LOGINหลี่ซูเหยียนเดินนำหน้าทั้งสามสาวลิ้วๆไปจนถึงลานซ้อมดนตรตอนนี้กำลังบันเลงเต้นกันไปแล้วไปยืนนางดูพวกเขาทั้งร้องทั้งเต้นเข้ากันเป็นอย่างดี จนเพลงจบลงทุกคนหันมายิ้มให้คุณหนูเจ้าของวง
"ผ่านหรือเปล่าขอรับ/เจ้าคะคุณหนู" นางยิ้มแล้วยกสองนิ้วโป้งขึ้นแล้วพูดเสียงดังกังวานเสียงว่า "เยี่ยมมากเจ้าคะทุกคนเก่งมาพวกเราต้องรวมกันเป็นหนึ่งเดียวการแสดงจึงจะออกมาดีแบบนี้วันนี้ข้าจะร้องเพลงและถ้าเต้นอีกท่าก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนท่าอีกสามวัน เอาให้เต้นพร้อมกันเราจะเปลี่ยนไปเป็นเพลงใหม่ท่าเต้นใหม่ๆ จนกว่าจะได้หลายเพลงจนพอจะไปทำการแสดงเราก็ยังจะซ้อมเพลงใหม่ท่าเต้นใหม่ไปตลอดลูกค้าจะได้ไม่เบื่อ แถมจะแห่มาชมการแสดงกินอาหารในโรงน้ำชาของเราเยอะๆพวกเราจะได้มีตำลึงไปจุนเจือครอบครัวสร้างตัวให้กับลูกๆของพวกท่านเอง เพราะต่อไปคนโสดหนุ่มๆสาวๆก็ต้องแต่งงานข้าไม่ขัดข้องถ้าใครจะรักกันถ้าคิดว่าคนนี้ล่ะจะร่วมชีวิตด้วยให้มาบอกข้าจะแต่งงานให้ เรื่องนี้ข้าจะบอกพี่ใหญ่อีกทีเอาล่ะมาเต้นเพลงของข้าลองดู นักดนตรีเพลงที่ข้าร้องให้พวกท่านฟังก่อนจะเลิกวงเมื่อวานเจ้าค่ะพอได้ไหมเจ้าคะซ้อมกันไปหลายรอบแล้ว" "เป็นเพลงที่เล่นดนตรีใส่สนุกมากขอรับคุณหนู" "พวกพี่ซ้อมกันไปนะข้าจะสอนท่าเต้นให้พี่สาวทุกคนให้เข้ากัน พอกินมื้อเที่ยงเราจะเต้นใส่เพลงกันเลยเจ้าค่ะ" นางบอกพี่ๆนักดนตรีก่อนจะพาสาวๆหัดเต้นท่าใหม่ทุกคนทั้งสนุกทั้งตื่นเต้นกับท่าเต้นของคุณหนู "คุณหนูเจ้าคะมันสนุกมากเลยเพลงก็ทำให้อยากเต้นตลอดเลยเกิดมาบ่าวพึ่งจะเคยเห็นนี้ล่ะเจ้าค่ะพวกเจ้าทุกคนรู้สึกเหมือนข้าไหม" ทุกคนตอบพร้อมว่าชอบท่าเต้นของคุณหนูมาก "เสียงดนตรีนั้นก็เร้าใจเหลือเกินเจ้าค่ะข้าพึ่งจะเคยเต้นเช่นเดียวกับพวกเจ้านี้ล่ะ" หัวหน้าสาวซือหงบอกกับทุกคนด้วยรอยยิ้มแถมมองคุณหนูเจ้าของท่าเต้นด้วยความเทิดทูลเพราะคุณหนูคือผู้ชุบชีวิตของพวกนางทุกคนออกมาจากโรงค้าทาสเพราะพวกนางโดนขายจากเจ้าของหอโคมเขียวทั้งคณะด้วยความช่วยเหลือไถ่ชีวิตจากท่านแม่ทัพหลี่ซูหยาง ว่าน้องสาวอยากได้นางรำกับนักดนตรีทุกคนจึงรอดตายมาจากโรงค้าทาส เพราะถ้าหากถูกซื้อแยกไปทีละคนสองคนคงจะไม่มีโอกาสพบหน้ากันครบวงเหมือนตอนนี้ตอนได้ข่าวว่ามีคนมาซื้อทุกคนยกวงพวกเขาถึงกับกอดคอกันร้องไห้ ยิ่งมาเจอคุณหนูน้องสาวของท่านแม่ทัพยิ่งกว่าโชคดีอะไรทั้งหมด ทั้งใจดีอ่อนหวานต่อทุกคนมีข้าวมีที่พักเลี้ยงดูเป็นอย่างดีใครไม่อยู่กับคุณหนูก็โง่เต็มทนแล้วละพวกนางคิดในใจ "หลังจากทานข้าวมื้อเที่ยงพวกเราจะเต้นใส่ดนตรีกันนะเจ้าคะข้าจะร้องเพลงให้พวกท่านก็เต้นกันพอไหวไหมเจ้าคะ เหนื่อยก็หยุดพักพอเข้ากันดีแล้วอีกสองวันเรามาเปลี่ยนท่าเต้นเพลงใหม่กันเจ้าค่ะ ท่าเต้นยิ่งเยอะยิ่งดีขอให้ทุกคนเต็มที่ก็พอเอาล่ะทุกคนไปทานข้าวกันก่อนเจ้าค่ะ ข้าเองจะทานกับพวกท่านเหมือนกันไม่ต้องกลัวข้าไม่กัดคนเจ้าค่ะ" นางพูดแล้วหัวเราะคิกคักทุกคนถึงกับหลุดยิ้มตามคุณหนูผู้ร่าเริง หลี่ซูเหยียนนั่งกินข้าวรวมกลุ่มกับพี่สาวด้วยความเป็นเองนางมีความสุขมากถ้าจะทำให้คนเคยลำบากทุกข์ยากมาเพราะมันได้กุศลยิ่งกว่า ได้เห็นรอยยิ้มพวกเขามีความหวังในชีวิตไม่นั่งหมดอาลัยตายอยากในคอกของโรงค้าทาสเหมือนพี่ชายเล่าให้ฟังพี่ใหญ่จึงไม่ให้นางไปด้วยเพราะกลัวว่านางจะสลดใจกับสภาพของผู้คนในห้องแคบๆแออัดในโรงค้าทาส หลังจากทานข้าวอิ่มพ่อบ้านมาหานางแล้วบอกว่าท่านแม่ทัพส่งคนจากโรงค้าทาสให้แล้วดูแลสวนสามครอบครัว นางบอกพี่ชายให้ช่วยซื้อยกครัวถ้าช่วยพวกเขาจะได้ไม่พลัดพรากจากกันนางสงสาร "มีทาสสาวมีวรยุทธมาส่งคุณหนูสามคนด้วยของรับ" " พวกเจ้ามานี้สิต่อไปนี้คุณหนูหลี่ซูเหยียนคือเจ้านายโดยตรงที่ต้องคุ้มกันคุณหนูทั้งในจวนและออกนอกจวน" ท่านพ่อบ้านเรียกหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปีขึ้นทุกคนดูมีความอ่อนเพลียคงจะลำบากกันไม่น้อยในโรงค้าทาสนั้น "สวัสดีเจ้าค่ะคุณหนู" ทุกคนต่างทำความเคารพนาง หลี่ซูเหยียนยิ้มให้พวกนางแล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส "สวัสดีเจ้าค่ะพี่สาวทั้งสามคนยินดีต้อนรับเข้ามาร่วมงานด้วยกันนะเจ้าคะ ข้าว่าให้พวกพี่สาวทานข้าวเที่ยงก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ" "ท่านลุงพ่อบ้านแล้วครอบครัวคนทำสวนของข้าละเจ้าคะ หาข้าวให้ทานกันก่อนแล้วค่อยแจกชุดใหม่ให้พาไปบ้านพักอาบน้ำพักผ่อนก่อนพรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานกันใครไม่สบายบอกพ่อบ้านได้เลยนะจะได้กินยา" นางหันไปหาครอบครัวทาสทุกคนต่างมาหาคุณหนูของเจ้าของจวนก่อน พ่อบ้านแจ้งต่อทาสทุกคนว่าคนที่ให้ท่านแม่ทัพให้ไปซื้อทาสมาคือคุณหนูหลี่ซูเหยียนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้วตอนนี้ ทุกคนมองคุณหนูด้วยความเทิดทูนหลังจากได้ชีวิตใหม่ออกมาจากโรงค้าทาส "ขอบคุณเจ้าค่ะ / ขอรับคุณหนู" ทุกคนน้ำตาคลอพอได้คำต้อนรับจากคุณหนูเจ้าของจวน "พี่สาวผิงผิงพาพี่สาวทั้งสามคนทานข้าวอิ่มแล้วไปเรือนนอนแจกจ่ายสิ่งของให้ทุกคนเท่าเทียมกันด้วยนะเจ้าคะ" "ส่วนครอบครัวคนสวนทานข้าวอิ่มก็ไปพักได้เดี๋ยวท่านพ่อบ้านจะพาพวกท่านไปเองลุกไปตักอาหารมาทานกันเองได้เลยเจ้าค่ะ ตักให้พอดีไม่อิ่มก็ตักเพิ่มได้จนอิ่มขอให้รักใคร่สามัคคีกันในเมื่อกินข้าวหม้อเดียวแล้ว ถึงข้าจะใจดีแต่ใครมีปัญหาข้าพร้อมจะจัดการทันทีหวังว่าพวกท่านจะให้ความร่วมมือกันทุกคนไม่แบ่งพักแบ่งพวกกันนะเจ้าคะ" นางบอกทุกคนแล้วไปนั่งพักในศาลามองทาสคนเก่าคนใหม่เข้าไปทักทายบอกคุยกันอย่างเป็นกันเอง ตอนบ่ายนั้นสนุกสุดเหวี่ยงกับการทั้งร้องทั้งเต้นทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเพลงสนุกมาก จนตะวันค่อยจึงหยุดซ้อมทุกคนต่างมีความสุขออกทางสีหน้าเพราะหน้าที่ของการแสดงคือของพวกตนไม่ต้องไปวุ่นวายกับหน้าที่อื่นในจวนของแม่ทัพนั้นต่างมีหน้าที่รับผิดชอบของใครของมันและทุกคนต่างก็รู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี นางเองกลับไปทานมื้อค่ำกับพี่ชายบนเรือนหลัก "เหยียนเอ๋อร์เหนื่อยหรือเปล่าวันนี้เห็นบอกซ้อมเพลงใหม่กันทั้งวันเลยหรือ" "พี่ใหญสนุกมากเจ้าค่ะข่าวเร็วดีเหมือนกันนะพี่ชายเราอิๆ" นางตอบแล้วหัวเราะให้พี่ชาย"เหยียนเอ๋อร์น้องตื่นนานหรือยังทานข้าวแล้วหรือพี่จะได้ไปบอกสาวใช้หาอะไรมาให้น้องทาน" เขากอดคนตัวเล็กแล้วยกนางขึ้นนั่งตักกอดหอมด้วยความคิดถึงแม้จะห่างไปไม่นานก็ตาม "อือท่านแม่ทัพอย่าทำตัวรุ่มร่ามสิเจ้าคะอายบ่าวไพร่บ้าง" นางเอามือปิดปากชายหนุ่มเอาไว้ก่อนเขาจะจูบต่อ"ไม่มีคนอยู่บนเรือนนี้หรอกพี่สั่งให้พวกเขาไปพักหมดแล้วนี้คือเรือนหอของเรานะวันนี้คือคืนเข้าหอของเราสองคน ว่าแต่น้องเรียกพี่ผิดนะไม่ใช่ท่านแม่ทัพต้องเรียกว่าท่านพี่ถึงจะถูก" ชายหนุ่มบอกภรรยาตัวน้อยในอ้อมแขนเขาซุกลงซอกคอของนางแทน"พูดใหม่สิน้องหญิง" ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นบอกนางพร้อมทั้งหอมแก้มนวลทั้งสองข้าง "ไม่พูดพี่จูบแล้วนะ"แม่ทัพลู่ขู่นางให้เรียกเขาว่าพี่ให้ได้หลี่ซู่เหยียนเอามือปิดปากเขาไว้ก่อนจะพูด "อย่านะท่านพี่" หึชายหนุ่มหัวเราะเบาๆที่ได้แกล้งนางให้เรียกพี่ได้ "เอาล่ะพี่ไม่แกล้งเหยียนเอ๋อร์แล้วล่ะเรามาคุยกันหน่อยดีไหมว่าสิ่งที่พี่ทำมาทั้งหมดจนถึงวันนี้พี่รักน้องมากนะ ถึงแม้ว่าเราจะเริ่มต้นไม่ดีเลยสักครั้งนับตั้งแต่พี่ได้เจ้าเป็นภรรยาพี่เองก็รู้ใจตัวเองว่ารักน้องหญิงมากจนพี่ไม่อาจขาดน้องไปได้ยิ่งเหยียนเอ๋อร์
และก็ถึงงานแต่งของแม่ทัพลู่เทียนหรงกับคุณหนูหลี่ซูเหยียนจัดขึ้นทำพิธีเช้าในจวนของสองท่านแม่ทัพใหญ่ แต่ไปกินเลี้ยงนั้นเชิญแขกไปบ้านสวนค่าเฟ่มีการแสดงของวงดนตรีจากโรงน้ำชาทั้งคืน แล้วโปรโมทบ้านสวนคาเฟ่ไปด้วยในตัวเลยยิงนกทีเดียวได้สองอย่าง พักบ้านหลังเล็กน่ารักหลายแบบให้เช่าเหมือนโรงเตี๊ยมในเมืองหลวง มีอาหารเครื่องดื่มผลไม้ให้ทานแล้วคิดเป็นรายหัวกินได้ไม่อั้น แต่ห้ามห่อออกต้นกลับบ้านแต่มีบริการขายให้เท่าที่ลูกค้าต้องการซื้อไปฝากคนในจวนของตัวเองได้ไม่จำกัด เล่นเอาลูกค้าของนางจากโรงน้ำชาพากันแห่ไปจองบ้านพักจนเต็ม แถมนางยังใจดีเลี้ยงฟรีงานเลี้ยงตอนค่ำอีกด้วย ผู้คนหลั่งไหลมาก่อนวันงานสำหรับลูกค้ามันคือวันเปิดให้คนเข้าพัก เปิดตัวด้วยความยิ่งใหญ่ มีองค์รัชทายาทมาเป็นประทานในพิธีและค้างคืนในโซนพิเศษสำหรับแขกวีไอพี พี่ชายของนางทำเรือนพักให้พระองค์ไม่ไกลจากเรือนพักสี่หลังท้ายจวนด้านหลังที่ดินของพวกนาง แต่พระองค์เองก็สร้างบ้านพักตากอากาศในที่ดินส่วนพระองค์ใกล้กันกับที่ดินของแม่ทัพหลี่ซูหยางด้วยเช่นเดียวกัน"เหยียนเอ๋อร์เหนื่อยไหมทนเอาหน่อยนะใกล้จะเสร็จพิธีแล้วเราจะออกเดินทางไปบ้านสวนคาเฟ่ของน้องเ
ตอนนี้จึงกลายเป็นว่านางกับครอบครัวเดินทางไปบ้านนาคาเฟ่พร้อมกับครอบครัวของคู่หมั้นเพื่อจะพาบิดาไปพักผ่อนด้วย รวมถึงต้องเตรียมงานแต่งของนางด้วยถ้าถึงวันแต่งงานของนางจริงๆโรงน้ำชาก็ต้องปิดคนงานนั้นจะมาร่วมงานของคุณหนูผู้เป็นที่รักของบ่าวไพร่ของจวนแม่ทัพผู้ชุบชีวิตของทาสจนถูกลือ เพราะนางช่วยมาอีกทั้งหมดลูกเล็กเด็กแดงมาทำงานให้นางที่บ้านสวนคาเฟ่ คือซื้อพวกเขามาแบบยกครอบครัวนางสงสารไม่อยากให้คนพลัดพรากจากกันเหมือนนางต้องห่างจากภพเดิมเพราะตายจากมาแบบทันตั้งตัวขบวนของท่านแม่ทัพใหญ่เดินทางออกจากเมืองหลวงด้วยหลายคันรถม้าและออกเดินทางไปพร้อมกันหลี่ซูเหยียนนั่งในรถพร้อมกับสาวใช้ข้างกายของนาง มีม้าของแม่ทัพลู่เทียนหรงขี่ประกบรถม้าของนางไม่ห่าง หลี่ซูเหยียนได้แต่กรอกตามองบนกับคนคลั่งตามนางแทบจะสิงร่างนาง ถ้าไม่ติดว่าเขาไปทำงานในค่ายทหารกับพี่ชายของ นางถ้าเลิกงานจะเห็นหน้าของเขาตัวลอยเดินนำหน้าพี่ชายของนางทุกวันในโรงน้ำชาเพราะนางต้องไปทำงานทุกวันเช่นเดียวกัน ยิ่งกลางคืนยิ่งคึกคักกลางวันจะมีอาหารของคนทำงาน กับพวกพ่อค้าหรือคนมาพักตามโรงเตี๊ยมแล้วมาตามข่าวลือเรื่องอาหารโรงน้ำชาของนางอร่อย มีเพลงให้ฟั
พอองค์รัชทายาทได้เข้าไปเห็นในบ้านสวนคาเฟ่ของสองพี่น้องถึงขั้นไม่ยอมกลับเมืองหลวงพระองค์ประทับค้างคืนด้วยกันกับแม่ทัพลู่เทียนหรงถึงสามวันทั้งขึ้นเขาหาอาหารป่าได้หมูป่าไก่ป่าแม้แต่กวางป่าลงมาทำอาหารทุกมื้อ ยิ่งได้ทานหมูกะทะของหลี่ซูเหยียนแล้วจนพระองค์ไม่อยากเสด็จกลับวังหลวงจนครบกำหนดวันหยุดของแม่ทัพหลี่ซูหยางกับหลี่ซูเหยียน ทุกคนจึงต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองทุกคนมีหน้าที่ต้องทำจึงพากันกลับไปสะสางงานของตัวเอง แต่มีอีกคนคือแม่ทัพลู่เทียนหรงนั้นมีวันหยุดต่อแต่เขากับทำตัวตามติดคู่หมั้นตัวน้อยแทบจะสิงร่างกันกับนางไปแล้วหลี่ซูเหยียนนั้นจะด่าจะว่าอะไรไปชายหนุ่มนั้นไม่สนใจเดินหน้าเกี้ยวนางด้วยความหน้าด้านหน้าทน จนนางขี้เกียจจะด่าก็หยุดไปเองถ้าตัดนิสัยเสียเมื่อตอนเจ้าของร่างเดิมมีชีวิตอยู่เพราะเขาไม่เคยเห็นค่าของนางจึงทำให้นางในร่างใหม่เอาคืนชายหนุ่มกับคืนไปได้เยอะพอสมควรจนพี่ชายของนางบอก"เหยียนเอ๋อร์ให้สงสารแม่ทัพลู่เถอะพี่ว่าเราทำโทษเขาจนพอใจแล้วเลิกอาฆาตแม่ทัพลู่แล้วเปิดใจให้กันทำวันข้างหน้าให้มีความสุขดีกว่าไหมพี่ว่า"เพราะตอนนี้นางได้รับสมรสพระราชทานทำยังไงก็ไม่สามารถขัดราชโองการสวรรค์
วันนี้หลี่ซูเหยียนไม่ได้รีบร้อนตื่นมาแต่เช้านางนอนตื่นสายเพราะอยากพักผ่อนนอนเป็นปลาเค็มสักวันนางจึงไม่ได้รับรู้ว่าตอนนี้ขบวนขององค์รัชทายาทเดินทางมาถึงบ้านสวนคาเฟ่ของนางแล้วรวมถึงขันทีส่วนตัวของฝ่าบาทกำลังมาถึงไล่เรี่ยกัน แม่ทัพลู่เทียนหรงนั้นไม่คิดว่าองค์รัชทายาทจะนำขบวนเสด็จมาถึงแต่เช้าขนาดมากนี้คือยามเฉิน เพราะเมื่อคืนสองแม่ทัพนอนดึกด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้กำลังจะพากันทานอาหารมื้อเช้าในศาลาริมแม่น้ำ หลี่ซูเหยียนมาถึงและนั่งหย่อนก้นลงยังไม่ติดพื้นเก้าอี้ดี เสียงคนของแม่ทัพลู่ขี่ม้ามาถึงแล้วรายงานว่า "ท่านแม่ทัพลู่ขอรับ" "ท่านแม่ทัพหลี่ด้วยขอรับตอนนี้ขบวนเสด็จขององค์รัชทายาทมาถึงบ้านสวนคาเฟ่แล้วขอรับ มีขันทีของฝ่าบาทตามขบวนมาด้วยเชิญคุณหนูหลี่ซูเหยียนกับท่านแม่ทัพหลี่ซูหยางออกไปรับราชโอการด่วนขอรับ"!!!"อะไรนะท่านบอกว่าองค์รัชทายาทเสด็จมาเยี่ยงนั้นหรือ " แม่ทัพหลี่ซูหยางรีบถามก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากศาลา "เหยียนเอ๋อร์รีบไปรับขบวนเสด็จก่อนแม่ทัพลู่ด้วยไปกันเถอะอย่าให้พระองค์ทรงรอนานเลย"เขารีบเดินไปหาม้าของตัวเองเพื่อจะขี่พาน้องสาวออกไปทางหน้าจวนของบ้านนาคาเฟ่เพราะมันไกลมากคงจ
ตัดมาทางหลี่ซูเหยียนนางไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้แม่ทัพลู่นั้นได้ทำการผูกมัดนางเพื่อแสดงความจริงใจว่าเขารักนางมากจนขอไปทูลขอสมรสราชทานยากต่อการหย่าร้างได้ นางนั้นดีใจมากเพราะจะไม่เห็นหน้าของชายหนุ่มกับมื้อค่ำแสนอร่อยกับพี่ใหญ่ของนางสองคน วันนี้จึงมีทั้งไก่ย่างและไก่ใต้น้ำแกงเห็ดป่าใส่ยอดผักหวานอีกเพียงพอต่อทุกคนให้ได้ทานจนอิ่มหนำสำราญกันทุกคนแต่ตอนนี้อีกคนกำลังควบม้ากลับมาให้ทันทานมื้อค่ำกับภรรยาตัวน้อย เหยียนเอ๋อร์พี่จะพิสูนจ์ให้น้องรู้วว่าพี่รักน้องเพียงคนเดียวเป็นฮูหยินของจวนแม่ทัพลู่คนเดียวแล้วและไม่มีวันหย่าร้างจากกันได้ง่ายๆ ป่านนี้นางคงจะกำลังทำอาหารด้วยความสนุกกับคนของนางสินะ พี่กำลังจะกลับไปหาน้องแล้วรอพี่ก่อนนะคนดี เขาคิดคนเดียวก่อนจะรีบควบม้ากลับมาบ้านนาคาเฟ่ของภรรยาสาวตัวน้อย"เหยียนเอ๋อร์มันอร่อยมากเลยพี่ไม่คิดเลยว่าอาหารจากป่านำมาปรุงเป็นอาหารมันจะอร่อยได้มากขนาดนี้" หลี่ซูหยางบอกน้องสาวด้วยรอยยิ้ม"มันยังมีหลายอย่างบนเขานั้นให้พวกเราได้เก็บมากินเยอะแยะมากมายมากเลยละเจ้าค่ะพี่ใหญ่" นางบอกกับพี่ชาย สองพี่น้องนั่งทางอาหารด้วยความอร่อยผ่านไปไม่ถึงเค่อนางต้องหุบยิ้มลง กั







