่เหม็น ไม่อาบ”
“ต้องอาบครับ พ่อก็จะอาบเหมือนกัน เหงื่อออก เหม็น” วินทร์พี่เพิ่งเข้ามาในห้องหลังจากเดินไปส่งลูกสาวที่ห้องอีกฝั่งเอ่ยโน้มน้าวลูกชายที่กำลังงอแง ชายหนุ่มยกแขนตัวเองขึ้นมาดมแล้วแสร้งทำสีหน้าเหยเกคล้ายว่าเหม็นเต็มที “อี๋ เหม็นมากเลย พ่อว่าเราไปอาบน้ำพร้อมกันดีกว่า จะได้ตัวหอม ๆ มานอนกอดกัน”
พูดจบชายหนุ่มก็ย่อตัวอุ้มหนุ่มน้อยขึ้น หันไปบอกภรรยาว่าทางนี้เดี๋ยวเขาจัดการให้ และให้เธอไปทำธุระในส่วนของตัวเองได้เลย
ใช้เวลาไม่นานวินทร์กับเด็กชายพัทธดลย์ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบพาลูกขึ้นไปนอนบนเตียงทันที เนื่องจากตอนนี้หนุ่มน้อยของเขาไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่แล้ว
“หนูณิหลับหรือยัง” วินทร์เอ่ยถามเมื่อเห็นภรรยาซึ่งอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง เขาคิดว่าเธอคงไปดูเด็กหญิงณิศราที่นอนแยกห้องกับผู้เป็นพ่อเป็นแม่มาได้สักพักแล้ว
“กำลังจะนอนแล้วค่ะ ชาปิดไฟในห้องให้แล้ว” หญิงสาวตอบพลางสืบเท้าเดินเข้าไปหาสามีกับลูกชายที่กำลังนอนดูดนมจากขวดพร้อมกับตาที่เริ่มปรือลงเรื่อย ๆ ก่อนจะหลับไปในที่สุด
วินทร์ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ลูกจนถึงอก แล้วค่อย ๆ ดึงขวดนมเปล่าออกมาวางไว้ข้างเตียง จากนั้นก็ก้มลงจูบศีรษะเล็กของลูก “ฝันดีครับคนเก่งของพ่อ”
“ชาปิดไฟเลยนะคะ” ณิชาเอ่ยถามเมื่อคิดว่าวันนี้คงไม่มีอะไรต้องทำอีกแล้ว ด้วยเหนื่อยกันมาทั้งวัน ถึงเวลาที่ต้องพักผ่อนเสียที
“เดี๋ยวสิ วันนี้จะงดเหรอ”
“คะ ?” หญิงสาวย่นคิ้ว มองหน้าสามีอย่างไม่เข้าใจ อันที่จริงเธอเข้าใจว่าคำว่า ‘งด’ ของเขานั้นหมายถึงอะไร หากแต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้เขาไม่คิดจะงด ? “พี่วินทร์ไม่เหนื่อยเหรอคะ”
“พี่ไหว” เขายืนยันพร้อมมองหน้าเธอด้วยแววตาจริงจัง ครั้นเห็นว่าภรรยาเริ่มคิ้วขมวดมากขึ้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจนกลายเป็นออดอ้อน เพื่อให้เธอตามใจเขาในคืนนี้ “นะครับ วันนี้พี่ขอแค่รอบเดียว เดี๋ยวจะรีบ ๆ ทำเลย”
“เหนื่อยมาทั้งวัน ยังจะมีแรงอีกเนอะ” หญิงสาวเอ่ยประชดประชัน
“เรื่องแบบนี้พี่ไม่ต้องใช้แรงมากหรอก ส่วนมากพี่ใช้ใจทำมากกว่า” เขาว่าพลางยิ้มใส่ตาเธอหวานหยด ก่อนจะลุกเดินเข้าไปจุ๊บแก้มนวลเบา ๆ แล้วคว้ามือเธอให้เดินตามออกไปอีกห้อง “รีบไปกันดีกว่า จะได้รีบกลับมานอน”
“แค่รอบเดียวจริง ๆ นะคะ” เธอย้ำกับเขาเมื่อเข้ามาในห้องนอนเล็กซึ่งอยู่อีกฝั่งของบ้าน ยังไม่มีใครจับจองเป็นเจ้าของ หลังจากลูกหลับเขาจึงมักพาเธอเข้ามาใช้ห้องนี้บ่อย ๆ
“ครับ แค่รอบเดียวจริง ๆ” วินทร์ตอบรับอย่างว่าง่าย ดันหลังเธอชิดกับประตู สอดมือเข้าไปในชุดนอนผ้านิ่มอันบางเบาของเธอ เคล้นคลึงเต้าอวบทั้งสองข้างด้วยแรงที่ไม่ค่อยเบานัก ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มที่แหงนรับอย่างรู้งาน
“อื้อ...พี่วินทร์”
ชายหนุ่มปลดเสื้อผ้าของภรรยาสาวลงบนพื้นอย่างไม่สนใจไยดี วาดแขนแกร่งโอบประคองร่างบอบบางเดินไปที่เตียงทั้งที่ปากยังดอมดม จูบ ขบเม้มตามกายสาวไม่ยอมห่างออกไปแม้แต่วินาทีเดียว คล้ายว่าทุกวินาทีที่กำลังใช้ร่วมกันนั้นล้วนมีค่ามหาศาล
เมื่อแผ่นหลังบางแนบลงกับที่นอน เขาจึงสละเวลาผละออกมาจัดการเสื้อผ้าตัวเองออกไปอย่างรีบร้อน ก่อนจะรีบโน้มกายลงไปคร่อมทับเรือนร่างอันแสนเย้ายวนของคนรัก
“อื้อ! เบา ๆ ค่ะ” ณิชาท้วงขึ้นขณะที่เขาพยายามแทรกกายเข้ามา
“เจ็บเหรอ” เขาถามเสียงกระเส่า
เธอส่ายหน้าแล้วบอกอย่างอาย ๆ “ปะ...เปล่าค่ะ แต่มันเสียว”
“ก็ดีแล้วนี่” ชายหนุ่มยิ้ม ก่อนจะฉกจูบเร็ว ๆ ที่ริมฝีปากอิ่ม เลื่อนมือที่ลูบไล้ผิวเนียนนุ่มขึ้นมาขยำทรวงอกอวบสลับกับใช้นิ้วสะกิดยอดถันเบา ๆ ทำให้คนที่นอนอยู่ใต้ร่างยิ่งรู้สึกเสียวซ่านมากขึ้นไปอีก
ณิชามองเรือนร่างหนั่นแน่นของสามีที่ขยับเคลื่อนไหวบนตัวเธอด้วยความหลงใหล เผลอยื่นมือออกไปลูบตามแผงอก ค่อย ๆ ลากลงมาบริเวณหน้าท้องซึ่งอุดมไปด้วยมัดกล้าม ก่อนที่เธอจะต้องออกแรงดันเมื่อรู้สึกว่าเขาเริ่มโหมกายแรงขึ้น
“อะ...อื้อ พี่วินทร์ ใกล้แล้วเหรอคะ” เธอถามเพราะเขาดุดันมากกว่าช่วงแรก ๆ
“ครับ อืม...อีกนิดเดียว พร้อมกันครับ” ชายหนุ่มกัดฟันบอก พลางตรึงสะโพกกลมกลึงเข้าหาตัว จากนั้นก็ตอกตรึงเข้าหาเธอด้วยจังหวะรัวเร็ว เพียงไม่นานเขาก็ปลดปล่อยเข้าไปในตัวเธอทุกหยาดหยด...
ตอนพิเศษ 3หลังจากตั้งครรภ์เด็กชายพัทธดลย์เข้าเดือนที่หก วินทร์ก็ขอให้ณิชาลาออกจากการเป็นผู้ช่วยของสุดโปรด โดยให้เหตุผลว่าอย่างไรก็ต้องลาคลอด อีกทั้งยังต้องเลี้ยงลูกและให้นมลูกเป็นเวลาหลายเดือน ณิชาซึ่งอยากเลี้ยงลูกด้วยตัวเองอยู่แล้วจึงยอมทำตามที่เขาบอกอย่างง่ายดายถึงแม้บริษัทจะมีสวัสดิการให้พนักงานลาคลอดและเลี้ยงดูบุตร แต่ก็ลาได้ไม่เกินหกเดือน ทั้งยังเกรงใจหากต้องลาเป็นเวลานานขนาดนั้น เพราะฉะนั้นการลาออกจึงเป็นทางที่ดีที่สุด และเธอก็จะได้เลี้ยงลูกอย่างสบายใจโดยไม่ต้องพะวักพะวงอะไร“พี่วินทร์”“ครับ” คนถูกเรียกขานรับพร้อมเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่กำลังอ่าน มองไปยังภรรยาคนสวยที่นั่งทำหน้าคล้ายกำลังขบคิดอะไรสักอย่างอยู่บนโซฟากลางห้องทำงานของเขาวันนี้คุณวราพรกับคุณชาญวิทย์มารับเด็กชายพัทธดลย์ไปเล่นที่บ้านตั้งแต่เช้า ส่วนณิศราก็ไปโรงเรียน กลายเป็นว่าณิชาต้องอยู่บ้านคนเดียวเพราะดวงใจลากลับบ้านที่ต่างจังหวัด วินทร์ก็เลยพาเธอมานั่งทำงานที่บริษัทด้วย“ชาอยากทำงานค่ะ”ชายหนุ่มนิ่วหน้า วางปากกาลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ คนที่เพิ่งบอกว่าอยากทำงานเมื่อสักครู่ “ไหน อา
ตอนพิเศษ 2เพราะวันนี้เป็นวันหยุดที่สวนสนุกจึงมีผู้คนค่อนข้างหนาตา ส่วนมากจะจับจูงกันมาเป็นครอบครัวและแก๊งเพื่อน หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรผ่านประตู และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำกันเรียบร้อยแล้ว วินทร์โน้มใบหน้าลงไปไล่สายตาอ่านแผนผังของสวยสนุกแห่งนี้ในมือภรรยา ก่อนจะหันไปถามลูกสาวที่ยืนดูอยู่ด้วยกัน“เราจะเริ่มจากฝั่งไหนก่อนดี”เด็กหญิงณิศราทำสีหน้าขบคิด ด้วยตัดสินใจไม่ได้ ซ้ายก็น่าตื่นเต้น ขวาก็น่าไป และยังไม่ทันได้ตอบอะไร เสียงของน้องชายก็ดังขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น“ขึ้น ดลย์อยากขึ้น ๆ” เด็กชายวัยสองขวบที่พูดได้เป็นประโยคแล้วแต่ยังไม่ชัดเท่าไรเอ่ยขึ้น ดวงตากลมโตขยายขึ้นอย่างตื่นตาตื่นใจ พร้อมชี้นิ้วป้อม ๆ ไปที่กระเช้าลอยฟ้าหรือเคเบิลคาร์ที่เคลื่อนตัวไปช้า ๆ บนสายเคเบิล“เดี๋ยวค่อยเล่น อันนั้นต้องเล่นเป็นอันสุดท้าย” ณิศราผู้ศึกษาสวนสนุกแห่งนี้มาจากช่องยูทูปเอ่ยบอก“ทำไมต้องเอาเล่นเป็นอย่างสุดท้ายคะ” วินทร์ถามถึงเหตุผลของลูกสาว“ก็เล่นทุกอย่างมาเหนื่อย ๆ แล้วค่อยขึ้นไปชมวิวบนนั้นไงคะ วิวสวย ๆ จะทำให้เราหายเหนื่อยค่ะ” สาวน้อยพูดตามที่ยูทูปเบอร์คนนั้นเป๊ะ ๆวินทร์พยักหน้าช้า ๆ อย่างเห็น
ตอนพิเศษ 1“คุณพ่อขา...เสร็จหรือยังคะ หนูณิรอนานแล้วนะ!”เสียงใส ๆ ของเด็กหญิงณิศราในวัยสิบขวบตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อที่ยังไม่ลงมาจากชั้นสองเสียงดัง พลางชะโงกหน้าไปส่องที่ช่องบันไดด้วยใบหน้ายับยุ่ง หัวคิ้วทั้งสองข้างขยับเข้าหากันแทบผูกเป็นโบวันนี้เป็นวันหยุดของครอบครัว คุณพ่อบอกว่าจะพาหนูณิกับน้องดลย์น้องชายวัยสองขวบของเธอไปเที่ยวสวนสนุกตอนเก้าโมงเช้า แต่นี่มันสิบโมงกว่าแล้ว คุณพ่อยังไม่ลงมาเลย สาวน้อยจึงเริ่มรู้สึกหงุดหงิด“คุณพ่อทำงานอยู่ลูก ใจเย็น ๆ ยังไงก็ได้ไปค่ะ” ณิชาซึ่งมีร่างป้อมของเด็กชายพัทธดลย์หรือน้องดลย์นั่งอยู่บนตักเอ่ยบอกลูกสาวให้ใจเย็น ๆ ก่อน เรื่องนี้จะโทษวินทร์ก็คงไม่ถูก เพราะเธอรู้ว่าเขาเคลียร์ตัวเองให้ว่างไว้เรียบร้อยแล้ว แต่จู่ ๆ ก็ดันมีงานด่วนเข้ามาเสียอย่างนั้น และเป็นงานที่ไม่มีใครสามารถตัดสินใจแทนได้ วินทร์เลยต้องจำใจใช้เวลาของครอบครัวไปคุยกับคู่ค้าจากฝั่งอเมริกาผ่านวิดิโอคอนเฟอเรนช์“นานเกินไปแล้วค่ะคุณแม่ หนูณิหิวข้าว” เด็กหญิงณิศราเดินทำหน้ายุ่ง ๆ เข้ามาทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ มารดา เหลือบมองน้องชายตัวน้อยที่ปากกำลังดูดนมจากกล่องแต่สายตามองมาที่ตนตาแป๋วแวบหนึ่ง ก
บทส่งท้ายกันตยศมาถึงก่อนเป็นคนแรก ชายหนุ่มยื่นกล่องของขวัญเล็ก ๆ ให้ พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวและสามีของเธอ“ขาดเหลืออะไรบอกนะ ไม่ต้องเกรงใจ” วินทร์บอกพลางยื่นมือตบบ่าหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนหน้านี้เขาอาจจะรู้สึกเคือง ๆ ที่กันตยศใกล้ชิดและสนิทสนมกับภรรยาเขามากเกินไป แต่เมื่อได้รู้ว่าอีกฝ่ายให้ความช่วยเหลือ หยิบยื่นเงินก้อนให้ยืมในยามที่ภรรยาเขาลำบาก เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากในการไปทำงานต่างประเทศ เขาก็เลือกมองข้ามความรู้สึกมากกว่าเพื่อนที่หนุ่มรุ่นน้องคนนี้มีต่อภรรยาของตนไปณิชาเล่าให้ฟังว่าตอนจะไปทำงานที่ฝรั่งเศส เธอมีปัญหาเรื่องเงิน จริงอยู่ว่าบริษัทออกค่าใช้จ่ายเกือบทั้งหมดให้ แต่ก็มีอีกส่วนที่เธอต้องเป็นคนจ่ายเอง ซึ่งมันก็มากพอสมควร ถ้าไม่ได้กันตยศช่วยเหลือในตอนนั้น เธอก็คงแย่“นายไปนั่งรอตรงนั้นก่อนก็ได้ เดี๋ยวเราเดินไปหา” ณิชาชี้ไปยังโต๊ะเล็ก ๆ ที่จัดไว้สำหรับนั่งเล่น กันตยศพยักหน้าแล้วยักคิ้วให้อย่างกวน ๆ ก่อนจะเดินแยกออกไป พร้อมกับสุดโปรดกับเด็กชายปลื้มเดินเข้ามาพอดี“ยินดีด้วยนะครับ” สุดโปรดในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสแล็กส์สีดำอย่างไม่เป็นทางการนักยื่นขวดไวน์
บทส่งท้ายกว่าบทรักอันยาวนานและต่อเนื่องจะจบลงก็เกือบฟ้าสาง วันนี้ณิชาจึงตื่นสายมากกว่าปกติ จะโทษใครไม่ได้เลย นอกคนที่กำลังนั่งเล่นตุ๊กตาเจ้าหญิงอยู่กับเด็กหญิงณิศราในห้องนั่งเล่นอย่างอารมณ์ดี“คุณแม่!” สาวน้อยที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นผู้เป็นแม่พอดีจึงเอ่ยทักเสียงดัง ทำให้พ่อซึ่งกำลังขะมักเขม้นอยู่กับการเปลี่ยนชุดตุ๊กตาเงยขึ้นมามองตาม ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นแม่ของลูกส่งค้อนวงโตให้“เล่นอะไรกันคะ” ณิชาเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาใกล้ ๆ กับสองพ่อลูกที่นั่งอยู่บนพื้นพรม“แต่งตัวให้ผิงอันค่ะ” คนตัวเล็กตอบอย่างกระตือรือร้นพร้อมชูตุ๊กตาเจ้าหญิงผมยาวให้คุณแม่ดู จากนั้นก็วางตัวนั้นลง แล้วหยิบอีกตัวที่คุณพ่อเพิ่งเปลี่ยนชุดให้เสร็จขึ้นมาอวด “ส่วนตัวนี้ชื่อผิงผิง”“ผิงอันกับผิงผิงเหรอคะ”“ใช่ค่ะ”“แล้วนี่หนูกำลังดูอะไรอยู่คะ” คนเป็นแม่ชี้นิ้วมือไปยังไอแพดที่วางข้าง ๆ ซึ่งเปิดหน้าเพจร้านค้าออนไลน์ค้างเอาไว้“กำลังเลือกซื้อชุดใหม่ให้ผิงผิงกับผิงอันค่ะ ชุดพวกนี้ใส่บ่อยแล้ว”“หืม แต่นี่แม่ว่าก็เยอะมากแล้วนะคะ ใส่ครบหมดทุกชุดแล้วเหรอคะ” ณิชาถามด้วยความสงสัย เพราะชุดตุ๊กตาในตะกร้าที่เธอเห็นตอนนี้ก็เยอะมากพอ
เริ่มต้นใหม่เขามองเข้าไปในดวงตากลมโตอย่างลึกซึ้ง ส่งความรู้สึกทั้งหมดที่มีให้เธอได้รับรู้ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าไปหา แนบริมฝีปากเข้ากับเรียวปากอิ่มของเธออย่างนุ่มนวล จากนั้นก็เริ่มขยับอย่างค่อยเป็นค่อยไปเลื่อนมือที่จับคางขึ้นมาประคองใบหน้าสวย เอียงหน้าปรับให้ได้องศาที่เหมาะเจาะ จากนั้นก็เริ่มจูบหนักหน่วงขึ้น มือที่โอบเอวคอดกิ่วเริ่มไม่อยู่เฉย สอดเข้าไปในเสื้อยืดตัวบางที่เธอสวมใส่ ลูบไล้ทั่วแผ่นหลังเนียนอย่างหลงใหล“พี่วินทร์...” ณิชาสะดุ้งขึ้นมานิดหนึ่งเมื่อเต้าอวบทั้งสองข้างได้รับอิสระ เพราะเขาปลดตะขอบราเซียร์เธอ“ไม่ต้องกลัว มันจะดี เชื่อพี่” ชายหนุ่มปลอบเสียงแหบพร่า ตัวเธอสั่นมากจนเขารู้สึกได้ วินทร์ผละออกมาสบตากับหญิงสาวอีกครั้ง ก่อนจะบอกด้วยเสียงหนักแน่น “เชื่อใจพี่นะครับ”ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ณิชาพยักหน้าลงอย่างง่ายดาย อาจจะเป็นเพราะลึก ๆ แล้วเธอเองก็โหยหาสัมผัสที่อ่อนโยนจากเขาเหมือนกัน หรือเพราะอะไรเธอเองก็สุดรู้ รู้เพียงแค่ว่าตอนนี้เธอเลือกแล้วที่จะจับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เธอจึงต้องเชื่อใจเขา และจากนี้ก็ไม่มีอะไรให้เธอต้องกลัวอีกวินทร์ยิ้มกว้าง โน้มเ