共有

ตอนที่ 2 พรข้อที่สอง

last update 最終更新日: 2025-01-02 17:10:05

ระหว่างที่ลมหนาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอนเก่าผุพัง ลมหายใจเข้าออกที่สม่ำเสมอในทีแรกเริ่มติดขัดรุนแรงขึ้นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นภายใต้ความฝันอันยาวนาน

เปลือกตาบางปิดแน่น คิ้วคู่งามขมวดเข้าหากัน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายตามกรอบหน้ารูปไข่ ภาพในความฝันที่ยาวนานราวกับกำลังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของใครบางคนให้เธอได้รับรู้…

ในความฝันลมหนาวเห็นวิถีชีวิตของเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนเธอราวกับแกะ แม้ในตอนเด็กเธอจะยังคงรูปลักษณ์ของเด็กชาย แต่ผิวพรรณและใบหน้าหวานที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีนั้นไม่ได้ทำให้เธอแตกต่างจากเด็กผู้หญิงมากนัก

ภาพในฝันการแต่งกายย้อนยุคและสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นตา ราวกับว่านั่นเป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของตนเองอย่างไรอย่างนั้น

หญิงสาวเฝ้ามองเหตุการณ์ต่าง ๆ ในความฝันอย่างตั้งใจ ภาพตรงหน้าฉายชัดเป็นฉาก ๆ ราวกับกำลังอยู่ในโรงภาพยนตร์ มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายถูกถ่ายทอดออกมา มันชัดเจนเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นตัวเธอเอง แต่จะเป็นไปได้อย่างไร ความรู้สึกนึกคิดในฝันนั้นขัดแย้งกันไปมาจนยุ่งเหยิง

ร่างบางกระสับกระส่ายอยู่นานในที่สุดเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ ภายในหัวใจบีบรัดเข้าหากันจนปวดหนึบ เสียงของเด็กสาวคนนั้นที่พูดขึ้นก่อนเธอจะตื่นทำให้เธอพอจะเข้าใจเรื่องราวบางอย่างได้บ้างแล้ว

‘ฉันฝากชีวิตที่เหลือไว้กับเธอนะ ลาก่อน…’

นั่นคือเสียงสุดท้ายของ จางซิ่วอิง ซึ่งก็คือชื่อเจ้าของร่างนี้ ซึ่งก่อนที่เธอจะเข้ามาอยู่ในร่างของจางซิ่วอิง เธอคนนี้นอนป่วยอยู่ในบ้านหลังเล็กแห่งนี้เพียงลำพัง เพราะร่างกายอ่อนแอค่อนไปทางขาดสารอาหาร เมื่อป่วยไข้จึงทนพิษไข้ไม่ไหว สิ้นใจตายไปทั้งที่อายุยังน้อย

ครุ่นคิดสิ่งต่าง ๆ เพียงลำพังอย่างปลดปลงไม่นานก็ทำใจได้ ดวงตาคู่เรียวทอดมองไปยังนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์กลมโตนั้นค่อย ๆ จางหายจนมองเห็นเพียงเลือนลาง ท้องฟ้าเริ่มสว่างเพราะดวงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนมาแทนที่

ลมหนาวในร่างของหญิงสาวชนบทนามว่าจางซิ่วอิงทอดถอนหายใจยืดยาว แม้เธอจะดีใจที่ได้เกิดอีกครั้งในร่างของผู้หญิงเต็มตัว แถมยังหน้าตาสะสวยไม่แพ้เธอในยุคปัจจุบันที่จากมา แต่ก็อดสงสารจางซิ่วอิงตัวจริงไม่ได้ที่ต้องตายจากไปอย่างโดดเดี่ยว ภายในบ้านหลังเล็กท้ายหมู่บ้านที่ไร้ผู้คนเหลียวแล

และอีกสิ่งหนึ่งที่เธอหวั่นใจคือ ที่นี่คือประเทศจีนในยุค 1984 แม้จะเคยศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศนี้มาบ้างแต่ก็เพียงผิวเผิน เธอที่เป็นคนไทยแท้จะใช้ชีวิตให้รอดอย่างไรต่อไป พลันคิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าได้รูปก็เคร่งเครียดขึ้นมา

หากจำไม่ผิดช่วงเวลานี้หลายอย่างนั้นคลี่คลายไปพอสมควร ประชาชนส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกเว้นเสียแต่ครอบครัวของชาวนาที่การฟื้นฟูภายในเวลาไม่กี่ปีคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก ซึ่งคนแถบชนบทมักจะได้รับสวัสดิการจากรัฐในลำดับท้ายสุดเลยก็ว่าได้

นับเป็นความโชคดีของจางซิ่วอิงที่เกิดมาในครอบครัวชนชั้นแรงงาน พ่อทำงานในโรงงานยาสูบ ส่วนแม่ของเธอเสียไปตั้งแต่เธออายุเพียงห้าขวบ  หลังจากนั้นเจ็ดปีพ่อก็แต่งงานใหม่กับแม่หม้ายลูกติดซึ่งเธอคนนั้นคือรักแรกของพ่อ

พ่อของจางซิ่วอิงนั้นหลงภรรยาใหม่ของเขาจนละเลยลูกสาวในไส้เพียงคนเดียว เจ้าของร่างเดิมทำงานรองมือรองเท้าสองแม่ลูกนั่นอยู่หลายปี จนในที่สุดตอนอายุสิบหกแม่เลี้ยงก็จับเธอแต่งงานกับลูกชายบ้านสามของตระกูลหยาง

ซึ่งสำหรับหยางซีห่าวพ่อแม่ของเขาป่วยตายจากโรคระบาด ทิ้งเขาไว้ให้อยู่เพียงลำพังโดยปู่กับย่ารับเลี้ยง แต่ชีวิตของหยางซีห่าวหลังจากสิ้นผู้เป็นปู่ก็ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะย่าไม่ชอบพ่อของเขา กอปรกับแม่ของเขาก็เป็นสะไภ้ที่ท่านไม่เต็มใจให้แต่งเข้ามาเลยพาลให้เกลียดขี้หน้าของลูกชายเพียงคนเดียวไปด้วย

หลังจากวันแต่งงานเพียงไม่กี่วันทางบ้านจางก็ทำหนังสือตัดขาดจากจางซิ่วอิงโดยจงใจไม่ให้เธอกลับไปที่นั่นอีกชั่วชีวิต คงจะกลัวว่าเธอจะกลับไปเป็นภาระอีกน่ะสิ แต่เดิมร่างนี้ก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก มักจะเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ อยู่เป็นประจำ และนี่คงเป็นสิ่งที่แม่เลี้ยงเธอกังวลจนต้องรีบตัดขาดหญิงขี้โรคอย่างเธอโดยเร็วที่สุด

ส่วนสามีเธอแม้จะแต่งงานกันโดยไร้รัก ทว่าชีวิตหลังแต่งงานก็ไม่ได้ย่ำแย่เสียทีเดียว หยางซีห่าวนั้นแม้จะเฉยชาแต่สิ่งที่สามีควรปฎิบัติในฐานะหัวหน้าครอบครัวเขาก็ทำได้เป็นอย่างดี ไม่เว้นแม้แต่เรื่องอย่างว่า

แต่จนแล้วจนรอดแต่งงานกันมาร่วมปีก็ยังไม่มีเจ้าหัวผักกาดน้อยออกมา จางซิ่วอิงจึงถูกชาวบ้านนินทาว่าเป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ไม่ได้ ซึ่งทำให้หญิงสาวเองรู้สึกอับอายจนเก็บตัวอยู่เพียงในบ้าน หลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คนโดยสิ้นเชิง

ทางบ้านใหญ่ของสามีก็ไม่น้อยหน้า เมื่อลูกชายที่ลูกชังทิ้งไว้ให้นั้นได้แต่งงานกับหญิงสาวขี้โรคประจำหมู่บ้านมีหรือจะนิ่งดูดาย เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากแต่งงานหยางซีห่าวก็ได้รับหนังสือแยกบ้าน โดยให้ทั้งคู่ไปอยู่บ้านหลังเล็กท้ายหมู่บ้านที่มีสภาพไม่ต่างจากบ้านผีสิง

หลังจากแยกบ้านมาค่าใช้จ่ายที่เพียงแค่ทำงานในแปลงนาก็ไม่เพียงพอ หยางซีห่าวต้องหาเลี้ยงภรรยาและไหนจะต้องส่งเข้าบ้านใหญ่เพื่อแสดงความกตัญญู หยางซีห่าวจึงตัดสินใจสมัครเข้าร่วมกองทัพซึ่งตำแหน่งที่ได้รับก็คงไม่พ้นพลทหารชั้นผู้น้อย

เขาเข้าร่วมกองทัพโดยทิ้งภรรยาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง แต่จางซิ่วอิงก็ไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด แม้จะอยู่ร่วมบ้านแต่ความห่างเหินระหว่างคนของทั้งคู่ก็คงไม่ต่างจากแยกกันอยู่ ฉะนั้นสามีจะอยู่หรือไม่อยู่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

กลับมาที่ปัจจุบันร่างบางสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ สองสามครั้ง เอาล่ะ! คงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วลมหนาว เธอจะอยู่แบบสามีไม่รัก ร่างกายอ่อนแอค่อนไปทางขาดสารอาหาร แถมยังอดอยากแร้นแค้นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้เด็ดขาด

ดวงตาคู่เรียวมองสำรวจสีของท้องฟ้า เมื่อรู้สึกว่าอีกไม่นานก็สว่างแล้วหญิงสาวจัดการพับผ้าห่มจัดที่นอนให้เป็นระเบียบ ก่อนจะอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์ที่ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเดินออกไปนอกห้องเพื่อสำรวจสิ่งต่าง ๆ เมื่อสำรวจมาถึงห้องน้ำจึงล้างหน้าล้างตาแปรงฟันด้วยความคุ้นเคยจนน่าแปลกใจ

จากในความทรงจำเก่าเจ้าของร่างนั้นพักอยู่ที่บ้านหลังน้อยท้ายหมู่บ้านนี้เพียงลำพังคนเดียว สามีที่เป็นทหารนั้นจะกลับบ้านอีกครั้งก็ราวอีกสองเดือนข้างหน้า ทุกเดือนเขาจะส่งเงินเดือนมาให้เธอ โดยที่จางซิ่วอิงจะเป็นคนจัดการแบ่งเงินส่วนนี้ไปให้บ้านใหญ่ของสามีเพื่อแสดงความกตัญญู อีกส่วนที่เหลือไม่มากนักก็เก็บไว้สำหรับประทังชีวิตระหว่างเฝ้ารอเงินจากเดือนถัดไป

จางซิ่วอิงไม่ได้มีอาชีพอย่างสาวยุคสองพันที่เธอจากมา แต่ละวันเธอทำเพียงดูแลแปลงผักเล็ก ๆ ข้างบ้าน ออกไปซื้อของในตัวอำเภอบ้าง จากนั้นก็กลับมาเข้าบ้าน ใช้ชีวิตจำเจเช่นนี้อยู่เพียงลำพังไปวัน ๆ เพื่อรอสามีกลับบ้านโดยไม่ได้สุงสิงกับใคร

บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้เก่าผุพังที่แทบจะกันลมไม่ได้ด้วยซ้ำ ตัวบ้านมีเพียงหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องครัว มีโถงกลางรับแขกพื้นที่ไม่มากนัก ห้องน้ำนั้นอยู่แยกออกจากตัวบ้านแต่ก็ไม่ได้ไกลกันมาก หญิงสาวเดินลัดเลาะไปข้างบ้าน ในยามนี้แสงสว่างของเช้าวันใหม่ทำให้เธอมองเห็นสิ่งรอบตัวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

บริเวณนอกตัวบ้านมีพื้นที่ไม่มากนัก ล้อมด้วยรั้วไม้ผุพังที่คาดว่าหากเตะแรง ๆ เพียงครั้งเดียวคงพังครืนลงมา แปลงผักที่สามารถเก็บกินได้ในตอนนี้พอดี จางซิ่วอิงตรงไปยังผักกาดขาวหัวใหญ่ ก่อนจะเก็บมันเพื่อนำไปทำอาหารเช้าทาน

ต้องอิ่มท้อง…สมองจะได้ทำงานเต็มที่

นี่คือสิ่งที่เธอคิดได้ในตอนนี้ หญิงสาวเดินกลับเข้ามาในตัวบ้านมุ่งหน้าไปยังห้องครัวขนาดเล็ก เมื่อกวาดตามองสำรวจแล้วก็พบว่ามันแทบไม่มีอะไรเลย ข้าวสารที่มีอยู่เพียงก้นถัง แป้งหยาบอีกเล็กน้อย ไม่มีเนื้อ มีเพียงไข่ไก่หนึ่งฟองที่วางอยู่ในตู้อย่างโดดเดี่ยว เครื่องปรุงรสที่มีเพียงแค่เกลือไม่กี่หยิบมือ และน้ำมันติดก้นขวดเพียงเล็กน้อย

ยิ่งมองยิ่งรู้สึกปวดใจ เธอคิดถึงเครื่องปรุงมากมายที่สามารถรังสรรอาหารรสเลิศให้เธอได้ในโลกที่จากมา

นี่ฉันต้องกินอาหารจืด ๆ มัน ๆ อยู่ที่นี่ต่อไปน่ะหรือ?

กล่าวตัดพ้อกับตัวเองเสียงเบา ก่อนจะเดินเอาหัวผักกาดไปล้างทำความสะอาดเพื่อทำผัดผักกาดใส่ไข่ง่าย ๆ เป็นมื้อเช้า ทว่าระหว่างกำลังใช้มือค่อย ๆ ล้างดินออกทีละนิด นัยน์ตาเรียวก็เบิกกว้างราวกับคิดสิ่งใดออกมาอย่างกะทันหัน

‘พรข้อที่สองหนูขอห้างสรรพสินค้ายุค 2024 แบบจัดเต็มค่ะคุณยาย’

พลันสิ้นเสียงหวานใสสายลมเย็นก็พัดมาปะทะกับใบหน้าของเธออย่างจังราวกับคนที่เธอนึกถึงนั้นรับรู้แล้ว ก่อนจะรู้สึกเย็นที่ข้อมือข้างซ้าย

กำไลหยกเนื้อดีชิ้นนี้อยู่บนข้อมือเธอตั้งแต่ตอนไหนกัน…

ความเย็นของมันทำให้มือเรียวอดสัมผัสมันไม่ได้ ทันทีที่ปลายนิ้วแตะลงบนผิวของหยก หญิงสาวเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งภายในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจ และสิ่งที่เห็นตรงหน้าทำเอาจางซิ่วอิงถึงกับกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจสุดขีด นัยน์ตาใสกระจ่างมองสิ่งตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น

ที่นี่คือห้างสรรพสินค้าที่เธอขอ…เธอได้มันมาแล้ว ทั้งที่ในใจก็อดตั้งคำถามกับตัวตนของคุณยายใจดีไม่ได้ ทว่าเมื่อคำนึงถึงสถานการณ์ตอนนี้ เธอจึงทำได้เพียงกล่าวขอบคุณไปตามสายลมเย็นสบายที่พัดผ่าน

นัยน์ตาสีน้ำหมึกมองสำรวจสินค้ามากมายตรงหน้าที่ถูกจัดเรียงในแบบของยุคที่เธอจากมา ทุกสิ่งที่ที่นั่นมีในกำไลหยกวงนี้ล้วนมีมันทั้งสิ้น

หญิงสาวจากโลกอนาคตเดินตรงไปยังโซนเครื่องปรุงรส ก่อนจะเลือกหยิบออกมาทีละอย่างพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างจนตาหยี เมื่อได้เครื่องปรุงที่ต้องการหญิงสาวจึงเลือกหยิบเนื้อและผักสดอีกจำนวนหนึ่งแล้วหลับตาลง เพียงชั่วอึดใจเธอก็ยืนอยู่ในห้องครัวของบ้านหลังน้อยเรียบร้อย

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 65 ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ (จบ)

    ภายในบ้านหลังสีขาวขนาดกลางในย่านการค้าสำคัญ เสียงหัวเราะพูดคุยของคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน ช่วยทำให้บรรยาของบ้านหลังนี้ดูอบอุ่นไม่น้อยในช่วงเช้าอากาศสดใสจางซิ่วยืนมองหน้าท้องที่เริ่มนูนเล็กน้อยของตนเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ ใบหน้าเอิบอิ่มของคุณแม่ยังสาวนับวันยิ่งสวยขึ้นจนผิดหูผิดตาตอนนี้เธอตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่เจ้าสองแสบเข้าโรงเรียนได้ไม่นาน สามีอย่างหยางซีห่าวที่ขยันบอกรักภรรยาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ขยันมากขึ้นอีกหลายเท่า จนผ่านไปสองเดือนเจ้าหัวผักกาดหัวที่สามก็ถือกำเนิดขึ้นมาในท้องของเธอในที่สุด“ผมต้องไปแล้วครับ คุณก็อย่าหักโหมนะครับ ผมเป็นห่วง”ชายหนุ่มเอ่ยเตือนภรรยาประโยคเดิมเช่นทุกวัน น้ำเสียงนุ่มทุ้มฟังดูอบอุ่น ทั้งแววตาที่มองภรรยานั้นอ่อนโยนกว่าตอนที่อยู่ต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นไหน ๆเพราะภรรยาของเขานั้นขึ้นชื่อเรื่องความขยันขันแข็ง ในแต่ละวันเธอทั้งทำงานนอกบ้าน ทำอาหาร เลี้ยงลูก

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 64 สะสางความแค้น

    จางซิ่วอิงยังต้องอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งก็ทำให้ลูกน้อยทั้งสองต้องอยู่กับเธอด้วย หยางซีห่าวก็เช่นกัน เขาทำเรื่องลางานถึงหนึ่งเดือนเพื่อมาดูแลภรรยาและลูกน้อยทั้งสองด้วยตนเอง“เด็ก ๆ ป้ามาแล้ววววว!!”เยว่ผิงอันส่งเสียงเรียกหลานทั้งสองก่อนที่ตัวเองจะเข้ามาในห้องเสียอีก เธอเข้ามาเยี่ยมหลาน ๆ พร้อมกับสามีที่ถือของพะรุงพะรังตามหลังมาจางซิ่วอิงยิ้มให้กับคนเห่อหลานทั้งสองเล็กน้อย ก่อนจะให้สามีรับข้าวของเหล่านั้นและนำไปเก็บไว้ก่อน“ผมฝากดูแลเธอและเด็ก ๆ ด้วยนะครับ แล้วผมจะรีบกลับมา”หยางซีห่าวพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล วันนี้เขากับพี่ภรรยามีธุระที่ต้องไปสะสางจึงต้องฝากเธอกับลูกไว้กับพี่สะไภ้เสียก่อนจางซิ่วอิงยังไม่หายดีนัก ส่วนลูกทั้งสองแม้จะเป็นเด็กเลี้ยงง่ายแต่การมีคนคอยช่วยเหลือย่อมดีกว่า เขาไม่อยากให้ภรรยาเหนื่อยจนเกินไป“ไปจัดการ

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 63 พรข้อสุดท้าย

    สายลมวูบหนึ่งพัดผ่านร่างโปร่งแสงไปอย่างแรงจนผมยาวพลิ้วไสวไปตามแรงลม จางซิ่วอิงเผยรอยยิ้มยินดีออกมาในทันที เธอเข้าใจว่าคุณยายรับรู้ความปรารถนาของเธอแล้วจึงเอ่ยพรข้อที่สามออกไป“พรข้อสุดท้ายฉันขอให้ฉันและลูก ๆ ปลอดภัยค่ะ ขอโอกาสให้ฉันได้คลอดพวกเขา ให้พวกเขาได้ออกมาใช้ชีวิตบนโลกอย่างปลอดภัยด้วยนะคะ”คำอ้อนวอนปนเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวลอยหายไปตามสายลม ก่อนจะได้รับรู้ได้ถึงลมอีกระลอกหนึ่งพัดผ่านร่างของเธอไปอย่างรวดเร็ว สายลมแรงนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหนาวเหน็บ แต่ทว่ากลับทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบรอบตัวเธอเอาไว้ต่างหาก“พรของหล่อนถูกใช้หมดแล้วนะ ต่อจากนี้ยายขอให้หล่อนมีชีวิตที่ดี”เสียงของหญิงชราดังแว่วอยู่ไกล ๆ จางซิ่วอิงพยายามมองหาเจ้าของเสียงแต่ก็ไม่พบ ทว่าเมื่อมองไปยังหน้าห้องคลอดที่มีร่างของเธอนอนนิ่งอยู่ กลับเห็นเด็กชายหญิงหน้าตาน่ารักยืนยิ้มแฉ่งให้เธออยู่

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 62 คลอดฉุกเฉิน

    ซ่งเฟยหลงประกาศกร้าวพร้อมยกปืนขึ้นเล็งไปยังผู้ก่อเหตุทั้งหมด อันธพาลสี่คนที่ถูกจ้างมาให้คอยช่วยเหลือหวงไฉ่หง เมื่อเห็นชายในชุดเครื่องแบบทหารพร้อมปืนก็หวาดกลัวจนต้องยกมือขึ้นเหนือหัว ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นตามคำสั่ง แม้แต่หวงไฉ่หงเองที่เป็นเพียงชาวบ้านชนบทมีหรือจะกล้าขัดขืนพันโทซ่งเฟยหลงย้ายมาประจำการที่นี่ในวันนี้ซึ่งเขาไปรายงานตัววันแรก พอเรียบร้อยแล้วก็เจอเข้ากับลูกน้องเก่าอย่างหยางซีห่าวกำลังออกจากค่ายพอดี เขาจึงขอติดรถออกมาด้วยเพื่อหาบ้านพักชั่วคราว ระหว่างรอทำเรื่องขอบ้านพักสวัสดิการ ซึ่งหยางซีห่าวก็รับปากว่าจะพาไปดูบ้านพัก แต่ขอไปรับภรรยาที่กำลังท้องแก่เสียก่อน แต่เมื่อรถเข้ามาจอดภาพเหตุการณ์อุกฉกรรจ์นี้ก็ทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าวิ่งมาจากรถที่จอดอยู่อีกด้านทว่าจากที่ซ่งเฟยหลงคิดว่าเป็นเหตุการณ์ของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปคงไม่ใช่แล้ว เพราะลูกน้องอย่างหยางซีห่าวรีบวิ่งไปประคองหญิงท้องแก่ พร้อมตะโกนเรียกชื่อภรรยาดังลั่น“ซิ่วอิง ภรรยา!”

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 61 เรื่องราววิ่งเข้าหา

    กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรจางซิ่วอิงก็อุ้มท้องเจ้าหัวผักกาดมาได้จนถึงแปดเดือนแล้ว เพราะขนาดท้องที่ใหญ่กว่าปกติของคุณแม่ลูกแฝดทำให้การเดินเหินค่อนข้างเป็นไปอย่างยากลำบากโดยปกติแล้วการมาทำงานของจางซิ่วอิงจะต้องมีพี่ชายหรือสามีอยู่ด้วยเพื่อคอยระมัดระวังหากเกิดเหตุไม่คาดคิด แต่ทว่าเมื่อวานโรงงานผลไม้กระป๋องของเธอที่อยู่ต่างเมืองมีปัญหาพี่ชายอย่างจ้าวคุนจึงรับอาสาไปดูแทนส่วนสามีนั้นติดภารกิจตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอันที่จริงเขาทำภารกิจนี้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อวาน แต่ต้องอยู่ต่ออีกนิดเพื่อทำเรื่องลาหยุดงานมาดูแลเธอจนกระทั่งคลอด ซึ่งคนเป็นภรรยาเองก็เข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไรจากคนเป็นสามี เพราะอย่างไรวันนี้เธอก็ตั้งใจจะมาทำงานวันสุดท้ายอยู่แล้ว ท้องเธอโตมากและใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว การเดินทางไปทำงานคงไม่สะดวกนัก หลังจากนี้จึงตั้งใจว่าจะให้พี่สะไภ้เอางานส่วนของเธอมาให้ที่บ้านแทนจางซิ่วอิงเดินไปยังลานจอดรถโดยมีพี่สะไภ้คอยประคองอย

  • เมื่อฉันกลายเป็นภรรยาขี้โรคในยุค 80   ตอนที่ 60 เจ้าหัวผักกาดมาแล้ว

    “ฉุนเหรอคะ?” คำพูดของเจ้านายสาวทำเอาแม่บ้านซุนคิดหนัก หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปม พยายามนึกถึงอาหารแต่ล่ะจานว่าเธอทำผิดพลาดที่ตรงไหนกัน มีส่วนผสมอะไรที่ผิดแปลกหรือพิศดารจึงได้ทำให้เจ้านายอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุงเช่นนี้“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ว่าอาหารของป้าซุนไม่ดี แต่ว่าฉันได้กลิ่นแล้วรู้สึกเวียนหัวมากจริง ๆ”หญิงสาวกล่าวขอโทษแม่บ้านทั้งน้ำตาคลอหน่วย เธอเห็นแก่ความทุ่มเทของป้าซุนที่พยายามรังสรรอาหารหลากหลายอย่างเพื่อเอาใจเธอ แต่กลิ่นแบบนั้นเธอไม่สามารถทนได้จริง ๆแม่บ้านวัยกลางคนได้รับคำยืนยันเช่นนั้นก็คิดหนัก แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เห็นทีฝีมือการทำอาหารของเธอคงตกเสียแล้ว พลันวิ่งเข้าไปเตรียมยาดมและยาหอมมาให้กับเจ้านายเพื่อบรรเทาอาการเยว่ผิงอันที่ยืนอยู่ข้างกันกับคู่หมั้นหนุ่มพอฟังอยู่ไม่ไกลนั้นรู้สึกแปลกใจกับน้องสาวขึ้นมาในทันที อาหารบนโต๊ะนั้นแน่นอนว่าล้วนเป็นอาหารอย่างดี ถูกรังสรรขึ้นมาจนหน

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status