Beranda / โรแมนติก / เมื่อหมอไม่รัก / เมื่อหมอปกป้อง (4)

Share

เมื่อหมอปกป้อง (4)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-28 15:33:39

ภัตรคารหรูที่ตกแต่งเป็นสไตล์จีนตามประเภทอาหารขึ้นชื่อของร้าน ภายในห้องรับรองขนาดกลางครึกครื้นไปด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของสาวๆ ต่างวัยที่นั่งชิดติดกันพูดคุยกะหนุงกะหนิงไม่สนใจใคร ขนาดที่ว่าฝั่งผู้ชายคุยกันเรื่องธุรกิจจนจบแล้วก็ยังไม่มีวี่แววที่บรรดาแม่ๆ เมียๆ จะเลิกจับกลุ่มคุยกัน

รพีภัทรอมยิ้มกับบรรยากาศตรงหน้าเล็กน้อย ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าลัลนาสามารถฝ่าด่านความเยอะของคุณแม่ และความวุ่นวายของน้องสาวตนเอง เข้าไปนั่งรวมกลุ่มอยู่ตรงนั้นได้

"แม่แกยิ้มหน้าบานใหญ่ มีเพื่อนคุยเพื่อนช็อป ทั้งลูกสาวทั้งลูกสะใภ้สองคน" พีรพลยกยิ้มมุมปาก สายตาทอดมองภรรยาด้วยความรัก ถึงแม้จะผ่านมาหลายสิบปี จนลูกชายคนโตมีครอบครัว คนกลางกำลังจะแต่งงาน ส่วนลูกสาวคนเล็กโตจนเรียนจบไปแล้ว ความรักที่เขามีต่อภรรยาไม่เคยลดน้อยลงสักนิด

"ถูกใจสายสปอยเมียอย่างป๊าด้วยละสิ" รพีภัทรไม่วายแซวพ่อ แถมยังส่งสายตาไปหาพี่ชายที่น่าจะได้เชื้อนี้มาไม่ต่างกัน

"มองอะไรไอ้พีร์ เรื่องสปอยมันอยู่ในสายเลือดเว้ย" พัชระเบนสายตาจากวราลีผู้เป็นคนรักมาคุยกับน้องชาย

"เป็นแค่เฮียกับป๊านี่แหละ" 

"เดี๋ยวมึงก็เป็น" พัชระยักคิ้วตอบน้องชายอย่างมั่นอกมั่นใจ ส่วนคนน้องยักไหล่พลางส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อว่าจะเป็นดังที่พี่ชายพูด

"แล้วนี่เป็นไง งานเรียบร้อยไหม" ผู้เป็นพ่อถามลูกชายคนกลาง เมื่อเห็นสาวๆ ได้ของหวานคนละถ้วยเรียบร้อย

"ก็เหมือนเดิมครับ ช่วงนี้มีหมอมาเพิ่มผมไม่ต้องอยู่เวรมาก" 

"ไอ้นี่ ฉันหมายถึงงานแต่ง" พัชระหัวเราะเสียงดังทันทีเมื่อได้ยินที่น้องชายตอบ ทำไมมันจะไม่รู้ว่าป๊าหมายถึงอะไร แต่ทำเป็นยียวนตอบเรื่องงานตัวเอง

"ป๊าก็ถามเมียป๊าสิ" 

"อ้าว งานแต่งแกไม่ใช่งานแต่งฉัน" พีรพลสวนกลับลูกชายทันที

"งานแต่งผมแต่แม่จัดการทุกอย่างหมดเลยนี่ คนสปอยเมียแบบป๊าจะไม่รู้ได้ไง" พีรพลได้แต่ส่ายหน้าให้กับลูกชายทั้งสองคนที่รวมหัวกันหัวเราะไม่เลิก จะว่ามันก็ไม่ได้ ก็ตัวเขาสปอยเมียจริงๆ นั่นแหละ ได้แต่รอสักวันที่ไอ้ลูกชายตัวดีจะพลาดท่าเข้าชมรมคนหลงเมียตามเขากับพี่ชายมันไปอีกคน

ลัลนาลอบมองว่าที่เจ้าบ่าวตัวเองที่หัวเราะสุดเสียงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในยามที่คนหน้านิ่งอยู่กับครอบครัวเหมือนเป็นคนละคนกับตอนปกติ ทั้งพูดจาหยอกล้อ หัวเราะมีความสุข แววตาเป็นประกาย ไม่เหมือนตอนอยู่กับเธอมีแต่ส่งสายตาดุกับตำหนิกัน

"อิจฉาผิวพี่ตาลกับพี่นาวจัง คนหนึ่งก็ขาวเอกซ์แตก อีกคนก็ผิวแทนสเป็คฝรั่ง ตาก็โตเหมือนกันเลย" มะนาวหันมาสนใจคำพูดของพระพรน้องสาวคนสุดท้องของบ้าน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งคุยกันเรื่องนวดสปา

"แต่เสป็คพี่ลูกคนจีนนะ" วราลีเอ่ยตอบพระพรก่อนจะหันไปขยิบตาให้คนรักที่มองมาอย่างเขินๆ

"ผิวน้องเพนท์ก็เนียนสวยออกค่ะ" ลัลนาเอ่ยชมอย่างใจจริง ตัวเธอนั้นเป็นคนผิวขาวมาตั้งแต่เกิด เรียกได้ว่าขาวเรืองแสงเลย ส่วนพี่ตาลภรรยาของพี่พุธพี่ชายคนโตของบ้านเป็นสาวผิวน้ำผึ้ง แต่ที่คล้ายกันจะเป็นดวงตากลมโตมีเสน่ห์ ที่เธอมักจะได้คำชมอยู่บ่อยๆ แต่ต่างกับพระพรเรียกได้ว่าผิวกลางๆ ทั่วไป แต่ดูเรียบเนียนและสุขภาพดี ดวงตาถึงจะไม่กลมโต แต่รวมๆ องค์ประกอบทุกอย่างบนใบหน้าแล้ว เรียกได้ว่าสวยจนพ่อและบรรดาพี่ๆ คงจะหวงน่าดู

"แบบนี้แหละคนเรามักไม่ชอบของที่ตัวเองมีอยู่ มัวแต่วิ่งไล่ตามหาสิ่งที่อยู่ไกลตัว จนลืมสิ่งที่มีค่าของตัวเอง" รจณีบ่นลูกสาวเรื่อยเปื่อย  ในขณะที่ลัลนาแอบเห็นแววตาวูบไหวแปลกๆ ของรพีภัทร จากที่เขาดูอารมณ์ดีๆ กลับมาเงียบขรึมเหมือนก่อนหน้านี้

"ก็ดูสิเฮียพุธเฮียพีร์ได้ผิวแม่หมดเลย ทำไมเพนท์ได้ผิวป๊าคนเดียว" ลูกสาวคนเล็กบ่นงอแงไม่จริงจังนัก รู้ตัวดีว่าผิวตนเองไม่ได้แย่ หลายคนชอบผิวสองสีของเธอด้วยซ้ำ แต่พอเห็นพี่ชายทั้งสองผิวขาวเนียนอมชมพูก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ตามนิสัยผู้หญิง

"อ้าว พูดแบบนี้ป๊าก็เสียใจแย่ ลูกสาวป๊าไม่อยากเหมือนป๊ารึไง" พีรพลที่เชื้อสายจีนแต่ผิวสองสี ต่างจากภรรยาที่เป็นสาวเหนือแท้มีผิวขาวเหลือง แต่กลับได้ลูกชายสองคนที่ผิวขาวอมชมพู เอ่ยแซวลูกสาวน้ำเสียงไม่จริงจัง

"อยากสิคะ เพนท์อยากทำงานเก่งแล้วก็ฉลาดๆ เหมือนป๊าไง" คนเป็นลูกสาวรีบเดินไปกอดผู้เป็นพ่อพูดประจบทันที

"อย่างเราไม่ต้องทำงานเก่งหรอก แค่อยู่ประจบพ่อแบบนี้พวกเฮียก็ไม่เหลือสมบัติอะไรแล้ว" พัชระพูดแซวน้อง ซึ่งก็คล้ายจะเป็นความจริงเพราะทุกวันนี้ผู้เป็นพ่อแทบจะประเคนทุกอย่างให้ลูกสาว

"ถ้างั้นต้องตามใจเพนท์มากๆ นะคะ เดี๋ยวเพนท์จะแบ่งสมบัติให้" พระพรขยิบตาตอบพี่ชายอย่างขี้เล่น

"แล้วเฮียล่ะ แบ่งให้เฮียไหม" รพีภัทรถามน้องสาวบ้าง 

"เฮียเป็นหมอรวยจะตาย แต่ไม่เป็นไรเพนท์ชอบพี่นาว เพนท์จะแบ่งสมบัติให้พี่นาวเอง เอ๊ะ! เฮียพุธด้วยนะคะ เพนท์เปลี่ยนใจแล้วจะยกสมบัติให้พี่ตาลแทน"

"อ้าว! ไหงเป็นงั้นตัวแสบ" พัชระเริ่มโวยวายเมื่อน้องสาวกลับคำพูด

"เฮียจะโวยวายทำไม ต่อให้ยกให้พวกเฮีย ต่อไปก็ยกให้เมียหมดอยู่ดี สู้ยกให้พี่นาวกับพี่ตาลเลยดีกว่า เนอะๆ" หญิงสาวอายุน้อยสุดหันไปขอความเห็นจากผู้เป็นแม่และพี่สะใภ้

ลัลนานั่งมองภาพตรงหน้าก็ได้แต่ยกยิ้มตามอย่างมีความสุข ทั้งคุณพีรพลและคุณหญิงรจนา ถึงแม้ทั้งอายุและร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย แต่สิ่งหนึ่งที่ดูไม่เปลี่ยนเลยน่าจะเป็นความรักที่ทั้งสองมีต่อกัน

ส่วนพัชระและวราลีเรียกได้ว่าใครอยู่ด้วยจะเห็นบรรยากาศรอบตัวที่มีแต่ความหวานจนมดแทบขึ้น เธอมักจะเห็นทั้งสองคอยส่งสายตาให้กันตลอดถึงแม้จะนั่งอยู่ไกลกัน เรียกได้ว่าถอดแบบตามคนเป็นพ่อมาไม่มีผิด

อย่างพระพรน้องเล็กคนสุดท้อง ถึงจะยังไม่มีคนรัก แต่มีคนมอบความรักให้มากล้นจนไม่ต้องออกไปหาที่ไหน เธอมองเห็นแต่ความเอื้อเอ็นดูผ่านสายตาของทุกคนที่นั่งอยู่ในนี้ อาจจะรวมไปถึงเธอด้วยที่ถูกชะตากับพระพรเป็นพิเศษ

ส่วนเขา...คนที่ใครๆ ก็บอกว่าเย็นชา หน้านิ่ง พูดน้อย ดูเหมือนไม่สนใคร แต่พออยู่กับครอบครัว เขาเป็นลูกที่ดี เป็นน้องที่ดี และเป็นพี่ชายที่ใจดีกับน้องตัวเองมากๆ คงอย่างที่เธอเคยได้ยินว่าครอบครัวเป็นเหมือนเซฟโซน

ตั้งแต่เกิดมาเธอคิดว่าตัวเองใช้ชีวิตแบบที่คิดว่าตัวเองมีความสุขดีแล้วมาโดยตลอด 

แต่ตอนนี้เธอกลับคิดว่าตัวเองเหมือนเด็กชะมัด เด็กขี้อิจฉาซะด้วย ยอมรับว่าเธออิจฉาครอบครัวนี้ อิจฉากความรักที่เขามีให้แก่กัน ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสได้มีเซฟโซนเป็นของตัวเองบ้างไหมนะ...

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อหมอไม่รัก   บทส่งท้าย

    ลัลนาที่กำลังอ่านบทอยู่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคุณหมอหนุ่มที่ก่อนหน้าเธอเห็นเขาวุ่นวายอยู่ในครัว ย้ายตัวมาโอบกอดเธอด้านหลัง ก่อนที่เจ้าตัวจะแทรกกายลงมานั่งซ้อนหลังเธอ ใบหน้าคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอเธอ"อะไรคะคุณพีร์""ข้าวเสร็จแล้ว""นาวขออีกแป๊บได้ไหมคะ เหลืออีกตอนเดียว" ลัลนาก้มหน้าอ่านบทต่อในมือถือปากกาขีดเขียนลงในหน้าจอไอแพดเมื่อวิเคราะห์อารมณ์ตัวละครในบทนั้น"หืม...แล้วทำไมต้องไปง้อมัน""คะ?" ลัลนาที่กำลังใช้สมาธิอยู่เอียงคอมองคนตัวสูงที่กำลังเพ่งมองหน้าจอไอแพดเธออยู่"ไอ้นี่อะ" เขาชี้ไปยังที่เธอวงกลมไว้ "ทำไมต้องไปง้อมัน" ก่อนจะถามย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง"ก็...คนนี้ฤดีรักพระเอกนี่คะ พอรู้ว่าพระเอกจะไปรักคนอื่นก็เลยง้อ" เธอกล่าวถึงบทฤดี นางร้ายละครเรื่องต่อไปที่เธอต้องรับบทเล่น"ก็ปล่อยมันไปสิ! ทำไมต้องไปรักมัน" ลัลนาปรายตามองคนตัวสูงที่ขมวดคิ้วจริงจัง"คุณพีร์ นาวจะอ่านบท อย่ากวนค่ะ" เธอดุคนรักเสียงเข้ม รพีภัทรจึงก้มใบหน้าหอมแก้มเธอ ไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ลุกออกไปไหน เธอจึงอ่านตอนที่เหลือต่อ ลัลนาขีดเส้นใต้ เขียนอารมณ์ความรู้สึกของบทตัวเองไปเรื่อย ก่อนจะสะดุ้งตกใจอีกหน เมื่อคนที่นั่งซ้อนหลังโว

  • เมื่อหมอไม่รัก   เมื่อหมอทั้งหวง ทั้งเปย์ (2)

    "เราจะกินข้าวก่อนหรือเดินซื้อของก่อนดีคะ" ลัลนาเอ่ยถามคนรักหลังจากที่เดินเข้ามาในห้าง วันนี้พวกเธอมีแพลนซื้อของขวัญให้คุณแม่ซึ่งอาทิตย์นี้จะจัดงานเลี้ยงวันเกิด "ผมว่าซื้อก่อนก็ได้" คนตัวสูงจับมือคนตัวเล็ก เดินไปยังโซนช็อปแบรนด์เนม"อ้าว ไหนว่าคุณแม่ไม่เอาของแบรนด์ไงคะ" ลัลนาท้วงอย่างประหลาดใจ จำได้ว่าเขาบอกว่าหลายปีมานี้ คุณแม่สั่งห้ามเด็ดขาด ว่างดรับของแบรนด์เนมทุกชนิด เธอคิดว่าคุณแม่สามีคงจะมีเยอะ ซื้อเองจนครบหมดแล้ว เลยไม่อยากให้ใครมาซื้อให้อีก"ก็...ลองเดินดูก่อน" เขาตอบเธอเสียงเบา ลัลนามองท่าทางเลิ่กลั่กแปลกๆ ของสามีหนุ่ม ถึงอย่างนั้นก็ไม่ท้วงอะไร เดินตามแรงจูงไป เมื่อเดินเข้าไปในช็อปดัง BA คนเดิมที่เคยมารับรองเธอกับคุณหญิงรจณีก็เดินออกมาต้อนรับ คล้ายเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว ลัลนาเดินตามแรงจูงอย่างงงๆ เมื่อเขาลากเธอไปยังห้องด้านใน"อะไรกันคะคุณพีร์?""พอดีผมอยากให้นาวช่วยเลือกกระเป๋าให้ก่อน" ลัลนามองพนักงานคนเดิมที่ถือกระเป๋ามา ก่อนจะหันมองเขาอย่างมึนงง"เลือกกระเป๋าเหรอคะ""ใช่ช่วยเลือกให้หน่อย ผมเลือกไม่ค่อยเก่ง" ลัลนาคิดว่าเขาอาจจะต้องซื้อให้เพื่อน หรือคนสำคัญระดับหนึ่งถึงต้องมา

  • เมื่อหมอไม่รัก   เมื่อหมอทั้งหวง ทั้งเปย์ (1)

    "หมอที่นี่มันยังไงวะ หยุดงานทีไร อารมณ์ดีทุกที" รพีภัทรเงยหน้ามองเพื่อนสนิทตนเองทั้งสองคนที่เดินตามกันเข้ามาสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะก้มหน้าไถหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อไม่สนใจ"กูว่าน่าจะมีคนดีใจที่ได้เสียเงินห้าแสน" อวัศย์เอ่ยเสริมทัพอย่างอารมณ์ดีที่ชนะพนันไอ้เพื่อนตัวดีได้ ตั้งใจมาเยาะเย้ยโดยเฉพาะ"ไงมึงไอ้พีร์ หน้าบานอะไรขนาดนั้น" ธารณ์เดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อนที่นั่งอยู่ ก้มหน้าดูหน้าจอโทรศัพท์ที่เพื่อนดูค้างไว้ "โหไอ้พีร์ มึงน่าจะหนักกว่าไอ้หมอก นั่งดูรูปไปยิ้มไปเนี่ยนะ!""เห้ย! อะไรของพวกมึงเนี่ย" รพีภัทรเบี่ยงหน้าจอหนีเพื่อนสนิททั้งสองคนที่พร้อมใจกันกรูเข้ามาดูโทรศัพท์ตนเอง"ไหนๆ ดูอะไร" อวัศย์พยายามชะโงกหน้าดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น"พอๆ ไปไกลๆ ตีนกูเลยพวกมึง""หึ! ไม่ต้องปิดหรอก กูเห็นหมดแล้ว มึงนั่งดูรูปคุณนาวในไอจีอย่างกับโรคจิต" ธารณ์พูดขึ้นอย่างหมั่นไส้ เมื่อรู้ว่าที่เพื่อนตัวเองยิ้มหน้าบานอย่างกับคนบ้าเพราะนั่งหลงรูปเมียตัวเองอยู่"โรคจิตอะไร นี่เมียกู""เต็มปากเต็มคำเชียวนะมึง" ไทม์ยังไม่วายเหน็บแนมเพื่อน"อ๋ออ...กูว่าแล้ว ที่สมัครไอจีเนี่ยเพราะเมียเลย" อวัศย์พูดขึ้นบ้าง ความจริงเ

  • เมื่อหมอไม่รัก   เมื่อหมอรัก(2)

    รพีภัทรนั่งมองคนตัวเล็กที่นอนขุดคู้อยู่บนเตียง ลมหายใจผ่อนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คนตัวสูงเอื้อมมือสัมผัสแก้มนิ่มของคนที่นอนนิ่งอยู่ ก่อนจะก้มใบหน้าจูบซับน้ำตาที่ซึมออกมา คาดว่าเธอน่าจะฝันร้ายอยู่ใบหน้าหวานเริ่มคลายปมที่คิ้วเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับ ก่อนริมฝีปากจะแย้มยิ้มนิดๆ เมื่อฝันร้ายจางหายไปร่างสูงเอนตัวพิงหัวเตียงกึ่งนั่งกึ่งนอน มือหนาเอื้อมมือลูบศีรษะคนตัวเล็ก ย้อนคิดถึงสิ่งที่เธอเล่าให้ฟัง หลังจากที่เขารู้เรื่องจากอชิระก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าเธอมีปัญหาในครอบครัว แต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ ฟังจากที่เธอเล่า หลังจากนั้นเธอและแม่พากันออกมาอยู่ข้างนอก เท่ากับแม่คงจะเป็นทั้งชีวิตของเธอ แต่...ก็ยังมาโดนทิ้งไปไหนจะเรื่องวันนั้นที่ไอ้เพื่อนทั้งสองคนเล่าให้ฟัง ว่าเห็นอาการแปลกๆ ของเธอวันที่น้ำตาลจมน้ำ ตอนนั้นเขาห่วงพี่สะใภ้เพราะรู้ว่าว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนภรรยาตนเองว่ายน้ำเก่งอยู่แล้ว ไม่คิดว่าร่างกายเธอจะไหวแต่จิตใจอ่อนแอ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดในใจ วันที่เธอต้องการใครสักคนที่สุด แต่ตัวเขากลับไม่อยู่ข้างๆ "คุณพีร์.." รพีภัทรก้มใบหน้ามองคนตัวเล็กที่งัวเงียสะดุ้งตื่น "ขอโทษ ผมทำนาวตื่นเล

  • เมื่อหมอไม่รัก   เมื่อหมอรัก (1)

    "หมอพีร์คุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?" ลัลนาเอ่ยถามร่างสูงที่วางจานผลไม้ลงข้างเธอ ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงบ้าง ระยะห่างเริ่มขยับมาใกล้ขึ้นจากวันแรกที่เขามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เขาเกาะติดเธอแจ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นมานั่งเฝ้าตลอด แต่หากเธออยู่ที่บ้าน เขาก็จะเรียกช่างมาคุย ส่วนตัวเองปรับปรุงนู่นนี่นั่นไปเรื่อย ซ่อมก๊อกน้ำ ยันรั้วบ้าน แต่ถ้าหากเห็นเธอตั้งท่าออกจากบ้านเมื่อไหร่คนตัวสูงก็จะละทิ้งทุกอย่างในมือ มาสแตนด์บายรอหน้าบ้านอย่างหน้ามึน เธอไม่ให้ไปก็จะตามไป บอกว่าขอเดินตามห่างๆ ก็ยังดีก็เป็นซะอย่างนี้!"ผมพักร้อนไง""พักได้ขนาดนี้เลยเหรอคะ" ลัลนาหรี่ตามองคล้ายไม่เชื่อ ใช่อยู่ตามกฎหมายเขาก็มีสิทธิ์นั่นแหละ แต่เนื่องด้วยบุคลากรทางการแพทย์เป็นที่ขาดแคลนอยู่ตอนนี้ เขาไม่น่าจะมีเวลาว่าง หรือโรงพยาบาลจะยอมให้เขาลาได้ขนาดนี้ยกเว้นแต่ว่า..."ไปใช้อำนาจมืดมาอีกแล้วสิท่า" ลัลนาหรี่ตามองจับผิด ในขณะที่คนตัวสูงหน้ามึนตอบอย่างไม่สนใจ"ไม่ใช่อำนาจผมซะหน่อย อำนาจไอ้หมอกมัน"ต่างกันตรงไหน ใช่อยู่หมอหมอกเป็นถึงลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล แต่การที่ตัวเขาได้อภิสิทธิ์ขนาดนี้ น่าจะบังคับข

  • เมื่อหมอไม่รัก   เมื่อหมอมาง้อ (2)

    ลัลนาที่เพิ่งก้าวลงบันไดมาเห็นคนตัวสูงยืนยิ้มแฉ่งรออยู่ด้านล่าง โดยมีอาหารเช้าวางอยู่บนโต๊ะอาหาร คุณหมอหนุ่มรีบวางจานในมือลงบนโต๊ะ ถอดผ้ากันเปื้อน ก่อนจะสาวเท้าเดินมาหาคนตัวเล็กที่ยืนมองอยู่"กินข้าวเลยไหมนาว""ป้าใจกับจ้อยละคะ" ลัลนาไม่สนใจที่เขาเอ่ยชวน ถามหาคนดูแลบ้านและหลานชายที่ปกติจะมาหาเธอทุกเช้า"วันนี้วันพระป้าใจเลยไปวัดเช้าหน่อย กินข้าวเช้าก่อนสิเดี๋ยวผมพาตามไปที่วัดก็ได้""ไม่เป็นไรค่ะ" ลัลนาไม่สนใจของที่ถูกตระเตรียมไว้ เขาน่าจะลงมาตั้งแต่เช้ามืด เพราะเวลานี้ยังเช้ามากอยู่เลย แต่อาหารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว"คุณกินข้าวก่อนเถอะ ถ้าไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวปวดหัวนะ" ลัลนาแสร้งไม่สนใจคนที่เอ่ยเรียก ถึงแม้จะใจเต้นไม่น้อยที่เขาจำเรื่องของเธอได้ว่าต้องกินข้าวเช้า ไม่อย่างนั้นจะเวียนหัว"...""นาว" คุณหมอหนุ่มทำได้เพียงเรียกคนตัวเล็กที่เดินผ่านเลยไปอย่างไม่สนใจ ทั้งอาหารและคนทำ "จะไปไหนครับ" ลัลนาปรายตามองมือร้อนที่จับแขนรั้งเธอไว้ เมื่อเห็นแบบนั้นคนตัวสูงจึงรีบปล่อยมือ ยกมือสองข้างคล้ายยอมแพ้ "ผมแค่อยากรู้ว่าคุณไปไหน" เขาบอกเธอเสียงอ่อย"ไม่เกี่ยวกับคุณค่ะ ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็อย่าล้ำเส้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status