เพราะความรักมันห่วยแตก ทำให้เธอต้องหนีไปพักใจที่ต่างประเทศ และทริปนี้เองที่ทำให้เธอได้มาเจอกับเขา ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน กั๋วซุน “อยากลองไหม” นี่คือคำถามของคนแปลกหน้าที่รู้จักงั้นเหรอ แต่.. “ก็เอาสิ”
View Moreตอนที่ 1
คนแปลกหน้า ณ สนามบินเซี่ยเหมิน เสียงล้อกระเป๋าลากขีดผ่านพื้นกระเบื้อง เยลลี่สวมแว่นดำปิดบังดวงตาบวมเป่งจากการร้องไห้สิบชั่วโมงรวดบนเครื่องบิน เธอเดินเนิบช้าเหมือนคนที่วิญญาณไม่เต็มร่าง มาพร้อมกระเป๋าเดินทางไซซ์ใหญ่ที่ลากตามหลังคล้ายชีวิตที่ไม่เหลืออะไรให้ดึงรั้งอีกต่อไป ‘ผู้หญิงแบบเธอมันก็มีดีแค่เซ็กส์กับหน้าตานั่นแหละ แต่จะให้ไฮโซแบบผมไปเอาผู้หญิงบ้านนอกแบบเธอมาทำเมีย ผมบอกตรง ๆ ว่าผมอายว่ะ’ นี่คือคำพูดสุดท้ายที่หลุดออกมาจากผู้ชายที่เธอคิดมาตลอดว่าเป็นทั้งแฟน คนรัก และว่าที่สามีในอนาคต ทุกอย่างพังทลายในพริบตา ‘เออ! งั้นก็เลิกกันไปเลย’ ‘เยลลี่! เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงมาบอกให้เลิก.. เราไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำจะเลิกได้ยังไง’ ‘ไอ้คนเฮงซวยเอ๊ย!!’ หลังจากเมื่อคืนที่เธอตัดขาดความสัมพันธ์กับไอ้ไฮโซคนนั้น ก็เข้าแอปพลิเคชันจองเที่ยวบินแบบที่ไม่ดูวันเวลาทันที แค่รู้สึกอยากหนีไปให้ไกลที่สุดแบบที่ที่บัตรเครดิตจะเอื้ออำนวย หนีจากชีวิตห่วยแตกที่เธอเสียเวลาไปถึงครึ่งปี! หลังจากที่แท็กซี่พาเธอฝ่าค่ำคืนที่คึกคักของผู้คน แต่สำหรับเธอมันกลับรู้สึกว่างเปล่า จนมาถึงโรงแรมบูติกเล็กๆ ริมถนนสายประวัติศาสตร์ เสียงรถมากมายหายไปทิ้งไว้เพียงแค่ความเงียบและแสงไฟโทนอุ่น หญิงสาวลากกระเป๋าเข้าไปในล็อบบี้ช้า ๆ เสียงล้อกระทบพื้นหินอ่อนดังเป็นระยะ หัวใจเต้นช้าลงทุกขณะพร้อมความรู้สึกที่ว่างเปล่า สองเท้าเดินมาจนถึงล็อบบี้ ในตอนที่กำลังจะหยิบพาสปอร์ตและบุ๊คกิ้งแบบโปรโมชันจากกระเป๋าข้าง พัดลมขนาดใหญ่จากมุมไหนสักมุมได้พัดเบา ๆ ผ่านหลังใบหู และมีเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นด้านหลังเป็นภาษาต่างประเทศ “คุณทำพาสปอร์ตตก” เยลลี่ชะงักแล้วหันไปมองทางต้นเสียง ก็พบว่าเป็นชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีครีม กางเกงสแล็คสีเข้ม ดวงตาเรียวคมใต้คิ้วเข้มเหมือนรูปปั้นแกะสลักแบบจีนยุคศตวรรษที่สิบเก้า เขายื่นสมุดพาสปอร์ตในมือมาให้เธอ พลางเอียงคอเล็กน้อยเหมือนสงสัยว่าเธอจะรับไหม กลิ่นน้ำหอมแนวไม้จางๆ ลอยมากระทบจมูก ทำให้เธอรู้สึกเหมือนลืมหายใจไปชั่วขณะ “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวรับพาสปอร์ตกลับมาด้วยเสียงแหบพร่า เธอไม่ได้มองเขานานนัก แค่ก้มหน้านิด ๆ แล้วรีบเดินผ่านไปราวกับกลัวว่าจะทำเรื่องงี่เง่าอะไรขึ้นมาอีก ‘ไม่ใช่เวลาแล้วเยลลี่.. ถึงเขาจะหล่อขนาดนั้นก็เถอะ’ เธอบอกตัวเองขณะเดินไปยังแผนกต้อนรับ ลงชื่อ เช็กอิน และรับคีย์การ์ดพร้อมหมายเลขห้อง1019 ที่มีชื่อข้างล่างกำกับไว้ว่า: Partner – Guo Xun “ขอโทษนะคะ พาร์ทเนอร์นี่หมายความว่ายังไงเหรอคะ” สารภาพตามตรงว่าในตอนที่เธอกดจองห้องพัก ตอนนั้นเห็นเพียงแค่เป็นโปรโมชั่นพิเศษจึงกดจองเข้ามาโดยไม่ได้อ่านรายละเอียดเลยสักตัว “โปรโมชั่นที่ลูกค้ากดจองเข้ามา เป็นการสุ่มพาร์ทเนอร์ค่ะ”เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ก็พอเข้าใจได้ ก่อนจะมองชื่อบนคีย์การ์ดนั้นอีกครั้ง ‘ชื่อผู้หญิงหรือเปล่านะ.. กั๋วซุน ฟังดูเหมือนชื่อดีไซเนอร์แบรนด์จีนเลย’ เยลลี่พ่นลมหายใจอย่างหมดแรง จะยังไงก็เถอะ อย่างน้อยคืนนี้ก็ได้ทิ้งตัวนอนบนเตียงจริง ๆ ไม่ใช่เบาะเครื่องบินสี่สิบห้านิ้วนั่นแหละนะ เธอลากกระเป๋าขึ้นลิฟต์ กดชั้น 10 พอลิฟต์เปิดออก เสียงล้อลากกระเป๋าก็เริ่มขึ้นอีกครั้งในโถงที่เงียบสนิท สองเท้าเดินผ่านห้อง 1017.. 1018.. จนเมื่อมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง1019 แต่ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือไปแตะคีย์การ์ด ก็มีเสียงล้อกระเป๋าดังมาจากทางซ้าย และเมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตครีมคนเดิม เดินมาหยุดยืนข้างเธอพอดีในมือเขาก็ถือคีย์การ์ดใบหนึ่ง เยลลี่หรี่ตาลงอย่างไม่ไว้ใจ ก่อนจะยื่นคีย์การ์ดของตัวเองให้เขาดูชัด ๆ “ขอโทษค่ะ ห้องนี้ของฉัน” ชายคนนั้นเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ก่อนจะหยิบคีย์การ์ดของตัวเองขึ้นมาชูให้ดูเช่นกัน เขายิ้มมุมปากบาง ๆ และพูดเบา ๆ “ขอโทษครับ ห้องนี้ก็ของผมเช่นกัน” หญิงสาวนิ่งไปสามวินาที ก่อนจะเปิดกระเป๋าสะพายหยิบมือถือออกมาเช็กชื่อพาร์ทเนอร์อีกครั้ง ‘Guo Xun’ ไม่ใช่ชื่อแบรนด์ ไม่ใช่ชื่อผู้หญิงแต่เขาคือผู้ชาย! แถมเป็นไอ้หน้าหล่อหน้าคมที่ช่วยเก็บพาสปอร์ตให้เธอเมื่อครู่อีกด้วย และดูเหมือนว่าคืนนี้เขาจะต้องนอนห้องเดียวกับเธออีกต่างหาก “เวรกรรมอะไรวะเนี่ย” เธอพึมพำเบา ๆ ในลำคอ แต่ดูเหมือนว่าเขาน่าจะได้ยิน ชายที่ชื่อกั๋วซุนยิ้มให้เล็กน้อย “ถ้าคุณไม่โอเค ผมหลับบนโซฟาก็ได้.. ถ้ามีโซฟาอะนะ” เยลลี่ถอนหายใจก่อนจะรูดคีย์การ์ดเสียบประตู ติ๊ด “ก็แค่ผู้ชายคนเดียว.. นายก็จ่ายเงินมาเหมือนกันงั้นก็ช่างมันเถอะ”“ตอนนี้อันดับแรกผมจะต้องให้เธอย้ายออกจากคอนโดนั้นก่อน เพราะที่นั่นตอนนี้ไม่ปลอดภัย และไม่ว่าไอ้บ้านั่นจะมีอิทธิพลแค่ไหนผมจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกเมียต้องอยู่ห่างแน่นอน และถ้ามันจำเป็น.. ผมจะพาเธอไปอยู่ที่จีนด้วยกัน” ไคโรพยักหน้าอย่างคนที่พอใจในคำตอบ และยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะพูดอะไรกันต่อ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เทียนหอมกับเยลลี่เดินเข้าร้านมาพอดี“ไหนว่าจะไปซื้อของให้ลูกเราไงเทียน.. ผมว่าเราไปกันเถอะอย่าอยู่เป็นก้างขวางคอพวกเขาเลยดีไหม” เทียนหอมที่เพิ่งเดิมมาถึงโต๊ะก็กลั้นยิ้มเอาไว้แทบไม่อยู่ก่อนพยักหน้า"งั้นไปก่อนนะ แกก็ไปพักผ่อนดี ๆ ละเยลลี่ อย่าหักโหมอะไรที่ไม่ควรหักโหมนักล่ะ ฉันเป็นห่วงหลาน ฮ่าฮ่า" หลังจากที่พูดจบทั้งสองสามีภรรยานั้นก็พากันเดินออกจากร้านไปแทบจะทันที ทิ้งให้สองคนนั่งเขิน ๆ กันตามลำพัง“งั้น.. นายไปส่งฉันที่คอนโดหน่อยสิ” เยลลี่พูดออกมาเสียงเบา ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาเกาศีรษะตัวเองเล่นแก้เขิน ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้ว่าจะเขินอะไรนั่นแหละ“ครับ” หลังจากนั้นเขาก็พาเธอเดินมาที่รถยนต์ที่จอดหน้าร
ตอนที่ 19 เหลี่ยมทุกดอกแล้วบอกรักนะครับ "งั้นแกไปลองชุดก่อนนะ มาทางนี้ ๆ จะได้ดูว่าพอดีไหม ต้องแก้ตรงไหนบ้าง" เทียนหอมยิ้มหวานและรีบพาเพื่อนเข้าไปในห้องลองชุด ก่อนจะรีบวิ่งมาหยิบชุดแต่งงานนั้นตามเข้าไป ทันทีที่ชุดแต่งงานสีขาวถูกสวมเข้าไปในร่างกายของเพื่อนสนิท ก็ยิ่งทำให้เธอตาโตเป็นประกาย ถึงแม้จะมีการขยับเล็กน้อยตรงช่วงเอวและสะโพก แต่โดยรวมแล้วสรีระของเยลลี่นั้นก็แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพิ่มเลย สัดส่วนมันเป๊ะจนทั้งสองคนยังแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก และในขณะที่เยลลี่ยังอยู่ในห้องลองเสื้อนั้น เทียนหอมก็มีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง "ไอ้ลี่ แกรออยู่นี่แป๊บหนึ่งนะเดี๋ยวฉันมาช่วยถอดชุด" หลังจากที่เธอพูดจบก็รีบเดินออกไปด้านนอก สองเท้าเดินตรงไปที่โซฟาที่มีสองหนุ่มนั่งรออยู่ เธอเดินเข้าไปใกล้สามีของตนเองแล้วกระซิบเสียงเบา “ไคโร.. นายช่วยพาเขาออกไปหน่อยสิ ฉันไม่อยากให้เขาเห็นไอ้ลี่ตอนนี้น่ะ” ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะขมวดคิ้วไม่เข้าใจ แต่ชายไทยทุกคนรู้ดีว่าคำสั่งเมียถือเป็นที่สิ้นสุด เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย "พอดีสาว ๆ ชุดมีปัญ
และคำตอบนั้นก็ทำให้เธอหน้าเหวอ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรอีก หญิงสาวทำได้แค่กระชับเข็มขัดนิรภัยแน่น และสายตาจ้องมองไปด้านหน้าอย่างไม่กะพริบ“งั้น.. นายค่อย ๆ ขับไปนะ ไม่ต้องรีบ” กั๋วซุนหัวเราออกมาลั่นรถ ก่อนจะขับรถต่อเงียบ ๆ จนในที่สุดก็มาถึงร้านได้อย่างปลอดภัยทันทีที่เธอเปิดประตูเข้าไปในร้าน โซนหน้าร้านนั้นมีพนักงานคอยดูแลอยู่ก่อนแล้ว หลังจากทักทายเล็กน้อยก็เดินเข้าไปด้านใน และทันทีที่เปิดประตูเข้ามาด้านในนั้น ดวงตาของเธอก็ต้องลุกวาวชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตาถูกสวมอยู่บนหุ่นเรียบร้อยแล้วชุดที่เธอและเทียนหอมตั้งใจคิดและออกแบบกันมาตลอดสามเดือน ในที่สุดก็ออกมาเป็นรูปร่างที่งามสะดุดตา ชุดเกาะอกที่ปักลายดอกกุหลาบละเอียดประณีต มาพร้อมกระโปรงสุ่มหนาหลายชั้นลากยาวคลุมพื้น พร้อมกับปักดิ้นเงินและเพชรระยิบระยับทั้งชุด มาพร้อมผ้าคลุมผมเข้าชุด มันช่างงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย“ไอ้เทียน.. สวยมาก!!!” เยลลี่พูดออกมาเสียงดังอย่างตื่นเต้น เทียนหอมเดินเข้ามาแล้วยิ้มภูมิใจ“แน่นอนสิ! แบรนด์เราต้องอลังการเท่านั้น!” ทั้งสองเช็กความละเอี
ตอนที่ 18 นางแบบจำเป็น หลังจากที่ทั้งสองเริ่มปรับความเข้าใจ ก็รู้สึกว่าอะไร ๆ ก็ดูเป็นสีชมพูไปเสียหมด ทั้งคู่นั่งคุยกันเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องราวเก่า ๆ ที่ผ่านมา และกำลังเริ่มต้นวาดฝันอนาคตที่มีร่วมกันด้วยเสียงหัวเราและรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ที่ห้องพักคนไข้ค่อย ๆ เงียบลงตามจังหวะยามค่ำคืน จากที่เธอคุยนั่นนี่เอะอะจอแจ ก็เริ่มถามคำตอบคำพร้อมดวงตาที่ต่อย ๆ ปิดลงเรื่อย ๆ และในที่สุดเยลลี่ก็เริ่มปิดปากหาวเบา ๆ “ง่วงแล้วเหรอ” กั๋วซุนถามพลางลุกขึ้นยืนก่อนจะปรับเตียงให้เธอได้นอนเต็มที่ เธอพยักหน้าเล็กน้อยและนอนมองเขาที่เดินไปปิดไฟจนเหลือเพียงไฟดวงที่หัวเตียง ที่เปิดเอาไว้ไม่ให้มืดเกินไป “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ก็นอนนะครับ” เขาเดินมาดึงผ้าห่มให้เธออย่างเบามือ พร้อมทั้งเอื้อมมือหนาไปลูบเส้นผมของเธอเบา ๆ แต่แทนที่หญิงสาวจะหลับตาลงพักผ่อนอย่างว่าง่าย เธอกลับจ้องหน้าเขาแล้วเบะปาก “ง่วงก็จริง.. แต่ไม่อยากนอนคนเดียว ที่นี่น่ากลัว” เยลลี่ยกมือจับชายเสื้อเขาไว้แน่นแล้วเอียงหน้ามองชายหนุ่มอ้อน ๆ ราวกับตัวเองเป็นเด็กสามขวบที่กำลังงอแง “นอนด้วยกันได้ไหม.. แบบว่าถ
ตอนที่ 17ความรักเดินทางมาหาเยลลี่เบิกตากว้างอย่างไม่ทันตั้งตัว ราวกับคำพูดของเขาทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ เธอจ้องหน้าเขานิ่งงัน สีหน้าเหมือนคนที่กำลังลืมวิธีหายใจ เหมือนคนที่กำลังประมวลผลบางอย่างในหัวที่ยุ่งเหยิงเกินกว่าจะเรียงคำออกมาได้กั๋วซุนสบตาเธอไม่หลบไปไหน ดวงตาคมยังจ้องมองนิ่งลึกไม่หลบสายตาใด ๆ ผ่านไปหลายอึดใจแล้วเธอยังคงเงียบ เขาจึงเอ่ยถามเสียงเรียบในสิ่งที่ต้องการคำตอบ“แล้วคุณล่ะ.. คิดยังไงกับผมงั้นเหรอ”คำถามนั้นเป็นเหมือนแรงกระชากกุญแจ ที่เธอล็อกกักขังตัวเองเอาไว้ในปราการสุดท้ายเธอออก เยลลี่ไม่ตอบอะไรสักคำ ดวงตาคู่นั้นเอาแต่มองหน้าเขาเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับไม่มีคำใดหลุดออกมา จนกระทั่งน้ำตาเม็ดใส ๆ นั้นไหลพรากลงมาเงียบ ๆ ตามแก้ม“เยลลี่! คุณร้องไห้ทำไม!” ใบหน้าของชายหนุ่มดูตกใจมากในตอนที่เห็นว่าเธอนั้นร้องไห้ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะขยับตัวเธอก็โถมตัวเองเข้ามากอดคอเขาเอาไว้แน่นจากบนเตียง ราวกับเด็กที่อดทนมานานแล้วสุดท้ายก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปเสียงสะอื้นหลุดออกมาทีละนิด ก่อนจะกลายเป็นร้องไห้ฮึก ๆ แบบไ
ตอนที่ 16ผมว่าผมชอบคุณเข้าแล้ว“ไอ้หน้าหล่อนี่ใคร” กั๋วซุนเอ่ยถามเสียงห้วน สายตาเขากวาดมองชายแปลกหน้านั้นด้วยความไม่พอใจ และท่าทางนั้นทำให้เยลลี่ชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าของเธอดูอึกอักเหมือนไม่แน่ใจว่าจะตอบยังไง“ว่าไงครับ.. เขาเป็นใคร” กั๋วซุนถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงและแววตาเริ่มแสดงความไม่ไว้ใจออกมาเต็มที่ แม้จะยังงง ๆ ว่าท่าทางนั่นของเขาคืออะไร แต่ก็เพียงพอให้เธอไม่กล้าจะโกหก“เพื่อนฉันน่ะ” สุดท้ายเยลลี่ก็ต้องตอบในที่สุด พร้อมกับหันไปมองผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาขอโทษ“ฉันไม่เป็นไรขอบคุณนะ” เตอร์มองหน้าเธออย่างลังเล แววตาที่เขามองนั้นแสดงออกว่าเป็นห่วง“แน่ใจนะ”“อืม.. กลับเถอะเดี๋ยวฐารอนาน” เธอพยายามส่งยิ้มบาง ๆ ให้เขา ชายหนุ่มพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนักก่อนจะเดินผ่านหน้ากั๋วซุนช้า ๆ ในจังหวะที่เขาผ่านไปนั้นทั้งคู่สบตากันด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนั้นกั๋วซุนยังคงมองตามเขาอยู่จนสุดสายตา ก่อนจะหันกลับมามองเยลลี่เขม็ง“ม
Comments