Beranda / โรแมนติก / เมียใน(ใบ)สมรส / สานสัมพันธ์วงตระกูล

Share

สานสัมพันธ์วงตระกูล

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-06 00:00:17

.

.

ตระกูลใหญ่เชื้อสายจีนสองตระกูลได้มีการนัดพบพูดคุยกันเรื่องการแต่งงานของทั้งสองตระกูลที่เคยมีคำมั่นสัญญามาตั้งแต่รุ่นก่อนที่ยังมีการดูตัวและจัดงานแต่งผ่านการดูตัว และเพราะสองตระกูลนี้สนิทสนมกันมากเพราะเป็นสหายธุรกิจที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมารุ่นต่อรุ่น จึงมีสัญญาแต่งงานนี้ขึ้นตั้งแต่พวกเขายังเด็ก พอโตขึ้นจึงไม่แปลกที่เขาจะไม่เห็นด้วย

“อาหยกอีว่าไงล่ะ อียอมแต่งงานกับอาชุนไหม”

“ไม่มีปัญหาๆ อาหยกอีเป็นเด็กดี”

ชายชราสองคนพูดคุยกันในบ้านหลังใหญ่พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ โดยมีภรรยาของทั้งสองก็เห็นดีเห็นงามด้วย แต่ที่ดูกังวลคงจะเป็นนายหญิงของตระกูลธนกุลเสียมากกว่า

“มันจะดีหรือคะที่ไม่ปรึกษาลูกก่อน”

“อย่าพูดไปเรื่อยอาเพ่ย ยังไงอาชุนลูกชายอั๊วมันต้องทำตามที่อั๊วสั่งอยู่แล้ว”

“แต่.....”

“เงียบน่า...อย่าทำให้เสียฤกษ์ซี”

ชายชราเจ้าของตระกูลธนกุลเอ่ยขัดศรีภรรยาที่นั่งข้างๆ พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหันไปทางเธอ เพื่อบ่งบอกว่าเขาไม่พอใจในสิ่งที่เธอพูดออกมา

“ว่าแต่...ดูฤกษ์งามยามดีหรือยังอาเฉิง เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี อั๊วอยากอุ้มหลานเร็วๆ สินสอดเท่าไหร่ไม่เกี่ยง ฮ่าๆๆ”

บ้านตระกูลธนกุล

“ไม่แต่ง ยังไงผมก็ไม่แต่ง”

“ลื้ออย่ามาขัดคำสั่งอั๊วนาอาชุน...ถ้าลื้อไม่แต่งก็ไม่ต้องเอาสมบัติของอั๊วสักแดงเดียว ลื้อจะเหลือแค่ตัวเอาไหม?”

“เตี่ย แต่ผมไม่ได้รักต้นหยก หน้าก็ไม่เคยเห็นไม่รู้เป็นยังไง เห็นแค่ตอนเด็กๆ ก็นานจนจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ อีกอย่างผมก็มีคนที่ผมรักอยู่แล้วนะเตี่ย”

“ถ้าแกหมายถึงอาฟางล่ะก็ อั๊วไม่ให้แต่ง! ดูก็รู้ว่าเป็นผู้หญิงหน้าเงิน”

“เส้นฟางไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกเตี่ย เธอออกจะเป็นคนดีธรรมดา ไม่เหมือนคุณหนูตระกูลเจริญกุลที่เตี่ยอยากได้เป็นลูกสะใภ้หรอกนะ นั่นดูหน้าเงินกว่าเส้นฟางเสียอีก”

“อาชุน!! ไหนลื้อบอกไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า แล้วลื้อรู้ได้ไง?”

“ก็ที่ยอมแต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลเรา ไม่ใช่ว่าตระกูลเจริญกุลจะล้มละลายหรอ?”

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่สองตระกูลช่วยเหลือเกื้อกูลกันมารุ่นต่อรุ่น เราจะไม่ยื่นมือช่วยได้ยังไง เขาก็เคยช่วยเรา”

“นั่นมันเรื่องอดีตนะเตี่ย”

“ไม่รู้ล่ะ! ลื้อต้องแต่งงานกับอาต้นหยก ไม่งั้นอั๊วจะยกสมบัติทั้งหมดให้อาตงคนเดียว”

ชุนขมวดคิ้วแน่นอย่างหัวเสียแล้วเดินออกไปโดยไม่ตอบอะไร เขารู้ว่าต่อให้เขาเถียงใจขาดยังไงเตี่ยก็คงไม่ยอมแน่ๆ ชุนยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อต่อสายหาลูกน้องของเขาทันที

“ไอ้ลูกคนนี้นี่! แย่จริงๆ”

“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ....”

“เพราะลื้อตามใจลูกจนเสียคน”

ชายชราหันไปโทษศรีภรรยาด้วยความหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ ก่อนจะยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มเพื่อหวังว่าจะคลายอารมณ์โทสะลงได้บ้าง โดยที่ภรรยาของเขาได้แต่นิ่งเงียบ

“ไปสืบเรื่องของต้นหยก ลูกสาวคนเดียวของตระกูลเจริญกุลมาให้กู”

พูดจบก็วางสายทันทีอย่างหงุดหงิดก่อนจะขึ้นรถบีเอ็มคันหรูแล้วขับออกจากบ้านไปยังบริษัทของตระกูลหวังจะไปปรึกษาพี่ชายของตนเรื่องที่พึ่งคุยกับเตี่ยเมื่อครู่ ชุน คือลูกชายคนเล็กของตระกูลธนกุลที่มีบริษัทใหญ่โตด้านการค้าอัญมณีมากมายในประเทศ เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงพอสมควรแถมยังเป็นผู้ค้าอัญมณีอันดับหนึ่งทั้งในและต่างประเทศ

ส่วนตงเป็นพี่ชายคนโตที่แต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว ผลของลอตเตอรี่รางวัลใหญ่จึงมาตกที่เขาแทน เพราะเขายังไม่แต่งงานสักที ความจริงชุนได้ขอเส้นฟางแต่งงานหลายครั้ง แต่เธอก็ยังบอกว่าไม่พร้อมขอใช้ชีวิตต่ออีกหน่อย เพราะการแต่งเข้าเป็นสะใภ้จีนนั้นไม่ง่าย มันต้องเสียอิสระไปหลายอย่างและข้อกำหนดหลายอย่าง ยิ่งเป็นบ้านของตระกูลธนกุลแล้วยิ่งต้องทำตามกฎ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นฟางยังไม่อยากแต่งงานกับเขา

ชุนขับรถไปพลางคิดอะไรไปเรื่อยจนไม่ได้สังเกตรถคันข้างหน้าที่กำลังตีไฟเลี้ยว จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น นั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มหัวเสียไปกว่าเดิม

“แม่งเอ้ย! วันนี้วันอะไรของกูวะเนี่ย”

ชายหนุ่มทุบพวงมาลัยอย่างหงุดหงิดก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปเพื่อไปดูหน้าของคนที่เลี้ยวไม่ดูรถ หญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าทับในกางเกงสแลกเอวสูงสีครีมพอดีทรง เดินลงมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ใบหน้าสวยเรียบจิ้มลิ้มหมดจดจนชายหนุ่มเองก็อดไม่ได้ที่จะมองค้าง แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาชื่นชมความสวยของหญิงสาว

“คุณขับรถยังไงของคุณเนี่ย”

“ฉันเปิดไฟเลี้ยวแล้วนะคะ คุณไม่ได้ดูทางหรอคะ”

“เปิดไฟเลี้ยวแล้วยังไง ก็เลี้ยวเลยหรอ? อย่างนี้รถคันข้างหลังก็แย่สิคุณ”

“ฉันเปิดตั้งนานแล้วนะคะ คุณน่าจะชะลอหน่อย”

“คุณจะบอกว่าผมผิด ขับรถไม่ดูทางว่างั้น”

“เปล่านะคะ....เอาเถอะค่ะ ช่างเถอะ...นี่นามบัตรฉันคุณโทรหาประกันแล้วติดต่อมาแล้วกันนะคะ พอดีฉันรีบ”

“ฮะ?”

ไม่ทันที่ชุนจะได้หายสงสัยเขาก็รับนามบัตรมาแบบงงๆ ก่อนที่หญิงสาวจะรีบเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที ทั้งให้ชุนมองตามหลังอย่างหัวเสีย และที่น่าแปลกใจคือไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รู้จักหรือเมินเขาแบบนี้ ด้วยใบหน้าที่หล่อเกินดาราและรวยมหาศาล แถมยังเป็นมาเฟียที่ใครๆ ก็ไม่กล้ายุ่ง ยกเว้นผู้หญิงที่วิ่งเข้าหาเขา แต่เขาเองก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้อะไร ถ้ามีคนรักอยู่แล้วเขาก็ไม่มองหญิงอื่น แต่เธอที่ขับรถจากเขาไปทำให้เขาแปลกใจไม่น้อยที่เธอไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ

ชุนก้มลงมองนามบัตรที่หญิงสาวนิรนามยื่นให้ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อชื่อบนนามบัตรนั้นช่างคุ้นเสียเหลือเกิน แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก แต่ก็มาสะดุดที่นามสกุลของหญิงสาวแทนจึงรู้ได้ในทันที ชุนยกยิ้มขึ้นพร้อมด้วยแววตาร้ายกาจ

“ภูษิตา...เจริญกุล...หึ...ต้นหยกสินะ”

ชุนชูนามบัตรขึ้นมาก่อนจะถือนามบัตรนั้นขึ้นรถไปและขับตรงไปยังบริษัทอย่างที่ตั้งใจไว้ พลางคิดว่าแค่เจอกันครั้งแรกก็มีเรื่องแล้ว ถ้าแต่งงานกันไปคงมีเรื่องไม่เว้นวันแน่ๆ ถึงเขาจะต้องแต่งงานกับเธอเขาก็ไม่คิดว่าจะให้มันราบรื่นแต่โดยดีแน่นอน ชุนคิดแผนการไว้ในหัวอย่างเงียบๆ

“เราต้องได้เจอกันอีกนาน...ต้นหยก ฉันจะทำให้เธอคิดผิดที่ยอมแต่งงานครั้งนี้”

อีกด้านหนึ่ง

หลังจากที่ต้นหยกขับรถออกมาเธอก็แอบยิ้มอยู่คนเดียว ที่รีบออกมาเป็นเพราะเขินที่จะมองหน้าชายหนุ่มที่เธอรู้จักและจำได้ดี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะจำเธอไม่ได้เสียแล้ว แม้ว่าเวลามันผ่านมานานมากแล้วแต่เธอไม่เคยลืมคนที่เป็นรักแรกของตัวเอง เธอไม่เคยคิดจะคบใครหรือมองผู้ชายคนไหนทั้งนั้น

เธอตั้งใจเติบโตมาอย่างดีเป็นผู้หญิงที่เก่งและเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อรอวันหนึ่งจะได้เป็นเจ้าสาวของเขา ไม่ว่ายังไงเธอยังคงยึดมั่นคำพูดของอากงสมัยที่เธอยังเด็ก และเขาเองในตอนนั้นก็ตอบตกลงและให้คำสัญญาว่าจะสร้างครอบครัวกับเธอ เพียงแค่คนเดียว แม้จะเป็นคำพูดตอนเด็กแต่เธอก็ยังเชื่ออย่างนั้น

“เฮียชุนอาจจะจำไม่ได้ล่ะมั้ง...ช่างเถอะ เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว”

ต้นหยกยิ้มออกมาจนแก้มปริอย่างเขินๆ พอนึกถึงใบหน้าของเขาที่พึ่งเจอกันเมื่อครู่ก็ทำเธอแทบใจละลาย พลางคิดว่าคนอะไรพอโตแล้วหล่อจนใจเหลวไปหมด ถึงจะดูเอาแต่ใจไปหน่อย แต่อาจจะเป็นเพราะเขาจำเธอไม่ได้ถึงได้ทำท่าทางแบบนั้น หญิงสาวเลี้ยวรถเข้าบ้านหลังใหญ่ที่ห่างหายไปนานก่อนจะจอดรถไว้ที่โรงจอดรถ

เธอเดินลงจากรถมาก็หยุดยืนมองบ้านที่เธออยู่มาตั้งแต่เด็กอีกครั้ง แต่เพราะต้องไปเรียนต่อที่ประเทศจีนจึงไม่ได้กลับบ้านมานานมากแล้ว พอผู้เป็นพ่อโทรหาเธอพูดเรื่องแต่งงานเธอจึงรีบรุดกลับไทยทันที พึ่งถึงไทยได้แค่วันเดียววันถัดมาก็เจอเขาเลยซะอย่างนั้น เธอนึกขอบคุณผู้เป็นแม่ที่วานเธอไปซื้อของเพื่อที่จะทำกับข้าวเย็นนี้เพื่อต้อนรับตระกูลธนกุลที่จะมาร่วมทานอาหารเย็น

ต้นหยกหอบหิ้วข้าวของวัตถุดิบที่ซื้อมาเตรียมจะเข้าบ้านและโชว์ฝีมือทำอาหาร แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกของใครคนหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองทางต้นเสียง

“ต้นหยก! หอบอะไรเยอะแยะเนี่ย”

“เฮียตง พี่หญิงใหญ่ มาเร็วไปไหมคะเนี่ย พึ่งจะบ่ายสามเอง”

“เรียกพี่ซินสิ จะได้ชิน”

“มา พี่ช่วยถือ”

“ขอบคุณค่ะเฮียตง”

หญิงสาวร่างเพรียวบางที่ยืนอยู่ข้างๆ เฮียตงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เฮียตงจะคว้าข้าวของที่ต้นหยกถือพะรุงพะรังมาถือแทน แม่ของต้นหยกได้ยินเสียงจากหน้าบ้านจึงเดินออกมาก่อนจะยิ้มต้อนรับผู้มาเยือน

“สวัสดีครับม๊า”

“สวัสดีค่ะม๊า”

“สวัสดีๆ มากันแล้วหรอลูก ทำไมมาไวจัง”

“พอดีผมเคลียร์งานเสร็จเร็วน่ะครับ ก็คิดว่ามาเลยดีกว่าเผื่อจะมีอะไรให้ช่วยบ้าง”

“โอ๊ย ไม่ต้องหรอกอาตง แค่อาหยกคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว เห็นอย่างนี้อาหยกทำกับข้าวเก่งนา”

“งั้นเดี๋ยวหนูเข้าไปช่วยต้นหยกด้วยค่ะ”

“ดีๆ ช่วยๆ กันจะได้เสร็จไวๆ มาลูกมา”

ผู้เป็นแม่เดินนำเข้าไปในครัวก่อนโดยที่มีซินเดินตามไป ต้นหยกหันไปทางเฮียตงด้วยรอยยิ้มแป้น แล้วพูดขึ้นอย่างนอบน้อมจนเฮียตงถึงกับอดแซวไม่ได้

“เฮียตงนั่งรอที่ห้องรับแขกก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวหยกเอาน้ำมาให้”

“ขอบใจนะ...ใจดีสมกับป็นน้องสะใภ้เฮียเลย”

“เฮียตงก็อย่าแซวน้องสิคะ”

ต้นหยกยิ้มอย่างเขินๆ เมื่อได้ยินพี่ชายของว่าที่สามีพูดชมกันซึ่งๆ หน้า ก่อนจะรีบเดินเข้าครัวไปเพื่อตะเตรียมน้ำไปเสิร์ฟแขกที่มาเยือน แล้วกลับเข้าไปช่วยแม่และซินทำอาหาร ทั้งสามคนทำอาหารอย่างสนิทสนมเพราะซินเองก็เป็นพี่สาวที่เคยเล่นกับเธอตอนเด็กๆ แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าซินและเฮียตงไปรักกันตอนไหนถึงได้แต่งงานกัน จึงเลือกที่จะถามขึ้นให้หายสงสัย

“ว่าแต่พี่ซินกับเฮียตงรักกันตอนไหนหรอคะ?”

“ตายแล้ว อาหยกทำไมถึงถามเรื่องส่วนตัวคนอื่นแบบนั้นล่ะลูก”

“ไม่เป็นไรค่ะม๊า ต้นหยกไม่ได้อยู่ไทยหลายปีอาจจะตกข่าว”

ซินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มไม่ได้รู้สึกอึดอัดใดๆ กับคำถามของต้นหยกเพราะเธอก็มองว่าต้นหยกเป็นเหมือนน้องสาวคนหนึ่งที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่ซินจะเล่าเรื่องราวให้ต้นหยกฟังอย่างที่เธออยากรู้

“ตอนแรกพี่ก็ย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างจังหวัดเพราะตรงสายที่ต้องการเรียน พอเรียนจบกลับมาก็บังเอิญเจอเฮียตง เพราะไม่ได้เจอกันนานมันเลยรู้สึกแปลกไปน่ะ แล้วเฮียตงมาสารภาพรักกับพี่ เราเลยลองคบกันดูใจกันจนตอนนี้เนี่ยแหละ”

“โห...โรแมนติกจัง กลับมาเจอกันอีกครั้งก็คบกันจนแต่งงานเลย”

ต้นหยกพูดด้วยสายตาเป็นประกาย ซินมองแววตาของต้นหยกออกก็อดหัวเราะเพราะความเอ็นดูไม่ได้ ซินรู้ได้ทันทีว่าต้นหยกเองก็หวังที่จะเป็นแบบเธอและเฮียตง แถมยังรู้ชัดอีกด้วยว่าทำไมต้นหยกถึงยอมแต่งงานกับชุน ไม่นานเกินรออาหารก็เสร็จไปทีละอย่างรวมๆ แล้วแทบจะเต็มโต๊ะ เฮียตงที่นั่งอยู่เฉยๆ ก็ได้ลุกขึ้นมาช่วยยกอาหารออกมาวางไว้ที่โต๊ะด้วยอีกแรง

“อ้อ...ต้นหยก เมื่อกี้ชุนโทรมา”

“คะ? อ๋อค่ะ”

“มันไปหาพี่ที่บริษัทแล้วไม่เจอ มันเลยกกำลังจะมาที่นี่”

“ค่ะ...”

“มันบอกว่าเจอต้นหยกแล้วเมื่อตอนบ่ายสาม”

“......”

เฮียตงโน้มหน้ามองต้นหยกที่ไม่กล้าสบตาเขาและเอาแต่ก้มหน้างุดเพื่อซ่อนแก้มที่แดงเรื่อของตน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเฮียตงอยู่ดี ชายหนุ่มเมื่อเห็นท่าทีของต้นหยกเพราะรู้ว่าเธอคงจะตื่นเต้นน่าดู เฮียตงยกมือขึ้นลูบศีรษะของเธอเบาๆ

“แต่ว่านะ...ชุนมันต่างจากเมื่อก่อนนิดหน่อย...ไม่สิ...ต่างจากเมื่อก่อนมาก ถ้ามันเผลอทำอะไรไม่ดีไม่ถูกใจเฮียก็ขอโทษแทนมันด้วย และอย่าโกรธมันเลยนะ”

“ไม่หรอกค่ะ เฮียชุนก็โตแล้วอาจจะเปลี่ยนไปบ้างตามกาลเวลา”

เฮียตงได้มองว่าที่น้องสะใภ้อย่างเอ็นดู สายตาของเขาฉายแววเป็นห่วงไม่น้อย เพราะเขารู้จักน้องชายของเขาดีว่าแตกต่างจากเมื่อก่อนมากมายแค่ไหน ห่วงก็แต่หญิงสาวตรงหน้าที่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับชุนในปัจจุบันเลยแม้แต่น้อย ต้นหยกยังคงยิ้มรับก่อนจะหันกลับเข้าไปในครัว ทิ้งให้เฮียตงมองตามอย่างเป็นห่วง

“ชุนเอ๊ยชุน รู้ไหมเนี่ยว่ามีคนซื่อสัตย์กับแกนานเป็นปีๆ ขออย่าให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย แกก็ยิ่งนิสัยเสียอยู่”

.

.

.

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เฮียตงเป็นพี่ชายที่อบอุ่นมากเลย ว่าแล้วทำไมถึงได้มัดใจพี่ซินอยู่
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • เมียใน(ใบ)สมรส   ตลอดไปมีจริง [END]

    ..เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด!!!“อ๊า อ๊า อื้อ”สะโพกพลิ้วสวนกระแทกหนักหน่วงและรุนแรงขึ้นจนเตียงโยกไปมา เสียงครางของเขาและเธอสลับกับเสียงของเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าดตามด้วยเสียงกระทบของเนื้อหน้าขาและบั้นท้ายงอนงาม บทเพลงรักที่ยาวนานจนเกิดเสียงฉ่ำแฉะอยู่กึ่งกลางของทั้งสองร่างที่เชื่อมต่อกันไม่มีหลุด แม้ว่าจะโยกเข้าออกจนสุดก็ไม่อาจจะทำให้ทั้งสองร่างหลุดออกจากกันความเสียวซ่านเริ่มรุนแรงทวีคูณถาโถมเข้ามาหาคนทั้งสอง มือหนาบีบคลึงเต้าตึงไม่พัก ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปจับที่หัวเตียงยึดรั้งตัวไว้ก่อนจะเร่งสะโพกพลิ้วกระแทกเข้าสุดอย่างรุนแรงและถี่ยิบ ต้นหยกกำหมอนไว้แน่นเพื่อระบายความเสียวและจุกช่องท้องไปหมด“อ๊า อ๊า อ๊า...อ๊ะ อ๊ะ!!”“ฮื่มมมม...อา”สะโพกรัวซอยถี่ยิบคิ้วเข้มขมวดชนกันแน่น ยิ่งกระแทกเข้าออกยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านจนตัวเกร็ง ความหนักหน่วงของแรงกระแทกไม่ได้แผ่วลงเลย คนใต้ร่างร้องครางเหมือนใจจะขาด ก่อนที่ทั้งสองร่างจะกระดุกเกร็งปลดปล่อยความเสียวกระสันพ

  • เมียใน(ใบ)สมรส   เจ็บแค่นี้เอง

    ..หลังจากที่ต้นหยกออกไปส่งเฮียตงและซินกลับมา เธอก็เดินมาหาชุนแล้วทำท่าหยิบกระเป๋าของตน ชุนนอนคะแคงเท้าศีรษะอย่างงงๆ ว่าต้นหยกจะไปไหน“จะไปไหนหรอคะ?”“หยกว่าจะไปหาอะไรมาให้ทานน่ะค่ะ แล้วว่าจะกลับเลย”“ได้ไง...ไม่อยู่เฝ้าหรอ?”ชุนพูดพร้อมกับหน้าน่าสงสาร ต้นหยกมองสีหน้าของเขาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ที่ชุนเข้าใจผิด แต่ว่าเธออยากจะแกล้งคนตรงหน้าเสียหน่อย เพราะเธอเองก็โดนเขาแกล้งมาเยอะ เห็นทีจะต้องเอาคืนบ้างแล้ว“เฝ้าทำไมคะ? ก็เห็นบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่บอกหมอให้ทำแผลดูโอเว่อร์เท่านั้น พรุ่งนี้หยกต้องไปทำงานไม่มีเวลามาเยี่ยมนะคะ อาจจะมาเย็น”“สามีเป็นขนาดนี้ไม่อยู่ดูแลหน่อยหรอ...งานน่ะหยกไม่ทำก็ได้นะ เฮียเลี้ยงได้ เฮียดูแลหยกได้”“ดูแลตัวเองไปก่อนนะคะ หายดีค่อยมาดูแลหยกเนอะ”“โธ่..หยก”ชุนเอื้อมมือไปจับแขนเธอเขย่าเบาๆ พร้อมกับทำหน้าออดอ้อนน่าสงสารสุดฤทธิ์ ต้นหยกอดที่จะหัวเราะออ

  • เมียใน(ใบ)สมรส   ไม่ได้โกรธ

    ..“เอ่อ...ยะ...หยก...ใจเย็นๆ ก่อน”ต้นหยกเดินเข้าไปใกล้ชุนพร้อมกับหน้าเขาด้วยสายตานิ่งเรียบ สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเสียใจจนชุนถึงกับหุบยิ้มแทบจะทันที เพราะตอนแรกเธอคิดมากมายว่าจะดูแลยังไงต้องศึกษาอะไรบ้างเพื่อให้เขากลับมาเดิน เธอวางแผนทุกอย่างไว้ในหัว แต่กลับมารู้ความจริงแบบนี้ ชุนจะเอื้อมมือไปจับมือเล็กแต่ต้นหยกกลับหันหลังแล้วเดินไปในทันที“ต้นหยก! โอ๊ยยย!!!”“คนไข้! อย่าพึ่งลุกสิครับ”ชุนรีบลุกขึ้นอย่างลืมตัวก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพร้อมร้องลั่น มือเอื้อมไปจับที่ข้างลำตัว เพราะมันตรึงแผลที่อยู่ด้านหลัง ต้นหยกตอนแรกที่ไม่คิดจะหันกลับพลางคิดว่าเขาคงลองใจเธออีก แต่พอได้ยินเสียงบุรุษพยาบาลเธอก็รีบหันกลับไปมองแล้ววิ่งเข้าไปหาชุนทันที ต้นหยกพยุงเขาลุกขึ้นจากพื้นโดยมีบุรุษพยาบาลช่วยอีกแรงเพี๊ยะ!!“โอ๊ย! หยกตีเฮียทำไมเนี่ย”“อยากดื้อทำไมล่ะคะ คนบ้านี่! ลองใจอะไรก็ไม่รู้...คนเขาเป็นห่วงนะ&rdquo

  • เมียใน(ใบ)สมรส   อันตราย

    ..ต้นหยกและชุนเดินออกมาจากลิฟท์ของบริษัทก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถโดยที่ชุนไม่แม้แต่จะยอมปล่อยมือที่จับมือต้นหยกไว้เลย ต้นหยกเองก็เขินไม่น้อย คำพูดที่เขาบอกรักยังคงก้องอยู่ในหัวเด่นชัด ใครจะไม่ใจอ่อนไหว การกระทำตลอดเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่เขาตามตื้อตามง้อและทำหลายๆ เพื่อเธอโดยไม่บ่นสักคำ แต่...มันจะดีแค่ช่วงแรกรักหรือเปล่านะ ต้นหยกเองก็แอบกังวลเช่นกัน คงต้องดูกันไปอีกยาว นั่นหมายความว่าเธอจะลองให้โอกาสเขาอีกสักครั้งนั่นเอง“ไปหาอะไรกินกันไหมคะ? เพราะเมื่อกี้กินบะหมี่ไปนิดเดียวเองไม่ใช่หรอ?”“ก็เพราะใครล่ะคะ”“เฮียก็หิวเหมือนกันนะคะ”“ไม่เหมือนกันสักหน่อย”ต้นหยกหันไปทำหน้าดุแต่ใบหน้าของเธอกลับแดงเรื่อด้วยความเขิน นึกว่าตัวเองจะตายเสียแล้ว นี่สินะที่เขาบอกว่าอย่าปล่อยให้สามีหิวมากๆ ชุนมองต้นหยกแล้วหัวเราะออกมา อย่างน้อยเธอก็ยอมใจอ่อนแล้วทั้งสองเดินไปพลางหยอกล้อกันโดยไม่ได้สนใจรอบๆ ตัวเลย เหมือนโลกทั้งใบมีแต่พวกเขาจนลืมสังเกตหญิงสาวที่เดินตามหลังพวกเขามาติด

  • เมียใน(ใบ)สมรส   ห้องทำงานของต้นหยก

    ..“เส้นฟาง...เธอมาทำอะไรที่นี่?”“ฟางคิดถึงพี่ชุนมากๆ เลยค่ะ”เส้นฟางเดินเข้าไปกอดชุนแน่น ชุนตกใจเล็กน้อยกับการกระทำของเธอ เพราะตั้งแต่เธอออกจากบ้านไป เส้นฟางไม่เคยติดต่อกลับมาหาเขาเลยสักครั้ง แล้วอยู่ๆ เธอก็โผล่มา คงไม่ใช่เพราะคิดถึงจริงๆ หรอก แต่คงจะเป็นเพราะเงินที่เขาให้ไปก่อนออกจากบ้านหมดแล้วเป็นแน่“คุณเส้นฟาง ปล่อยผม”“ทำไมถึงพูดห่างเหินแบบนั้นล่ะคะ พี่ชุนไม่รักฟางแล้วจริงๆ หรอคะ?”ชุนพูดพร้อมกับพยายามดันตัวของเส้นฟางออกด้วยมือข้างที่เหลืออยู่ แต่เส้นฟางกอดเขาแน่นไม่ยอมเป็นปล่อย จนเขาต้องออกแรงผลักเธออย่างแรงจนเซล้มไปกับพื้น เส้นฟางหันไปมองหน้าชุนพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอ ชุนเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าว่าจะเข้าไปช่วยแต่ก็ชะงัก ถ้าเขาใจดีเธอคงไม่คิดจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่ ชุนจึงตัดสินใจเลือกที่จะเดินผ่านเธอไปอย่างเงียบๆ“พี่ชุน!! ทำไมถึงได้ใจร้ายกับฟางแบบนี้!!”ชุนหยุดชะงักครู่หนึ่งแต่ไม่หันกลั

  • เมียใน(ใบ)สมรส   สารภาพ

    ..หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปอาบน้ำและเข้าห้องนอนของตัวเอง ชุนเอนตัวลงนอนบนโซฟาหลังจากอาบน้ำเสร็จ และแน่นอนว่าโซฟามันไม่ได้นอนสบายอย่างที่คิดเลย แต่เขาก็ต้องอดทนให้ได้ และคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะชินไปเอง ไฟในบ้านถูกปิดจนมิดสนิท ชุนนอนเอาแขนก่ายหน้าผากพลางคิดวิธีง้อต้นหยก ก่อนที่เขาจะหลับตาลงเพื่อพักสายตาเสียหน่อยผ่านไปได้พักหนึ่ง เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาก็ดังขึ้นและเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ชุนที่หลับตาอยู่นิ่งไม่ขยับรอฟังเสียงฝีเท้านั้นอย่างเงียบๆ ไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลงข้างๆ ที่เขานอน ก่อนจะรู้สึกถึงบางอย่างที่สัมผัสร่างกาย ผ้าห่มที่เขาร่นไว้ตรงขาได้เลื่อนขึ้นมาบนตัวเขาจนถึงอก ชุนยกยิ้มก่อนจะคว้าข้อมือเล็กที่จับผ้าห่มอยู่นั้นกระชากลงมาเข้าหาตน“อ๊ะ!!! เฮียชุน!! ยังไม่หลับทำไมต้องแกล้งหลับด้วย”“ถ้าไม่แกล้งหลับจะรู้หรอว่ามีคนจะลักหลับเฮีย”“บ้า! ปล่อยนะคะ!”ชุนยังคงกอดต้นหยกที่เซล้มลงมาบนตัวเขาไว้แน่น ถึงแม้จะมืดแต่เขาจำกลิ่นตัวของเธอได้ดี ต้นหยกดิ้นขลุกขลักอยู

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status